Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-09-30 14:53:33

บทที่ 3

“อีเหี้ยมันปฏิเสธกูอะ!!” เสียงขวัญเอยดังขึ้น มือที่ถือโทรศัพท์สั่นเล็กน้อย ใบหน้าที่เมื่อกี้ยังยิ้มเขิน ๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแดงก่ำทั้งเพราะความเสียใจและความอาย

“ไหนพวกมึงบอกว่ามันชอบกูไง!!”

“พวกกูจะไปรู้ใจมันได้ยังไง ก็กูเห็นมันตอบแชตแค่มึงคนเดียวจริง ๆ ทั้งห้องไม่เห็นมันตอบใครเลยนอกจากมึง” เมย์เลิกคิ้วนิด ๆ แล้วแอบเหยียดยิ้มมุมปาก ความสะใจฉายชัดบนใบหน้า แต่ปากยังพูดเรียบ ๆ แก้ตัว

“อีเหี้ย แล้วมันปฏิเสธกูแบบนี้มันหมายความว่าไงวะ!? แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา มันคุยกับกู มันกดไลก์รูปให้กู มันคืออะไรวะ!?”

“เออนั่นดิ กูไม่เคยเห็นมันกดไลก์ให้ใครเลยนะ นอกจากแฟนมัน หรือคนที่มันคุยอยู่ แล้วมึงก็เป็นคนเดียวในห้องที่มันกดให้ด้วยซ้ำ” เป็นฟ้าเอ่ยเสริม

“หรือมันไม่กล้ายอมรับความรู้สึกตัวเอง มึงลองไปคุยกับมันต่อหน้าดูดิ จะได้เห็นสีหน้ามันจริง ๆ ว่ามันรู้สึกยังไงกับมึงกันแน่”

“ขนาดนี้แล้ว พวกมึงยังจะบอกให้มันไปคุยอีกเหรอ?” เสียงของแก้มยุ้ยดังขึ้นบ้าง อย่างมองสถานการณ์ออก

“ไอ้จินอ่ะ ถ้ามันไม่ชอบ มันก็จะบอกเลย มันเป็นคนชัดเจนตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว กูเป็นเพื่อนกับมันมาตั้งแต่เด็ก กูรู้จักนิสัยมันดี”

น้ำเสียงของแก้มยุ้ยหนักแน่นจริงจัง ไม่ได้พูดเอามัน แต่พูดให้ขวัญเอยได้สติ ทำให้ขวัญเอยนิ่งไป มองต่ำ มือกำโทรศัพท์แน่น ใจมันทั้งเจ็บทั้งอาย และในขณะที่เพื่อนบางคนพยายามช่วยปลอบ เมย์กลับนั่งเงียบ เหยียดยิ้มบาง ๆ อย่างสะใจ

“ไปเข้าห้องน้ำนะ” ไอมิเอะหันไปพูดกับยี่หวาและเส้นด้ายด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ตามสไตล์ของเธอ

ทั้งคู่ก็พยักหน้าโดยไม่ถามอะไร เพราะรู้ดีว่าไอมิเอะเป็นคนพูดน้อย ไม่ชอบให้ใครมาจี้จุดหรือจ้องนานเกินไป

ไอมิเอะเดินตรงไปทางห้องน้ำหญิง ซึ่งอยู่เลยโถงบันไดตรงกลางชั้นเรียน แต่แล้วขากลับชะงักกึก เมื่อสายตาของเธอเผลอไปสะดุดกับภาพตรงบันไดทางขึ้นลงที่เชื่อมระหว่างตึกเรียนเก่าและใหม่

เป็นจินนั่งอยู่บนขั้นบันไดขั้นที่สี่ฝั่งซ้าย และพี่จ๊ะจ๋า รุ่นพี่ศิษย์เก่าของโรงเรียนนั่งอยู่ขั้นที่สองฝั่งตรงขวา สวมชุดนักศึกษารัดรูปพอดีตัว สองคนหันตัวเข้าหากัน แต่จินก้มหน้าดูโทรศัพท์

