Mag-log inวิเวียนที่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้งเพราะไม่คิดว่าเพื่อนใหม่ของเธอจะใจดีและดีกับเธอได้ถึงเพียงนี้และดูเหมือนจะเริ่มมีหยดน้ำตาไหลซึมออกมาจากดวงตาคู่สวย เธอรีบยกมือขึ้นเช็ดคาบน้ำตาที่ไหลบนใบหน้าทันที
“ขอบใจพวกเธอมากเลยนะ ดีกับเรามากจริงๆ ตอนอยู่มอปลายเราไม่มีเพื่อนเลย ตอนนั้นเราเป็นเด็กทุนเพียงคนเดียวของห้องด้วย” เธอพูดไปใบหน้าก็เริ่มเศร้าหมองในตอนเรียนมัธยมปลายนั้นเธอไม่มีเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียว ในห้องเรียนส่วนมากจะมีแต่พวกลูกคุณหนูจึงไม่แปลกที่พวกเธอเหล่านั้นจะไม่คิดที่จะเอาคนอย่างเธอไปเป็นเพื่อน
เพียวยืนหยุดนิ่งแล้วรีบเดินเข้ามาโอบกอดร่างเล็กของวิเวียนทำไมชีวิตเธอถึงได้น่าสงสารขนาดนี้ความจนนี่ถึงกับทำให้ไม่มีเพื่อนดีๆได้เลยหรือไง คอยดูนะเธอจะทำให้ทุกคนได้รู้ว่าพวกเธอกับวิเวียนก็สามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้
“เรื่องมันผ่านไปแล้วลืมๆมันไปได้แล้วตอนนี้แกมีพวกเรานะ จุ๊บๆ แล้วเดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกับแฟนของฉันด้วย เขาเรียนอยู่วิศวะมหาลัยนี้นี่แหละ ชื่อมาร์ช เธอจะได้มีเพื่อนหลายๆคน”
“มาร์ช ที่พูดกันเมื่อกี้หรือเปล่า” วิเวียนเอียงคอสงสัย เหมือนว่าเธอจะได้ยินชื่อมาร์ชเมื่อครู่นี้ใช่มั้ยนะ เธอผละกายออกจากเพียวแล้วยืนรอฟังคำตอบ เพียวยิ้มร่าก่อนที่จะพยักหน้าเป็นเชิงว่าใช่ เขาคนนั้นนั่นแหละคือแฟนของเธอ
“ใช่คนนั้นนั่นแหละ”
พักเที่ยง
หลังจากที่ช่วงเช้าได้เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วรุ่นพี่ปีสี่จึงปล่อยให้เหล่านักศึกษาปีที่1 ได้ออกมารับประทานอาหารกลางวันและได้ไปเข้าเรียนตามรายวิชาที่ได้ลงทะเบียนเรียนกันไว้
“อิ่มจัง อาหารร้านนี้อร่อยมาก ข้าวให้เยอะมากและวันนี้ฉันก็เผลอกินข้าวหมดจานเลย ฮือ~ ฉันต้องอ้วนแน่!” เพียวที่พึ่งจะกินข้าวเสร็จมาดๆยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองใบหน้าของเธอแสดงออกขึ้นความสุขจากการที่ได้กินอาหารที่สุดแสนจะอร่อย
“วันนี้พวกเราทำกิจกรรมกันเหนื่อย สมควรแล้วที่ต้องกินข้าวเยอะๆ ตัวเล็กแค่นี้ไม่อ้วนหรอกนะ”เชอรีนที่เห็นเพียวพูดบ่นว่าอ้วนเธอจึงส่ายหน้าเล็กน้อยแอบตำหนิยัยนี่ที่เอาแต่คิดไปถึงเรื่องความอ้วนเสียเหลือเกิน จริงด้วยเธอลืมไปเลยว่ายัยเพียวเขามีแฟนนี่ก็เลยคงจะกังวลกลัวว่าแฟนอาจจะไม่ชอบเรื่องที่เธออ้วน
“ช่วงบ่ายพวกเรามีเรียน1วิชานะ มาพยายามไปด้วยกันมีอะไรก็ช่วยเหลือกันนะ” วิเวียนเปิดดูตารางสอนแล้วเงยหน้ามองไปยังเพื่อนสาวทั้งสามซึ่งพวกเธอก็พยักหน้ากันอย่างรับรู้ ไอรีนถามจี้ไปถึงเรื่องสำคัญของวิเวียนอีกครั้งเพราะกลัวว่านั้นอาจจะลืม
“หลังเลิกเรียนไปทำเรื่องทุนใช่ไหม” ที่ถามไม่ใช่อะไรนะจะไปด้วยนั่นแหละ ไอรีนคิดว่าไปไหนด้วยกันทั้งกลุ่มคงเป็นอะไรที่น่าจะรู้สึกดีมากกว่าการที่ไปคนเดียว
“อืมใช่แล้ว”
“เดี๋ยวไปเป็นเพื่อนแล้วหลังจากนั้นไปกินชาไข่มุกกัน เดี๋ยวฉันเลี้ยงเองเลี้ยงทุกคนด้วย ไปนะ ร้านอยู่หน้ามหาลัยนี่เอง”
“เราไปแต่เดี๋ยวเราจ่ายเองก็ได้ เราพอมี..” วิเวียนยิ้มกว้างเพื่อนของเธอทำไมใจดีและน่ารักแบบนี้และไอรีนไม่ต้องมาเลี้ยงชาไข่มุกเธอก็ได้เพราะเธอเองก็พอมีเงินอยู่บ้างและที่สำคัญเลยนะ..เธอรู้สึกเกรงใจ
“หยุดเลยรอบนี้ฉันขอเลี้ยงเองย่ะ ถือว่าเลี้ยงที่พวกเราได้มาเป็นเพื่อนกันไง” ไอรีนยกมือขึ้นห้ามไม่ว่าอย่างไรรอบนี้เธอต้องได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงชาไข่มุกให้จงได้ วิเวียนที่เห็นถึงความตั้งใจที่จะเป็นเจ้าภาพของไอรีนเธอก็ได้แค่เพียงพยักหน้าอย่างยอมรับ
“ก็ได้ยังไงก็ขอบคุณนะ”
30นาทีต่อมา
หลังจากที่ยื่นทำเรื่องขอทุนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเธอทั้ง4ก็พากันเดินออกมายังหน้ามหาลัยที่ซึ่งมีร้านชาไข่มุกอยู่ไม่ไกล
ร้านชาไข่มุกอาชิ
“รับอะไรดีคะ” ทันทีที่เดินเข้ามาในร้านเสียงหวานของพนักงานสาวก็ดังขึ้นแม้ว่าเธอจะพูดทั้งที่ยังไม่เงยหน้ามองก็ตาม เชอรีนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกส่งยิ้มให้กับพนักงานพลางส่งเสียงหวานสั่งเป็นคนแรก
“เอาชานมไต้หวันใส่บุก 1แก้วค่ะขอเป็นหวานน้อยนะคะ”
“เอาชาเขียวใส่ไข่มุก 1 แก้วค่ะ” เพียวที่เดินเข้ามาเป็นคนที่2 รีบสั่งเป็นคนถัดไปไอรีนที่ได้ยินเพียวสั่งชาเขียวก็เกิดความอยากกินขึ้นมาบ้าง เธอจึงได้สั่งเหมือนอย่างเช่นเพียว
“ชาเขียวเป็น 2 แก้วเลยค่ะ”
“เอาโกโก้ใส่ไข่มุก 1 แก้วค่ะ” วิเวียนยืนเกร็งเธอจะกินอะไรดี งั้นเป็นโกโก้ก็แล้วกันเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอเคยได้กินตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ชั้นมัธยมโดยส่วนตัวแล้วเธอชอบกินน้ำเปล่าซะมากกว่า พวกน้ำหวานอะไรพวกนี้ไม่ค่อยได้ตกถึงท้องเธอหรอก
“เชอรีน..” เสียงเรียกชื่อเชอรีนดังขึ้นจากทางด้านหลังของพวกเธอจึงทำให้ทั้ง4สาวหันกลับไปมองเป็นตาเดียว แล้วก็เป็นเชอรีนที่ยิ้มร่าด้วยความดีใจเพราะคนที่เรียกชื่อเธอก็คือพี่เก้าพี่ชายของเธอนั่นเอง
“โอ๊ะ~ พี่เก้านี่ สวัสดีค่ะ” มือเล็กยกขึ้นไหว้ไปยังชายหนุ่มรุ่นพี่สุดฮอตซึ่งเขาก็ยิ้มพร้อมกับยื่นมือมากุมศีรษะของเธอ
“หวัดดี..ยินดีต้อนรับเข้าสู่รั้วมหาลัยนะ” ชายหนุ่มรูปงามส่งยิ้มพร้อมทั้งมองไปยังพวกเธอทั้ง4 แววตาที่เขามองมามันช่างอบอุ่นหัวใจเสียเหลือเกินทำเอาไอรีนที่มองอยู่แถบจะละลาย เขาจะรู้ตัวบ้างไหมว่ากำลังทำให้เธอรู้สึกเขินอายเพราะเขาหน้าตาหล่อมากๆแถมยังดูดีมีเสน่ห์น่าหลงใหล
ไอรีนรู้สึกดีแต่ยังคงยืนนิ่งไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไป..
