LOGINวิเวียนรับรู้ถึงความจริงใจของเชอรีนจึงทำให้เธอเผยรอยยิ้มออกมา ขอบคุณมากขอบคุณพวกเธอจริงๆที่อยากเป็นเพื่อนกับผู้หญิงจนๆแบบเธอ วิเวียนมีสีหน้าที่ดีขึ้นใบหน้าเริ่มคลี่ยิ้มอ่อนโยน เธอหยิบโทรศัพท์มือถือนำขึ้นมากดสแกนเพิ่มเพื่อน
“หวัดดีนะวิเวียน เราไอรีนยินดีที่ได้รู้จักต่อไปพวกเราเป็นเพื่อนกันนะ” ไอรีนกล่าวถ้อยคำสั้นๆทักทายไปยังเพื่อนสาวคนใหม่หวังว่าเธอคนนี้จะเป็นคนดีและเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันนะ
“ขอบใจนะงั้นเดียวเราเข้าไปยื่นใบสมัครก่อนนะ ไว้เจอกันตอนเปิดภาคเรียนนะ” วิเวียนยิ้มกว้างรู้สึกโชคดีมากได้มาพบเจอกลุ่มของหญิงสาวสามคนนี้แต่เธอจำใจต้องขอจบบทสนทนาไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อนเพราะในเวลานี้เธอแทบจะไม่มีเวลาหลงเหลือแล้ว คนจนแบบเธอต้องรีบเข้าไปยื่นใบสมัครแล้วต้องรีบกลับไปทำงานรับจ้างปูๆปลาๆตามประสา
งานอะไรก็ได้ที่มันได้เงินเธอพร้อมสู้ตาย....
“โอเค เราดึงวิเวียนเข้ากลุ่มแล้วนะ บัยบายไว้เราทักไปนะ” เชอรีนเงยหน้าขึ้นมองสบตาเพื่อนใหม่พร้อมทั้งยกมือขึ้นร่ำลา ในตอนนี้เธอดึงวิเวียนเข้ามาในกลุ่มไลน์ของพวกเธอเรียบร้อยแล้ว วิเวียนโบกมือลาพร้อมกับรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปด้านในของคณะ
“โอเคงั้นเราไปก่อนนะ”
“นั่น~ มาร์ชเดินมาพอดี” เพียวเหลือบไปเห็นว่ามาร์ชกำลังเดินมาพอดีจึงทำให้เธอชี้มือไปยังแฟนหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อ นิ่ง สมแล้วกับที่เป็นคุณชาย เขาเดินเข้ามาหาแฟนสาว เพียวจึงรีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเธอรู้ว่าตั้งแต่เช้าเขายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักนิด
“หิวมั้ยไปกินข้าวกันเถอะ” มือเล็กกอบกุมมือแฟนหนุ่มด้วยความหวงแหนทำเอาคนที่ไม่มีแฟนอย่างไอรีนถึงกับกรอกตามองบน อะไรจะคลั่งรักแบบนี้ เธอเบะปากด้วยความหมั่นไส้ เบื่อหน่ายจริงๆที่ต้องคอยมองดูคนมีความรักเช่นนี้
เมื่อไหร่เธอจะมีความรักดีๆกับเขาบ้าง...
