เข้าสู่ระบบบทที่ 13 ไม่สนใจกันเลย นอกจากแฟนเก่า
ตอนแรกพกความมั่นใจมาเต็มร้อย แต่ตอนนี้เหลือเกือบศูนย์ ไม่น่าเลย ไม่น่ามาตั้งแต่เเรก รู้สึกเริ่มประหม่าเพราะเห็นคนเยอะมากและแน่นอนว่าแต่ละคนแต่งตัวมาสวยๆ กันทั้งนั้น ชุดเดรสมาพร้อมรองเท้าคัทชูไม่ก็ส้นสูง มองยังไงก็เข้ากับชุด พอมองมายังตัวเองรู้สึกประหม่ามาก ไม่ค่อยมั่นใจ แต่ก็พยายามยิ้มเข้าไว้ หึก! อย่าคิดว่าตัวเองจะได้ฉายเดี่ยวเลยนะ ตอนแรกว่าจะต่างคนต่างเดินแต่ฉันจะเป็นที่น่าจับตามองที่สุดแน่ๆด้วยเพราะชุดที่ใส่มามันแตกต่างจากคนอื่นแล้ว คิดได้ดังนั้น ก็เดินไปชิดใกล้พี่ฉัตร พร้อมเอามือคล้องแขน พี่เขาสะดุ้งเล็กน้อยเพราะตอนนั้นน่าจะเหม่อลอยถึงแฟนเก่าละมั้ง!! น่ามันไส้เนอะ เลิกกันแล้วยังจะติดต่อกันอีกเหรอ!? ยังจะเป็นเพื่อนกันได้เนอะ!!! ถ้าเป็นฉันคือจบก็จบ ที่รู้ๆมาพี่เพลงเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อน พี่ฉัตรเดินช้าๆ เหมือนสโลโมชั่นหรือพี่เขายังจะยอมรับไม่ค่อยได้ เลิกกันไปก็เป็นปีๆ แล้ว ถ้าพี่เพลงยังรู้สึกดีกับพี่ฉัตรคงไม่แต่งงานหรอก ว่าแต่ทั้งสองคนเลิกกันทำไมนะ อยากรู้ขึ้นมาแล้วสิ!! พี่ฉัตรตอนนี้สายตาละห้อยเชียว! เหมือนจะมีความอาลัยอาวรณ์ นี่ขนาดฉันที่เป็นคู่หมั้นตัวเอง เขายังไม่สนใจเลย สายตาก็มองตรงไปยังบนเวทีอย่างเดียว ที่ตอนนี้บ่าวสาวกำลังพูดขอบคุณทุกคนที่มางาน “ อ้าว ตาฉัตรมาด้วยเหรอลูก? ” ฉันกับพี่ฉัตรหันไปหาต้นเสียงพร้อมๆ กัน เป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากแม่ของพี่เพลงก็คือป้าพิม เราเป็นคนบ้านเดียวกัน ตำบลเดียวกันแต่คนละหมู่บ้าน ซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกล “ สวัสดีครับแม่ ” พี่ฉัตรพนมมือไหว้แม่พี่เพลง น้ำเสียงที่เปล่งออกไปก็อ่อนนุ่ม อยากจะเบัปากใส่นะ มันไส้พี่ฉัตรมากๆ แต่ก็ยังรักษาหน้าสวยๆไว้ก่อน ชุดที่ใส่มันก็ทำให้ดูแย่มากแล้วตอนนี้ “ สวัสดีค่ะ ” ฉันพนมมือไหว้เช่นกัน พบปะผู้หลักผู้ใหญ่ก็งี้แหละ แขนของเราทั้งคู่แยกออกจากกันตั้งแต่พี่เขาไหว้แม่แฟนเก่าแล้ว “ เอ่อ…นี่ แฟนใหม่ฉัตรเหรอลูก ” ป้าพิมน่าจะไม่รู้จักฉัน แต่ฉันพอจะรู้จักป้าเขานะ “ ครับ คู่หมั้นผมเอง ลูกคุณน้ามายกับคุณน้าภูมิไงครับ ” “ อ๋อ ไม่ใช่คนอื่นคนไกลนิ หน้าตาสะสวยนะเรา ” ป้าพิมหันมาพูดชม แต่คงตามมารยาทแหละ “ ขอบคุณค่ะ ” เมื่อผู้ใหญ่ชม เราก็ต้องขอบคุณอย่างนอบน้อม “ งั้นเชิญนั่ง ไปนั่งโต๊ะนั้นก็ได้ มีแต่คนบ้านเรา ” ป้าพิมชี้ไปอีกโต๊ะ และมันก็มีแต่คนแถวบ้านจริงๆ แต่ละคนจัดเต็มมาหมด ตั้งแต่ใบหน้ายันเท้า เฮ้อ! “ พี่ ไปนั่งโต๊ะอื่นได้ไหมอะ ” พอพี่ฉัตรจะเดินไปยังโต๊ะนัั้น ฉันก็รีบจับมือเขาให้หยุดเดิน “ จะไปนั่งตรงไหนอีก ไม่มีที่ว่างแล้วนะ อีกอย่างตรงนั้นมีแต่คนที่รู้จักนะ ” ฉันยังคงยืนนิ่งๆ แต่ยื้อพี่เขาไว้ ทำหน้าบอกบุญไม่รับ “ อ้าว ฉัตรมาเมื่อไหร่แล้ว อ้าวน้องมุกมาด้วยเหรอ? ” เสียงหวานดังขึ้น ทำให้เราทั้งคู่หันไปมองพร้อมกัน เมื่อพี่ฉัตรเห็นคนตรงหน้าก็รีบแกะมือฉันออก แล้วหันไปประจัญหน้ากัน ซึ่งตอนนั้นจู่ๆเหมือนหัวใจมันกระตุกวูบไปเลย ไม่เข้าใจว่าทำไม!? แต่พอเห็นแบบนี้กลับรู้สึกไม่ดี ทั้งที่เราเป็นคู่หมั้น พี่เขากลับทำเหมือนไม่มีเยื่อใย “ เพลงสบายดีหรือเปล่า? ” น้ำเสียงพี่ฉัตรฟังดูอ่อนโยนมากตั้งแต่ที่ฟังมา “ สบายดีจ้ะ ว่าแต่ฉัตรอะ สบายดีไหม ยังอยู่ค่ายเดิมใช่ไหม วันก่อนพี่ภพพาไปแจกการ์ดด้วย แต่ขออภัยนะที่เพลงไม่ได้เข้าไปหาฉัตรอะ เลยทำได้แค่โทรไปบอก ” พี่เพลงพูด งั้นทั้งคู่ก็คงยังเมมเบอร์กันและกันไว้อีกสินะ… “ อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก ฉัตรก็ยุ่งเหมือนกันตอนนั้น ถ้าไปหาคงไม่เจอ ” แหม่ๆ เบ้ปากในใจแล้วหนึ่ง ณ ตอนนี้ “ น้องมุกแต่งตัวน่ารักจังเลยนะคะ ” บลูลี่ชุดฉันหรือเปล่าเนี่ย… แต่ก็ทำได้เพียงส่งยิ้มหวานกลับไปและแสดงความเป็นเจ้าของนิดนึง โดยการไปยืนใกล้คู่หมั้น แล้วจับมือกัน แค่แตะมือพี่เขากำลังจะสอดกวมง่ามนิ้ว พี่ฉัตรก็สะบัดเล็กน้อย พร้อมเอามือหนีไปไขว่หลัง ใดใดคือรู้สึกหน้าชาขึ้นมาเลย แค่เจอพี่เพลงพี่เขาก็ทำกับฉันแบบนี้เลยเหรอ? หักหน้ากันไม่ว่าถ้าต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนเก่านะ รู้สึกถึงความหน่วงของหัวใจ มันเจ็บเสียดๆจุกๆยังไงไม่รู้ แทบอยากจะเดินหนีให้หายไปเลย บอกเราว่าพามาเปิดตัว แต่พอมาถึงกะจะทิ้งไว้กลางทางอะแหละ สายตาแทบจะไม่ละจากใบหน้าเจ้าสาวเลยแม้แต่น้อย สาธุขอให้เจ้าบ่าวมาต่อยให้หน้าหงายทีเถอะ! มันไส้ ไอ้คนบ้า! “ พี่พลนั่งอยู่โต๊ะนั้น ฉัตรพาน้องมุกไปนั่งสิ เดี๋ยวเพลงขอตัวก่อนนะ จะไปหาพี่ภพ ” พี่เพลงพูดแล้วชี้นิ้วไปหาอีกโต๊ะ ซึ่งมีแต่ผู้ชายและผู้ชายที่นั่งอยู่ หนึ่งในนั้นก็คือพี่ชายเจ้าสาว และมีเพื่อนสนิทแถวบ้านของพี่ฉัตรด้วย มากันครบทีมเลยอะ “ มุกจะไปนั่งกับพี่ไหม? ” พอพี่เพลงเดินไป พี่ฉัตรก็หันมาถามฉันทันที ถามแบบนี้คงไม่อยากให้ไปแหละ บางทีนะ ไม่มีฉันอยู่ตรงนี้มันคงจะดีกว่า…ไม่แน่ใจว่าชวนมาทำไม? ถ้ารู้ว่าต้องมาเจอแฟนเก่าแล้วสนใจแฟนเก่าตัวเองที่กำลังจะเป็นเมียคนอื่นมากกว่าคู่หมั้นที่กำลังจะเป็นเมียตัวเองในอนาคต ไม่มาหรอก! “ มุก มุก ” พี่ฉัตรหันมาเขย่าตัวฉัน “ อือ ” “ ที่พี่ถามได้ยินไหม เมื่อกี้ ” “ อืม พี่ไปเถอะ มุกจะหาอะไรกินสักหน่อย ” สรรพนามเปลี่ยนไป แต่คนตรงหน้าไม่เอะใจ คงเพราะใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวละมั้ง ขนาดพูด อือ เขายังไม่ทักท้วงเหมือนตอนอยู่บ้านเลย ยิ่งนึกก็ยิ่งไม่โอเค ใจมันหน่วงๆ ยังไงไม่รู้ “ อืม ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่นะ ” “ โทรศัพท์มุกไม่พามา พี่ลืมแล้วเหรอ? ” “ งั้นเอาโทรศัพท์พี่ไป ถ้ามีอะไรก็กดโทรตามชื่อคนที่นั่งบนโต๊ะนั้นได้เลยนะ แล้วบอกขอสายพี่แล้วกัน ” “ โทรศัพท์พี่ใส่รหัสนิ ” “ 080838 ” ปีเกิดพี่เขา แต่เลขหน้าถ้าคิดตาม จะไม่ใช่วันเกิดพี่ฉัตรนะ...หรือว่า วันเกิดพี่เพลง...มันน่าจะเศร้าเรื่องไหนก่อนดีเนี่ย? ทำไมต้องมารับรู้อะไรพร้อมกันด้วยนะ “ ไม่เอาดีกว่า มุกความจำไม่ดี ถ้ายังไงก็เจอกันที่รถก็ได้ ” “ ทำไมต้องออกไปรอที่รถ พี่ให้อยู่แค่ในนี้นะ คืนนี้เราก็นอนที่นี่ด้วย เพราะพี่คิดว่าคงขับรถกลับไม่ไหว ” ปกติก็เห็นทน ทึก ที่บอกขับรถกลับไม่ไหวเพราะกะจะกินเหล้าย้อมใจใช่ไหมล่ะ บ้าหรือปัญญาอ่อนวะ จะมาให้ตัวเองรู้สึกแย่ทำไม งงใจ “ คนเยอะ มุกลายตานะ อีกอย่างไม่ค่อยชอบที่แบบนี้ มันอึดอัดหายใจไม่ค่อยออกด้วย ” ก็อ้างไปบ้างแหละ “ ถ้าออกไปข้างนอกก็เดินไปบอกพี่ที่โต๊ะก่อนนะ ” “ อืม ” จบประโยคนี้พี่เขาก็เดินไปทันที