ว่าแต่เขาเป็นใครกันนะ...แล้วชื่อเก้าเหรอ มันฟังดูแล้วคุ้นๆยังไงก็ไม่รู้เหมือนว่าเคยได้ยินที่ไหนแต่ก็นึกไม่ออก~
“พวกแกนี่พี่เก้า ลูกพี่ลูกน้องของเราเอง” เชอรีนหันมาแนะนำลูกพี่ลูกน้องของตัวเองให้เพื่อนๆได้ทำความรู้จักและพอรู้ว่าเขาคือพี่ชายของเชอรีนก็ทำเอาไอรีนแอบลอบยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ
เธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้คงเกิดมาเป็นคู่แท้ของเธอ…
แต่เอ๊ะ! นี่เธอมัวมาคิดอะไรอยู่เนี่ย ดูจะใจง่ายเกินไปหรือเปล่าที่พอเห็นพี่เขาครั้งแรกก็คิดไปถึงเรื่องแต่งงานเป็นที่เรียบร้อย
หึ~ ยัยบ้าเอ๊ย!!
“สวัสดีค่ะพี่เก้า” ทั้งสามคนที่เหลือต่างก็พากันยกมือขึ้นไหว้ไปยังพี่ชายของเชอรีนทำเอาชายหนุ่มรูปหล่อถึงกับรีบยกมือรับไหว้แทบจะไม่ทัน เขารีบแนะนำตัวเองกลับไปอย่างไม่รีรออะไร
“หวัดดีครับน้องๆ พี่อยู่ปี3 คณะทันตะครับ”
“ว้าว~ ว่าที่คุณหมอฟันซะด้วย” ไอรีนได้ทีรีบเอ่ยปากแซวไปยังพี่ชายของเชอรีน เธอมองใบหน้าเขาได้เพียงครู่เดียวเท่านั้นก่อนที่จะก้มหน้าหันมองไปทางอื่น คนอะไรหน้าตาหล่อผิวพรรณสะอาดเหมือนอาบน้ำวันละ10รอบ
“ว่าแต่เชอรีนสั่งอะไร” เก้าถามน้องสาวตัวเองพลางมองดูเมนูของทางร้านที่มีเยอะจนเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี
“เชอสั่งชานมไต้หวันค่ะ”
“อืม งั้นผมขอชานมไต้หวันเพิ่มอีก 1 แก้วแล้วกันครับ” เก้าหันไปบอกกับพนักงานของร้านพร้อมทั้งหันมายิ้มอย่างอบอุ่นให้กับน้องสาวและเพื่อนของเธอ
วันนี้เขาขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงชาไข่มุกรุ่นน้องหน่อยก็แล้วกัน…
“เดี๋ยวพี่เลี้ยงพวกเราเองนะ ถือว่าเลี้ยงต้อนรับรุ่นน้องเข้าสู่รั้วมหาลัย” หนุ่มสุภาพพูดไปพร้อมกับยิ้มซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่พนักงานของร้านได้ทำเครื่องดื่มเสร็จพอดี เธอยื่นถุงที่บรรจุแก้วน้ำหวานทั้ง5แล้ววางไว้บนถาด
“ได้แล้วค่ะทั้งหมด 145 บาทค่ะ”
“นี่ครับ”
พร้อมทั้งพูดย้ำเมื่อเห็นว่ามันยังคงนิ่งไม่ยอมลงไปจากรถของเธอ“ลงไปสิฉันจะไปแล้ว” เธอเอ่ยเสียงเรียบไล่เร็นให้ลงไปจากรถของเธอ เร็นที่โดนไล่แบบนั้นก็ตัดสินใจเปิดประตูก้าวเท้าเดินลงจากรถอย่างว่าง่าย ไอรีนโล่งใจเมื่อเห็นว่าเร็นได้ลงไปแล้ว มือเล็กเตรียมที่จะออกรถขับเคลื่อนออกไปและในขณะที่เธอยังคงให้ความสนใจไปกับการสตาร์ทรถ ประตูรถฝั่งเธอก็ถูกเปิดออกพรึ่บ!