Share

บทที่ 1074

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
การตายของยี่ฝาง อันที่จริงก็ไม่ได้ทำให้ซ่งซีซีรู้สึกสบายใจแต่อย่างใด

ตอนกลางคืนนางนอนบนเตียง เมื่อหลับตา ลมหายใจก็สม่ำเสมอราวกับว่านางหลับสนิท

แต่นางไม่ได้หลับด้วยซ้ำ

เรื่องราวในอดีตปรากฏขึ้นในหัวของนาง ราวกับผีเสื้อที่บินอยู่บนหน้าผาในหุบเขา นางทำยังไงก็จับมันไว้ไม่ได้

เมื่อใกล้สว่าง นางถึงจะสะลึมสะลือหลับไป

เซี่ยหลูโม่ลืมตาขึ้น อันที่จริงเขาก็ยังนอนไม่หลับ ตอนที่คนนอนหลับ ก็จะผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์ แต่ร่างกายของซีซีแข็งทื่อ แค่แสร้งทำเป็นหลับเท่านั้น

แต่ตอนนี้ นางหลับไปแล้วจริงๆ

เขารู้สึกอึดอัดใจมาก ตั้งแต่อภิเษกกับซีซีจนถึงตอนนี้ ระหว่างพวกเขาก็ถือว่ารักกัน แต่เขารู้ซีซี ปิดหัวใจนางไว้เสมอมา เรื่องอื่นจะพูดยังไงก็ได้ เรื่องสำคัญของประเทศพูดกับเขาไม่หยุด มีเพียงเรื่องความรู้สึกของนาง อารมณ์ของนาง ก็มักเก็บซ่อนไว้ในใจเสมอ

นางฝังบาดแผลไว้ในใจ แสร้งทำเป็นมีความสุข นางถึงขนาดไม่กล้าแสดงความสุขออกมาจากใจด้วยซ้ำ นางคิดว่านางไม่มีคุณสมบัติจะมีความสุขอีกต่อไปแล้ว

ไม่ว่ารอยยิ้มของนางจะสดใสแค่ไหน ในแววตาก็มักจะมีร่องรอยของความเศร้าสุดซึ้งซ่อนอยู่ในดวงตาเสมอ ความเศร้านี้ทำให้นางมีสติเป็
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1075

    วันต่อมาซ่งซีซีลุกขึ้น ก็เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับนางอย่างนั้น ขี่ม้าออกไปข้างนอกกลับกัน จ้านเป่ยว่างบาดเจ็บหนักและลาราชการ หลังจากจักรพรรดิ์ซูชิงเข้าใจที่ไปที่มาแล้ว ก็ตรัสด่าขึ้นว่า "ถ้ารักเดียวใจเดียวจริงๆ ตอนนั้นคงไม่ทำกับซีซีแบบนั้น ตอนนี้กลับทำร้ายตัวเองเพื่อนักโทษเช่นนี้ แม้แต่หน้าที่ก็ไม่สนใจ ชื่อเสียงของจวนแม่ทัพก็ไม่สนใจ ทั้งไม่ซื่อสัตย์ ทั้งเนรคุณ จะส่งเสริมเขาเพื่ออะไรกัน? คนไม่เอาไหนมันก็ไม่เอาไหนจริงๆ "อู๋ต้าปั้นรู้ว่าฝ่าบาทหลายครั้งที่ยังไม่ยอมตัดใจจากจ้านเป่ยว่าง หนึ่งคือเห็นแก่ท่านแม่ทัพใหญ่จ้าน สองคือต้องการใช้เขามาควบคุมกองทัพซวนเจีย สามคือเพราะชั่วขณะหนึ่งก็ไม่สามารถปลดเขาได้ กลัวว่าจะกระทบต่อนายพลชายแดนเฉิงหลิงตอนนี้ข่าวการถอนกำลังของซีจิงได้แพร่กระจายมาแล้ว ดูเหมือนว่าฝ่าบาทก็น่าจะไม่ตามใจเขาอีกต่อไปและวันนี้ขุนนางในราชสำนักร้องเรียนขึ้น อู๋ต้าปั้นตั้งใจรอผู้ตรวจการสวี่ และพูดเรื่องที่ฝ่าบาททรงพิโรธเพราะเรื่องของจ้านเป่ยว่างออกมาโดยไม่ตั้งใจผู้ตรวจการสวี่ถามถึงสาเหตุ อู๋ต้าปั้นก็ไม่ได้พูดออกมา แต่ผู้ตรวจการสวี่ต้องการสืบก็ไม่ยาก ภายในครึ่งวัน เรื่องร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1076

