Share

บทที่ 629

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ฮูหยินเฉิงเอินป๋อเกือบล้มลงกับพื้น นางมองไปที่ยายผดุงครรภ์เพื่อขอความช่วยเหลือเช่นกัน แต่ยายผดุงครรภ์ก็หมดหนทาง นางเคยเห็นเหตการณ์อันตรายที่สตรีคลอดลูก มีเยอะมาก แต่พอเกิดอันตรายขนาดนั้น ทั้งผู้ใหญ่และเด็กก็ต่าก็ไม่รอดชีวิต

"ควรทำอย่างไร ทำอย่างไรดี" ฮูหยินเฉิงเอินป๋อร้อนใจมากจนน้ำตาไหล แต่นางก็ไม่ลืมที่จะเช็ดเหงื่อให้หลานเอ่อร์ "ต้องทนทุกข์ทรมานจริงๆ ท่านหญิงต้องทนทุกข์ทรมานมากเกินไป"

"มันเจ็บ…" หลานเอ่อร์พูดสองคำนี้ตลอด มองขอความช่วยเหลือจากทุกคน แต่ไม่มีใครสามารถช่วยนางได้

ด้านนอกมีเสียงฝีเท้าเร่งรีบ นั่นคือพระชายาอ๋องฮวย นางรีบเข้าไปในห้องคลอด ผลักซ่งซีซีออกไป และจับมือของหลานเอ่อร์ "หลานเอ่อร์ เสด็จแม่มาแล้ว เสด็จแม่มาแล้วนะ เสด็จแม่อยู่ที่นี่ เจ้าเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?"

"เจ็บ…" หลานเอ่อร์ไม่รู้สึกมีความสุขแม้แต่น้อยเมื่อเห็นนางมา ถึงขนาดรู้สึกหวาดกลัวจนอยากจะผละตัวออกจากนาง นางตามห่ท่านพี่

"อดทนหน่อย ผู้หญิงคลอดบุตรก็ต้องเจ็บ ตอนที่เสด็จแม่คลอดเจ้าก็เจ็บปวดเช่นกัน แต่ก็ผ่านมันมาได้แล้วนี่ไม่ใช่หรือ" พระชายาอ๋องฮวยนั่งยองและพูดเบาๆ "หายใจเข้าช้าๆ และหายใจออก แบบนี้ก็จะหายเจ็บปวด
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 630

    หลังจากรออีกครึ่งชั่วยาม หลานเอ่อร์ก็ไม่สามารถกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดได้อีก และร่างกายของนางก็เปียกราวกับว่านางถูกดึงออกจากบ่อน้ำ ซ่งซีซีเช็ดเหงื่อให้นางด้วยผ้าเช็ดผ้าและยังคงพูดอยู่ข้างกายนา แต่หลานเอ่อร์เจ็บปวดจนหมดเรี่ยวแรงแล้ว นางฟังอะไรไม่ชัดเจนอีก นางรู้สึกว่าตนเองกำลังจะตายนางพยายามอย่างหนักที่จะลืมตา ดวงตาว่างเปล่าและพยายามพูดออกมาว่า "ให้ตาย... ให้ตายเลยดีกว่า""อย่าพูดเพ้อเจ้อ หมอมหัศจรรย์ดันกำลังจะมา" ซ่งซีซีสำลัก รู้สึกหมดหนทาง นี่เป็นอารมณ์ที่นางกลัวที่สุด ซึ่งหมายความว่านางทำอะไรไม่ได้พระชายาอ๋องฮวยหลั่งน้ำตา "หลานเอ่อร์เป็นเด็กดีนะ อย่าพูดคำท้อแท้แบบนี้ อดทนอีกหน่อย เชื่อฟังท่านพี่เจ้า หมอมหัศจรรย์ดันจะมาแล้ว"หลานเอ่อร์ทำได้เพียงส่งเสียงครวญครางเบาๆ จากปากของนาง และดวงตาก็เปิดกว้างอย่างว่างเปล่า เรี่ยวแรงที่เหลือเล็กน้อยของนางมีไว้ใช้เพื่อต้านทานความเจ็บปวด แต่อวัยวะภายในของนางดูเหมือนจะถูกแทนที่ และนางก็ทนไม่ไหวแล้วภายนอก ในที่สุดคุณนายใหญ่ก็ปิดปากเงียบ และนางเริ่มหวาดกลัวขึ้นมาตอนแรก นางคิดว่าโดนท้อง เลยจะคลอด แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะส่งผลร้ายแรงเช่นนี้นางไม่ไ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 631