“ยาคุมฉุกเฉินอะไรนั่นลงมาซื้อด้วยกันเถอะ” เสียงทุ้มประกาศบอกหญิงสาวรุ่นพี่ ไอรีนชะงักอ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าเด็กนี่จะกล้ามาชวนเธอแบบนี้“มะ ไม่ นายขึ้นห้องไปได้แล้ว” เธอปฏิเสธออกไปพร้อมกับยื่นมือไปปิดประตูแต่จังหวะนั้นเร็นที่มือยาวกว่าก็เริ่มปฏิบัติการณ์ดึงมือเล็กของไอรีน เขาออกแรงดึงร่างบางให้ลงจากรถ“นี่ ปล่อยมือฉันนะ ไม่เอา ไม่ลง!” ไอรีนร้องโวยวายแต่สุดท้ายเธอก็โดนดึงลงมาจากรถสำเร็จ หนุ่มวิศวะปิดประตูเสียงดังพร้อมทั้งแย่งกุญแจรถของเธอไปครอบครอง มือหนาเอื้อมมาจับมือเล็กของไอรีน เขาพาเธอเดินไปร้านขายยาที่อยู่ไม่ไกลในตลอดทางไอรีนพยายามเป็นอย่างมากที่จะหนี แต่สุดท้ายเร็นก็พาเธอมายังร้านขายยาได้จนสำเร็จ...ร้านขายยาและทันทีที่เดินเข้ามาใ
กึก!!ไอรีนที่ได้ยินแบบนั้นก็อ้าปากค้างหน้าเหวอไปเลย รับผิดชอบอะไรของมันแล้วมันใช่เรื่องไหมที่เธอต้องมาทำอะไรแบบนี้แต่ถามสักหน่อยแล้วกันว่า ‘คำว่ารับผิดชอบ’ คือเธอต้องทำอะไรบ้าง“รับผิดชอบยังไงจะให้ฉันทำอะไรบ้าง ดูแลไปรับไปส่งนายแบบนั้นใช่ไหม” เธอหันไปมองหน้าเร็นเพื่อรอคำตอบ สายตาที่มองไปยังหนุ่มวิศวะทำเอาเขาแทบละลาย ทำไมเมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดที่จะมองเธอในด้านพวกนี้เลยนะ“จอดรถก่อนสิ ตรงนั้น” หนุ่มตัวร้ายชี้มือไปยังริมถนนข้างหน้า ไอรีนที่ได้ยินแบบนั้นก็เลือกที่จะทำตามอย่างคนที่ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เธอจอดรถริมทางเป็นที่เรียบร้อย สายตาจับจ้องมองไปยังเด็กหนุ่มรุ่นน้องดังเดิม“พูดมาสักที” เร็นกระตุกยิ้มชวนขนหัวลุก เขาเริ่มพูดในสิ่งที่ตัวเขาเองต้องการ“เธอต้องห้ามมีคนอื่น!!” ไอรีนตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เฮ้ย!! ได้ไงอะ มันมีสิทธิ์อะไรมาห้ามคนโสดอย่างเธอไม่ให้มีแฟนกันเนี่ย ใบหน้าสวยบูดบึ้งเธอยกมือขึ้นกอดอกสายตาคมมองจ้องไปยังเขาอย่างไม่ยอมลดละ“มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง นี่ฉันเป็นพี่สาวนายนะ!!” ด้วยความโกรธจึงทำให้เธอยังคงย้ำเตือนเรื่องที่ตัวเองมีศักดิ์เป็นพี่สาวของเด็กนี่ มือเล็กกำหมัดแน่น เร็นเอื้อม
ยัยนี่คงกลับมาอาบน้ำที่ห้องตัวเองและคิดจะหนีเขาด้วยการออกไปข้างนอกอย่างนั้นสินะ หึ แต่ก็ยังช้ากว่าเขาไปก้าวนึง...“ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วนี่จะออกไปไหน” เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงผะแผ่วแต่มือหนานั้นคว้าไปที่ข้อมือของเธอพร้อมทั้งออกแรงดึงรั้งให้ไอรีนขยับตัวเข้าหาเขาไอรีนไม่ต้องการตอบ เธอทำเพียงแค่ออกแรงผลักน้องชายให้ออกไปให้พ้นแต่ผลักเท่าไรมันก็ไม่ออกไปสักทีจนกระทั่ง...