หนีเที่ยว
ตกเย็น
หลังจากที่ฉันกับแพรว กลับคอนโดเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จแล้ว ก็ขับรถมุ่งไปคาเฟ่แมวที่อยู่หน้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง ไม่ไกลจากคอนโดมากนัก
สองสาววัยทำงานที่มานั่งอยู่ในร้านคาเฟ่น่ารัก แต่รอบข้างกลับเต็มไปด้วยนักศึกษาสาวเอ๊าะ ๆ ไปทั่วร้าน พอมองไปมองมาก็ชักเขินแปลก ๆ
“แพรว แกว่าพวกเรามาร้านนี้มันเหมาะเหรอ ดูสภาพเราแล้วจะไม่ค่อยเข้ากับร้านนี้เท่าไหร่นะ”
“ทำไมล่ะ หน้าตาเราออกจะกลมกลืนกับเด็กมหาลัยจะตายไป”
“ที่พูดนี่ปลอบใจตัวเองงั้นเหรอ”
“บ้า....ฉันพูดไปตามความจริงย่ะ ดูไปนอกกระจกนั่นดิ สาวมหาลัยในร้านมีตั้งมากมาย ทำไมน้อง ๆ ผู้ชายกลุ่มนั้นถึงมองมาที่เราเป็นจุดเดียว” ยัยแพรวพูดพลางยิ้มโบกมือให้หนุ่มน้อย
“ก็คงมองว่าทำไมป้าแก่ ๆ สองคนถึงมานั่งในดงวัยรุ่นล่ะมั้ง”
“โอ๊ย...สวยแบบเราหัวกระไดไม่เคยแห้งมาก่อนขนาดนี้ แกดูดี ๆ หล่อ ๆ ทั้งนั้นเลย ไม่สนหาบ่าวน้อยสักคนเหรอ”
“ยังไม่อยากมีใครจริง ๆ ตอนนี้ แค่ทำงานก็เหนื่อยจะตายแล้ว”
“แก่ตัวไปมากกว่านี้มันจะหายากเอานะเว้ย ถามจริงแกไม่อยากมีใครมาอ้อน หรือ อยากอ้อนใครบ้างเหรอ” ฉันมองหน้ายัยแพรว สีหน้ามันตอนนี้จริงจังมากจริง ๆ เข้าใจได้ว่ายิ่งแก่ตัวเรื่องพวกนี้ก็ต้องเริ่มถูกกดดันด้วยสภาวะรอบข้าง
ฉันได้แต่ถอนหายใจ จริง ๆ ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิด แต่มันไม่รู้ว่าต้องเริ่มยังไง สเปกเป็นแบบไหนยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ในชีวิตนี้ ยังไม่เคยเจอใครแล้วสปาร์คจนหัวใจเต้นน่ะสิ อาจจะเคยมีนะ แต่มันก็แค่รักออนไลน์ แล้วมันก็หายไปกับสายลมแล้วล่ะ
“นี่...งั้นเราไปดริ้งก์ไปดื่มหน่อยไหม”
“บอกว่าไม่ไปร้านเหล้าไง”
“แต่ที่จะพาไปมันน่าตื่นเต้นนะยะ”
“ยังไง ที่ว่าตื่นเต้น”
“บาร์โฮสต์”
”ถามจริ๊ง....” ฉันทำหน้าตาตกใจที่ยัยแพรวมีความคิดจะไปบาร์โฮสต์
“อยากจะลองไปสักครั้งดูนะสิ”
“ไม่กลัวพี่เจเดนของแกจะโมโหรึไง”
“ก็ฉันจะไปบาร์โฮสต์ ก็ต้องสถานการณ์ตอนที่ฉันกับพี่เขายังไม่ได้ลึกซึ้งนี่แหละ ถ้าฉันคบกับพี่เจเดนเมื่อไหร่แกคิดว่าฉันจะไปบาร์โฮสต์ ได้เหรอ”
“จะดีเหรอวะ แพรว”
“ดีสิ พอดีฉันมีพี่สาวคนหนึ่งมาใช้บริการพี่เขาเป็นเจ้าของบาร์โฮสต์นี้เลยให้ส่วนลดมา ฉันมีตั้งสองใบแน่ะ” ยัยแพรวสาธยายก่อนจะชูคูปองส่วนลดขึ้นมาให้ดู
