Masuk“อะ... อะไรคะเฮีย” พิมพ์นาราตัวสั่น ก้มหน้าก้มตาเหมือนคนทำความผิด เธอมีชนักปักหลัง เลยไม่ค่อยกล้าล้อเล่นกับพี่ชายหรือใครๆ เหมือนก่อน
“ท้องกี่เดือนแล้ว” พันกรตวาดลั่นคับห้อง บัวบูชาอ้าปากค้าง มองหน้าท้องนูนๆ ของเพื่อนรักไม่วางตาเหมือนเห็นสิ่งแปลกประหลาดที่สุดในชีวิต
“ฮะ... เฮียพูดอะ.. อะไร” พิมพ์นาราสะดุ้งสุดตัว เผลอลูบหน้าท้องของตัวเองอย่างเผลอไผล
“เฮียใจเย็นๆ ก่อนนะคะ ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันนะคะ”
บัวบูชารีบปราม กอดเพื่อนเอาไว้แนบอก
“บัวบอกว่าเราเอาแต่นอน เพลีย กินเยอะ น้ำหนักขึ้นด้วย ไม่ยอมออกกำลังกาย เค้าเป็นห่วงก็มาบอกเฮีย กลับมาว่าจะพาไปหาหมอ แล้วทำไมถึงกลายเป็นป่องตรงกลางไปได้” พันกรเสียงดัง
“พิมพ์ พิมพ์...” พิมพ์นาราน้ำตาไหลพรากๆ สะดุ้งตกใจเสียงพี่ชายที่ดังคับห้อง
“มันเป็นใคร ไปนอนกับใครมาจนท้อง” พันกรคาดคั้นน้องสาว
..เขาเลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อย ไม่ใช่พ่อแม่ก็เหมือนพ่อแม่ เป็นมากกว่าพี่ชายเสียอีก เขาไม่ยอมให้มันผ่านไปง่ายๆ แน่นอน
“เฮีย!!!” พิมพ์นารายิ่งตกใจ เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นหนักขึ้นไปอีก
“เฮียอย่าเสียงดังสิ พิมพ์นั่งก่อน ประจำเดือนมาอยู่ไหม บอกบัวหน่อย” บัวบูชาเพิ่งฉุกใจคิดเรื่องที่ไม่เห็นเพื่อนบ่นเรื่องปวดท้องประจำเดือนเลย เพราะอยู่ด้วยกันทุกวัน เธอก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะบางทีก็รับงานแสดง ออกไปทำงานข้างนอก
พิมพ์นาราเม้มปากส่ายหน้าไปมา เพิ่งรู้ตัวเหมือนกันว่าประจำเดือนขาดหายไปหลายเดือน ..ต้องเป็นคืนนั้นแน่ๆ แล้วไอ้อาการหิวตลอดเวลา กินจุกจิก อ่อนเพลีย ง่วงนอนนี่ก็เพราะ!!!
พิมพ์นารายิ่งสะอื้นสุดตัว ยิ่งตกใจเมื่อพี่ชายคาดคั้นอย่างรุนแรง
“ท้องกับใคร”
“เฮีย!!! ต้องไปตรวจให้แน่ใจก่อน” บัวบูชารีบเบรก พันกรเป็นคนอารมณ์ร้าย แถมยังใจร้อน เธอต้องรีบช่วยเหลือเพื่อนรัก อย่างน้อยก็ต้องซักถามกันให้รู้ความ พันกรตวาดแบบนี้ พิมพ์นาราต้องปิดปากเงียบไม่ยอมพูดความจริงอย่างแน่นอนว่าไปพลาดท่าเสียทีใครมา
“ไปตรวจเดี๋ยวนี้ ว่าท้องกี่เดือนแล้ว” ประกาศิตของพี่ชายทำให้พิมพ์นาราขัดอะไรไม่ได้เลย เพราะรู้ตัวว่าผิดเต็มประตู
พิมพ์นารานั่งหน้าซีดอยู่หน้าห้องหมอเพื่อรอฟังผลตรวจ โดยมีบัวบูชาคอยจับมือบีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ ส่วนพันกรนั่นเดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น
เสียงพยาบาลที่เรียกเข้าห้องหมอเพื่อรอฟังผลตรวจทำให้พิมพ์นาราสะดุ้ง เธอเดินหลบด้านหลังของเพื่อนรักตามพี่ชายที่เดินเข้าไปในห้องหมอก่อนเป็นคนแรก
ผลการตรวจออกมาว่าเธอท้องจริงๆ พิมพ์นาราลมจับ ต้องปฐมพยาบาลกันยกใหญ่
พอฟื้นขึ้นมาพี่ชายพากลับคอนโด ระหว่างทางเขาหน้าเครียดไปตลอด มีเพียงบัวบูชาเท่านั้นที่คอยให้กำลังใจ แม้ไม่ได้พูดอะไร แต่พิมพ์นาราก็รู้สึกว่าเพื่อนรักคือที่พึ่งเดียวที่เหลืออยู่
“ท้องกับใคร เฮียถามว่าท้องกับใคร” พันกรเท้าสะเอวมองน้องสาวเขม็ง นั่นยิ่งทำให้พิมพ์นาราถอนสะอื้น
“ถามว่าท้องกับใคร!!!”
