“เทมส์! เป็นอะไรคะ เทมส์บอกพี่เร็ว”
เพียงฟ้าเข้าไปจับตัวอีกคนก่อนจะถามด้วยความร้อนรน ท่าทางที่ดูเจ็บปวดทรมานทำเธอกระวนกระวายจนทำอะไรไม่ถูก
“เทมส์ปวดท้องมากเลยเพียง”
คนที่จู่ๆก็ป่วยขึ้นมากะทันหันเงยขึ้นมาตอบเพียงฟ้าด้วยสีหน้าที่แสนทรมานจนน่าสงสาร หน้าหล่อฟุบลงกับพวงมาลัยรถพลางหลับตาขมวดคิ้วแน่น มือสองข้างก็กุมท้องเอาไว้จนตัวงอ
“ทำไงดี ไปโรงบาลๆแต่พี่ขับรถไม่เป็น งั้นเรียกรถโรงบาลดีกว่า หรือจะไปแท็กซี่ดี”
เพียงฟ้าหันซ้ายหันขวาอย่างร้อนรน อยู่ๆสติก็หายไปจนไม่รู้จะจัดการเรื่องตรงหน้ายังไงดี
“เพียงครับ โอ้ย”
เทมส์ที่เห็นเพียงฟ้าดูตื่นตกใจเกินเหตุก็เรียกไว้ ก่อนจะทรุดตัวลงอีกหนเพราะความเจ็บ
“เทมส์ ใจเย็นๆนะ รอพี่แป้บพี่จะไปเรียกรถ”
เพียงฟ้าที่เห็นว่าคนน้องไม่ดีขึ้นแถมยังจะแย่ลงอีก ตัดสินใจจะออกไปเรียกรถแท็กซี่ให้เพราะเธอเองก็ขับรถไม่เป็น
“ไม่เพียง ไม่ต้องครับ”
เทมส์รีบร้องห้ามเมื่อเห็นว่าเพียงฟ้ากำลังจะเปิดประตูรถออกไปจริงๆ
“ไม่ได้สิ เทมส์ปวดมากไม่ใช่เหรอ”
เพียงฟ้าหันมาทำท่าจะดุเมื่อเทมส์กำลังดื้อ ตัวเองปวดขนาดนั้นยังจะมาห้ามเธออีก
“ใช่ครับ แต่เทมส์มียาอยู่”
เทมส์รีบบอกเมื่อเห็นท่าทางไม่พอใจของเพียงฟ้า สงสัยจะทำท่าทางเจ็บปวดจนดูน่ากลัวไปหน่อย
“ไหนล่ะ อยู่ไหน”
เพียงฟ้ารีบก่อนจะหันมองไปรอบๆรถ
“ในกระเป๋าครับ แต่ว่าเพียงพาขึ้นไปบนห้องก่อนได้มั้ยครับ เทมส์อยากนอน”
เทมส์รีบบอกแล้วชี้ไปที่กระเป๋าเป้หลังรถที่เตรียมมา เพียงฟ้ารีบพยักหน้ารับรัวๆก่อนลงจากรถแล้วอ้อมไปประคองตัวเทมส์ที่ฝั่งคนขับลงมาอย่างทุลักทุเล มือเล็กหยิบกระเป๋าเป้มาสะพายไหล่ก่อนช่วยล็อครถให้คนที่ซบไหล่ตัวเองอยู่
“เดินไหวมั้ยเทมส์”
เพียงฟ้าถามคนตัวสูงที่งอตัวกุมท้องด้วยความเป็นห่วง ถ้าอีกคนล้มลงตรงนี้เพียงฟ้าก็ไม่มีปัญญาแบกไปไหนแน่ๆ
“พอไหวครับ โอ้ย!”
เทมส์ตอบโดยไม่ได้เงยหน้ามาจากไหล่เล็กแล้วร้องออกมาอีกหนให้เพียงฟ้าตกใจเล่น
“เทมส์!”
