เสือขับรถมาส่งส้มหวานที่คอนโด แต่ขอใช้ห้องน้ำเธอเพื่อปล่อยเบาแล้วก็กำลังกลับ ไม่คิดจะอยู่ยื้อเวลาให้เธอดูไม่ดี
เขาสะบัดมือหลังเดินออกจากห้องน้ำ แต่พอเดินออกมาก็พบว่าส้มหวานเหยียบเก้าอี้ปีนไปหยิบหนังสือบนหลังชั้น
“เฮ้ยๆ เดี๋ยวก็ตกหรอกไอ้หมวยจิ๋ว” เขาพูดฉายาเธอที่เป็นคำติดปากมานาน ถึงส้มหวานไม่ชอบเขาก็เรียกอยู่ดี
“เรามีชื่อนะพี่เสือ มาเรียกหมวยจิ๋วได้ยังไง” เธอหันมาทำหน้าดุเขา ก่อนจะเขย่งปลายเท้าหยิบหนังสือที่อยู่ในมุมลึก
“ทำอะไรของเธอวะ บอกว่าเดี๋ยวก็ตกหรอก”
“หนังสือติวตอนมอปลาย เราจะส่งต่อให้รุ่นน้องน่ะ”
“ลงมา พี่หยิบให้เธอเอง”
ส้มหวานไม่ยอมรับการช่วยเหลือ เธอยืดแขนจนสุดแล้วก็คว้าหนังสือด้านในออกมาได้ พอหยิบได้ก็โบกชูให้เสือดู แต่คงไม่ทันระวังตัวเธอก็เลยเซจะล้ม
“นี่ไงเจอแล้ว... เหวอ”
ร่างสูงรีบออกตัวเข้าไปรับตามสัญชาตญาณ คนตัวเล็กเสียการทรงตัวล้มหน้าเกือบคะมำ ก่อนที่จะได้เสืออ้าแขนรับไว้แต่ก็ทรงตัวไม่อยู่เช่นกัน
ทุกอย่างเกิดขึ้นแค่กะพริบตาเดียวโลกก็หมุนเควัง ทั้งคู่ร่วงหล่นลงบนเตียงนอน เธอหลับตาปี๋เพราะกลัวเจ็บแต่ดันไปโดนจุดนิ่มนิ่มบางอย่างเข้า
“อึก” ส้มหวานลืมตาโพลงตกใจ เมื่อรู้ว่าสิ่งนุ่มนิ่มที่สัมผัสปากเธออยู่คือริมฝีปากของรุ่นพี่
เธอรีบผงะหน้าออก ก่อนที่สติจะหลุดล่องลอย ใจเต้นโครมครามเหมือนจะหลุดออกจากอก หูอื้อตาพร่าราวกับถูกปิดสวิตช์ในการได้ยินและมองเห็น
“หมวย... หมวยจิ๋วโว้ย”
“คะ”
“ลุกออกไปสักทีดิ”
เสือช่วยเรียกสติเธออีกแรง ยังดีที่ล้มลงบนเตียงนอนก็เลยไม่เจ็บตัวอะไร จะมีก็แค่เจ็บปากเพราะโดนปากกระแทกนี่ล่ะ
คนตัวเล็กมุ่นคิ้วเว้าวอนใบหน้าห่างจากเสือไม่ถึงคืบ เธอหลุกหลิกตาไปมาแล้วเบะริมฝีปากจะร้องไห้ แต่แล้วน้ำตาก็หยดแหมะบนแก้มขาวทำเสือตกใจหนัก
“เฮ้ย ร้องไห้ทำไม” เขามองเธอที่หน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ
“นั่นมันจูบแรกของเรา...”
“ถึงกับร้องไห้เลยหรือไง”
“ก็ ฮึก... ก็เราเก็บไว้ให้แฟน”
ส้มหวานเบ้หน้าร้องไห้เหมือนเด็กน้อย ก่อนเธอจะลุกออกจากตัวเขาแล้วนั่งเช็ดน้ำตาป้อยๆ รู้สึกเหมือนเสียความบริสุทธิ์ไป เธอตั้งปณิธานไว้ว่าจะเก็บจูบแรกไว้ให้แฟนหนุ่ม
แต่เสือกลับมาขโมยไปเฉยเลย...
