Share

บทที่ 15

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ฮูหยินผู้เฒ่าไม่เชื่อว่าหมอมหัศจรรย์ดันจะไม่มา เพราะเมื่อวานเขายังมาส่งยาด้วย และให้คำกำชับเกี่ยวกับอาการของนาง จากนั้นนางรีบส่งคนไปที่ร้านขายยาของเขาทันทีเพื่อเชิญหมอมหัศจรรย์ดันมา แต่หมอมหัศจรรย์ดันไม่แม้แต่ออกมาพบหน้าเลย แค่ให้หมอแระจำร้านให้คำตอบแทน

คำตอบนั้นพ่อบ้านบอกฮูหยินผู้เฒ่าทุกคำ เกือบทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา

สิ่งที่หมอประจำร้านพูดนั้นเป็นคำพูดของหมอมหัศจรรย์ดัน "ต่อไปม่ต้องมามาเลย สิ่งที่จวนแม่ทัพทำนั้นช่างทำให้คนเรารู้สึกเสียใจมาก หากรักษาโรคให้บุคคลไร้ศีลธรรมเช่นนี้ ข้ากลัวสร้างกรรมเอาไว้ ข้ายังไม่อยากตาย"

ฮูหยินผู้เฒ่าพูดด้วยความโกรธ "ต้องเป็นนางที่ไม่ให้หมอมหัศจรรย์ดันมารักษาข้า ข้าไม่ได้คาดคิดว่านางจะใจร้ายขนาดนี้ ตอนที่รับนางเป็นลูกสะใภ้ยังคิดว่านางจะมีน้ำใจและอ่อนโยน ตั้งหนึ่งปีแล้วก็มองไม่ออกเลยนางจะเป็นคนร้ายกาจเช่นนี้ นางจงใจทำร้ายข้า หากไม่มียาของหมอมหัศจรรย์ดัน งั้นเท่ากับต้องให้ข้าตายสิ"

จ้านจี้ยังคงเงียบอยู่ข้างๆ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สบอารมณ์อยู่ รู้สึกว่าลูกสะใภ้คนนี้ไม่ได้เชื่อฟังเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเขาคิดว่านางแค่ขี้น้อยใจ พอโกรธไปสักหน่อยเดี๋ยวก็หายเลย แต่ไม่คาดคิดว่าจะไม่ให้ยากับฮูหยิงเลย นี่มันมากเกินไปแล้ว..

เขาสั่งกับจ้านเป่ยเซิน ลูกชายคนเล็กของเขาา "ไปตามหาพี่ชายของเจ้ากลับมา แล้วบอกเขาให้ภรรยาของเขาเลิกงี่เง่าไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม หากทำแบบนี้ต่อไป ชีวิตของท่านแม่เจ้าจะไม่รอดแล้ว"

"ขอรับ!" จ้านเป่ยเซินวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เสียแรงที่เขายังคิดว่าพี่สะใภ้ของเขาเป็นคนดี คิดไม่ถึงว่านางเป็นคนใจร้ายเช่นนี้

จ้านเส้าฮวนเดินตรงไปยังเรือนเหวินซีด้วยความโกรธ แต่นางไม่สามารถเข้าไปเรือนเหวินซีได้เลย

จ้านเส้าฮวนยืนอยู่หน้าประตู ใบหน้าของนางดูเย็นชามาก และสาปแช่งด้วยความโกรธ "ซ่งซีซี แกออกไปเดี๋ยวนี้เลย!"

