“จะเรียนวิศวะจริงๆหรือลูก ไม่เรียนบริหารเหมือนน้องเนยกับเฮียเนมเหรอครับ” นวพรรษถามลูกชายคนกลางฝาแฝดคนพี่ที่เลือกเรียนต่างจากพี่น้อง
ตอนนี้ลูกแฝดทั้งสองกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยตามวรานนท์คนพี่ไปแล้ว ถึงแม้จะเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังเดียวกัน แต่ลูกชายคนกลางอย่างน้องโน้ต วรงกรณ์ โชติกุลวัฒนา ก็เลือกที่จะเรียนคณะวิศวะกรรมศาสตร์ต่างจากคนอื่นแทนที่จะเรียนคณะบริหารอย่างน้องเนย วราภรณ์ น้องสาวฝาแฝดและเฮียเนม วรานนท์ หรือแม้แต่แด็ดดี้ เวทานนท์ก็ยังเรียนบริหาร
“ไม่อ่ะครับมามี้ น้องโน้ตอยากเรียนวิศวะจบมาก็ช่วยงานที่บ้านได้เหมือนกัน บริษัทคุณปู่จะได้ไม่ต้องไปจ้างวิศวกรที่ไหนอีกให้เปลืองตังส์ ให้โน้ตเรียนเถอะนะครับมามี้ นะครับน้าาาาาา”
วรงกรณ์ พูดไปอ้อนมารดาไปพร้อมยกเหตุผลที่เลือกเรียนวิศวะให้มารดาฟังไปด้วย ถึงแม้ลูกๆทั้งสามคนจะโตกันหมดแล้วแต่เวลาอยู่กับสมาชิกในครอบครัวก็จะยังทำตัวอ้อนเป็นเด็กๆที่ยังไม่โตกันสักคน
“ก็ได้ๆ ตามใจลูกเลยครับพ่อรูปหล่อ แต่ต้องตั้งใจเรียนนะลูกห้ามไปเกเรหักอกสาวๆนะ มามี้ยังไม่อยากมีหลาน ห้ามไปมีเรื่องชกต่อยกับใครด้วย”
นวพรรษบอกลูกชายเพราะถึงแม้ตอนนี้วรงกรณ์จะอายุแค่สิบแปดปี แต่เจ้าตัวหน้าตาหล่อไม่แพ้พี่ชายกับแด็ดดี๊ออกแนวลูกเสี้ยวสไตล์ลูกครึ่งเหมือนกัน รูปร่างหุ่นของลูกชายก็สูงเกือบเท่าพี่ชายแล้วไหนจะมีมัดกล้ามแน่นกล้ามท้องเป็นลอนๆเพราะพากันออกกำลังกายกับพี่ชายและแด็ดดี๊ที่ยิมที่มีไว้ในบ้านกันสามคน ไม่ได้หุ่นสูงโปร่งไม่มีกล้ามเนื้อเหมือนเขา กลัวแต่ว่าเข้าปีหนึ่งแล้วลูกชายจะมีสาวๆมาติดตรึมทำให้ไม่สนใจการเรียนนี่แหละ เพราะถ้าเรียนคณะบริหารก็จะมีแฝดน้องกับเฮียเนมคอยดูแลคอยสะกิดอยู่ตลอดเวลา
“ขอบคุณครับมามี้คนสวย น่ารักที่สุดเลย ฟอดดด” เสียงหอมแก้มผู้เป็นแม่ดังฟอดใหญ่ ทำเอาเวทานนท์หันไปมองลูกชายทันที
“ปล่อยแก้มเมียแด็ดดี้เดี๋ยวนี้เลยเจ้าโน้ต ห้ามหอมนานแก้มเมียแด็ดดี้ช้ำหมด” แด็ดดี้คนหวงเมียห้ามลูกชายอย่างคาดโทษ
