Share

บทที่ 4

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-30 14:53:33

บทที่ 3

“อีเหี้ยมันปฏิเสธกูอะ!!” เสียงขวัญเอยดังขึ้น มือที่ถือโทรศัพท์สั่นเล็กน้อย ใบหน้าที่เมื่อกี้ยังยิ้มเขิน ๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแดงก่ำทั้งเพราะความเสียใจและความอาย

“ไหนพวกมึงบอกว่ามันชอบกูไง!!”

“พวกกูจะไปรู้ใจมันได้ยังไง ก็กูเห็นมันตอบแชตแค่มึงคนเดียวจริง ๆ ทั้งห้องไม่เห็นมันตอบใครเลยนอกจากมึง” เมย์เลิกคิ้วนิด ๆ แล้วแอบเหยียดยิ้มมุมปาก ความสะใจฉายชัดบนใบหน้า แต่ปากยังพูดเรียบ ๆ แก้ตัว

“อีเหี้ย แล้วมันปฏิเสธกูแบบนี้มันหมายความว่าไงวะ!? แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา มันคุยกับกู มันกดไลก์รูปให้กู มันคืออะไรวะ!?”

“เออนั่นดิ กูไม่เคยเห็นมันกดไลก์ให้ใครเลยนะ นอกจากแฟนมัน หรือคนที่มันคุยอยู่ แล้วมึงก็เป็นคนเดียวในห้องที่มันกดให้ด้วยซ้ำ” เป็นฟ้าเอ่ยเสริม

“หรือมันไม่กล้ายอมรับความรู้สึกตัวเอง มึงลองไปคุยกับมันต่อหน้าดูดิ จะได้เห็นสีหน้ามันจริง ๆ ว่ามันรู้สึกยังไงกับมึงกันแน่”

“ขนาดนี้แล้ว พวกมึงยังจะบอกให้มันไปคุยอีกเหรอ?” เสียงของแก้มยุ้ยดังขึ้นบ้าง อย่างมองสถานการณ์ออก

“ไอ้จินอ่ะ ถ้ามันไม่ชอบ มันก็จะบอกเลย มันเป็นคนชัดเจนตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว กูเป็นเพื่อนกับมันมาตั้งแต่เด็ก กูรู้จักนิสัยมันดี”

น้ำเสียงของแก้มยุ้ยหนักแน่นจริงจัง ไม่ได้พูดเอามัน แต่พูดให้ขวัญเอยได้สติ ทำให้ขวัญเอยนิ่งไป มองต่ำ มือกำโทรศัพท์แน่น ใจมันทั้งเจ็บทั้งอาย และในขณะที่เพื่อนบางคนพยายามช่วยปลอบ เมย์กลับนั่งเงียบ เหยียดยิ้มบาง ๆ อย่างสะใจ

“ไปเข้าห้องน้ำนะ” ไอมิเอะหันไปพูดกับยี่หวาและเส้นด้ายด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ตามสไตล์ของเธอ

ทั้งคู่ก็พยักหน้าโดยไม่ถามอะไร เพราะรู้ดีว่าไอมิเอะเป็นคนพูดน้อย ไม่ชอบให้ใครมาจี้จุดหรือจ้องนานเกินไป

ไอมิเอะเดินตรงไปทางห้องน้ำหญิง ซึ่งอยู่เลยโถงบันไดตรงกลางชั้นเรียน แต่แล้วขากลับชะงักกึก เมื่อสายตาของเธอเผลอไปสะดุดกับภาพตรงบันไดทางขึ้นลงที่เชื่อมระหว่างตึกเรียนเก่าและใหม่

เป็นจินนั่งอยู่บนขั้นบันไดขั้นที่สี่ฝั่งซ้าย และพี่จ๊ะจ๋า รุ่นพี่ศิษย์เก่าของโรงเรียนนั่งอยู่ขั้นที่สองฝั่งตรงขวา สวมชุดนักศึกษารัดรูปพอดีตัว สองคนหันตัวเข้าหากัน แต่จินก้มหน้าดูโทรศัพท์

