ยังโสด
[OI PART]
ณ.บ้านอันแสนอบอุ่นหลังหนึ่ง
“ยัยออยมากินข้าวได้แล้วลูก” เสียงของผู้เป็นแม่เรียกฉันที่นอนกลิ้งไปมาบนเตียงพลางไถ่มือถือเล่น ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นจากเตียง
“ค่ะแม่ จะลงไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” ฉันเอ่ยตอบผู้เป็นแม่ออกไปก่อนจะลงไปด้านล่างทั้งชุดนอนแบบนี้
พอมาถึงโต๊ะอาหารทั้งพ่อและแม่ก็นั่งรอฉันอยู่แล้ว
“ยัยออย ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยลงมาก่อนละลูก”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยแม่ เดี๋ยวออยก็ขึ้นไปนอนต่ออยู่ดี”
“คุณดูลูกเราสิ ไม่มีความเป็นกุลสตรีสักนิดกระโตก กระตากเหมือนคุณไม่มีผิด” แม่ฉันบ่นอีกแล้ว...
“ก็ลูกผมไงล่ะ ฮ่า...”
“ฮ่า...” ฉันหัวเราะไปกับพ่อฉันในขณะที่แม่ทำหน้าบึ้งวางจานกับข้าวดังปัง
“คุณก็เอาแต่ให้ท้ายลูก คุณดูสิ ลูกเราจะเข้าวัยเลขสาม ยังไม่มีแม้แต่แฟน ทำแต่งาน แล้วเมื่อไหร่ลูกเราจะมีคนมาดูแล”
“แม่คะ ออยเป็นหมอนะ ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ไม่ต้องให้ใครมาดูแลขนาดนั้นหรอก”
“ใช่ ถ้าลูกเราหาสามีไม่ได้ ผมกับคุณก็เลี้ยงลูกไปจนแก่จนเฒ่าไง” ทำไมฉันฟังพูดเหมือนพลังบวกเชิงลบสุด ๆ
“พ่อ หนูแค่ยังไม่เจอคนที่ใช่ ไม่ใช่ว่าชาตินี้จะไม่มีแฟนซะหน่อยแค่ไม่ใช่ตอนนี้แค่นั้นค่ะ” ฉันทานข้าวไปพูดไป
“แล้วนั่งเก้าอี้ก็ไม่เรียบร้อย กินข้าวมูมมาม แถมพูดตอนเคี้ยวอาหารอีก ผู้ชายที่ไหนมาเห็นเขาจะชอบได้ไงลูก”
“ถ้าเขารับนิสัยหนูไม่ได้ แสดงว่าเขาก็ไม่ใช่คนที่ออยเลือกเหมือนกันคะ”
“เฮ้อ โอเค ๆ พูดกับแกเรื่องนี้แล้วแม่ปวดหัว แม่แค่ขี้เกียจตอบคำถามชาวบ้าน บอกลูกสาวแม่สวย ทำงานเป็นหมอฟัน ครบครันขนาดนี้ยังไม่มีแฟนรึไง มีแต่ป้า ๆ เขาจะส่งลูกชายเขามาให้แกดูตัว บางทีแม่ก็รำคาญอยากจะให้แกรีบมีแฟนเร็ว ๆ จะได้ตอบชาวบ้านปากตลาดให้มันจบ ๆ”
“ถ้าออยเจอคนที่ใช่ เดี๋ยวออยก็พามาบ้านเองแม่ จะพาเดินทั่วให้รู้กันทั้งหมู่บ้านไปเลย แม่ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ช่วงนี้ออยอยากเก็บเงินเยอะ ๆ ก่อน
“ว่าแต่ลูกจะอยู่บ้านถึงวันไหน” พ่อหันมาถามฉัน
“พรุ่งนี้ ออยก็ไปทำงานแล้วค่ะ ลาได้สามวันเอง”