    โดยมีซ่งซีซีและเสิ่นว่านจืออยู่ด้วย และบวกกับฮูหยินเฉิงเอินป๋อยังขอร้องให้หมอมหัศจรรย์ดันรักษาท่านหญิงในห้องคลอด คนที่อยู่ข้างนอกไม่ล้าพูดอะไรเลยแม้แต่น้อย แม้แต่พระชายาอ๋องฮวยก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและเห็นลมหายใจของลูกอ่อนแรงจึงยอมจำนนด้วยความตื่นตระหนกหมอมหัศจรรย์ดันไม่วอกแวก เขาไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กได้ในเวลานี้ มีแต่ช่วยผู้ใหญ่เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงกล้าฉีดยาได้มากขึ้นหลังจากให้ยาดันเสวี่ยเพื่อปกป้องหัวใจจากนั้นก็สั่งให้เพิ่มปริมาณยากระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์ ปริมาณนี้ทำให้หมอหลวงตกใจมาก แต่พวกเขาก็เคยได้ยินเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยาดันเสวี่ยในการปกป้องหัวใจ ดังนั้นจึงไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใดๆและเนื่องจากพวกเขาอยู่หลังฉากบังตาจึงไม่รู้ว่าหมอมหัศจรรย์ดันใช้จุดฝังเข็มอะไร แน่นอนว่าหากเห็นแล้วก็จะยิ่งแปลกใจมากขึ้นต่อไปหมอมหัศจรรย์ดันใช้ยาชะมด ดอกคำฝอย และโสมตานเซิน กลิ่นยาชะมดฟุ้งกระจาย ทำให้ทุกคนหน้าซีด ต้องคำนวณปริมาณยาชะมดอย่างรอบคอบ ไม่เช่นนั้นไม่เพียงแต่จะแท้งบุตรครั้งนี้เท่านั้น ไม่งั้นต่อไปก็มีบุตรยากแล้วเมื่อหมอหลวงได้ยินยาที่เขาสั่ง ได้แต่พูดในใจว่า: หมอมหัศจรรย์ดันนี่กำ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 632

    ฮูหยินเฉิงเอินป๋ออุ้มทารกที่ตายแล้วออกไป และคุณนายใหญ่ก็ร้องไห้ออกมา แต่ฮูหยินเฉิงเอินป๋อเพิกเฉยต่อเขา และเดินตรงไปหาเหลียงเส้า เหลียงเส้าถูกมัดไว้เป็นเวลานานจนร่างกายของเขาดูเหมือนเลือดจะไม่ไหลเวียม ใบหน้าของเขาเป็นสีม่วง"นี่คือบุตรชายของเจ้า เจ้าฆ่าเขาตาย" ฮูหยินเฉิงเอินป๋อยกทารกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เขาเห็น น้ำตาบนใบหน้าของนางยังไม่แห้ง ในตอนแรกน้ำเสียงดูนิ่งเงียบ แต่ต่อมากลับเศร้าและโกรธมาก "ต้องถึงยังไงเจ้าจะเลิกก่อกวนสักที ต้องทำอย่างไรเจ้าถึงเลิกวุ่นวาย ดูสิ เจ้าทำให้บุตรชายตนเองต้องตาย เจ้าทำให้ครอบครัวไม่สงบสุข เจ้ากล้าดีทำแบบนี้ได้อย่างไร ก็แค่อาศัยที่ท่านหญิงชอบใจเจ้า เจ้าก็เหยียบย่ำนางตามอำเภอใจ ลูกเนรคุณ นางเป็นตายร้ายดียังไงยังไม่รู้ เจ้าสำนึกผิดบ้างไหม?"เหลียงเส้าพยายามหลบหนีสายตาของเขา โดยไม่ต้องการที่จะมองดูเด็กคนนั้น เขาได้ยินเสียงวุ่นวายและเสียงบ่งบอกอันตรายภายในทั้งหมดแล้ว เขาไม่สามารถบอกความรู้สึกของเขาออกมาได้ในขณะนี้ แต่เขาไม่ต้องการมองดูเด็กคนนั้น ไม่ใช่เขาที่ฆ่าเขา เขาไม่ใช่คนที่ฆ่าเขา"เอาออกไป เอาออกไป!" เขาพึมพำ มีฟองเลือดออกมาจากปาก "ข้าไม่อยากเห็น ข้าไม่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 633

