LOGINวิเวียนที่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้งเพราะไม่คิดว่าเพื่อนใหม่ของเธอจะใจดีและดีกับเธอได้ถึงเพียงนี้และดูเหมือนจะเริ่มมีหยดน้ำตาไหลซึมออกมาจากดวงตาคู่สวย เธอรีบยกมือขึ้นเช็ดคาบน้ำตาที่ไหลบนใบหน้าทันที
“ขอบใจพวกเธอมากเลยนะ ดีกับเรามากจริงๆ ตอนอยู่มอปลายเราไม่มีเพื่อนเลย ตอนนั้นเราเป็นเด็กทุนเพียงคนเดียวของห้องด้วย” เธอพูดไปใบหน้าก็เริ่มเศร้าหมองในตอนเรียนมัธยมปลายนั้นเธอไม่มีเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียว ในห้องเรียนส่วนมากจะมีแต่พวกลูกคุณหนูจึงไม่แปลกที่พวกเธอเหล่านั้นจะไม่คิดที่จะเอาคนอย่างเธอไปเป็นเพื่อน
เพียวยืนหยุดนิ่งแล้วรีบเดินเข้ามาโอบกอดร่างเล็กของวิเวียนทำไมชีวิตเธอถึงได้น่าสงสารขนาดนี้ความจนนี่ถึงกับทำให้ไม่มีเพื่อนดีๆได้เลยหรือไง คอยดูนะเธอจะทำให้ทุกคนได้รู้ว่าพวกเธอกับวิเวียนก็สามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้
“เรื่องมันผ่านไปแล้วลืมๆมันไปได้แล้วตอนนี้แกมีพวกเรานะ จุ๊บๆ แล้วเดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกับแฟนของฉันด้วย เขาเรียนอยู่วิศวะมหาลัยนี้นี่แหละ ชื่อมาร์ช เธอจะได้มีเพื่อนหลายๆคน”
“มาร์ช ที่พูดกันเมื่อกี้หรือเปล่า” วิเวียนเอียงคอสงสัย เหมือนว่าเธอจะได้ยินชื่อมาร์ชเมื่อครู่นี้ใช่มั้ยนะ เธอผละกายออกจากเพียวแล้วยืนรอฟังคำตอบ เพียวยิ้มร่าก่อนที่จะพยักหน้าเป็นเชิงว่าใช่ เขาคนนั้นนั่นแหละคือแฟนของเธอ
“ใช่คนนั้นนั่นแหละ”
พักเที่ยง
หลังจากที่ช่วงเช้าได้เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วรุ่นพี่ปีสี่จึงปล่อยให้เหล่านักศึกษาปีที่1 ได้ออกมารับประทานอาหารกลางวันและได้ไปเข้าเรียนตามรายวิชาที่ได้ลงทะเบียนเรียนกันไว้
“อิ่มจัง อาหารร้านนี้อร่อยมาก ข้าวให้เยอะมากและวันนี้ฉันก็เผลอกินข้าวหมดจานเลย ฮือ~ ฉันต้องอ้วนแน่!” เพียวที่พึ่งจะกินข้าวเสร็จมาดๆยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองใบหน้าของเธอแสดงออกขึ้นความสุขจากการที่ได้กินอาหารที่สุดแสนจะอร่อย
“วันนี้พวกเราทำกิจกรรมกันเหนื่อย สมควรแล้วที่ต้องกินข้าวเยอะๆ ตัวเล็กแค่นี้ไม่อ้วนหรอกนะ”เชอรีนที่เห็นเพียวพูดบ่นว่าอ้วนเธอจึงส่ายหน้าเล็กน้อยแอบตำหนิยัยนี่ที่เอาแต่คิดไปถึงเรื่องความอ้วนเสียเหลือเกิน จริงด้วยเธอลืมไปเลยว่ายัยเพียวเขามีแฟนนี่ก็เลยคงจะกังวลกลัวว่าแฟนอาจจะไม่ชอบเรื่องที่เธออ้วน
“ช่วงบ่ายพวกเรามีเรียน1วิชานะ มาพยายามไปด้วยกันมีอะไรก็ช่วยเหลือกันนะ” วิเวียนเปิดดูตารางสอนแล้วเงยหน้ามองไปยังเพื่อนสาวทั้งสามซึ่งพวกเธอก็พยักหน้ากันอย่างรับรู้ ไอรีนถามจี้ไปถึงเรื่องสำคัญของวิเวียนอีกครั้งเพราะกลัวว่านั้นอาจจะลืม
“หลังเลิกเรียนไปทำเรื่องทุนใช่ไหม” ที่ถามไม่ใช่อะไรนะจะไปด้วยนั่นแหละ ไอรีนคิดว่าไปไหนด้วยกันทั้งกลุ่มคงเป็นอะไรที่น่าจะรู้สึกดีมากกว่าการที่ไปคนเดียว
“อืมใช่แล้ว”
“เดี๋ยวไปเป็นเพื่อนแล้วหลังจากนั้นไปกินชาไข่มุกกัน เดี๋ยวฉันเลี้ยงเองเลี้ยงทุกคนด้วย ไปนะ ร้านอยู่หน้ามหาลัยนี่เอง”
“เราไปแต่เดี๋ยวเราจ่ายเองก็ได้ เราพอมี..” วิเวียนยิ้มกว้างเพื่อนของเธอทำไมใจดีและน่ารักแบบนี้และไอรีนไม่ต้องมาเลี้ยงชาไข่มุกเธอก็ได้เพราะเธอเองก็พอมีเงินอยู่บ้างและที่สำคัญเลยนะ..เธอรู้สึกเกรงใจ
“หยุดเลยรอบนี้ฉันขอเลี้ยงเองย่ะ ถือว่าเลี้ยงที่พวกเราได้มาเป็นเพื่อนกันไง” ไอรีนยกมือขึ้นห้ามไม่ว่าอย่างไรรอบนี้เธอต้องได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงชาไข่มุกให้จงได้ วิเวียนที่เห็นถึงความตั้งใจที่จะเป็นเจ้าภาพของไอรีนเธอก็ได้แค่เพียงพยักหน้าอย่างยอมรับ
“ก็ได้ยังไงก็ขอบคุณนะ”
30นาทีต่อมา
หลังจากที่ยื่นทำเรื่องขอทุนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเธอทั้ง4ก็พากันเดินออกมายังหน้ามหาลัยที่ซึ่งมีร้านชาไข่มุกอยู่ไม่ไกล
ร้านชาไข่มุกอาชิ
“รับอะไรดีคะ” ทันทีที่เดินเข้ามาในร้านเสียงหวานของพนักงานสาวก็ดังขึ้นแม้ว่าเธอจะพูดทั้งที่ยังไม่เงยหน้ามองก็ตาม เชอรีนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกส่งยิ้มให้กับพนักงานพลางส่งเสียงหวานสั่งเป็นคนแรก
“เอาชานมไต้หวันใส่บุก 1แก้วค่ะขอเป็นหวานน้อยนะคะ”
“เอาชาเขียวใส่ไข่มุก 1 แก้วค่ะ” เพียวที่เดินเข้ามาเป็นคนที่2 รีบสั่งเป็นคนถัดไปไอรีนที่ได้ยินเพียวสั่งชาเขียวก็เกิดความอยากกินขึ้นมาบ้าง เธอจึงได้สั่งเหมือนอย่างเช่นเพียว
“ชาเขียวเป็น 2 แก้วเลยค่ะ”
“เอาโกโก้ใส่ไข่มุก 1 แก้วค่ะ” วิเวียนยืนเกร็งเธอจะกินอะไรดี งั้นเป็นโกโก้ก็แล้วกันเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอเคยได้กินตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ชั้นมัธยมโดยส่วนตัวแล้วเธอชอบกินน้ำเปล่าซะมากกว่า พวกน้ำหวานอะไรพวกนี้ไม่ค่อยได้ตกถึงท้องเธอหรอก
“เชอรีน..” เสียงเรียกชื่อเชอรีนดังขึ้นจากทางด้านหลังของพวกเธอจึงทำให้ทั้ง4สาวหันกลับไปมองเป็นตาเดียว แล้วก็เป็นเชอรีนที่ยิ้มร่าด้วยความดีใจเพราะคนที่เรียกชื่อเธอก็คือพี่เก้าพี่ชายของเธอนั่นเอง
“โอ๊ะ~ พี่เก้านี่ สวัสดีค่ะ” มือเล็กยกขึ้นไหว้ไปยังชายหนุ่มรุ่นพี่สุดฮอตซึ่งเขาก็ยิ้มพร้อมกับยื่นมือมากุมศีรษะของเธอ
“หวัดดี..ยินดีต้อนรับเข้าสู่รั้วมหาลัยนะ” ชายหนุ่มรูปงามส่งยิ้มพร้อมทั้งมองไปยังพวกเธอทั้ง4 แววตาที่เขามองมามันช่างอบอุ่นหัวใจเสียเหลือเกินทำเอาไอรีนที่มองอยู่แถบจะละลาย เขาจะรู้ตัวบ้างไหมว่ากำลังทำให้เธอรู้สึกเขินอายเพราะเขาหน้าตาหล่อมากๆแถมยังดูดีมีเสน่ห์น่าหลงใหล
ไอรีนรู้สึกดีแต่ยังคงยืนนิ่งไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไป..
