ผลิบาน
เวย์เอาแต่พูดว่าคำว่า ‘เมีย’ กับฉัน จนฉันไม่รู้ว่าเจตนาที่เรียกแบบนั้นคือต้องการแหย่ หรือแค่พูดให้รู้สึกรุ่มร้อนฉันยังมองเขาไม่ออกว่าเขาคิดจะจริงจังกับฉันรึเปล่าถ้าฉันเป็นเด็กมหาลัยก็คงนอนกับเวย์แบบไม่ต้องคิดมาก
แต่ฉันมันคนอายุใกล้เลขสาม ฉันค่อนข้างคิดหนักกับการคบใครสักคนแล้วนะสิ ฉันแค่ไม่อยากรักพังจนต้องไปตามหารักแท้ใหม่ในตอนที่แก่ตัวไปมากกว่านี้
ฉันยังไม่ยอมลุกไปนั่งตักเขาในฝั่งคนขับ
“อย่ามาเรียกเมียมั่วซั่วถ้าไม่คิดจะจริงจัง” ฉันเบือนหน้าหนีออกไปนอกตัวรถ
“ว้าย!!!” แต่ก็ต้องร้องตกใจเพราะแขนแกร่งโอบรั้งเอวฉันยกตัวฉันไปนั่งคร่อมบนหน้าตักของเขาและหันหน้าฉันเข้าหา ขาฉันกางคร่อมตักเขามันทำให้ชุดเดรสที่ใส่ถกขึ้นจนกองเหนือสะโพก เผยให้เห็นชั้นในตัวบางทั้งตัว พื้นที่ก็แคบจนขาฉันชนกับผนังรถยังจะให้ฉันไปนั่งบนตักอีก
“มองผมดิ”
“...” ฉันไม่พูดอะไร แต่ก็ถูกมือแกร่งของเวย์จับคางให้หันไปมองเขาอยู่ดีดวงตาเราประสานกัน ฉันมองไม่ออกหรอกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ยอมรับว่าฉันแพ้ให้กับสายตาน้องเขาอย่างจังแค่มองก็รู้สึกใจสั่นแทบบ้า จนต้องหลุบตาลง
“คราวหน้าอย่าใส่ชุดแบบนี้อีก”
“แต่ชุดแบบนี้พี่ซื้อไว้เยอะไม่ให้ใส่ได้ไง เสียดายเงิน” ฉันพูดไปแบบนั้น
“ถ้าอยากจะใส่ก็เรียกผมไปด้วย”
“ทำไมต้องเรียกด้วยล่ะ”
“ผมหวงไง”
“หวง?? ในสถานะอะไร”
“สถานะที่พี่อยากให้ผมเป็น”
“...” ถึงตอนนี้ฉันเงยหน้ามองเขากะพริบตามองเขาถี่ ๆ เขาพูดจริงเหรอว่าอยากเป็นสถานะที่ฉันอยากให้เป็น
“ถ้าพี่อยากเป็นแฟนเวย์ เวย์จะยอมคบพี่เหรอ” ฉันพูดไปด้วยความคาดหวังจนอดยกสองมือคล้องคอคนตรงหน้าไม่ได้
“แค่แฟนจะพอเหรอ??? มากกว่านั้นผมก็เป็นให้ได้”
‘อึ่ก’ ฉันกลืนน้ำลายไปหลายอึ่กจากที่ใจเต้นแรงอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งเต้นจนเหมือนจะหลุดออกจากอก ถ้ามากกว่าแฟนงั้นมันก็สถานะนั้นสถานะเดียวสิ
“พะ...พูดจริงรึเปล่า”
“จะโกหกทำไม อยากจะยัดเยียดความเป็นผัวให้จะตายห่า” สิ้นคำเป็นฉันที่โน้มริมฝีปากประจบจูบกับคนตรงหน้าให้หยุดพูด ขืนปล่อยให้พูดอีกมีหวังฉันสำลักความสุขตายด้วยคำพูดของเวย์แล้วล่ะ คนอะไรพูดไม่มีอ้อมค้อมเอาซะเลย พานให้คนฟังขนลุกซู่ เดี๋ยวผัวเดี๋ยวเมีย อะไรก็ไม่รู้แต่ถามว่าชอบมั้ย ก็ต้องยอมรับว่าชอบค่ะ
ฉันจูบเขาอย่างเอาแต่ใน และรู้สึกได้ว่า ตอนนี้เวย์กำลังเผยอปากให้ฉันได้งับ กัด ดูด เลียให้ง่ายขึ้น ตอนนี้อารมณ์ฉันพุ่งมากยิ่งพื้นที่คับแคบร่างกายทุกส่วนยิ่งแนบชิด ยิ่งขยับตัวไม่ได้นั่นก็หมายถึงทุกสนมันก็ดันชิดจนกระตุ้นอารมณ์