“มีเวลาว่างก็ออกไปเที่ยว ไปพักผ่อนบ้างนะ เรื่องเงินไม่ต้องส่งให้พ่อกับแม่แล้วก็ได้ที่แกให้มาก็มีเหลือเฟือใช้ไม่ได้”
“นั่นสิ ลูกเก็บไว้บ้าง”
“แม่ไม่ต้องห่วงค่ะ ที่หนูส่งให้พ่อกับแม่ ก็คือส่วนหนึ่ง ส่วนเงินเก็บออยก็เก็บทุกเดือนอยู่แล้ว”
“ยังไงซะอยู่คอนโดคนเดียว อย่าเอาแต่กินอาหารสำเร็จรูปล่ะหมั่นออกไปทานอาหารที่มีประโยชน์บ้างนะ”
“ออยเป็นหมอนะคะ ที่โรงพยาบาล กับ คลินิก อาหารได้รับประโยชน์ตามโภชนาการอยู่แล้วแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ ออยอิ่มแล้วเดี๋ยวขอตัวก่อนนะคะ”
ฉันกลับขึ้นห้อง ล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยความเบื่อหน่าย พลางหยิบมือถือขืนมาดู
“เฮ้อ..ตั้งแต่วันนั้นน้องเขาก็หายไปไม่ตอบแชทฉันอีกเลยแฮะ คงผิดหวังที่ฉันโกหกเรื่องอายุน่าดู แต่ช่วยไม่ได้ฉันแค่ไม่อยากโกหกอีกแล้ว”
อ่ามาถึงตรงนี้ คุณผู้อ่านงงใช่มั้ยคะ งั้นฉันของแนะนำตัวก่อน ฉันชื่อออยค่ะ เป็นทันตแพทย์ อยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมือง เห็นทำงานงก ๆ แบบนี้มีเพื่อนหมอที่สนิทอยู่นะคะ ชื่อหมอแพรว ซึ่งนางเป็นเพื่อนสนิทฉันค่ะ นางเป็นหมอจิตแพทย์ เรื่องที่แม่บ่นฉันเมื่อกี้ก็ความจริงทั้งนั้น ตอนนี้ฉันอายุ 27 ปีแล้วค่ะ โสดสนิทศิษย์ยังหนีไปมีแฟนหมด ไม่ใช่ว่าฉันไม่สวยนะคะ หมอหนุ่มมาจีบก็เยอะ แต่ฉันไม่อยากมีใครจริง ๆ อยู่ในช่วงภาวะรักตัวเองอยากอยู่คนเดียวแบบที่เป็นมากกว่า
ฉันอายุเยอะก็จริงแต่ติดเกมค่ะ ตั้งแต่ ม.ต้น จน ตอนนี้ก็ยังเล่นอยู่ แต่ก็ไม่ได้เล่นหนักเหมือนแต่ก่อนแล้ว พอเข้าสังคมในเกมคุยกับคนอื่น ๆ จึงรู้ว่าฉันแก่เกินกว่าจะคุยกับพวกเขาได้จริง ๆ เจอแต่เด็กวัยมัธยม อย่างแก่สุดก็เด็กมหาลัย ใครจะกล้าไปบอกว่าตัวเองอายุ 27 จริงมั้ย มีหวังโดนเรียกป้าขึ้นมาให้เจ็บหัวใจเล่น ๆ ก็เลยโกหกไปว่าอายุ 20 กับเพื่อน ๆ ในสังคมเกม
แต่แล้ววันหนึ่ง ในกลุ่มเกมนัดเจอกัน ซึ่งฉันก็ปฏิเสธที่จะไปค่ะ จนสุดท้ายฉันก็พูดความจริง กับ คู่รักในเกมว่าฉันไม่ใช่สาววัย 20 ที่เขาฝันถึง แต่ฉันมันคนแก่วัยทำงาน 27 ปีแล้ว จากนั้นฉันก็หายไปจากเกมเลย แล้วก็ลบไอดีเกมนั้นไปด้วย ก็มันอายนินา กลัวกลับไปเล่นแล้วโดนล้อ ยัยแก่ ฉันรับความจริงไม่ได้หรอก