“คิดว่าแค่ปากแตะกัน มันไม่ถึงขั้นจูบหรอก”
“แค่ปากแตะกันเหรอ เราไม่ใช่เด็กสักหน่อย”
เธอหันไปขึ้นเสียงนิดๆ ใส่เขา เธอไม่ใช่เด็กน้อยสักหน่อยที่ไม่รู้ว่าจูบคืออะไร
แค่ปากแตะกันก็หมายถึงจูบแล้วไม่ใช่เหรอ เมื่อกี้ก็จูบเต็มปากจะไม่เรียกว่าจูบได้ไง แต่เธอจะหลอกสมองเอาก็แล้วกันว่าไม่ใช่จูบ
“แตะเบาๆ ก็เรียกว่าจุ๊บ จุ๊บก็เหมือนจูบนั่นแหละ ฮือ” เธออธิบายแล้วเบะปากปล่อยโฮออกมา
“พูดแบบนี้แปลว่าไม่เคยจูบกับใครเลยสักอ่ะดิ”
“แล้วมันต่างกันยังไงก็จูบเหมือนกันนี่”
ส้มหวานสะอื้นเบาๆ ขณะที่ถูกเขาจ้องมองริมฝีปากไม่วางตา ปากนิดจมูกหน่อยภาพรวมคือน่ารังแกฉิบเป๋งเลย
เสือกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เขาเป็นพวกไม่ชอบน้ำตาผู้หญิงด้วยนี่สิ เห็นแล้วมันน่ากำราบด้วยวิธีที่ได้ผลดีชะงักมาหลายต่อหลายราย
“อยากรู้มั้ยว่ามันต่างกันยังไง...”
“แล้วมันต่างกันยะ... อื้อ”
ส้มหวานยังไม่ทันพูดจบ เสือก็คว้าลำคอเธอเข้ามาจูบ แต่เป็นการจูบที่ริมฝีปากแตะกันเบาๆ ไม่ได้รุกล้ำแต่อย่างใด
พอริมฝีปากแตะกันเสือก็ผละออก แต่ยังไม่ยอมปล่อยเธอไป เขาสบดวงตาคู่สวยที่มีน้ำตาคลอแล้วรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา
“แค่แตะ”
“พี่... อื้อ”
อีกครั้งที่เสือทาบทามริมฝีปากลงมา แต่คราวนี้มันต่างไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเขาเริ่มขยับริมฝีปากขบเม้มปากเธอขึ้นลง ไม่ทันให้ส้มหวานได้ตั้งรับกับการรุกล้ำครั้งนี้
ดวงตากลมโตหลุบมองริมฝีปากตัวเอง เธอถูกเขาจูบอย่างละเมียดละไมเหมือนกำลังชิมปากเธออยู่ เสือเริ่มเลื่อนมือลงไปโอบเอวบางลูบวนจนร่างกายร้อนผ่าว
“อึก- อื้อ” เธอตีอกเขาเพราะหายใจไม่ทัน อีกฝ่ายพยายามจะสอดลิ้นเข้ามาแต่แล้วก็ผละออกไป
ส้มหวานหายใจแรงหนักๆ หน้าแดงใจสั่นเป็นลูกตำลึงสุก
“แบบนี้คือจูบ... ทีนี้ต่างหรือยัง” เสือเลิกคิ้วใส่เธอ เขาใช้หลังมือเช็ดมุมปากแล้วจ้องมองเธอด้วยแววตาลึกล้ำ
“พะ- พี่หลอกขโมยจูบเรานี่” เธอยกมือขึ้นแตะริมฝีปาก
“เขาเรียกว่าสาธิตพร้อมลงมือปฏิบัติจริง”
“ไอ้พี่เสือคนไม่ดี มาหลอกขโมยจูบเราได้ยังไง”
“หมวยจิ๋วใจเย็นก่อนดิคือพี่...” เขาจะอธิบายว่าอารมณ์มันพาไป แต่พูดไปก็มีแต่จะโดนข้อหาหนักกว่าเดิม