    บรรดาสตรีจวนเฉิงเอินป๋อเงียบไปหมด ความหดหู่และความเศร้าโศกหลังจากผ่านภัยพิบัติมาได้ ไม่ว่าครอบครัวใดจะเกิดเรื่องแบบนี้ก็ล้วนทุกข์ใจมากคุณนายใหญ่ฟังสิ่งที่ฮูหยินเฉิงเอินป๋อพูดกับเหลียงเส้าจนชัดเจน เป็นอนาคตที่แสนสดใส แต่ตอนนี้มันพังทลายหมดแล้ว เพราะงั้นคุณนายใหญ่จึงไม่เห็นด้วยกับการหย่านี้แต่แม้ว่านางจะไม่เห็นด้วย เมื่อเผชิญหน้ากับใบหน้าเย็นชาของซ่งซีซี นางก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ก่อนหน้านี้ว่าพระชายาแทรกแซงกิจการฝ่ายในของจวนเฉิงเอินป๋อ แต่ในช่วงเวลาวิกฤติของความเป็นความตาย นางเป็นคนที่ตามหาหมอมหัศจรรย์ดันมา นี่ถึงช่วยชีวิตท่านหญิงได้ดังนั้น คุณนายใหญ่จึงได้แต่มองดูพระชายาอ๋องฮวย และพูดเบาๆ ว่า "หากหย่าแล้วมันไม่ดีกับทั้งสองฝ่าย พระชายา โปรดช่วยโน้มน้าวท่านหญิง อย่าให้พระชายาเป่ยหมิงอ๋องมาตัดสินใจและทำลายชีวิตการแต่งงานของพวกเขา"ทันทีที่พระชายาอ๋องฮวยมองไปที่ซ่งซีซี และกำลังจะพูดอะไร ซ่งซีซีก็พูดอย่างเย็นชา "หากท่านน้ากล้าพูดให้หลานเอ่อร์อยู่ต่อ ข้าจะทำเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่เข้า ถ้าองค์หญิงหมิ่นชิงรู้เรื่องนี้ นางจะให้พ่อสามีของตนเองร้องเรียนเรื่องนี้ให้หับทางราชสำนักแน่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 634

