Share

บทที่ 16

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
จ้านเป่ยว่างไปหาเพื่อนข้างนอกมารอบหนึ่ง เพื่อขอยืมเงินกับคนรู้จักกัน

แต่จำนวนเงินที่ยืมไปมีเพียงหนึ่งพันตำลึง ซึ่งต่างจากหนึ่งหมื่นกว่าตำลึงที่ต้องใช้กับเงินหมั้นสินสอดและงานเลี้ยงมากมาย

แน่นอนว่าหากเขายอมแบกหน้าไปขอยืมเงินจากตระกูลขุนนาง ยืมสักสองสามหมื่นย่อมไม่มีปัญหา เพราะถึงยังไงเขาเพิ่งเอาชนะศึก เป็นคนโปรดของฮ่องเต้ ทุกคนต่างอยากจะไปประจบประแจงเขา

แต่เขาไม่สามารถแบกหน้าไปหาได้

การยืมเงินเป็นเรื่องน่าอายและอ่อนไหวอยู่แล้ว แล้วเขาจะหน้าได้ยังไงล่ะ?

หลังจากคิดไปคิดมา เขาก็รู้สึกว่าเป็นการดีกว่าที่จะยืมเงินจากซ่งซีซี อับอายต่อหน้านางยังดีกว่าต้องอับอายต่อหน้าคนอื่น

ระหว่างทางกลับบ้าน เขาเห็นน้องชายสามขี่ม้ามาหาเขา ก่อนที่เขาจะถาม จ้านเป่ยเซินก็พูดว่า "พี่รอง ท่านรีบกลับบ้านเร็วเข้า ท่านแม่ถูกพี่สะใภ้รองยั่วโมโหแทบไม่ไหวแล้ว"

เมื่อได้ยินว่าเป็นซ่งซีซีอีกแล้ว เขาก็พูดอย่างน่ารำคาญว่า "นางเป็นอะไรอีก"

จ้านเป่ยเซินกล่าวว่า "นางให้หมอมหัศจรรย์ดันหย่ามารักษาให้ท่านแม่อีก"

จ้านเป่ยว่างยังคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหนเชียว ที่แท้เป็นแค่เรื่องรักษาโรคของท่านแม่เอง "มีหมอมากมายในเมืองหลวง ถ้าหมอมหัศจรรย์ดันไม่มา ก็ไปหาหมออื่นสิ ถ้ายังไม่ได้อีกข้าจะไปตามหาหมอหลวงมา"

อย่างไรก็ตาม นี่แสดงให้เห็นว่านิสัยของซ่งซีซีนั้นแย่แค่ไหน กลับลงมือกับโรคของท่านแม่ นางเชี่ยวชาญในกลสกปรกเหล่านี้

นางไม่ได้ดีเท่ากับยี่ฝางจริงๆ ยี่ฝางเป็นคนตรงไปตรงมาเสมอและจะไม่เล่นกลสกปรกลับหลังใคร

เมื่อจ้านเป่ยเซินได้ยินสิ่งที่เขาพูด เขาก็พูดอย่างกังวลใจว่า "มันไม่มีประโยชน์ ท่านแม่โรคกำเริบไม่นานหลังจากที่ท่านออกศึก ในเวลานั้น พี่สะใภ้รอตามหาหมอหลวงมาแล้ว เคยตามหาหมอหลวงมาหลายคนก็ไม่สามารถรักษาอาการของท่านแม่ได้ แต่กลับยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม ต่อมาได้ตามหาหมอมหัศจรรย์ดันมา กินยาแพงๆ ถึงรอดชีวิตมา และดีขึ้นเรื่อยๆ"

เมื่อจ้านเป่ยว่างได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ "เยี่ยมเลย นางต้องการใช้ชีวิตท่านแม่เพื่อบังคับข้า"