    หวังชิงหลูนั่งอยู่บนเก้าอี้เป็นเวลานาน สุดท้ายก็เลือกที่จะประนีประนอมและถามเขาว่า "สามารถรับปากข้าสองเรื่องได้ไหม ถ้าเจ้ารับปาก ข้าจะไม่หย่า"จ้านเป่ยว่างถอนหายใจเบา ๆ "เจ้าว่ามา"หวังชิงหลูพูดขึ้นว่า "อย่าพูดถึงซ่งซีซีกับยี่ฝางอีก อย่างน้อยต่อหน้าข้าก็อย่าพูดถึงพวกนาง"จ้านเป่ยว่างเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าช้า ๆ "ได้! "หวังชิงหลูกล่าวพูดขึ้นต่อว่า "เรื่องที่สอง เจ้าต้องปลุกใจให้ฮึกเหิมขึ้นมา กลับไปยังองครักษ์ซวนเท่ ทำหน้าที่รองหัวหน้าของเจ้าต่อไป"จ้านเป่ยว่างมองนาง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "ข้าถูกถอดจากตำแหน่งแล้ว จะกลับไปยังองครักษ์ซวนเท่ได้ยังไง? "หวังชิงหลูพูดขึ้นว่า "ข้าจะขอให้พี่สะใภ้ช่วยวิ่งเต้นให้เจ้า ขอเพียงเจ้ารับปากกับข้า หลังจากได้ตำแหน่งคืนมาแล้ว เจ้าจะต้องตั้งใจทำหน้าที่ พยายามให้ได้เลื่อนตำแหน่ง และต่อจากนี้เจ้าต้องเชื่อฟังคำพูดของข้า"จ้านเป่ยว่างส่ายหน้า "ข้าไม่ต้องการให้พี่สะใภ้กังวลเรื่องของข้า อีกทั้งข้าก็เป็นคนที่ฝ่าบาททรงรังเกียจทอดทิ้งแล้ว ถ้าพี่สะใภ้ไปวิ่งเต้นให้ข้าอีก มันจะต้องใช้เงินไม่น้อย และต้องสูญเสียเส้นสายไม่น้อย เส้นสายเหล่านี้เจ้าก็เก็