ภาพนั้นทำเอาไอมิเอะใจสั่นอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งที่แค่จะเดินไปเข้าห้องน้ำแท้ ๆ

“จินลืมแอร์พอดไว้ที่ห้องพี่ ก็เลยเอามาให้” พี่จ๊ะจ๋าพูดด้วยเสียงนุ่ม แต่แฝงความสนิทสนมบางอย่างในน้ำเสียง จินเงยหน้ารับของพลางพยักหน้าเล็กน้อย

ไอมิเอะทำได้แค่ยืนชะงักอยู่ตรงหัวมุมบันได มองภาพตรงหน้าราวกับเป็นฉากจากหนังที่เธอไม่ควรมีตัวตนอยู่ในเฟรมนี้

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ของไอมิเอะบนพื้นปูน ทำให้จินที่นั่งก้มหน้าดูโทรศัพท์อยู่เงยขึ้นโดยไม่ตั้งใจ

แค่เสี้ยววินาทีที่สายตาของเขาสบเข้ากับเธอ ร่างสูงชะงักเล็กน้อย แววตาคู่นั้นจ้องนิ่ง ราวกับจับภาพของเธอไว้โดยไม่ทันได้ตั้งใจจะทำ

แต่จินไม่ได้ขยับ ไม่ได้เอ่ยทัก ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว แต่สายตากลับนิ่งจนไอมิเอะรู้สึกเหมือนกำลังถูกกลืนเข้าไปทั้งตัว

จ๊ะจ๋าที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ จิน หันไปมองตามสายตาของจินอย่างอัตโนมัติ ตอนที่เห็นเขาหยุดชะงักเหมือนถูกอะไรบางอย่างสะกดไว้ ตอนแรกก็แค่คิดว่า คงเป็นใครสักคนเดินผ่านไปเท่านั้นเอง แต่พอจ๊ะจ๋าได้เห็นเด็กคนนั้นชัด ๆ ขาก็แทบจะไขว้ไม่ลงในทันที

น้องคนนั้น หน้าตาน่ารักจนสะดุดตาแบบไม่ต้องพยายามอะไรเลย ดวงตากลมโตใสแจ๋ว ไม่ได้กรีดอายไลเนอร์ ขนตางอนยาว ไม่แต่งหน้า แต่แก้มอมชมพูมีเลือดฝาด ริมฝีปากก็สีแดงอมชมพูธรรมชาติ ไม่ได้แต่งแต้มใดๆ

ไม่ได้แต่งหน้า แต่กลับดูโดดเด่นจนคนรอบข้างพลอยหมองไปถนัดตา ผิวก็ขาวแบบไม่ได้ขาวซีดอย่างจงใจ แต่เป็นขาวนวลเนียนแบบธรรมชาติ ขาวเหมือนมีแสงไฟซอฟต์ ๆ ติดอยู่กับตัวตลอดเวลา จ๊ะจ๋าเห็นแล้วเผลอเบะปากนิด ๆ อย่างหมั่นไส้ในใจ

เอวก็เล็กคอดจนน่าหมั่นไส้ เล็กแบบ ‘จับแล้วเต็มมือ’ อย่างที่ผู้ชายชอบพูดกันเล่น ๆ เอวไม่น่าต่ำกว่าสิบแปดนิ้ว หน้าอกก็ใหญ่มหึมา ขาก็เรียวยาวแบบไม่ต้องพยายามยืนโพสต์ก็ยังดูดี

จ๊ะจ๋าอดไม่ได้ที่จะมองไล่จากปลายผมลงมาจนถึงปลายเท้า แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองโดนเด็กกระแทกหน้าเข้าให้

นี่มัน…สเปกของจินชัด ๆ

ผู้หญิงใส ๆ ไม่ประดิษฐ์ ไม่ทำตัวเยอะ แต่กลับสวยเกินหน้าเกินตา ดูน่าทะนุถนอม แต่ก็มีแรงดึงดูดประหลาดที่ทำให้ผู้ชายอยากเข้าใกล้โดยไม่รู้ตัว