“เฮีย ใจเย็นๆ ก่อน เดี๋ยวบัวคุยกับพิมพ์เอง” บัวบูชาเห็นท่าไม่ดีก็รีบปรามสามีเอาไว้ ก่อนจะขยิบตาให้ไปอีกด้าน เธอไม่อยากทำแบบนี้ แต่รู้นิสัยเพื่อนดี ถ้ายังขืนเป็นแบบนี้ โดนตีหรือโดนดุขนาดไหนก็ปิดปากเงียบ พิมพ์นาราเป็นคนดื้อเงียบไม่ใช่จะยอมอะไรง่ายๆ ขนาดเธอเองอยู่ด้วยกันทุกวัน ไม่เคยมีความลับต่อกัน พิมพ์นารายังปิดบังเสียนาน มาเรื่องแดงถึงได้รู้ ก็คงไม่อยากพูดถึงผู้ชายคนนั้นแน่ๆ
พันกรทำเสียงฮึดฮัดขัดใจ แต่ยอมทำตามที่ภรรยาสาวบอก เขาเดินออกไปหลบอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง ในขณะที่กรามถูกกัดเข้าหากันจนขึ้นสัน ..เขาไม่ยอมให้ผู้ชายหน้าไหนมาทำกับน้องสาวของเขาแบบนี้เด็ดขาด พันกรรู้สึกหดหู่ใจอยู่เหมือนกัน ..เพราะเขาทำไม่ดีกับบัวบูชาหรือเปล่า เหตุการณ์ไม่ดีแบบนี้จึงมาเกิดขึ้นกับน้องสาวของเขา บัวบูชาโชคดีที่ไม่ท้อง แต่น้องสาวเขาสิ!!!
“เฮียไปแล้ว ทีนี้ก็บอกบัวมาได้แล้วจ้ะพิมพ์”
“ฮือๆๆๆ” พิมพ์นาราปล่อยโฮออกมาเต็มเสียง ก่อนจะผวาเข้ากอดเพื่อนรัก
“เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังไงก็ต้องพูดนะพิมพ์”
บัวบูชาลูบหลังลูบไหล่ปลอบโยน
“มันเป็นความผิดพลาด” พิมพ์นาราปาดน้ำตาถอนสะอื้น แล้วเริ่มเล่า
“ความผิดพลาดยังไง”
“คืนนั้นยัยดาราวดีวางยาเฮีย เหล้าแก้วนั้นไง”
“เหล้าแก้วนั้น”
“ที่พิมพ์ไปแย่งมาดื่มเสียเอง แล้วก็รู้สึกแปลกๆ เพิ่งมารู้ตอนหลังว่าโดนวางยา”
“พิมพ์รับเคราะห์แทนเฮียอย่างนั้นเหรอ” บัวบูชาถามอย่างตกใจ
“ใช่”
“เขาเป็นใคร”
“คุณกันต์”
“พะ... พี่กันต์เหรอ” บัวบูชายิ่งตกใจเข้าไปใหญ่
“มันเป็นความผิดพลาด”
“แล้วเขาไม่รับผิดชอบพิมพ์หรือไง แล้ววันนั้นที่พิมพ์หนี หนีพี่กันต์เหรอ”
“ใช่”
“ไอ้สารเลว!!!” เสียงของพันกรทำให้สองสาวสะดุ้ง
“ฮะ...เฮีย” พิมพ์นาราเห็นพี่ชายก็ตกใจ ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้เรื่องนี้ เพราะจริงๆ กันต์ไม่ได้ผิด เธอผิดเองที่ไปนั่งอยู่หน้าบ้านเขา ให้เขาหิ้วเข้าห้องไปได้
“เฮียจะไปฆ่ามัน”
“แต่...” พิมพ์นาราตกใจ ยังพูดไม่ทันจบประโยค เสียงพี่ชายก็ดังขึ้นมาอีก
“เกิดเรื่องขึ้นขนาดนี้ทำไมไม่ยอมบอกเฮีย ห๊ะ...ตัวเล็ก”
พันกรถามน้องสาวเสียงขื่น แววตานั้นทั้งรักทั้งห่วงใยอย่างสุดซึ้ง
