Masuk“อ๊า...” เธอสั่นสะท้านเมื่อเขาลากลิ้นลามเลียไปตามแกนสันหลัง ระเรื่อยลงไปยังสะโพกผาย เขาโอบมือมาด้านหน้ากอบกุมทรวงสาวเอาไว้เพื่อเคล้นคลึง
พิมพ์นารารับรู้ได้ว่าหัวใจเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมานอกอกเมื่อมือของเขาเลื้อยเข้าไปสัมผัสกับร่างกาย ผิวอ่อนนุ่มของเธอยังถูกลูบไล้อย่างต่อเนื่อง เธอได้ยินเสียงลมหายใจของเขาเป็นจังหวะและชัดเจนในความรู้สึก ลมหายใจของเขาดังขึ้นเรื่อยๆ และมันอยู่ข้างหู
“ขอนะ...” เขาส่งเสียงบอกเหมือนคนไม่พอกับรสรักที่ได้รับไป
“อือ...” เธอครางตอบพยักหน้ารับอย่างเบลอๆ เลือดในกายร้อนซู่เพราะแรงปรารถนาที่รุนแรงเป็นระลอกไม่จืดจาง ความทรมานที่บีบให้เธอต้องยอมจำนนกับทุกสิ่งที่เขาต้องการ
ผิวเนื้อของเธอกระตุ้นอารมณ์พิศวาสของเขาอย่างรุนแรง นิ้วแกร่งยังสัมผัสส่วนเร้นลับของเธออย่างต่อเนื่อง ร่องรักตรงกลางที่มีรอยแยกของกลีบดอกไม้ถูกซอนแซะจนเปียกฉ่ำ เขาเสียดสีแก่นกายกับสะโพกของเธอ
“อุ๊ย!” เธออุทานในขณะที่ยังหลับตารับสัมผัสของเขา ส่วนนั้นของเขาแข็งขืนและดูกร้าวแกร่ง
“ตอนนี้ได้ไหม” เขากระซิบข้างหู
“ค่ะ” เธอตอบเขาเสียงหอบๆ เมื่อเขาจ้วงนิ้วเข้าหาเป็นจังหวะจะโคน ใบหน้าของเธอแดงซ่านเมื่อตอบเขาไปแบบนั้น แต่อารมณ์พิศวาสก็รุนแรงเหลือเกิน
รอยแยกเล็กๆ ที่ถูกชำแรกอีกครั้งก่อเกิดเสียงครางสะท้านไปทั่วเตียงกว้าง กันต์ขยับแก่นกายสอดแทรกเข้าไปหาเธอจากทางเบื้องหลังในท่านอนตะแคง เธอครางอื้ออึง จิกมือกับผ้าปูที่นอนที่ยับย่นและอกอวบถูกสัมผัสฟอนเฟ้นไม่รู้เบื่อ
“แรงๆ ได้ไหม ขอแรงๆ ได้ไหม ไม่ไหวแล้ว” กันต์ครางเสียงหนัก ลมหายใจของเขาฟืดฟาดอยู่ข้างหู
“อื้อ...” พิมพ์นาราร้องครวญครางฟังไม่ได้ศัพท์เมื่อเขาเริ่มขยับ และขาเรียวของเธอถูกแยกออกจากกัน เพื่อให้เขาสอดแทรกกายเข้าไปประสานได้อย่างลงตัว
เขาขยับสะโพกรุนแรงขึ้น เสียงหอบ เสียงเนื้อกาย เสียงครวญครางและเสียงคำรามฟังดูอื้ออึงไปทั่วเตียงกว้าง
กันต์พลิกกายขึ้นทาบทับในขณะที่ยกขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นพาดบ่า พิมพ์นารายังนอนตะแคงตัว ทำให้กลางกายของเขาและเธอสอดประสานกันอย่างแนบแน่นเป็นที่สุด
เสียงครางของเธอที่ดังอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นอารมณ์ของเขาให้คุโชนทุกห้วงความรู้สึก เขากดลึกจนสุดเส้นทางสายสวาท คนใต้ร่างสะดุ้งสุดตัว
กันต์ผวากอดร่างที่โอบกอดเขาเอาไว้ ใบหน้าของเขาใกล้กับเธอในระยะกระชั้นชิด ลมหายใจเป่ารดกันถนัดถนี่ เขาบดจูบริมฝีปากเต็มอิ่ม เธอส่ายหน้าไปมาร้องครางเหมือนจะขาดใจ กันต์กระแทกสะโพกสอบหนักหน่วง เขากดกายเข้าหาอย่างไม่ปรานี