เขาปล่อยฉันดื่มด่ำกับเรียวปากหนาของเขา แต่มือเขาก็ไม่ได้นิ่งเฉย เอื้อมมาดึงเกาะอกฉันลดลงไปกองไปใต้ราวนม เผยให้เห็นสองเต้าอวบสองก้อนเปลือยตรงหน้า ฝ่ามือหน้าประกบบีบเคล้นอย่างรุ่มร้อน แถมนิ้วมือยังคลึง บดบี้เน้นตรงยอดถันจนมันแข็งเป็นไต ความรู้สึกเห่อร้อนพลุ่งพล่านไปทั้งตัวจนต้องผละจูบแอ่นอกสู้มือแกร่งอย่างช่วยไม่ได้
“แฮ่ก...แฮ่ก” ฉันหอบหายใจแรงมองคนตรงหน้าด้วยใบหน้าหยาดเยิ้มด้วยอารมณ์เสียวซ่าน สีหน้าเขาพึงพอใจยกยิ้มมุมปากก่อนจะก้มหน้าลงบนสองเต้าเต่ง ปลายลิ้นสากของเวย์ตลัดโลมเลียยอดถันสีอ่อนอย่างหยอกล้อสลับไปมาทั้งสองข้าง ทำเอาฉันร้องครางไม่หยุดจนโยกสะโพกไปมา
แต่เพราะพื้นที่คับแคบและฉันอยู่บนหน้าขาของเขา ฉันรับรู้ได้ว่าช่วงล่างของฉันที่มีเพียงชั้นในบางบังอยู่สัมผัสได้ถึงแก่นกายที่ค่อย ๆ แข็งขืนดันกางเกงเขาขึ้นจนมันแตะเข้ากับกึ่งกลางกายของฉัน
ยิ่งเขา ดูด ขบ เลีย ไปทั่วเนินนมและยอดถันฉันมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งขยับเอวมากเท่านั้นจนรู้สึกได้ว่าความเฉอะแฉะของกึ่งกลางกลายมันชัดมากขึ้นจนมันซึมผ่านชั้นในบางเห็นได้ชัด
เป็นฉันเองที่ดูเหมือนจะร้อนรุ่มไปทั้งตัวจนไม่อาจอดกลั้นกามราคะที่เกิดขึ้นได้
ในขณะที่คนตรงหน้าประโคมโลมเลียพร้อมมือบีบเคล้นอันแสนหนักหน่วงให้เต้าคู่สวยของฉัน มือของฉันก็ละไปยังกลีบฉ่ำของตัวเองอย่างไม่อาย มือเรียวของฉันแหวกชั้นในบางก่อนจะขยับเลื่อนนิ้วตัวเองไปตามร่องฉ่ำของตัวเองอย่างเสียวซ่าน
ฉันเห็นนะ ว่าเวย์ละริมฝีปากออกจากยอดถันของฉัน ก่อนจะหลุบตามองไปยังกึ่งกลางกายฉันเพื่อมองการกระทำของฉันที่กำลังช่วยตัวเองอยู่ เขาปรับเบาะเอนหลังไปจนสุด ก่อนจะละมือเปลี่ยนไปประสานหลังท้ายทอยของตนเอง ยิ่งเขามองฉันยิ่งเคลื่อนนิ้วเข้าออกเร็วขึ้น ‘ให้ตายเถอะเสียวเป็นบ้า’
เมื่อฉันรู้สึกกำลังจะถึงจุดสุดยอดฉันก็ทั้งเร่งนิ้วมือของตัวเองเร็วขึ้น แรงขึ้นเน้นย้ำไปที่จุดกระสัน ไม่นานนักฉันก็กระตุกแรงกัดปากตัวเองแน่นก่อนจะเกร็งจนแยกจะโพกขึ้น ซู้ดปากเสียงดัง
แต่ไม่ทันที่ฉันจะหย่อนสะโพกลงบนตักเขาเหมือนเดิม สองมือเขากลับจับเอวฉันอย่างรวดเร็วก่อนจะดึงรั้งเข้ากับใบหน้าของเขาที่นอนรออยู่แล้ว เพียงปลายลิ้นของเขาสัมผัส ลากผ่านร่องสวาทที่เพิ่งถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดไป และเต็มไปด้วยน้ำรักชุ่มฉ่ำ เขาก็ตวัดลิ้นโลมเลีย ดูดจนเสียงดังฟังแล้วทำเอากระตุ้นความอยากมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
“วะ..เวย์พี่เสียว..”