พอได้สติเธอก็ลุกออกห่างเขา ก่อนจะหยิบหนังสือในชั้นขึ้นมาแล้วจะปาใส่ เสือรีบยกมือขึ้นปัดป้องตัวกลัวว่าจะโดนหนังสือปาเข้าจริงๆ
“เฮ้ย อย่าปาหนังสือนะไอ้หมวยจิ๋ว”
“ออกไปจากห้องเราเลยนะไอ้พี่เสือ ไอ้คนฉวยโอกาส”
“ถ้าหัวแตกโดนข้อหาพยายามฆ่านะเว้ย”
เธอปาหนังสือในมือใส่แต่ไม่โดนเขา ทำให้เสือร้ายรีบเผ่นแหนบไม่คิดจะหันมากวนประสาทเธออีก
คนตัวเล็กรีบเดินไปล็อคประตูห้อง พลางยืนพิงประตูอย่างอ่อนแรง ยกมือขึ้นกุมอกที่กระหน่ำตุบตับอยู่ข้างใน สัมผัสอุ่นร้อนของเขายังชาๆ อยู่ที่ริมฝีปากอยู่เลย
“ทะ- ทำไมใจเต้นแรงจัง”
พารัมบาร์
ส้มหวานตกปากรับคำแตงโมว่าจะมาร้านเหล้าเป็นเพื่อนเธอ เพราะยังสลัดภาพของเสือที่ขโมยจูบเธอไปไม่ได้ ต่อให้ฝืนข่มตานอนก็หลับไม่ลงอยู่ดี
เธอไม่ได้แตะของมึนเมา แต่สั่งเป็นเครื่องดื่มพวกโซดามาแทน แค่มานั่งดื่มเอาบรรยากาศเท่านั้นพอ
“ดีเจที่นี่โคตรจะหล่อเลยเนอะแก” แตงโมโน้มตัวมากระซิบข้างหู ดีเจหนุ่มหล่อผมทองหน้าตาดีจนสาวๆ แห่สนใจ
“อือ- อื้อ” ส้มหวานที่เผลอเหม่อพยักหน้าหงึกหงัก
“ส้มหวาน”
“หื้อ”
คนตัวเล็กดันกรอบแว่นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสบตาแตงโมที่เขยิบตัวมาใกล้
“พี่แทนเขาอยากให้แกตอบข้อความเขานะ” แตงโมบอกสีหน้าจริงจัง แต่ส้มหวานกลับส่ายหน้าปฏิเสธไป
“เราไม่อยากยุ่งกับพี่เขาแล้วอ่ะแตงโม”
“แต่พี่เขารู้สึกผิดจริงๆ นะที่พูดแบบนั้นลับหลังแก”
พอได้ยินส้มหวานก็มุ่นคิ้วเล็กน้อย แตงโมยิ้มเจื่อนเมื่อเพิ่งรู้ตัวว่าหลุดปากพูดในสิ่งที่ไม่ควรออกไป
“นี่แตงโมเอาเรื่องที่เราเล่าไปบอกพี่เขาเหรอ”
“ก็... ก็ฉันอยากให้แกปรับความเข้าใจกับพี่เขาไง”
แตงโมทำหน้าอ้อนแล้วซบไหล่เพื่อนสนิท พวกเธอรู้จักกันตั้งแต่มอสี่จนตอนนี้มหาวิทยาลัยปีสอง ก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ อีกอย่างส้มหวานไม่ค่อยมีเพื่อนรอบตัวเท่าไหร่ด้วย
“แกชอบพี่แทนเพราะเขาใจดีไม่ใช่เหรอ นี่ฉันช่วยแก้ข่าวเรื่องพี่เสือให้ด้วยนะ” แตงโมพูดแล้วเงยหน้ามองอีกฝ่าย
แทนเป็นรุ่นพี่แพทย์ปีที่สาม เขาเป็นคนยิ้มง่ายแล้วก็ชวนคุยเก่งมาก ส้มหวานดันไปสะดุดรักเขาตอนที่ช่วยเธอไม่ให้โดนรถชนตอนข้ามทางม้าลาย
“แกลองให้โอกาสพี่เขาหน่อยไม่ได้เหรอ”
“คือว่าเรา...”
