บทที่ 3
“อีเหี้ยมันปฏิเสธกูอะ!!” เสียงขวัญเอยดังขึ้น มือที่ถือโทรศัพท์สั่นเล็กน้อย ใบหน้าที่เมื่อกี้ยังยิ้มเขิน ๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแดงก่ำทั้งเพราะความเสียใจและความอาย “ไหนพวกมึงบอกว่ามันชอบกูไง!!” “พวกกูจะไปรู้ใจมันได้ยังไง ก็กูเห็นมันตอบแชตแค่มึงคนเดียวจริง ๆ ทั้งห้องไม่เห็นมันตอบใครเลยนอกจากมึง” เมย์เลิกคิ้วนิด ๆ แล้วแอบเหยียดยิ้มมุมปาก ความสะใจฉายชัดบนใบหน้า แต่ปากยังพูดเรียบ ๆ แก้ตัว “อีเหี้ย แล้วมันปฏิเสธกูแบบนี้มันหมายความว่าไงวะ!? แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา มันคุยกับกู มันกดไลก์รูปให้กู มันคืออะไรวะ!?” “เออนั่นดิ กูไม่เคยเห็นมันกดไลก์ให้ใครเลยนะ นอกจากแฟนมัน หรือคนที่มันคุยอยู่ แล้วมึงก็เป็นคนเดียวในห้องที่มันกดให้ด้วยซ้ำ” เป็นฟ้าเอ่ยเสริม “หรือมันไม่กล้ายอมรับความรู้สึกตัวเอง มึงลองไปคุยกับมันต่อหน้าดูดิ จะได้เห็นสีหน้ามันจริง ๆ ว่ามันรู้สึกยังไงกับมึงกันแน่” “ขนาดนี้แล้ว พวกมึงยังจะบอกให้มันไปคุยอีกเหรอ?” เสียงของแก้มยุ้ยดังขึ้นบ้าง อย่างมองสถานการณ์ออก “ไอ้จินอ่ะ ถ้ามันไม่ชอบ มันก็จะบอกเลย มันเป็นคนชัดเจนตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว กูเป็นเพื่อนกับมันมาตั้งแต่เด็ก กูรู้จักนิสัยมันดี” น้ำเสียงของแก้มยุ้ยหนักแน่นจริงจัง ไม่ได้พูดเอามัน แต่พูดให้ขวัญเอยได้สติ ทำให้ขวัญเอยนิ่งไป มองต่ำ มือกำโทรศัพท์แน่น ใจมันทั้งเจ็บทั้งอาย และในขณะที่เพื่อนบางคนพยายามช่วยปลอบ เมย์กลับนั่งเงียบ เหยียดยิ้มบาง ๆ อย่างสะใจ “ไปเข้าห้องน้ำนะ” ไอมิเอะหันไปพูดกับยี่หวาและเส้นด้ายด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ตามสไตล์ของเธอ ทั้งคู่ก็พยักหน้าโดยไม่ถามอะไร เพราะรู้ดีว่าไอมิเอะเป็นคนพูดน้อย ไม่ชอบให้ใครมาจี้จุดหรือจ้องนานเกินไป ไอมิเอะเดินตรงไปทางห้องน้ำหญิง ซึ่งอยู่เลยโถงบันไดตรงกลางชั้นเรียน แต่แล้วขากลับชะงักกึก เมื่อสายตาของเธอเผลอไปสะดุดกับภาพตรงบันไดทางขึ้นลงที่เชื่อมระหว่างตึกเรียนเก่าและใหม่ เป็นจินนั่งอยู่บนขั้นบันไดขั้นที่สี่ฝั่งซ้าย และพี่จ๊ะจ๋า รุ่นพี่ศิษย์เก่าของโรงเรียนนั่งอยู่ขั้นที่สองฝั่งตรงขวา สวมชุดนักศึกษารัดรูปพอดีตัว สองคนหันตัวเข้าหากัน แต่จินก้มหน้าดูโทรศัพท์ ภาพนั้นทำเอาไอมิเอะใจสั่นอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งที่แค่จะเดินไปเข้าห้องน้ำแท้ ๆ “จินลืมแอร์พอดไว้ที่ห้องพี่ ก็เลยเอามาให้” พี่จ๊ะจ๋าพูดด้วยเสียงนุ่ม แต่แฝงความสนิทสนมบางอย่างในน้ำเสียง จินเงยหน้ารับของพลางพยักหน้าเล็กน้อย ไอมิเอะทำได้แค่ยืนชะงักอยู่ตรงหัวมุมบันได มองภาพตรงหน้าราวกับเป็นฉากจากหนังที่เธอไม่ควรมีตัวตนอยู่ในเฟรมนี้ เสียงฝีเท้าเบา ๆ ของไอมิเอะบนพื้นปูน ทำให้จินที่นั่งก้มหน้าดูโทรศัพท์อยู่เงยขึ้นโดยไม่ตั้งใจ แค่เสี้ยววินาทีที่สายตาของเขาสบเข้ากับเธอ ร่างสูงชะงักเล็กน้อย แววตาคู่นั้นจ้องนิ่ง ราวกับจับภาพของเธอไว้โดยไม่ทันได้ตั้งใจจะทำ แต่จินไม่ได้ขยับ ไม่ได้เอ่ยทัก ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว แต่สายตากลับนิ่งจนไอมิเอะรู้สึกเหมือนกำลังถูกกลืนเข้าไปทั้งตัว จ๊ะจ๋าที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ จิน หันไปมองตามสายตาของจินอย่างอัตโนมัติ ตอนที่เห็นเขาหยุดชะงักเหมือนถูกอะไรบางอย่างสะกดไว้ ตอนแรกก็แค่คิดว่า คงเป็นใครสักคนเดินผ่านไปเท่านั้นเอง แต่พอจ๊ะจ๋าได้เห็นเด็กคนนั้นชัด ๆ ขาก็แทบจะไขว้ไม่ลงในทันที น้องคนนั้น หน้าตาน่ารักจนสะดุดตาแบบไม่ต้องพยายามอะไรเลย ดวงตากลมโตใสแจ๋ว ไม่ได้กรีดอายไลเนอร์ ขนตางอนยาว ไม่แต่งหน้า แต่แก้มอมชมพูมีเลือดฝาด ริมฝีปากก็สีแดงอมชมพูธรรมชาติ ไม่ได้แต่งแต้มใดๆ ไม่ได้แต่งหน้า แต่กลับดูโดดเด่นจนคนรอบข้างพลอยหมองไปถนัดตา ผิวก็ขาวแบบไม่ได้ขาวซีดอย่างจงใจ แต่เป็นขาวนวลเนียนแบบธรรมชาติ ขาวเหมือนมีแสงไฟซอฟต์ ๆ ติดอยู่กับตัวตลอดเวลา จ๊ะจ๋าเห็นแล้วเผลอเบะปากนิด ๆ อย่างหมั่นไส้ในใจ เอวก็เล็กคอดจนน่าหมั่นไส้ เล็กแบบ ‘จับแล้วเต็มมือ’ อย่างที่ผู้ชายชอบพูดกันเล่น ๆ เอวไม่น่าต่ำกว่าสิบแปดนิ้ว หน้าอกก็ใหญ่มหึมา ขาก็เรียวยาวแบบไม่ต้องพยายามยืนโพสต์ก็ยังดูดี จ๊ะจ๋าอดไม่ได้ที่จะมองไล่จากปลายผมลงมาจนถึงปลายเท้า แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองโดนเด็กกระแทกหน้าเข้าให้ นี่มัน…สเปกของจินชัด ๆ ผู้หญิงใส ๆ ไม่ประดิษฐ์ ไม่ทำตัวเยอะ แต่กลับสวยเกินหน้าเกินตา ดูน่าทะนุถนอม แต่ก็มีแรงดึงดูดประหลาดที่ทำให้ผู้ชายอยากเข้าใกล้โดยไม่รู้ตัว จ๊ะจ๋ากัดริมฝีปากเบา ๆ พลางเหลือบมองหน้าจินอีกครั้ง แม้เขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่เธอก็รู้ดี เขามองไอมิเอะนานเกินไป นานพอจะทำให้หัวใจของจ๊ะจ๋าเริ่มเต้นแรงด้วยความหงุดหงิด พอเห็นจินเอาแต่จ้อง จ๊ะจ๋าก็หรี่ตาลงอย่างไม่แน่ใจ มือข้างหนึ่งขยับจัดผมตัวเองเล็กน้อย แต่ใจกลับไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ตัวเองเท่าไหร่แล้ว ใจเธอกำลังจับจ้องอยู่กับสายตาของผู้ชายข้าง ๆ จินมองอยู่อย่างนั้น ไอมิเอะเองก็รู้ตัวว่าโดนจ้อง หัวใจดวงน้อยก็เต้นผิดจังหวะนิดหน่อย แต่เธอรีบเบือนหน้าหนีพยายามดึงสีหน้ากลับมาเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ในใจจะตีกันยุ่ง ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตรงไปทางห้องน้ำอย่างเร็ว โดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย พอเธอลับสายตาไปแล้ว จินก็เอนหลังพิงกับราวบันได “ชอบเหรอ?” เสียงของจ๊ะจ๋าดูเหมือนไม่ได้มีอะไร แต่หางเสียงมันแข็งจนสังเกตได้ ดวงตาคมของจ๊ะจ๋าจ้องจินนิ่ง ๆ ขณะพูด แล้วริมฝีปากก็แอบเม้มแน่นนิด ๆ ราวกับกัดฟันถามอย่างไม่สบอารมณ์ จินที่นั่งเอนพิงราวบันได เลิกคิ้วข้างขวาขึ้นช้า ๆสายตาคมกริบตวัดมองจ๊ะจ๋าเหมือนจะเตือนว่าอย่าพูดอะไรเกินเส้น “อะไร?” จินถามเสียงต่ำ สีหน้าชัดเจนว่าไม่ค่อยพอใจนักกับคำถามแบบนี้ มืออีกข้างก็ควงโทรศัพท์เล่นไปเรื่อย เหมือนไม่ได้ใส่ใจโลก จ๊ะจ๋าก็พยายามปรับสีหน้าให้ดูเรียบเฉย แสร้งหัวเราะนิด ๆ แล้วถามต่อ “น้องคนเมื่อกี้…ชื่ออะไรนะ?” “....” จินเงียบ ไม่ตอบอะไร นิ้วเรียวเลื่อนหน้าจอมือถือไปช้า ๆ แต่สังเกตได้ว่าเขาไม่ได้อ่านอะไรเลย “รู้สึกว่าจะเป็นหลานรหัสของน้องชายพี่นะ” จ๊ะจ๋าเอ่ยเสียงหวานขึ้นเล็กน้อย แต่สายตากลับเย็นเฉียบ ขณะพูด มือก็ยกขึ้นมาปัดเส้นผมตัวเองอย่างตั้งใจ ทำเหมือนไม่สนใจ แต่จริง ๆ กำลังดูปฏิกิริยาของจินอย่างเงียบ ๆ “แล้วไง?” จินถามกลับโดยไม่มองหน้า แค่คำพูดสั้น ๆ แต่แฝงด้วยแรงสะท้อนบางอย่างที่ทำให้จ๊ะจ๋าเงียบไปชั่วครู่ “น้องน่ารักดีนะ พี่ว่าจะเต๊าะเอาไว้ให้น้องชายพี่ซะหน่อย แต่เสียดาย ได้ยินมาว่าน้องเขามีแฟนแล้ว” “....” คำพูดนั้นทำให้จินหยุดเลื่อนหน้าจอ สายตาเหลือบขึ้นมาเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะก้มหน้าลงเหมือนเดิม @อีกด้านนึง ขวัญเอยที่เพิ่งโดนปฏิเสธ ก็ยังรู้สึกชาอยู่ เธอลุกออกจากห้องเรียนเพื่อสูดอากาศข้างนอก เพราะรู้สึกเหมือนห้องเรียนมันแคบลงเรื่อย ๆ หายใจไม่ออก “มึง เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน” ฟ้ารีบลุกตาม แล้วเมย์กับพลอยก็เดินตามมาด้วย ทันทีที่เดินถึงมุมระเบียงชั้นสองที่มองลงไปยังโถงบันได พวกเธอก็ชะงัก “มึง ดูนั่นดิ…” ฟ้าเบิกตากว้างก่อนจะสะกิดแขนขวัญเอย ขวัญเอยก็มองตาม แล้วเห็นภาพจินกับจ๊ะจ๋า ความรู้สึกอายเมื่อกี้พุ่งกลับมาเต็มแรง ภาพนั้นทำให้ขวัญเอยรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าซ้ำอีกรอบ ทั้งที่ยังไม่หายชา เมย์ยืนมองอยู่ข้าง ๆ แอบเลิกคิ้วเบา ๆ แล้วเบือนหน้าหนีเหมือนแอบยิ้มสะใจในใจ ขวัญเอยยืนนิ่งไปพักหนึ่ง แล้วถอนหายใจยาว กลั้นน้ำตาไว้สุดชีวิต มันไม่ใช่แค่ผิดหวัง แต่มันคือ แพ้แบบเต็มตัว ขวัญเอยกำหมัดแน่น แล้วเร่งฝีเท้าเดินลงบันไดอย่างรวดเร็ว ผ่านตรงกลางระหว่างคนสองคนนั้นโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมอง จินยังคงเฉยชาเหมือนไม่เห็นเธอด้วยซ้ำ มีเพียงพี่จ๊ะจ๋าเท่านั้นที่หันมายิ้มให้บาง ๆ อย่างเป็นมิตร จ๊ะจ๋าเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกัน เคยคุยแชตกันอยู่บ่อย ๆ แต่วันนี้ รอยยิ้มนั้นกลับกลายเป็นสิ่งที่บาดใจขวัญเอยยิ่งกว่าเดิม เมื่อทั้งหมดเดินลงมาด้านล่างตึก