จ้านเป่ยเซินพยักหน้าซ้ำๆ "นั่นนะสิ นางเข้าวังเพื่อวิงวอนต่อฮ่องเต้ ฮ่องเต้ไม่ทรงเห็นพ้องที่จะเพิกถอนพระราชกฤษฎีกาสมรส ดังนั้นนางจึงใช้วิธีนี้เพื่อบังคับให้ท่านยกเลิกการแต่งงานกับแม่ทัพยี่ฝาง ผู้หญิงคนนี้เลวทรามจริงๆ"

จ้านเป่ยว่างขี่ม้ากลับบ้านทันที และตรงไปยังเรือนเหวินซี

ในฐานะแม่ทัพ มีความแข็งแกร่งในด้านศิลปะการต่อสู้ ประตูของเรือนเหวินซีไม่สามารถหยุดเขาได้ ดังนั้น เขาจึงเตะเปิดประตูออกแล้วบุกรุกเข้าไปตรง

ซ่งซีซีกำลังกินแกงเม็ดบัว เป่าจูเป็นคนเก็บเม็ดบัวเอง และยังสดอยู่ ทำแกงให้นางเพื่อขจัดอาการร้อนใน

จ้านเป่ยว่างกวาดแกงเม็ดบัวที่อยู่ตรงหน้านางด้วยมือเดียว และชามสีขาวก็กระแทกพื้น

"ซ่งซีซี!" จ้านเป่ยว่างกัดฟัน "เจ้ายอมเลิกหรือไง? เจ้าจะโวยวายถึงเมื่อไร จะสร้างปัญหาให้เป็นแบบไหนอีก?"

"เป่าจู!" ซ่งซีซีมองดูชามที่แตกอยู่บนพื้น และแกงเม็ดบัวที่ปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยสีหน้าสงบ นางรู้สึกว่าความพยายามของเป่าจูสูญเปล่า "ทำความสะอาดชามที่แตกออก ข้าจะพูดคุยกับแม่ทัพสักหน่อย เจ้าไม่ต้องเข้ามา"

เป่าจูหยิบไม้กวาดกวาดชามที่แตะและแกงเม็ดบัวให้เรียบร้อยแล้วออกไป

ซ่งซีซีเงยหน้าขึ้นมองจ้านเป่ยว่าง ซึ่งดวงตาของเขาลุกโชนด้วยความโกรธ "เรื่องหมอมหัศจรรย์ดันเหรอ?"

จ้านเป่ยว่างพูดอย่างเคร่งเครียด "เจ้ายังมีหน้าถามอีกเหรอ?"

ซ่งซีซียิ้ม ใบหน้าของนางสวยงานจนสะดุดตามาก "ทำไมข้าถึงไม่มีหน้ามาถามเล่า แต่เรื่องที่หมอมหัศจรรย์ดันไม่ยอมไปรักษาให้ท่านแม่เจ้า พวกเจ้าควรคิดทบทวนเองสักหน่อยว่าตัวเองไม่มีหน้าตาพอหรือเปล่า"

จ้านเป่ยว่างพูดอย่างเย็นชา "เสแส้รงอะไรกัน? เป็นเจ้าเองที่ไม่ยอมให้หมอมหัศจรรย์ดันมารักษาให้ท่านแม่ เจ้าอยากจะใช้สิ่งนี้เป็นตัวประกานในการบีบบังคับข้า ให้ข้าเลิกแต่งงานกับยี่ฝาง ช่างน่ารังเกียจ"

"ซ่งซีซี ข้าขอบอกเจ้า แม้ว่าข้าจะไม่แต่งงานกับยี่ฝาง ข้าก็จะไม่ปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดีแม้แต่นิด เจ้าทำให้ข้ารู้สึกรังเกียจ และน่าขยะแขยง"

"ถ้ารู้ว่าเจ้าเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์และใจร้ายขนาดนี้ ข้าคงไม่แต่งงานกับเจ้าหรอก ข้าเสียใจจริงๆ เลย ข้าตาบอดในตอนนั้นจริงๆ"