“แค่นี้ทำหวง นี่ก็มามี้โน้ตนะ อ๋อ รู้แล้วอิจฉามามี้ใช่ไหม ได้งั้นเดี๋ยวโน้ตหอมแด็ดดี้ด้วยก็ได้มา ฟอดดดดด พอใจหรือยังสุดหล่อ เอาอีกไหม ฟอดดดดด” คนเป็นลูกเข้าไปปล้ำหอมแก้มพ่อ ทำเอานวพรรษหัวเราะขำกับความขี้เล่นของวรงกรณ์
“โน้ต เห็นเค้าบอกว่าวิศวะจะมีเกียร์ให้ ตัวห้ามเอาให้ใครง่ายๆนะ” วราภรณ์บอกพี่ชายฝาแฝด
“ทำไมอ่ะ”
“ก็เค้าบอกว่าถ้าให้เกียร์เท่ากับให้ใจไง ฉะนั้นตัวต้องเก็บเกียร์ไว้ดีๆถ้าแน่ใจว่ารักใครแล้วค่อยให้ หรือตัวฝากเค้าไว้ก็ได้นะถ้าได้มาแล้ว ตัวค่อยมาเอาตอนมีความรักจริงๆเค้าจะได้ช่วยดูให้ว่าผ่านไหมถ้าไม่ผ่านเค้าก็จะไม่ให้เกียร์ตัว”
วราภรณ์เสนอทางออกให้พี่แฝดเพราะดูแล้วฝาแฝดรูปหล่อของตัวเองต้องมีคนมาจีบเยอะแน่ เพราะตอนอยู่มัธยมเธอกับพู่กันก็พากันเป็นไม้กันหมาให้คอยสแกนให้ไม่ให้ผู้หญิงเข้าใกล้ได้ง่ายแต่พอเรียนมหาลัยดันอยู่กันคนละคณะเลยไม่รู้จะสแกนยังไง จะว่าไปเธอก็หวงฝาแฝดของตัวเองอยู่ยังไม่อยากให้มีแฟน ส่วนเฮียเนมถ้าจะมีแฟนต้องเป็นพู่กันเพื่อนรักเท่านั้น
“ได้ไงเนย นั่นมันเกียร์ของเรา ถ้าตัวอยากได้ตัวต้องหาแฟนเป็นวิศวะเดี๋ยวเราแนะนำเพื่อนให้”
“พอๆเลยทั้งคู่ ยังเด็กอยู่ห้ามมีแฟน ห้ามพูดเรื่องแฟน แด็ดดี้หวง อยู่กับแด็ดดี้กับมามี้ไปนานๆแบบนี้แหละลูกรัก อยู่ให้แด็ดดี้มองความน่ารักสดใสของลูกนานๆ อยู่ให้แด็ดดี้เลี้ยงจนแก่ยังได้เลย” เวทานนท์เลยต้องรีบเบรคลูกทั้งสอง ขนาดยังไม่ได้ไปเรียนยังคุยกันเรื่องแฟนแล้ว ไม่เห็นใจหัวอกคนเป็นพ่อเลย ลูกเขาหน้าตาสวยหล่อน้อยซะที่ไหน ถึงขนาดมีแมวมองมาทาบทามไปเป็นดาราแต่คนหวงลูกอย่างเขาไม่อนุญาตเท่านั้นเอง
“เวอร์มากพี่เวย์ ลูกๆก็ต้องโตเป็นผู้ใหญ่ไหม โตไปก็ต้องมีครอบครัวเป็นของตัวเอง ปล่อยให้ลูกไปมีไปใช้ชีวิตแบบที่ลูกต้องการ เราก็จะแก่ลงทุกวันจะได้อยู่กับลูกจนลูกแก่หรือเปล่าเถอะ แต่ตอนเรียนมามี้ขอได้ไหมลูกอย่าเพิ่งรีบชิงสุกก่อนห่ามอย่าทำผู้หญิงท้องเพราะผู้หญิงเขาจะลำบากพอท้องก็ต้องหยุดเรียนเสียเวลา เสียอนาคต และเสียหายเสียชื่อเสียงด้วย”
นวพรรษปรามสามีคนหวงลูกพร้อมทั้งถือโอกาสสอนทั้งลูกชายและลูกสาวไปในตัว ซึ่งทั้งฝาแฝดทั้งคู่ก็รับฟังอย่างดี