ภาพนั้นทำเอาไอมิเอะใจสั่นอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งที่แค่จะเดินไปเข้าห้องน้ำแท้ ๆ

“จินลืมแอร์พอดไว้ที่ห้องพี่ ก็เลยเอามาให้” พี่จ๊ะจ๋าพูดด้วยเสียงนุ่ม แต่แฝงความสนิทสนมบางอย่างในน้ำเสียง จินเงยหน้ารับของพลางพยักหน้าเล็กน้อย

ไอมิเอะทำได้แค่ยืนชะงักอยู่ตรงหัวมุมบันได มองภาพตรงหน้าราวกับเป็นฉากจากหนังที่เธอไม่ควรมีตัวตนอยู่ในเฟรมนี้

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ของไอมิเอะบนพื้นปูน ทำให้จินที่นั่งก้มหน้าดูโทรศัพท์อยู่เงยขึ้นโดยไม่ตั้งใจ

แค่เสี้ยววินาทีที่สายตาของเขาสบเข้ากับเธอ ร่างสูงชะงักเล็กน้อย แววตาคู่นั้นจ้องนิ่ง ราวกับจับภาพของเธอไว้โดยไม่ทันได้ตั้งใจจะทำ

แต่จินไม่ได้ขยับ ไม่ได้เอ่ยทัก ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว แต่สายตากลับนิ่งจนไอมิเอะรู้สึกเหมือนกำลังถูกกลืนเข้าไปทั้งตัว

จ๊ะจ๋าที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ จิน หันไปมองตามสายตาของจินอย่างอัตโนมัติ ตอนที่เห็นเขาหยุดชะงักเหมือนถูกอะไรบางอย่างสะกดไว้ ตอนแรกก็แค่คิดว่า คงเป็นใครสักคนเดินผ่านไปเท่านั้นเอง แต่พอจ๊ะจ๋าได้เห็นเด็กคนนั้นชัด ๆ ขาก็แทบจะไขว้ไม่ลงในทันที

น้องคนนั้น หน้าตาน่ารักจนสะดุดตาแบบไม่ต้องพยายามอะไรเลย ดวงตากลมโตใสแจ๋ว ไม่ได้กรีดอายไลเนอร์ ขนตางอนยาว ไม่แต่งหน้า แต่แก้มอมชมพูมีเลือดฝาด ริมฝีปากก็สีแดงอมชมพูธรรมชาติ ไม่ได้แต่งแต้มใดๆ

ไม่ได้แต่งหน้า แต่กลับดูโดดเด่นจนคนรอบข้างพลอยหมองไปถนัดตา ผิวก็ขาวแบบไม่ได้ขาวซีดอย่างจงใจ แต่เป็นขาวนวลเนียนแบบธรรมชาติ ขาวเหมือนมีแสงไฟซอฟต์ ๆ ติดอยู่กับตัวตลอดเวลา จ๊ะจ๋าเห็นแล้วเผลอเบะปากนิด ๆ อย่างหมั่นไส้ในใจ

เอวก็เล็กคอดจนน่าหมั่นไส้ เล็กแบบ ‘จับแล้วเต็มมือ’ อย่างที่ผู้ชายชอบพูดกันเล่น ๆ เอวไม่น่าต่ำกว่าสิบแปดนิ้ว หน้าอกก็ใหญ่มหึมา ขาก็เรียวยาวแบบไม่ต้องพยายามยืนโพสต์ก็ยังดูดี

จ๊ะจ๋าอดไม่ได้ที่จะมองไล่จากปลายผมลงมาจนถึงปลายเท้า แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองโดนเด็กกระแทกหน้าเข้าให้

นี่มัน…สเปกของจินชัด ๆ

ผู้หญิงใส ๆ ไม่ประดิษฐ์ ไม่ทำตัวเยอะ แต่กลับสวยเกินหน้าเกินตา ดูน่าทะนุถนอม แต่ก็มีแรงดึงดูดประหลาดที่ทำให้ผู้ชายอยากเข้าใกล้โดยไม่รู้ตัว

