LOGIN“ค่ะ ขวัญขอให้คุณใหญ่รู้ไว้นะคะ ว่าขวัญยอมทำทุกวันนี้ก็เพราะคำว่าบุญคุณ และเมื่อวันนั้นมาถึง หวังว่าคุณใหญ่จะช่วยพูดกับคุณๆ ท่านยอมให้เราหย่ากันนะคะ” พูดอย่างทำใจ ด้วยไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ที่ไอวารินมั่นใจคือ เธอไม่มีทางมีความสุขกับการได้เป็นภรรยาของเตชินท์อย่างแน่นอน และนอกเหนือไปกว่านั้น ทั้งเขาและเธอไม่มีทางรักกันได้เหมือนที่คุณๆ ทั้งสองคนบอก
“ฉันเองก็ทำทุกอย่างเพื่อคุณพ่อเหมือนกัน” เตชินท์พูดด้วยสีหน้าจริงจังไม่ต่างกัน
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขวัญขอตัวนะคะ” เมื่อเริ่มรู้สึกตาร้อนผ่าวจนอยากจะร้องไห้ขึ้นมา หญิงสาวก็รีบเบี่ยงหน้าหลบสายตาอีกฝ่ายทันที พร้อมกับทำท่าจะเดินจากเขาไป
“เดี๋ยว…พรุ่งนี้มากินข้าวเช้าด้วยกันก่อนออกไปทำงาน และก็...” เตชินท์นิ่งไปครู่หนึ่ง เพราะสิ่งที่กำลังจะพูดต่อไปนี้คงทำร้ายจิตใจหญิงสาวมาก และที่สำคัญ เขากำลังทำร้ายน้องชายตนเอง
“กับนายเล็ก เธอคงไม่ต้องให้ฉันบอกใช่ไหมว่าต้องทำตัวยังไง”
เขาพูดด้วยเสียงนิ่ง และคนฟังก็นิ่งไปไม่ต่างกัน เพราะคำพูดนั้นได้กรีดแทงหัวใจเธออย่างไม่มีชิ้นดี
“ค่ะ ขวัญรู้ว่าต้องวางตัวยังไง”
ไอวารินกลั้นใจพูด พร้อมกับเดินออกจากห้องทำงานของเตชินท์ไปทันที
เตชินท์รู้มาตลอดว่าเธอกับเตวิชรักกัน!
นี่คือสิ่งที่ไอวารินคิดวนอยู่ในหัวตลอดทางที่เดินกลับมายังห้องพักของตนเอง แต่ถึงอย่างนั้นต่อให้เปลี่ยนการแต่งงานครั้งนี้จากเตชินท์มาเป็นเตวิช หญิงสาวเองก็ไม่ได้รู้สึกสบายใจแต่อย่างใด เนื่องจากมองว่าทั้งสองหนุ่มอยู่เหนือกว่าตนทุกอย่าง และเธอไม่คู่ควรจะเป็นคนรักของพวกเขา แม้ว่าเตวิชเองจะมีทีท่าเหมือนชื่นชอบเธอไม่ต่างกัน แต่ใจหนึ่งก็เชื่อว่าสักวันหนึ่งเตวิชจะได้เจอกับผู้หญิงที่คู่ควรกับเขาอย่างแน่นอน
ไอวารินอดนึกถึงวันแรกที่เข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ไม่ได้ เนื่องด้วยเธอกับเตวิชอายุเท่ากันจึงทำให้ทั้งสองคนสนิทสนมกันตั้งแต่เด็ก เวลาเตวิชได้ขนมอะไรอร่อยๆ มาก็มักจะออกมาหาและแบ่งให้กินด้วยเสมอ หรือแม้แต่เวลาไปเที่ยว เตวิชก็มักจะซื้อของฝากมาให้ ต่างจากเตชินท์ที่ไม่เคยแม้แต่จะมองหน้า เข้ามาเล่นหรือพูดคุยด้วยก็อย่าหวัง อาจเพราะว่าเขาอายุห่างจากเธอค่อนข้างมาก และอีกอย่างก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ชายหนุ่มจะต้องมาพูดคุยกับเด็กในบ้าน
ไอวารินไม่รู้ว่าความรักที่เกิดขึ้นกับเตวิช มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะเริ่มตั้งแต่ช่วงที่เรียนอยู่มัธยม ตอนนั้น เธอรู้ตัวว่าไม่ได้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่อะไร จึงทำให้มีหนุ่มๆ มาติดพันค่อนข้างมาก แต่เธอกลับไม่ได้นึกสนใจคนพวกนั้น เพราะตั้งใจว่าจะมุ่งแต่เรื่องเรียน เพื่อไม่ให้คนที่บ้านนี้ผิดหวัง
แต่เคยมีครั้งหนึ่งที่มีผู้ชายมาตามติดแจ และเข้ามาถึงเนื้อถึงตัว แต่โชคดีที่ตอนนั้นเตวิชมาช่วยไว้พอดี ทำให้พวกมันไม่กล้าเข้ามายุ่งหรือถึงเนื้อถึงตัวกับเธออีก