แต่ก็นะคิดไปคิดมาไม่มีก็ดีเหมือนกัน ผู้ชายน่ะเจ้าชู้จะตายไปแล้วยิ่งไอ้ประเภทที่รักพี่เสียดายน้องจับปลาสองมืออะไรนั่นเธอยิ่งไม่ชอบใหญ่เลย สรุปเอาเป็นว่าอยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว
“ฉันก็หิวย่ะทำไมไม่เห็นถามกันบ้าง” ไอรีนยกมือขึ้นกอดอกทำเอาเพียวถึงกับขำขันไปกับท่าทางที่แสร้งทำของเพื่อน เธอรู้ว่ายัยนี่น่ะขี้แกล้งมากแค่ไหนและคงจะเหม็นความรักระหว่างเธอกับมาร์ชนั่นแหละ
“หึ~ ก็กำลังจะถามอยู่นี่ไง” มือเล็กของเพียวจี้เข้าไปยังบริเวณช่วงเอวของเพื่อนสาวทำเอาไอรีนรีบถอยตัวหนีเธอรู้สึกจั๊กจี้จนหลุดที่จะขำออกมาไม่ได้
“ฮ่าๆ เพียวพอแล้ว~”
“ยัยสองคนนี้นี่เล่นกันเป็นเด็กเลย..ว่าแต่พวกเราจะไปกินข้าวร้านไหนกันดี” เชอรีนอดที่จะรู้สึกสนุกไปกับเพื่อนไม่ได้ ใบหน้ายิ้มออกมาอย่างมีความสุข เธอเอ่ยถามถึงยังเรื่องร้านอาหารกับมาร์ชเพราะถ้าถามยัยสองคนนั้นดูแล้วก็คงน่าจะยังไม่ได้คำตอบ
“ไปห้างกันดีกว่าเผื่อจะได้เดินดูของด้วย เพียวมานี่เร็ว~” มาร์ชส่งเสียงเรียกชื่อแฟนสาวที่ตอนนี้ยังเอาแต่แกล้งจั๊กจี้ที่เอวไอรีนอยู่เลย สิ้นเสียงเรียกเพียวจึงล่ะมือออกจากจากกลั่นแกล้งไอรีนแล้วเดินเข้าไปกอบกุมมือแฟนหนุ่มที่เธอหลงใหล
“โอเค ไปกัน”
2 เดือนผ่านไป
มหาลัย AU
วันเปิดภาคเรียน
“ว่าแต่ยัยวิเวียนยังไม่มาอีกเหรอ” เสียงหวานของเชอรีนเอ่ยถามไปยังเพื่อนสนิททั้งสองโดยที่ตัวเธอนั้นพึ่งจะมาถึงและหย่อนก้นนั่งได้ยังไม่ทันจะถึง 5 นาทีเลยด้วยซ้ำ เพียวกับไอรีนต่างก็ส่ายหน้าเพื่อเป็นคำตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน
ครืด~
เสียงโทรศัพท์มือถือของไอรีนดังขึ้น มือเล็กหยิบมือถือหันโชว์หน้าจอให้เชอรีนได้เห็นเพราะคนที่โทรเข้ามาก็คือ วิเวียน ที่เชอรีนพึ่งจะถามหานั่นเอง
“นี่ไงโทรเข้ามาพอดี” ไอรีนกดรับสายหลังจากที่บอกเชอรีนเรียบร้อย ปลายสายรีบเอ่ยถามเพราะตรงที่เธอยืนอยู่ล้วนแล้วแต่มีผู้คนมากมายจึงทำให้ไม่รู้เลยว่ากลุ่มเพื่อนเธอไปนั่งกันอยู่ตรงไหน เมื่อวานก็ดันลืมถามเสียด้วย
(ฮัลโหล รออยู่ตรงไหนกันเหรอ เรามาถึงแล้วนะ)
“พวกฉันนั่งกันอยู่ตรงข้างๆตึก เดินผ่านคณะของพวกเรามาแล้วเลี้ยวซ้าย”
(โอเค อย่าพึ่งวางสายนะ)
วิเวียนเดินมาตามทางเดินที่ไอรีนได้บอกตอนนี้เธอเดินมาถึงหน้าคณะแล้วตรงทางข้างหน้ามีทางแยกพอดี เธอเดินเลี้ยวซ้ายไปตามที่เพื่อนได้บอกและเธอก็ได้พบกับกลุ่มเพื่อนของเธอที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะม้านั่ง
“วิเวียนทางนี้!!” เสียงของไอรีนดังขึ้นซึ่งนั่นจึงทำให้วิเวียนตอบกลับไปในสาย
(เราวางแล้วนะ)
ติ๊ด~