แก่นกายวิ่งเข้าวิ่งออกในซอกกายสาวถี่ยิบเป็นจังหวะที่นับไม่ถูก เสียงเนื้อกายกระทบกันกึกก้องไปทั่วห้องกว้าง เสียงหอบของเธอหนักขึ้นเหมือนคนกำลังทรมานแทบจะขาดใจ
เธอหวีดร้องและเกร็งกระตุกค้าง ผวากอดเขาส่ายหน้าไปมาอย่างสุดเสียว กันต์ถึงกับเกร็งเมื่อโดนบีบรัดตลอดลำกาย ใบหน้าของเขากระตุกจนต้องกัดกรามเข้าหากัน
สะโพกสอบยังทำงานอย่างต่อเนื่อง ความเสียวซ่านที่ได้รับไม่ทันจางหาย ระลอกใหม่ก็เข้ามาอีกครั้ง พิมพ์นาราหวีดร้องสุดเสียงเมื่อเขากระแทกเธอจนจมเตียง ทุกอย่างพร่างพรายไปด้วยความสุขที่อัดแน่นเข้ามาอย่างรุนแรงเหมือนคลื่นยักษ์
ร่างอวบผวาตื่นเหงื่อโชก เธอรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือกำลัง
..เธอฝันอีกแล้วเหรอนี่ จำได้รางๆ ว่าคืนนั้นมันหลายรอบมากและเธอก็กอดรัดเขาแนบแน่น ทำตามแต่ที่อารมณ์พาไป เธอได้ยินเสียงพี่ชายกับพี่สะใภ้ ซึ่งก็คือเพื่อนรักคุยกันอยู่ในห้อง จึงกะพริบตาปริบๆ ปรับสายตาให้เข้ากับแสงสว่าง
“ตื่นแล้วเหรอพิมพ์ เป็นยังไงบ้าง ดูล้าๆ” บัวบูชาเอ่ยถามเพื่อนรัก สภาพของพิมพ์นาราคืออ่อนล้า เพลียๆ ดูเหมือนคนไม่ค่อยมีแรง แถมตอนนี้น้ำหนักก็เพิ่มขึ้นอีกจึงดูอวบกว่าปกติ
“มึนหัวนิดหน่อย สงสัยนอนไม่หลับจ้ะ”
“คิดมากเหรอพิมพ์ ไม่ต้องคิดมากนะ เฮียจัดการทุกอย่างแล้ว”บัวบูชารีบบีบมือเพื่อนรักอย่างให้กำลังใจ
“ไม่ให้คิดมากได้ยังไง โดนฟันแล้วทิ้ง”พันกรเท้าสะเอวตวาดเสียงดัง สองสาวถึงกับสะดุ้ง บัวบูชาค้อนสามี แต่รู้นิสัยเขาดี เป็นเธอคงโกรธเหมือนกันถ้ามีใครมาทำกับน้องสาวตัวเองแบบนี้
“ช่างเถอะเฮีย” พิมพ์นาราโบกมือไปมา ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน เธอหาวหวอดๆ หมู่นี้หาวบ่อยเหลือเกิน
“ช่างได้ยังไง ดูทำท่าทางเข้า เหมือนพวกแม่หมูป่วย ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวให้สวยๆ ต้องไปให้เค้าดูตัว”
“ห้ะ! ดูตัว” พิมพ์นาราดีดตัวลุกขึ้นอีกครั้งอย่างตกใจ
“ดูเฮียพูดเข้า” บัวบูชาค้อนสามี
“ใครดูตัวใคร”
“พ่อแม่พี่กันต์น่ะจ้ะ เค้าอยากเจอพิมพ์ เราจะไปที่บ้านพี่กันต์วันนี้”
“ปะ...ไปทำไม”
“เค้าอยากเจอลูกสะใภ้ เค้ายินดีให้ลูกชายเขารับผิดชอบ” พันกรกอดอกมองน้องสาวขณะอธิบาย
“แล้วเขายอมเหรอ” เขาในที่นี้พิมพ์นาราหมายถึงกันต์ วันก่อนเธอเพิ่งพูดใส่หน้าเขาไปว่าไม่ต้องมายุ่งหรือรับผิดชอบอะไร วันนี้พี่ชายไปเรียกร้องแบบนี้ เขาคงไม่ชอบใจเอามากๆ
“ยอมไม่ยอมมันก็ต้องยอม ถ้ามันไม่อยากเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ”