"ไม่น่าแปลกใจเลยที่พี่ชายรองของข้าจะชอบยี่ฝาง ยี่ฝางไม่ได้เล่นกลสกปรกเหมือนแก แกสมน้ำหน้าที่ถูกพี่ชายรองรังเกียจ"

"ซ่งซีซี แกคิดว่าแกซ่อนตัวเช่นนี้เรื่องก็จะจบเลยหรือ ที่นี่คือจวนแม่ทัพ หากเจ้าแน่จริงก็อย่าออกมาตลอดชีวิต แกกล้าทำร้ายแม่สามี แกจะไม่ตายดีแน่"

เสียงของเป่าจูดังมาจากเรือนเหวินซี "คุณหนูสาม วันนั้นท่านบอกว่าจะคืนของให้ไม่ใช่หรือ งั้นก็เอาของมาคืนก่อนแล้วค่อยว่ากันนะ"

จ้านเส้าฮวนพูดอย่างเย็นชา "ด้วยสิทธิ์อะไร? นั่นเป็นของที่นางมอบให้ข้า ของที่ให้คนอื่นไปแล้วจะขอคืนได้ยังไง?"

เดิมทีนางคิดจะคืนให้ แต่เมื่อนางกลับไปลองรวบรวมดูก็พบว่าเครื่องประดับและเสื้อผ้าส่วนมากเป็นพี่สะใภ้รองมอบให้ หากคืนกลับไป ตัวเองก็เหลือเครื่องประดับสวยๆ ไม่มากแล้ว และเสื้อผ้าดีๆ ก็ไม่เหลือกี่ชุดเลย งั้นต่อไปนางต้องสวมเสื้อเรียบง่ายออกไปข้างนอก นางไม่ต้องการเป็นแบบนั้น แน่นอนว่าจะไม่คืนให้แล้ว

เสียงของเป่าจูพูดช้าๆ "แล้วมีใครบ้างที่รับของของคนอื่นไป ดลับมาด่าคนที่มอบของให้เล่า"

จ้านเส้าฮวนพูดไม่ออกครู่หนึ่ง แต่แล้วนางก็พูดด้วยความโกรธ "ฝากไว้เถอะ รอพี่ชายรองกลับมาจะต้องทอดทิ้งนางไปแน่ๆ"

หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็จากไปด้วยความโกรธ

เป่าจูก็กลับเข้าห้องด้วยความโกรธ "เป็นพวกคนโลภ คุณหนูพูดถูก ไม่ว่าไปไหนก็ดีกว่าอยู่ที่นี่ ทำไมพระราชโองการที่ฝ่าบาทสั่งให้ถอนการแต่งงานนั้นยังไม่มาสักที?"

ซ่งซีซียิ้มพลางกระโดดขึ้นเพื่อหยิบกล่องลงมาจากด้านบนของตู้ แล้วกระโดดลงมา

พอเปิดกล่องออกมาก็พบแส้สีแดงที่อยู่ตรงนั้นมาเป็นเวลานาน

อาจารย์ของนางเป็นคนมอบแส้นี้ให้นางตอนที่นางลงมาจากภูเขา ตั้งแต่แต่งเข้าตระกูลจ้าน นางก็ไม่เคยใช้แส้นี้อีกเลย นอกจากแต่ละวันฝึกกำลังภายในแล้วก็ไม่ได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อีกเลย

"คุณหนู ท่านจะสู้กับใครหรือ?" เป่าจูเคยอยู่กับนางเป็นเพื่อนตอนขึ้นภูเขาเหม่ยชาน ในช่วงเวลาที่อยู่ภูเขาเหม่ยชาน ก็เป็นเป่าจูรับใช้นาง ดังนั้นจึงรู้ว่าทักษะศิลปะการต่อสู้ของนางจะเก่งแค่ไหน

"เปล่าหรอก แค่หยิบมันออกมาดูเฉยๆ" ซ่งซีซีลูบแส้สีแดง ตอนนี้นางยังคงไว้ทุกข์อยู่ ต่อให้ต้องลงมือก็ไม่ใช้แส้นี้ "หลังจากที่เราออกจากตระกูลจ้านแล้ว เรากลับจวนเองเพื่อซ่อมแซมสักหน่อย จากนั้นค่อยไปภูเขาเหม่ยชานเพื่อเยี่ยมอาจารย์"

"ได้เลย" เป่าจูยิ้มอย่างมีความสุขโดยบอกว่าเป็นการดีที่จะกลับไปภูเขาเหม่ยชาน ทุกคนใจดีกับคุณหนูมากและปฏิบัติต่อนางเหมือนสุดที่รัก