เตวิชอบอุ่นและดูแลอย่างดีมาตลอด ปฏิบัติตัวไม่เหมือนว่าเธอเป็นเพียงแค่เด็กอุปการะในบ้าน แต่เขาทำเหมือนเป็นเพื่อนรักคนหนึ่ง ยิ่งรู้ว่ามีผู้ชายมาติดพัน เตวิชก็ยิ่งตามติดเธอราวกับจงอางหวงไข่ก็ไม่ปาน แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่ไอวารินชื่นชอบ และทำให้รู้สึกดีกับเขาขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยคาดคิดนั่นคือ เตวิชก็รู้สึกดีกับเธอเช่นเดียวกัน
เหตุการณ์ที่ทำให้ไอวารินรับรู้ได้ว่าเตวิชมีใจให้นั่นคือ การออกปากกับเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยทุกคนว่าเธอคือผู้หญิงของเขา และห้ามผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ หากจะมองว่าแค่อยากปกป้องนั้นก็มองได้ แต่การกระทำของเตวิชมันชัดเจนยิ่งกว่าอะไร ทุกวันสำคัญ ชายหนุ่มจะซื้อของขวัญมาให้เสมอ
ฃไม่เว้นแม้แต่วันวาเลนไทน์ เตวิชที่เสน่ห์แรงจนมีสาวๆ เข้าหามากหน้าหลายตาก็ยังไม่วายรอที่จะ ‘ออกเดต’ กับเธอแค่คนเดียว แม้ว่าเธอกับเขาจะไม่เคยพูดสถานะกันอย่างชัดเจน แต่ทั้งคู่ก็โตพอที่จะรู้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้น มันคืออะไร เพียงแต่รอเวลาที่สมควรจะได้พูดมันออกมาเท่านั้น
“ขวัญแน่ใจเหรอว่าพี่ใหญ่จะยอม” เอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะจากที่คุยกับพี่ชายตนเองเมื่อครู่นี้ ฝ่ายนั้นดูยินดีเสียยิ่งกว่าอะไรที่จะได้แต่งงานกับไอวาริน“คุณใหญ่ไม่ได้รักขวัญ หรือแม้แต่ตอนที่แต่งงานกัน ขวัญเองก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวคุณใหญ่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมั่นใจเถอะค่ะว่า พอถึงเวลา คุณใหญ่เองก็พร้อมที่จะเลิกกับขวัญเหมือนกัน” ไอวารินพูดด้วยความมั่นใจ เพราะระหว่างเธอกับเตชินท์จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกเสียจากคำว่า ‘หน้าที่’ เท่านั้น“ฉันไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ แต่ฉันอยากให้ขวัญรู้ไว้นะว่า ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะรอขวัญเสมอ” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคิดทบทวนมาอย่างดี เตวิชเองก็ไร้หนทางที่จะไปเปลี่ยนความคิดของเธอ“อย่ารอขวัญเลยค่ะคุณเล็ก ชีวิตคุณเล็กยังมีอะไรอีกมาก อย่าต้องมาเสียเวลากับผู้หญิงอย่างขวัญเลยนะคะ” ไอวารินพูดไปน้ำตาไหลไป รู้สึกซาบซึ้งกับความรักและความหวังดีที่เตวิชมีให้ แต่สุดท้ายความจริงก็คือความจริง และเธอเองก็ไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ฉุดรั้งชายหนุ่มเอาไว้“ผู้หญิงอย่างขวัญเป็นยังไง ผู้หญิงอย