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1077

    หวังชิงหลูผิดหวังจนหัวใจด้านชา นางไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงมีจุดจบแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าการหย่าเป็นทางเลือกสุดท้าย ถ้าไม่ถึงขั้นสุด ๆ จริง นางก็ไม่อยากไปจากที่นี่ ดังนั้น นางเลยไปหาจ้านจี้ ท่านพ่อสามีกับจ้านเป่ยชิง ท่านลุง ให้พวกเขาไปช่วยพูด ยิ่งไปกว่านั้นยังขอร้องไปถึงฮูหยินผู้เฒ่ารองฮูหยินผู้เฒ่ารองไม่เคยสนใจเรื่องของพวกเขา การตายของนางหมิน ก็ทำให้นางเสียใจมากดังนั้นเมื่อนางได้ยินคำพูดของหวังชิงหลู ก็เห็นด้วยกับนางมาก "กลับไปเข้าร่วมกองทัพใหม่ก็เป็นเรื่องดี ข้าสนับสนุนเขา"หวังชิงหลูรู้ว่าไม่สามารถคาดหวังกับฮูหยินผู้เฒ่ารองได้ แต่คิดว่านางก็เป็นผู้อาวุโส ถ้านางออกหน้าไปโน้มน้าว บางทีจ้านเป่ยว่างอาจจะฟังเพียงแต่เมื่อได้ยินนางพูดแบบนี้ หวังชิงหลูก็ปัดแก้วตกพื้นทันที "ในเมื่อไม่ช่วย ก็ไม่ต้องพูดซ้ำเติมแบบนี้"พูดจบก็ลุกออกไปทันทีจ้านจี้กับจ้านเป่ยชิงก็ไม่ได้โน้มน้าวอะไร ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะเห็นด้วยกับการที่จ้านเป่ยว่างไปเป็นทหารเล็ก ๆ แต่เป็นเพราะขอความช่วยเหลือกับฮูหยินป๋อผิงซีไม่เป็นผล แม้หลังจากแต่งงานแล้ว ทั้งสองตระกูลได้ช่วยเหลือกัน แบบนี้ก็สามารถเสริมสร้างอำนาจให้ยิ่งใหญ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1078

    ต่อมาก็หลี่ฮูหยินพูดขึ้น บอกว่าไม่ต้องตามหาแล้ว ในเมื่อพวกเขาบอกว่าตระกูลว่านไม่มีว่านฉิน ถ้าอย่างนั้นว่านฉินก็เป็นคนใหม่ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลว่านอีกแม้ซ่งซีซีกับเสิ่นว่านจือจะรู้สึกว่าตระกูลว่านใจดำ แต่สิ่งที่หลี่ฮูหยินพูดก็มีเหตุผล ตามาแล้วก็ไม่มีประโยชน์ ทุบตีพวกเขาระบายความโกรธก็ไม่มีความหมายอะไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่ได้ปล่อยให้ว่านฉินมีชีวิตต่อไป ล้มเลิกความคิดฆ่าตัวตาย บอกชื่อคนชั่วคนนั้นออกมา นี่ถึงจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเดิมทีนางจีรับปากว่าจะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเย็บปัก แต่ตอนนี้ก็มาได้ถูกเวลาแล้วนางยกโจ๊กข้าวฟ่างถ้วยหนึ่งเข้ามา มองดูเด็กสาวไร้ชีวิตชีวาที่นอนอยู่บนเตียงแวบหนึ่ง นางดูซีดเซียว และสวยงาม ความซีดเซียวก็ไม่สามารถปกปิดใบหน้างดงามของนางได้นางจีเข้าไปไม่พูดอะไร เพียงยื่นผ้าเช็ดหน้าให้นางเช็ดแก้มและมือ จากนั้นลูบผมของนางแต่เป็นว่านฉินที่ขยับตัวออกไป และขดตัวไว้ "สกปรก! "นางพูดคำหนึ่ง นี่เป็นคำแรกที่นางพูดหลังจากมาที่โรงงานเย็บปักซู่เจินนางรังเกียจที่นางสกปรกนางจีจับมือของนางไว้ พูดขึ้นเบา ๆ ว่า "เด็กดี เจ้าไม่สกปรกเลย"ว่านฉินไม่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1079