ซ่งซีซีเงยหน้าขึ้นแล้วถามเขาว่า "แล้วทำไมเจ้าไม่หย่ากับภรรยาล่ะ"

จ้านเป่ยว่างไม่คิดว่าจู่ๆ นางจะพูดแบบนี้ "อะไรนะ"

ซ่งซีซียืนขึ้นและพูดทีละคำ "ข้าบอกว่า ในเมื่อเจ้าเกลียดข้ามาก ทำไมเจ้าไม่หย่ากับข้า ในเมื่อเจ้ารักยี่ฝาง อย่างสุดซึ้งและต้องการอยู่กับนาง งั้นข้าก็เป็นคนส่วนเกิน เจ้าเกลียดข้าด้วย ทำไมเจ้าไม่หย่ากับข้าเล่า"

"ข้า…" จ้านเป่ยว่างตกใจ หย่าเหรอ แน่นอนว่าเขาจะไม่ทำเช่นนี้

ซ่งซีซีก้าวไปข้างหน้า ใบหน้าที่สวยงามของนางเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย "เพราะไม่มีเหตุผลที่เจ้าจะหย่ากับข้าได้ใช่ไหม ข้าบอกให้นะ มีสิ ข้าขี้อิจฉา ข้าเป็นคนอกตัญญู ข้าไร้ความสามารถ ข้าใจร้าย ข้าขี้โต้แย้งผู้ใหญ่ ไม่ว่าด้วยข้อไหนก็มากเพียงพอที่เจ้าหย่ากับข้าได้"
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (51)
goodnovel comment avatar
Chayaporn Soawapawong
อ่านต่อ ต้องทำยังไง
goodnovel comment avatar
Atitan Srikul
สนุกมากค่ะ
goodnovel comment avatar
Prasit Limsukhawat
อยากอ่านต่อ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1648

    สู้รบจนเลือดโชกตลอดทั้งวัน จนกระทั่งตะวันตกดิน กองทัพแคว้นซีจิงก็ถอยออกจากกำแพงอ่างทว่า ประตูและกำแพงของกำแพงอ่างถูกทำลายจนหมดสิ้น ไม่อาจใช้ขวางข้าศึกได้อีกพวกเขาถอยในตอนนี้ พรุ่งนี้ย่อมกลับมาอีกแน่นอน เพียงแค่ฟ้ามืดไม่เหมาะกับการรบจึงยอมถอยไปก่อนเท่านั้นคราเมื่อพวกเขาถอย กลับไม่ได้นำศพของทหารตนเองกลับไป ทว่ากลับราดน้ำมันลงบนศพ แล้วจุดไฟเผาเสียสิ่งที่ถูกเผา ไม่เพียงแค่ศพทหารซีจิง หากแต่รวมถึงศพของทหารแห่งชายแดนเฉิงหลิงด้วย แม่ทัพใหญ่เซียวรีบสั่งให้คนช่วยกู้ศพกลับมา เกรงว่าทุกศพจะกลายเป็นเถ้าธุลีไปพร้อมกันหมดแต่เพราะถูกเผาด้วยน้ำมันเพลิง ไฟลามอย่างรวดเร็ว จึงสามารถช่วยกลับมาได้เพียงเล็กน้อย ทหารที่เหลือล้วนถูกไฟเผาจนไหม้เกรียม ไม่อาจจำแนกได้ว่าใครเป็นใคร ไม่อาจรู้ว่าเป็นศพของทหารแคว้นซางหรือแคว้นซีจิง สุดท้ายก็ต้องฝังรวมกันไปเดิมทีนายท่านเซียวสามตั้งใจจะตามหาเจ้าทหารกล้าผู้นั้นหลังศึกจบ ทว่ายังหาไม่พบ จึงคิดว่าน่าจะถูกส่งไปช่วยฝังศพแล้วซ่งซีซีและพวกก็ถูกส่งไปช่วยฝังศพจริง งานเช่นนี้สำหรับซ่งซีซีแล้วไม่ใช่ครั้งแรก แต่คนอื่นๆ ล้วนไม่เคยทำ จึงรู้สึกสะเทือนใจนักไม่ใช่เพียงพว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1647

    กองทัพทั้งสามจัดแถวเรียงราย โดยมีแม่ทัพใหญ่เซียวออกมากล่าวปลุกใจแม่ทัพใหญ่เซียวกล่าวอย่างฮึกเหิมจบลง ก็เปล่งเสียงตะโกนอีกประโยค “เหล่าทหารแห่งแคว้นซางของข้า ไม่กลัวอันตราย ไม่กลัวพลีชีพ ขอปกป้องแผ่นดินของแคว้นซางทุกตารางนิ้ว ให้คุ้มครองราษฎรของแคว้นซางทุกคน!”เหล่าทหารพลันรู้สึกโลหิตพลุ่งพล่าน ต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียงตะโกน “ไม่กลัวอันตราย ไม่กลัวพลีชีพ ขอปกป้องแผ่นดินของแคว้นซางทุกตารางนิ้ว ให้คุ้มครองราษฎรของแคว้นซางทุกคน!”ซ่งซีซีก็ยืนอยู่ในหมู่พวกเขา ตะโกนออกไปพร้อมกันด้วย นางอยู่ห่างออกไป จึงมองไม่เห็นหน้าท่านตาชัดเจน เพียงเห็นว่าชุดเกราะพลิ้วไหว ดุดันและทรงอำนาจ ออร่าของแม่ทัพเอกปรากฏเด่นชัดนางจำได้ว่า ในศึกป้องกันเมืองครั้งนั้น ท่านตาถูกยิงด้วยลูกธนู บาดเจ็บสาหัสจนใกล้สิ้นใจ น้าเจ็ดสิ้นชีพในศึกนี้ และนายท่านเซียวสามก็เสียแขนข้างหนึ่งเพื่อช่วยจ้านเป่ยว่างนางอาจไม่มีความสามารถมากพอจะแก้ไขชะตาทั้งหมด แต่จะทำทุกอย่างเท่าที่นางทำได้เสียงกลองและเสียงแตรเริ่มกระหึ่ม กึกก้องไปทั่วชายแดนเฉิงหลิงประตูเมืองด้านข้างเปิดออก ทหารถืออาวุธกรูกันออกไปทีละกลุ่มซ่งซีซีใช้ทวนยาว แขนเสื

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1646

    ขณะเตรียมรับศึก ก็ได้เริ่มเคลื่อนย้ายราษฎรที่อยู่ใกล้ประตูชายแดนเฉิงหลิงเข้าสู่ภายใน เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ได้รับผลกระทบจากสงครามนอกด่านยังมีหมู่บ้านอีกหลายแห่ง ซึ่งล้วนเป็นราษฎรแคว้นซาง ที่อยู่อาศัยสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ก่อนหน้านี้แม่ทัพใหญ่เซียวก็เคยชักชวนให้ย้ายเข้าด่าน แต่พวกเขาไม่ยินยอมพวกเขาเห็นว่า ชายแดนเฉิงหลิงกับแคว้นซีจิงมีปัญหามานาน แต่ก็ไม่เคยกระทบถึงพวกตน การย้ายเข้าเมืองก็ไม่ต่างจากทิ้งบ้านเกิด พวกเขายอมตายยังไม่ยอมจากไปครานี้แม่ทัพใหญ่เซียวเป็นผู้ไปเจรจาด้วยตนเอง อีกทั้งยังรับปากว่า หากเกิดสงครามแล้วหมู่บ้านถูกทำลาย เหล่าทหารจะช่วยสร้างบ้านเรือนใหม่ให้แม่ทัพใหญ่เซียวเป็นผู้มีบารมี เป็นที่ยอมรับในหมู่ราษฎร เมื่อเขาไปเจรจาด้วยตนเอง ใช้เวลาพูดอยู่นาน ในที่สุดก็เกลี้ยกล่อมสำเร็จเหล่าทหารก็ช่วยกันขนย้าย ซ่งซีซีก็อยู่ในหมู่ผู้ที่ถูกส่งไปช่วยงานนี้ ภายในไม่กี่วัน ทุกอย่างก็เสร็จสิ้นซ่งซีซีจำได้ว่า เมื่อคราสงครามใหญ่ระหว่างสองแคว้นปะทุ แม้เคยตกลงกันว่าจะไม่สังหารราษฎร ไม่ทำร้ายชาวบ้าน แต่หากเกิดเพลิงสงครามขึ้นจริง การปล้นสะดมและขับไล่ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ การบาดเจ็บ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1645