ขวัญเอยยังคงหน้าตึง หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ขอบตาร้อนผ่าว แต่ยังพยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น “พี่จ๊ะจ๋ามาทำไม” เมย์เป็นคนแรกที่เปิดปากขึ้น เสียงของเธอเจือแววเสียดเล็ก ๆ น้ำเสียงเหมือนอยากรู้ แต่ลึก ๆ ฟังดูแปลก ๆ คล้ายจะหาเรื่องเผือกมากกว่าห่วงเพื่อน “ถึงกลับมาหาถึงโรงเรียน” พลอยยืนกอดอก มองขึ้นไปยังบันไดแล้วพูดต่อแบบไม่ต้องคิด “คงคบกันแล้วแหละ กูว่า นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่มันปฏิเสธมึง เพราะมันคบกับพี่จ๊ะจ๋าแล้วรึเปล่า” คำพูดนั้นทำเอาขวัญเอยหันมาขมวดคิ้วใส่ทันที สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกชัดเจน “ไหนมึงบอกกูว่าเขาแค่กำลังคุย ๆ กันอยู่” ขวัญเอยหันหน้าไปถามเมย์อย่างไม่พอใจ “ยังไม่ได้คบกันไม่ใช่เหรอ สถานะในเฟซก็ไม่ได้ขึ้น” เมย์เป็นคนที่ตามติดชีวิตในโซเชียลของจินตลอดเวลา เธอเช็กทุกความเคลื่อนไหวของเขา รู้หมดว่าจินกดไลก์ให้ใครบ้าง คอมเมนต์กับใครบ่อยสุด “เรียกไอ้ทิศเหนือมาถามดิ มันน่าจะรู้อะไรเยอะพอสมควร” ฟ้าเอ่ยเสริมขึ้น ขวัญเอยยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ใจเต้นแรง ความรู้สึกตีกันในหัว ทั้งโกรธ ทั้งอาย ทั้งอยากรู้ความจริง และลึก ๆ ก็ยังอดหวังไม่ได้ ว่าทั้งหมดอาจจะแค่เรื่องเข้าใจผิด ฟ้าพูดจบก็ไม่รอให้ใครตอบรับอะไร เดินดุ่ม ๆ ขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องเรียนอย่างไว สีหน้าจริงจังเหมือนคนที่กำลังจะไปไขความลับระดับชาติ พอเปิดประตูห้องก็เห็นทิศเหนือนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้อยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ “เหนือ มานี่หน่อย” ฟ้าเรียกด้วยเสียงเร่ง ๆ ทำให้ทิศเหนือสะดุ้งนิดหน่อย ก่อนจะดึงหูฟังข้างหนึ่งออกแล้วเหล่มามอง “มีอะไรวะ” ทิศเหนือถามพลางยืนขึ้นยืดเส้นยืดสาย เดินออกมาหน้าห้อง “จินคบกับพี่จ๊ะจ๋าแล้วเหรอ” “คบแล้วมั้ง กูก็ไม่รู้ กูรู้แค่มันกับพี่จ๊ะจ๋าจัดกันก่อนมาเรียน” คำว่า ‘จัดกัน’ นั้นทำเอากลุ่มผู้หญิงถึงกับเงียบไปแป๊บหนึ่ง ก่อนที่ฟ้าจะอุทานเสียงหลง “อีเหี้ย ถ้าขนาดนี้ก็คงคบกันแล้วแหละ” ฟ้าหันไปมองหน้าขวัญเอยทันทีที่พูดจบ แววตาคือไม่รู้จะสงสารหรือช็อกดี ขวัญเอยยืนหน้านิ่ง สายตาเหม่อเหมือนโดนลากออกจากโลกความจริง คิ้วขมวด ปากเม้มแน่น พยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา แต่ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรต่อ เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากปลายทางเดิน และทันใดนั้นเอง ไอมิเอะที่เพิ่งกลับจากห้องน้ำก็เดินมาพอดี จังหวะที่เดินผ่านหน้าห้อง ไอมิเอะได้ยินบทสนทนาชัดถ้อยชัดคำ โดยเฉพาะคำว่า ‘จัดกันก่อนมาเรียน’ ไอมิเอะชะงักไปครู่หนึ่ง สีหน้าตึงขึ้นนิด ๆ แววตาสั่นไหว แต่ก็พยายามคงท่าทางนิ่ง ๆ เก็บความรู้สึก ไม่มีใครทันสังเกตว่าเธอได้ยินแล้ว เพราะทุกสายตากำลังจ้องมองอยู่ที่ขวัญเอย จินมีแฟนอีกแล้วสินะ เฮ้อ เจ็บชะมัด ขนาดขวัญเอย ผู้หญิงที่ทั้งสวย ทั้งฮอต ทั้งมั่นใจขนาดนั้น ยังโดนปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้า แล้วฉันล่ะ? จะเหลืออะไร ดีแล้วที่ฉันไม่เคยคิดจะสารภาพความรู้สึกที่มีต่อจิน ขอบคุณขวัญเอยด้วยซ้ำ ที่เป็นหน่วยกล้าตาย กล้าลอง อย่างน้อยฉันก็ได้เห็นแล้วว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง จินไม่ใช่คนธรรมดา จินเป็นลูกคนรวย รวยแบบที่ไม่มีใครในโรงเรียนนี้กล้าเทียบ ปู่ของจินเป็นอดีตนายพลระดับบิ๊ก ๆ แถมยังเป็นเจ้าของโรงเรียนนี้อีกด้วย ส่วนพ่อก็เป็นนักการเมืองชื่อดัง แม่ของจินก็เป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัย ตาของจินเป็นวิศวกรที่มีเครือร้านขายวัสดุก่อสร้างใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ แล้วก็มีร้านขายทองคำอยู่ทุกจังหวัดในภาคเหนือ ส่วนยายก็เป็นหมอ แถมยังเปิดโรงพยาบาลเองอีกต่างหาก และครอบครัวก็มีธุรกิจอีกเยอะ เรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีภาคเหนือเลยแหละ พูดง่าย ๆ ว่าทั้งตระกูลของจินเต็มไปด้วยคนเก่งและมีฐานะระดับบนสุดของเชียงใหม่ ส่วนฉัน ก็แค่ลูกครึ่งญี่ปุ่นธรรมดาคนหนึ่ง พ่อเป็นวิศวกร เปิดบริษัทเล็ก ๆ รับเหมาก่อสร้าง แม่เป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นอยู่โรงเรียนใกล้ ๆ ฉันไม่ได้ลำบาก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับสุขสบายหรูหราอะไร มันเลยชัดเจนมาตลอด ว่าฉันกับจินต่างกันราวฟ้ากับเหว จินอยู่บนโลกที่ฉันไม่มีวันก้าวขึ้นไปถึง อยู่สูงเกินกว่าฉันจะกล้าเอื้อมมือแตะ จินดูรวยมากเกินไปสำหรับคนธรรมดาอย่างฉัน ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ แค่มันคนละโลกกันจริง ๆ ชีวิตจินหรูหราตลอด ทุกอย่างรอบตัวเขาดูดีไปหมด ตั้งแต่แบรนด์กระเป๋าไปจนถึงมือถือที่อัปใหม่ตลอด รองเท้าคู่ละเป็นหมื่น รถที่ขับมาเรียนก็หลักล้านทั้งนั้น ฉันไม่รู้จะวางตัวยังไงด้วยซ้ำเวลาอยู่ใกล้จิน มันไม่ใช่แค่ความแตกต่างเรื่องเงิน แต่มันคือไลฟ์สไตล์ ทั้งหมดดูห่างไกลจากฉันเหลือเกิน ฉันโตมากับการรู้ว่าควรใช้เงินยังไงให้พอถึงสิ้นเดือน ร้านข้าวตามสั่งคือของโปรด ส่วนเสื้อผ้าก็ขอแค่ใส่แล้วมั่นใจก็พอ ไม่ได้สนใจแบรนด์ กับจิน อะไร ๆ ก็ดูเกินไปสำหรับฉัน มันไม่ใช่ว่าเขาแย่หรอก แต่ฉันดีไม่พอ ฉันคิดว่าถ้าเดินเข้าไปในโลกของจิน ฉันคงเดินหลงอยู่ในนั้น และสุดท้ายก็ต้องเดินถอยหลังออกมาอยู่ดี เพราะอะไรที่มันเกินพอดี