“เร็น ลูกมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เหมือนโชคจะเข้าข้างไอรีนเมื่ออยู่ๆเสียงของน้าผกาก็ดังขึ้น คนทั้งคู่ต่างก็มองไปยังหญิงวัยกลางคนที่ยืนส่งยิ้มอยู่ไม่ไกล ไอรีนได้จังหวะนั้นแกะมือของเร็นออกจากแขนของเธอได้สำเร็จ“น้าผกากลับมาแล้วเหรอคะ” เธอรีบล็อคประตูห้องนอนของตัวเองแล้วเดินไปหาน้าผกาทันที“จ้า น้ากลับมาแล้วว่าแต่ลูกชายของน้ามาตั้งแต่เมื่อไรเหรอ” น้าผกายิ้มรับด้วยใบหน้าสดใสและไม่ลืมที่จะถามไปถึงลูกชายของเธอ ไอรีนปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เธอยิ้มแล้วตอบกลับอย่างไม่มีพิรุธใดๆ“มาตั้งแต่วันศุกร์ตอนเย็นแล้วค่ะ พ่อละคะ”“พ่อหนูอยู่ข้างล่างลูก”“งั้นไอรีนขอตัวลงไปหาพ่อก่อนนะคะ” เมื่อได้ยินแบบนั้น ไอรีนก็ใช้จังหวะนี้เดินลงไปข้างล่างได้อย่า
เธอมองหน้าเร็นแล้วนิ่งอย่างครุ่นคิดว่าเด็กนี่มันเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร มันเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหนแล้วทำไมเธอถึงไม่รู้อะไรเลย แต่ช่างเถอะจะมาคิดตอนนี้มันก็คงไม่ช่วยอะไรสู้หาทางกลับไปนอนห้องของตัวเองให้ได้ก่อนจะดีกว่าแล้วทางเดียวที่คิดออกก็คือคงต้องพึ่งพ่อกับน้าผกา...“นี่!! พ่อกับน้าผกาอาจจะกลับมาตอนเช้าก็ได้นะ” เธอพูดออกไปใจก็หวั่นเกรงกลัวว่ามันจะไม่ยอมให้เธอออกไป ใจของไอรีนเต้นแรงมาก มากเสียจนกลัวว่าเด็กหนุ่มข้างกายของเธอจะได้ยิน“แล้วไง เขาไม่เปิดประตูเข้ามาหรอก แต่ถ้าเปิดก็ดีเหมือนกัน” ดียังไงของมันไอรีนทำสีหน้าโกรธ เร็นยิ้มร้ายพูดตอบกลับไอรีนด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เขาคิดว่าเห็นก็ดีเพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดที่จะปกปิดเรื่องระหว่างเขากับเธออยู่แล้วยังไงซะพ่อของเธอกับแม่ของเขาก็ควรที่จะต้องรู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้วและถ้าจะทำให้พวกเขาเห็นเร็วขึ้นเขาก็คิดว่าน่าจะดีมากๆเหมือนกัน ไอรีนที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่อึ้ง เธอกระพริบตาถี่ๆอย่างคนที่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ“ดีกับผีอะดิ อะ จะทำอะไร?” ไอรีนหันหน้ามองไปทางอื่นซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เร็นเอื้อมมือมาเชยคางของเธอให้หันกลับมามองหน้ากัน หญิ
