“ต้าวจ้มทางนี้เลย”
เสียงใสของเจ้าหญิงทักทาย โบกไม้โบกมือดีใจที่เห็นส้มหวานเดินเข้าห้องเรียนมา แตงโมที่นั่งเล่นมือถือก็เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ข้างตัวเธอให้ส้มหวานนั่ง
คนตัวเล็กเดินก้มหน้าเล็กน้อย มือก็คอยดึงกระโปรงทรงแคบลง ส้มหวานนั่งลงข้างแตงโม เจ้าหญิงก็เลยลุกจากที่นั่งไปนั่งประกบขวามือเธอแทน
“เป็นไง หึงจนหน้าเขียวเป็นบล็อกโคลีเลยมั้ย” เจ้าหญิงยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว แต่อีกฝ่ายกลับดูไม่มั่นใจซะงั้น
“ไม่รู้สิ พี่เสือเขาไม่ได้พูดว่าหึงที่เราใส่เลยนะ”
“พวกหึงเงียบล่ะสิ หึงแต่เก็บอาการไงส้มหวาน”
“จะ- จริงเหรอ พี่เสือจะหึงเราจริงเหรอ”
เจ้าหญิงพยักหน้าอย่างมั่นใจ กระโปรงที่ส้มหวานใส่ก็เป็นสิ่งที่เธอแนะนำให้ เธอไม่รู้หรอกว่าหนุ่มรุ่นพี่คิดอะไรอยู่ ทำไมถึงให้สถานะส้มหวานไม่ได้กัน
แต่ถ้ากั๊กไว้ก็ต้องทำในสิ่งที่คนไม่ใช่แฟนไม่มีสิทธิ์...
“ถ้าอยากให้ชัดต้องมีตัวช่วยหน่อย”
“ยังไงเหรอ”
“ขอไปนอนคิดสักคืนแล้วจะมาบอกละกัน”
ส้มหวานยิ้มรับให้กับกูรูส่วนตัว เมื่อวันอาทิตย์เจ้าหญิงไปนอนเล่นที่ห้องมา ทั้งคู่พูดคุยถึงปฏิบัติการเลิกจืด เพื่อที่จะมัดใจเสือร้ายให้หยุดหมัด
ทีแรกส้มหวานไม่ได้เล่าเรื่องที่ร้อนแรง แต่ก็ปกปิดสายตาพญาเหยี่ยวอย่างเจ้าหญิงไว้ไม่มิด เมื่อถูกจี้ถามเรื่องที่เสือยืมห้องวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น
ส้มหวานเฉไฉไม่อยากตอบ แก้มแดงปลั่งเป็นลูกตำลึงสุกที่ถูกต้อนให้จนมุม สุดท้ายก็โป๊ะแตกหมดเปลือกอยู่ดี
นั่งจ๋อยหมดท่าแล้วระบายให้เจ้าหญิงฟัง เธอตกลงปลงใจที่จะนอนกับเสือ แต่สุดท้ายกลับพบว่าไม่มีสถานะ และสาวๆ ก็ยังส่งข้อความมาหาเขาตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
ถึงเสือจะบอกว่าคุยแต่ละครั้ง เขาจะคุยคนเดียวก็ตาม แต่ว่าส้มหวานก็ยังรู้สึกแย่ที่มีสาวสวยหุ่นเอ็กซ์ทักเขาอยู่ดี
“แต่ขอบคุณนะสำหรับชุดน่ารักๆ”
“เอาไว้รำลึกความหลังกับพี่เสือไง”
ใบหน้าจิ้มลิ้มงุดหน้ายิ้มเขิน เจ้าหญิงส่งมอบชุดที่โดนเสือจับขยำให้ส้มหวาน เก็บไว้รำลึกความหลังเผื่ออยากรื้อฟื้น
“แต่เราชอบหุ่นส้มหวานมากเลย บอดี้โคตรจะให้ ไม่แปลกใจว่าทำไมพี่เสือถึง...” เจ้าหญิงกำลังมันปากออกรสชาติ ก่อนจะชะงักแล้วขำแห้งที่รู้ว่าพูดมากเกินไปแล้ว