“โน้ต เค้ามีทางออกให้ตัว มามี้ไม่อยากให้ไปทำผู้หญิงท้อง งั้นตัวก็มีแฟนเป็นผู้ชายแทนโอเครไหม” วราภรณ์คนซนแนะนำพี่ชายตามประสาสายวาย
“ยัยน้อง มามี้จะหักเงินค่าขนมแล้วนะ แนะนำแต่ละอย่างดีๆทั้งนั้น ผู้ชายก็ไม่ได้นะน้องโน้ตถ้าเป็นผู้ชายพิเศษแบบมามี้ก็ท้องอยู่ดี ถ้าจะมีจริงก็ต้องรู้จักป้องกันนะครับ” นวพรรษไม่ไหวกับความคิดของคนซนอย่างลูกสาว
“โธ่มามี้น้องเนยล้อเล่น หยอกๆ หรอกน่ะ ได้ยินไหมโน้ตมามี้บอกให้ตัวมีได้แต่ต้องใส่ถุง ยืดอกพกถุงนะพี่ชายสุดหล่อ” วราภรณ์อ้อนมารดาทันทีเพราะกลัวโดนหักค่าขนมแต่ยังไม่วายให้คำแนะนำกับวรงกรณ์ต่อ
“ยัยน้อง ทะลึ่งนะเรา กลุ้มใจสงสัยมามี้จะมีลูกเขยก่อนลูกสะใภ้แน่นอนเลย”
“โน้ต ได้ยินไหมมามี้อยากได้ลูกเขยงั้นตัวเอาผัวเลย”
“ยัยน้องงง” นวพรรษร้องเสียงหลงกับลูกสาว ไม่รู้ลูกคนหรือลูกลิง
“บ้าน่ะเนย เราโพผัว ต้องมีเมียเท่านั้น”
แด็ดดี้กับมามี้แทบอยากจะเอาเท้าก่ายหน้าผากกับความคิดซุกซนของลูก
“เฮ้ยยยยย”วรงกรณ์ที่อาบน้ำเสร็จกำลังจะหันมาเช็ดตัวก็พบเจ้าของห้องยืนทำหน้ายักษ์ไม่พอใจอยู่“ไอ้บ้า ไอ้ลามกจะหันมาทำไม ทำไมไม่รู้จักแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน”“เมาจนเพี้ยนรึไง ใครเค้าอาบน้ำแล้วไม่ถอดเสื้อผ้ากัน อยากจะดูก็บอกดีๆ จะเอาให้ดู ไม่เห็นต้องมาแอบดู พอโดนจับได้แล้วทำเป็นโมโหโวยวายกลบเกลื่อน”กิตติภพถึงกับโมโหที่โดนว่าเพี้ยนแล้วก็ขี้ตู่หาว่าแอบมองอีก จึงถลาเข้าไปทุบคนที่ยืนเปลือยอยู่ในห้องน้ำ แต่ด้วยฤทธิ์น้ำเมาเลยทำให้อาการที่ยังเวียนหัวทรงตัวไม่อยู่จนเกือบล้ม แขนแข็งแรงของวรงกรณ์คว้าไปช้อนเอาคนที่เสียหลักจะล้มให้ทรงตัวขึ้นยืน ก่อนที่จะหัวเราะในลำคอ“อยากอาบน้ำก็ไม่บอก มาเดี๋ยวอาบให้ก็ได้” แขนแกร่งดึงเอาอีกคนมาไปในโซนอาบน้ำก่อนที่จะเปิดเรนชาวเวอร์แล้วกดเอาครีมอาบน้ำมาถูไปทั่วตัวคนเมา“นี่ ปล่อย ไม่อาบปล่อยยยย อย่าถู อ๊าาา อย่าลูบ อึมมมมม ปล่อยยยย กู อึมมม ”จากที่ตั้งหน้าตั้งตาถูครีมอาบน้ำไปทั่วตัวขาวของกิตติิภพ พอได้ยินเสียงครางของคนโดนถู ไหนจะกางเกงในสีขาวที่เปียกน้ำตอนนี้บางมากจนเห็นเจ้าหนูน้อยที่ตอนแรกนอนสงบนิ่งอยูในนั้นเริ่มผงกหัวขึ้น ทำเอาตัวตนที่ตื่นง่ายๆของ วรงกรณ์ลุกฮือ