อกอวบๆ ของเธอนุ่มหยุ่น เขาฟอนเฟ้นมันอย่างย่ามใจ ก่อนจะป้อนเข้าปากดูดเม้มรวบรัดอย่างหิวกระหาย กันต์รู้สึกได้ถึงส่วนล่างที่คุกรุ่นแทบปะทุออกมา เขาอยากเล้าโลมอีกหน่อยแต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ มือหนาเลื่อนไปแยกเรียวขาของเธอออกห่าง ก่อนจะกดกายเข้าหา“อ๊า...” กันต์ครางเสียงดังพอๆ กับคนใต้ร่างที่หวีดร้องออกมา พร้อมกับจิกมือกับแขนแกร่งด้วยความเจ็บเสียวที่ผสมปนเปกันไปหมดความคับแน่นที่ได้รับและความฝืดเคืองที่เขาไม่สามารถดุนดันเข้าไปได้ทำให้กันต์นิ่วหน้า เขาไม่ได้รู้สึกผิดหรืออยากล่าถอย ไม่ใช่เพราะไม่เป็นสุภาพบุรุษ แต่ในอารมณ์เช่นนี้ เขาถอยไม่ได้จริงๆ“อื้อ... เจ็บ”เธอถอยสะโพกหนีในขณะที่กันต์ตามติด เขาดึงสะโพกของเธอมาหา กระชับเอาไว้อย่างมั่นคง พิมพ์นาราจิกมือกับไหล่กว้าง เธอหวีดร้องอีกครั้ง ผวาร่างกอดรัดร่างสูงเพรียวเอาไว้เต็มอ้อมแขน เมื่อเขากดกายลงมาจนหมดสิ้น ผ่านเยื่อพรหมจรรย์ที่เก็บรักษามาตลอดระยะเวลายี่สิบปีกันต์นิ่วหน้าเพราะถูกโอบรัดอย่างรุนแรง เขาแช่กายทิ้งเอาไว้แล้วค่อยๆ ปรับตัว ก่อนจะเริ่มขยับ เสียงครวญครางที่ดังอย่างต่อเนื่องมาพร้อมกับเสียงเนื้อกายที่กระแทกกระทั้นเข้าหากันอย่างแนบชิด
“เลิกกอดฉันได้แล้วค่ะ” เธอพยายามตะกายร่างลุกขึ้น แล้วใครๆ ก็วิ่งมาดูกันต์ล้อมหน้าล้อมหลัง พิมพ์นาราถูกผลักออกนอกวงล้อม“เป็นยังไงบ้างพิมพ์” บัวบูชารีบวิ่งมาถามเพื่อนรักอย่างเป็นห่วง“ไม่เป็นอะไรจ้ะ ไปเถอะ”“อ้าวคุณ อ้าว...” กันต์ได้แต่ยกมือค้างกลางอากาศ เหมือนเขาจะช่วยแต่เธอไม่ซาบซึ้งเลยสักนิด หลังจากวันนั้นก็ไม่ค่อยได้เห็นหน้าเธออีกเลย...เจอกันอีกครั้ง ได้แค่แอบมอง...กันต์ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากพันกร เจ้าของไร่องุ่นที่มีอัธยาศัยดี เขาแอบฝากเนื้อฝากตัวเป็นว่าที่น้องเขยอยู่ลึกๆ ในใจ ถึงจะยังจีบน้องสาวไม่ได้ก็เถอะ ชีวิตของเขามีผู้หญิงมากมายล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ผู้หญิงที่เห็นแล้วปิ๊ง เรียกว่าเธอรู้สึกน่ารักในสายตาเขานั้นไม่มี แม้แต่แฟนเก่าก็คบกันเพราะต้องเจอกันบ่อยๆ แต่เธอก็เลือกคนอื่น ซึ่งเขาก็ไม่ได้โทษใคร เพราะความรักมันเกิดจากคนสองคนผู้กำกับหนุ่มก็ขำๆ ตัวเองเหมือนกันที่ดันมาชอบยัยเด็กสาวอวบระยะสุดท้ายที่มองยังไงเขาก็คิดว่าน่ารัก น่าหยิกและน่าขย้ำ เขาชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น อาจเพราะรอยยิ้มสดใส ความขี้เล่นกวนๆ ที่เขามักเห็นเวลาเธออยู่กับเพื่อนรักอย่างบัวบูชา ทำให้เขานึกเอ็นดู ชีวิ