“ขวัญ…เราหนีไปด้วยกันนะ”เตวิชเดินเข้ามาพร้อมกับกุมมือบางไว้แน่น ในเมื่อไม่สามารถคัดค้านงานแต่งงานครั้งนี้ได้ หนทางเดียวที่จะช่วยไอวารินได้นั่นก็คือการพาเธอหนีไปพร้อมกับเขา“คุณเล็กล้อขวัญเล่นหรือเปล่าคะ”ไอวารินเอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ‘หนีตาม’ อย่างนั้นเหรอ เธอกับเขาเพิ่งเรียนจบมา เงินเก็บก็ยังมีไม่มากพอที่จะสร้างตัว ที่สำคัญ หญิงสาวไม่อยากทำตัวให้คนในบ้านนี้ต้องลำบากใจ“ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะขวัญ ในเมื่อทุกคนอยากบังคับเธอมาก ฉันจะปกป้องเธอเอง เราหนีไปด้วยกันนะ” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม เขาคิดดีแล้วว่านี่คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเท่าที่จะคิดได้ในตอนนี้“คุณเล็กคิดว่าที่เราทำอยู่มันถูกต้องแล้วเหรอคะ” พร้อมกับค่อยๆ ดึงมือตนเองออกจากการเกาะกุม ไอวารินไม่ได้อยากทำร้ายจิตใจใคร แต่เลือกที่จะอยู่กับความจริง ความจริงที่ว่าไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องแต่งงานกับเตชินท์“ขวัญ…เชื่อใจฉันนะ” เตวิชมองหน้าหญิงสาวที่รักด้วยสายตาเศร้า ลึกๆ เขาเองก็รู้ว่าต่อให้หนีไปสุดโลก คนมี
“ผมรู้ครับว่า ตอนนี้ ผมอาจจะดูไม่เอาไหน แต่แม่เชื่อเถอะนะครับว่าผมทำได้ ผมจะไม่ทำให้ใครต้องลำบาก” เอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก หากพูดถึงเรื่องอนาคต ถ้าให้พูดตามจริงตอนนี้ เขาเองก็ยังคงมืดบอดไร้หนทาง แม้คิดอยากจะเปิดผับเป็นของตนเอง แต่ก็ยังต้องศึกษาเรื่องนี้อยู่มากถึงจะเป็นจริงได้“แล้วลูกอยากให้ขวัญต้องมาลำบากไปด้วยหรือไง” พูดเพื่อเตือนสติลูกชายอีกครั้ง จริงอยู่ว่าไม่ได้อยากจะไปขัดใจลูกชาย แต่กับเรื่องนี้ นางมองว่าถึงอย่างไรไอวารินก็เหมาะสมที่จะได้แต่งงานกับเตชินท์ และเหมาะสมที่จะเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูล“แต่ผมรักขวัญจริงๆ นะครับแม่ ให้โอกาสผมกับขวัญได้รักและดูแลกันไม่ได้เหรอครับ” เตวิชไม่เคยคิดว่าครั้งหนึ่งของชีวิตผู้ชายจะต้องมาขอร้องอ้อนวอนผู้เป็นแม่ด้วยเรื่องความรัก แต่เพื่อไอวารินแล้วเขายอมทำได้ทุกอย่าง“ถ้าลูกบอกว่าลูกรักขวัญ แม่คิดว่าลูกควรปล่อยขวัญไปนะตาเล็ก ลูกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าตาใหญ่จะดูแลขวัญได้ดีแค่ไหน ส่วนความรักของลูกกับขวัญ มันอาจจะเป็นความรู้สึกชั่ววูบเดี๋ยวก็หายไป เชื่อแม่เถอะว่านี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว&
เตวิชเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ คนอย่างเตชินท์มีเพียบพร้อมทุกอย่าง จะมีเมียกี่คนก็ยังได้ แต่กลับมายอมทำตามผู้ใหญ่ที่สั่งให้แต่งงานกับเด็กในบ้านเช่นนี้ ถ้าไม่ได้เกลียดกันมาก่อนเขาเองก็ไม่อยากจะคิดว่าหรือจริงๆ แล้วพี่ชายกำลังแอบรักไอวารินอยู่กันแน่!