จ๊ะจ๋ากัดริมฝีปากเบา ๆ พลางเหลือบมองหน้าจินอีกครั้ง แม้เขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่เธอก็รู้ดี เขามองไอมิเอะนานเกินไป นานพอจะทำให้หัวใจของจ๊ะจ๋าเริ่มเต้นแรงด้วยความหงุดหงิด

พอเห็นจินเอาแต่จ้อง จ๊ะจ๋าก็หรี่ตาลงอย่างไม่แน่ใจ มือข้างหนึ่งขยับจัดผมตัวเองเล็กน้อย แต่ใจกลับไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ตัวเองเท่าไหร่แล้ว ใจเธอกำลังจับจ้องอยู่กับสายตาของผู้ชายข้าง ๆ

จินมองอยู่อย่างนั้น ไอมิเอะเองก็รู้ตัวว่าโดนจ้อง หัวใจดวงน้อยก็เต้นผิดจังหวะนิดหน่อย แต่เธอรีบเบือนหน้าหนีพยายามดึงสีหน้ากลับมาเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ในใจจะตีกันยุ่ง

ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตรงไปทางห้องน้ำอย่างเร็ว โดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย พอเธอลับสายตาไปแล้ว จินก็เอนหลังพิงกับราวบันได

“ชอบเหรอ?” เสียงของจ๊ะจ๋าดูเหมือนไม่ได้มีอะไร แต่หางเสียงมันแข็งจนสังเกตได้

ดวงตาคมของจ๊ะจ๋าจ้องจินนิ่ง ๆ ขณะพูด แล้วริมฝีปากก็แอบเม้มแน่นนิด ๆ ราวกับกัดฟันถามอย่างไม่สบอารมณ์

จินที่นั่งเอนพิงราวบันได เลิกคิ้วข้างขวาขึ้นช้า ๆสายตาคมกริบตวัดมองจ๊ะจ๋าเหมือนจะเตือนว่าอย่าพูดอะไรเกินเส้น

“อะไร?” จินถามเสียงต่ำ สีหน้าชัดเจนว่าไม่ค่อยพอใจนักกับคำถามแบบนี้ มืออีกข้างก็ควงโทรศัพท์เล่นไปเรื่อย เหมือนไม่ได้ใส่ใจโลก

จ๊ะจ๋าก็พยายามปรับสีหน้าให้ดูเรียบเฉย แสร้งหัวเราะนิด ๆ แล้วถามต่อ

“น้องคนเมื่อกี้…ชื่ออะไรนะ?”

“....” จินเงียบ ไม่ตอบอะไร นิ้วเรียวเลื่อนหน้าจอมือถือไปช้า ๆ แต่สังเกตได้ว่าเขาไม่ได้อ่านอะไรเลย

“รู้สึกว่าจะเป็นหลานรหัสของน้องชายพี่นะ” จ๊ะจ๋าเอ่ยเสียงหวานขึ้นเล็กน้อย แต่สายตากลับเย็นเฉียบ

ขณะพูด มือก็ยกขึ้นมาปัดเส้นผมตัวเองอย่างตั้งใจ ทำเหมือนไม่สนใจ แต่จริง ๆ กำลังดูปฏิกิริยาของจินอย่างเงียบ ๆ

“แล้วไง?” จินถามกลับโดยไม่มองหน้า แค่คำพูดสั้น ๆ แต่แฝงด้วยแรงสะท้อนบางอย่างที่ทำให้จ๊ะจ๋าเงียบไปชั่วครู่

“น้องน่ารักดีนะ พี่ว่าจะเต๊าะเอาไว้ให้น้องชายพี่ซะหน่อย แต่เสียดาย ได้ยินมาว่าน้องเขามีแฟนแล้ว”

“....” คำพูดนั้นทำให้จินหยุดเลื่อนหน้าจอ สายตาเหลือบขึ้นมาเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะก้มหน้าลงเหมือนเดิม

@อีกด้านนึง

ขวัญเอยที่เพิ่งโดนปฏิเสธ ก็ยังรู้สึกชาอยู่ เธอลุกออกจากห้องเรียนเพื่อสูดอากาศข้างนอก เพราะรู้สึกเหมือนห้องเรียนมันแคบลงเรื่อย ๆ หายใจไม่ออก