“ครับ”“นี่ค่าขนมนะครับ”“ครับ” กันต์มองตามร่างเล็กไปจนสุดตา เห็นอีกฝ่ายวิ่งเข้าไปใกล้ถึงที่หมาย เขาก็โดนเรียกไปอีกด้าน กันต์หันหลังให้ แต่ก็ยังอยู่ในรัศมีที่เด็กชายตัวน้อยจะบอกพิมพ์นาราให้ว่าเขาฝากดอกกุหลาบไปให้ เธอคงรู้นะว่าเขาจะเริ่มต้นจีบเธอ“นั่นดอกกุหลาบคุณกันต์ให้เอาไปไหนจ๊ะ” ดาราวดีเอ่ยถามเด็กชายตัวน้อย เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเธอโดยตลอด“เอาไปให้ผู้หญิงที่นั่งกินขนมอยู่ตรงโน้นครับ” เด็กน้อยตอบอย่างใสซื่อ“เอาอย่างนี้นะจ๊ะ พี่ให้เงินเพิ่มอีก หนูเอาดอกกุหลาบไปให้ผู้หญิงคนนั้นแล้วบอกว่า ผู้ชายคนโน้นให้เอามาให้” ดาราวดีชี้ไปที่ตากล้องร่างยักษ์ ตัวดำ หัวฟู ที่กำลังแบกหามขนของอยู่อีกด้านเพื่อช่วยทีมงาน“แต่พี่ชายคนโน้นบอกว่า...” เด็กน้อยมีท่าทีลังเล“พี่ให้เพิ่มอีกดีไหม”ดาราวดียัดเงินใส่มือเด็กน้อยเด็กชายจึงพยักหน้าเข้าใจ“สร้างความร้าวฉานคืองานของเรา ฮ่าๆๆๆ”ดาราวดีหัวเราะชอบใจ ก่อนจะปิดปากและขบขัน เธอไม่ชอบพิมพ์นาราเพราะอีกฝ่ายทำสีหน้าไม่ดีกับเธอ ยิ่งรู้ว่าเป็นเพื่อนกับบัวบูชา ยัยดาราดาวรุ่งที่ใครๆ ก็อยากดัน เธอยิ่งหมั่นไส้ กันต์ก็เถอะ อ่อยแทบแย่เขาก็ไม่สนใจ แต่ดันไปชอบยัย
“แรงๆ ได้ไหม ขอแรงๆ”กันต์ถามเสียงแหบพร่าพิมพ์นาราพยักหน้าเหมือนต้องมนต์สะกด เธอเสียวซ่านจนแทบขาดใจกันต์กดร่างเธอไปกับหัวเตียง เธอเลยอยู่ในท่านั่งพิงหัวเตียง แยกขาอ้ากว้าง ในขณะที่เขาตามมากระแทกเสียเต็มรัก พิมพ์นารามองภาพกลางกายที่สอดประสานกันอยู่ก็หน้าแดง กันต์ชอบทำให้เธอรู้สึกเสียวซ่านและขัดเขินในเวลาเดียวกันภาพที่แก่นกายของเขาดันเข้าออกไม่หยุดยั้งทำให้เธอร้องครางทุกครั้งที่เขาเชื่อมกายเข้าหา เขาขยับกายเข้าออกโดยเร่งจังหวะเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ พิมพ์นาราครวญครางไม่ได้ศัพท์ ก่อนที่เธอจะผวากอดเขาแน่น ตอดรัดเขาด้วยความสุขสม ในขณะที่กันต์บดกายเข้าหาเธอ ให้เธอดูดกลืนธารร้อนของเขาจนหมดสิ้นกันต์จูบหน้าผากเธอหนักๆ พิมพ์นาราทุบอกเขา เลยโดนอุ้มไปอาบน้ำทั้งท่านั้น กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็ปาเข้าไปอีกเป็นชั่วโมง ออกมาจากห้องน้ำนั่นแหละ ถึงได้รับประทานอาหารกันอย่างจริงๆ จังๆ เสียที“ป้อนไหมคะ” เธอยื่นหน้าไปถาม“จะเอาใจพี่เหรอ”“ชอบไหมล่ะคะ”“ชอบ มาสิ มานั่งเก้าอี้ตัวเดียวกัน”“พิมพ์ตัวหนักนะคะ”“นั่งตรงนี้ครับ” กันต์แยกขาออกตบเบาๆ ในส่วนของเก้าอี้ที่ยื่นออกไป ให้เธอมานั่งตรงนั้น พอเธอนั่งเขาก็โอบ