เธอรีบเดินปรี่เข้าไปหากลุ่มเพื่อนใหม่ของเธอ หญิงสาวได้แต่นึกอยู่ภายในใจขอให้เพื่อนๆของเธอไม่รังเกียจเธอด้วยเถอะนะ เพราะดูแล้วเพื่อนของเธอทั้งสามคงจะรวยมีฐานะซึ่งผิดกันกับเธอที่จนต้องขยันหาเงินเลี้ยงตัวเองไปด้วยในระหว่างที่เรียนหนังสือแบบนี้
“หวัดดีทุกคน” เสียงหวานทักทายไปยังเพื่อนใหม่ ทั้งสามสาวต่างก็ยิ้มให้กับเธอผู้ซึ่งมาใหม่ เชอรีนเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจว่าวิเวียนจะกินอะไรรองท้องมาบ้างหรือยังเพราะถ้ายังเธอมีขนมปังแซนวิซติดอยู่ในกระเป๋า
“หวัดดี วิเวียนกินอะไรมาหรือยัง”
“เรากินมาจากบ้านแล้วขอบใจนะ” วิเวียนพยักหน้าพลางส่งยิ้มหวานกลับไปให้สำหรับความน่ารักและจิตใจดีของเชอรีน จู่ๆเพียวที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ก็ส่งเสียงแทรกขึ้นราวกับว่ามีเรื่องสำคัญเร่งด่วน
“มาร์ชส่งข้อความมาบอกว่าคณะวิศวะของเขาเรียกรวมพลแล้ว รุ่นพี่มีแต่หน้าเคร่งขรึมกันทั้งนั้นแล้วดูนี่ดิมาร์ชส่งรูปของพวกสายฟ้ามาด้วย เห็นว่าโดนรุ่นพี่ปีที่4 เล่นงานเข้าให้ โทษฐานที่หล่อเกินหน้าเกินตารุ่นพี่แหละ”
เพียวมองไปที่เชอรีนที่ยังคงนิ่งไม่ได้สนใจต่อสิ่งที่เธอกำลังพูด งั้นเธอขอพูดต่ออีกสักหน่อยก็แล้วกัน เธอวางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะเพื่อให้ไอรีนกับวิเวียนได้ดู
“แกดูหน้าเวหาสิ ดูไม่ได้เลย หน้าตามีแต่แป้งขาววอกไปหมด ฮ่าๆ”
“รุ่นพี่เรียกรวมพลแล้ว ไปเร็ว!” เชอรีนทำทีเป็นไม่สนใจเธอต้องเข้มแข็งในเมื่อเลือกที่จะไม่กลับไปคืนดีกับเขาแล้ว ยังไงก็คงต้องรีบทำใจให้ได้โดยเร็วที่สุด หางตาสวยเหลือบไปเห็นรุ่นพี่ที่กำลังยืนรออยู่ตรงสนามที่อยู่ไม่ไกล
ทั้งสี่สาวลุกขึ้นยืนเก็บสัมภาระข้าวของแล้วพากันเดินไปยังสนามแห่งนั้นและในระหว่างที่จะเดินไปยังสนามกว้างเพื่อรวมพลนักศึกษาของคณะนิเทศ เสียงหวานของเชอรีนก็พูดขึ้นเพื่อย้ำเตือนให้วิเวียนจงอย่าลืมไปทำเรื่องของทุนการศึกษา
“วิเวียน~ อย่าลืมไปยื่นเรื่องทุนเรียนนะ” ซึ่งวิเวียนก็พยักหน้าอย่างแน่วแน่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับเธอเพราะถ้าไม่ได้รับทุนการศึกษาเธอคงต้องทำงานให้หนักขึ้นเพื่อที่จะได้มาซึ่งเงินจำนวนหลายหมื่นที่ไว้สำหรับจ่ายค่าเทอมของมหาวิทยาลัยแห่งนี้
“โอเค เราว่าจะเข้าไปทำเรื่องวันนี้นี่แหละ”
“เดี๋ยวพวกเราไปเป็นเพื่อน” ไอรีนที่เดินขนาบอีกข้างของวิเวียนเอ่ยขึ้นเธอยิ้มจนตาหยี เพียวที่เดินไปก่อนหน้าก็หันกลับมาอวยพรวิเวียนเช่นกันพร้อมทั้งกำชับเรื่องของเงินทองขาดเหลือยังไงบอกกันได้เลยนะ
“ขอให้แกได้ทุนการศึกษานะ พวกเราเอาใจช่วยแล้วถ้าไม่มีเงินยังไงต้องบอกพวกเรานะ”