ว่าแต่เขาเป็นใครกันนะ...แล้วชื่อเก้าเหรอ มันฟังดูแล้วคุ้นๆยังไงก็ไม่รู้เหมือนว่าเคยได้ยินที่ไหนแต่ก็นึกไม่ออก~
“พวกแกนี่พี่เก้า ลูกพี่ลูกน้องของเราเอง” เชอรีนหันมาแนะนำลูกพี่ลูกน้องของตัวเองให้เพื่อนๆได้ทำความรู้จักและพอรู้ว่าเขาคือพี่ชายของเชอรีนก็ทำเอาไอรีนแอบลอบยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ
เธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้คงเกิดมาเป็นคู่แท้ของเธอ…
แต่เอ๊ะ! นี่เธอมัวมาคิดอะไรอยู่เนี่ย ดูจะใจง่ายเกินไปหรือเปล่าที่พอเห็นพี่เขาครั้งแรกก็คิดไปถึงเรื่องแต่งงานเป็นที่เรียบร้อย
หึ~ ยัยบ้าเอ๊ย!!
“สวัสดีค่ะพี่เก้า” ทั้งสามคนที่เหลือต่างก็พากันยกมือขึ้นไหว้ไปยังพี่ชายของเชอรีนทำเอาชายหนุ่มรูปหล่อถึงกับรีบยกมือรับไหว้แทบจะไม่ทัน เขารีบแนะนำตัวเองกลับไปอย่างไม่รีรออะไร
“หวัดดีครับน้องๆ พี่อยู่ปี3 คณะทันตะครับ”
“ว้าว~ ว่าที่คุณหมอฟันซะด้วย” ไอรีนได้ทีรีบเอ่ยปากแซวไปยังพี่ชายของเชอรีน เธอมองใบหน้าเขาได้เพียงครู่เดียวเท่านั้นก่อนที่จะก้มหน้าหันมองไปทางอื่น คนอะไรหน้าตาหล่อผิวพรรณสะอาดเหมือนอาบน้ำวันละ10รอบ
“ว่าแต่เชอรีนสั่งอะไร” เก้าถามน้องสาวตัวเองพลางมองดูเมนูของทางร้านที่มีเยอะจนเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี
“เชอสั่งชานมไต้หวันค่ะ”
“อืม งั้นผมขอชานมไต้หวันเพิ่มอีก 1 แก้วแล้วกันครับ” เก้าหันไปบอกกับพนักงานของร้านพร้อมทั้งหันมายิ้มอย่างอบอุ่นให้กับน้องสาวและเพื่อนของเธอ
วันนี้เขาขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงชาไข่มุกรุ่นน้องหน่อยก็แล้วกัน…
“เดี๋ยวพี่เลี้ยงพวกเราเองนะ ถือว่าเลี้ยงต้อนรับรุ่นน้องเข้าสู่รั้วมหาลัย” หนุ่มสุภาพพูดไปพร้อมกับยิ้มซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่พนักงานของร้านได้ทำเครื่องดื่มเสร็จพอดี เธอยื่นถุงที่บรรจุแก้วน้ำหวานทั้ง5แล้ววางไว้บนถาด
“ได้แล้วค่ะทั้งหมด 145 บาทค่ะ”
“นี่ครับ”
“มันเรื่องของฉัน!” เร็นมองหน้าสวยหวานของรุ่นพี่สาวสายตาที่เขามองเธอมันเต็มไปด้วยความเย็นชาจนไอรีนนั้นเริ่มทนไม่ไหวปัง!!