เขาดึงสายตากลับมามองสะโพกผายน่าขย้ำของเธอ แล้วกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากอย่างปัจจุบันทันด่วน ทั้งกลมกลึงและต้นขาอวบนั้นก็น่าลูบไล้ แน่ละอารมณ์ของเขาจินตนาการไปเรื่อย อยากมองลึกเข้าไปให้มากว่านั้น เพราะภายในซุกซ่อนสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้เขาครางแทบขาดใจเมื่อซุกไซ้เข้าไปหาและร่างกายเชื่อมประสานติดกันกันต์กลืนน้ำลายติดๆ กันอีกครั้ง เขารู้สึกว่ายิ่งกลืนน้ำลายลำคอก็ยิ่งแห้งผาก..เอาแล้วสิ ทำไมต้องมาเกิดมีอารมณ์อยากปล้ำเมียเอาตอนนี้ด้วยนะ แล้วทุกครั้งเขาก็รู้สึกตื่นเต้น รู้หรอกว่าเธอยินยอมพร้อมใจ แต่วันนี้เธอบอกว่าจะให้รางวัลเขา เขาก็เลยคาดหวังอยู่บ้างกับสิ่งที่เธอนำมาล่อลวงหัวใจให้เขาคิดตามเขาอยากดึงเธอมากอดเสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็อยากให้เธอลองเป็นคนรุกก่อนบ้าง มันคงจะตื่นเต้นดีหรอกนะ เขาไม่ได้ทะลึ่งหรือลามก เพราะเขาคิดกับเมียของเขาคนเดียวเท่านั้นเขาอยากจูบเธอตอนนี้และกอดรัดเอาไว้แนบอก พิมพ์นาราเป็นคนขี้เล่น เธอเหมือนเด็กที่อยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ ตอนนี้เขาอยากให้เธอซุกซนกับเขาเสียจริง“อุ๊ย!” เธออุทานเมื่อเขาสัมผัสร่างกาย เนื่องจากกำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ แล้วเขาก็อดใจไม่ไหวจนได้“กอดหน่อย คนตัวหอม
พิมพ์นารายืนรอสามีมารับอยู่หน้ามหาวิทยาลัย ส่วนบัวบูชานั้นมีงานถ่ายแบบต่อ เจ้มิ้นต์มารับออกไปตอนเลิกเรียน คนอยากเจอหน้าลูกแอบคิดถึงเจ้าตัวน้อยตอนอาจารย์สอบวิชาสุดท้าย กลับบ้านไปคงได้เล่นกันจนหลับไปเหมือนเคยรถของสามีมาจอดเทียบตรงหน้าที่เธอยืนอยู่ คนขับรถวิ่งลงมาเปิดประตูรถให้ พิมพ์นาราสอดตัวเข้าไปนั่งในรถ และแทบกรีดร้องอย่างดีใจที่เห็นสามีกับลูกสาวตัวน้อยอยู่ในรถด้วย“พี่กันต์ พายัยหนูมาด้วยเหรอคะ”“ใช่ อยากให้ใครบางคนเซอร์ไพรส์ สอบเสร็จแล้วใช่ไหม”“ใช่ค่ะ ทำข้อสอบได้ด้วยค่ะ สงสัยวิชานี้ได้เต็มค่ะ คิกๆ”“ขี้โม้...”กันต์บีบจมูกอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูพิมพ์นาราหอมแก้มย้วยๆ ของบุตรสาว อีกฝ่ายกระดี๊กระด๊าดีใจที่เห็นมารดา พิมพ์นารายิ้มกว้าง นั่งเล่นกับลูกอย่างสบายอารมณ์ กันต์เป็นผู้ชายน่ารัก เขารักลูกและรักเธอ ดูแลไม่เคยขาดตกบกพร่อง กลับมาจากข้างนอกเขาก็ต้องไปหาลูกก่อน เขาเล่นกับลูกจนหลับไปเหมือนๆ กับเธอ ชอบซื้อของเล่น เสื้อผ้า พาลูกไปเที่ยวและไม่เคยให้เธอต้องรับภาระอะไรคนเดียวเขาน่ารักเสมอ น่ารักเสมอต้นเสมอปลาย และยิ่งน่ารักขึ้นในทุกๆ วัน“แต่ถ้าสอบได้คะแนนเต็มจริงๆ จะให้รางวัลหนักๆ เลย”“ราง