ฉันเอียงซ้าย มองขวา หันไปทั่ว ก็ไปเจอของที่ทำให้เปรี้ยวปากนั้นก็คือพวกเหล้า ไวน์ เบียร์ สงสัยฝ่ายชายน่าจะรวยไม่เบา เลี้ยงของมึนเมาตั้งหลายอย่างแหนะและคงเป็นทหารยศใหญ่ด้วยละมั้ง ก็เห็นมีรูปพรีเวดดิ้งผู้ชายใส่ชุดทหารด้วย เดินไปหยิบไวน์มาหนึ่งขวด มองดูว่าใครมองอยู่บ้าง แล้วแอบยัดลงในกระเป๋า ดีนะที่พากระเป๋าใบใหญ่มา ตอนแรกก็คิดว่าจะมาเอาเหนียวสังขยาในงานกลับบ้านแต่พอมาจัดในโรงแรมมันไม่มีหรอกของบ้านๆ แบบนั้น “ พี่ๆ อย่าเพิ่งปิดประตูค่ะ ” ฉันรีบวิ่งไป จัดในโรงแรม มันก็ต้องจัดห้องที่กว้างอยู่แล้ว มันก็จะมีประตูเปิดปิดบานใหญ่ เพราะโรงแรมแห่งนี้ ไม่ใช่ว่าจะมีแค่งานแต่งงานนี้งานเดียวนะ ตอนเดินเข้ามามีป้ายบอกหลายงานมาก ตอนนี้พอแขกเริ่มมาเต็มต้องปิดประตู ไม่งั้นเสียงข้างในจะดังออกมาข้างนอก ที่จัดขึ้นมันเป็นห้องขนาดใหญ่ เก็บเสียงได้ดี และไว้สำหรับจัดงานเลี้ยงหรืองานต่างๆ “ ครับ จะไปไหนเหรอ? ” “ เออ พอดีหนูรีบกลับค่ะ แวะมาอวยพรเพื่อนแป๊บ ตอนนี้มีงานด่วนค่ะ ” พูดโกหกออกไป “ ครับ ” ฉันก็ทำตัวลีบๆ ผ่านรูประตูที่เหลือแค่นิดเดียวให้ผ่าน พอออกมาได้ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก และจำได้ว่าไม่เคยบอกใครว่าเป็นเด็กดีๆ ตั้งแต่แรก ประเภทที่เหล้าเบียร์ไม่ดื่ม ถ้าไม่ดื่มจริงๆคงไม่เข้าห้องผิดในวันนั้นและในวันนี้ชีวิตก็เปลี่ยนไป จะว่าไปเราก็เป็นคนคอแข็งระดับหนึ่ง เมื่อก่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ไปเที่ยวผับบาร์เกือบทุกคืน ไปเพราะเหล้า555+ เป็นสาวขี้เหล้าแต่ก็ตื่นมาเรียนไหวนะ ถึงตัวจะเกเรก็เถอะ จำได้ว่าตอนที่พี่ฉัตรเลี้ยวรถเข้ามาจะมีศาลาที่ให้คนนั่งพักด้วยนะ ไปนั่งตรงนั้นดีกว่า “ เอิ๊กๆ ” พอเปิดฝาขวดได้ก็กระดกเพียวไปเลย รสชาติมันฝาดๆ และก็ปะปนมาด้วยความหวาน หอมกลิ่นผลไม้ด้วย “ ป่านนี้คงกระดี๊กระด๊าใหญ่แล้วมั้ง ยังคงยืนยันคำเดิม ขอให้เจ้าบ่าวต่อยให้หน้าหงายไปเลย เกลียด!! ” พอเหล้าเข้าปากเรื่อยๆ มันก็เริ่มกรึมๆ ความในใจที่อัดแน่นก็เริ่มพลั่งพรู่ออกมาจากปากเรียวที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงแต่ก็เริ่มจางแล้ว “ ถ้ามาเป็นคู่แล้วไม่สนใจกัน ทำไมไม่มาคนเดียวตั้งแต่แรกวะ แล้วจะพยายามคะยั้นคะยอให้มาทำไม!! เอิ๊กๆ ” ยอมรับว่าไวน์มันแรงออกฤทธิ์เร็วมากหรือเพราะเราซดพรวดเดียวมันเลยเมาเร็วไปหน่อย “ ทำไมต้องรู้สึกหน่วงใจด้วยก็ไม่รู้ ไอ้คนบ้า คนไร้หัวใจ ไม่เอาแล้ว จะถอนหมั้นคอยดู ” น้ำเสียงก็เริ่มยานประสาคนเมา ทรงตัวไม่ค่อยอยู่แล้ว แต่ก็พยายาทเอาหลังพิงเสาไว้ แต่พอฉุกคิดเรื่องที่เกิดขึ้นไม่นานมันก็อดที่จะร้องไห้ไม่ได้ เหมือนมันจะสะกิดใจ ทำให้ตัดพ้อตัวเองว่าเป็นส่วนเกิน ตอนแรกก็คิดว่าเขาจะเปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว ก็เห็นรุกเอารุกเอา แต่พอมาเจอแฟนเก่า พี่เขาก็เปลี่ยนไปอีกแบบ ดีนะที่ไม่ตายใจ ไม่เผลอใจไปกับคำพูดตอแหลที่เส้แสร้งแกล้งทำพันนั้น “ อึก มาทิ้งกันแบบนี้เลยเหรอ ไอ้คนบ้า! อึก ” พอเมาแล้ว ไม่รู้ว่าตัวเองอารมณ์ไหน มันมาที่เดียวหมด จนทำให้ต้องร้องไห้ กลายเป็นเด็กขี้แยไปเลย ไม่ใช่ว่าฉันชอบพี่เขาไปแล้วนะตอนนี้...อยู่คนเดียวได้ โสดมาตั้งนาน จะมาหวั่นไหวกับคำพูดไม่กี่คำ กับการกระทำที่เหมือนจะเส้แสร้งไม่ได้นะ ยัยมุก ❤️__________❤️ นามปากกาผกายมาสบทที่ 14 เมา / งอแงแอบดีใจที่เจอคนรักเก่า ถึงจะกลายเป็นอีกสถานะก็เถอะ แต่ก็ร่วมแสดงยินดีกับเธอด้วย… ถ้าเธอมีความสุขเขาก็พลอยมีความสุขด้วย ถึงไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วแต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ยอมรับว่าในใจลึกๆ ยังคงมีเยื่อใยต่อเธอแต่ก็รู้ว่าอะไรควรอะไรที่ไม่ควร เลยเลือกจะเก็บมันเอาไว้ พอแยกกับคู่หมั้นสาว เขามานั่งกินเหล้ากับเพื่อนได้สี่ถึงห้าแก้ว ในหัวมันก็ไหลลื่นพลันคิดได้เรื่องตอนที่สะบัดมือของมุกในตอนนั้น เพราะความเคยชินที่เมื่อก่อนสนใจแค่คนตรงหน้า ทำให้ลืมบางอย่างไป คิดได้ดังนั้นสายตาเขาก็มองไปทั่วในห้องนี้ พยายามสอดส่องแต่ก็ไม่เจอ ไม่รู้ว่าไปแอบอยู่ตรงไหนหรือจะโกรธเรื่องตอนนั้น แต่เขามันไม่ได้เรื่องจริงๆ ตอนแรกกะจะพามุกมาเปิดตัวและทำให้คนอื่นรู้ว่าเขาก็มีคนรู้ใจแล้ว มีคนรักใหม่แล้ว แต่ความรู้สึกในตอนนั้นมันกลับเห็นแก่ตัว ละเลยอีกคนไป ป่านนี้ไม่รู้มุกจะเป็นไงบ้างเฮ้อ! อยากจะทึ้งหัวเองซะเหลือเกินในตอนนี้ ความรู้สึกดีๆที่มีต่อมุกมันก็ไม่ธรรมดาตั้งแต่ตอนที่มุกหายไปเข้าป่า ตอนนั้นเขากลับรู้สึกว่าขาดอะไรไป ถึงแม้จะคุยกันแต่ละทีก็แค่เวลาเพียงสั้นๆ และเขาก็เอาคำพูดที่เธอทิ้งท้ายมา