“หื้อ”
“เอ่อ”
“พี่เสือทำไมเหรอ”
ส้มหวานเอียงคอเล็กน้อย เธอกระซิบกระซาบกับเจ้าหญิงอยู่สองคน จนแตงโมที่นั่งอยู่ซ้ายมือเริ่มชำเลืองมองแปลกๆ
“ถึงไม่ค่อยทานปลาบำรุงสมองหน่อยอ่ะ”
“แต่พี่เสือชอบกินปลาเผามากเลยนะเจ้าหญิง”
เจ้าหญิงขำพรืดจนเอนไซม์กระจายเป็นฝอย ก่อนเธอจะยกมือขอโทษ รีบเช็ดน้ำลายที่กระจายเต็มหน้าส้มหวานออกให้
“ขอโทษที มันอดขำไม่ได้อ่า” เช็ดไปก็กลั้นขำจนหน้าแดงก่ำ พาให้ส้มหวานหัวเราะคิกคักออกมาด้วย
“เต็มหน้าเราเลย...”
“ขอโทษง่า”
“ไม่เป็นไรหรอก”
สองสาวหัวเราะกันสนุกสนาน จนแตงโมที่นั่งมองอยู่นานก็พูดแทรกขึ้นมา
“ช่วงนี้สองคนดูสนิทกันจังเลยนะเนี่ย” แตงโมพูดขึ้น
“น้อยใจเหรอต้าวโมโม่” เจ้าหญิงเอียงใบหน้ามอง
“ก็ปกติฉันกับส้มหวานไปด้วยกันทุกที่ ตอนม. 5 ที่เข้ามาเรียนกลางคันก็มีแค่ส้มหวานเป็นเพื่อน พอแกเข้ามาตีสนิทมันก็เหมือนว่าเราจะโดนแย่งเพื่อนไปอ่ะ”
“เค้าไม่ได้คิดจะแย่งส้มหวานเลยนะ”
คนหน้าสวยยู่ปากเล็กน้อย แต่แอบมีรอยยิ้มเล็กๆ ตอนเห็นแตงโมมองมา ส้มหวานก็เลยเป็นตัวกลางระหว่างทั้งคู่ให้
“จะน้อยใจทำไม มีเพื่อนเพิ่มอีกคนก็ดีนะแตงโม”
“งั้นเย็นนี้แกไปดูหนังเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”
“วันหยุดนี้ได้มั้ย... เย็นนี้ไม่น่าจะว่างแล้ว”
“ห้ามเบี้ยวนะ”
“อื้อ ได้”
ส้มหวานทำสัญญากับแตงโม โดยที่เจ้าหญิงไม่ได้พูดขัดคอใคร แค่นั่งเอียงหูฟังเก็บข้อมูลต่อไปเท่านั้นเอง
“น่าอิจฉาแตงโมจัง เค้าน่าจะเจอส้มหวานเร็วกว่านี้ ตอนเรียนเค้ามีแต่เพื่อนแย่ๆ ทั้งนั้นเลย”
“แย่ยังไงเหรอ”
“มันผ่านไปแล้วอ่ะ ไม่ต้องไปพูดถึงดีกว่า”
พูดจบแล้วอาจารย์ก็เดินเข้าห้องมาพอดี ทำให้ทั้งสามคนยืดตัวนั่งหลังตรง รีบหยิบเอาไอแพดขึ้นมาวางพร้อมเรียน
ชั่วโมงเรียนเอื่อยเฉื่อยชวนหลับ แต่พอเวลากระชับจวนจะเลิกเรียนส้มหวานก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมา
เวลาหน้าจอคือสี่โมงเย็น ส้มหวานที่เลิกคลาสแล้วก็เลยโทรไปหาเสือ เขากำชับไว้เองว่าเลิกแล้วให้โทรหา เธอยืนอยู่หน้าตึกคณะโดยมีเจ้าหญิงกับแตงโมรออยู่ด้วย
“เลิกแล้วค่ะ... พี่จะมารับเรามั้ย”
(อืม)
ส้มหวานเม้มปากเข้าหากัน ก่อนจะหันไปยิ้มให้แตงโมกับเจ้าหญิงที่แยกย้ายกันกลับคนละทาง
“งั้นเรารออยู่หน้าตึกนะคะ”
