Masukคุณกันต์เรียนจบเมืองนอกด้วยนะคะ ชอบงานด้านวงการบันเทิงอาจเพราะว่าครอบครัวของคุณกันต์ทำงานด้านนี้ค่ะ เห็นว่าเป็นเจ้าของช่องด้วยนะคะ ทำธุรกิจเกี่ยวกับสื่อเยอะมาก รวยแบบนี้สาวๆ ทอดสะพานให้เต็มเลยค่ะ แต่ก็ยังไม่มีแฟนนะคะ”
“ยังไม่มีแฟนจริงเหรอ”พิมพ์นาราเอ่ยถาม เธอเองไม่ค่อยรู้ข้อมูลของกันต์นักหรอก
“ยังหรอกค่ะ ถ้ามีก็คงเปิดตัวไปนานแล้ว สงสัยอยากให้สาวๆ อกแตกตาย”
“อกแตกตายเรื่องอะไรเหรอ” พิมพ์นาราถามอย่างงุนงง
“ถ้ายังโสด ใครๆ ก็ยังคิดหวังสิคะ เหมือนพระเอกสมัยก่อนไง ปิดบังเรื่องแฟน คนรัก หรือลูกเมียกันใหญ่ เพราะกลัวเรตติ้งตก”
“ชิ!” พิมพ์นาราฟังแล้วรู้สึกหงุดหงิด
“คุณพิมพ์เป็นอะไรคะ”
“เปล่าๆ ไม่ได้เป็นอะไร”
“แต่คุณกันต์คงไม่มองสาวๆ หน้าตาธรรมดาแบบพวกเราหรอกค่ะ อย่างคุณกันต์คงต้องแต่งงานกับคนที่มีฐานะเท่าเทียมกัน หน้าตา ชาติตระกูล ดูดีทุกกระเบียดนิ้ว แล้วก็เก่งด้วยค่ะ”
“ก็คงจริงมั้ง...” พิมพ์นารารู้สึกใจฝ่อขึ้นมาทันที ก้มมองตัวเองแล้วรู้สึกหดหู่ ..เธอทั้งอ้วน ทั้งไม่สวย ชาติตระกูลก็ไม่ได้ดีเด่อะไร แค่กันต์บอกว่าจะรับผิดชอบลูกถ้าเธอท้อง ก็บอกอยู่แล้วว่าเขาไม่คิดจะรับผิดชอบเธอโดยการแต่งงานอย่างแน่นอน คนแบบเขามีผู้หญิงสาวๆสวยๆ อวบๆ อึ๋มๆ ให้เลือกมากมาย
เธอเป็นแค่ลูกเป็ดขี้เหร่ เขาคงไม่ชายตาแลหรอก
คืนนั้นเพราะฤทธิ์ยาบ้านั่นแท้ๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำอะไรกับเธอแบบนั้น...
“เปลี่ยนท่าได้ไหม” เสียงแหบพร่ากระซิบบอก“น่ารักจัง” เขาเย้าอย่างมันเขี้ยว“ขอแรงๆ ได้ไหม” เขาขบเม้มติ่งหู ดูดเบาๆ ลากลิ้นไปทั่วเรือนร่าง
“อื้อ...” แรงกระแทกแรงๆ ที่ถาโถมเข้ามาในร่างของเธอ ทำให้พิมพ์นาราร้องครางเสียงดัง ความรู้สึกและรสรักที่ได้รับทำให้เธอหยัดกายตอบรับเขาอย่างหนักหน่วงไม่แพ้กัน
กริ๊งงงงง!!!! เสียงนาฬิกาปลุกทำให้ร่างอวบผวาลุกจากที่นอนเหงื่อโซมไปหมด
“ฝันไปเหรอนี่” ..ตั้งหลายเดือนแล้ว ทำไมยังฝันบ้าบอแบบนี้อยู่อีก หรือเราเป็นคนลามกไปแล้ว ไม่ใช่ๆๆๆ อีตานั่นต่างหากลามก
คืนนั้นเธอจำได้บ้างไม่ได้บ้างว่าเขาพูดอะไร แต่ที่จำได้ก็ทำให้หน้าแดง พอนึกถึงทุกคราไป
ตอนนี้เปิดเทอมและสอบไปแล้ว พี่ชายของเธอเทียวมาเทียวไประหว่างไร่องุ่นกับกรุงเทพฯ เพื่อมารับบัวบูชาเพื่อนรัก หรืออีกสถานะหนึ่งคือพี่สะใภ้กลับไปที่ไร่ เมื่อก่อนเธอก็ตามไปด้วย หลังๆ ขี้เกียจเดินทาง ก็อยากให้พี่ชายได้อยู่กับคนรัก เลยขอนอนอยู่คอนโดคนเดียวที่กรุงเทพฯ