เพียงฟ้าจับตัวคนป่วยแน่นขึ้นก่อนจะรีบพาเดินไปให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
“แป้บนึงนะคะ อดทนไว้นะ”
เธอบอกคนที่ยังมีสีหน้าทรมานด้วยความกังวลก่อนจะรีบหาคีย์การ์ดออกมาเปิดประตูห้อง
“ครับ เทมส์ไหว”
เทมส์บอกออกมาด้วยเสียงที่ฟังก็รู้ว่าหมดแรง ร่างสูงกอดเอวบางแน่นไม่เงยหน้าออกมาจากไหล่เล็กแม้สักนิด
“ไหวอะไรตัวงอขนาดนั้น เข้ามาค่ะ มานอนนี่ก่อนเร็ว”
เพียงฟ้าบ่นคนที่พูดไม่ดูท่าทางตัวเอง ก่อนจะรีบพาไปที่โซฟาหน้าทีวีทันที เพราะอยู่คนเดียวเลยไม่มีสิ่งของอะไรมากนัก อีกอย่างเพราะเป็นคนเรียบร้อยอยู่แล้วห้องถึงได้สะอาดไม่ต้องกังวลเวลาใครมา ซึ่งส่วนมากก็มีแค่เพื่อนสนิทกับคนในครอบครัวมาบ้างบางครั้งเท่านั้น
“อ่า ขอบคุณครับ”
เทมส์เอ่ยออกมาแผ่วเบาก่อนนั่งเอนตัวพิงพนักโซฟาอย่างหมดแรง ตาคมมองไปรอบห้องอย่างพิจารณาโดยไม่ให้เจ้าของห้องรู้ตัว
“กินยาเร็ว อันไหนบ้างนะคะ”
เพียงฟ้าที่ตอนนี้ไม่ได้สนใจอะไรนอกจากอาการป่วยของคนตรงหน้าเท่านั้นถามออกมาพลางรื้อเป้โดยไม่รอเจ้าของอนุญาตด้วยความรีบร้อนก่อนจะเจอถุงยาแล้วหยิบออกมาให้เทมส์ เพราะเป็นยาที่เหมือนซื้อจากร้านขายยาไม่ได้มีชื่อยาระบุบอกไว้แค่เวลากินเท่านั้น เธอถึงไม่รู้ว่าควรให้คนน้องกินตัวไหนดี
“สองอันนี้ครับ”
เทมส์หยิบซองยาที่เพียงฟ้าส่งให้ดูก่อนจะแยกออกมาสองซองที่ต้องกินตอนนี้
“พี่ไปเอาน้ำให้แป้บนะคะ”
เพียงฟ้าแกะยาใส่มือร่างสูงก่อนจะรีบเข้าไปหยิบน้ำเปล่าในตู้เย็นมาให้คนป่วยทันที
“ขอบคุณครับ”
เทมส์รับน้ำมาก่อนขอบคุณคนที่ดูห่วงใยด้วยรอยยิ้มบาง มือหนาส่งยาเขาปากก่อนจะดื่มน้ำตามลงไปทันที
“เทมส์เป็นอะไร โรคประจำตัวเหรอ”
เพียงฟ้ารอจนเทมส์กินยาเสร็จถึงได้ถามออกมาอย่างสงสัยปนไปด้วยความเห็นใจนิดๆที่เด็กขนาดนี้กลับป่วยซะได้ ทั้งที่ท่าทางเหมือนคนออกกำลังกายตลอดจนไม่น่าป่วยง่ายๆด้วยซ้ำ
“แค่โรคกระเพาะน่ะครับ เทมส์กินข้าวเลยเวลาไม่ได้”
เทมส์ตอบก่อนเอนตัวลงนอนราบไปกับโซฟาทันที
“โธ่ แล้วก็ไม่บอกพี่ ตกใจหมดเลย”
เพียงฟ้าบ่นออกมาเบาๆอย่างโล่งใจ อย่างน้อยก็ไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไรแค่ดูแลตัวเองให้ดีๆเท่านั้น เข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าตัวถึงได้จะแวะกินข้าวให้ได้ก่อนพาเธอมาส่ง ที่แท้ก็เลยเวลากินข้าวนี่เอง
“ขอโทษที่ทำให้ตกใจครับ”
เทมส์บอกด้วยสีหน้ารู้สึกผิด มองเพียงฟ้าที่โบกมือปัดไปมาว่าไม่ได้โกรธอะไรก็ยิ้มออกมาอีกครั้งอย่างโล่งใจ