แต่พอฉันเริ่มใจกล้าที่จะกลับไปเล่นเกมโดยการสร้างไอดีใหม่ ก็พบว่ากลุ่มเพื่อนในเกมนั้นหายไปแล้ว มันน่าใจหายนะรู้แบบนี้ขอช่องทางติดต่อน้อง ๆ ไว้หน่อยก็คงดีอย่างน้อยก็เคยคุยกันในเกมทุก ๆ วัน ความผูกพันมันก็พอมีอยู่ แต่ในเมื่อตามพวกเขาไม่ได้แล้ว ฉันก็ทำใจค่ะ ลบเกมนั้นทิ้งอย่างถาวร ให้มันอยู่ในความทรงจำก็พอว่า ถึงแม้ในชีวิตจริงฉันจะไม่มีแฟนเลย แต่ในโลกเกมออนไลน์ฉันมีนะ ^^ แม้ตอนนี้จะม่ายไปแล้วก็ตาม
เลิกคิดดีกว่ากลับเข้าลูปวัยทำงานตัวเป็นเกลียวเหมือนอย่างเคย
ณ.โรงพยาบาล
“หมอออย วันนี้เหนื่อยหน่อยนะคะ” พยาบาลประจำแผนกทันตกรรมพูดกับฉัน
“ไม่คิดเหมือนกันค่ะว่าผู้ป่วยจะเยอะขนาดนี้”
“ก็แต่ละคนร้องขอพบคุณหมอกันทั้งนั้นนิคะ”
“คราวหน้าบอกว่าคนไข้คนอื่นๆ เลยนะคะว่าคิวหมอเต็ม”
“ถ้าคนไข้ยอมก็ดีสิคะ เพราะยังสุดท้ายพอเป็นเคสยาก ๆ จากหมอท่านอื่น หมอออยก็ต้องรับทำอยู่ดี”
“นั่นสินะ...สงสัยต้องให้โรงพยาบาลจับทันตแพทย์ในแผนกไปเรียนเพิ่มได้แล้วค่ะ ออยเริ่มจะรับไม่ไหวแล้วดูสิไม่มีเวลาหาแฟนเลย”
“หมอออยอย่าไปพูดแบบนี้ให้หมอผู้ชายคนอื่นได้ยินล่ะ ไม่งั้น วุ่นวายทั้งแผนกเหมือนแต่ก่อนแน่”
“พี่พยาบาลก็ไล่บอกหมอหนุ่มพวกนั้นสิคะว่าให้ไปจีบหมอจิตแพทย์ชื่อหมอแพรว”
“รายนั้นก็เห็นเหนื่อยเหมือนกันค่ะ” ฉันที่กำลังโม้กับพี่พยาบาลเพราะพักอยู่ จู่ ๆ ก็มียัยตัวน่ารำคาญเข้ามาเสริมทัพ เฮ่ออยู่คนล่ะแผนกแท้ ๆ ยังจะเดินมาหา
‘ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก’
“ว่าไงย่ะ นินทาฉันฉ่ำเลยนะเพื่อน” ไม่ใช่ใครที่ไหนเพื่อนฉันเองยัยแพรว
“หอบตัวมาถึงนี่มีธุระอะไร” ฉันหันไปถามเพื่อนตัวดีในขณะที่พี่พยาบาลก็ขอตัวออกไปก่อน
“แก คืนนี้ว่างมั้ย ฉันอยากหนีเที่ยว”
“ทำไมหนีใคร”
“ก็จะใครซะอีก พี่เจเดนไงฉันไม่อยากเจอเขา” ยัยแพรวหน้ามุ่ยก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ตรงหน้าฉัน
“จะหนีพี่เขาทำไม ทั้งที่แกชอบเขาจะตาย”
“เหอะ พี่เขาเคยทำฉันเจ็บมาแล้ว ถึงในหัวใจฉันยังชอบเขา แต่มันไม่ง่ายหรอก ต้องให้เขารู้จักพยายามบ้าง รู้จักการเสียใจบ้างเหมือนที่ฉันเคยเป็น”
“มันก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้ามันมากไปมันจะแย่เอานะ”
“แกไม่ต้องมาห่วงฉัน คนไม่มีแฟนแบบแกไม่เข้าใจหรอก”
“อ้าว ฉันเพื่อนแกนะ นี่จะยังให้ฉันไปเที่ยวเป็นเพื่อนอยู่มั้ยพูดดี ๆ” ฉันกอดอกมองหน้าเพื่อนอย่างหาเรื่อง
“ไปดิ....”