อกอวบๆ ของเธอนุ่มหยุ่น เขาฟอนเฟ้นมันอย่างย่ามใจ ก่อนจะป้อนเข้าปากดูดเม้มรวบรัดอย่างหิวกระหาย กันต์รู้สึกได้ถึงส่วนล่างที่คุกรุ่นแทบปะทุออกมา เขาอยากเล้าโลมอีกหน่อยแต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ มือหนาเลื่อนไปแยกเรียวขาของเธอออกห่าง ก่อนจะกดกายเข้าหา“อ๊า...” กันต์ครางเสียงดังพอๆ กับคนใต้ร่างที่หวีดร้องออกมา พร้อมกับจิกมือกับแขนแกร่งด้วยความเจ็บเสียวที่ผสมปนเปกันไปหมดความคับแน่นที่ได้รับและความฝืดเคืองที่เขาไม่สามารถดุนดันเข้าไปได้ทำให้กันต์นิ่วหน้า เขาไม่ได้รู้สึกผิดหรืออยากล่าถอย ไม่ใช่เพราะไม่เป็นสุภาพบุรุษ แต่ในอารมณ์เช่นนี้ เขาถอยไม่ได้จริงๆ“อื้อ... เจ็บ”เธอถอยสะโพกหนีในขณะที่กันต์ตามติด เขาดึงสะโพกของเธอมาหา กระชับเอาไว้อย่างมั่นคง พิมพ์นาราจิกมือกับไหล่กว้าง เธอหวีดร้องอีกครั้ง ผวาร่างกอดรัดร่างสูงเพรียวเอาไว้เต็มอ้อมแขน เมื่อเขากดกายลงมาจนหมดสิ้น ผ่านเยื่อพรหมจรรย์ที่เก็บรักษามาตลอดระยะเวลายี่สิบปีกันต์นิ่วหน้าเพราะถูกโอบรัดอย่างรุนแรง เขาแช่กายทิ้งเอาไว้แล้วค่อยๆ ปรับตัว ก่อนจะเริ่มขยับ เสียงครวญครางที่ดังอย่างต่อเนื่องมาพร้อมกับเสียงเนื้อกายที่กระแทกกระทั้นเข้าหากันอย่างแนบชิด
“เลิกกอดฉันได้แล้วค่ะ” เธอพยายามตะกายร่างลุกขึ้น แล้วใครๆ ก็วิ่งมาดูกันต์ล้อมหน้าล้อมหลัง พิมพ์นาราถูกผลักออกนอกวงล้อม“เป็นยังไงบ้างพิมพ์” บัวบูชารีบวิ่งมาถามเพื่อนรักอย่างเป็นห่วง“ไม่เป็นอะไรจ้ะ ไปเถอะ”“อ้าวคุณ อ้าว...” กันต์ได้แต่ยกมือค้างกลางอากาศ เหมือนเขาจะช่วยแต่เธอไม่ซาบซึ้งเลยสักนิด หลังจากวันนั้นก็ไม่ค่อยได้เห็นหน้าเธออีกเลย...เจอกันอีกครั้ง ได้แค่แอบมอง...กันต์ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากพันกร เจ้าของไร่องุ่นที่มีอัธยาศัยดี เขาแอบฝากเนื้อฝากตัวเป็นว่าที่น้องเขยอยู่ลึกๆ ในใจ ถึงจะยังจีบน้องสาวไม่ได้ก็เถอะ ชีวิตของเขามีผู้หญิงมากมายล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ผู้หญิงที่เห็นแล้วปิ๊ง เรียกว่าเธอรู้สึกน่ารักในสายตาเขานั้นไม่มี แม้แต่แฟนเก่าก็คบกันเพราะต้องเจอกันบ่อยๆ แต่เธอก็เลือกคนอื่น ซึ่งเขาก็ไม่ได้โทษใคร เพราะความรักมันเกิดจากคนสองคนผู้กำกับหนุ่มก็ขำๆ ตัวเองเหมือนกันที่ดันมาชอบยัยเด็กสาวอวบระยะสุดท้ายที่มองยังไงเขาก็คิดว่าน่ารัก น่าหยิกและน่าขย้ำ เขาชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น อาจเพราะรอยยิ้มสดใส ความขี้เล่นกวนๆ ที่เขามักเห็นเวลาเธออยู่กับเพื่อนรักอย่างบัวบูชา ทำให้เขานึกเอ็นดู ชีวิ