จ๊ะจ๋ากัดริมฝีปากเบา ๆ พลางเหลือบมองหน้าจินอีกครั้ง แม้เขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่เธอก็รู้ดี เขามองไอมิเอะนานเกินไป นานพอจะทำให้หัวใจของจ๊ะจ๋าเริ่มเต้นแรงด้วยความหงุดหงิด

พอเห็นจินเอาแต่จ้อง จ๊ะจ๋าก็หรี่ตาลงอย่างไม่แน่ใจ มือข้างหนึ่งขยับจัดผมตัวเองเล็กน้อย แต่ใจกลับไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ตัวเองเท่าไหร่แล้ว ใจเธอกำลังจับจ้องอยู่กับสายตาของผู้ชายข้าง ๆ

จินมองอยู่อย่างนั้น ไอมิเอะเองก็รู้ตัวว่าโดนจ้อง หัวใจดวงน้อยก็เต้นผิดจังหวะนิดหน่อย แต่เธอรีบเบือนหน้าหนีพยายามดึงสีหน้ากลับมาเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ในใจจะตีกันยุ่ง

ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตรงไปทางห้องน้ำอย่างเร็ว โดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย พอเธอลับสายตาไปแล้ว จินก็เอนหลังพิงกับราวบันได

“ชอบเหรอ?” เสียงของจ๊ะจ๋าดูเหมือนไม่ได้มีอะไร แต่หางเสียงมันแข็งจนสังเกตได้

ดวงตาคมของจ๊ะจ๋าจ้องจินนิ่ง ๆ ขณะพูด แล้วริมฝีปากก็แอบเม้มแน่นนิด ๆ ราวกับกัดฟันถามอย่างไม่สบอารมณ์

จินที่นั่งเอนพิงราวบันได เลิกคิ้วข้างขวาขึ้นช้า ๆสายตาคมกริบตวัดมองจ๊ะจ๋าเหมือนจะเตือนว่าอย่าพูดอะไรเกินเส้น

“อะไร?” จินถามเสียงต่ำ สีหน้าชัดเจนว่าไม่ค่อยพอใจนักกับคำถามแบบนี้ มืออีกข้างก็ควงโทรศัพท์เล่นไปเรื่อย เหมือนไม่ได้ใส่ใจโลก

จ๊ะจ๋าก็พยายามปรับสีหน้าให้ดูเรียบเฉย แสร้งหัวเราะนิด ๆ แล้วถามต่อ

“น้องคนเมื่อกี้…ชื่ออะไรนะ?”

“....” จินเงียบ ไม่ตอบอะไร นิ้วเรียวเลื่อนหน้าจอมือถือไปช้า ๆ แต่สังเกตได้ว่าเขาไม่ได้อ่านอะไรเลย

“รู้สึกว่าจะเป็นหลานรหัสของน้องชายพี่นะ” จ๊ะจ๋าเอ่ยเสียงหวานขึ้นเล็กน้อย แต่สายตากลับเย็นเฉียบ

ขณะพูด มือก็ยกขึ้นมาปัดเส้นผมตัวเองอย่างตั้งใจ ทำเหมือนไม่สนใจ แต่จริง ๆ กำลังดูปฏิกิริยาของจินอย่างเงียบ ๆ

“แล้วไง?” จินถามกลับโดยไม่มองหน้า แค่คำพูดสั้น ๆ แต่แฝงด้วยแรงสะท้อนบางอย่างที่ทำให้จ๊ะจ๋าเงียบไปชั่วครู่

“น้องน่ารักดีนะ พี่ว่าจะเต๊าะเอาไว้ให้น้องชายพี่ซะหน่อย แต่เสียดาย ได้ยินมาว่าน้องเขามีแฟนแล้ว”

“....” คำพูดนั้นทำให้จินหยุดเลื่อนหน้าจอ สายตาเหลือบขึ้นมาเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะก้มหน้าลงเหมือนเดิม

@อีกด้านนึง

ขวัญเอยที่เพิ่งโดนปฏิเสธ ก็ยังรู้สึกชาอยู่ เธอลุกออกจากห้องเรียนเพื่อสูดอากาศข้างนอก เพราะรู้สึกเหมือนห้องเรียนมันแคบลงเรื่อย ๆ หายใจไม่ออก