เกินเรามากเกินไป อยู่ด้วยแล้วมันไม่ได้ทำให้รู้สึกพิเศษ แต่มันทำให้รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วก็คงจะอึดอัด และฉันไม่อยากฝืน ไม่อยากเป็นคนที่ต้องพยายามเปลี่ยนตัวเองแค่เพื่อให้ใครอีกคนยอมรับ บางทีแค่แอบชอบเขาเงียบ ๆ แบบนี้ มันก็อาจจะดีกว่าแล้วก็ได้ ฉันเลยเลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ แบบนี้ แอบชอบจินอยู่ไกล ๆ ไม่เคยพูดออกไป ไม่เคยบอกใคร ไม่เคยแม้แต่จะมองจินนาน ๆ ด้วยซ้ำ ฉันพยายามไม่คุยกับจิน ไม่เข้าใกล้ เพราะกลัวว่าถ้าพลาดไปเผลอใกล้เกินไป ฉันจะถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนที่ขวัญเอยเป็น เงียบไว้แบบนี้แหละดีแล้ว มันเจ็บน้อยกว่า…บทที่ 40“….” ไอมิเอะกัดปากเบา ๆ ใบหน้าก็ร้อนวูบอย่างหนัก (ควxดีใช่มั้ย? ไม่มีหนังหุ้มปลาย ขลิบตั้งแต่เด็ก)“....พูดบ้าอะไรเนี่ย” ไอมิเอะก็อมยิ้มมุมปากด้วยความเขินเป็นอย่างมาก(อยากดูดมั้ย?)“....” หัวใจดวงน้อยก็เต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง จนเธอได้ยินเสียงหัวใจตัวเองสั่น มือข้างหนึ่งก็เผลอกดแน่นกับหน้าท้องแบนราบด้วยความวูบวาบร้อนวูบขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธออยากพูดว่า ‘อยาก‘ ออกไปแทบบ้า แต่ก็ได้แค่กลืนคำนั้นลงคอ เพราะกลัวจะดูใจง่ายเกินไป(เห็นแล้วอยากโดนเยxบ้างมั้ย?)“...ไม่”(ไม่...เลยเหรอ?)“....”(เดี๋ยวก็รู้)“....”(จะไม่ส่งมาจริงเหรอ แบบนี้กูเป็นฝ่ายเสียเปรียบนะ)“...เดี๋ยวค่อยดูทีเดียว”(จะให้ดูตอนไหน) จินก็ตอบกลับทันควันอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย“…วันเกิดแกไง” เสียงเธอแผ่วราวกระซิบ ใบหน้าก็ร้อนเห่อแดงขึ้นอีกจนต้องซุกหน้าลงกับหมอน จินได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ(จะให้ดูจริงเหรอ?)“...อืม”(ไม่ใช่ว่าหลอกให้ดีใจ แล้วสุดท้ายไม่ให้ดูนะ)“...เราเป็นคนรักษาคำพูด”(จะเชื่อ แล้วทำไมถึงยอมให้ดู ปกติไม่ให้)“...ก็...วันเกิดแกหนิ” (อยากให้ถึงวันเกิดเร็ว ๆ แต่ถ้าต้องรอถึงวันนั้น ขอมา
บทที่ 39(น้องฟังนะ รวยจนมันไม่ใช่ปัญหาเลยเว้ย คนแม่งไม่ได้รักกันเพราะมีเงินพอ ๆ กัน หรือฐานะเท่ากันหรอก คนมันรักกันเพราะรู้สึกดีต่อกัน อยู่ด้วยแล้วสบายใจ แค่นั้นเลย แล้วที่บอกว่าเขาหล่อ หล่อแล้วไงวะ? หล่อก็ยังเป็นคน หล่อก็ยังเจ็บได้ถ้าโดนทิ้ง หล่อก็ยังร้องไห้เป็นถ้าคนที่เขารู้สึกด้วยไปมีคนอื่น แล้วเรื่องฐานะ ถ้าผู้ชายเขารู้ว่าเรามีแผล มีปม มีเรื่องไม่มั่นใจ แล้วเขายังอยากอยู่ ยังรับเราได้ แล้วเราก็โอเคกับเขา แค่นั้นมันก็พอแล้ว มันก็ไม่มีอะไรผิด มันคือเรื่องของคนสองคน ไม่ใช่เรื่องของบัญชีธนาคาร)“....”