“พี่แทนขอให้แกตอบข้อความเขาก็ยังดี”
ส้มหวานงุดหน้าคิดหนัก ไม่ได้ให้คำตอบแตงโมที่รอฟังอยู่
“เราขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมา” เธอบอกปัดเพื่อหนีสถานการณ์ที่กดดัน แตงโมไม่เซ้าซี้ต่อแค่พยักหน้ารับ
“โอเคๆ ฉันไม่ไปเป็นเพื่อนนะ กำลังดูดีเจเพลินเลย”
คนตัวเล็กปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำครู่เดียว ก่อนจะกลับมานั่งที่โต๊ะแล้วดื่มตามเดิม แต่พอดื่มไปได้สักพักกลับรู้สึกมึนตึงที่หัวอย่างบอกไม่ถูก
“อื้อ...” ส้มหวานเบ้หน้าเพราะปวดหัวหนักมาก
เธอยันแขนลงบนโต๊ะเพื่อลุกขึ้นยืน รู้สึกเลือดลมร้อนผ่าวจนวิงเวียนจะเป็นลม เริ่มหายใจถี่กระชั้นไม่ทั่วท้องแปลกๆ
“แกจะไปไหน” เสียงแตงโมดังแว่วมาบางๆ ให้ได้ยิน
“ร้อนจัง...” เธอพูดเสียงเบาแล้วใช้มือเช็ดเหงื่อที่ลำคอ
สองขาของส้มหวานแทบจะรั้งร่างไว้ไม่อยู่ ภาพวืดดับไปวูบหนึ่งพร้อมร่างที่จะล้มลง แต่แล้วก็ถูกท่อนแขนแกร่งคว้าเอวเธอไว้ได้ทัน
“น้องส้มหวานครับ”
“อื้อ...”
เสียงผู้ชายคุ้นหูกระซิบข้างหูเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนราดรดลำคอ มือที่จับเอวไว้รัดแน่นมากกว่าเก่าอย่างคุกคาม
“พี่แทน... ปล่อยเรา” เธอลืมตาขึ้นมองวิเดียวแล้วก็หลับตาลงอีกครั้ง รู้สึกมึนตึงทั้งร่างกายก็ร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ เลย
“คืนนี้... เรามาคืนดีกันเถอะนะเด็กดี”
เสือขับรถจี๊ปลูกรักไปรับส้มหวานที่คอนโดมามหาวิทยาลัยแต่เช้า ตั้งแต่วันที่ทั้งคู่มีอะไรกัน เสือก็คอยตามรับส่งส้มหวานอยู่ตลอด แต่ปกปิดเรื่องความสัมพันธ์นี้ไว้ไม่ให้สิงห์รู้เขาจอดรถหน้าตึกคณะเธอ ก่อนที่จะโน้มตัวไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้ แล้วกระตุกแขนอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ จนเธอตกใจผงะถอยไปเล็กน้อย“เย็นนี้ขอไปนอนเล่นห้องเธอได้มั้ย” เขาทำหน้าอ้อนอย่างมีหวัง แต่ก็ถูกดับฝันกลางวันในทันที“ไม่ได้ค่ะ เราต้องอ่านหนังสืออีกแล้ว”“จะอ่านหนังสืออีกแล้วเหรอไอ้หมวยจิ๋ว”ส้มหวานพยักหน้ารับหงึกหงัก แววตาเธอไร้เดียงสาและดูมุ่งมั่นกับการอ่านหนังสือมาก จนใครบางคนเริ่มจะหงุดหงิดหนังสือทุกเล่มที่เธอหยิบอ่านแล้ว“มันใกล้จะสอบมิดเทอมแล้วนี่คะ เราไม่อยากรู้สึกผิดทีหลังถ้าทำได้ไม่เต็มที่พอ”