    เสิ่นว่านจือไปจัดการเรื่องนี้ ตอนนี้ซีซีก็มีเรื่องสำคัญอื่นต้องทำ นั่นก็คือสถาบันการศึกษาสตรีกำลังจะเปิดสอนแล้วซ่งซีซีได้หาอาจารย์มาได้ห้าคนแล้ว หยานหรูอวี้ หลานสาวของไทฟู่ ซวี่ฮูหยิน พี่สะใภ้ขององค์หญิงใหญ่หมิ่นชิง เสิ่นชิงเหอ ฮูหยินใหญเจิ้งกั๋ว และแม่นางตระกูลอู๋ หสายร่วมเรียนขององค์หญิงใหญ่หมิ่นชิงแม่นางอู๋คนนี้ตอนนี้อายุสามสิบแล้ว และคู่หมั้นของนางก็เป็นเพื่อนที่เติบโตด้วยกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ในปีที่พวกเขากำลังเตรียมการแต่งงานก็เสียชีวิตในสนามรบ แม่นางอู๋ก็ไม่เคยพูดเรื่องการแต่งงานอีกเลย และไม่มีความคิดจะแต่งงานอีกศิษย์พี่เสิ่นเป็นผู้ชายเพียงคนเดียว แต่เขาเป็นนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงในแคว้นซาง บุคลิกสง่างาม มีคุณธรรมสูงส่ง มีเขามาเป็นอาจารย์ของสถาบันการศึกษาสตรีก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรกลับกัน ด้วยชื่อเสียงของเขา ก็สามารถดึงดูดนักเรียนได้มากขึ้นฮูหยินใหญ่เจิ้งกั๋วถอนตัวจากวงสังคมมาเป็นเวลานานแล้ว ตอนนางยังเป็นสาวก็เป็นผู้หญิงที่มีความสามารถมาก ครั้งหนึ่งเคยเดินทางติดตามสามีไปทั่วทั้งแคว้นซาง รวมถึงตำรา "ภูเขาและแม่น้ำ" เล่มนี้ ปัจจุบันแผนที่แคว้นซางก็เป็นใต้เท้าเจิ้งสามีของนางเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1080

    เซี่ยหลูโม่ได้ยินข่าวลือนี้จากเจ้าหน้าที่ของหอต้าหลี่ ตอนนั้นเขาหารือเรื่องงานกับทุกคน เวลาพักชั่วคราว เขาก็เข้าไปดื่มชากับเฉินยีอยู่ข้างใน แล้วคนที่เหลือก็คุยเล่นกันอยู่ข้างนอก จึงได้พูดถึงเรื่องนี้หัวหน้าว่านดำรงตำแหน่งนั้นมาห้าปีแล้ว และเขาต้องการได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และได้ข่าวว่าใต้เท้าฉี เจ้ากรมขุนนางเคยมีบ้านเล็กมาก่อน บัดนี้ถูกส่งตัวไปยังสำนักแม่ชีแล้ว และบ้านเล็กนั้นมีลูกสาวคนหนึ่งด้วยดังนั้นทำให้หัวหน้าว่านคิดว่าเจ้ากรมฉีเป็นคนหื่นกาม เลยคิดจะส่งว่านฉิน ลูกสาวตนเองไปเป็นอนุภรรยาให้เขา แต่กลับถูกเจ้ากรมฉีปฏิเสธหัวหน้าว่านเป็นคนชอบคิดต่างๆ นานาอยู่แล้ว โดยคิดว่าฉีฮูหยินใหญ่ขี้อิจฉาและไม่ยอมให้รับอนุภรรยา ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะมอบลูกสาวให้กับเจ้ากรมฉีเล่นสนุกก่อน รอให้พวกเขามีอะไรกัน อย่างลับๆ ไปเลยเขาพยายามอย่างหนักถึงได้ข่าวว่าทุกครั้งที่หยุดงาน เจ้ากรมฉีจะพาฮูหยินของตนเองไปทำบุญหรือไม่ก็เดินเล่นข้างนอก ดังนั้นเขาจึงติดสินบนผู้ดูแลประตูล่วงหน้าถึงรู้ว่าหลังจากที่พวกเขาทำบุญเสร็จก็จะไปบ่อน้ำร้อน เขาเลยแอบส่งลูกสาวไปที่นั่นแต่แล้วกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด แม้ว่าเจ้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1081