“มึง เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน” ฟ้ารีบลุกตาม แล้วเมย์กับพลอยก็เดินตามมาด้วย

ทันทีที่เดินถึงมุมระเบียงชั้นสองที่มองลงไปยังโถงบันได พวกเธอก็ชะงัก

“มึง ดูนั่นดิ…” ฟ้าเบิกตากว้างก่อนจะสะกิดแขนขวัญเอย

ขวัญเอยก็มองตาม แล้วเห็นภาพจินกับจ๊ะจ๋า ความรู้สึกอายเมื่อกี้พุ่งกลับมาเต็มแรง ภาพนั้นทำให้ขวัญเอยรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าซ้ำอีกรอบ ทั้งที่ยังไม่หายชา

เมย์ยืนมองอยู่ข้าง ๆ แอบเลิกคิ้วเบา ๆ แล้วเบือนหน้าหนีเหมือนแอบยิ้มสะใจในใจ ขวัญเอยยืนนิ่งไปพักหนึ่ง แล้วถอนหายใจยาว กลั้นน้ำตาไว้สุดชีวิต มันไม่ใช่แค่ผิดหวัง แต่มันคือ แพ้แบบเต็มตัว

ขวัญเอยกำหมัดแน่น แล้วเร่งฝีเท้าเดินลงบันไดอย่างรวดเร็ว ผ่านตรงกลางระหว่างคนสองคนนั้นโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมอง

จินยังคงเฉยชาเหมือนไม่เห็นเธอด้วยซ้ำ มีเพียงพี่จ๊ะจ๋าเท่านั้นที่หันมายิ้มให้บาง ๆ อย่างเป็นมิตร จ๊ะจ๋าเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกัน เคยคุยแชตกันอยู่บ่อย ๆ แต่วันนี้ รอยยิ้มนั้นกลับกลายเป็นสิ่งที่บาดใจขวัญเอยยิ่งกว่าเดิม

เมื่อทั้งหมดเดินลงมาด้านล่างตึก ขวัญเอยยังคงหน้าตึง หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ขอบตาร้อนผ่าว แต่ยังพยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น

“พี่จ๊ะจ๋ามาทำไม” เมย์เป็นคนแรกที่เปิดปากขึ้น เสียงของเธอเจือแววเสียดเล็ก ๆ น้ำเสียงเหมือนอยากรู้ แต่ลึก ๆ ฟังดูแปลก ๆ คล้ายจะหาเรื่องเผือกมากกว่าห่วงเพื่อน

“ถึงกลับมาหาถึงโรงเรียน” พลอยยืนกอดอก มองขึ้นไปยังบันไดแล้วพูดต่อแบบไม่ต้องคิด “คงคบกันแล้วแหละ กูว่า นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่มันปฏิเสธมึง เพราะมันคบกับพี่จ๊ะจ๋าแล้วรึเปล่า”

คำพูดนั้นทำเอาขวัญเอยหันมาขมวดคิ้วใส่ทันที สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกชัดเจน

“ไหนมึงบอกกูว่าเขาแค่กำลังคุย ๆ กันอยู่” ขวัญเอยหันหน้าไปถามเมย์อย่างไม่พอใจ

“ยังไม่ได้คบกันไม่ใช่เหรอ สถานะในเฟซก็ไม่ได้ขึ้น”

เมย์เป็นคนที่ตามติดชีวิตในโซเชียลของจินตลอดเวลา เธอเช็กทุกความเคลื่อนไหวของเขา รู้หมดว่าจินกดไลก์ให้ใครบ้าง คอมเมนต์กับใครบ่อยสุด

“เรียกไอ้ทิศเหนือมาถามดิ มันน่าจะรู้อะไรเยอะพอสมควร” ฟ้าเอ่ยเสริมขึ้น

ขวัญเอยยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ใจเต้นแรง ความรู้สึกตีกันในหัว ทั้งโกรธ ทั้งอาย ทั้งอยากรู้ความจริง และลึก ๆ ก็ยังอดหวังไม่ได้ ว่าทั้งหมดอาจจะแค่เรื่องเข้าใจผิด

