ถูกใจก็จัด
พี่กานไปได้ไม่นาน ก็เดินกลับมาคนเดียวดูท่าจะไม่เป็นผลสำเร็จแฮะ เห็นจ้องมองกันขนาดนี้นึกว่าจะยอมมาให้เปย์สักหน่อย ดูท่าฉันคงต้องผิดหวังแล้วล่ะ
“พี่กานทำหน้านิ่งขนาดนี้ ดูท่าไม่เป็นผลสินะคะ ไม่เป็นไรคะ ออยแค่ลองถามดูเฉย ๆ”
“ไม่เป็นไรนะแก น้อง ๆ คนอื่น ๆ ก็บริการดี” ยัยแพรวหันมาปลอบใจก่อนที่ เด็ก ๆ คนอื่น ๆ จะเอาใจฉันต่อเหมือนเดิม
“ป่าวหรอกน้องออย น้องเขาตกลงนะ เพียงแต่....”
“แต่อะไรคะ ฉันวางแก้วลงก่อนจะจ้องมองพี่กานฟังอย่างตั้งใจ”
“เด็กคนนี้ไม่เคยรับใคร เลยบอกว่าถ้าเป็นน้องออยเขายอมแต่ขอนั่งโต๊ะแยกไปสองคน”
ฉันถึงกับเลิกคิ้ว ก่อนจะหันไปมอง ผู้ชายคนนั้นบนเวที ซึ่งตอนนี้กำลังกอดอกยืนพิงผนังมองมาที่ฉันด้วยสายตาเรียบนิ่ง แต่ฉันกลับชอบมันดูนิ่ง แบดหลบในดี แถมหล่อถูกใจ
“โห...เด็กมันแรงนะเนี่ย ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เคยรับใครจริง ๆ พี่กานโกหกเพื่อเรียกค่าตัวรึเปล่าคะ” ยัยแพรวถึงขนาดเบิกตาโต พลางหยอกล้อ พี่กาน
“พี่สาบานเลย มันไม่เคยรับใคร หมายถึงน้องคนนั้นนะ นาน ๆ ทีถึงจะโผล่มาร้านนี้ด้วยซ้ำ ว่าไงล่ะคะน้องออยยังสนใจไหม” พี่กานหันมามองฉันเพื่อยืนยันอีกครั้ง
“แน่นอนสิคะ เรียกกี่ดื่มก็จัดมาเลย โต๊ะแยกก็ดีค่ะ ขอมุมลับตาคนหน่อยโดยเฉพาะลับตายัยแพรวเนี่ย”
“แหม...เจอเด็กถูกใจแล้วแรดเลยนะแก” ยัยแพรวกรอกตามองบนใส่ฉัน
“ไหนบอกให้ฉันรีบหา นี่ก็ตั้งใจหาอยู่นะ”
“ค่า....ตามสบายเลยค่า...” ยัยแพรวตอบฉันก่อนจะหันไปสนใจเด็กข้าง ๆ มัน
“งั้นน้องออยตามพี่มาค่ะ พี่มีโต๊ะดี ๆ จริง ๆ ก็เจ้าตัวนั่นแหละรีเควสว่าขอเป็นโต๊ะนั้น”
“ได้สิคะ” ฉันยิ้มก่อนจะเดินตามพี่กานไป รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันแฮะที่จะได้ให้เด็กที่ถูกใจดูแล ไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้มาก่อนจริง ๆ
เมื่อฉันถูกพามายังห้องส่วนตัว พี่กานก็สั่งให้เด็กเอาเครื่องดื่มมาบริการก่อนที่จะให้ฉันนั่งรออยู่ในนี้ เพื่อรอน้องคนนั้นเข้ามา