“งั้นเทมส์นอนพักไปนะ ดีขึ้นแล้วค่อยไป”
เพียงฟ้ารีบเอาหมอนมารองหัวให้ก่อนจะเข้าไปหยิบผ้าห่มผืนเล็กมาคลุมตัวคนป่วยอีกที
“ครับ แล้วเพียงจะไปไหน”
เทมส์ตอบรับกอนจะถามกลับอย่างสงสัย คิดว่าจะคอยอยู่ใกล้ๆซะอีก
“พี่จะซักผ้าหน่อยค่ะ ถ้าเป็นอะไรก็เรียกพี่นะ”
เพียงฟ้าตอบก่อนสั่งคนป่วยอีกทีด้วยความเป็นห่วง เธอไม่รู้ว่าคนเป็นโรคกระเพาะจะหายแค่กินยาหรือจะกำเริบขึ้นมาอีกรึเปล่า อย่างน้อยก็คงต้องดูอาการไปก่อน
แต่งานบ้านก็สำคัญมากเช่นกัน ปกติแล้วถ้าเป็นวันหยุดเธอจะรีบทำงานบ้านทุกอย่างตั้งแต่วันเสาร์ให้เรียบร้อย แล้วใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดจนถึงวันอาทิตย์ในการอ่านนิยายที่เก็บเอาไว้แล้วก็นอน ไม่คิดว่าเพราะความหวังดีของเพื่อนจะทำตารางชีวิตเธอรวนไปหมดขนาดนี้ แถมยังได้คนป่วยมาให้ดูแลแบบไม่ตั้งตัวอีกต่างหาก
“ครับ”
เทมส์รับคำก่อนยิ้มให้เพียงฟ้า มองคนที่ลุกออกไปด้วยดวงตาเป็นประกายอย่างพอใจ ก่อนที่มือถือเครื่องสวยในกระเป๋าเสื้อฮู้ดจะสั่นขึ้นเมื่อมีแจ้งเตือนข้อความเข้า
‘ไอ้เทมส์ มึงเป็นอะไร’
ข้อความจากเพื่อนสนิทคนเดียวอย่างตุลย์เด้งขึ้นมาให้ต้องกดเข้าไปอ่านทันที เพราะรู้นิสัยเพื่อนดีว่าถ้าไม่อ่านมันก็จะรัวข้อความมาไม่หยุด หรือหนักกว่านั้นก็จะโทรมาเลยให้หงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม
‘ไรวะ’
เทมส์ตอบกลับสั้นๆถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนจะถามอะไร
‘มึงเข้ามาขอยาแฟนกูหลังร้าน มึงเป็นไร’
ตุลย์เข้าประเด็นทันทีเพราะรู้จักเทมส์ดีเช่นกันว่าถ้าไม่ถามตรงๆก็เฉไฉทำไม่รู้เรื่องไปเรื่อย
‘ก็ปวดท้องไง ไม่งั้นจะขอเพื่อ’
เทมส์ตอบกลับด้วยความประชด บางทีการรู้จักนิสัยกันมากเกินไปก็น่ารำคาญเพราะมักจะรู้ทันกันไปหมด
‘ตอแหล’
แล้วตุลย์ที่ปากเสียนักหนาก็จะด่าเทมส์กลับมาแบบนี้ให้ตีนกระตุกเล่น
‘กวนตีน’
เทมส์ด่าสวนกลับทันที อยู่ใกล้ๆคงได้ตุ้บตั้บกันสักทีสองทีเป็นแน่ ใครใช้ให้ตุลย์ขี้เสือกและปากหมาขนาดนี้ก่อน
‘อย่างมึงเนี่ยนะปวดท้อง กูไม่เชื่อ’
ตุลย์รีบดักเพราะรู้ว่าเทมส์ไม่มีวันป่วยไม่ว่าจะโรคอะไรก็ช่าง คนที่ดูแลตัวเองดีทุกเรื่อง ออกกำลังกายเหมือนจะไปแข่งยกน้ำหนักแบบเทมส์เอาอะไรมาป่วยง่ายๆก่อน
‘เรื่องของมึงสิ’
เทมส์ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ หูก็คอยฟังว่าเพียงฟ้าจะเดินเข้ามาตอนไหนเดี๋ยวจะทำท่าเป็นคนป่วยไม่ทันจริงๆเข้า ตาคมมองกระเป๋าเป้ที่บรรจุของจำเป็นทุกอย่างไว้อย่างภาคภูมิใจ ชอบย้ำนักว่าเด็ก เดี๋ยวก็รู้ว่าเด็กน่ะเด็ดขนาดไหน