(ฐานะไม่เท่ากันไม่เป็นไรเลยเว้ย ถ้าน้องมั่นใจว่าน้องไม่ได้ชอบเขาเพราะเงิน น้องควรภูมิใจด้วยซ้ำว่าความรู้สึกที่มีอะมันโคตรจริง แล้วถ้าน้องก็รู้ว่าเขารู้สึกเหมือนกันแล้วจะถอยทำไมวะ? ถ้าน้องถอยตอนนี้ น้องไม่ได้ปกป้องใจตัวเองนะ แต่น้องกำลังหักอกตัวเองแบบเงียบ ๆ เชื่อพี่คนเราไม่ได้เจ็บเพราะเขาไม่รักหรอก เราเจ็บเพราะเราไม่กล้ารักให้สุดต่างหาก)“....”(ลูกพีช คนที่เราชอบ แล้วเขาก็ดันรู้สึกกับเรากลับแบบนี้ มันไม่ได้เจอบ่อย ๆ นะ น้องยังไม่ต้องรีบบอกก็ได้ ไม่ต้องฝืนใจตัวเอง แต่ขออย่างเดียว อย่าหน
บทที่ 38“แฟนมาส่งเหรอ” เสียงคุณพ่อเอ่ยทันทีที่รถของจินแล่นออกจากหน้าบ้าน“…ไม่ใช่ค่ะ” ทำเอาไอมิเอะชะงักไปเล็กน้อย ก่อนตอบเบา ๆ “แน่ใจ?” สายตาผู้เป็นพ่อก็จ้องเธอเขม็งพลางหรี่ตาลงนิดหนึ่ง “…ค่ะ” เธอพยักหน้าเบา ๆ เสียงแทบไม่หลุดจากลำคอ“ไปรู้จักคนระดับนั้นได้ยังไง?”“....” คำถามแทงใจดำนั้นทำเอาไอมิเอะชะงักอีกครั้งพลางดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย “รู้จักเพราะว่าเป็นเพื่อนที่โรงเรียนค่ะ...แล้วจินก็เป็นหลานชายของเจ้าของโรงเรียน”“....”“พ…พ่อรู้จักจินเหรอคะ?”“รู้ ใครจะไม่รู้จัก นามสกุลใหญ่ขนาดนั้น”“....”“มันเป็นลูกชายนักการเมืองดัง พ่อมันเป็นรองนายกฯ ของไทย สมัยหน้าก็พ่อมันนั่นแหละที่มีเปอร์เซ็นต์สูงจะได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี”“....”“ตอนพ่อได้งานก่อสร้างถนนหลวง ก็พ่อมันเป็นคนช่วย พ่อมันล็อบบี้ให้ เป็นคนดันพ่อให้ชนะงานประมูลสร้างถนนของหลวงตลอด งานล่าสุดก็งบร้อยล้าน พ่อมันเอาไปห้าสิบล้าน พ่อได้สิบล้าน ที่เหลือก็ลงกับถนนจริงๆ โครงการหลวงพวกนี้ ไม่มีคำว่าโปร่งใส เงินแบ่งกันเสร็จตั้งแต่ก่อนประมูล”“....”“พ่อทำงานกับพ่อมันมาเกือบยี่สิบปี”เธอได้ยินแล้วก็เหมือนมีความหวังสว่างวาบขึ้นมาวูบหนึ่งใ
บทที่ 37“หึ” เมย์หลุดหัวเราะออกมาทันที เสียงนั้นแหลมสูงและเย็นชา หล่อนสะบัดผมแรง ๆ ก่อนจะเชิดหน้าใส่เส้นด้ายและไอมิเอะอย่างเหยียดหยามในขณะที่ฟ้ายังร้องโอดโอย แต่แก๊งเพื่อนของเธอกลับยืนหัวเราะลั่นเหมือนกำลังดูโชว์ตลก ท่าทีของพวกเธอทุกคน ชัดเจนว่าไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของคำว่าสำนึก พวกเธอยังคงยืนเด่นกลางอัฒจันทร์ อย่างไม่กลัวใครระหว่างที่สองฝ่ายยังคงถกเถียงกันเสียงดัง หน้าตึงคิ้วขมวดแทบจะตบกันกลางลานกีฬา “แสบมากมั้ย?” จินก็ประคองมือข้างที่โดนน้ำร้อนของไอมิเอะขึ้นมาอย่างเบามือ “....” ไอมิเอะก็ชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาสั่นไหวด้วยความเจ็บแต่ยังฝืนยิ้มบาง ๆ พลางพยักหน้าช้า ๆ เป็นเชิงบอกว่าแสบมากเธอไม่กล้าแม้แต่จะมองตาเขานาน ๆ เพราะแววตาของเขาในตอนนี้ ทั้งจริงจัง ทั้งดุดัน และลึกซึ้ง จนหัวใจเธอสั่นไหวอย่างห้ามไม่อยู่จินปรายตามองแผลของเธอด้วยสายตาขรึมจัด สีหน้าของเขากร้าวอย่างควบคุมแทบไม่อยู่ กรามเขาขบแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและความเป็นห่วงที่ปะปนกันอย่างชัดเจนเขาไม่พูดอะไรอีก แค่เอื้อมมือโอบไหล่เธอเบา ๆ แล้วพาเดินฝ่าฝูงคนออกมา ไม่มีแม้แต่จะเหลือบตาไปมองพวกแก๊งผีเสื้อสมุทรที่ยังคงยื