“...” ฉันนั่งคิดอยู่นาน ใจจริงฉันเคยอยากไปบาร์โฮสต์นะ ยังไงฉันก็โสดการหาคนมาเอาอกเอาใจโดยใช้เงินแก้ปัญญาก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดสำหรับคนโสดตัวโต ๆ รึเปล่า หาเงินได้ตั้งเยอะใช้หน่อยจะเป็นอะไรไปจริงมั้ย
“ว่าไงสนใจมั้ย”
“โอเคตกลง...ไป...” ฉันแปะมือกับยัยแพรวก่อนที่เราจะออกจากคาเฟ่ กลับคอนโดไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้งให้เป็นสาวสุดแซ่บพร้อมเที่ยวกลางคืนอย่างเคย ใครเห็นก็ต้องจำไม่ได้ เพราะทั้งฉันกับยัยแพรว ตอนทำงานกับตอนเที่ยวราวกับคนล่ะคนจริงๆ เห็นแบบนี้ พวกเราชอบแต่งตัวโป๊พอควร ไม่ใช่ว่าใส่เพื่ออ่อย แต่เป็นความชอบของเราสองคนเอง เวลาไปเที่ยวด้วยกันแล้วพี่เจเดน มาเห็นก็มักจะโดนดุอยู่บ่อย ๆ ยัยแพรวนี่ถึงกับโดนพี่เจเดนลากกลับทันทีทุกครั้ง จนฉันอดหัวเราะไม่ได้ ส่วนฉันก็ไม่ได้มีคนมาห้ามเท่าไหร่ ก็คำว่าโสดตัวโต ๆ ความอิสระเลยมีเต็มเปี่ยม
สองสาวในชุดสุดวาบหวิบ คนหนึ่งโชว์หน้า คนหนึ่งโชว์หลัง ไม่มีใครยอมใคร แน่นอนว่าเราสองคนมีความสุขในการแต่งตัวบัฟกันราวกับขิงกันไปมาว่าใครสวยกว่าใคร แต่ตอนนี้ยัยแพรวมันนำฉันไปหนึ่งก้าวเพราะมีพีเจเดนสุดที่รักของมันล่ะนะ
สองเท้าของพวกเรามายืนหน้าบาร์โฮสต์สุดหรูย่านใจกลางเมือง แค่ประตูทางเข้าที่มีหนุ่มหล่อมาต้อนรับสาวสวยมากมายที่ใช้บริการก็รู้สึกว่าหวานปากแล้วล่ะ
“เป็นไง นี่แค่เด็กต้อนรับหน้าร้านของพี่กานเขานะ” ยัยแพรวภูมิใจนำเสนอประหนึ่งเคยมาแล้ว
“ใช้ได้เลย ก็ต้องยอมรับว่าหล่อลาก แต่ยังไม่ได้รู้สึกกระชากไตอะไรขนาดนั้น”
“เข้าไปกันก่อนเถอะของดีมันต้องอยู่ในร้าน พี่กานบอกว่ามีดาวเด่นให้พวกเราเลือกด้วยน่ะ ล็อคตัวไว้ให้เลย”
“แกพูดขนาดนี้งั้นเรารีบเข้าไปเลยดีกว่า”
ฉันกับแพรวเดินควงคู่เข้าไปในร้านกันอย่างมั่นใจ แน่นอนว่าในที่นี่พวกเราไม่จมไม่หายแน่นอนแม้ว่าบรรดาสาว ๆ ในนี้จะมาใช้บริการกันเยอะมากแค่ไหน สายตาหนุ่ม ๆ ที่รอต้อนรับและให้บริการจับจ้องพร้อมส่งสายตาหวานมาที่พวกเรา รอให้พวกเราเรียกใช้งานอยู่มากมายจริงๆ
ความรู้สึกตอนนี้เหมือนกำลังมีสายตาพร้อมที่จะพุ่งชนเข้าหามาก ๆ จริง ๆ นั่นแหละ รู้สึกแปลกใหม่ดีแฮะ
ทั้งฉันกับแพรวถูกเชิญให้เข้ามาประจำที่นั่ง VIP เพราะไม่คิดว่าคูปองที่ยัยแพรวได้มานั้นเป็นสิทธิพิเศษที่จะสามารถได้รับมาจากเจ้าของร้านเท่านั้น ดังนั้นการต้อนรับพวกเราสองคนเลยดูพิเศษกว่าโต๊ะไหน ๆ แม้แต่เจ้าของร้านอย่างพี่กานยังถึงขั้นออกมาตอนรับด้วยตัวเอง
“น้องแพรวมาร้านพี่จริง ๆ ด้วยสินะคะ”