เธอตบโต๊ะอาหารอีกครั้ง เรื่องของฉันอย่างนั้นเหรอ ไอ้เด็กบ้านี่มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ“พูดจาห้วนๆแบบนี้อีกแล้วนะ ฉันแก่กว่านายนะ ไอ้เด็กบ้านี่!!” ไอรีนใบหน้ายู่ ชี้มือด่ากราดไปยังเด็กหนุ่มนิสัยไม่ดีตรงหน้า มีอย่างที่ไหนที่รู้จักกันแล้วแต่ก็ยังคงทำตัวพูดจาเดิมๆห้วนๆแบบนี้ใส่เธออยู่อีก“ไม่เอาน่าไอรีน ปล่อยน้องไปเถอะถือว่าพ่อขอแล้วกัน” พ่อเอื้อมมือมาจับแขนไอรีนพร้อมทั้งเอ่ยขอร้องแทนลูกชายของภรรยาใหม่ ไอรีนมองมือของพ่อที่จับแขนของเธอ นี่แค่วันแรกที่มันเข้ามาเหยียบในบ้านเองนะ พ่อยังขอร้องเธอให้มันขนาดนี้แล้วต่อๆไปเธอไม่กลายไปเป็นหมาหัวเน่าเลยเหรอ...“แต่ว่า..ก็แล้วแต่พ่อแล้วกันค่ะ ไอรีนขอตัวก่อนนะคะ” เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย ถ้าพ่ออยากให้พอเธอก็จะพอตามใจพ่อก็แล้วกัน ไอรีนหยัดกายลุกขึ้นยืนเมื่อคิดว่าตรงนี้ไม่น่าจะใช่ที่ของเธอแล้วเธอเดินสาวเท้าขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน เดินเข้าไปยังในห้องนอนของตัวเองและไม่ลืมที่จะบ่นไปยังได้เด็กผู้ชา
แม่บ้านรีบเดินออกไปเรียกลูกชายของน้าผกาและเพียงไม่นานชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีก็เดินเข้ามาตามหลังแม่บ้าน ผการีบลุกขึ้นยืนส่งเสียงดังเรียกชื่อลูกชายตัวเอง ความรู้สึกดีใจทำให้เธอเผลอลืมตัว“เร็น..มาแล้วเหรอลูก มานั่งข้างแม่เร็ว”“ครับ” เด็กหนุ่มขานรับเพียงแค่นั้นก่อนที่จะเดินเข้ามานั่งยังเก้าอี้ข้างแม่และเขาไม่รอช้าที่จะยกมือไหว้ไปยังสามีใหม่ของแม่ตัวเองพร้อมกับเริ่มแนะนำตัวเสร็จสรรพ“สวัสดีครับ ผมชื่อเร็น” เด็กหนุ่มยิ้มหน้าเจือนให้กับสามีใหม่ของแม่ตัวเองและทันทีที่ได้ยินคำแนะนำตัวที่ออกมาจากปากของเด็กหนุ่ม พ่อของไอรีนก็ทำเพียงแค่ยิ้ม เขาเปรยตามองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเร็นเด็กหนุ่มคนนี้หน้าตาดีผิวพรรณใช้ได้แต่คงต้องค่อยๆสอนเรื่องมารยาทเสียหน่อย อาจจะเพราะยังเด็กยังเป็นวัยรุ่นอยู่ด้วยนั่นแหละจึงทำให้ไม่ค่อยใส่ใจคนรอบข้างสักเท่าไหร่“หนูไอรีน นี่เร็น..ลูกชายของน้าเอง” น้าผกายิ้มกว้างเริ่มแนะนำลูกชายตัวเองให้ไอรีนได้รู้จัก เธอหวังเป็นอย่างยิ่งที่อยากจะให้เด็กทั้งสองได้อยู่ด้วยกันประดุจดั่งพี่น้องที่คลานตามกันมาแต่ทว่าเธอก็ไม่รู้เลยว่าเร็น..ลูกชายของเธอจะยอมย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่“เร