ฉันนั่งรอสักพัก พลางดื่มไปจนหมดแก้ว ประตูห้องส่วนตัวก็เปิดขึ้น เด็กหนุ่มหน้านิ่งที่อยู่บนเวทีคนนั้นเดินเข้ามาพลางถือสูทไว้บนบ่า ชุดต่างจากเมื่อครู่ไปจริง ๆ ราวกับโดนบังคับให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเข้ามาในห้องนี้
หนุ่มหล่อคนนั้นนั่งลงข้างฉันอย่างไม่สบอารมณ์ เหมือนโดนบังคับให้มานั่ง ใบหน้าไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม แต่นั่นแหละที่ถูกใจฉัน ทำเอาฉันหัวเราะลั่นแบบไม่อาย
“ฮ่า.........” ฉันอ้าปากหัวเราะกว้างจนคนข้าง ๆ หันมามองฉันหน้าบึ้งตึง
“มีอะไรน่าขำ....” หนุ่มหล่อมองหน้าหาเรื่อง แต่ฉันไม่ถือสาหรอกมันเท่ดี
“เปล่า ๆ อยากดื่มหน่อยมั้ย จะได้หายเครียดบ้าง”
“เหอะ...รวย???” ผู้ชายปากร้ายแบบนี้ดู้ท้าทายดีแฮะ
“รวยมากอยู่นะ ไม่ต้องห่วงจ่ายไหวขี้ปะติ๋ว” ฉันตอบไปพลางกลั้นขำ เพราะคำตอบของฉันพานทำเอาคนข้าง ๆ กำหมัดแน่น แถมมองค้อนฉันไม่หยุด
“สรุปที่อยากดื่มกับผมเพราะ.....”
“ถูกใจ..........ตั้งแต่หัวจรดตีน” ฉันตอบตรง ๆ ไม่อ้อมคอมแถมยกดื่มไม่หยุดโดยไม่รอให้คนข้าง ๆ มาคอยเอาใจ เอาจริงนะถ้าคนมันใช่ต่อให้นั่งเฉย ๆ ก็ชอบ และอิ่มเอมใจแล้วแค่นี้แหละ
“คุณอายุเท่าไหร่” จู่ ๆ เขาก็ประเดิมด้วยการถามอายุ จริง ๆ ถ้ามองในการบริการมันดูเสียมารยาทจริง ๆ แต่พอเป็นคนหน้าบึ้งตึงตรงหน้านี้ ก็ถือว่าปกติล่ะมั้ง ซึ้งฉันก็ไม่ได้อายที่จะบอกอายุหรอก ยังไงหนุ่มหล่อตรงหน้าก็เจอกันแค่ในร้านวันนี้เท่านั้น
“27 โสดด้วย” ฉันตอบไปตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม
“ถือว่ายังมีสามัญสำนึก นึกว่าจะโกหกบอกว่า 20”
“ฮ่า....แล้วพี่จะโกหกไปทำไมละคะน้อง แล้วน้องอายุเท่าไหร่ล่ะ”
“22”
“22 งั้นเหรอวัยกำลังดีเลยนะ แต่ว่า.....”
“ทำไมผมมันเด็กไปงั้นเหรอ”
“น้องไม่ได้เด็กไปหรอก แต่พี่แก่ไปต่างหาก น้องก็คิดแบบนั้นใช่ไหมล่ะ”
“ก็...ไม่ได้แย่”
“แต่ก็ไม่ได้ดีใช่มั้ยล่ะ...แต่ช่างเถอะวันนี้มาทำให้พี่สาวคนนี้อารมณ์ดีก็พอ อยากดื่มอะไรพิเศษมั้ยสั่งได้เลยนะ”
“เหอะ ที่สั่งนี่ก็หลายหมื่นแล้วรึเปล่า”
“คงงั้น ไม่เป็นไรหรอกนาน ๆ ทีจะมีเวลามาเสวยสุขให้หนุ่มหล่อคอยบริการ แม้จะไม่ได้บริการสักนิดก็เถอะ ฮ่า....”