“มันเรื่องของฉัน!” เร็นมองหน้าสวยหวานของรุ่นพี่สาวสายตาที่เขามองเธอมันเต็มไปด้วยความเย็นชาจนไอรีนนั้นเริ่มทนไม่ไหวปัง!!เธอตบโต๊ะอาหารอีกครั้ง เรื่องของฉันอย่างนั้นเหรอ ไอ้เด็กบ้านี่มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ“พูดจาห้วนๆแบบนี้อีกแล้วนะ ฉันแก่กว่านายนะ ไอ้เด็กบ้านี่!!” ไอรีนใบหน้ายู่ ชี้มือด่ากราดไปยังเด็กหนุ่มนิสัยไม่ดีตรงหน้า มีอย่างที่ไหนที่รู้จักกันแล้วแต่ก็ยังคงทำตัวพูดจาเดิมๆห้วนๆแบบนี้ใส่เธออยู่อีก“ไม่เอาน่าไอรีน ปล่อยน้องไปเถอะถือว่าพ่อขอแล้วกัน” พ่อเอื้อมมือมาจับแขนไอรีนพร้อมทั้งเอ่ยขอร้องแทนลูกชายของภรรยาใหม่ ไอรีนมองมือของพ่อที่จับแขนของเธอ นี่แค่วันแรกที่มันเข้ามาเหยียบในบ้านเองนะ พ่อยังขอร้องเธอให้มันขนาดนี้แล้วต่อๆไปเธอไม่กลายไปเป็นหมาหัวเน่าเลยเหรอ...“แต่ว่า..ก็แล้วแต่พ่อแล้วกันค่ะ ไอรีนขอตัวก่อนนะคะ” เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย ถ้าพ่ออยากให้พอเธอก็จะพอตามใจพ่อก็แล้วกัน ไอรีนหยัดกายลุกขึ้นยืนเมื่อคิดว่าตรงนี้ไม่น่าจะใช่ที่ของเธอแล้วเธอเดินสาวเท้าขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน เดินเข้าไปยังในห้องนอนของตัวเองและไม่ลืมที่จะบ่นไปยังได้เด็กผู้ชา
แม่บ้านรีบเดินออกไปเรียกลูกชายของน้าผกาและเพียงไม่นานชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีก็เดินเข้ามาตามหลังแม่บ้าน ผการีบลุกขึ้นยืนส่งเสียงดังเรียกชื่อลูกชายตัวเอง ความรู้สึกดีใจทำให้เธอเผลอลืมตัว“เร็น..มาแล้วเหรอลูก มานั่งข้างแม่เร็ว”“ครับ” เด็กหนุ่มขานรับเพียงแค่นั้นก่อนที่จะเดินเข้ามานั่งยังเก้าอี้ข้างแม่และเขาไม่รอช้าที่จะยกมือไหว้ไปยังสามีใหม่ของแม่ตัวเองพร้อมกับเริ่มแนะนำตัวเสร็จสรรพ“สวัสดีครับ ผมชื่อเร็น” เด็กหนุ่มยิ้มหน้าเจือนให้กับสามีใหม่ของแม่ตัวเองและทันทีที่ได้ยินคำแนะนำตัวที่ออกมาจากปากของเด็กหนุ่ม พ่อของไอรีนก็ทำเพียงแค่ยิ้ม เขาเปรยตามองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเร็นเด็กหนุ่มคนนี้หน้าตาดีผิวพรรณใช้ได้แต่คงต้องค่อยๆสอนเรื่องมารยาทเสียหน่อย อาจจะเพราะยังเด็กยังเป็นวัยรุ่นอยู่ด้วยนั่นแหละจึงทำให้ไม่ค่อยใส่ใจคนรอบข้างสักเท่าไหร่“หนูไอรีน นี่เร็น..ลูกชายของน้าเอง” น้าผกายิ้มกว้างเริ่มแนะนำลูกชายตัวเองให้ไอรีนได้รู้จัก เธอหวังเป็นอย่างยิ่งที่อยากจะให้เด็กทั้งสองได้อยู่ด้วยกันประดุจดั่งพี่น้องที่คลานตามกันมาแต่ทว่าเธอก็ไม่รู้เลยว่าเร็น..ลูกชายของเธอจะยอมย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่“เร