“แล้วจะไปไหน ไม่เอาร้านเหล้านะ ช่วงนี้งดเหล้าเข้าพรรษา”
“ป่าว ฉันอยากไปคาเฟ่แมวน่ะ”
“อืมน่าสนแฮะ” พอฉันนั่งคิดถึงเจ้าแมวเหมียวขนปุกปุยขึ้นมาก็พานอารมณ์ดี “โอเค เลิกงานก็ไปกัน ฉันไม่มีเวรอยู่แล้ว”
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.5ทริปฮันนีมูนของพวกเราสามีภรรยา ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วครับ แต่ก็ถือว่าเต็มอิ่มทั้งท่องเที่ยว ตระเวนกินอาหารเลิศรส หรือแม้ภารกิจปั๊มลูกน้อย ก็ทำทุกโอกาสเมื่ออยู่ในห้องพัก ชนิดไม่ต้องได้หลับได้นอนเลยครับเราเดินทางกลับมาถึงประเทศบ้านเกิดกันอย่างเหนื่อยล้า พอมาถึงคอนโดเราก็ล้มตัวลงนอนหมดแรงกันทั้งคู่หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากทริปฮันนีมูน เราสองคนกลับมาใช้ชีวิตลูปเดิมเคลียร์งานที่ค้างไว้กันจ้าละหวั่น ทำเอาแรก ๆ ผมรู้สึกเคว้งเลยครับ จากที่อยู่กับเมียแทบ 24 ชม./วัน ตอนนี้กลับไม่ได้เจอเธอ 8-10 ชม. ผมก็แทบนอยแล้ว“เวย์...ทำไมสีหน้าถึงไม่ดีเลย ไม่สบายรึเปล่า” พ่อตาของผมเอ่ยถามเมื่อเห็นผมนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานพลางกุมขมับอยู่“ผมเวียนหัวนิดหน่อยครับ คงเพราะนอนน้อย”“งานที่บริษัทไม่ได้เร่งขนาดนั้น ค่อย ๆ ทำก็ได้ เดี๋ยวป่วยหนักขึ้นมายัยออยก็มาบ่นพ่ออีกว่าใช้งานเราหนัก”“ครับคุณพ่อ เดี๋ยวผมจัดการเอกสารสุดท้ายเสร็จผมก็จะไปพักแล้วครับ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”เมื่อคุณพ่อของเมียผมเดินออกไป ผมก็ตั้งหน้าจัดการเอกสารอันสุดท้ายก่อนจะรีบกลับบ้านไ
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.4ร่างเปลือยเปล่าของออยเมียผมตอนนี้ ค่อย ๆ พลิกตัวขึ้นมานั่งคร่อมตัวบนเอวของผม ซึ่งกำลังนอนราบอยู่ เธอสะบัดหัวไปมาเพื่อให้ง่ายต่อการรวบผมหยาบ ๆ ให้เข้าที่โดยใช้สองมือของตัวเอง เอาจริงท่านี้โคตรเซ็กซี่เลย เพราะในขณะที่เธอทำนั้น สองเต้าคู่สวยของเธอขยับไปตามแรงโน้มถ่วงจนภาพที่ออกมามันเรียกอารมณ์ได้อีกแล้ว (จริง ๆไม่ว่าแบบไหนก็เรียกอารมณ์กามผมได้หมดแหละ ถ้าเป็นเมียผมน่ะ ฮ่า...)สองมือของเธอทาบหน้าอกผมไว้ทั้งสองข้าง ก่อนที่ดวงตาของคนที่ขึ้นคร่อมผมอยู่ด้านบนจะหลุบตามองผมอย่างเย้ายวน“อะไรกันคะ แค่เมียขึ้นมานั่งคร่อม ก็แข็งแล้วเหรอเด็กน้อย”“หึ...งั้นก็ช่วยทำให้เด็กน้อยคนนี้ สุขสมหน่อยสิครับ” ผมพูดพลางยกมือสองข้างประสานท้ายทอย ยกยิ้มมุมปากมองคนด้านบนที่ตอนนี้ กำลังใช้มือลูบไล้ผมไปทั้งแผงอกอย่างเชิญชวนแต่แทนที่เธอจะถอยลดตัวไปด้านล่างเธอกลับพลิกหันหลัง นั่งคร่อมลำตัวผม ก่อนจะโน้มตัวลงไป