ช่วงนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองกินจุ น้ำหนักขึ้นและอ่อนเพลีย บัวบูชาอยากให้ไปตรวจสุขภาพบ้าง แต่เธอไม่ชอบโรงพยาบาลก็เลยไม่ยอมไป เพราะคิดว่าอาจเพราะเรียนหนักไปหน่อย
พอตื่นขึ้นมาก็หิวในทันที ถ้าอยู่กับบัวบูชา อีกฝ่ายจะลุกขึ้นมาทำอาหารให้รับประทาน หลังๆ เธอชอบนอนตื่นสาย แถมยังขี้เกียจด้วย เลยไม่ค่อยได้ช่วยเพื่อนทำงานบ้านสักเท่าไหร่ แต่บัวบูชาไม่เคยบ่น เพราะเห็นเธอเพลียๆ เหมือนไม่สบาย
กินอิ่มก็เบื่อๆ เลยนอนเล่นจนหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนได้ยินเสียงคนคุยกันในห้อง เธอหรี่ตามอง กะพริบตาปริบๆ ก็เห็นเพื่อนรักกับพี่ชายเดินไปเดินมาจัดข้าวของอยู่ในห้อง
“อ้าว... ตื่นแล้วเหรอพิมพ์ บัวเสียงดังทำให้ตื่นหรือเปล่า”
“เปล่าจ้ะ กลับมากันแล้วเหรอ”
“ใช่จ้ะ พิมพ์น่ะไม่ไปกับพวกเรา อยู่คนเดียวเหงาไหม”
บัวบูชาเข้าไปกอดรัดเพื่อนอย่างคิดถึง
“ไม่อยากเป็นก้างน่ะ”
เธอกอดตอบ ย่นจมูกให้พี่ชายคนเดียว
“นี่กินอะไรหรือยัง” พันกรถามน้องสาว
“กินแล้วค่ะ” พิมพ์นาราตอบพี่ชายเสียงหวาน
“กินมาม่าอีกแล้วใช่ไหม”
“แหะๆ ขี้เกียจทำ”
“หมู่นี้ขี้เกียจไปนะ พี่เห็นมาทีไรนอนทุกที”พันกรเอ่ยถาม สังเกตน้องสาวตามที่บัวบูชาบอก ตอนแรกเขาก็ไม่ได้สังเกต แต่ตอนนี้เริ่มสังเกตและเห็นว่าเป็นจริงตามที่ภรรยาบอก
“หิวหรือยัง บัวทำกับข้าวเยอะแยะเลย”
“ทำอะไรบ้าง ของโปรดใช่ไหม หอมตลบอบอวลไปหมด”
พิมพ์นาราทำจมูกฟุตฟิตอย่างน่ารัก
“พิมพ์” เสียงเข้มของพี่ชายทำให้พิมพ์นาราหันไปมองอย่างสงสัย
“เฮียเป็นอะไร ทำไมเสียงเครียดจัง” คนมีชนักปักหลังรู้สึกว่าใจคอไม่ค่อยดี
“เราอ้วนไปหรือเปล่า” พันกรกวาดสายตามองน้องสาวไม่วางตา ตลอดหลายเดือนที่เปิดเทอม เขาใส่ใจบัวบูชามากกว่าน้องสาว อาจเพราะเคยทำไม่ดีกับเธอเอาไว้ แต่พอบัวบูชาพูดให้ฟังว่าพิมพ์นาราดูเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจเป็นกังวลแต่ไม่ยอมพูดยอมบอก แถมยังดูเพลียๆ เหมือนคนไม่สบาย เขาก็เริ่มรู้สึกว่าละเลยน้องสาวคนเดียวไปมาก
“ใช่ค่ะ อ้วนขึ้น น้ำหนักขึ้นตั้งหลายกิโล ก็พี่สะใภ้ทำอาหารอร่อยนี่คะ” พิมพ์นาราตอบแล้วยิ้มแป้น
“ทำไมถึง...” พันกรชะงัก มองหน้าท้องของน้องสาวนิ่ง เมื่อกี้ตอนที่พิมพ์นาราบิดตัวไปมา แถมยังยืดแขนไปด้านหลังเหมือนปวดเมื่อย หน้าท้องของน้องสาวนูนขึ้นมา!!!
มันเหมือน!!!