“อื้อ...” เขาไม่ตอบได้ยินแต่เสียงครางในลำคอพร้อมกับเสียเฉอะแฉะดังสนั่นทำเอาฉันต้องยกแขนของตัวเองกัดไว้เพื่อกลั้นเสียงอารมณ์ราคะที่เกิดขึ้น
“พอแล้ว ๆ...จะขาดใจตายอยู่แล้ว”
เขาหยุดใช้ลิ้นกับกึ่งกลางกายฉันทำให้ฉันทรุดลงบนอกเขาหอบหายใจถี่แทบขาดใจตาย มือเขาควานหาฟอยล์ ก่อนจะจับแก้มก้นรั้งให้ไปอยู่บนหน้าท้องแกร่งของเขา
ไม่ทันที่ฉันจะหายเหนื่อย ฉันก็ถูกยกสะโพกขึ้นก่อนจะถูกแก่นกายของเขาต่อเข้ากับร่องสวาทฉันไปแล้ว
คราวนี้มันไม่ได้เจ็บเหมือนคราวแรก อาจเพราะถูกเล้าโลมจนน้ำรักเอ่อล้น และพร้อมสำหรับรับของใหญ่มันจึงค่อย ๆ คืบคลานช้า ๆ แม้จะอึดอัดไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ทรมานอย่างเคย
ฉันที่นอนราบไปตามแผงอก ถูกคนที่อยู่ใต้ร่างเอ่ยกระซิบข้างหูด้วยเสียงกระเส่า
“ช่วยขยับให้หน่อยได้มั้ย” ฉันดันร่างขึ้นมองนัยน์ตาเวย์ที่หยาดเยิ้มไปด้วยอารมณ์ราคะ ก่อนที่ฉันจะยืดตัวขึ้นค่อย ๆ ขยับสะโพกร่อนไปมาช้า ๆ
“อื้อ...” เสียงครางในลำคอของเขาดังจนทำให้ฉันพานอารมณ์พุ่งไปด้วย และเริ่มร่อนเอวหนักขึ้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยกสะโพกขึ้นลงกระแทกหนักอัดกึ่งกลางกายของตนลงจนมิดโคนของเวย์
“พั่บ...พั่บ..พั่บ” ฉันเร่งเครื่องไปสักพัก แต่เพราะพื้นที่คับแคบมากขาที่ฉันหยัดไปกับเบาะก็ทำให้รู้สึกชาขึ้นมาจนมันเริ่มรับน้ำหนักตัวเองไม่ไหว ทำให้สองมือแกร่งของเขาต้องสอดเข้ามาใต้ขาก่อนจะค้ำฉันให้ร่องสวาทลอยเหนือกึ่งกลางกายเขา และก็เป็นฝ่ายเด้งสะโพกอัดตอกขึ้นมาเอง
ตอนนี้คือจุก และรู้สึกมันเข้าลึกกว่าที่เคยจนท้องน้อยสั่นสะเทือนไปทั่วหน้าท้อง
“เวย์ มันลึกไปพี่...อ่าห์”
“ผมจะเสร็จแล้วทนอีกหน่อย..อื้อ..อึก...อ่าห์” เขาโถมแรงกระแทกจนสุดแรงก่อนจะเราสองจะเสร็จไปพร้อม ๆ กัน น้ำรักของฉันพรั่งพรูออกมาจนเลอะหน้าท้องแกร่งของเวย์จนเปรอะไปหมด ฉันทิ้งตัวลงนอนราบบนร่างเขาที่นอนอยู่ใต้ร่างก่อนจะหอบหายใจรดใส่ต้นคอเขาอย่างเหนื่อยล้า
“เวย์ พี่ลุกไม่ขึ้นเหน็บกินตีน อั่ก” ฉันเจ็บจนจิกไหล่เวย์แน่น
“อย่าเพิ่งขยับ” เขาที่อยู่ใต้ร่างฉันพยายามไม่ขยับตัวพลางจุมพิตที่หน้าผากฉันแล้วลูบหัวฉันเบา ๆ เพื่อปลอบประโลม