“ครับ”“นี่ค่าขนมนะครับ”“ครับ” กันต์มองตามร่างเล็กไปจนสุดตา เห็นอีกฝ่ายวิ่งเข้าไปใกล้ถึงที่หมาย เขาก็โดนเรียกไปอีกด้าน กันต์หันหลังให้ แต่ก็ยังอยู่ในรัศมีที่เด็กชายตัวน้อยจะบอกพิมพ์นาราให้ว่าเขาฝากดอกกุหลาบไปให้ เธอคงรู้นะว่าเขาจะเริ่มต้นจีบเธอ“นั่นดอกกุหลาบคุณกันต์ให้เอาไปไหนจ๊ะ” ดาราวดีเอ่ยถามเด็กชายตัวน้อย เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเธอโดยตลอด“เอาไปให้ผู้หญิงที่นั่งกินขนมอยู่ตรงโน้นครับ” เด็กน้อยตอบอย่างใสซื่อ“เอาอย่างนี้นะจ๊ะ พี่ให้เงินเพิ่มอีก หนูเอาดอกกุหลาบไปให้ผู้หญิงคนนั้นแล้วบอกว่า ผู้ชายคนโน้นให้เอามาให้” ดาราวดีชี้ไปที่ตากล้องร่างยักษ์ ตัวดำ หัวฟู ที่กำลังแบกหามขนของอยู่อีกด้านเพื่อช่วยทีมงาน“แต่พี่ชายคนโน้นบอกว่า...” เด็กน้อยมีท่าทีลังเล“พี่ให้เพิ่มอีกดีไหม”ดาราวดียัดเงินใส่มือเด็กน้อยเด็กชายจึงพยักหน้าเข้าใจ“สร้างความร้าวฉานคืองานของเรา ฮ่าๆๆๆ”ดาราวดีหัวเราะชอบใจ ก่อนจะปิดปากและขบขัน เธอไม่ชอบพิมพ์นาราเพราะอีกฝ่ายทำสีหน้าไม่ดีกับเธอ ยิ่งรู้ว่าเป็นเพื่อนกับบัวบูชา ยัยดาราดาวรุ่งที่ใครๆ ก็อยากดัน เธอยิ่งหมั่นไส้ กันต์ก็เถอะ อ่อยแทบแย่เขาก็ไม่สนใจ แต่ดันไปชอบยัย
“แรงๆ ได้ไหม ขอแรงๆ”กันต์ถามเสียงแหบพร่าพิมพ์นาราพยักหน้าเหมือนต้องมนต์สะกด เธอเสียวซ่านจนแทบขาดใจกันต์กดร่างเธอไปกับหัวเตียง เธอเลยอยู่ในท่านั่งพิงหัวเตียง แยกขาอ้ากว้าง ในขณะที่เขาตามมากระแทกเสียเต็มรัก พิมพ์นารามองภาพกลางกายที่สอดประสานกันอยู่ก็หน้าแดง กันต์ชอบทำให้เธอรู้สึกเสียวซ่านและขัดเขินในเวลาเดียวกันภาพที่แก่นกายของเขาดันเข้าออกไม่หยุดยั้งทำให้เธอร้องครางทุกครั้งที่เขาเชื่อมกายเข้าหา เขาขยับกายเข้าออกโดยเร่งจังหวะเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ พิมพ์นาราครวญครางไม่ได้ศัพท์ ก่อนที่เธอจะผวากอดเขาแน่น ตอดรัดเขาด้วยความสุขสม ในขณะที่กันต์บดกายเข้าหาเธอ ให้เธอดูดกลืนธารร้อนของเขาจนหมดสิ้นกันต์จูบหน้าผากเธอหนักๆ พิมพ์นาราทุบอกเขา เลยโดนอุ้มไปอาบน้ำทั้งท่านั้น กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็ปาเข้าไปอีกเป็นชั่วโมง ออกมาจากห้องน้ำนั่นแหละ ถึงได้รับประทานอาหารกันอย่างจริงๆ จังๆ เสียที“ป้อนไหมคะ” เธอยื่นหน้าไปถาม“จะเอาใจพี่เหรอ”“ชอบไหมล่ะคะ”“ชอบ มาสิ มานั่งเก้าอี้ตัวเดียวกัน”“พิมพ์ตัวหนักนะคะ”“นั่งตรงนี้ครับ” กันต์แยกขาออกตบเบาๆ ในส่วนของเก้าอี้ที่ยื่นออกไป ให้เธอมานั่งตรงนั้น พอเธอนั่งเขาก็โอบ