“หรือว่าพี่แอบรักขวัญ” เอ่ยถามขึ้นอย่างใจคิดทันที เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าเหตุผลที่แท้จริงของเตชินท์คืออะไรกันแน่“หึ สำหรับฉัน ความรักมันไม่มีจริง และถ้าต้องรักใครสักคนแล้วเป็นบ้าแบบนาย ฉันขอไม่มีความรักดีกว่า เพราะนายเป็นแบบนี้ไงเล็ก อ่อนแอ คุณย่ากับคุณแม่เลยไม่ไว้ใจให้นายได้ตัดสินใจอะไรเองสักที”เตชินท์พูดออกไปราวกับต้องการกรีดแผลในใจน้องชาย สำหรับเขา เตวิชเป็นเด็กเก่งในทุกเรื่อง แต่มักจะใจร้อนไม่ฟังใคร ทำให้ในหลายๆ ครั้งตัดสินใจผิดพลาดและต้องคอยให้ผู้ใหญ่ตามแก้ปัญหาเสมอ“ได้ ถ้าพี่ยืนยันว่าจะแต่งงานกับขวัญ งั้นผมจะไปคุยกับคุณหญิงย่าเอง” เตวิชพูดอย่างหมายมั่น ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เขาจะไม่ยอมถอยง่ายๆ แน่“ก็ลองดู”เตชินท์นิ่งไปอย่างไม่อยากจะสนใจ
ก๊อกๆเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้เจ้าของห้องอดสงสัยไม่ได้ ปกติแล้วหากเขาทำงานอยู่จะไม่ค่อยให้ใครเข้ามารบกวน ดังนั้นคนที่กล้ารบกวนเขาเวลานี้ก็คงไม่ใช่ใคร นอกจากบุคคลที่กำลังนึกถึงพอดี“เข้ามาสิเล็ก” เตชินท์มั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องถึงหูน้องชายแล้วอย่างแน่นอน และคนเลือดร้อนอย่างเตวิชคงไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ และเมื่อประตูเปิดออกก็ทำให้รู้ว่า เขาไม่ได้เดาผิดไปแม้แต่นิดเดียว“เรามีเรื่องต้องคุยกันพี่ใหญ่” เตวิชเดินเข้ามาด้วยท่าทีร้อนรน ในขณะที่ผู้เป็นพี่ชายกลับมีทีท่านิ่งเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเสียจนน่าหมั่นไส้“เรื่องมันใหญ่ถึงขั้นนายต้องมารบกวนเวลาทำงานฉันเลยหรือไง” เตชินท์ปิดแฟ้มเอกสารลง พร้อมกับมองหน้าน้องชายในสายเลือดอย่างหาคำตอบ“พี่คงรู้ว่าผมมาเรื่องอะไร ผมต้องการให้พี่ปฏิเสธงานแต่งของพี่กับขวัญ” เตวิชพูดตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม“ทำไม เพราะนายกับขวัญรักกันหรือไง” เตชินท์ยังคงพูดด้วยท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวเช่นเดิม เพราะคิดอยู่แล้วว่าเตวิชจะต้องมาคุยด้วยเรื่อ
ชายหนุ่มพูดด้วยความมั่นใจ เขากับผู้เป็นพี่ชายสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าหลังจากที่ผู้เป็นพ่อเสียไป อีกฝ่ายจะดูนิ่งเงียบมากขึ้น ด้วยเพราะบทบาทหน้าที่การเป็นประธานบริษัทที่ได้รับ ทำให้เตชินท์มีบุคลิกเงียบขรึมและน่าเกรงขามต่างจากสมัยเด็กที่เป็นพี่ชายที่แสนอบอุ่นของน้องอย่างสิ้นเชิง“อย่าทำให้เรื่องมันยิ่งไปกันใหญ่เลยค่ะ ขวัญไม่อยากทำให้ผู้ใหญ่ลำบากใจ อีกอย่าง ขวัญก็ตอบตกลงไปแล้วด้วย”ไอวารินมั่นใจว่าไม่มีทางใดที่จะเปลี่ยนความคิดของทุกคนได้ และเธอไม่อยากให้เตวิชต้องลำบากไปด้วย“ไม่เห็นมีเรื่องต้องลำบากใจ ถ้าอยากให้ขวัญแต่งงานนักก็ให้แต่งกับฉัน เปลี่ยนจากคนพี่เป็นคนน้องจะเป็นไรไป” เตวิชพูดด้วยความโมโห เขาไม่ต้องการให้การถูกบังคับแต่งงานเกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม“แต่ว่า…”“ไม่ต้องกลัวนะขวัญ ฉันจะไปคุยกับพี่ใหญ่เอง” คราวนี้พูดด้วยสีหน้าจริงจังอีกครั้ง ก่อนที่ไอวารินจะยอมรับคำแต่โดยดี เตวิชในตอนนี้ใจร้อนเสียยิ่งกว่าอะไร และจะไม่มีใครห้ามเขาได้อย่างแน่นอน“ขวัญรอฉันที่ห้องก่