“มันเป็นใคร!!!” ..ถึงเขาจะไม่เคยมีภรรยา แต่เคยเห็นคนท้องมาเยอะ อย่างคนงานในไร่ อ้วนก็คืออ้วน แต่นี่มันไม่ใช่แล้ว
พันกรหน้าซีดสลับแดง เขาตกใจและโกรธ
อกอวบๆ ของเธอนุ่มหยุ่น เขาฟอนเฟ้นมันอย่างย่ามใจ ก่อนจะป้อนเข้าปากดูดเม้มรวบรัดอย่างหิวกระหาย กันต์รู้สึกได้ถึงส่วนล่างที่คุกรุ่นแทบปะทุออกมา เขาอยากเล้าโลมอีกหน่อยแต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ มือหนาเลื่อนไปแยกเรียวขาของเธอออกห่าง ก่อนจะกดกายเข้าหา“อ๊า...” กันต์ครางเสียงดังพอๆ กับคนใต้ร่างที่หวีดร้องออกมา พร้อมกับจิกมือกับแขนแกร่งด้วยความเจ็บเสียวที่ผสมปนเปกันไปหมดความคับแน่นที่ได้รับและความฝืดเคืองที่เขาไม่สามารถดุนดันเข้าไปได้ทำให้กันต์นิ่วหน้า เขาไม่ได้รู้สึกผิดหรืออยากล่าถอย ไม่ใช่เพราะไม่เป็นสุภาพบุรุษ แต่ในอารมณ์เช่นนี้ เขาถอยไม่ได้จริงๆ“อื้อ... เจ็บ”เธอถอยสะโพกหนีในขณะที่กันต์ตามติด เขาดึงสะโพกของเธอมาหา กระชับเอาไว้อย่างมั่นคง พิมพ์นาราจิกมือกับไหล่กว้าง เธอหวีดร้องอีกครั้ง ผวาร่างกอดรัดร่างสูงเพรียวเอาไว้เต็มอ้อมแขน เมื่อเขากดกายลงมาจนหมดสิ้น ผ่านเยื่อพรหมจรรย์ที่เก็บรักษามาตลอดระยะเวลายี่สิบปีกันต์นิ่วหน้าเพราะถูกโอบรัดอย่างรุนแรง เขาแช่กายทิ้งเอาไว้แล้วค่อยๆ ปรับตัว ก่อนจะเริ่มขยับ เสียงครวญครางที่ดังอย่างต่อเนื่องมาพร้อมกับเสียงเนื้อกายที่กระแทกกระทั้นเข้าหากันอย่างแนบชิด
“เลิกกอดฉันได้แล้วค่ะ” เธอพยายามตะกายร่างลุกขึ้น แล้วใครๆ ก็วิ่งมาดูกันต์ล้อมหน้าล้อมหลัง พิมพ์นาราถูกผลักออกนอกวงล้อม“เป็นยังไงบ้างพิมพ์” บัวบูชารีบวิ่งมาถามเพื่อนรักอย่างเป็นห่วง“ไม่เป็นอะไรจ้ะ ไปเถอะ”“อ้าวคุณ อ้าว...” กันต์ได้แต่ยกมือค้างกลางอากาศ เหมือนเขาจะช่วยแต่เธอไม่ซาบซึ้งเลยสักนิด หลังจากวันนั้นก็ไม่ค่อยได้เห็นหน้าเธออีกเลย...เจอกันอีกครั้ง ได้แค่แอบมอง...กันต์ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากพันกร เจ้าของไร่องุ่นที่มีอัธยาศัยดี เขาแอบฝากเนื้อฝากตัวเป็นว่าที่น้องเขยอยู่ลึกๆ ในใจ ถึงจะยังจีบน้องสาวไม่ได้ก็เถอะ ชีวิตของเขามีผู้หญิงมากมายล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ผู้หญิงที่เห็นแล้วปิ๊ง เรียกว่าเธอรู้สึกน่ารักในสายตาเขานั้นไม่มี แม้แต่แฟนเก่าก็คบกันเพราะต้องเจอกันบ่อยๆ แต่เธอก็เลือกคนอื่น ซึ่งเขาก็ไม่ได้โทษใคร เพราะความรักมันเกิดจากคนสองคนผู้กำกับหนุ่มก็ขำๆ ตัวเองเหมือนกันที่ดันมาชอบยัยเด็กสาวอวบระยะสุดท้ายที่มองยังไงเขาก็คิดว่าน่ารัก น่าหยิกและน่าขย้ำ เขาชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น อาจเพราะรอยยิ้มสดใส ความขี้เล่นกวนๆ ที่เขามักเห็นเวลาเธออยู่กับเพื่อนรักอย่างบัวบูชา ทำให้เขานึกเอ็นดู ชีวิ