ฉันที่รู้สึกว่าเท้าเริ่มหายเหน็บช้าก็ขยับเปลี่ยนท่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถออกไปนั่งเบาะข้าง ๆ ได้เพราะคนใต้ร่างยังใช้แขนแกร่งกอดรั้งฉันอยู่
ใบหน้าฉันแนบไปกับหน้าอกแกร่งที่ร้อนผ่าวไม่ต่างจากตัวฉันก่อนที่ฉันจะพยายามเงยหน้าไปมองคนใต้ร่างที่ฉันทับอยู่
“พี่ขอลุกก่อนเดี๋ยวกลัวใครมาเห็น”
“รถผมติดฟิล์มพิเศษคนนอกไม่เห็นหรอก ผมเห็นคนเดียวอยู่แล้ว” เขาไม่พูดเปล่ากลับคลายมือแกร่งมาจับใบหน้าฉันก่อนจะหอมฟอดใหญ่ ไปทั่วหน้า
“ยังไงก็ต้องลุก พี่เมื่อแล้ว เจ็บเข่าไปหมด” ฉันค่อย ๆ หยัดตัวขึ้นดึงเกาะอกเดรสที่กองอยู่ใต้ราวนมขึ้นมา และดึงประโปรงลงจากนั้นก็ขยับไปนั่งฝั่งข้างคนขับทันที เวย์เองก็ปรับเบาะขึ้นดึงกางเกงที่ถกไปกองที่ข้อเท้าสวมใส่ตามเดิม แต่ตรงหน้าท้องที่เปรอะเปื้อนน้ำรักของฉันนะสิทำเอาเสื้อเชิ้ตของเวย์เปียกเป็นคราบไปหมด
“ขอโทษพี่ทำเสื้อเวย์เลอะไปหมด”
“ไม่เป็นไร ไม่ถือ...”
“เอาแจ็คเก็ตยีนส์ คลุมหน่อยมั้ยพี่ไม่คลุมแล้ว”
“ไม่เป็นไร คนที่ควรใส่มันคือพี่”
“แต่...”
“ไม่เถียงได้มั้ย ดูเนินนมตัวเองก่อน” สิ้นคำฉันก้มลงมองเนินนมตัวเอง ‘เชี่ย...รอยแดงเป็นจ้ำ ๆ พวกนี้มันอะไรกันเนี่ย’ ฉันเบิกตาโตมองคนตรงหน้าแต่ดูเหมือนเวย์จะไม่รู้สึกผิดอะไรแถมยังยิ้มกรุ่นราวกับพอใจในผลงานของตัวเอง เด็กมันร้ายค่ะหัวหน้า
“ขึ้นห้องเถอะ”
“พี่ต้องนอนนี่เหรอ???”
“ทำไมนอนห้องผมแล้วมีปัญหาอะไร”
“ก็รู้แต่มัน...”
“เป็นเมียผมแล้ว ห้องผมก็เหมือนห้องพี่แหละ” ตอนแรกที่ฟังคำว่าเมียจากปากเวย์พานทำให้รู้สึกจั๊กจี้แปลก ๆ รู้สึกขนลุกไม่หาย แต่พอได้เผยความในใจกัน คำนี้มันทำให้ฉันรู้สึกดีแปลก ๆ ฉันว่าฉันหลงรักเด็กคนนี้มากไปกว่าเดิมแล้วจริง ๆ คิดถูกที่เริ่มเป็นฝ่ายจีบเขาก่อน
[OI END]
ผลิบานเวย์เอาแต่พูดว่าคำว่า ‘เมีย’ กับฉัน จนฉันไม่รู้ว่าเจตนาที่เรียกแบบนั้นคือต้องการแหย่ หรือแค่พูดให้รู้สึกรุ่มร้อนฉันยังมองเขาไม่ออกว่าเขาคิดจะจริงจังกับฉันรึเปล่าถ้าฉันเป็นเด็กมหาลัยก็คงนอนกับเวย์แบบไม่ต้องคิดมากแต่ฉันมันคนอายุใกล้เลขสาม ฉันค่อนข้างคิดหนักกับการคบใครสักคนแล้วนะสิ ฉันแค่ไม่อยากรักพังจนต้องไปตามหารักแท้ใหม่ในตอนที่แก่ตัวไปมากกว่านี้ฉันยังไม่ยอมลุกไปนั่งตักเขาในฝั่งคนขับ“อย่ามาเรียกเมียมั่วซั่วถ้าไม่คิดจะจริงจัง” ฉันเบือนหน้าหนีออกไปนอกตัวรถ“ว้าย!!!” แต่ก็ต้องร้องตกใจเพราะแขนแกร่งโอบรั้งเอวฉันยกตัวฉันไปนั่งคร่อมบนหน้าตักของเขาและหันหน้าฉันเข้าหา