สิงห์มานอนเล่นแค่ครึ่งชั่วโมง เห็นพิมพ์ข้อความยุกยิกอยู่สักพักก็ลุกออกไป ไม่มีคำลาจากเพื่อนรักเลยสักคำเดียวเสือนั่งเขย่าขาที่โต๊ะกับข้าวตั้งนาน พออีกฝ่ายออกไปเขาก็รีบเดินเข้าห้องไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าทันที“ส้มหวาน...”ร่างของเธอตกลงมาชนอกเขา ในสภาพที่เนื้อตัวชื้นไปด้วยเหงื่อเปียกโชก เธอมึนเบลอเพราะอากาศในตู้เสื้อผ้ามันไม่ถ่ายเท ถ้าเขามาช้าอีกนาทีเดียวน่าจะเป็นลมแล้ว“หมวยจิ๋ว”“อือ...”“ไหวปะเนี่ย”เขาจับแก้มนุ่มนิ่มของเธอเพื่อเรียกสติ ส้มหวานปรือตาขึ้นมองก่อนจะชูนิ้วขึ้นมาว่ายังไหวอยู่“ไอ้สิงห์มันก็โผล่มาถูกเวลาจริงๆ เลยว่ะ” เสือช่วยพยุงตัวเธอให้ลุกขึ้น เขาใช้มือเกลี่ยผมที่ปิดหน้าเธอออกให้“พี่สิงห์ไปแล้วเหรอคะ” เธอเงยมองคนตัวสูงกว่าตาแป๋ว“มันไปเมื่อกี้นี้เอง มีหนังยางมัดผมมั้ย” เขาใช้มือสางเส้นผมเธอไปไว้ข้างหลัง จับรวบให้ไม่รกหน้ารกตา“แล้วราเมงเรายังอยู่มั้ยพี่เสือ”“ยังจะห่วงกินอีกหรือไง”“ก็เรากินหมูชาชูไปชิ้นเดียวเอง”ส้มหวานมุ่นคิ้วทำหน้างอ เรื่องของกินเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเธอ ราเมงของโปรดเพิ่งจะซดไปไม่กี่คำเอง“ยังอยู่เท่าเดิม แต่เดี๋ยวอุ่นร้อนให้”“จริงเหรอคะ ขอบคุณค่ะ”
ช่วงสายๆ ของวันราวสิบโมงกว่าที่เสือพึ่งตื่น แต่ส้มหวานตื่นมานั่งจ้องเขาตั้งแต่สิบห้านาทีก่อนแล้ว“ตื่นมาก็ทำหน้างอเลยเหรอ”“มีสาวๆ ทักพี่มาเต็มเลยค่ะ”แค่ได้ยินคำว่าสาวๆ ทักมา เสือก็ตื่นเต็มตาแทบสร่างจากความงัวเงีย เขายันตัวลุกขึ้นนั่งมองส้มหวานที่ทำหน้าน้อยใจใส่ ถึงปากไม่พูดแต่สีหน้าชัดเจนยิ่งกว่าอีก“ทักมาแล้วยังไงต่อ จะให้พี่ตื่นมาตอบเหรอ” เขาเลิกคิ้วขึ้นถามกลับ ก่อนจะใช้สายตามองเธอที่นั่งคว่ำขาเป็นรูปตัวเอ็ม“แล้วไม่ตอบเหรอคะ พี่ฝ้ายดาวบริหารปีสามเชียวนะ”“ตอบทำไม ตัวจริงอยู่นี่”ร่างบางถูกเสือดึงเข้าไปสวมกอด เขาฝังปลายจมูกสูดลมที่ลำคอเธออย่างหลงใหลการได้เป็นผู้ชายคนแรกของส้มหวาน มันทำให้เสือรู้สึกดีแทบบ้า กร
เช้าวันต่อมาส้มหวานลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก แค่เธอขยับตัวก็รู้สึกปวดร้าวไปถึงสะโพกกับภาพที่โดนเขากระแทกไม่ยั้ง สุดท้ายก็หมดแรงนอนซุกอยู่ในอ้อมกอดอุ่นของเสือเธอปวดปัสสาวะก็เลยค่อยๆ กระถดตัวลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ แต่พอนั่งลงบนชักโครกเท่านั้นแหละ อาการแสบจี๊ดก็เล่นงานในจุดที่เพิ่งจะช้ำในมาทันที“ยังจุกอยู่เลย...” เธอว่าแล้วยกมือกุมหน้าท้องไว้พอทำธุระเสร็จก็ค่อยๆ ย่องออกจากห้องน้ำ ในสภาพที่เดินขาถ่างหุบชิดกันไม่ไหว พลันใบหน้าก็ร้อนแทบไหม้เมื่อเห็นเสือนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงภาพมันตอกย้ำว่าเธอเพิ่งจะเสพสุขกับเขาไป