“มึง เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน” ฟ้ารีบลุกตาม แล้วเมย์กับพลอยก็เดินตามมาด้วย

ทันทีที่เดินถึงมุมระเบียงชั้นสองที่มองลงไปยังโถงบันได พวกเธอก็ชะงัก

“มึง ดูนั่นดิ…” ฟ้าเบิกตากว้างก่อนจะสะกิดแขนขวัญเอย

ขวัญเอยก็มองตาม แล้วเห็นภาพจินกับจ๊ะจ๋า ความรู้สึกอายเมื่อกี้พุ่งกลับมาเต็มแรง ภาพนั้นทำให้ขวัญเอยรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าซ้ำอีกรอบ ทั้งที่ยังไม่หายชา

เมย์ยืนมองอยู่ข้าง ๆ แอบเลิกคิ้วเบา ๆ แล้วเบือนหน้าหนีเหมือนแอบยิ้มสะใจในใจ ขวัญเอยยืนนิ่งไปพักหนึ่ง แล้วถอนหายใจยาว กลั้นน้ำตาไว้สุดชีวิต มันไม่ใช่แค่ผิดหวัง แต่มันคือ แพ้แบบเต็มตัว

ขวัญเอยกำหมัดแน่น แล้วเร่งฝีเท้าเดินลงบันไดอย่างรวดเร็ว ผ่านตรงกลางระหว่างคนสองคนนั้นโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมอง

จินยังคงเฉยชาเหมือนไม่เห็นเธอด้วยซ้ำ มีเพียงพี่จ๊ะจ๋าเท่านั้นที่หันมายิ้มให้บาง ๆ อย่างเป็นมิตร จ๊ะจ๋าเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกัน เคยคุยแชตกันอยู่บ่อย ๆ แต่วันนี้ รอยยิ้มนั้นกลับกลายเป็นสิ่งที่บาดใจขวัญเอยยิ่งกว่าเดิม

เมื่อทั้งหมดเดินลงมาด้านล่างตึก ขวัญเอยยังคงหน้าตึง หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ขอบตาร้อนผ่าว แต่ยังพยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น

“พี่จ๊ะจ๋ามาทำไม” เมย์เป็นคนแรกที่เปิดปากขึ้น เสียงของเธอเจือแววเสียดเล็ก ๆ น้ำเสียงเหมือนอยากรู้ แต่ลึก ๆ ฟังดูแปลก ๆ คล้ายจะหาเรื่องเผือกมากกว่าห่วงเพื่อน

“ถึงกลับมาหาถึงโรงเรียน” พลอยยืนกอดอก มองขึ้นไปยังบันไดแล้วพูดต่อแบบไม่ต้องคิด “คงคบกันแล้วแหละ กูว่า นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่มันปฏิเสธมึง เพราะมันคบกับพี่จ๊ะจ๋าแล้วรึเปล่า”

คำพูดนั้นทำเอาขวัญเอยหันมาขมวดคิ้วใส่ทันที สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกชัดเจน

“ไหนมึงบอกกูว่าเขาแค่กำลังคุย ๆ กันอยู่” ขวัญเอยหันหน้าไปถามเมย์อย่างไม่พอใจ

“ยังไม่ได้คบกันไม่ใช่เหรอ สถานะในเฟซก็ไม่ได้ขึ้น”

เมย์เป็นคนที่ตามติดชีวิตในโซเชียลของจินตลอดเวลา เธอเช็กทุกความเคลื่อนไหวของเขา รู้หมดว่าจินกดไลก์ให้ใครบ้าง คอมเมนต์กับใครบ่อยสุด

“เรียกไอ้ทิศเหนือมาถามดิ มันน่าจะรู้อะไรเยอะพอสมควร” ฟ้าเอ่ยเสริมขึ้น

ขวัญเอยยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ใจเต้นแรง ความรู้สึกตีกันในหัว ทั้งโกรธ ทั้งอาย ทั้งอยากรู้ความจริง และลึก ๆ ก็ยังอดหวังไม่ได้ ว่าทั้งหมดอาจจะแค่เรื่องเข้าใจผิด

ฟ้าพูดจบก็ไม่รอให้ใครตอบรับอะไร เดินดุ่ม ๆ ขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องเรียนอย่างไว สีหน้าจริงจังเหมือนคนที่กำลังจะไปไขความลับระดับชาติ พอเปิดประตูห้องก็เห็นทิศเหนือนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้อยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์

“เหนือ มานี่หน่อย” ฟ้าเรียกด้วยเสียงเร่ง ๆ ทำให้ทิศเหนือสะดุ้งนิดหน่อย ก่อนจะดึงหูฟังข้างหนึ่งออกแล้วเหล่มามอง

“มีอะไรวะ” ทิศเหนือถามพลางยืนขึ้นยืดเส้นยืดสาย เดินออกมาหน้าห้อง

“จินคบกับพี่จ๊ะจ๋าแล้วเหรอ”

“คบแล้วมั้ง กูก็ไม่รู้ กูรู้แค่มันกับพี่จ๊ะจ๋าจัดกันก่อนมาเรียน”

คำว่า ‘จัดกัน’ นั้นทำเอากลุ่มผู้หญิงถึงกับเงียบไปแป๊บหนึ่ง ก่อนที่ฟ้าจะอุทานเสียงหลง

“อีเหี้ย ถ้าขนาดนี้ก็คงคบกันแล้วแหละ”

ฟ้าหันไปมองหน้าขวัญเอยทันทีที่พูดจบ แววตาคือไม่รู้จะสงสารหรือช็อกดี ขวัญเอยยืนหน้านิ่ง สายตาเหม่อเหมือนโดนลากออกจากโลกความจริง คิ้วขมวด ปากเม้มแน่น พยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา

แต่ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรต่อ เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากปลายทางเดิน และทันใดนั้นเอง ไอมิเอะที่เพิ่งกลับจากห้องน้ำก็เดินมาพอดี

จังหวะที่เดินผ่านหน้าห้อง ไอมิเอะได้ยินบทสนทนาชัดถ้อยชัดคำ โดยเฉพาะคำว่า ‘จัดกันก่อนมาเรียน’

ไอมิเอะชะงักไปครู่หนึ่ง สีหน้าตึงขึ้นนิด ๆ แววตาสั่นไหว แต่ก็พยายามคงท่าทางนิ่ง ๆ เก็บความรู้สึก

ไม่มีใครทันสังเกตว่าเธอได้ยินแล้ว เพราะทุกสายตากำลังจ้องมองอยู่ที่ขวัญเอย

จินมีแฟนอีกแล้วสินะ เฮ้อ เจ็บชะมัด ขนาดขวัญเอย ผู้หญิงที่ทั้งสวย ทั้งฮอต ทั้งมั่นใจขนาดนั้น ยังโดนปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้า แล้วฉันล่ะ? จะเหลืออะไร

ดีแล้วที่ฉันไม่เคยคิดจะสารภาพความรู้สึกที่มีต่อจิน ขอบคุณขวัญเอยด้วยซ้ำ ที่เป็นหน่วยกล้าตาย กล้าลอง อย่างน้อยฉันก็ได้เห็นแล้วว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง

จินไม่ใช่คนธรรมดา จินเป็นลูกคนรวย รวยแบบที่ไม่มีใครในโรงเรียนนี้กล้าเทียบ ปู่ของจินเป็นอดีตนายพลระดับบิ๊ก ๆ แถมยังเป็นเจ้าของโรงเรียนนี้อีกด้วย

ส่วนพ่อก็เป็นนักการเมืองชื่อดัง แม่ของจินก็เป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัย ตาของจินเป็นวิศวกรที่มีเครือร้านขายวัสดุก่อสร้างใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ แล้วก็มีร้านขายทองคำอยู่ทุกจังหวัดในภาคเหนือ

ส่วนยายก็เป็นหมอ แถมยังเปิดโรงพยาบาลเองอีกต่างหาก และครอบครัวก็มีธุรกิจอีกเยอะ เรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีภาคเหนือเลยแหละ

พูดง่าย ๆ ว่าทั้งตระกูลของจินเต็มไปด้วยคนเก่งและมีฐานะระดับบนสุดของเชียงใหม่

ส่วนฉัน ก็แค่ลูกครึ่งญี่ปุ่นธรรมดาคนหนึ่ง พ่อเป็นวิศวกร เปิดบริษัทเล็ก ๆ รับเหมาก่อสร้าง แม่เป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นอยู่โรงเรียนใกล้ ๆ

ฉันไม่ได้ลำบาก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับสุขสบายหรูหราอะไร มันเลยชัดเจนมาตลอด ว่าฉันกับจินต่างกันราวฟ้ากับเหว จินอยู่บนโลกที่ฉันไม่มีวันก้าวขึ้นไปถึง อยู่สูงเกินกว่าฉันจะกล้าเอื้อมมือแตะ

จินดูรวยมากเกินไปสำหรับคนธรรมดาอย่างฉัน ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ แค่มันคนละโลกกันจริง ๆ ชีวิตจินหรูหราตลอด ทุกอย่างรอบตัวเขาดูดีไปหมด ตั้งแต่แบรนด์กระเป๋าไปจนถึงมือถือที่อัปใหม่ตลอด รองเท้าคู่ละเป็นหมื่น รถที่ขับมาเรียนก็หลักล้านทั้งนั้น

ฉันไม่รู้จะวางตัวยังไงด้วยซ้ำเวลาอยู่ใกล้จิน มันไม่ใช่แค่ความแตกต่างเรื่องเงิน แต่มันคือไลฟ์สไตล์ ทั้งหมดดูห่างไกลจากฉันเหลือเกิน

ฉันโตมากับการรู้ว่าควรใช้เงินยังไงให้พอถึงสิ้นเดือน ร้านข้าวตามสั่งคือของโปรด ส่วนเสื้อผ้าก็ขอแค่ใส่แล้วมั่นใจก็พอ ไม่ได้สนใจแบรนด์

กับจิน อะไร ๆ ก็ดูเกินไปสำหรับฉัน มันไม่ใช่ว่าเขาแย่หรอก แต่ฉันดีไม่พอ ฉันคิดว่าถ้าเดินเข้าไปในโลกของจิน ฉันคงเดินหลงอยู่ในนั้น และสุดท้ายก็ต้องเดินถอยหลังออกมาอยู่ดี

เพราะอะไรที่มันเกินพอดี เกินเรามากเกินไป อยู่ด้วยแล้วมันไม่ได้ทำให้รู้สึกพิเศษ แต่มันทำให้รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วก็คงจะอึดอัด

และฉันไม่อยากฝืน ไม่อยากเป็นคนที่ต้องพยายามเปลี่ยนตัวเองแค่เพื่อให้ใครอีกคนยอมรับ บางทีแค่แอบชอบเขาเงียบ ๆ แบบนี้ มันก็อาจจะดีกว่าแล้วก็ได้

ฉันเลยเลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ แบบนี้ แอบชอบจินอยู่ไกล ๆ ไม่เคยพูดออกไป ไม่เคยบอกใคร ไม่เคยแม้แต่จะมองจินนาน ๆ ด้วยซ้ำ

ฉันพยายามไม่คุยกับจิน ไม่เข้าใกล้ เพราะกลัวว่าถ้าพลาดไปเผลอใกล้เกินไป ฉันจะถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนที่ขวัญเอยเป็น เงียบไว้แบบนี้แหละดีแล้ว มันเจ็บน้อยกว่า…
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วิศวะล้ำเส้นเพื่อน   บทที่ 481

    “ครั้งสุดท้าย อย่าให้มีครั้งที่สาม” เขากัดฟันพูดเสียงเรียบ พลางใช้มืออีกข้างกลับลูบหลังเธอเบาๆ “ขอบคุณค่ะ^^” เธอเงยหน้าขึ้นมายิ้มตาหยี ดีดตัวขึ้นนั่งอย่างร่าเริง จนจินต้องกลั้นยิ้มไว้แน่น ราวกับอยากจะตีให้หายซน แต่ก็ทำไม่ลง เจอลูกอ้อนแบบนี้ จินทำไม่ลง “จะขายของก็ขายไป แต่ห้ามทำตัวแรด ไม่ชอบ” เสี