    กุ้นเอ่อร์สร้างผลงานในศึกอ้าวจื่อหลิ่ง จึงได้รับการเลื่อนเป็นแม่ทัพกองร้อย สามารถบัญชาทหารในสังกัดได้หนึ่งร้อยนายกุ้นเอ่อร์ร้องขอต่อแม่ทัพหลู ขอเป็นผู้ฝึกทหารใหม่ และทหารภายใต้เขานั้น จะขอคัดเลือกจากค่ายฝึกทหารใหม่เดิมทีแม่ทัพหลูไม่เห็นด้วย เห็นว่าเขานั้นกล้าหาญเป็นพิเศษ หากใช้เป็นแนวหน้าในสนามรบ ร่วมกับเหล่าทหารฝีมือดีจะเหมาะที่สุด แต่กุ้นเอ่อร์กล่าวว่าตนเป็นผู้ฝึกยุทธ์จากยุทธภพ ย่อมมีวิธีฝึกเฉพาะตน ใช้กับทหารใหม่ย่อมได้ผลดี อีกทั้งยังรับประกันว่าจะฝึกจนกลายเป็นทหารฝีมือเยี่ยมได้เขายังยินดีจะลงชื่อรับผิดในคำสั่งด้วยตนเองแม่ทัพหลูย่อมไม่คิดจะให้เขาทำถึงเพียงนั้น คนหนุ่มฝีมือดีเช่นนี้พบได้ยาก ย่อมต้องเก็บรักษาไว้และบ่มเพาะให้ดี หากเขาอยากฝึกทหารใหม่ ก็ให้ลองดู หากทำไม่ได้จึงค่อยกลับมากุ้นเอ่อร์จึงดีใจนัก รีบไปยังค่ายฝึกทหารใหม่เพื่อคัดเลือกผู้คนซ่งซีซี หมั่นโถว เสิ่นว่านจือ เฉินเฉิน ย่อมอยู่ในรายชื่อแน่นอน นอกนั้นก็คัดเลือกกันอีก มีทั้งพวกกล้าหาญ พวกมีไหวพริบ หรือพวกที่ฝีมือดีหนึ่งร้อยชีวิต ยกขบวนไปยังสํานักงานกองทัพ หากมีศึกขึ้น พวกเขาชุดนี้ก็ต้องขึ้นสนามรบด้วยที่สํานัก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1644