“แล้วอยากให้ทำอะไรเป็นพิเศษ” เด็กหนุ่มตรงหน้าเอนหลังพิงโซฟา นั่งไขว้ห้างหล่อจริงพ่อคุณ
“ชงเครื่องดื่มให้ก็พอ”
“แค่นี้???? โต๊ะอื่นเขายังให้ทำตั้งมากมาย”
“แล้วเด็กพี่จะยอมทำให้กันเหรอคะ”
“ก็ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงล่ะก็นะ ยังไงพี่ก็จ่ายเงินมาแล้ว”
“ถึงไม่ทำให้ก็จ่ายให้อยู่ดี นั่งเฉย ๆ ก็ได้ แค่กินเหล้ามองหน้าน้องพี่ก็มีความสุขแล้ว”
“หยอดเก่งขนาดนี้ ปล่อยโสดมาจน 27 ได้ไง”
“ยังไม่เจอคนที่ใช่ ว่าแต่อยากเป็นคนที่โดนอ่อยมั้ยล่ะ พี่เต็มใจอ่อยน้องนะ อย่างเช่นนี่...ก็เรียวขา ฮ่า........” ฉันทำเป็นจับชายเดรสถกมันขึ้นโชว์เรียวขาขาวเล็ก ๆ แกล้งหยอกไป
“...” น้องเขาทำหน้าเลิกคิ้วนิ่งมองมาที่ฉัน สงสัยคงจะแหยะการกระทำฉันน่าดู ฉันก็แกล้งไปงั้น ความดัดจริตที่ทำก็แค่ในร้านแบบนี้ที่ปลดปล่อยได้ล่ะนะ
“ล้อเล่น ๆ ... พี่ไม่กินเด็กหรอก มา ๆ ดื่มกันดีกว่า”
ฉันนั่งดื่มกับน้องเขาไปสักพักเริ่มรู้สึกเมามายแต่ยังคงมีสติอยู่บ้าง ดูเหมือนว่าน้องเขาเริ่มจะเป็นกันเองมากขึ้น แต่ก็ยังปากร้ายแซะคนแก่กว่าอย่างฉันไม่พัก แต่ไม่เป็นไร ตลกดี พอได้ปล่อยจอยคุยกับคนแปลกหน้ามันก็รู้สึกดีนะ เพราะไม่ต้องกดดันว่าต้องวางท่ายังไง
“น้องมีแฟนรึยัง” ประโยคนี้เป็นประโยคคำถามของฉันเอง
“อยากรู้???”
“แน่สิ มาทำงานแบบนี้พี่จะได้วางตัวถูก พี่ไม่แตะต้องคนมีแฟนนะมันผิดศีล”
“ก็สมกับเป็นคนอายุ 27 จริง ๆ”
“จะย้ำว่าพี่แก่ เอาเถอะตอบมาก่อน”
“ไม่มี แต่ถ้าสมมติ ผมมีแล้วพี่จะทำไง”
“อ่อ...ก็หาเด็กใหม่ที่โสดนะสิ”
“เหอะ...” สีหน้าน้องเขายักคิ้วบึ้งตึงเหมือนชวนตียังไงยังงั้น
“โอ๊ย....อย่าถือสาพี่เลย พี่คงไม่มาที่นี่บ่อย ๆ หรอกอย่างวันนี้ก็แค่โดนลากมา แต่ถ้าพี่มาพี่จะเรียกใช้บริการน้องแน่นอน ไม่มีลิมิตดื่ม อิอิ” ฉันหันไปสนใจเครื่องดื่มน้ำเมาบนโต๊ะ ก่อนที่น้องเขาจะผสมให้ไม่หยุด และฉันก็รับมันมาดื่มราวกับกินน้ำเปล่า
“ตาลายจัง”
“พอ....ไม่ต้องดื่มแล้ว” เสียงเด็กหนุ่มพูดขึ้น
“ทำไมน้องมีสองคน” ฉันที่พยายามลืมตามองคนข้าง ๆ แต่ตอนนี้ภาพที่เห็นเหมือนภาพซ้อนราวกับมีแฝดนั่งข้างกัน
“พี่เมาล่ะ..”
“หล่อจัง...”
“...”