เก้าหยิบเงินที่อยู่ในกระเป๋านักศึกษาแล้วยื่นไปให้กับพนักงาน เขาหยิบถุงพวกนั้นขึ้นมาแล้วหยิบชานมไต้หวันของตัวเองเก็บไว้กับตัว ส่วนที่เหลือก็ยื่นไปให้เชอรีนให้จัดการแจกจ่ายให้กับเพื่อน และด้วยความที่เห็นว่าตอนนี้มันก็เย็นมากแล้วเค้าก็ไม่ลืมที่จะถามไปถึงเรื่องของการเดินทางกลับบ้านของน้องสาวตัวเอง“แล้วนี่กลับยังไงให้พี่ไปส่งไหม”“เดี๋ยวลุงคนขับมารับค่ะพี่เก้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”“อืม” เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ“แล้วนี่เหนื่อยหรือเปล่า”“เหนื่อยค่ะ วันนี้เหนื่อยมากก็เลยว่าจะแยกย้ายกลับไปนอน” เชอรีนพยักหน้าแล้วทำหน้ายู่ วันนี้ยอมรับว่าเหนื่อยจริง เหนื่อยจนอยากรีบกลับไปอาบน้ำเปิดแอร์แล้วนอนเก้าลูบศีรษะลูกพี่ลูกน้องด้วยความเอ็นดู เขายิ้มให้กับเธอพร้อมกับค่อยๆใช้มือขยี้เส้นผมของเธอไปมา ไอรีนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ชื่นชมไปกับความน่ารักของพี่ชายเชอรีน“งั้นก็ดี พักผ่อนเยอะๆ พี่ไปก่อนนะ” ทันทีที่พูดจบหนุ่มรุ่นพี่คณะทันตะก็ได้เดินออกไปจากร้านทันทีเพราะวันนี้เขายังมีงานที่ต้องรีบเคลียร์ให้เสร็จ“ยัยเชอ..” และทันทีที่พี่เขาได้เดินออกไปจากร้านแล้ว ฉันก็ได้เรียกชื่อเพื่อนสนิททัน
วิเวียนที่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้งเพราะไม่คิดว่าเพื่อนใหม่ของเธอจะใจดีและดีกับเธอได้ถึงเพียงนี้และดูเหมือนจะเริ่มมีหยดน้ำตาไหลซึมออกมาจากดวงตาคู่สวย เธอรีบยกมือขึ้นเช็ดคาบน้ำตาที่ไหลบนใบหน้าทันที“ขอบใจพวกเธอมากเลยนะ ดีกับเรามากจริงๆ ตอนอยู่มอปลายเราไม่มีเพื่อนเลย ตอนนั้นเราเป็นเด็กทุนเพียงคนเดียวของห้องด้วย” เธอพูดไปใบหน้าก็เริ่มเศร้าหมองในตอนเรียนมัธยมปลายนั้นเธอไม่มีเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียว ในห้องเรียนส่วนมากจะมีแต่พวกลูกคุณหนูจึงไม่แปลกที่พวกเธอเหล่านั้นจะไม่คิดที่จะเอาคนอย่างเธอไปเป็นเพื่อนเพียวยืนหยุดนิ่งแล้วรีบเดินเข้ามาโอบกอดร่างเล็กของวิเวียนทำไมชีวิตเธอถึงได้น่าสงสารขนาดนี้ความจนนี่ถึงกับทำให้ไม่มีเพื่อนดีๆได้เลยหรือไง คอยดูนะเธอจะทำให้ทุกคนได้รู้ว่าพวกเธอกับวิเวียนก็สามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้“เรื่องมันผ่านไปแล้วลืมๆมันไปได้แล้วตอนนี้แกมีพวกเรานะ จุ๊บๆ แล้วเดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกับแฟนของฉันด้วย เขาเรียนอยู่วิศวะมหาลัยนี้นี่แหละ ชื่อมาร์ช เธอจะได้มีเพื่อนหลายๆคน”“มาร์ช ที่พูดกันเมื่อกี้หรือเปล่า” วิเวียนเอียงคอสงสัย เหมือนว่าเธอจะได้ยินชื่อมาร์ชเมื่อครู่นี้ใช่มั้ยนะ เธอผละกาย