เก้าหยิบเงินที่อยู่ในกระเป๋านักศึกษาแล้วยื่นไปให้กับพนักงาน เขาหยิบถุงพวกนั้นขึ้นมาแล้วหยิบชานมไต้หวันของตัวเองเก็บไว้กับตัว ส่วนที่เหลือก็ยื่นไปให้เชอรีนให้จัดการแจกจ่ายให้กับเพื่อน และด้วยความที่เห็นว่าตอนนี้มันก็เย็นมากแล้วเค้าก็ไม่ลืมที่จะถามไปถึงเรื่องของการเดินทางกลับบ้านของน้องสาวตัวเอง“แล้วนี่กลับยังไงให้พี่ไปส่งไหม”“เดี๋ยวลุงคนขับมารับค่ะพี่เก้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”“อืม” เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ“แล้วนี่เหนื่อยหรือเปล่า”“เหนื่อยค่ะ วันนี้เหนื่อยมากก็เลยว่าจะแยกย้ายกลับไปนอน” เชอรีนพยักหน้าแล้วทำหน้ายู่ วันนี้ยอมรับว่าเหนื่อยจริง เหนื่อยจนอยากรีบกลับไปอาบน้ำเปิดแอร์แล้วนอนเก้าลูบศีรษะลูกพี่ลูกน้องด้วยความเอ็นดู เขายิ้มให้กับเธอพร้อมกับค่อยๆใช้มือขยี้เส้นผมของเธอไปมา ไอรีนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ชื่นชมไปกับความน่ารักของพี่ชายเชอรีน“งั้นก็ดี พักผ่อนเยอะๆ พี่ไปก่อนนะ” ทันทีที่พูดจบหนุ่มรุ่นพี่คณะทันตะก็ได้เดินออกไปจากร้านทันทีเพราะวันนี้เขายังมีงานที่ต้องรีบเคลียร์ให้เสร็จ“ยัยเชอ..” และทันทีที่พี่เขาได้เดินออกไปจากร้านแล้ว ฉันก็ได้เรียกชื่อเพื่อนสนิททัน
วิเวียนที่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้งเพราะไม่คิดว่าเพื่อนใหม่ของเธอจะใจดีและดีกับเธอได้ถึงเพียงนี้และดูเหมือนจะเริ่มมีหยดน้ำตาไหลซึมออกมาจากดวงตาคู่สวย เธอรีบยกมือขึ้นเช็ดคาบน้ำตาที่ไหลบนใบหน้าทันที“ขอบใจพวกเธอมากเลยนะ ดีกับเรามากจริงๆ ตอนอยู่มอปลายเราไม่มีเพื่อนเลย ตอนนั้นเราเป็นเด็กทุนเพียงคนเดียวของห้องด้วย” เธอพูดไปใบหน้าก็เริ่มเศร้าหมองในตอนเรียนมัธยมปลายนั้นเธอไม่มีเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียว ในห้องเรียนส่วนมากจะมีแต่พวกลูกคุณหนูจึงไม่แปลกที่พวกเธอเหล่านั้นจะไม่คิดที่จะเอาคนอย่างเธอไปเป็นเพื่อนเพียวยืนหยุดนิ่งแล้วรีบเดินเข้ามาโอบกอดร่างเล็กของวิเวียนทำไมชีวิตเธอถึงได้น่าสงสารขนาดนี้ความจนนี่ถึงกับทำให้ไม่มีเพื่อนดีๆได้เลยหรือไง คอยดูนะเธอจะทำให้ทุกคนได้รู้ว่าพวกเธอกับวิเวียนก็สามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้“เรื่องมันผ่านไปแล้วลืมๆมันไปได้แล้วตอนนี้แกมีพวกเรานะ จุ๊บๆ แล้วเดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกับแฟนของฉันด้วย เขาเรียนอยู่วิศวะมหาลัยนี้นี่แหละ ชื่อมาร์ช เธอจะได้มีเพื่อนหลายๆคน”“มาร์ช ที่พูดกันเมื่อกี้หรือเปล่า” วิเวียนเอียงคอสงสัย เหมือนว่าเธอจะได้ยินชื่อมาร์ชเมื่อครู่นี้ใช่มั้ยนะ เธอผละกาย