    ซ่งซีซีได้พบกับเสิ่นว่านจือ เฉินเฉิน และคนอื่นๆ ในที่สุดใบหน้าหนุ่มสาวเหล่านั้น ทำให้ซ่งซีซีรู้สึกราวกับย้อนกลับไปอีกภพหนึ่งทุกคนเข้าสู่ค่ายฝึกทหารใหม่ ได้รับการฝึกขั้นพื้นฐานที่สุด ซึ่งแม้จะหนักสำหรับทหารใหม่ แต่สำหรับพวกเขา ก็ไม่ต่างจากขูดผิวเท่านั้นดังนั้นเมื่อฝึกทั้งวันจบลง ขณะที่เหล่าทหารใหม่คนอื่นนอนแผ่อยู่บนเตียงรวม หอบหายใจอย่างหนัก พวกเขากลับยังสามารถออกไปวิ่งอีกสองสามรอบ แล้วค่อยนอนบนผืนทรายวางแผนกันต่อใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หมั่นโถวคาบต้นหญ้าไว้ในปาก สองมือหนุนศีรษะ พลางกล่าวอย่างไม่เข้าใจว่า “ซีซี ข้าว่าความฝันมันก็แค่ความฝัน เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องทำขนาดนี้เลยหรือ? ลำบากลำบนมาถึงนี่เพื่อเป็นทหาร แต่ก็ยังไม่ได้ออกรบจริงจังเลยนะ”“ต้องทำขนาดนี้” เสิ่นว่านจือกับเฉินเฉินตอบขึ้นพร้อมกันเฉินเฉินใช้ข้อศอกสะกิดหมั่นโถว “จะไม่ทำถึงขนาดนี้ได้อย่างไรล่ะ? ก็มีเซียนมาเข้าฝันบอกซีซีเลยนะ ไม่อย่างนั้นข้ากับเจ้าฝันบ้างทำไมถึงได้ฝันแต่เรื่องขโมยไก่ขโมยหมา ไม่มีฝันเรื่องแผ่นดินบ้านเมืองเลย?”เสิ่นว่านจือกล่าว “ต่อให้ไม่มีเหตุผลอื่น อย่างน้อยก็มาหาประสบการณ์ยังดี”ใช่แล้ว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1643

    หากเปิดศึกขึ้นจริง ซ่งซีซีย่อมต้องขึ้นสู่สนามรบแน่นอน เพียงแต่ท่านตามิอนุญาต นางจึงต้องหาวิธีอื่นลำดับแรก นางต้องเข้าสังกัดทัพเพื่อเป็นทหาร ขณะนี้แม้นางจะเป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย แต่กลับถูกแม่ทัพหลูจับตามอง รอจนฝึกเสร็จ ก็จะขับไล่นางออกไปนางยังมิได้ขึ้นทะเบียนเป็นทหารไร้ซึ่งทะเบียนทหาร ย่อมมิใช่ทหารปกติ เช่นนั้นก็ย่อมไม่อาจขึ้นสู่สนามรบได้นางจึงหารือกับกุ้นเอ่อร์ ให้เขาอยู่ที่นี่ชั่วคราว ตนนั้นจะออกไปหาวิธี แล้วค่อยกลับมาภายใต้ตัวตนใหม่ เพื่อสมทบกับเขาอีกครั้งดังนั้น หลังจากอยู่ในค่ายฝึกไม่กี่วัน ซ่งซีซีก็กล่าวขอกลับเมืองหลวงแม้คนตระกูลเซียวจะอาลัยอาวรณ์ แต่มองเห็นศึกใหญ่ใกล้เข้ามา การที่นางอยู่ต่อไปย่อมไม่ปลอดภัย การกลับจึงเป็นทางที่ดีที่สุดแม่ทัพใหญ่เซียวให้นายท่านเซียวเจ็ดไปส่งนางกับเป่าจูออกจากชายแดนเฉิงหลิง ส่วนกุ้นเอ่อร์กล่าวว่าปรารถนาจะอยู่ในค่ายทหารเพื่อสร้างอนาคต แม่ทัพใหญ่เซียวก็อนุญาตโดยไม่ขัดข้องยามอำลา ต่างก็อาลัยอาวรณ์นัก ล่ำลากันเนิ่นนานแต่ยังมิทันจากตระกูลเซียวไปไกล ซ่งซีซีก็อ้างว่าหิว แล้วชวนท่านน้าลงร้านอาหารนางจะลอบเข้าค่ายทหาร ไม่อาจใช้วิธีสมัครเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status