ฟ้าพูดจบก็ไม่รอให้ใครตอบรับอะไร เดินดุ่ม ๆ ขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องเรียนอย่างไว สีหน้าจริงจังเหมือนคนที่กำลังจะไปไขความลับระดับชาติ พอเปิดประตูห้องก็เห็นทิศเหนือนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้อยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์

“เหนือ มานี่หน่อย” ฟ้าเรียกด้วยเสียงเร่ง ๆ ทำให้ทิศเหนือสะดุ้งนิดหน่อย ก่อนจะดึงหูฟังข้างหนึ่งออกแล้วเหล่มามอง

“มีอะไรวะ” ทิศเหนือถามพลางยืนขึ้นยืดเส้นยืดสาย เดินออกมาหน้าห้อง

“จินคบกับพี่จ๊ะจ๋าแล้วเหรอ”

“คบแล้วมั้ง กูก็ไม่รู้ กูรู้แค่มันกับพี่จ๊ะจ๋าจัดกันก่อนมาเรียน”

คำว่า ‘จัดกัน’ นั้นทำเอากลุ่มผู้หญิงถึงกับเงียบไปแป๊บหนึ่ง ก่อนที่ฟ้าจะอุทานเสียงหลง

“อีเหี้ย ถ้าขนาดนี้ก็คงคบกันแล้วแหละ”

ฟ้าหันไปมองหน้าขวัญเอยทันทีที่พูดจบ แววตาคือไม่รู้จะสงสารหรือช็อกดี ขวัญเอยยืนหน้านิ่ง สายตาเหม่อเหมือนโดนลากออกจากโลกความจริง คิ้วขมวด ปากเม้มแน่น พยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา

แต่ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรต่อ เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากปลายทางเดิน และทันใดนั้นเอง ไอมิเอะที่เพิ่งกลับจากห้องน้ำก็เดินมาพอดี

จังหวะที่เดินผ่านหน้าห้อง ไอมิเอะได้ยินบทสนทนาชัดถ้อยชัดคำ โดยเฉพาะคำว่า ‘จัดกันก่อนมาเรียน’

ไอมิเอะชะงักไปครู่หนึ่ง สีหน้าตึงขึ้นนิด ๆ แววตาสั่นไหว แต่ก็พยายามคงท่าทางนิ่ง ๆ เก็บความรู้สึก

ไม่มีใครทันสังเกตว่าเธอได้ยินแล้ว เพราะทุกสายตากำลังจ้องมองอยู่ที่ขวัญเอย

จินมีแฟนอีกแล้วสินะ เฮ้อ เจ็บชะมัด ขนาดขวัญเอย ผู้หญิงที่ทั้งสวย ทั้งฮอต ทั้งมั่นใจขนาดนั้น ยังโดนปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้า แล้วฉันล่ะ? จะเหลืออะไร

ดีแล้วที่ฉันไม่เคยคิดจะสารภาพความรู้สึกที่มีต่อจิน ขอบคุณขวัญเอยด้วยซ้ำ ที่เป็นหน่วยกล้าตาย กล้าลอง อย่างน้อยฉันก็ได้เห็นแล้วว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง

จินไม่ใช่คนธรรมดา จินเป็นลูกคนรวย รวยแบบที่ไม่มีใครในโรงเรียนนี้กล้าเทียบ ปู่ของจินเป็นอดีตนายพลระดับบิ๊ก ๆ แถมยังเป็นเจ้าของโรงเรียนนี้อีกด้วย

ส่วนพ่อก็เป็นนักการเมืองชื่อดัง แม่ของจินก็เป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัย ตาของจินเป็นวิศวกรที่มีเครือร้านขายวัสดุก่อสร้างใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ แล้วก็มีร้านขายทองคำอยู่ทุกจังหวัดในภาคเหนือ