“แน่นอนสิคะพี่กาน แพรวจะพลาดได้ไงล่ะ อ่ะจริงสิ นี่เพื่อนแพรวค่ะ ชื่อออย”
“เพื่อนน้องแพรว หรือว่า เป็นคุณหมอเหมือนกันคะ” คุณกานเจ้าของร้านหันมาเอ่ยถามฉันด้วยความเป็นมิตร ฉันจึงยิ้มตอบไปตามมารยาท
“ค่ะ เป็นหมอโรงพยาบาลเดียวกันกับแพรวค่ะ แต่หมอคนละแผนกนะคะ
“หมอสาวสองคนทำงานมาเหนื่อย ๆ แบบนี้ ร้านพี่นี่แหละคะคือที่ผ่อนคลายชั้นดี พี่รับประกันค่ะ”
“ขอเด็ด ๆ เลยนะคะพี่กาน” ยัยแพรวพูดแบบโจ่งแจ้งไม่อายภาพลักษณ์ของความเป็นหมอจิตเวชแม้แต่น้อย
"แน่นอนดาวเด่นที่นี่ของวันนี้พร้อมดูแลคุณหมอแน่นอนค่ะ เด็ก ๆ มานี่ซิ" เพียงคุณกานกวักมือเรียกเด็กที่เป็นดาวเด่นมาบริการโต๊ะของพวกฉัน ฉันก็เริ่มรู้สึกทำตัวไม่ถูกที่ได้รับการดูแลดุจเจ้าหญิงขนาดนี้ไม่ว่าจะหยิบ จะดื่ม จะยกแก้ว จะเช็ดปาก น้อง ๆ หนุ่มหล่อพร้อมทำให้หมดเลย ยัยแพรวดูจะเคลิบเคลิ้มไปแถมแจกดื่มเป็นว่าเล่น ส่วนฉันก็ยิ้มรับกับการกระทำของน้อง ๆ อยู่นะเพื่อไม่ให้ดูเจื่อนเกินไป แต่ฉันยังไม่ถูกใจนะสิ มันยังรู้สึกว่าหัวใจไม่เต้นแรงมันเหมือนมานั่งกินเหล้ากับคนแปลกหน้ามากกว่าคนที่จะมาเอาอกเอาใจ
จวบจนสายตามองขึ้นไปยังเวที ฉันมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่บนหลังม่านทอดสายตามองลงมา และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่สายตาเราสบตากันตอนนั้นแหละที่ฉันรู้สึกว่ากระตุกราวกับมีไฟฟ้าสถิตช็อตเปรี๊ยะๆ แบบว่าคนนี้ถูกใจ
แต่การที่น้องเขาไปยืนอยู่มุมนั้นหรือว่าเขาไม่ถูกใครเลือกเลยกัน มันน่าเสียดายนะ จู่ ๆ กระเป๋าตังก็รู้สึกสั่นไหว ฉันจึงหันไปหาคุณกานที่ยังเมาท์มอยกับยัยแพรวฉ่ำ
“เอ่อ คุณกานคะ”
“เรียกพี่กานก็ได้ค่ะ น้องออย เรารู้จักกันแล้วขนาดนี้”
“ได้เลยค่ะพี่ออย คือออยอยากถามว่าเด็กคนนั้นว่างอยู่รึเปล่าคะ” ฉันเอ่ยถามไป ยัยแพรวค่อนข้างตกใจที่ฉันสนใจเรียกเด็กเอง ส่วนพี่กานก็หันไปมองเด็กที่ฉันกำลังชี้ไปถาม จากนั้นก็ทำหน้าเจื่อนเล็กน้อย
“คนนั้นเหรอ คงไม่ได้หรอกค่ะ รายนั้นไม่รับดื่มน่ะ”
“ว้า....เสียดายจังค่ะ ออยค่อนข้างถูกใจพี่ลองไปถามให้ออยหน่อยไม่ได้เหรอคะ”
“เอาจริงเหรอคะน้องออย รายนั้นปากค่อนข้างร้าย พี่ไม่แน่นใจว่าน้องเขาจะรับรึเปล่านะ รายนั้นไม่เคยรับดื่มค่ะ เหมือนแวะมาดูเฉย ๆ ”
“แบบนั้นยิ่งน่าสนใจค่ะ พี่ถามให้หน่อยบอกว่าจ่ายไม่อั้น ไม่ลิมิตดื่ม” ฉันพูดไปแบบนั้นจนยัยแพรวที่อยู่ข้าง ๆ ถึงกับเบิกตาโต
“ออย นี่แกจริงป่ะเนี่ย ทำไมจู่ ๆ ถึง....”