  • วิศวะล้ำเส้นเพื่อน   บทที่ 480

    บทที่ 144 หลังจากนั้นไม่นาน อาจารย์ที่ปรึกษาก็มาเรียกไอมิเอะไปซ้อมรำ ทำเอาเธอแทบอยากมุดโต๊ะหนี ไม่อยากไปสักนิด แต่โดนจิ้มชื่อมาขนาดนี้ จะปฏิเสธก็คงไม่ได้ ได้แต่ถอนหายใจยาว ๆ แล้วลากขาไปอย่างจำใจ แค่คิดถึงวันงานกีฬาสีที่จะมาถึง เธอก็อยากร้องไห้แล้ว ทั้งต้องเป็นดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่ง เดินนำขบวนพาเหรดตอ

  • วิศวะล้ำเส้นเพื่อน   บทที่ 479

    “ชาติที่แล้วมันทำบุญด้วยอะไรวะ” “รุ่นนี้แค่มีเงินก็เข้าไปครึ่งแล้ว” เพื่อนผู้ชายอีกคนมองไปที่ไอมิเอะด้วยความเสียดาย อยากจะเป็นคนนั้นบ้าง คนที่ได้เข้าไปครึ่งลำ “ไม่ครึ่ง อาจจะมิดเลย” “แม่งเอ้ย ทำไมชาติที่แล้วกูไม่ทำบุญเยอะๆ วะ จะได้ส่งผลมาถึงชาตินี้” “หล่อเลือกได้ แต่รวยเลือกก่อน คำนี้แม่งจริง”

  • วิศวะล้ำเส้นเพื่อน   บทที่ 478

    บทที่ 143 ไม่นาน เขาก็เดินเปลือยกายออกมาจากห้องน้ำ โดยมีหยดน้ำเกาะพราวตามแผ่นอกแน่นและกล้ามหน้าท้อง เส้นผมเปียกชื้นแนบกรอบหน้า ในขณะที่เธอหันหลังให้ประตูห้องน้ำ กำลังเล่นกับจูเนียร์อยู่บนเตียง เขาก็เดินมาหยุดข้างเตียง “ใช้ปากทำให้มันหด” เธอก็หันมามอง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับความเป็น

  • วิศวะล้ำเส้นเพื่อน   บทที่ 477

    เธอไม่ควรจะทำแบบนั้นกับเขา เธอไม่ควรโกรธ ไม่ควรแสดงความอ่อนไหวเกินไป แต่หัวใจมันก็ยังสั่นไหว เจ็บจัง... เจ็บจนตัวเองก็ไม่เข้าใจ เธออยากลบความรู้สึกนี้ออกไป แต่มันก็ยากเหลือเกิน “กูไม่ได้ชอบผู้หญิงที่พ่อเลือกให้” เขาเงยหน้าขึ้นมามองเธอ ยิ่งเห็นเธอน้ำคลอ เขาก็ยิ่งรู้สึกผิด เจ็บยิ่งกว่าแผลที่หลัง

  • วิศวะล้ำเส้นเพื่อน   บทที่ 476

    บทที่ 142 ปึก! ปึก! ปึก! ปลายหัวเห็ดแดงก่ำกระแทกจุดกระสันอย่างอ่อนโยน จินถอนจูบออกมาให้เธอได้หายใจ แล้วจูบซ้ำอีกครั้ง ครั้งนี้จูบแนบแน่นมากขึ้น สอดลิ้นลึกขึ้น ทำเอาเธอหลับตาเคลิ้มไปกับจูบของเขา เขาก็จูบซ้ำ ๆ ดูดดึงลิ้นเล็กรูดขึ้นลงอย่างหนักหน่วง แรงดูดดึงนั้นทำให้หัวใจของเธอสั่นสะท้าน สายตาของเขา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status