ขาฉันกางคร่อมตักเขามันทำให้ชุดเดรสที่ใส่ถกขึ้นจนกองเหนือสะโพก เผยให้เห็นชั้นในตัวบางทั้งตัว พื้นที่ก็แคบจนขาฉันชนกับผนังรถยังจะให้ฉันไปนั่งบนตักอีก“มองผมดิ”“...” ฉันไม่พูดอะไร แต่ก็ถูกมือแกร่งของเวย์จับคางให้หันไปมองเขาอยู่ดีดวงตาเราประสานกัน ฉันมองไม่ออกหรอกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ยอมรับว่าฉันแพ้ให้กับสายตาน้องเขาอย่างจังแค่มองก็รู้สึกใจสั่นแทบบ้า จนต้องหลุบตาลง“คราวหน้าอย่าใส่ชุดแบบนี้อีก”“แต่ชุดแบบนี้พี่ซื้อไว
ตกลงฉันเป็น....“พี่ชื่ออะไรครับ” เสียงของเพื่อนเวย์เอ่ยทักขึ้น“ออยจ๊ะ...” ฉันหันไปยิ้มให้เพื่อนของเวย์ ไหน ๆ ก็มีสถานะเป็นพี่แล้วก็อ่อยมันไปให้หมดนี่แหละ“พี่อยากดื่มหน่อยมั้ยครับ”“ขอสักแก้วก็ดีค่ะ พอดีเซ็ง ๆ ขอเข้ม ๆ เลยนะคะ”“ได้ครับผม” เสียงเพื่อนของเวย์นุ่มละมุนพานเอาลื่นหูกว่าคนข้าง ๆ เป็นไหน ๆ เมื่อแก้วเหล้าวางอยู่ตรงหน้า คนข้าง ๆ ดันเอื้อมไปหยิบให้ก่อนจะยื่นมาให้ฉัน“มีมือหยิบเองได้ย่ะ”“อยากก้มไปหยิบให้คนดูนมรึไง ใส่ชุดอะไรไม่รู้จักคิด” คนข้าง ๆ ไม่พูดเปล่าพลางถอดแจ็คเก็ตยีนส์ มาคลุมฉัน ฉันทำท่าจะถอนแต่ก็โดนมือแกร่งหยิกแผ่นหลังที่เปลือยอยู่จนสะดุ้ง“ถ้าถอดเสื้อคลุมออกโดนแน่” นี่คือเสียงกระซิบของคนข้าง ๆ ที่พานทำเอาขนลุกจนต้องเชื่อฟังเพื่อน ๆ ของเวย์เอาแต่จ้องมองฉันแถมซักไซ้ไม่หยุด ฉันก็ได้แต่ยิ้มและตอบเท่าที่จะตอบได้ เพื่อนผู้ชายของเขาดูเป็นมิตรอยู่นะ แต่ผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ เวย์อีกทีกลับมีท่าทีจ้องฉันแบบเขม่นไม่พักจนน่ารำคาญ จะมาหึงหวงอะไรมากมายมิทราบ แถมยังเอาแต่เกาะแขนอีกข้างของเวย์ไม่หยุด เจ้าตัวก็ยังปล่อยให้เขาเกาะแบบนั้นอีก พานทำให้ฉันหงุดหงิดจนอยากจะเดินออกจากตรงน
เอาคืน(ภายในคลับ)ฉันกับแพรวตอนนี้อยู่ภายในห้อง VIP ชั้นสองของคลับ ซึ่งพี่เจเดนเปิดห้องไว้ ต้องแรกพวกเราก็พยายามปฏิเสธบอกว่าจองโต๊ะด้านล่างใกล้ฟลอร์ก็ได้มันแพงไป แต่เจ้าตัวไม่ยอมคงเพราะหวงยัยแพรวนั่นแหละวันนี้พี่เจเดนไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังมีพี่มาติน