“ไม่รู้ดิ จู่ ๆ แค่เห็นก็ชอบเลย” ฉันพูดไปแบบนั้นพลางยกแก้วขึ้นดื่มมองไปยังผู้ชายคนนั้นซึ่งตอนนี้ก็ทอดสายตามองมาที่ฉันอยู่
“พี่กานค่ะ แบบนี้แพรวเชียร์ให้พี่เรียกน้องคนนั้นมาให้ยัยออยให้ได้ทีค่ะ แพรวเป็นเพื่อนนางมานาน แพรวไม่เคยเห็นมันถูกใจใครขนาดนี้มาก่อน”
“ฮ่า....ได้..พี่จะลองไปเรียกให้ จะว่าไปตาถึงเหมือนกันนะน้องออย เล่นของยากซะด้วย”
“ไม่ลองไม่รู้ค่ะ”...ฉันยิ้ม จากนั้นพี่กานก็เดินออกไปหาผู้ชายที่ยืนนิ่งอยู่มุมมืดบนเวทีตรงนั้น
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.5ทริปฮันนีมูนของพวกเราสามีภรรยา ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วครับ แต่ก็ถือว่าเต็มอิ่มทั้งท่องเที่ยว ตระเวนกินอาหารเลิศรส หรือแม้ภารกิจปั๊มลูกน้อย ก็ทำทุกโอกาสเมื่ออยู่ในห้องพัก ชนิดไม่ต้องได้หลับได้นอนเลยครับเราเดินทางกลับมาถึงประเทศบ้านเกิดกันอย่างเหนื่อยล้า พอมาถึงคอนโดเราก็ล้มตัวลงนอนหมดแรงกันทั้งคู่หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากทริปฮันนีมูน เราสองคนกลับมาใช้ชีวิตลูปเดิมเคลียร์งานที่ค้างไว้กันจ้าละหวั่น ทำเอาแรก ๆ ผมรู้สึกเคว้งเลยครับ จากที่อยู่กับเมียแทบ 24 ชม./วัน ตอนนี้กลับไม่ได้เจอเธอ 8-10 ชม. ผมก็แทบนอยแล้ว“เวย์...ทำไมสีหน้าถึงไม่ดีเลย ไม่สบายรึเปล่า” พ่อตาของผมเอ่ยถามเมื่อเห็นผมนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานพลางกุมขมับอยู่“ผมเวียนหัวนิดหน่อยครับ คงเพราะนอนน้อย”“งานที่บริษัทไม่ได้เร่งขนาดนั้น ค่อย ๆ ทำก็ได้ เดี๋ยวป่วยหนักขึ้นมายัยออยก็มาบ่นพ่ออีกว่าใช้งานเราหนัก”“ครับคุณพ่อ เดี๋ยวผมจัดการเอกสารสุดท้ายเสร็จผมก็จะไปพักแล้วครับ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”เมื่อคุณพ่อของเมียผมเดินออกไป ผมก็ตั้งหน้าจัดการเอกสารอันสุดท้ายก่อนจะรีบกลับบ้านไ
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.4ร่างเปลือยเปล่าของออยเมียผมตอนนี้ ค่อย ๆ พลิกตัวขึ้นมานั่งคร่อมตัวบนเอวของผม ซึ่งกำลังนอนราบอยู่ เธอสะบัดหัวไปมาเพื่อให้ง่ายต่อการรวบผมหยาบ ๆ ให้เข้าที่โดยใช้สองมือของตัวเอง เอาจริงท่านี้โคตรเซ็กซี่เลย เพราะในขณะที่เธอทำนั้น สองเต้าคู่สวยของเธอขยับไปตามแรงโน้มถ่วงจนภาพที่ออกมามันเรียกอารมณ์ได้อีกแล้ว (จริง ๆไม่ว่าแบบไหนก็เรียกอารมณ์กามผมได้หมดแหละ ถ้าเป็นเมียผมน่ะ ฮ่า...)สองมือของเธอทาบหน้าอกผมไว้ทั้งสองข้าง ก่อนที่ดวงตาของคนที่ขึ้นคร่อมผมอยู่ด้านบนจะหลุบตามองผมอย่างเย้ายวน“อะไรกันคะ แค่เมียขึ้นมานั่งคร่อม ก็แข็งแล้วเหรอเด็กน้อย”“หึ...งั้นก็ช่วยทำให้เด็กน้อยคนนี้ สุขสมหน่อยสิครับ” ผมพูดพลางยกมือสองข้างประสานท้ายทอย ยกยิ้มมุมปากมองคนด้านบนที่ตอนนี้ กำลังใช้มือลูบไล้ผมไปทั้งแผงอกอย่างเชิญชวนแต่แทนที่เธอจะถอยลดตัวไปด้านล่างเธอกลับพลิกหันหลัง นั่งคร่อมลำตัวผม ก่อนจะโน้มตัวลงไป