“หล่อจริง..คบกับพี่ป่าวน้อง แต่ตอนนี้เวียนหัว ขอนอนก่อนนะ พรึ่บ (Zzz)”
“พี่....จะมานอนตรงนี้ไม่ได้ครับ พี่...เฮ้อ....ปากบอกจีบ แต่ชื่อยังไม่เอ่ยถามสักนิด ผู้หญิงอะไรวะเนี่ย ตลกชะมัด”
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.5ทริปฮันนีมูนของพวกเราสามีภรรยา ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วครับ แต่ก็ถือว่าเต็มอิ่มทั้งท่องเที่ยว ตระเวนกินอาหารเลิศรส หรือแม้ภารกิจปั๊มลูกน้อย ก็ทำทุกโอกาสเมื่ออยู่ในห้องพัก ชนิดไม่ต้องได้หลับได้นอนเลยครับเราเดินทางกลับมาถึงประเทศบ้านเกิดกันอย่างเหนื่อยล้า พอมาถึงคอนโดเราก็ล้มตัวลงนอนหมดแรงกันทั้งคู่หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากทริปฮันนีมูน เราสองคนกลับมาใช้ชีวิตลูปเดิมเคลียร์งานที่ค้างไว้กันจ้าละหวั่น ทำเอาแรก ๆ ผมรู้สึกเคว้งเลยครับ จากที่อยู่กับเมียแทบ 24 ชม./วัน ตอนนี้กลับไม่ได้เจอเธอ 8-10 ชม. ผมก็แทบนอยแล้ว“เวย์...ทำไมสีหน้าถึงไม่ดีเลย ไม่สบายรึเปล่า” พ่อตาของผมเอ่ยถามเมื่อเห็นผมนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานพลางกุมขมับอยู่“ผมเวียนหัวนิดหน่อยครับ คงเพราะนอนน้อย”“งานที่บริษัทไม่ได้เร่งขนาดนั้น ค่อย ๆ ทำก็ได้ เดี๋ยวป่วยหนักขึ้นมายัยออยก็มาบ่นพ่ออีกว่าใช้งานเราหนัก”“ครับคุณพ่อ เดี๋ยวผมจัดการเอกสารสุดท้ายเสร็จผมก็จะไปพักแล้วครับ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”เมื่อคุณพ่อของเมียผมเดินออกไป ผมก็ตั้งหน้าจัดการเอกสารอันสุดท้ายก่อนจะรีบกลับบ้านไ
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.4ร่างเปลือยเปล่าของออยเมียผมตอนนี้ ค่อย ๆ พลิกตัวขึ้นมานั่งคร่อมตัวบนเอวของผม ซึ่งกำลังนอนราบอยู่ เธอสะบัดหัวไปมาเพื่อให้ง่ายต่อการรวบผมหยาบ ๆ ให้เข้าที่โดยใช้สองมือของตัวเอง เอาจริงท่านี้โคตรเซ็กซี่เลย เพราะในขณะที่เธอทำนั้น สองเต้าคู่สวยของเธอขยับไปตามแรงโน้มถ่วงจนภาพที่ออกมามันเรียกอารมณ์ได้อีกแล้ว (จริง ๆไม่ว่าแบบไหนก็เรียกอารมณ์กามผมได้หมดแหละ ถ้าเป็นเมียผมน่ะ ฮ่า...)สองมือของเธอทาบหน้าอกผมไว้ทั้งสองข้าง ก่อนที่ดวงตาของคนที่ขึ้นคร่อมผมอยู่ด้านบนจะหลุบตามองผมอย่างเย้ายวน“อะไรกันคะ แค่เมียขึ้นมานั่งคร่อม ก็แข็งแล้วเหรอเด็กน้อย”“หึ...งั้นก็ช่วยทำให้เด็กน้อยคนนี้ สุขสมหน่อยสิครับ” ผมพูดพลางยกมือสองข้างประสานท้ายทอย ยกยิ้มมุมปากมองคนด้านบนที่ตอนนี้ กำลังใช้มือลูบไล้ผมไปทั้งแผงอกอย่างเชิญชวนแต่แทนที่เธอจะถอยลดตัวไปด้านล่างเธอกลับพลิกหันหลัง นั่งคร่อมลำตัวผม ก่อนจะโน้มตัวลงไป