    อ๋องฮวยในห้องโถงด้านข้างได้ยินว่าซ่งซีซีตัดสินจะส่งหลานเอ่อร์ออกจากจวนเฉิงเอินป๋อ อีกทั้งหลานเอ่อร์ก็อยากหย่ากับเหลียงเส้าด้วย เขาโกรธมาก เขาที่เป็นพ่อคนยังไม่ตายนี่ จะมาให้นางมาตัดสินได้อย่างไรขณะที่เขากำลังจะให้คนไปตามหาซ่งซีซีมาเพื่อซักถาม เซี่ยหลูโม่ก็มาเป็นอาจารย์หยูไปหอต้าหลี่เพื่อตามหาเขา หลังจากที่เขาอธิบายสถานการณ์คร่าวๆ ก็ทิ้งงานรีบมาที่นี่ชายไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปในลานด้านใน แต่เดินตรงไปที่ห้องโถงด้านข้าง เมื่อได้ยินอ๋องฮวยตะโกนด้วยความโกรธว่า "จะมาให้นางมาตัดสินแทนหลานเอ่อร์ได้อย่างไร? ให้นางหย่าก็เท่ากับทำลายชีวิตการแต่งงานของนาง ทำเรื่องชั่วเช่นนี้ มีข้าอยู่ นางกล้าหรือ?"ทันทีที่อ๋องฮวยพูดจบ ก็เห็นเสื้อคลุมสีม่วงปรากฏขึ้น เซี่ยหลูโม่สาวเท้าเข้ามาเขาเหลือบมองอย่างเย็นชาและเห็นผู้ชายทุกคนในจวนเฉิงเอินป๋อต่างยืนขึ้นเพื่อไหว้ให้เขาเพิกเฉยต่อพวกเขาและมองดูใบหน้าของอ๋องฮวย "เมื่อกี้เสด็จอาพูดถึงพระชายาของหลานหรือเปล่า นางทำเรื่องชั่วอะไรหรือ เป็นนางที่ช่วยชีวิตหลานเอ่อร์มากกว่า นางเป็นคนตัดสินให้หลานเอ่อร์หย่ากับไอ้คนสารเลวที่รักใคร่อนุทอดทิ้งภรรยาเอกอย่างกับเหลียงเส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 635

    เซี่ยหลูโม่ถามว่า "ตอนนี้นางเป็นยังไงบ้าง? เด็กคนนั้นไม่อยู่แล้วจริงๆ หรือ?""ไม่อยู่แล้ว นางเกือบจะเลือดออกเยอะ โชคดีที่หมอมหัศจรรย์ดันอยู่ที่นี่ ดังนั้นเอาชีวิตรอดแล้ว แต่ต้องพักฟื้นอย่างน้อยถึงปีถึงกับหายดี ตอนนี้นางหลับไปแล้ว เมื่อนางตื่นขึ้นคงต้องเศร้าใจอีก"เซี่ยหลูโม่ถอนหายใจ "ถึงยังไงก็ตั้งครรภ์มาสิบเดือนเลย นางต้องเศร้าใจอยู่แล้ว"ใบหน้าของซ่งซีซีซีดเล็กน้อย "นางเกือบจะไม่รอดด้วย ศิษย์น้อง อย่าปล่อยเหลียงเส้าไป อย่างน้อยต้องให้เขาติดคุกสักสองสามปี""ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้า" เซี่ยหลูโม่รู้สึกเจ็บปวดใจเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นนางดูบอบบางแต่แข็งแกร่งท่ามกลางสายลมในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อหลานเอ่อร์คลอดนั้น ซีซีคงจะกลัวมากกลัวที่จะสูญเสียหลานเอ่อร์ไปดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นยา เหลียงเส้า!"รอจนกว่าหลานเอ่อร์ออกไปก่อนค่อยดำเนินการ" ซ่งซีซีกล่าว "เผื่อสร้างปัญหาอะไรให้นางอีก ถ้าจับตัวเหลียงเส้าออกไปตอนนี้ จะต้องมีคนจำนวนมากร้องขอหลานเอ่อร์อย่างแน่นอน ข้าไม่ต้องการให้คนพวกนั้นมารบกวนนาง""เอาล่ะ ข้าจะกลับไปที่หอต้าหลี่ก่อน พรุ่งนี้เจ้าพาหลานเอ่อร์ออกไปแล้ว ข้าค่อยส่งคนไปจับกุมเหลียงเส้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 636