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.3ผมที่เดินนำไปถอดเสื้อผ้าก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวเพราะร่างกายเปลือยเปล่า ก็การลงแช่น้ำร้อน โรงแรมมีกฎแบบนี้ นิครับผมลงแช่อย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะหย่อนตัวลงน้ำร้อนที่ตอนนี้แช่แล้วเข้ากับบรรยากาศที่หนาวเหน็บแบบนี้สุด ๆ ทำเอารู้สึกผ่อนคลายหลังจากการทำงานมาอย่างหนักผมนั่งเปลือยในบ่อ พลางพิงหลังบนหินประดับ ไม่นานนัก ร่างของเมียผมที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบ ก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาหย่อนกายลงบ่อน้ำร้อนด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข และภาพที่ผมเห็นยิ่งทำให้ผมตื่น เอ้ย มีความสุขครับเมียผมนั่งอยู่ตรงข้ามใช้มือกวักน้ำร้อนรดไหล่อย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะหันมาสบตากับผม แล้วเพ่งนัยน์ตามองรูปร่างผมอย่างตั้งใจ ใช่แล้วครับตอนนี้แม้แต่ผ้าเช็ดตัวผมก็เอาออกไปหมด เปลือยที่เรียกว่าล่อนจ้อนแหละครับ ฮ่า“ถ้าเมียมองขนาดนี้มาดูใกล้ ๆ เลยมั้ยครับ” ผมทำท่าทางยั่วยวนสุด ๆ จนคนตรงหน้าหัวเราะร่า“แหมสามี...อ่อยขนาดนี้ อยากสัมผัสแผงอกนั่นเลยค่ะ” เธอไม่พูดเปล่า แต่ลุกขึ้นเดินมานั่งข้าง ๆ ผม หึใครจะอยากให้นั่งข้าง ๆ กัน ผมเอี้ยวตัวใช้สองมือหนาจับเอวเธอแล้วยกตัวเธอขึ้นมาน
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.2ณ.สนามบิน “ทำไมให้พกชุดเยอะขนาดนี้ เวย์” สีหน้าของเมียผมเลิกคิ้วมองอย่างใคร่รู้“ทริปเยอะ ต้องเปลี่ยนชุดบ่อย” ผมตอบไปแบบนั้น“ขนาดนั้นเลยเหรอ” เธอยังหันมาเลิกคิ้วมองผม น่ารักจังเหมือนเจ้าหนูจำไม“เดี๋ยวก็รู้” ผมก็ยังกักแพลนไม่บอกเธอหรอก ใครจะบอกว่าผมมีแพลนทำลูกกับเมียผมล่ะ จริงมั้ย ฮ่า...ณ.สนามบินต่างประเทศ J“ว้าว ประเทศ J...อยากมาตั้งนานแล้ว รู้ได้ไงว่าพี่อยากมาที่นี่”“เดาเอาสงสัย ใจตรงกันมั้ง”“จริงเหรอ ไม่ได้แอบถามใครใช่มั้ย”“ผมจะถามใครได้ล่ะ รีบไปกันเถอะครับอากาศหนาว เดี๋ยวพี่เป็นหวัดขึ้นมาจะเที่ยวไม่สนุกนะ ผมตั้งใจทำทริปฮันนีมูนนี้เพื่อเราเลยนะครับ”“ก็ได้ ๆ งั้นเราไปที่พักกันก่อน คุณสามีนำทางเลยค่ะ” เธอหันมายิ้มให้ผม พร้อมกับเรียกสามี และนั่นทำให้ผมยิ้ม ผมเดินเข้าไปคล้องคอเธอก่อนจะพาเธอนั่งแท็กซี่ท้องถิ่นไปยังที่หมายซึ่งสถานที่ ๆ ผมเลือกนั้นแน่นอนว่าเพื่อสัมผัสความเป็นประเทศ J แล้วนั้นผมต้องเลือกโรงแรมดั้งเดิมของประเทศนี้แน่นอน แถมห้องพักที่นี่ยังมี บ่อแช่น้ำร้อนกลางแจ้งส่วนตัว ไพรเวทสุด ๆเมื่อเราเดินทางมาถึง