“ครับ”“นี่ค่าขนมนะครับ”“ครับ” กันต์มองตามร่างเล็กไปจนสุดตา เห็นอีกฝ่ายวิ่งเข้าไปใกล้ถึงที่หมาย เขาก็โดนเรียกไปอีกด้าน กันต์หันหลังให้ แต่ก็ยังอยู่ในรัศมีที่เด็กชายตัวน้อยจะบอกพิมพ์นาราให้ว่าเขาฝากดอกกุหลาบไปให้ เธอคงรู้นะว่าเขาจะเริ่มต้นจีบเธอ“นั่นดอกกุหลาบคุณกันต์ให้เอาไปไหนจ๊ะ” ดาราวดีเอ่ยถามเด็กชายตัวน้อย เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเธอโดยตลอด“เอาไปให้ผู้หญิงที่นั่งกินขนมอยู่ตรงโน้นครับ” เด็กน้อยตอบอย่างใสซื่อ“เอาอย่างนี้นะจ๊ะ พี่ให้เงินเพิ่มอีก หนูเอาดอกกุหลาบไปให้ผู้หญิงคนนั้นแล้วบอกว่า ผู้ชายคนโน้นให้เอามาให้” ดาราวดีชี้ไปที่ตากล้องร่างยักษ์ ตัวดำ หัวฟู ที่กำลังแบกหามขนของอยู่อีกด้านเพื่อช่วยทีมงาน“แต่พี่ชายคนโน้นบอกว่า...” เด็กน้อยมีท่าทีลังเล“พี่ให้เพิ่มอีกดีไหม”ดาราวดียัดเงินใส่มือเด็กน้อยเด็กชายจึงพยักหน้าเข้าใจ“สร้างความร้าวฉานคืองานของเรา ฮ่าๆๆๆ”ดาราวดีหัวเราะชอบใจ ก่อนจะปิดปากและขบขัน เธอไม่ชอบพิมพ์นาราเพราะอีกฝ่ายทำสีหน้าไม่ดีกับเธอ ยิ่งรู้ว่าเป็นเพื่อนกับบัวบูชา ยัยดาราดาวรุ่งที่ใครๆ ก็อยากดัน เธอยิ่งหมั่นไส้ กันต์ก็เถอะ อ่อยแทบแย่เขาก็ไม่สนใจ แต่ดันไปชอบยัย
“แรงๆ ได้ไหม ขอแรงๆ”กันต์ถามเสียงแหบพร่าพิมพ์นาราพยักหน้าเหมือนต้องมนต์สะกด เธอเสียวซ่านจนแทบขาดใจกันต์กดร่างเธอไปกับหัวเตียง เธอเลยอยู่ในท่านั่งพิงหัวเตียง แยกขาอ้ากว้าง ในขณะที่เขาตามมากระแทกเสียเต็มรัก พิมพ์นารามองภาพกลางกายที่สอดประสานกันอยู่ก็หน้าแดง กันต์ชอบทำให้เธอรู้สึกเสียวซ่านและขัดเขินในเวลาเดียวกันภาพที่แก่นกายของเขาดันเข้าออกไม่หยุดยั้งทำให้เธอร้องครางทุกครั้งที่เขาเชื่อมกายเข้าหา เขาขยับกายเข้าออกโดยเร่งจังหวะเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ พิมพ์นาราครวญครางไม่ได้ศัพท์ ก่อนที่เธอจะผวากอดเขาแน่น ตอดรัดเขาด้วยความสุขสม ในขณะที่กันต์บดกายเข้าหาเธอ ให้เธอดูดกลืนธารร้อนของเขาจนหมดสิ้นกันต์จูบหน้าผากเธอหนักๆ พิมพ์นาราทุบอกเขา เลยโดนอุ้มไปอาบน้ำทั้งท่านั้น กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็ปาเข้าไปอีกเป็นชั่วโมง ออกมาจากห้องน้ำนั่นแหละ ถึงได้รับประทานอาหารกันอย่างจริงๆ จังๆ เสียที“ป้อนไหมคะ” เธอยื่นหน้าไปถาม“จะเอาใจพี่เหรอ”“ชอบไหมล่ะคะ”“ชอบ มาสิ มานั่งเก้าอี้ตัวเดียวกัน”“พิมพ์ตัวหนักนะคะ”“นั่งตรงนี้ครับ” กันต์แยกขาออกตบเบาๆ ในส่วนของเก้าอี้ที่ยื่นออกไป ให้เธอมานั่งตรงนั้น พอเธอนั่งเขาก็โอบ