ส่วนยายก็เป็นหมอ แถมยังเปิดโรงพยาบาลเองอีกต่างหาก และครอบครัวก็มีธุรกิจอีกเยอะ เรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีภาคเหนือเลยแหละ

พูดง่าย ๆ ว่าทั้งตระกูลของจินเต็มไปด้วยคนเก่งและมีฐานะระดับบนสุดของเชียงใหม่

ส่วนฉัน ก็แค่ลูกครึ่งญี่ปุ่นธรรมดาคนหนึ่ง พ่อเป็นวิศวกร เปิดบริษัทเล็ก ๆ รับเหมาก่อสร้าง แม่เป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นอยู่โรงเรียนใกล้ ๆ

ฉันไม่ได้ลำบาก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับสุขสบายหรูหราอะไร มันเลยชัดเจนมาตลอด ว่าฉันกับจินต่างกันราวฟ้ากับเหว จินอยู่บนโลกที่ฉันไม่มีวันก้าวขึ้นไปถึง อยู่สูงเกินกว่าฉันจะกล้าเอื้อมมือแตะ

จินดูรวยมากเกินไปสำหรับคนธรรมดาอย่างฉัน ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ แค่มันคนละโลกกันจริง ๆ ชีวิตจินหรูหราตลอด ทุกอย่างรอบตัวเขาดูดีไปหมด ตั้งแต่แบรนด์กระเป๋าไปจนถึงมือถือที่อัปใหม่ตลอด รองเท้าคู่ละเป็นหมื่น รถที่ขับมาเรียนก็หลักล้านทั้งนั้น

ฉันไม่รู้จะวางตัวยังไงด้วยซ้ำเวลาอยู่ใกล้จิน มันไม่ใช่แค่ความแตกต่างเรื่องเงิน แต่มันคือไลฟ์สไตล์ ทั้งหมดดูห่างไกลจากฉันเหลือเกิน

ฉันโตมากับการรู้ว่าควรใช้เงินยังไงให้พอถึงสิ้นเดือน ร้านข้าวตามสั่งคือของโปรด ส่วนเสื้อผ้าก็ขอแค่ใส่แล้วมั่นใจก็พอ ไม่ได้สนใจแบรนด์

กับจิน อะไร ๆ ก็ดูเกินไปสำหรับฉัน มันไม่ใช่ว่าเขาแย่หรอก แต่ฉันดีไม่พอ ฉันคิดว่าถ้าเดินเข้าไปในโลกของจิน ฉันคงเดินหลงอยู่ในนั้น และสุดท้ายก็ต้องเดินถอยหลังออกมาอยู่ดี

เพราะอะไรที่มันเกินพอดี เกินเรามากเกินไป อยู่ด้วยแล้วมันไม่ได้ทำให้รู้สึกพิเศษ แต่มันทำให้รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วก็คงจะอึดอัด

และฉันไม่อยากฝืน ไม่อยากเป็นคนที่ต้องพยายามเปลี่ยนตัวเองแค่เพื่อให้ใครอีกคนยอมรับ บางทีแค่แอบชอบเขาเงียบ ๆ แบบนี้ มันก็อาจจะดีกว่าแล้วก็ได้

ฉันเลยเลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ แบบนี้ แอบชอบจินอยู่ไกล ๆ ไม่เคยพูดออกไป ไม่เคยบอกใคร ไม่เคยแม้แต่จะมองจินนาน ๆ ด้วยซ้ำ

ฉันพยายามไม่คุยกับจิน ไม่เข้าใกล้ เพราะกลัวว่าถ้าพลาดไปเผลอใกล้เกินไป ฉันจะถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนที่ขวัญเอยเป็น เงียบไว้แบบนี้แหละดีแล้ว มันเจ็บน้อยกว่า…
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • วิศวะล้ำเส้นเพื่อน   บทที่ 621

    “นายไม่ไปโรงพยาบาลเหรอ” ไอมิเอะเผลอมองไปที่บาดแผลบนใบหน้าของเสืออีกครั้ง คราบเลือดที่แห้งกรังตัดกับผิวขาวซีด ทำให้ใจเธอสะดุดวูบโดยไม่รู้ตัว “...ไม่” “อย่าบอกว่านายจะทำแผลเอง” “ทำไม คิดว่าฉันทำไม่ได้เหรอ ฉันอยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็ก ทำแผลเอง ทำอาหารเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเองจนชินแล้ว” น้ำเสียงนั้นไม่