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.1ณ.ห้องทำงานในบริษัท ผมที่กำลังง่วนกับการทำโปรเจค AI โครงการใหญ่ที่กำลังถึงโค้งสุดท้ายแล้วอย่างขยันขันแข็ง แน่นอนว่าผมต้องการให้มันเสร็จตามกำหนดการที่ผมได้วางไว้ เพราะไม่อยากให้แผนการบางอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันเลื่อนออกไปนั่นเองถ้าถามว่าอะไรสำคัญกว่างานตรงหน้า แน่นอนว่ามีสิ่งหนึ่งสำคัญที่สุด ไม่สิต้องเรียกว่ามันสำคัญที่สุดในชีวิตต่างหาก นั่นคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เมีย’ณ.ห้องประชุม“สุดยอดไม่คิดเลยว่า บริษัทเราจะสามารถสร้างเครื่องจักรกลอัจฉริยะนี่ขึ้นมาได้จริง ๆ รับรองว่าสิ่งนี้จะทำให้บริษัทเราก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดดแน่นอน” เสียงของท่านประธาน (พ่อของเมียผม) เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ“ต้องขอบคุณที่ท่านประธานตาแหลม ได้คุณเวย์มาร่วมงานกับบริษัทเราจริง ๆ ครับ เด็กรุ่นใหม่ไฟแรงแบบนี้พวกผมสนับสนุนเต็มที่เลย” เหล่าผู้ถือหุ้นเอ่ยขึ้น“สมกับเป็นลูกเขยผมมั้ยล่ะ ลูกสาวผมตาถึงจริง ๆ” คุณพ่อของออยเอ่ย“นั่นสิครับ คุณเวย์นี่ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร”“พวกท่านก็ชมผมเกินไปแล้วครับ ผลงานที่ออกมาแบบนี้ได้เพราะการร่วมมือของทุก
วิวาห์และแล้ววันสำคัญในชีวิตอีกหนึ่งวันของฉันก็มาถึง งานแต่งของฉันกับเวย์เราเลือกจัดงานแต่งแบบไทยที่บ้านของฉัน ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องด้วยชุดไทยประยุกต์สีขาวเงินนวลตา ทรงผมเกล้ามวยต่ำ ประดับด้วยปิ่นปักผมเรียบหรูให้ดูสวยงามมากขึ้น ใบหน้าถูกแต่งด้วยโทนนู้ดส้มอย่างละเมียดละไม“ว้าว เพื่อนรักสวยมากแม่” ยัยแพรวที่แทบจะตัวติดฉันตั้งแต่เช้า ซึ่งตอนนี้นางก็อยู่ในชุดไทยเพื่อนเจ้าสาวเช่นกัน“จริงเหรอ สวยแล้วใช่มั้ย” ฉันหันไปถามแพรวเพราะยังไม่มั่นใจในตัวเอง เอาจริงวันนี้มันเป็นวันสำคัญฉันก็อยากสวยที่สุดในชีวิตสักวันนั่นแหละ“สวยจริง ๆ ไม่ได้อวยเพราะเป็นเพื่อนรักแกหรอก”“งั้นเหรอ”“แกตื่นเต้นใช่ไหมออย”“ฉะ..ฉันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอแพรว” ไม่เกินจริง ฉันตื่นเต้นมากจริงๆ ไม่คิดว่าวันที่แต่งงานจะมาถึง ในชีวิตก่อนหน้านั้นไม่เคยมีภาพแบบนี้ในหัวมาก่อนจริง ๆ“อืม มองจากดาวอังคารก็ดูออกจริง ๆ เฮ้อ..ฉันเองก็ไม่คิดว่าฉันจะได้เห็นแกแต่งงานล้ำหน้าฉันไปแบบนี้ เศร้าเลยแฮะ แต่ก็ดีใจมาก ๆ ที่แกเจอคนที่สามารถฝากชีวิตได้ซะที”“แกเองก็รีบตามมาล่ะ อย่าปล่อยให้พี่เจเดนเคว้งนานเกินจนเขาท้อ”“รู้แล้วนะ วันนี้วันดีแกอย่าพูด