บทที่ 13 ไม่สนใจกันเลย นอกจากแฟนเก่าตอนแรกพกความมั่นใจมาเต็มร้อย แต่ตอนนี้เหลือเกือบศูนย์ ไม่น่าเลย ไม่น่ามาตั้งแต่เเรก รู้สึกเริ่มประหม่าเพราะเห็นคนเยอะมากและแน่นอนว่าแต่ละคนแต่งตัวมาสวยๆ กันทั้งนั้น ชุดเดรสมาพร้อมรองเท้าคัทชูไม่ก็ส้นสูง มองยังไงก็เข้ากับชุด พอมองมายังตัวเองรู้สึกประหม่ามาก ไม่ค่อยมั่นใจ แต่ก็พยายามยิ้มเข้าไว้หึก! อย่าคิดว่าตัวเองจะได้ฉายเดี่ยวเลยนะ ตอนแรกว่าจะต่างคนต่างเดินแต่ฉันจะเป็นที่น่าจับตามองที่สุดแน่ๆด้วยเพราะชุดที่ใส่มามันแตกต่างจากคนอื่นแล้วคิดได้ดังนั้น ก็เดินไปชิดใกล้พี่ฉัตร พร้อมเอามือคล้องแขน พี่เขาสะดุ้งเล็กน้อยเพราะตอนนั้นน่าจะเหม่อลอยถึงแฟนเก่าละมั้ง!! น่ามันไส้เนอะ เลิกกันแล้วยังจะติดต่อกันอีกเหรอ!? ยังจะเป็นเพื่อนกันได้เนอะ!!! ถ้าเป็นฉันคือจบก็จบ ที่รู้ๆมาพี่เพลงเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อนพี่ฉัตรเดินช้าๆ เหมือนสโลโมชั่นหรือพี่เขายังจะยอมรับไม่ค่อยได้ เลิกกันไปก็เป็นปีๆ แล้ว ถ้าพี่เพลงยังรู้สึกดีกับพี่ฉัตรคงไม่แต่งงานหรอก ว่าแต่ทั้งสองคนเลิกกันทำไมนะ อยากรู้ขึ้นมาแล้วสิ!! พี่ฉัตรตอนนี้สายตาละห้อยเชียว! เหมือนจะมีความอาลัยอาวรณ์ นี่ขนาดฉันที่เป็นคู่หมั
บทที่ 12 ชวนไปงานแต่งแฟนเก่าบ้านทุกหลังสองชั้นหมด พอเดินเข้าไปในบ้านขวามือก็จะมีโซฟา มีโต๊ะตั้งทีวี ข้างๆ สามารถวางรูปถ่ายได้ มีหน้าต่างหลายบาน ส่วนห้องน้ำอยู่ใกล้บันได แล้วตรงข้ามก็คือห้องครัว จริงๆ เปิดประตูมาโบราณเขาว่าห้ามให้ครัวตรงกับประตูหน้านะ แต่ลืมไปแล้วว่าเพราะอะไรถึงห้าม แต่บ้านพักพี่ฉัตรเขามีฉากกั้นก่อนถึงครัวนะเป็นตู้ขนาดใหญ่ พอเดินไปสำรวจ ตู้นั้นก็ใส่หม้อ จาน แก้วน้ำ ของที่ยังไม่เคยใช้ หลังตู้ที่หันออกไปข้างนอก พี่ฉัตรตกแต่งด้วยการเอารูปภาพมาแขวน เป็นรูปที่ตัวพี่เขารับยศ รับปริญญา อะไรงี้ ส่วนประตูหลัง ขวามือจะอยู่ใกล้ห้องน้ำ ซ้ายมือจะอยู่ใกล้ครัว“ถ้าสำรวจเสร็จแล้วก็ตามขึ้นมาข้างบนนะ” พี่ฉัตรพูดทิ้งท้ายไว้แล้วพาตัวเองขึ้นไปชั้นบนทันที ฉันค่อยๆ เดินขึ้นไปชั้นบน ก็เจอห้องน้ำก่อนเลย มันจะตรงกับห้องน้ำด้านล่าง เจอห้องนอนอีกสองห้อง ห้องหนึ่งกว้าง อีกห้องเล็กกว่า“ให้หนูนอนห้องไหนเหรอ?” เดินไปถามที่ห้องกว้าง เพราะประตูเปิดอยู่ และมีพี่ฉัตรอยู่ในห้อง“ก็ห้องนี่ไง”“อื้อ ให้หนูนอนแยกก็ได้นะ”“กลัวอะไร!” พี่ฉัตรนั่งลงบนเก้าอี้ที่ไว้สำหรับนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ แล้วหันหน
บทที่ 11 ขอโทษ / อยากกินน้ำแดงหลังจากนั้นพี่ฉัตรก็ไปช่วยขนของขึ้นรถตัวเอง ตอนแรกพี่เขาไม่ได้พารถมาหรอก แต่พี่เขาบอกเพื่อนสนิทตอนที่กลับพร้อมทุกคนว่าให้กลับไปถึงค่ายแล้วเอารถเก๋งกลับมารับที่นี่ด้วยไอย๊า ลงทุนเกินปุยมุ้ยอะ ใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมงแหนะเพราะต้องข้ามจังหวัดไง แต่ก็แอบใช้แรงเพื่อนอะแหละ พอฉันออกมานอกเต้นท์หมอ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนหันหลังให้อยู่“ พี่ๆ หนูขอโทษค่ะ ” หญิงสาวคนนั้นหันกลับมาพร้อมพนมมือขึ้นไหว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา แต่ฉันจำได้ว่าเธอคือคนที่ผลักฉันให้ตกน้ำในวันนี้“ อืม ไม่เป็นไรหรอก ” “ ขอบคุณนะคะ ที่ไม่เอาเรื่องหนู ฮื่อๆ หนูรู้เท่าไม่ถึงการณ์เองค่ะ อึก ” เธอฉวยมือฉันไปกุม สายตามองฉันอย่างเว้าวอน“ อืม คราวหลังห้ามทำแบบนี้อีกนะ ถ้าเป็นคนอื่น เธอคงติดคุกหัวโตแน่ๆ ทำอะไรก็ให้นึกถึงครอบครัวบ้าง ” “ ค่ะ ฮื่อๆ พี่ไม่ถามเหรอคะว่าหนูทำไปเพราะอะไร ” “ ว่าจะไม่ถาม แต่ถ้าเธออยากบอก ก็บอกมาเถอะ ” “ คือหนูคิดว่าพี่กับพี่ก็อตเป็นอะไรกันค่ะ หนูชอบพี่ก็อตเลยเกิดอารมณ์ชั่ววูบแบบเด็กถูกแย่งของอะค่ะ หนูเลยริษยาผลักพี่ตกน้ำ ” “ น่าตกใจนะ ว่าแต่ใครคือพี่ก็อตเหรอ? ”“
บทที่ 10 เป็นห่วง / หมั่นเขี้ยว“ ยัยมุกๆ แกโอเคไหม ยัยมุก ” เสียงเพื่อนดังใกล้หู ฉันค่อยๆ ปรือตาขึ้น“ มุกเป็นไงบ้าง โอเคไหม ” พี่ฉัตรวิ่งเข้ามา ทุกคนค่อยๆ ขยับออกเพราะพี่เขายกมือขึ้นไล่ให้ถอยออกห่างๆ แต่สายตาเขาจ้องมองมาที่ฉันที่นอนนิ่งๆ หายใจแรง“ อือ ” ฉันพยักหน้า“ ไปหาหมอเถอะ ” ใบหน้าของพี่เขาดูกังวลมาก ช้อนตัวฉันขึ้นอุ้ม“ เอ่อ…ฝ้ายกับฝนช่วยไปเอาชุดมุกมาหน่อยนะ ส่วนฟ้าใช่ไหม…ตามพี่มา ” พี่เขาหันไปหาเพื่อนๆ ฉันแล้วพูดขึ้น“ พี่ฉัตร หนูไม่เป็นอะไรมากแล้ว ” แขนเรียวตวัดโอบคอแกร่งไว้อย่างคนหมดแรง แต่ยังกลัวว่าตัวเองจะตกเลยหาที่ยึดเอาไว้“ ไม่ได้ ให้หมอตรวจหน่อยก็ดีนะ ว่าแต่ตกลงไปได้ไง ไม่เห็นเหรอ ป้ายออกจะใหญ่ว่าตรงนั้นคือบ่อเลี้ยงปลา ” “ เห็น หนูแค่ช่วยหมา แต่ดันลื่นตกลงไปอะ ” “ ลื่นเหรอ? ลื่นลงไปเสียงดังเหมือนกระโดดหรือไง ” พี่ฉัตรพูดออกมาเหมือนจะไม่เชื่อ“ พอเลย เมื่อกี้มีเด็กคนหนึ่งมาบอกว่าพี่สาวของเธอเป็นคนผลักแกยัยมุก ” ฟ้าที่เดินตามมาโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงโมโห“ เดี๋ยวฟ้าช่วยเล่าให้พี่ฟังหน่อย ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ” พี่ฉัตรหันไปหาฟ้า“ ค่ะ ” “ พี่ต้องเชื่อหนูนะ ว่าหนูลื่นตกล
บทที่ 9 โดนผลัก05:00 น.เสียงนกหวีดดังขึ้น ปลุกทุกคนที่นอนให้ตื่นขึ้นทันที พร้อมกันรีบพับห่ม แต่ก็ได้แต่ทำอะไรไม่ถูก เพราะตอนแรกเหมือนจะสะลึมสะลือ พอตาแจ้งก็ต้องหยุดชะงักเพราะนี่ไม่ใช่ค่ายของตัวเอง“ ทหารทุกนายตื่นได้แล้ว อีกยี่สิบนาทีจะต้องมารวมกันที่เดิมแล้วนะ ตอนนี้ให้เวลาเก็บของ สัมภาระทุกอย่าง แล้วล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวมาวางแผนช่วยคนกันต่อ ” เสียงโทรโข่งก็ดังขึ้นพวกเราก็รีบจัดแจงของต่างๆ ผ้ายางที่กั้นกำแพงก็เก็บเข้ากระเป๋าหมด จัดเก็บของจนครบ ไม่ลืมที่จะสวมเสื้อแขนยาวสีดำที่มีชื่อและตราของค่าย จัดแต่งใส่ไว้ในกางเกงให้ครบ และพากันไปเข้าห้องน้ำ ผู้หญิงจะเข้านานกว่าผู้ชาย มันโชคดีที่ไม่ต้องเก็บอะไรเยอะด้วยระหว่างรอเข้าห้องน้ำต่อจากพี่ๆ ในค่ายที่เข้ากันเกือบทุกคนแล้ว สักพักมีพวกผู้ชายจากค่ายทหารพรานมาเข้าห้องน้ำด้วย“ ใครเข้าต่อเหรอ ”“ ฉันเอง ” ฉันพูดขึ้น“ ให้เราก่อนได้ไหม พอดีเราปวดท้องหนักมาก ”“ เอ่อ… ” ด้วยความใจอ่อนก็ให้ผู้ชายคนนั่นเข้าก่อน หลังจากฟ้าออกมา เหลือแค่ฉันที่ยังไม่ได้เข้าห้องน้ำในตอนนี้“ อ้าว ทำไมมุกไม่เข้าไปอะ ” พี่หวานถามขึ้น“ เอ่อ …คนเมื่อกี้เขาบอกปวดหนัก