หลังจากพูดจบสายก็ตัดไป คนตัวเล็กยืนคอตกมองปลายเท้าตัวเอง รู้สึกคันยุบยิบในใจกับคำว่าอืมของเขาจริงๆ
อืม... เสียความรู้สึกบอกไม่ถูกเหมือนกัน
พอเสือขับรถมารับเธอก็ขึ้นไปนั่งตัวลีบๆ ระหว่างทางไม่มีการพูดคุยหรือบทสนทนา อีกฝ่ายมีสีหน้าเรียบนิ่ง จนส้มหวานไม่กล้าเปิดปากพูดกลัวรบกวนสมาธิเขา
“พี่เสืออยากขึ้นไปกินขนมที่ห้องเรามั้ยคะ” เธอยอมปริปากพูดก่อนเมื่อเขามาจอดรถที่คอนโด
“ไม่อยากให้ขึ้นไม่ใช่ไง”
“ก็วันนี้ให้ขึ้นได้ไงคะ เราฟรีเดย์ให้ตัวเองวันนึงได้”
ไม่มีการตอบรับจากเสือ แต่เขาก็ยอมเดินตามขึ้นห้องเธอมา สีหน้าบูดบึ้งเหมือนคนไปกินรังแตน ทำให้เธอที่ง้อคนไม่เป็นเหงื่อแตกพลั่กหมดแล้ว
เธอไม่เคยง้อผู้ชายมาก่อนเลย ยิ่งกับเสือส้มหวานรู้สึกมืดแปดด้านเข้าไปใหญ่ สุดท้ายจะง้อยังไงเขาถึงจะหายโกรธ
เสือทิ้งตัวนอนเล่นมือถือที่โซฟา เมื่อส้มหวานหายตัวเข้าไปในครัวสักพัก ก่อนจะเดินกลับมาพร้อมจานแอปเปิลที่ปอกเปลือกมาให้แล้วเรียบร้อย
“พี่เสือทำอะไรอยู่คะ”
“ไม่ได้ทำไร”
เธอวางจานผลไม้ลงบนโต๊ะ แล้วตัดสินใจทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาตัวแคบ ก่อนที่จะมุดรอดเข้าไปใต้แขนของเสือ จนใบหน้าทั้งคู่อยู่ในระดับเสมอกัน
เสือหลุบตามองเธอ แต่ไม่ได้พูดอะไรแล้วก็ไถมือถือต่อ
“เย็นนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย เค้าจะเลี้ยงพี่เองค่ะ”
“ไม่อยาก”
“เราสั่งปลาเผามากินกันดีมั้ย พี่เสือชอบกินปลานี่นา”
“ไม่กิน”
“แต่ว่า... เราจะสั่งร้านโปรดของพี่ให้เลยนะคะ”
ส้มหวานงัดทุกไม้เด็ดที่มีมาใช้ ทั้งของอร่อยแล้วก็อยากเอาใจเขาเป็นพิเศษด้วย
แต่ผลตอบรับที่ได้คือเสือนิ่งเงียบไม่ตอบ ทำเมินเฉยทั้งที่เธอใช้ความกล้าขยับตัวเข้าไปกอดเขาด้วยซ้ำ
ทั้งคู่นอนอยู่บนโซฟาตัวยาว คนตัวเล็กขยับเข้าไปซุกอกอุ่นกลัวจะหงายหลังตก แต่เสือก็ยังทำเฉยเป็นรูปปั้นไม่ตอบสนองกลับมาอยู่ดี
“วันหยุดนี้เราไปดูหนังด้วยกันก็ได้ เมื่อวันก่อนพี่บอกว่ามีหนังเข้าใหม่ใช่มั้ย เราเลี้ยงป็อปคอร์นใหญ่สุดให้เลย"
น้ำเสียงหวานล้ำเล่าด้วยรอยยิ้มสดใส จะไถ่โทษและเอาใจที่โดนจับได้ว่าใช้เขาเป็นเครื่องมือการเอาคืน เพียงเพราะไม่อยากโดนมองว่าจืดชืดก็เลยต้องมีแฟนเป็นหนุ่มฮอตให้ได้
“คุณแม่ให้ค่าขนมอาทิตย์นี้มาแล้ว เราเลี้ยงพี่ได้ค่ะ”
“ไม่เป็นไร...”
“ป็อปคอร์นชีสที่พี่ชอบเลยนะ”
เสือชอบกินป็อปคอร์นโรงหนังรสชีสที่สุด ตอนเด็กๆ ที่เคยไปด้วยกันสามคนกับสิงห์ เขามักจะสั่งรสนี้ตลอดเลย
“เราเลี้ยงข้าวพี่อีกหนึ่งมื้อก็ได้นะ แต่ว่าเลี้ยงแพงไม่ได้นะคะ เราจะเก็บค่าขนมไว้ซื้อหนังสือ... ไม่ใช่หนังสือเรียนแต่เป็นการ์ตูนเรื่องที่ออกใหม่ เนื้อเรื่องสนุกมากๆ ด้วย”
ส้มหวานพยายามหว่านล้อมสุดความสามารถ มือก็กำที่ชายเสื้อของเสือด้วยความประหม่า เมื่อเขาดูไม่สนใจในสิ่งที่เธอเสนอไปสักอย่างเดียว
“ตกลงพี่เสือสนใจจะไปดูหนังไหมคะ”
“อืม”
“แค่อืมเหรอ”
“อือ”
ปลายนิ้วมือของเธอมันชาดิก เหมือนมีคลื่นแม่เหล็กวิ่งผ่านไปวูบหนึ่ง ร่างกายก็พลันชาวาบกับการถูกเมิน เธอพูดไปตั้งเยอะแต่เขาตอบกลับมาสั้นๆ แค่นี้ได้ยังไงกัน
“พี่เสือ...”
ส้มหวานกระตุกชายเสื้อให้เขาสนใจ แต่เสือก็ยังสนใจแต่หน้าจอมือถือ เธอเลยเกิดอาการน้อยใจขึ้นมาเล็กๆ อยู่ต่อหน้าเขาด้วยซ้ำแต่ยังไม่อยากจะมองมาเลย
เธอรู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิดแต่ต้องใจร้ายขนาดนี้เลยใช่มั้ย...
“ฮึก... อึก”
“ส้มหวาน”
“ฮื่อ... พี่เสือใจร้าย ฮึก- อึก ไม่คุยด้วยแหล่ว”
คนตัวเล็กเริ่มสะอื้นไห้ หลังน้ำตาคลอหน่วยรอมร่อตั้งแต่นาทีก่อน มันสั่นไหวตั้งแต่ถูกเขาเมินตอนอยู่บนรถแล้วล่ะ
เสือหน้าเสียจนต้องรีบรั้งเอวส้มหวานไว้ เธอเบือนหน้าหนีแล้วผลักอกเขาออก ตอนน้ำตาไหลก็ก้มหน้าไม่ยอมให้เห็น ดื้อดึงดูหัวรั้นขึ้นมาทันทีเวลาที่เธองอแงคืนบ้าง
“ไม่ต้องมาจับเราเลย...”