ซ่งซีซีใส่แส้สีแดงกลับเข้าไปในกล่อง แต่ไม่ได้ใส่กล่องกลับไว้บนตู้ มันต้องเอากลับไปด้วย เลยไม่จำเป็นต้องวางกลับไปที่เดิม

"ท่านแม่คงไม่ตำหนิข้าที่ทำตัวอกตัญญู เพราะยังไงข้าแต่งงานแล้ว แต่เป็นเขาทำผิดต่อข้า" ซ่งซีซีพูดเบา ๆ

ดวงตาของเป่าจูเป็นสีแดง "ถ้าฮูหยิงรู้เรื่อง นางคงมีแต่โกรธกับคนของจวนแม่ทัพเท่านั้น ย่อมไม่โทษท่านเลย"

ซ่งซีซีถอนหายใจเล็กน้อย "การแต่งงานและมีลูก สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่โชคชะตาที่หญิงสาวในตระกูลซ่งควรมี"

เป่าจูสูดดม "เป็นเพราะพวกเขาที่ไม่เห็นถึงความดีของคุณหนู เมื่อพูดถึงกลยุทธ์การต่อสู้และศิลปะการต่อสู้ ยี่ฝางเทียบคุณหนูไม่ติดเลย เป็นแม่ทัพใหญ่และฮูหยิงที่ไม่อยากให้ท่านไปออกศึก มิฉะนั้น จะมียี่ฝางที่ทุกคนต่างยกย่องนางได้อย่างไร?"

ซ่งซีซียิ้ม "ในใจของเจ้า ข้าเป็นคนแสนดีทีเดียวเลย"

“นั่นสินะ!” เป่าจูเงยหน้าขึ้น ปลายจมูกของนางก็เป็นสีแดงด้วย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (6)
goodnovel comment avatar
Atitan Srikul
สนุกจริงๆค่ะ
goodnovel comment avatar
Kanjana Raksakaew
สนุกนางเอกเข็มแข็งดี
goodnovel comment avatar
Aj Runyika
สนุกค่ะ มีหนังสือมั้ย
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1648

    สู้รบจนเลือดโชกตลอดทั้งวัน จนกระทั่งตะวันตกดิน กองทัพแคว้นซีจิงก็ถอยออกจากกำแพงอ่างทว่า ประตูและกำแพงของกำแพงอ่างถูกทำลายจนหมดสิ้น ไม่อาจใช้ขวางข้าศึกได้อีกพวกเขาถอยในตอนนี้ พรุ่งนี้ย่อมกลับมาอีกแน่นอน เพียงแค่ฟ้ามืดไม่เหมาะกับการรบจึงยอมถอยไปก่อนเท่านั้นคราเมื่อพวกเขาถอย กลับไม่ได้นำศพของทหารตนเองกลับไป ทว่ากลับราดน้ำมันลงบนศพ แล้วจุดไฟเผาเสียสิ่งที่ถูกเผา ไม่เพียงแค่ศพทหารซีจิง หากแต่รวมถึงศพของทหารแห่งชายแดนเฉิงหลิงด้วย แม่ทัพใหญ่เซียวรีบสั่งให้คนช่วยกู้ศพกลับมา เกรงว่าทุกศพจะกลายเป็นเถ้าธุลีไปพร้อมกันหมดแต่เพราะถูกเผาด้วยน้ำมันเพลิง ไฟลามอย่างรวดเร็ว จึงสามารถช่วยกลับมาได้เพียงเล็กน้อย ทหารที่เหลือล้วนถูกไฟเผาจนไหม้เกรียม ไม่อาจจำแนกได้ว่าใครเป็นใคร ไม่อาจรู้ว่าเป็นศพของทหารแคว้นซางหรือแคว้นซีจิง สุดท้ายก็ต้องฝังรวมกันไปเดิมทีนายท่านเซียวสามตั้งใจจะตามหาเจ้าทหารกล้าผู้นั้นหลังศึกจบ ทว่ายังหาไม่พบ จึงคิดว่าน่าจะถูกส่งไปช่วยฝังศพแล้วซ่งซีซีและพวกก็ถูกส่งไปช่วยฝังศพจริง งานเช่นนี้สำหรับซ่งซีซีแล้วไม่ใช่ครั้งแรก แต่คนอื่นๆ ล้วนไม่เคยทำ จึงรู้สึกสะเทือนใจนักไม่ใช่เพียงพว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1647