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.3ผมที่เดินนำไปถอดเสื้อผ้าก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวเพราะร่างกายเปลือยเปล่า ก็การลงแช่น้ำร้อน โรงแรมมีกฎแบบนี้ นิครับผมลงแช่อย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะหย่อนตัวลงน้ำร้อนที่ตอนนี้แช่แล้วเข้ากับบรรยากาศที่หนาวเหน็บแบบนี้สุด ๆ ทำเอารู้สึกผ่อนคลายหลังจากการทำงานมาอย่างหนักผมนั่งเปลือยในบ่อ พลางพิงหลังบนหินประดับ ไม่นานนัก ร่างของเมียผมที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบ ก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาหย่อนกายลงบ่อน้ำร้อนด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข และภาพที่ผมเห็นยิ่งทำให้ผมตื่น เอ้ย มีความสุขครับเมียผมนั่งอยู่ตรงข้ามใช้มือกวักน้ำร้อนรดไหล่อย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะหันมาสบตากับผม แล้วเพ่งนัยน์ตามองรูปร่างผมอย่างตั้งใจ ใช่แล้วครับตอนนี้แม้แต่ผ้าเช็ดตัวผมก็เอาออกไปหมด เปลือยที่เรียกว่าล่อนจ้อนแหละครับ ฮ่า“ถ้าเมียมองขนาดนี้มาดูใกล้ ๆ เลยมั้ยครับ” ผมทำท่าทางยั่วยวนสุด ๆ จนคนตรงหน้าหัวเราะร่า“แหมสามี...อ่อยขนาดนี้ อยากสัมผัสแผงอกนั่นเลยค่ะ” เธอไม่พูดเปล่า แต่ลุกขึ้นเดินมานั่งข้าง ๆ ผม หึใครจะอยากให้นั่งข้าง ๆ กัน ผมเอี้ยวตัวใช้สองมือหนาจับเอวเธอแล้วยกตัวเธอขึ้นมาน
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.2ณ.สนามบิน “ทำไมให้พกชุดเยอะขนาดนี้ เวย์” สีหน้าของเมียผมเลิกคิ้วมองอย่างใคร่รู้“ทริปเยอะ ต้องเปลี่ยนชุดบ่อย” ผมตอบไปแบบนั้น“ขนาดนั้นเลยเหรอ” เธอยังหันมาเลิกคิ้วมองผม น่ารักจังเหมือนเจ้าหนูจำไม“เดี๋ยวก็รู้” ผมก็ยังกักแพลนไม่บอกเธอหรอก ใครจะบอกว่าผมมีแพลนทำลูกกับเมียผมล่ะ จริงมั้ย ฮ่า...ณ.สนามบินต่างประเทศ J“ว้าว ประเทศ J...อยากมาตั้งนานแล้ว รู้ได้ไงว่าพี่อยากมาที่นี่”“เดาเอาสงสัย ใจตรงกันมั้ง”“จริงเหรอ ไม่ได้แอบถามใครใช่มั้ย”“ผมจะถามใครได้ล่ะ รีบไปกันเถอะครับอากาศหนาว เดี๋ยวพี่เป็นหวัดขึ้นมาจะเที่ยวไม่สนุกนะ ผมตั้งใจทำทริปฮันนีมูนนี้เพื่อเราเลยนะครับ”“ก็ได้ ๆ งั้นเราไปที่พักกันก่อน คุณสามีนำทางเลยค่ะ” เธอหันมายิ้มให้ผม พร้อมกับเรียกสามี และนั่นทำให้ผมยิ้ม ผมเดินเข้าไปคล้องคอเธอก่อนจะพาเธอนั่งแท็กซี่ท้องถิ่นไปยังที่หมายซึ่งสถานที่ ๆ ผมเลือกนั้นแน่นอนว่าเพื่อสัมผัสความเป็นประเทศ J แล้วนั้นผมต้องเลือกโรงแรมดั้งเดิมของประเทศนี้แน่นอน แถมห้องพักที่นี่ยังมี บ่อแช่น้ำร้อนกลางแจ้งส่วนตัว ไพรเวทสุด ๆเมื่อเราเดินทางมาถึง