    ซ่งซีซีเฝ้าดูโดยไม่หลับตา เสิ่นว่านจือย้ายเก้าอี้มานั่งเฝ้าอยู่นอกม่าน และไม่มีใครกล้าเข้าไปฮูหยินเฉิงเอินป๋อให้คนมาส่งอาหารให้พวกนาง แต่ซ่งซีซีกินไม่ลง เสิ่นว่านจือกินไปสองสามคำ เมื่อนึกถึงหลานเอ่อร์เจ็บปวดจนบิดเบี้ยวร่างกายไปมา นางก็กินไม่ลงเช่นกัน รู้สึกอึดอัดมากในตอนกลางคืน หลานเอ่อร์ตื่นขึ้นมา นางลืมตาขึ้นและตะโกนเรียกท่านพี่ด้วยความงุนงง เมื่อเห็นซ่งซีซีจับมือนางไว้แน่นตลอด เมื่อได้นางเรียกก็ออกแรงมากขึ้น "อยู่ ข้าอยู่นี่"หงเชวี่ยถือโอกาสให้ยานาง นางว่าง่ายมาก หลังจากกินยาเสร็จแล้วก็ไม่ลืมตาขึ้นอีกและนอนต่อไป แต่น้ำตาก็ไหลออกมาจากหางตาของนาง ซ่งซีซีช่วยนางปาดออก "ไม่เป็นไร ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดเราก็ผ่านมาแล้ว ต่อไปก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ"หลานเอ่อร์ซึ่งพลังงานหมดสิ้นลงราวกับทะเลสาบที่เหือดแห้ง นางต้องกินยาสามครั้งเพื่อทำน้ำกลับมา นางเหนื่อยมากจนหลับไปอีกครั้งหลังจากกินยาเสร็จหงเชวี่ยนอนหลับไปสักพักแล้วจึงเข้ามากระซิบกับซ่งซีซี "พระชายา ท่านไปพักผ่อนสักหน่อยก่อน ข้ามาเฝ้าดูให้""ไม่เป็นไร ข้าไม่ง่วง" ซ่งซีซีส่ายหัว "เจ้าคงเหนื่อยแย่ในกลางวัน เจ้าไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวยามสี่ก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 637

    ร่างกายของหลานเอ่อร์ยังอ่อนแอมาก นางรู้ว่าเด็กจากไปแล้ว นางรู้ว่าเด็กจากไปแล้วก่อนที่หมอมหัศจรรย์ดันมานางกลั้นน้ำตาไว้ต่อหน้าท่านพี่และไม่ร้องไห้ อย่างไรก็ตาม เมื่อนางเอข้าพักที่เรือนนั้น พอท่านพี่ออกไป นางก็ห่อผ้าห่มร้องหนักเลยเสิ่นว่านจือต้องการเข้าไปปลอบใจนาง แต่ซ่งซีซีหยุดไว้และส่ายหัว "คำปลอบของผู้ใดก็ไร้ผลหรอก นางต้องผ่านมันด้วยตนเอง"มีความเจ็บปวดบางอย่าง ให้ความปลอบใจจะไม่ได้ช่วยอะไร มีแต่ทำให้หลั่งน้ำตามากขึ้น ทำให้นคำนึงถึงความทรงจำและความเจ็บปวดใจมากขึ้นเท่านั้นหงเซียวเข้ามารายงานว่านางเสิ่นพระชายาอ๋องเยี่ยนและและชายารองจินได้ไปที่จวนป๋อผิงซี หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เสิ่นว่านจือก็บอกกับซ่งซีซีซ่งซีซีอึ้งไป เพิ่งนึกถึงการมาเยี่ยมของนางจี ฮูหยินป๋อผิงซีเมื่อวานนี้ มันเป็นวันที่ยาวนานมากจริงๆ และนางก็มีภาพลวงตาว่าการมาเยี่ยมของนางจีเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว"ภายในขอบเขตที่เหมาะสม ให้จับตาดูอย่างใกล้ชิด แต่อย่าเกินไป เดี๋ยวโดนสังเกตเห็น" ซ่งซีซีกล่าว"ไม่ต้องห่วง พวกนางคือคนที่ได้รับการฝึกฝนจากศิษย์พี่ผิง ทำอะไรรู้การรู้งานอยู่แล้ว"ซ่งซีซีพยักหน้า จากนั้นไปหาศิษย์พี่ซือโซ

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status