    กองทัพทั้งสามจัดแถวเรียงราย โดยมีแม่ทัพใหญ่เซียวออกมากล่าวปลุกใจแม่ทัพใหญ่เซียวกล่าวอย่างฮึกเหิมจบลง ก็เปล่งเสียงตะโกนอีกประโยค “เหล่าทหารแห่งแคว้นซางของข้า ไม่กลัวอันตราย ไม่กลัวพลีชีพ ขอปกป้องแผ่นดินของแคว้นซางทุกตารางนิ้ว ให้คุ้มครองราษฎรของแคว้นซางทุกคน!”เหล่าทหารพลันรู้สึกโลหิตพลุ่งพล่าน ต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียงตะโกน “ไม่กลัวอันตราย ไม่กลัวพลีชีพ ขอปกป้องแผ่นดินของแคว้นซางทุกตารางนิ้ว ให้คุ้มครองราษฎรของแคว้นซางทุกคน!”ซ่งซีซีก็ยืนอยู่ในหมู่พวกเขา ตะโกนออกไปพร้อมกันด้วย นางอยู่ห่างออกไป จึงมองไม่เห็นหน้าท่านตาชัดเจน เพียงเห็นว่าชุดเกราะพลิ้วไหว ดุดันและทรงอำนาจ ออร่าของแม่ทัพเอกปรากฏเด่นชัดนางจำได้ว่า ในศึกป้องกันเมืองครั้งนั้น ท่านตาถูกยิงด้วยลูกธนู บาดเจ็บสาหัสจนใกล้สิ้นใจ น้าเจ็ดสิ้นชีพในศึกนี้ และนายท่านเซียวสามก็เสียแขนข้างหนึ่งเพื่อช่วยจ้านเป่ยว่างนางอาจไม่มีความสามารถมากพอจะแก้ไขชะตาทั้งหมด แต่จะทำทุกอย่างเท่าที่นางทำได้เสียงกลองและเสียงแตรเริ่มกระหึ่ม กึกก้องไปทั่วชายแดนเฉิงหลิงประตูเมืองด้านข้างเปิดออก ทหารถืออาวุธกรูกันออกไปทีละกลุ่มซ่งซีซีใช้ทวนยาว แขนเสื

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1646

    ขณะเตรียมรับศึก ก็ได้เริ่มเคลื่อนย้ายราษฎรที่อยู่ใกล้ประตูชายแดนเฉิงหลิงเข้าสู่ภายใน เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ได้รับผลกระทบจากสงครามนอกด่านยังมีหมู่บ้านอีกหลายแห่ง ซึ่งล้วนเป็นราษฎรแคว้นซาง ที่อยู่อาศัยสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ก่อนหน้านี้แม่ทัพใหญ่เซียวก็เคยชักชวนให้ย้ายเข้าด่าน แต่พวกเขาไม่ยินยอมพวกเขาเห็นว่า ชายแดนเฉิงหลิงกับแคว้นซีจิงมีปัญหามานาน แต่ก็ไม่เคยกระทบถึงพวกตน การย้ายเข้าเมืองก็ไม่ต่างจากทิ้งบ้านเกิด พวกเขายอมตายยังไม่ยอมจากไปครานี้แม่ทัพใหญ่เซียวเป็นผู้ไปเจรจาด้วยตนเอง อีกทั้งยังรับปากว่า หากเกิดสงครามแล้วหมู่บ้านถูกทำลาย เหล่าทหารจะช่วยสร้างบ้านเรือนใหม่ให้แม่ทัพใหญ่เซียวเป็นผู้มีบารมี เป็นที่ยอมรับในหมู่ราษฎร เมื่อเขาไปเจรจาด้วยตนเอง ใช้เวลาพูดอยู่นาน ในที่สุดก็เกลี้ยกล่อมสำเร็จเหล่าทหารก็ช่วยกันขนย้าย ซ่งซีซีก็อยู่ในหมู่ผู้ที่ถูกส่งไปช่วยงานนี้ ภายในไม่กี่วัน ทุกอย่างก็เสร็จสิ้นซ่งซีซีจำได้ว่า เมื่อคราสงครามใหญ่ระหว่างสองแคว้นปะทุ แม้เคยตกลงกันว่าจะไม่สังหารราษฎร ไม่ทำร้ายชาวบ้าน แต่หากเกิดเพลิงสงครามขึ้นจริง การปล้นสะดมและขับไล่ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ การบาดเจ็บ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1645