เขาดึงสายตากลับมามองสะโพกผายน่าขย้ำของเธอ แล้วกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากอย่างปัจจุบันทันด่วน ทั้งกลมกลึงและต้นขาอวบนั้นก็น่าลูบไล้ แน่ละอารมณ์ของเขาจินตนาการไปเรื่อย อยากมองลึกเข้าไปให้มากว่านั้น เพราะภายในซุกซ่อนสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้เขาครางแทบขาดใจเมื่อซุกไซ้เข้าไปหาและร่างกายเชื่อมประสานติดกันกันต์กลืนน้ำลายติดๆ กันอีกครั้ง เขารู้สึกว่ายิ่งกลืนน้ำลายลำคอก็ยิ่งแห้งผาก..เอาแล้วสิ ทำไมต้องมาเกิดมีอารมณ์อยากปล้ำเมียเอาตอนนี้ด้วยนะ แล้วทุกครั้งเขาก็รู้สึกตื่นเต้น รู้หรอกว่าเธอยินยอมพร้อมใจ แต่วันนี้เธอบอกว่าจะให้รางวัลเขา เขาก็เลยคาดหวังอยู่บ้างกับสิ่งที่เธอนำมาล่อลวงหัวใจให้เขาคิดตามเขาอยากดึงเธอมากอดเสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็อยากให้เธอลองเป็นคนรุกก่อนบ้าง มันคงจะตื่นเต้นดีหรอกนะ เขาไม่ได้ทะลึ่งหรือลามก เพราะเขาคิดกับเมียของเขาคนเดียวเท่านั้นเขาอยากจูบเธอตอนนี้และกอดรัดเอาไว้แนบอก พิมพ์นาราเป็นคนขี้เล่น เธอเหมือนเด็กที่อยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ ตอนนี้เขาอยากให้เธอซุกซนกับเขาเสียจริง“อุ๊ย!” เธออุทานเมื่อเขาสัมผัสร่างกาย เนื่องจากกำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ แล้วเขาก็อดใจไม่ไหวจนได้“กอดหน่อย คนตัวหอม
พิมพ์นารายืนรอสามีมารับอยู่หน้ามหาวิทยาลัย ส่วนบัวบูชานั้นมีงานถ่ายแบบต่อ เจ้มิ้นต์มารับออกไปตอนเลิกเรียน คนอยากเจอหน้าลูกแอบคิดถึงเจ้าตัวน้อยตอนอาจารย์สอบวิชาสุดท้าย กลับบ้านไปคงได้เล่นกันจนหลับไปเหมือนเคยรถของสามีมาจอดเทียบตรงหน้าที่เธอยืนอยู่ คนขับรถวิ่งลงมาเปิดประตูรถให้ พิมพ์นาราสอดตัวเข้าไปนั่งในรถ และแทบกรีดร้องอย่างดีใจที่เห็นสามีกับลูกสาวตัวน้อยอยู่ในรถด้วย“พี่กันต์ พายัยหนูมาด้วยเหรอคะ”“ใช่ อยากให้ใครบางคนเซอร์ไพรส์ สอบเสร็จแล้วใช่ไหม”“ใช่ค่ะ ทำข้อสอบได้ด้วยค่ะ สงสัยวิชานี้ได้เต็มค่ะ คิกๆ”“ขี้โม้...”กันต์บีบจมูกอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูพิมพ์นาราหอมแก้มย้วยๆ ของบุตรสาว อีกฝ่ายกระดี๊กระด๊าดีใจที่เห็นมารดา พิมพ์นารายิ้มกว้าง นั่งเล่นกับลูกอย่างสบายอารมณ์ กันต์เป็นผู้ชายน่ารัก เขารักลูกและรักเธอ ดูแลไม่เคยขาดตกบกพร่อง กลับมาจากข้างนอกเขาก็ต้องไปหาลูกก่อน เขาเล่นกับลูกจนหลับไปเหมือนๆ กับเธอ ชอบซื้อของเล่น เสื้อผ้า พาลูกไปเที่ยวและไม่เคยให้เธอต้องรับภาระอะไรคนเดียวเขาน่ารักเสมอ น่ารักเสมอต้นเสมอปลาย และยิ่งน่ารักขึ้นในทุกๆ วัน“แต่ถ้าสอบได้คะแนนเต็มจริงๆ จะให้รางวัลหนักๆ เลย”“ราง