วิเวียนรับรู้ถึงความจริงใจของเชอรีนจึงทำให้เธอเผยรอยยิ้มออกมา ขอบคุณมากขอบคุณพวกเธอจริงๆที่อยากเป็นเพื่อนกับผู้หญิงจนๆแบบเธอ วิเวียนมีสีหน้าที่ดีขึ้นใบหน้าเริ่มคลี่ยิ้มอ่อนโยน เธอหยิบโทรศัพท์มือถือนำขึ้นมากดสแกนเพิ่มเพื่อน“หวัดดีนะวิเวียน เราไอรีนยินดีที่ได้รู้จักต่อไปพวกเราเป็นเพื่อนกันนะ” ไอรีนกล่าวถ้อยคำสั้นๆทักทายไปยังเพื่อนสาวคนใหม่หวังว่าเธอคนนี้จะเป็นคนดีและเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันนะ“ขอบใจนะงั้นเดียวเราเข้าไปยื่นใบสมัครก่อนนะ ไว้เจอกันตอนเปิดภาคเรียนนะ” วิเวียนยิ้มกว้างรู้สึกโชคดีมากได้มาพบเจอกลุ่มของหญิงสาวสามคนนี้แต่เธอจำใจต้องขอจบบทสนทนาไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อนเพราะในเวลานี้เธอแทบจะไม่มีเวลาหลงเหลือแล้ว คนจนแบบเธอต้องรีบเข้าไปยื่นใบสมัครแล้วต้องรีบกลับไปทำงานรับจ้างปูๆปลาๆตามประสางานอะไรก็ได้ที่มันได้เงินเธอพร้อมสู้ตาย....“โอเค เราดึงวิเวียนเข้ากลุ่มแล้วนะ บัยบายไว้เราทักไปนะ” เชอรีนเงยหน้าขึ้นมองสบตาเพื่อนใหม่พร้อมทั้งยกมือขึ้นร่ำลา ในตอนนี้เธอดึงวิเวียนเข้ามาในกลุ่มไลน์ของพวกเธอเรียบร้อยแล้ว วิเวียนโบกมือลาพร้อมกับรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปด้านในของคณะ“โอเคง
“โอเคเลย~”มาร์ชที่พอรู้ว่าคณะวิศวะของตัวเองอยู่ตรงไหนก็รีบสาวเท้าเดินออกไปทันที“งั้นพวกเราก็เข้าไปด้านในกันเถอะ” เพียวที่เห็นแฟนหนุ่มเดินออกไปแล้วจึงเอ่ยชวนเพื่อนรักทั้งสองให้เดินเข้าไปในคณะโดยที่มีเพียวกับไอรีนเดินนำอยู่ข้างหน้าแล้วตามด้วยเชอรีนเดินตามหลังคณะนิเทศศาสตร์ทันทีที่เธอได้เดินเข้าไปยังคณะ พวกเธอก็ได้พบกับหญิงสาวรายหนึ่งที่มองยังไงก็หน้าตาคล้ายกับเชอรีนไม่มีผิด ไอรีนกับเพียวต่างก็มองหน้ากันหรือว่าพี่คนสวยคนนี้จะเป็นญาติของเพื่อนเธอหรือเปล่านะ“มาแล้วเหรอเชอรีน~” แชมเปญหันไปมองเห็นน้องสาวของตัวเองเดินเข้ามาพอดีจึงทำให้เธอรีบเดินเข้าไปหา ใบหน้าสวยฉีกยิ้มขึ้นทำเอาไอรีนกับเพียวต่างก็รู้สึกชื่นชมไปกับความสวยของพี่เขา ผู้หญิงอะไรสวยชะมัด เชอรีนรีบเดินเข้าไปหาคนพี่ ทั้งสองโอบกอดกันกลมเพราะเป็นเวลาหลายวันแล้วที่เธอไม่ได้เจอพี่สาวคนโตเลย...“พี่แชมเปญคิดถึงจังเลยค่ะ~” คนน้องพูดขึ้นด้วยความคิดถึงทั้งสองผละกายออกจากกันแล้วก็เป็นเธอที่เริ่มแนะนำพี่สาวให้เพื่อนทั้งสองได้ทำความรู้จัก“พวกแกนี่พี่สาวเราเอง” ที่แท้สาวสวยคนนี้ก็เป็นพี่สาวของเพื่อนเธอนี่เอง ไอรีนกับเพียวต่างก็รีบยกมือขึ







![My Engineerรักร้ายนายจอมโหด [ต้าร์พินอิน]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)