“แล้วร้องไห้ทำไม”
“เราไม่อยากคุยกับพี่แล้ว ฮึก... ปล่อยเรานะ”
คนตัวเล็กใช้แรงผลักเขาแล้วลุกออกจากโซฟา เธอวิ่งหนีเข้าห้องนอนไปพร้อมน้ำตา เสือที่คว้ามือเธอไว้ไม่ทันโดนปิดประตูใส่หน้าดังปังใหญ่
“ฉิบหายแล้วไงไอ้เสือ...”
“ยังไม่ใช่ตอนนี้ได้มั้ยเธอ...”น้ำเสียงของเสือเว้าวอนกว่าเธออีก ทั้งสีหน้าก็ดูลำบากใจกับการที่ส้มหวานรบเร้าในเรื่องนี้ต่อ“ทำไมล่ะคะ” เธอส่ายตาอย่างไม่เข้าใจเขา“ขอให้พี่จัดการอะไรก่อนก็แล้วกัน”“หมายถึงผู้หญิงของพี่ใช่มั้ยที่ต้องจัดการ”เสือลอบถอนหายใจ พลางส่ายหน้าว่าไม่ใช่สิ่งที่เธอคิด แต่ส้มหวานที่คิดไปไกลเริ่มน้อยใจขึ้นมา ไม่รู้ว่าติดปัญหาอะไรถึงขยับขึ้นเป็นตัวจริงของเขาไม่ได้“ไม่ใช่แบบนั้น...” เสือปฏิเสธไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะหลุบตามองส้มหวานที่มุ่ยปากงอนปึ่งเรียบร้อย“แล้วอะไรล่ะพี่เสือ”“พูดไปเด็กน้อยก็ไม่เข้าใจหรอก”เขาวางมือบนศีรษะเธอแล้วลูบเบาๆ แต่ส้มหวานกลับหน้าบึ้งตึง ไม่ชอบให้เขาใส่ฟิลเตอร์น้องสาวเพื่อนแบบนี้ ตอนนี้เธอโตพอที่จะรู้จักคำว่ารักเป็นแล้ว“เรา 20 แล้วนะคะ พี่ก็ยังมองเราเด็กอยู่เหรอ” เธอจับมือเขาออกแล้วขยับตัวนอนหันหลังให้“ถ้าไม่เด็กเธอก็ช่วยเข้าใจพี่หน่อยได้มั้ยเธอ”“แล้วเราไม่เข้าใจพี่ตรงไหน”“ถ้าเข้าใจแล้วนอนหันหลังให้พี่ทำไม”เสือขยับตัวลงนอน ก่อนจะจับส้มหวานให้พลิกตัวหันกลับมา แล้วใช้หลังมือเกลี่ยไล้ไปมาที่ผิวแก้มเธอคนตัวเล็กสบตามองมา ดูจากสีหน้าอาการก็รู
เสือขยับบั้นเอวอย่างหนักหน่วงและรุนแรง ในบางจังหวะก็ผ่อนแรงลงแต่ตอกอัดเน้นย้ำทุกดอกจนส้มหวานจุก เธอที่ถูกรังแกหน้าขึ้นสี ดวงตาฉ่ำเยิ้มเป็นประกายวาบหวามเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นดูบอบบาง ทั้งน่าทนุถนอมและน่ารังแกให้หนักๆ ตอนที่รูร่านเร่าขมิบเวลาเสียว“พี่เสือ... อ๊ะๆ อื้อ พี่เสือตรงนั้น อึก ตรงนั้นมัน...”ส้มหวานส่ายสะบัดหน้าไปมา เธอแทบแดดิ้นจะขาดใจเมื่อเอ็นอุ่นกระทุ้งลึกมากถึงจุดที่เธอเสียว จนเธอครางส่ำไม่เป็นคำออกมา“มันเสียวเหรอคะ” เสือยกยิ้มร้าย ไม่พอยังใช้นิ้วโป้งขยี้ติ่งเสียวเธอ ทำร่างบางบิดเร่าสะโพกแล้วหอบหายใจแรง“อื้อ อย่าเขี่ยนะ”“ไหนตอบดิเด็กดี เธอเสียวเหรอ”“สะ- เสียวค่ะ พี่เสือเราเสียวอ่ะ”เธอกัดปากระบายคว