แล้วก็พี่เอ็ดเวิร์ดอาของยัยแพรวแถมเขายังควงภรรยามาด้วย ชื่อพี่ฟ้าคราม ก็เพิ่งเคยเจอกันวันแรกนี่แหละฉันทักทายกับทุกคน ตอนแรกก็เกร็งหน่อย ๆ แต่พอได้รู้จักก็รับรู้ได้ว่าใบหน้าที่เคร่งขรึมเหล่านั้นก็แค่ฉากหน้าจริง ๆ พวกเขาเฮฮาเอาเรื่องแถมยังชงเหล้าแจกไม่หยุดยัยแพรวเอาแต่ดึงฉันไปถ่ายรูป พร้อมกับถ่ายบรรยากาศในห้อง VIP โพสต์ไม่หยุดหย่อน แต่พอฉันมองมือถือกลับไม่เห็นโนติอะไรเด้งขึ้นมาเลย พานเอาห่อเหี่ยวจิตใจสุด ๆ‘ดูท่าคงต่อกันไม่ติดอีกแล้วแหง ๆ เลิกชอบกันง่ายจัง นี่ฉันอกหักรักคุดกับเด็กมาสองครั้งแล้วเหรอเนี่ย ไม่ว่าจะโลกออนไลน์ หรือ ออฟไลน์’ ฉันยกดื่มด้วยความโมโหก่อนที่คนในห้อง จะจับสังเกตได้“น้องออย ไม่สนุกเหรอครับเครียดอะไรอยู่รึเปล่า ให้พี่ปลอบมั้ย” เสียงของพี่มาตินเอ่ยถามตามสไตล์ผู้ชายเจ้าชู้ ฉันยกมือโบกปฏิเสธยกใหญ่ ก่อนที่ยัยแพรวจะแขวะ
แผนการล่อเสือ(โรงพยาบาล)ฉันยอมให้เวย์ขับรถ(ของฉัน)มาส่งที่โรงพยาบาลเพราะเจ้าตัวดื้อดึงจะมาส่งให้ได้ และเขาบอกจะกลับแท็กซี่เอง ถามว่าฉันเถียงได้ที่ไหนสกิลปากฉันแพ้อย่างราบคาบเห็นแบบนี้เขาเอาแต่ใจอยู่เหมือนกันแฮะฉันมีเวลาไม่มากนักเพราะจะถึงเวลาเข้างานจึงดูรีบเร่งลนลานพอดู แต่เมื่อลงจากรถในลานจอดของโรงพยาบาล ดันมีหมอและบุคลากรหลายคนเห็นฉันกับเวย์ พวกเขาพุ่งเป้าหันมาถามกันอย่างจ้าละหวั่น ทำเอาฉันทำตัวไม่ถูก คนยืนข้างกันก็นิ่งขรึมไม่ได้พูดอะไร“อ่อ นี่เป็นน้องที่รู้จักนะไม่มีอะไร” ฉันที่เลิ่กลั่กไม่รู้จะตอบยังไงเพราะคิดไม่ทันจึงตอบออกไปแบบนั้นเพื่อไม่ให้เกิดข่าวแตกตื่น เพราะการที่ฉันโสดนั้นรู้กันไปทั่วโรงพยาบาล แน่นอนว่าถ้าข่าวฉันมีใครสักคนแพร่กระจายย่อมสร้างความวุ่นวายในโรงพยาบาลแน่นอน ฉันคิดแค่นั้นจริง ๆ แต่ดูเหมือนคนข้าง ๆ จะหันหน้ามาเลิกคิ้วใส่กันราวกับไม่พอใจ จากนั้นก็ทำตัวเออออให้กันสักครู่ก่อนจะเดินหนี ออกไปถนนใหญ่ขึ้นแท็กซี่กลับไปเลย ทำเอาฉันพูดไม่ออกแม้ฉันจะทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ถูกพูดถึงปากต่อปากในโรงพยาบาลได้สำเร็จ แต่หัวใจฉันกลับกระวนกระวายอย่างหนัก ฉันทั้งโทร ทั้งส่ง