“นี่บอมวันนี้บอมต้องไปกินเลี้ยงสายตระกูลกับวันเกิดของพี่เคที่ไหม” พนัชกรถามเพื่อนหลังจากที่เพิ่งเรียนคาบสุดท้ายของวันเสร็จ “ใช่ พู่กันก็ต้องไปเหมือนกันไม่ใช่เหรอ เพราะพี่ดาวก็ไปเลี้ยงตระกูลรวมกับพี่เคที่เหมือนกัน” “ใช่ไง งั้นพู่กันไม่เอารถไปดีกว่าจะได้ดื่มให้เต็มที่ขากลับขอคุณปู่นอนคอนโดบอมนะ ให้พู่กันนอนด้วยนะ” “ได้เลยไม่มีปัญหา คุณปู่อาทิตย์จะยอมหรือเปล่า ไหนจะเป็นข่าวซุบซิบในเพจอีก เดี๋ยวมีคนเข้าใจผิดบอมไม่รู้ด้วยนะบอกไว้ก่อน” “ปู่น่ะยอมอยู่แล้วไม่่มีปัญหา นี่ใคร พู่กันหลานรัก ส่วนเรื่องคนเข้าใจผิดน่ะพู่กันตั้งใจให้เข้าใจผิดเองแหละ เป็นข่าวกับบอมดีจะตายไม่เสียหาย” “พู่กันเดี๋ยวเมา พอแล้วกินเยอะแล้วนะ” กิตติภพท้วงเพื่อนเพราะอีกฝ่ายเริ่มเมาแล้วพู่กันคงเครียดช่วงนี้เพราะบอกว่าจะอยู่ห่างๆจากพี่เนมทำตัวกินเหล้ายังกับคนอกหัก ส่วนเขาก็เริ่มเวียนหัวแล้วเหมือนกันคิดว่าอีกไม่นานน่าจะเมาแล้วเหมือนกัน แล้วเมากันสองคนใครจะดูแลใคร “ก็มันอร่อยนี่ บอมบอมชิมดูซิมอร่อยนะ” แก้วไวน์ถูกยื่นมาให้กิตติภพ แต่เขาส่ายหน้าปฏิเสธไม่รับไว้พลางผลักออกจากหน้าตัวเอง ถึงมันจะอร่อยแต่ฤทธ
หลังจากจบการออกค่ายอาสากิตติภพก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ ตอนเช้าตั้งใจเรียน ไปไหนมาไหนก็ไปกับพู่กันเพื่อนสนิท เมื่อก่อนเคยคิดไปเองว่าเขานั้นรักพู่กันเพื่อนสนิทแต่พออีกฝ่ายบอกรักพี่เนมคนเดียวตัวเองก็ไม่รู้สึกเจ็บกลับอยากให้เพื่อนสมหวังในความรัก แต่ในใจเขากลับมีอีกคนที่เคยมากวนอารมณ์ให้นึกถึงตลอดเวลาว่าง หลังจากที่กลับมาจากค่ายอาสาก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย ตอนหลังเลิกเรียนเขาก็ขับรถกลับคอนโดที่อยู่ใกล้ๆมหาวิทยาลัยบางวันก็อ่านหนังสือ บางวันเบื่อก็เล่นเกมส์ และก็มี เชน ศิริโรจน์ หนุ่มเภสัชที่เข้ามาหาที่คณะบ่อยๆ บางทีก็ทักมาทางไลน์แต่ก็ไม่ทุกวัน กับเชนเขาก็ไม่ได้คิดถึงไม่ได้ตื่นเต้นเวลาอยู่ใกล้เหมือนใครบางคน แล้วจะยังไงแล้ววะเราหรือเราจะชอบผู้ชายจริงๆกิตติภพคิดในใจ “นี่บอมคิดอะไรอยู่เห็นนั่งเม่อนานแล้ว” พนัชกรถามเพื่อนสนิทที่เห็นนั่งเอามือเท้าคางท่านี้นานแล้ว ขนาดถามก็นิ่งไปใช่จะได้คำตอบ “บอมบอม ได้ยินเราไหม” ไม่ใช่แค่เรียกอย่างเดียว พนัชกรยังจับแขนข้างที่กิตติภพเอาเท้าคางไว้ดึงออกจนอีกคนที่โดนแกล้งเสียหลักเกือบคางกระแทกกับโต๊ะ “พู่กัน อ่ะ แกล้งเราทำไม ขี้แกล้งนะเดี๋ยวนี้ ดีนะที่หน้าห