ชายหนุ่มรุ่นพี่ที่เธอเคารพกลายเป็นคนสอนเซ็กส์ส่วนตัวไปแล้วครืนแสงจากหน้าจอมือถือเขาสว่างวาบ มันสั่นอยู่บนหัวเตียงดึงความสนใจจากส้มหวานให้เดินไปมอง‘ฝ้าย’ชื่อของหญิงสาวดีกรีดาวบริหารปรากฏเด่นหรา ส้มหวานที่เสียมารยาทยืนมองไม่ได้กดรับ สั่นอยู่สักพักสายก็ตัดไปแล้วมีข้อความจากอีกฝ่ายส่งมาแทนฝ้าย : “คืนนี้อยากเจอเสืออีกจังเลย”“อยากเจอเหรอ...”เธอเม้มปากเข้าหากัน รู้สึกชาในอกแปลกๆ กับข้อความที่ดูจะสนิทสนมกันเป็นพิเศษแต่ส้มหวานยังไม่คิดน้อยใจ เธอคลานขึ้นเตียงในสภาพที่สวมเสื้อยืดตั
“อื้อ!”ส้มหวานหวีดร้องในลำคอแล้วกอดเสือแน่น จังหวะที่แก่นกายลำโตกดแทรกแล้วสอดลึกเข้าไปถึงผนังอ่อนนุ่มด้านในเธอกลั้นหายใจไปชั่วขณะ เนื้อตัวกระตุกเกร็งด้วยความเสียวที่แตกซ่าน ก่อนจะลืมตารับสัมผัสจูบจากเสือที่โฉบริมฝีปากลงมาเขากดแช่แก่นกายไว้ในร่องรูคับแคบ ใช้จูบปลอบประโลมแล้วก็หลอกล่อให้เธอไม่เกร็ง“ขยับนะ”“อื้อ...”“หายเจ็บยัง”ส้มหวานไม่ตอบ แต่สบตาเขาอย่างอ้อนๆ ทำเสืออดกลั้นไม่ไหวเริ่มขยับซอยสะโพกเข้าใส่ทันทีเสือยันแขนลงบนที่นอนข้างลำตัวเธอ คนใต้ร่างก็ยกแขนคล้องลำคอเขาแล้วสบตาขณะที่เอาไปด้วย“ฮึก” เธอเบ้หน้าเสียวแล้วเกร็งหน้าท้องหนักคนด้
เสือซิ่งเจ้ารถจี๊ปคันโปรดมิดไมล์เพื่อกลับคอนโดเขา ที่ไม่ไปคอนโดส้มหวานเพราะระยะทางมันไกลกว่า เขาปวดหนึบหัวล่างจนลามขึ้นไปตึงที่ขมับหัวบนส้มหวานสติหลุดลอยตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว เธอตัวเบาแล้วก็ตัวชาดิกกลายเป็นรูปปั้นหินที่ถูกเขาหิ้วอย่างง่ายดายแต่พอโดนเขาลากจูงเข้ามาถึงกลางห้อง ส้มหวานกลับยื้อแรงเอาไว้ไม่ให้เขาลากเข้าห้องนอนไปกินตับซะก่อน“มาถึงขนาดนี้แล้วจะปฏิเสธเหรอ” เสือหันมาขมวดคิ้วใส่เธอที่ยืนนิ่งไม่ยอมขยับ“ไหนบอกว่าชุดนี้ไม่น่ารักไงคะ”“ก็ไม่น่ารักเลยจะถอดนี่ไง”คนตัวเล็กหน้ามุ่ยแล้วยู่ปากไม่พอใจ แต่ก็ทำได้แต่งุดหน้าเก็บความน้อยใจนี้ไว้ลำพัง เสือกระตุกแขนเธอเข้าไปประชิดแผ่นอกกำยำ ก่อนจะถอดเสื้อช็อปที่คลุมร่างเธอออก“อย่าหาใส่ชุดแบบนี้อีก เข้าใจมั้ย”“อื้อ วันหลังเราไม่ใส่แล้วค่ะ”ส้มหวานน้อยใจจนไม่อยากมองหน้าเขา เธอเอาแต่หลบสายตาแล้วก็เบะปากจะร้องไห้รอมร่อเสือจับปลายคางเธอให้เงยขึ้นมอง อีกฝ่ายหลบตาดื้อดึงต่อต้านไม่ยอมเชื่อฟัง จนเขาต้องใช้วิธีโฉบริมฝีปากจูบเธอเพื่อเรียกร้องความสนใจ“พี่เสือ...”เธอสบตาเขาที่เป็นประกายวาบหวาม ก่อนจะถูกเขาอุ้มช้อนตรงไปยังเตียงนอนด้านในเขาวางเธอน