    กุ้นเอ่อร์สร้างผลงานในศึกอ้าวจื่อหลิ่ง จึงได้รับการเลื่อนเป็นแม่ทัพกองร้อย สามารถบัญชาทหารในสังกัดได้หนึ่งร้อยนายกุ้นเอ่อร์ร้องขอต่อแม่ทัพหลู ขอเป็นผู้ฝึกทหารใหม่ และทหารภายใต้เขานั้น จะขอคัดเลือกจากค่ายฝึกทหารใหม่เดิมทีแม่ทัพหลูไม่เห็นด้วย เห็นว่าเขานั้นกล้าหาญเป็นพิเศษ หากใช้เป็นแนวหน้าในสนามรบ ร่วมกับเหล่าทหารฝีมือดีจะเหมาะที่สุด แต่กุ้นเอ่อร์กล่าวว่าตนเป็นผู้ฝึกยุทธ์จากยุทธภพ ย่อมมีวิธีฝึกเฉพาะตน ใช้กับทหารใหม่ย่อมได้ผลดี อีกทั้งยังรับประกันว่าจะฝึกจนกลายเป็นทหารฝีมือเยี่ยมได้เขายังยินดีจะลงชื่อรับผิดในคำสั่งด้วยตนเองแม่ทัพหลูย่อมไม่คิดจะให้เขาทำถึงเพียงนั้น คนหนุ่มฝีมือดีเช่นนี้พบได้ยาก ย่อมต้องเก็บรักษาไว้และบ่มเพาะให้ดี หากเขาอยากฝึกทหารใหม่ ก็ให้ลองดู หากทำไม่ได้จึงค่อยกลับมากุ้นเอ่อร์จึงดีใจนัก รีบไปยังค่ายฝึกทหารใหม่เพื่อคัดเลือกผู้คนซ่งซีซี หมั่นโถว เสิ่นว่านจือ เฉินเฉิน ย่อมอยู่ในรายชื่อแน่นอน นอกนั้นก็คัดเลือกกันอีก มีทั้งพวกกล้าหาญ พวกมีไหวพริบ หรือพวกที่ฝีมือดีหนึ่งร้อยชีวิต ยกขบวนไปยังสํานักงานกองทัพ หากมีศึกขึ้น พวกเขาชุดนี้ก็ต้องขึ้นสนามรบด้วยที่สํานัก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1644