เขาดึงสายตากลับมามองสะโพกผายน่าขย้ำของเธอ แล้วกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากอย่างปัจจุบันทันด่วน ทั้งกลมกลึงและต้นขาอวบนั้นก็น่าลูบไล้ แน่ละอารมณ์ของเขาจินตนาการไปเรื่อย อยากมองลึกเข้าไปให้มากว่านั้น เพราะภายในซุกซ่อนสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้เขาครางแทบขาดใจเมื่อซุกไซ้เข้าไปหาและร่างกายเชื่อมประสานติดกันกันต์กลืนน้ำลายติดๆ กันอีกครั้ง เขารู้สึกว่ายิ่งกลืนน้ำลายลำคอก็ยิ่งแห้งผาก..เอาแล้วสิ ทำไมต้องมาเกิดมีอารมณ์อยากปล้ำเมียเอาตอนนี้ด้วยนะ แล้วทุกครั้งเขาก็รู้สึกตื่นเต้น รู้หรอกว่าเธอยินยอมพร้อมใจ แต่วันนี้เธอบอกว่าจะให้รางวัลเขา เขาก็เลยคาดหวังอยู่บ้างกับสิ่งที่เธอนำมาล่อลวงหัวใจให้เขาคิดตามเขาอยากดึงเธอมากอดเสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็อยากให้เธอลองเป็นคนรุกก่อนบ้าง มันคงจะตื่นเต้นดีหรอกนะ เขาไม่ได้ทะลึ่งหรือลามก เพราะเขาคิดกับเมียของเขาคนเดียวเท่านั้นเขาอยากจูบเธอตอนนี้และกอดรัดเอาไว้แนบอก พิมพ์นาราเป็นคนขี้เล่น เธอเหมือนเด็กที่อยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ ตอนนี้เขาอยากให้เธอซุกซนกับเขาเสียจริง“อุ๊ย!” เธออุทานเมื่อเขาสัมผัสร่างกาย เนื่องจากกำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ แล้วเขาก็อดใจไม่ไหวจนได้“กอดหน่อย คนตัวหอม
พิมพ์นารายืนรอสามีมารับอยู่หน้ามหาวิทยาลัย ส่วนบัวบูชานั้นมีงานถ่ายแบบต่อ เจ้มิ้นต์มารับออกไปตอนเลิกเรียน คนอยากเจอหน้าลูกแอบคิดถึงเจ้าตัวน้อยตอนอาจารย์สอบวิชาสุดท้าย กลับบ้านไปคงได้เล่นกันจนหลับไปเหมือนเคยรถของสามีมาจอดเทียบตรงหน้าที่เธอยืนอยู่ คนขับรถวิ่งลงมาเปิดประตูรถให้ พิมพ์นาราสอดตัวเข้าไปนั่งในรถ และแทบกรีดร้องอย่างดีใจที่เห็นสามีกับลูกสาวตัวน้อยอยู่ในรถด้วย“พี่กันต์ พายัยหนูมาด้วยเหรอคะ”“ใช่ อยากให้ใครบางคนเซอร์ไพรส์ สอบเสร็จแล้วใช่ไหม”“ใช่ค่ะ ทำข้อสอบได้ด้วยค่ะ สงสัยวิชานี้ได้เต็มค่ะ คิกๆ”“ขี้โม้...”กันต์บีบจมูกอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูพิมพ์นาราหอมแก้มย้วยๆ ของบุตรสาว อีกฝ่ายกระดี๊กระด๊าดีใจที่เห็นมารดา พิมพ์นารายิ้มกว้าง นั่งเล่นกับลูกอย่างสบายอารมณ์ กันต์เป็นผู้ชายน่ารัก เขารักลูกและรักเธอ ดูแลไม่เคยขาดตกบกพร่อง กลับมาจากข้างนอกเขาก็ต้องไปหาลูกก่อน เขาเล่นกับลูกจนหลับไปเหมือนๆ กับเธอ ชอบซื้อของเล่น เสื้อผ้า พาลูกไปเที่ยวและไม่เคยให้เธอต้องรับภาระอะไรคนเดียวเขาน่ารักเสมอ น่ารักเสมอต้นเสมอปลาย และยิ่งน่ารักขึ้นในทุกๆ วัน“แต่ถ้าสอบได้คะแนนเต็มจริงๆ จะให้รางวัลหนักๆ เลย”“ราง