“อุ้ยต๊าย ตาย หน่วยแพทย์กลับมาแล้ว น้องบอมลูกชายเจ๊หิวหรือยังเนี่ยแดดก็ร้อน น่าสงสารจังเลยดูซิผิวขาวๆ แดงหมดเลย” เสียงของเจ๊แนนนี่หัวหน้าแม่ครัวดังขึ้นด้วยความดีใจที่เพื่อนๆ หน่วยแพทย์ที่ไปออกหน่วยในหมู่บ้านเดินทางกลับมา จะได้ทานข้าวพร้อมกันเสียที พอได้ยินชื่อของคนที่เขายังไม่ได้เห็นหน้าตั้งแต่เช้าวรงกรณ์ก็เงยหน้าขึ้นมองพอดี ก็เห็นเดือนเภสัชยื่นแก้วน้ำเย็นให้คนที่โดนแดดจนหน้าแดง ทำให้เขานึกหงุดหงิดเล็กน้อยอีกคนก็เหลือเกินอ่อยมากยิ้มหวานให้เจ้าของแก้วน้ำจนหวานหยด สรุปว่ามาออกค่อยนี่ตกผู้ชายไปกี่คนแล้วก็ไม่รู้พอมาถึงกลุ่มของกิตติภพนำโดยพี่เคที่ก็พากันไปตักเอาข้าวมาราดกับแกงและผัดผักทานเป็นกับข้าวง่ายที่กิตติภพไม่เคยได้กินแต่ก็คิดว่ามันอร่อยมาก การมาออกค่ายครั้งนี้เขารู้สึกดีมากที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือคนอื่นที่มีโอกาสน้อยกว่าตนเอง พอทานข้าวเสร็จพักให้หายเหนื่อย แดดไม่จัดแล้วพวกผู้ชายก็พากันเริ่มก่อสร้างกันอีกวันนี้การทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็วแม้ตอนแรกจะขลุกขลักเพราะต่างคนต่างไม่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน แต่พอทำไปสักพักเริ่มรู้ใจกันเข้าขากันแล้วงานก็เริ่มเร็วขึ้นในที่สุดวันแรกก็สร้างห้องน้ำช
กิจกรรมอย่างหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้ของเด็กมหาลัยคือการออกค่ายอาสา ครั้งนี้ก็เช่นกันสโมสรนักศึกษาเขาจัดไปออกค่ายอาสาที่แถวจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งเขาขอความร่วมมือให้ดาวเดือนมหาวิทยาลัยและรองดาวเดือนไปทำกิจกรรมด้วยเพื่อโปรโมทสถาบันไปด้วย วรงกรณ์ก็ยินดีที่จะไปร่วมกิจกรรมด้วยและที่หนีไม่พ้นก็เป็นเชอร์รี่ที่ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้แต่ก็ยังขอที่จะติดตามมาด้วย