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.3ผมที่เดินนำไปถอดเสื้อผ้าก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวเพราะร่างกายเปลือยเปล่า ก็การลงแช่น้ำร้อน โรงแรมมีกฎแบบนี้ นิครับผมลงแช่อย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะหย่อนตัวลงน้ำร้อนที่ตอนนี้แช่แล้วเข้ากับบรรยากาศที่หนาวเหน็บแบบนี้สุด ๆ ทำเอารู้สึกผ่อนคลายหลังจากการทำงานมาอย่างหนักผมนั่งเปลือยในบ่อ พลางพิงหลังบนหินประดับ ไม่นานนัก ร่างของเมียผมที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบ ก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาหย่อนกายลงบ่อน้ำร้อนด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข และภาพที่ผมเห็นยิ่งทำให้ผมตื่น เอ้ย มีความสุขครับเมียผมนั่งอยู่ตรงข้ามใช้มือกวักน้ำร้อนรดไหล่อย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะหันมาสบตากับผม แล้วเพ่งนัยน์ตามองรูปร่างผมอย่างตั้งใจ ใช่แล้วครับตอนนี้แม้แต่ผ้าเช็ดตัวผมก็เอาออกไปหมด เปลือยที่เรียกว่าล่อนจ้อนแหละครับ ฮ่า“ถ้าเมียมองขนาดนี้มาดูใกล้ ๆ เลยมั้ยครับ” ผมทำท่าทางยั่วยวนสุด ๆ จนคนตรงหน้าหัวเราะร่า“แหมสามี...อ่อยขนาดนี้ อยากสัมผัสแผงอกนั่นเลยค่ะ” เธอไม่พูดเปล่า แต่ลุกขึ้นเดินมานั่งข้าง ๆ ผม หึใครจะอยากให้นั่งข้าง ๆ กัน ผมเอี้ยวตัวใช้สองมือหนาจับเอวเธอแล้วยกตัวเธอขึ้นมาน
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.2ณ.สนามบิน “ทำไมให้พกชุดเยอะขนาดนี้ เวย์” สีหน้าของเมียผมเลิกคิ้วมองอย่างใคร่รู้“ทริปเยอะ ต้องเปลี่ยนชุดบ่อย” ผมตอบไปแบบนั้น“ขนาดนั้นเลยเหรอ” เธอยังหันมาเลิกคิ้วมองผม น่ารักจังเหมือนเจ้าหนูจำไม“เดี๋ยวก็รู้” ผมก็ยังกักแพลนไม่บอกเธอหรอก ใครจะบอกว่าผมมีแพลนทำลูกกับเมียผมล่ะ จริงมั้ย ฮ่า...ณ.สนามบินต่างประเทศ J“ว้าว ประเทศ J...อยากมาตั้งนานแล้ว รู้ได้ไงว่าพี่อยากมาที่นี่”“เดาเอาสงสัย ใจตรงกันมั้ง”“จริงเหรอ ไม่ได้แอบถามใครใช่มั้ย”“ผมจะถามใครได้ล่ะ รีบไปกันเถอะครับอากาศหนาว เดี๋ยวพี่เป็นหวัดขึ้นมาจะเที่ยวไม่สนุกนะ ผมตั้งใจทำทริปฮันนีมูนนี้เพื่อเราเลยนะครับ”“ก็ได้ ๆ งั้นเราไปที่พักกันก่อน คุณสามีนำทางเลยค่ะ” เธอหันมายิ้มให้ผม พร้อมกับเรียกสามี และนั่นทำให้ผมยิ้ม ผมเดินเข้าไปคล้องคอเธอก่อนจะพาเธอนั่งแท็กซี่ท้องถิ่นไปยังที่หมายซึ่งสถานที่ ๆ ผมเลือกนั้นแน่นอนว่าเพื่อสัมผัสความเป็นประเทศ J แล้วนั้นผมต้องเลือกโรงแรมดั้งเดิมของประเทศนี้แน่นอน แถมห้องพักที่นี่ยังมี บ่อแช่น้ำร้อนกลางแจ้งส่วนตัว ไพรเวทสุด ๆเมื่อเราเดินทางมาถึง