“พูดแบบนี้อยากต่อรอบสองใช่ไหม ได้นะ” หนุ่มวิศวะเริ่มขยับเข้าออกยังรูร่องสีหวานอีกครั้งทำเอาไอรีนเบ้หน้าหวาดกลัวจนตัวสั่นไหว เธอกระพริบตาถี่ๆอย่างคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง มือเล็กผลักดันอกแกร่งของเขาเอาไว้“อย่านะ!” เร็นมองดูภาพตรงหน้านิ่งแล้วเพียงชั่วครู่เขาก็ลอบถอนหายใจออกมา ก็ได้นี่เห็นว่าเป็นครั้งแรกที่เธอรู้เรื่องนี้หรอกนะเขาจึงยอมปล่อยเธอให้ได้พักผ่อน หนุ่มวิศวะยกร่างเล็กขึ้นเล็กน้อยเขาดึงความเป็นชายออกมาจากร่องของรุ่นพี่สาวน้ำกามที่อยู่ภายในร่องไหลย้อนกลับออกมาเขามองดูน้ำสีขาวขุ่นแล้วคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจไอรีน..เธอรู้สักทีนะว่าเขาคนนี้นี่แหละที่เป็นเจ้าของเธอแต่เพียงผู้เดียว...ไอรีนดึงผ้าห่มมาพันร่างกายอย่างลวกๆ เธอค่อยๆขยับเพื่อเตรียมที่จะลงจากเตียงนอนแต่ทว่ากลับโดนมือเขาจับเธอเอาไว้ก่อน“ปล่อยนะ!” เธอมองหน้าเขาอย่างไม่วางตาเพราะไม่รู้ว่าไอ้บ้านี่มันจะทำอะไรเธออีกหรือเปล่า“จะไปไหน จะกลับห้องด้วยสภาพแบบนี้น่ะเหรอ” สายตาคมมองไปตามเรือนร่างของรุ่นพี่สาว เขาแสยะยิ้มออกมาราวกับสมเพชไอรีน“แบบนี้แล้วจะทำไม ปล่อยนะ! จะไปเข้าห้องน้ำ” ไอรีนคิดไว้แล้วว่าจะเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำก่อน เธอต้อง
“ไปเอากับคนอื่นไป ฉันไม่ชินอะไรทั้งนั้น!!”“กล้าไล่ฉันแบบนี้รู้ผลที่จะตามมาหรือยัง” เร็นเงยหน้ามองไอรีนเขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่เธอคอยแต่ไล่กันแบบนี้ หนุ่มวิศวะเลือดร้อนลุกนั่งหลังตรง เขาจับขาเรียวของเธออ้าออกกว้างแล้วสวนสะโพกเข้าใส่ถาโถมรุนแรงปึก! ปึก! ปึก!“อ๊า~ อือ อะ พอแล้วหยุดทำแบบนี้สักที!!” หน้าอกทั้งสองข้างสั่นไหวไปหมด เร็นมองดูภาพนั้นก็ยิ่งทำให้ใจเต้นอย่างฮึกเหิม เขาเร่งจังหวะขยับเข้าออกเน้นๆจนร่างเล็กตรงหน้าสั่นคลอนไปทั่วทั้งตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เขาเอื้อมมือไปเขี่ยขยี้จุดไวสัมผัสของรุ่นพี่สาว ไอรีนเบ้หน้าไปมาด้วยความเสียดเสียว เมื่อไหร่กันนะที่เรื่องบ้าๆนี่จะจบลงสักที เธอเอื้อมมือไปจับเข้าที่มือหนานั้นพร้อมทั้งส่งสายตาอ้อนวอนรวมไปถึงคำพูดที่สื่อว่าไม่ไหว“พอแล้วเร็น ฉันไม่ไหว~” เธอไม่ไหวจริงๆดั่งคำที่ปากพูด แบบว่ามันทั้งเจ็บทั้งจุก..แต่มันก็ยังแฝงไปด้วยความรู้สึกเสียวจนต้องขมิบส่วนนั้นอยู่บ่อยครั้ง“ไม่ไหวในที่นี้คือเสียวจนจะทนไม่ไหวหรือเปล่า” ชายหนุ่มตัวร้ายยิ้มขึ้นที่มุมปากเขารู้ว่าเธอคงจะเสียวไปกับสิ่งที่เขากำลังกระทำอยู่“….” ไอรีนเลือกที่จะเงียบเพราะสิ่งที่มันพู