    เสิ่นว่านจือรู้สึกใจหายเลย "แล้วควรทำอย่างไรดีเล่า จะปล่อยให้เขาทำร้ายลูกสาวของเขาต่อไปหรือ? เพื่ออนาคตของตนเอง จะให้ทุกคนต้องเสียสละเช่นนี้ ทำลูกสาวเหมือนสิ่งของแล้วมอบให้ทั้งอย่างนั้น ทำไมเขาต้องให้ว่านฉินฆ่าตัวตาย ตามความคิดเจ้าเล่ห์ของเขา ไม่ใช่ว่าควรจะให้ว่านฉินทำต่อไป... ถุ๊ย ข้าพูดไม่ออกเลย"เซี่ยหลูโม่หยิบตะเกียบขึ้นมา กินไปสองคำแล้ววางมันลง เขาไม่อยากอาหารจริงๆ "เพราะไม่รู้ว่าคนๆ นั้นคืนใคร และเรื่องก็ถูกแพร่กระจายออกไปแล้ว เขาเลยกลัวว่าจะเกิดปัญหาทีหลัง เลยให้ว่านฉินไปตาย และไม่ยอมรับว่าตนเองมีลูกสาวคนนี้ จะได้ไม่ถูกคนอื่นมาจับผิด คาดว่าจะตัดชื่อของนางออกจากรายชื่อครอบครัว"ดวงตาของเสิ่นว่านจือเหมือนจะกำลังลุกเป็นไฟ "ทำอะไรไม่ได้แล้วหรือ ปล่อยให้เขาทำร้ายลูกสาวของตนเองเช่นนนี้ เกิดเรื่องน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ในแวดวงขุนนาง ฝ่าบาทก็ ไม่สนใจหรือ และเสนาบดีมู่ก็ไม่สนหรือ?""มันตรวจสอบได้ ทางหอต้าหลี่ก็ตรวจสอบเขาได้" เซี่ยหลูโม่เหลือบมองที่ซ่งซีซี "แต่ถ้าไม่ต้องการที่จะดึงว่านฉินเข้าไปเกี่ยวข้อง งั้นก็ต้องลงมือจากก้านอื่นของเขา เป็นแค่หัวหน้างานเล็กๆ จากกรมพิธีการ ตำแหน่งเล็ก เขา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1082

    ซ่งซีซีไปที่ร้านจินจิงเพื่อตามหาเถ้าแก่น้อยจินด้วยตนเองเถ้าแก่น้อยจินคนนี้ทั้งฉลาดและบริสุทธิ์ แม้ว่าเขาจะไม่เอาจริงเอาจังกับเงินทุกเบี้ย แต่ก็พยายามหาเงินอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เป็นคนรักชาติด้วย เขาเรียนหนังสือไม่เก่ง ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ไม่เป็น แต่หากเกิดสงครามขึ้นมา เขาก็ยอมบริจาคเงินก้อนใหญ่เขาชื่นชมซ่งซีซีมากและอยากเป็นเพื่อนกับซ่งซีซี แต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นซ่งซีซี ในฐานะพ่อค้า มันยิ่งไม่เหมาะที่ไปเยี่ยมถึงที่ บัดนี้ซ่งซีซีมาหาเอง แน่นอนว่าเขาจะต้อนรับอย่างกระตือรือร้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ่อน้ำร้อน เขาพอจะได้ยินมาบ้าง แต่มันเกี่ยวข้องกับความลับของขุนนางมากมาย เขาไม่อาจไปตรวจสอบให้ แค่รู้ว่ามีแม่นางโดนเอาเปรียบตอนนี้ซ่งซีซีบอกว่านางต้องการตรวจสอบเรื่องนี้ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงก็บอกว่ายินยอมร่วมมือพลางตบหน้าอก "วางใจได้เลย ใต้เท้าซ่งกลับไปรอข่าวดีของข้าได้เลย"ภายในครึ่งวัน เถ้าแก่น้อยจินก็ไปที่สำนักกองกำลังเมืองหลวงเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยบอกว่าลูกค้าผู้มีเกียรติคนหนึ่งได้ทำจี้หยกของครอบครัวหายในบ่อน้ำร้อนอวี้ซานเมื่อหลายวันก่อน และต้องการให้ค่ายลาดตระเวนช่วยค้นหามันให้คน

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status