    ซ่งซีซีได้พบกับเสิ่นว่านจือ เฉินเฉิน และคนอื่นๆ ในที่สุดใบหน้าหนุ่มสาวเหล่านั้น ทำให้ซ่งซีซีรู้สึกราวกับย้อนกลับไปอีกภพหนึ่งทุกคนเข้าสู่ค่ายฝึกทหารใหม่ ได้รับการฝึกขั้นพื้นฐานที่สุด ซึ่งแม้จะหนักสำหรับทหารใหม่ แต่สำหรับพวกเขา ก็ไม่ต่างจากขูดผิวเท่านั้นดังนั้นเมื่อฝึกทั้งวันจบลง ขณะที่เหล่าทหารใหม่คนอื่นนอนแผ่อยู่บนเตียงรวม หอบหายใจอย่างหนัก พวกเขากลับยังสามารถออกไปวิ่งอีกสองสามรอบ แล้วค่อยนอนบนผืนทรายวางแผนกันต่อใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หมั่นโถวคาบต้นหญ้าไว้ในปาก สองมือหนุนศีรษะ พลางกล่าวอย่างไม่เข้าใจว่า “ซีซี ข้าว่าความฝันมันก็แค่ความฝัน เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องทำขนาดนี้เลยหรือ? ลำบากลำบนมาถึงนี่เพื่อเป็นทหาร แต่ก็ยังไม่ได้ออกรบจริงจังเลยนะ”“ต้องทำขนาดนี้” เสิ่นว่านจือกับเฉินเฉินตอบขึ้นพร้อมกันเฉินเฉินใช้ข้อศอกสะกิดหมั่นโถว “จะไม่ทำถึงขนาดนี้ได้อย่างไรล่ะ? ก็มีเซียนมาเข้าฝันบอกซีซีเลยนะ ไม่อย่างนั้นข้ากับเจ้าฝันบ้างทำไมถึงได้ฝันแต่เรื่องขโมยไก่ขโมยหมา ไม่มีฝันเรื่องแผ่นดินบ้านเมืองเลย?”เสิ่นว่านจือกล่าว “ต่อให้ไม่มีเหตุผลอื่น อย่างน้อยก็มาหาประสบการณ์ยังดี”ใช่แล้ว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1643

    หากเปิดศึกขึ้นจริง ซ่งซีซีย่อมต้องขึ้นสู่สนามรบแน่นอน เพียงแต่ท่านตามิอนุญาต นางจึงต้องหาวิธีอื่นลำดับแรก นางต้องเข้าสังกัดทัพเพื่อเป็นทหาร ขณะนี้แม้นางจะเป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย แต่กลับถูกแม่ทัพหลูจับตามอง รอจนฝึกเสร็จ ก็จะขับไล่นางออกไปนางยังมิได้ขึ้นทะเบียนเป็นทหารไร้ซึ่งทะเบียนทหาร ย่อมมิใช่ทหารปกติ เช่นนั้นก็ย่อมไม่อาจขึ้นสู่สนามรบได้นางจึงหารือกับกุ้นเอ่อร์ ให้เขาอยู่ที่นี่ชั่วคราว ตนนั้นจะออกไปหาวิธี แล้วค่อยกลับมาภายใต้ตัวตนใหม่ เพื่อสมทบกับเขาอีกครั้งดังนั้น หลังจากอยู่ในค่ายฝึกไม่กี่วัน ซ่งซีซีก็กล่าวขอกลับเมืองหลวงแม้คนตระกูลเซียวจะอาลัยอาวรณ์ แต่มองเห็นศึกใหญ่ใกล้เข้ามา การที่นางอยู่ต่อไปย่อมไม่ปลอดภัย การกลับจึงเป็นทางที่ดีที่สุดแม่ทัพใหญ่เซียวให้นายท่านเซียวเจ็ดไปส่งนางกับเป่าจูออกจากชายแดนเฉิงหลิง ส่วนกุ้นเอ่อร์กล่าวว่าปรารถนาจะอยู่ในค่ายทหารเพื่อสร้างอนาคต แม่ทัพใหญ่เซียวก็อนุญาตโดยไม่ขัดข้องยามอำลา ต่างก็อาลัยอาวรณ์นัก ล่ำลากันเนิ่นนานแต่ยังมิทันจากตระกูลเซียวไปไกล ซ่งซีซีก็อ้างว่าหิว แล้วชวนท่านน้าลงร้านอาหารนางจะลอบเข้าค่ายทหาร ไม่อาจใช้วิธีสมัครเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status