‘อย่าให้กูรู้นะเทมส์ แผนสูงนัก’
ตุลย์บอกอย่างรู้ทัน ให้ตายยังไงก็ไม่เชื่อว่าเทมส์ไม่ได้วางแผนอะไร เพื่อนคนนี้ไม่ได้มีความสนใจในผู้หญิงมากไปกว่าการผสมค็อกเทลไปวันๆ ไม่มีก็ไม่ไปหาให้เหนื่อยทั้งที่คนอยากเข้าหามันเยอะแยะจนนับไม่ถ้วน มีมาให้กินถ้าถูกใจก็กินแค่คืนเดียวแล้วแยกย้าย การจะมาพาผู้หญิงกินข้าวหรือรับส่งนี่ยากแบบไม่เคยเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ เพราะส่วนใหญ่ก็ผู้หญิงเสนอตัวให้เองจนไม่ต้องทำอะไรเลยนั่นแหละ
‘กูยังไม่ได้ทำไรเลย’
เทมส์แก้ตัวแบบที่ไม่ได้สนใจว่าเพื่อนจะเชื่อหรือไม่เชื่อ คนแบบตุลย์บอกให้ตายยังไงมันก็เชื่อแต่ตัวเองอยู่แล้ว ถึงแม้มันจะเดาถูกตลอดก็เถอะ
‘แล้วคนสวยที่พามากินข้าวอ่ะ ตกลงเป็นอะไรกันวะ’
ตุลย์ถามสิ่งที่อยากถามยิ่งกว่าอะไร เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจกว่าเยอะมากๆ บอกแล้วว่าเทมส์ไม่เคยดูแลเอาใจใส่ใครขนาดพาไปกินข้าวถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวซึ่งเทมส์ก็อยู่คนเดียวในไทย เรื่องนี้ไม่เสือกไม่ได้จริงๆ
‘ไม่เสือกดิตุลย์’
แล้วเทมส์ก็ไม่ทำให้เพื่อนผิดหวังเมื่อคำตอบช่างไร้เยื่อใยจนตุลย์หัวร้อนส่งคำด่ากลับมาให้ขำเล่น
‘หน้าหมา’
เทมส์ไม่ได้สนใจเพื่อนอีก หูได้ยินเสียงว่าเพียงฟ้ากำลังเปิดประตูออกจากห้องนอนก็รีบตวัดผ้าห่มที่มีกลิ่นหอมเหมือนเจ้าของห้องขึ้นมาคลุมหน้าแล้วแกล้งหลับทันที ลงทุนขนาดนี้จะต้องยอมแพ้แล้วกลับไปง่ายๆก็ไม่ใช่เทมส์แล้วบอกเลย อยู่ด้วยกันมาเกือบสองวันก็รู้แล้วว่าเพียงฟ้าใจอ่อนง่ายขนาดไหน แล้วเทมส์ก็ดันเป็นพวกชอบอ้อนด้วยนี่สิ
“เทมส์ อ้าวหลับแล้วนี่นา”
เพียงฟ้าที่เพิ่งตากผ้าเสร็จเดินเข้ามาดูคนป่วยที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวมานานด้วยความเป็นห่วง แต่พอเห็นว่าเทมส์นอนคลุมโปงหลับไปแล้วก็ไม่ได้เรียกต่อ ปล่อยให้คนที่น่าจะยังไม่หายดีนอนต่อไป ตัวเองก็ไปหยิบนิยายมานั่งอ่านอยู่ไม่ไกลเผื่อเทมส์ตื่นขึ้นมา
เทมส์ที่นอนเล่นไปมาสุดท้ายเพราะความเพลียจากการใช้แรงไปกับเพียงฟ้าเมื่อคืนจนหนักหน่วงถึงได้เผลอหลับไปจริงๆโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้แม้กระทั่งเพียงฟ้าแอบมาดึงผ้าห่มออกจากหน้าให้เพราะกลัวว่าเทมส์จะหายใจไม่ออก พอเห็นอีกคนหลับสนิทไม่มีอาการปวดอะไรอีกก็วางใจ