ตอนพิเศษ(WAY STORY)แผนการลับ ฉบับ Honeymoon (ฮันนีมูน) Part.1ณ.ห้องทำงานในบริษัท ผมที่กำลังง่วนกับการทำโปรเจค AI โครงการใหญ่ที่กำลังถึงโค้งสุดท้ายแล้วอย่างขยันขันแข็ง แน่นอนว่าผมต้องการให้มันเสร็จตามกำหนดการที่ผมได้วางไว้ เพราะไม่อยากให้แผนการบางอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันเลื่อนออกไปนั่นเองถ้าถามว่าอะไรสำคัญกว่างานตรงหน้า แน่นอนว่ามีสิ่งหนึ่งสำคัญที่สุด ไม่สิต้องเรียกว่ามันสำคัญที่สุดในชีวิตต่างหาก นั่นคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เมีย’ณ.ห้องประชุม“สุดยอดไม่คิดเลยว่า บริษัทเราจะสามารถสร้างเครื่องจักรกลอัจฉริยะนี่ขึ้นมาได้จริง ๆ รับรองว่าสิ่งนี้จะทำให้บริษัทเราก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดดแน่นอน” เสียงของท่านประธาน (พ่อของเมียผม) เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ“ต้องขอบคุณที่ท่านประธานตาแหลม ได้คุณเวย์มาร่วมงานกับบริษัทเราจริง ๆ ครับ เด็กรุ่นใหม่ไฟแรงแบบนี้พวกผมสนับสนุนเต็มที่เลย” เหล่าผู้ถือหุ้นเอ่ยขึ้น“สมกับเป็นลูกเขยผมมั้ยล่ะ ลูกสาวผมตาถึงจริง ๆ” คุณพ่อของออยเอ่ย“นั่นสิครับ คุณเวย์นี่ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร”“พวกท่านก็ชมผมเกินไปแล้วครับ ผลงานที่ออกมาแบบนี้ได้เพราะการร่วมมือของทุก
วิวาห์และแล้ววันสำคัญในชีวิตอีกหนึ่งวันของฉันก็มาถึง งานแต่งของฉันกับเวย์เราเลือกจัดงานแต่งแบบไทยที่บ้านของฉัน ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องด้วยชุดไทยประยุกต์สีขาวเงินนวลตา ทรงผมเกล้ามวยต่ำ ประดับด้วยปิ่นปักผมเรียบหรูให้ดูสวยงามมากขึ้น ใบหน้าถูกแต่งด้วยโทนนู้ดส้มอย่างละเมียดละไม“ว้าว เพื่อนรักสวยมากแม่” ยัยแพรวที่แทบจะตัวติดฉันตั้งแต่เช้า ซึ่งตอนนี้นางก็อยู่ในชุดไทยเพื่อนเจ้าสาวเช่นกัน“จริงเหรอ สวยแล้วใช่มั้ย” ฉันหันไปถามแพรวเพราะยังไม่มั่นใจในตัวเอง เอาจริงวันนี้มันเป็นวันสำคัญฉันก็อยากสวยที่สุดในชีวิตสักวันนั่นแหละ“สวยจริง ๆ ไม่ได้อวยเพราะเป็นเพื่อนรักแกหรอก”“งั้นเหรอ”“แกตื่นเต้นใช่ไหมออย”“ฉะ..ฉันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอแพรว” ไม่เกินจริง ฉันตื่นเต้นมากจริงๆ ไม่คิดว่าวันที่แต่งงานจะมาถึง ในชีวิตก่อนหน้านั้นไม่เคยมีภาพแบบนี้ในหัวมาก่อนจริง ๆ“อืม มองจากดาวอังคารก็ดูออกจริง ๆ เฮ้อ..ฉันเองก็ไม่คิดว่าฉันจะได้เห็นแกแต่งงานล้ำหน้าฉันไปแบบนี้ เศร้าเลยแฮะ แต่ก็ดีใจมาก ๆ ที่แกเจอคนที่สามารถฝากชีวิตได้ซะที”“แกเองก็รีบตามมาล่ะ อย่าปล่อยให้พี่เจเดนเคว้งนานเกินจนเขาท้อ”“รู้แล้วนะ วันนี้วันดีแกอย่าพูด