บทที่ 36นิ่งไปชั่ววูบ เหมือนสมองหยุดประมวลผลชั่วขณะ“…เมื่อคืน…แกวางสายเร็วมากเลย” ไอมิเอะเลือกที่จะเบี่ยงประเด็น แทนที่จะตอบคำถามตรง ๆเธอไม่แตะเรื่องวันเกิด ที่รู้อยู่เต็มอกว่าเป็นเรื่องโกหก แค่โยนคำพูดออกไปหวังจะเปลี่ยนเรื่อง เพราะเธอไม่อยากเปิดประเด็น ยังไม่อยากเผชิญหน้าตอนนี้“รีบไปไหนเหรอ?”“หึ ก็เห็นบอกว่าน้องจะนอนแล้ว กูไม่อยากรบกวน เลยรีบวาง” จินหัวเราะในลำคอหนาออกมาเบาๆ โดยน้ำเสียงยังคงเรียบ แต่แววตาไม่เรียบเลยจริง ๆ แล้ว เมื่อคืนเขาขอรูปโป๊ของเธอ เพราะเขาต้องการเอารูปเธอไปชัก ทั้งคืนเขาไม่ได้ยุ่งกับใครเลย ไม่ใช่เพราะไม่มีใครให้ยุ่งแต่เพราะเมื่อคืนเขาต้องการเธอคนเดียว เขาไม่ได้อยากคุยอะไรมากมาย ไม่ได้อยากฟังเสียงขนาดนั้น เขาแค่อยากปลดปล่อย และเขารอดูรูปของเธอทั้งคืน แต่เธอก็ไม่ส่ง เขาก็รอว่าเธอจะง้อ จะโทรกลับไหม สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยทั้งที่ทุกคืนเขาไม่เคยขาดผู้หญิง เขาต้องมีผู้หญิงมาช่วยปลดปล่อยทุกคืน แต่เมื่อคืนเป็นครั้งแรกที่เขาไม่ได้ปลดปล่อย เมื่อคืนเขาเหมือนหมาตัวหนึ่งที่ถูกเจ้าของของมันปล่อยให้รอ จินไม่ชินกับการต้องรอใคร และเมื่อคืนคือครั้งแรกที่เขาไม่ได้อะไ
บทที่ 35เสียงลมหายใจของเธอสลับกับเสียงเข็มนาฬิกาในห้องแต่ไม่มีสิ่งไหนกล่อมเธอให้หลับได้เลย เธอพลิกตัวไปมาอยู่หลายครั้ง ท่ามกลางความมืดและอุณหภูมิแอร์เย็นสบาย แต่ร่างกายกลับร้อนรุ่ม ราวกับอารมณ์บางอย่างกำลังซึมเข้ามาในผิวหนังอย่างเงียบงันภาพสีหน้า น้ำเสียง ท่าทางของจิน ยังวนเวียนอยู่ในหัวแม้แต่ประโยคหยาบ ๆ ที่เขาพูด ยังทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมาได้ในความมืดไอมิเอะลืมตาขึ้นในความมืด สายตามองไปยังอีกฟากของเตียง เห็นน้องชายของเธอนอนหลับสนิท ขดอยู่ใต้ผ้าห่ม ไม่มีท่าทีว่าจะรู้สึกตัว เธอก็ค่อย ๆ ขยับตัว ลุกขึ้นจากเตียงช้า ๆ อย่างเบาที่สุดเธอหยิบโทรศัพท์มาด้วย ขณะเดียวกันเท้าเปล่าก็สัมผัสกับพื้นเย็น เธอเดินอย่างระมัดระวังตรงไปยังห้องน้ำ มือเธอเอื้อมไปที่ลูกบิด ก่อนจะหยุดชั่ววูบอย่างลังเล แล้วสุดท้ายเธอก็เปิดประตูเข้าไปข้างในอย่างเงียบที่สุดประตูค่อย ๆ ปิดลง เสียงคลิกของกลอนดังแผ่วเบา ไอมิเอะยืนนิ่งอยู่หน้ากระจก เธอมองเงาสะท้อนของตัวเอง ก็เห็นผิวแก้มขึ้นสีแดงเรื่อชัดเจน เธอสูดหายใจเบา ๆ มือทั้งสองยกขึ้นแตะที่แก้ม ก่อนจะเลื่อนลงมาที่คอช้า ๆเธอรู้ว่ามันไม่ควร แต่หัวใจเธอมันไม่ฟังเหตุผลอีกแล้วคื