“ไม่รู้... เราไม่รู้”ส้มหวานหลบตามองไปทางอื่น แต่เสือจับปลายคางเธอให้เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะสบตาอีกฝ่ายเพื่อรอคำตอบ“ก็แค่ตอบตามความรู้สึก อยากทำมั้ย” เสือรู้คำตอบอยู่ก่อนแล้ว แต่แค่อยากได้ยินจากปากเธอให้ชัดดวงตากลมโตหวานฉ่ำน้ำ ใบหน้าขึ้นริ้วสีแดงอย่างกับลูกตำลึงสุกแบบนี้ ถ้าพูดโกหกเขาก็คงต้องเช็คของให้แน่ใจ คำพูดอาจจะโกหกได้แต่ร่างกายที่รู้สึกไม่โกหกแน่นอน“หรือจะให้พี่เช็คของ”“มะ- ไม่เอานะ”“ถ้าไม่อยากทำงั้นพี่ก็จะไม่ทำ”เสือลดมือที่จับใบหน้าเล็กออก เป็นชนวนกระตุ้นส้มหวานให้รู้สึกถึงความต้องการทันทีไวเท่าความคิดเธอก็ยื่นมือไปรั้งแขนเขา เรียวคิ้วมุ่นเข้าหากันแล้วเป็นฝ่ายสอดมือจับข้างแก้มเขา ก่อนยื่นหน้าเข้าไปจูบเสือแล้วไล่พรหมจูบบริเวณสันกรามลามมาปลายคางส้มหวานยังคงเงอะงะ แต่ก็ฮึดสู้ที่จะเอาใจเสือเช่นกัน เธอกดแนบริมฝีปากลงไปที่ลำคอเขา ปลายเท้าเขย่งเล็กน้อยกับความสูงที่ต่างกับเขาหลายเซน“อึก” เสียงเสือกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ จังหวะที่ส้มหวานงับเบาๆ ที่ลูกกระเดือกเขา“พี่เสือถอดเสื้อออกหน่อย”“อืม”อืมเดียวที่เธอชอบ คงเป็นเสียงอืมตอนเขาครางหรือขานรับ ฟังดูกระเส่าใจจนซอกกลีบเปียกแฉะไปห
“พี่เสือใจร้าย... ฮึก”ร่างบางทรุดตัวนั่งกอดเข่าหลังพิงประตู น้ำตาเม็ดใหญ่รินไหลเปื้อนใบหน้าไม่ขาดสาย เธอเบะริมฝีปากสะอื้นไห้ราวกับเด็กสามขวบที่โดนดุตลอด 6 ปีที่รู้จักกันตั้งแต่รั้วมัธยมปลายมา เสือไม่เคยเมินเธอเลยสักครั้งเดียว ถึงจะปากร้ายแต่เป็นรุ่นพี่ที่ใจดีมากนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอถูกเขาเมิน รู้สึกแย่จนรับรู้ได้ถึงหัวใจที่ถูกบีบรัดให้ปวดหน่วง หายใจไม่ทั่วท้องแล้วก็ตัวชาวาบไปทั้งร่างเลย“หมวยจิ๋วออกมาคุยกันก่อน”“ไม่...”“เปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยส้มหวาน”เสือทั้งเคาะประตูและตะโกนลอดผ่านเข้ามา แต่ส้มหวานก็ยังนั่งกอดเข่าร้องไห้จนใบหน้าแดงก่ำ ไม่ยอมลุกขึ้นเปิดประตูตามที่เขาสั่ง“งั้นอยากให้พี่กลับใช่มั้ย ไม่อยากเจอหน้าก