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.1ณ.ห้องทำงานในบริษัท ผมที่กำลังง่วนกับการทำโปรเจค AI โครงการใหญ่ที่กำลังถึงโค้งสุดท้ายแล้วอย่างขยันขันแข็ง แน่นอนว่าผมต้องการให้มันเสร็จตามกำหนดการที่ผมได้วางไว้ เพราะไม่อยากให้แผนการบางอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันเลื่อนออกไปนั่นเองถ้าถามว่าอะไรสำคัญกว่างานตรงหน้า แน่นอนว่ามีสิ่งหนึ่งสำคัญที่สุด ไม่สิต้องเรียกว่ามันสำคัญที่สุดในชีวิตต่างหาก นั่นคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เมีย’ณ.ห้องประชุม“สุดยอดไม่คิดเลยว่า บริษัทเราจะสามารถสร้างเครื่องจักรกลอัจฉริยะนี่ขึ้นมาได้จริง ๆ รับรองว่าสิ่งนี้จะทำให้บริษัทเราก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดดแน่นอน” เสียงของท่านประธาน (พ่อของเมียผม) เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ“ต้องขอบคุณที่ท่านประธานตาแหลม ได้คุณเวย์มาร่วมงานกับบริษัทเราจริง ๆ ครับ เด็กรุ่นใหม่ไฟแรงแบบนี้พวกผมสนับสนุนเต็มที่เลย” เหล่าผู้ถือหุ้นเอ่ยขึ้น“สมกับเป็นลูกเขยผมมั้ยล่ะ ลูกสาวผมตาถึงจริง ๆ” คุณพ่อของออยเอ่ย“นั่นสิครับ คุณเวย์นี่ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร”“พวกท่านก็ชมผมเกินไปแล้วครับ ผลงานที่ออกมาแบบนี้ได้เพราะการร่วมมือของทุก
วิวาห์และแล้ววันสำคัญในชีวิตอีกหนึ่งวันของฉันก็มาถึง งานแต่งของฉันกับเวย์เราเลือกจัดงานแต่งแบบไทยที่บ้านของฉัน ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องด้วยชุดไทยประยุกต์สีขาวเงินนวลตา ทรงผมเกล้ามวยต่ำ ประดับด้วยปิ่นปักผมเรียบหรูให้ดูสวยงามมากขึ้น ใบหน้าถูกแต่งด้วยโทนนู้ดส้มอย่างละเมียดละไม“ว้าว เพื่อนรักสวยมากแม่” ยัยแพรวที่แทบจะตัวติดฉันตั้งแต่เช้า ซึ่งตอนนี้นางก็อยู่ในชุดไทยเพื่อนเจ้าสาวเช่นกัน“จริงเหรอ สวยแล้วใช่มั้ย” ฉันหันไปถามแพรวเพราะยังไม่มั่นใจในตัวเอง เอาจริงวันนี้มันเป็นวันสำคัญฉันก็อยากสวยที่สุดในชีวิตสักวันนั่นแหละ“สวยจริง ๆ ไม่ได้อวยเพราะเป็นเพื่อนรักแกหรอก”“งั้นเหรอ”“แกตื่นเต้นใช่ไหมออย”“ฉะ..ฉันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอแพรว” ไม่เกินจริง ฉันตื่นเต้นมากจริงๆ ไม่คิดว่าวันที่แต่งงานจะมาถึง ในชีวิตก่อนหน้านั้นไม่เคยมีภาพแบบนี้ในหัวมาก่อนจริง ๆ“อืม มองจากดาวอังคารก็ดูออกจริง ๆ เฮ้อ..ฉันเองก็ไม่คิดว่าฉันจะได้เห็นแกแต่งงานล้ำหน้าฉันไปแบบนี้ เศร้าเลยแฮะ แต่ก็ดีใจมาก ๆ ที่แกเจอคนที่สามารถฝากชีวิตได้ซะที”“แกเองก็รีบตามมาล่ะ อย่าปล่อยให้พี่เจเดนเคว้งนานเกินจนเขาท้อ”“รู้แล้วนะ วันนี้วันดีแกอย่าพูด