ส่วนรองทั้งดาวและเดือนอย่างกิ่งก้อยและกิตติภพก็ให้ความร่วมมือเช่นกันก่อนที่จะมากิตติภพได้โทรคุยกับที่บ้านแล้วเพราะเห็นว่าอยู่เขตภาคเหนือใกล้บ้านตัวเอง ซึ่งพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงก็ดีใจมากจึงวางแพลนไว้ว่าจะไปเยี่ยมลูกชายที่มาออกค่ายอาสา แต่โดนลูกชายเบรคเสียก่อนในวันที่จะต้องเดินทางทุกคนเอาสัมภาระของตัวเองมาไว้ที่รถส่วนของต่างๆ ที่นำไปออกค่ายครั้งนี้ทางคณะเลือกที่จะสร้างห้องน้ำและโรงอาหารให้กับโรงเรียนบนดอย โดยหัวหน้าคณะนักศึกษาได้ติดต่อซื้อวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างในเขตพื้นที่ไว้และให้เขาเอาไปส่งไว้ที่โรงเรียนแล้วเลยไม่จำเป็นตัองขนอะไรมาก นอกจากของใช้ส่วนตัวและของที่รับบริจาคเพิ่มเช่น เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม หนังสือเมื่อทำการเช็คชื่อกับรุ่นพี่แล้วกิต
หลังวันประกวดผ่านพ้นไป ทั้งดาวเดือนของทุกคณะที่ขึ้นประกวดก็เป็นที่รู้จักและจับตามองมากขึ้นไม่ว่าจะขยับไปทำกิจกรรมไหนๆ อย่างของวรงกรณ์ก็มีแต่สาวๆ และหนุ่มร่างบางสายรับทั้งหลายเข้าหาเข้ามาอยากสานสัมพันธ์มากมาย แต่คนที่เป็นข่าวด้วยบ่อยสุดคงหนีไม่พ้นดาวคณะคู่กันอย่างเชอร์รี่เพราะถือว่าเรียนด้วยกันและได้ใกล้ชิดหนุ่มหล่อมากกว่าใครๆ รวมถึงข่าวที่เกิดขึ้นส่วนมากเชอร์รี่เป็นคนส่งข่าวเองทั้งนั้นเพื่อที่จะสกัดดาวรุ่งคู่แข่งทั้งหลาย ซึ่งวรงกรณ์ก็รู้ดีแต่ไม่ได้ว่าอะไรเพื่อนถือว่าเอาไว้เป็นไม้กันหมาก็ยังดี เพราะเค้าก็ยังไม่ได้คิดจะรักใครคบใครสักคนทางด้านกิตติภพก็มีข่าวทั้งกับสาวๆโดยเฉพาะกิ่งก้อยดาวคณะคู่กัน แต่ทุกคนหารู้ไม่ก่ิงก้อยนั่นไม่ได้ชอบผู้หญิงถึงแม้เธอจะหน้าหวานเหมือนนางในวรรณคดี แต่ใจจริงเธอกลับชอบผู้หญิงด้วยกันและตอนนี้กำลังตามจีบดาวมหาลัยอยู่ และคนที่กิตติภพเป็นข่าวด้วยบ่อยที่สุดคือเพื่อนสนิทของเขาอย่างพนัชกรทำเอาแม่ยกสายวายลงเรือลำนี้กันค่อนข้างมากกว่าเป็นข่าวกับกิ่งก้อยทั้งได้แรงเชียร์จากเพจคิ้วท์บอยลงข่าวเกือบทุกวัน คนที่ตามข่าวบ่อยๆก็เป็นใครไม่ได้นอกจากเนย วราภรณ์ เจ้าแม่สายวาย แต่ค