คืนร้อนอ่อยรักน้องเวย์ยังคงใช้เรียวลิ้นทั้งเลีย เม้ม ดูดไปตามร่องกลีบหวานแถมยังสอดประสานนิ้วมือแกร่งที่สลับกันทำหน้าที่จนฉันต้องแอ่นสะโพกเป็นจังหวะที่น้องเวย์ประเคนให้‘อยากจะบ้าเสียวซ่านจนลืมหายใจ’“พะ...พอก่อน ไม่ไหวแล้ว” ฉันพูดไปแบบนั้นแทนที่น้องเขาจะหยุดให้กันกลับเร่งนิ้วและตวัดลิ้นเร็วขึ้น และนั่นก็ทำให้ฉันได้สัมผัสคำว่าเสร็จเป็นครั้งแรกในชีวิตจากการโดนคนอื่นกระทำ (ไม่นับการช่วยตัวเอง)‘แฮ่ก...แฮ่ก’ ฉันทิ้งสะโพกลงหลังจากตัวเกร็งกระตุกจนต้องยกขึ้น แต่แม้ว่าฉันจะเสร็จไปแล้วนิ้วมือของน้องเวย์ยังง่วนชักเข้าออกตรงนั้นไม่หยุด ส่วนใบหน้าได้ผละออกมาแล้ว เลื่อนตัวขึ้นมาประกบริมฝีปากกับฉัน กลิ่นคาวน้ำรักของฉันคละคลุ้งไปในรสจูบ นี่สินะที่น้องเวย์สัมผัสไปเมื่อกี้ แม้จะไม่คุ้นชินแต่ก็กระตุ้นอารมณ์ได้ดี“พี่เสร็จแล้ว แต่ผมยังไม่ได้เริ่มเลยนะ”“...” สายตาน้องเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ปกติแล้วหน้าต้องเข้ม ดูหยิ่งตลอดเวลา แต่ตอนนี้นัยน์ตาของน้องเวย์กลับฉ่ำเยิ้ม แถมรอยยิ้มนั่นก็ดูเจ้าเล่ห์สุด ๆ ทำเอาฉันไม่กล้าสบตานานเพราะยิ่งมองยิ่งเหมือนฉันเป็นลูกไก่ในกำมือน้องเวย์เอียงคอขึ้นมากระซิบข้างหูฉัน
Sparkตอนแรกฉันก็กะจะดื่มต่ออีกสักหน่อย แต่สุดท้ายก็โดนน้องเขาลากออกจากร้านอยู่ดี แถมพี่กานยังบอกว่ารอบนี้พี่เลี้ยงเองอีกต่างหากสรุปแล้วมีความสุขแบบไม่เสียเงินสักบาทจริง ๆ“เอากุญแจมา ผมขับให้” เสียงของน้องเวย์เอ่ยมาพลางยื่นมือมาตรงหน้าและฉันก็มอบกุญแจรถให้แต่โดยดี เพราะฉันเมาขนาดนี้คงไม่ขับรถหรอก“คอนโดพี่ อยู่ที่ไหนผมจะไปส่ง” ฉันหันไปยิ้มให้คนขับก่อนจะแชร์โลเคชั่นเข้าไปที่จอมอนิเตอร์ของรถทันที จากนั้นน้องเขาก็ตั้งใจขับรถไม่ได้หันมาสนใจฉันอีก แต่ท่าทีแบบนี้แหละที่ทำให้ฉันอดมองน้องเขาไม่ได้มันกร้าวใจสุด ๆขับรถมาได้สักพักก็ถึงคอนโดของฉันตอนแรกน้องเขาจะเดินกลับ แต่เป็นฉันเองที่รั้งแขนของน้องเขาไว้ พลางทำใบหน้าออดอ้อนเท่าที่คนอายุ 27 ปีจะทำได้“ไปส่งพี่ถึงห้องหน่อยสิ พี่เมาอยู่นะ” น้องเวย์ทำหน้าถมึงทึงใส่ แต่สุดท้ายก็มาส่งถึงห้องอยู่ดี เพียงฉันเปิดประตู ฉันเขามีท่าทีจะหันหลังกลับ แต่ฉันไม่ยอมหรอกเพราะจู่ ๆ หัวใจฉันมันก็เต้นระริกยิ่งกว่าเดิมจนทำเรื่องที่ถ้าไม่เมาก็จะไม่ทำเด็ดขาด อย่างเช่นกระชากดึงตัวน้องเวย์เข้าห้องก่อนจะปิดประตูห้องดัง‘ปัง!!!!’“ทำแบบนี้คือ.....”“อยู่เป็นเพื่อนพี่คืนหน