  • วิศวะล้ำเส้นเพื่อน   บทที่ 620

    “โอ้โห....” คำถามของเสือทำเอาพนักงานหญิงถึงกับร้องโอ้โห อ้าปากค้างกันเป็นแถบ เพราะนี่มันไซซ์เกินมนุษย์ไปแล้ว ไอมิเอะก็ถึงกับสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ด้วยจินไซซ์หกสี่ ก็ว่าใหญ่แล้ว มาเจอเสือไซซ์หกเก้า ทำเอาเธอช็อกไปเลย ไหล่บางเกร็งขึ้นทันที หัวใจเหมือนหล่นวูบลงไปที่ปลายเท้า ความร้อนแล่นวาบขึ้นมาที่ใ

  • วิศวะล้ำเส้นเพื่อน   บทที่ 619

    เสือมองไปที่เรียวขาขาว ๆ ของไอมิเอะอย่างไม่ปิดบัง มองช้า ๆ เหมือนกำลังประเมิน เหมือนอ่านรายละเอียดทุกอย่างตั้งแต่ท่าทางที่เกร็งขึ้น ไหล่ที่หดเล็กน้อย ไปจนถึงจังหวะการหายใจที่ผิดปกติ ไอมิเอะรู้สึกได้ถึงสายตานั้นจนต้องหลบตาโดยอัตโนมัติ ร่างกายแข็งเกร็งขึ้นเล็กน้อย เธอไม่กล้าขยับ ไม่กล้าพูดอะไรเพิ่ม เ

  • วิศวะล้ำเส้นเพื่อน   บทที่ 618

    บทที่ 180 “มึงติดใจอะไรมันนักหนา” “รึติดความทรงจำช่วงโปรโมชั่น มันฝังในหัวเอาออกยาก?” “เพิ่งเดือนเดียวเอง แต่หมดโปรโมชั่นแล้ว หมดเร็วเกินไปไหม” “แล้ววันนี้เอาไง จะให้พวกกูนอนเป็นเพื่อนไหม?” ยี่หวาเอ่ยถามพลางมองหน้าไอมิเอะด้วยความอ่อนใจ “….” ไอมิเอะก็นิ่งไป สายตาจ้องไปยังปลายเตียงราวกับกำลังมองบ

  • วิศวะล้ำเส้นเพื่อน   บทที่ 617

    “กูมองเห็นอนาคตตั้งแต่ขึ้นเสียงแล้ว ต่อไปถ้ามันหึงอีก คงลงไม้ลงมือ” ยี่หวานั่งกอดอกพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าทุกครั้ง คำพูดของเพื่อนแต่ละคนเหมือนมีดเล่มเล็ก ๆ ค่อย ๆ กรีดลงกลางใจ ไอมิเอะเม้มริมฝีปากแน่น มือกำชายผ้าห่มจนยับ “อึก…” เธอกลืนน้ำตาลงคอ ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงสั่น “เรารู้…เรารู้ว่ามันไม่

  • วิศวะล้ำเส้นเพื่อน   บทที่ 616

    เขาโน้มลงมาใกล้จนลมหายใจร้อนผ่าวปะทะแก้มนวล มือใหญ่สอดเข้าไปในเส้นผมแล้วกระชากขึ้นมาจนใบหน้าเธอเงยขึ้น ริมฝีปากเขาไล้ผ่านโหนกแก้ม หน้าผาก ไล่ลงมาอย่างเชื่องช้า ก่อนจะใช้ลิ้นตวัดเลียเลือดสีแดงสดจากใบหูของเธอ “อย่าทำให้กูบ้าไปกว่านี้” จินฝังเขี้ยวลงไปที่ใบหูของเธอซ้ำอีกครั้ง “อึก อื้อฮือๆ” ทำให้ไอม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status