“ต้าวจ้มทางนี้เลย”เสียงใสของเจ้าหญิงทักทาย โบกไม้โบกมือดีใจที่เห็นส้มหวานเดินเข้าห้องเรียนมา แตงโมที่นั่งเล่นมือถือก็เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ข้างตัวเธอให้ส้มหวานนั่งคนตัวเล็กเดินก้มหน้าเล็กน้อย มือก็คอยดึงกระโปรงทรงแคบลง ส้มหวานนั่งลงข้างแตงโม เจ้าหญิงก็เลยลุกจากที่นั่งไปนั่งประกบขวามือเธอแทน“เป็นไง หึงจนหน้าเขียวเป็นบล็อกโคลีเลยมั้ย” เจ้าหญิงยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว แต่อีกฝ่ายกลับดูไม่มั่นใจซะงั้น“ไม่รู้สิ พี่เสือเขาไม่ได้พูดว่าหึงที่เราใส่เลยนะ”“พวกหึงเงียบล่ะสิ หึงแต่เก็บอาการไงส้มหวาน”“จะ- จริงเหรอ พี่เสือจะหึงเราจริงเหรอ”เจ้าหญิงพยักหน้าอย่างมั่นใจ กระโปรงที่ส้มหวานใส่ก็เป็นสิ่งที่เธอแนะนำให้ เธอไม่รู้หรอกว่าหนุ่มรุ่นพี่คิดอะไรอยู่ ทำไมถึงให้สถานะส้มหวานไม่ได้กันแต่ถ้ากั๊กไว้ก็ต้องทำในสิ่งที่คนไม่ใช่แฟนไม่มีสิทธิ์...“ถ้าอยากให้ชัดต้องมีตัวช่วยหน่อย”“ยังไงเหรอ”“ขอไปนอนคิดสักคืนแล้วจะมาบอกละกัน”ส้มหวานยิ้มรับให้กับกูรูส่วนตัว เมื่อวันอาทิตย์เจ้าหญิงไปนอนเล่นที่ห้องมา ทั้งคู่พูดคุยถึงปฏิบัติการเลิกจืด เพื่อที่จะมัดใจเสือร้ายให้หยุดหมัดทีแรกส้มหวานไม่ได้เล่าเรื่อง
เสือขับรถจี๊ปลูกรักไปรับส้มหวานที่คอนโดมามหาวิทยาลัยแต่เช้า ตั้งแต่วันที่ทั้งคู่มีอะไรกัน เสือก็คอยตามรับส่งส้มหวานอยู่ตลอด แต่ปกปิดเรื่องความสัมพันธ์นี้ไว้ไม่ให้สิงห์รู้เขาจอดรถหน้าตึกคณะเธอ ก่อนที่จะโน้มตัวไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้ แล้วกระตุกแขนอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ จนเธอตกใจผงะถอยไปเล็กน้อย“เย็นนี้ขอไปนอนเล่นห้องเธอได้มั้ย” เขาทำหน้าอ้อนอย่างมีหวัง แต่ก็ถูกดับฝันกลางวันในทันที“ไม่ได้ค่ะ เราต้องอ่านหนังสืออีกแล้ว”“จะอ่านหนังสืออีกแล้วเหรอไอ้หมวยจิ๋ว”ส้มหวานพยักหน้ารับหงึกหงัก แววตาเธอไร้เดียงสาและดูมุ่งมั่นกับการอ่านหนังสือมาก จนใครบางคนเริ่มจะหงุดหงิดหนังสือทุกเล่มที่เธอหยิบอ่านแล้ว“มันใกล้จะสอบมิดเทอมแล้วนี่คะ เราไม่อยากรู้สึกผิดทีหลังถ้าทำได้ไม่เต็มที่พอ”