วิเวียนรับรู้ถึงความจริงใจของเชอรีนจึงทำให้เธอเผยรอยยิ้มออกมา ขอบคุณมากขอบคุณพวกเธอจริงๆที่อยากเป็นเพื่อนกับผู้หญิงจนๆแบบเธอ วิเวียนมีสีหน้าที่ดีขึ้นใบหน้าเริ่มคลี่ยิ้มอ่อนโยน เธอหยิบโทรศัพท์มือถือนำขึ้นมากดสแกนเพิ่มเพื่อน“หวัดดีนะวิเวียน เราไอรีนยินดีที่ได้รู้จักต่อไปพวกเราเป็นเพื่อนกันนะ” ไอรีนกล่าวถ้อยคำสั้นๆทักทายไปยังเพื่อนสาวคนใหม่หวังว่าเธอคนนี้จะเป็นคนดีและเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันนะ“ขอบใจนะงั้นเดียวเราเข้าไปยื่นใบสมัครก่อนนะ ไว้เจอกันตอนเปิดภาคเรียนนะ” วิเวียนยิ้มกว้างรู้สึกโชคดีมากได้มาพบเจอกลุ่มของหญิงสาวสามคนนี้แต่เธอจำใจต้องขอจบบทสนทนาไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อนเพราะในเวลานี้เธอแทบจะไม่มีเวลาหลงเหลือแล้ว คนจนแบบเธอต้องรีบเข้าไปยื่นใบสมัครแล้วต้องรีบกลับไปทำงานรับจ้างปูๆปลาๆตามประสางานอะไรก็ได้ที่มันได้เงินเธอพร้อมสู้ตาย....“โอเค เราดึงวิเวียนเข้ากลุ่มแล้วนะ บัยบายไว้เราทักไปนะ” เชอรีนเงยหน้าขึ้นมองสบตาเพื่อนใหม่พร้อมทั้งยกมือขึ้นร่ำลา ในตอนนี้เธอดึงวิเวียนเข้ามาในกลุ่มไลน์ของพวกเธอเรียบร้อยแล้ว วิเวียนโบกมือลาพร้อมกับรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปด้านในของคณะ“โอเคง
“โอเคเลย~”มาร์ชที่พอรู้ว่าคณะวิศวะของตัวเองอยู่ตรงไหนก็รีบสาวเท้าเดินออกไปทันที“งั้นพวกเราก็เข้าไปด้านในกันเถอะ” เพียวที่เห็นแฟนหนุ่มเดินออกไปแล้วจึงเอ่ยชวนเพื่อนรักทั้งสองให้เดินเข้าไปในคณะโดยที่มีเพียวกับไอรีนเดินนำอยู่ข้างหน้าแล้วตามด้วยเชอรีนเดินตามหลังคณะนิเทศศาสตร์ทันทีที่เธอได้เดินเข้าไปยังคณะ พวกเธอก็ได้พบกับหญิงสาวรายหนึ่งที่มองยังไงก็หน้าตาคล้ายกับเชอรีนไม่มีผิด ไอรีนกับเพียวต่างก็มองหน้ากันหรือว่าพี่คนสวยคนนี้จะเป็นญาติของเพื่อนเธอหรือเปล่านะ“มาแล้วเหรอเชอรีน~” แชมเปญหันไปมองเห็นน้องสาวของตัวเองเดินเข้ามาพอดีจึงทำให้เธอรีบเดินเข้าไปหา ใบหน้าสวยฉีกยิ้มขึ้นทำเอาไอรีนกับเพียวต่างก็รู้สึกชื่นชมไปกับความสวยของพี่เขา ผู้หญิงอะไรสวยชะมัด เชอรีนรีบเดินเข้าไปหาคนพี่ ทั้งสองโอบกอดกันกลมเพราะเป็นเวลาหลายวันแล้วที่เธอไม่ได้เจอพี่สาวคนโตเลย...“พี่แชมเปญคิดถึงจังเลยค่ะ~” คนน้องพูดขึ้นด้วยความคิดถึงทั้งสองผละกายออกจากกันแล้วก็เป็นเธอที่เริ่มแนะนำพี่สาวให้เพื่อนทั้งสองได้ทำความรู้จัก“พวกแกนี่พี่สาวเราเอง” ที่แท้สาวสวยคนนี้ก็เป็นพี่สาวของเพื่อนเธอนี่เอง ไอรีนกับเพียวต่างก็รีบยกมือขึ







