공유

บทที่ 11 เปิดกิจการสุรา

last update 최신 업데이트: 2025-05-04 15:07:11

สามวันต่อมาโจวอวี้หลันและลั่วจินหยางก็นำโจวอี้เฉินออกจากวังหลวงมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านชนบทที่ด้านนอกวังหลวงทันที 

เส้นทางที่พวกเขาผ่านนั้น มีต้นไม้ล้อมรอบ ยามนี้อากาศอุ่นขึ้นบ้างแล้ว หิมะจึงดูบางเบาลงไปไม่หนาตามากเท่าใดนัก สายลมเย็นพัดผ่านเข้ามาในรถม้าเป็นระยะ โจวอวี้หลันยื่นมือไปเปิดผ้าม่านเพื่อดูบรรยากาศโดยรอบ นางเงยหน้าไปสบตากับลั่วจินหยางที่หันมามองนางเข้าพอดี เขาส่งยิ้มให้นางเล็กน้อย ใจของนางกระตุกไหววูบหนึ่ง ก่อนจะรีบหลบสายตาเขาและปล่อยม่านรถม้าลง และหันกลับมามองโจวอี้เฉินที่นอนหลับอยู่ภายในรถม้าแทน

ระยะทางค่อนข้างไกลไม่น้อย ระหว่างทางขบวนรถม้าหยุดพักอยู่หลายครา โจวอวี้หลันเกรงว่าการเดินทางจะล่าช้า จึงสั่งให้รถม้าออกเดินทางต่อทันที 

จวบจนเข้าสู่เขตป่าใหญ่ จู่ ๆ ก็มีเหล่านักฆ่าชุดดำพุ่งทะยานเข้ามาสังหารเหล่าทหารอย่างรวดเร็ว ลั่วจินหยางที่เห็นเช่นนั้นก็หรี่ตามองเหล่านักฆ่าคราหนึ่ง ก่อนจะรีบพุ่งทะยานเข้าไปต่อสู้กับพวกมันอย่างไม่รอช้า 

โจวอวี้หลันรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ จู่ ๆ รถม้าก็หยุดกะทันหันเช่นนี้ย่อมมิใช่เรื่องดีแน่

เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงยื่นมือไปเปิดผ้าม่านออกเพื่อมองดูสถานการณ์ทันที แต่ทว่าเมื่อนางยื่นใบหน้าออกไปก็มองเห็นปลายดาบแหลมคมที่กำลังพุ่งเข้ามาในรถม้าของนาง 

ลั่วจินหยางที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบใช้ดาบของตนมาสกัดดาบของนักฆ่าผู้นั้นเอาไว้ได้ทันท่วงที ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด 

"องค์หญิง มีนักฆ่าพ่ะย่ะค่ะ!!!"

โจวอวี้หลันที่ได้ยินเช่นนั้นดวงตาคู่สวยก็ทอประกายเย็นเยียบ ไม่ต้องบอกนางก็รู้ว่าเป็นฝีมือของผู้ใด มีเพียงผู้เดียวที่เร่งวันเร่งคืนอยากสังหารนางกับอาเฉิน 

เซียวฮองเฮา!

สตรีสารเลวนางนั้นคงจะอดใจรอไม่ไหวแล้วสินะ!!! 

"รองแม่ทัพลั่ว พวกมันมีกันเท่าใด" 

"หลายสิบนายพ่ะย่ะค่ะ ฝีมือยอดเยี่ยมไม่เบา อีกทั้งยังสังหารทหารของเราไปไม่น้อยแล้ว" 

"หึ!!! เจ้าคอยอารักขาอาเฉินไว้ ข้าจะไปต่อสู้กับพวกมันเอง" 

"องค์หญิง!!!" 

ลั่วจินหยางยังมิทันได้เอ่ยคำทัดทานใดใด โจวอวี้หลันก็พุ่งทะยานออกมาจากรถม้าพร้อมกับกระบี่อ่อนคู่ใจ นางโผทะยานเข้าไปต่อสู้กับเหล่านักฆ่าทันที 

ฝีมือของโจวอวี้หลันไม่เป็นสองรองผู้ใด แม้นางจะเป็นสตรีแต่กลับเก่งกาจชำนาญการต่อสู้เช่นเดียวกับมารดาผู้ล่วงลับ กระบี่อ่อนของนางพลิ้วไหวไปตามเรือนกายที่เคลื่อนไหว ทุก ๆ ที่ที่นางพาดผ่านย่อมมีคนตายนับไม่ถ้วน 

ภาพตรงหน้าฝังลึกลงไปในจิตใจของลั่วจินหยาง เขาปรายตามองเหล่านักฆ่าด้วยแววตาอำมหิต 

เหล่านักฆ่าเริ่มตื่นตระหนกแล้ว เดิมทีสถานการณ์เป็นพวกเขาได้เปรียบ แต่ยามนี้กลับไม่ง่ายเสียแล้ว ประมือกันมาเป็นเวลาราวหนึ่งเค่อ แต่ทว่ายังมิอาจหาทางสังหารองค์รัชทายาทได้เลยแม้แต่น้อย 

ท้ายที่สุดพวกมันก็ยอมล่าถอยออกไปก่อน โจวอวี้หลันสบถออกมาอย่างหัวเสีย เดิมทีนางคิดจะจับพวกมันสักคนมาเค้นหาตัวบงการแต่กลับจับไม่ได้แม้แต่คนเดียว 

น่าเจ็บใจนัก!!! 

ยิ่งได้มองเห็นเหล่าทหารคุ้มกันที่ล้มตายไปเกือบหมด ใจของนางก็ยิ่งบีบรัด 

สถานการณ์เริ่มตึงเครียดทุกขณะ 

"รองแม่ทัพลั่ว เราต้องรีบออกเดินทาง ข้าเกรงว่าจะมีพวกมันดักรอซุ่มโจมตีพวกเราอีก"

"องค์หญิง ยามนี้ท้องฟ้าใกล้มืดค่ำลงแล้ว เราควรหาที่พักก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ" 

"ไม่ได้!!! ที่นี่ไม่ปลอดภัย ข้าจะต้องพาอาเฉินไปพบกับท่านหมอเทวดาโดยเร็วที่สุด" 

ลั่วจินหยางถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะครุ่นคิดบางอย่าง เขามองไปโดยรอบอย่างระแวดระวัง ยามนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว เหล่าทหารก็เหลือเพียงไม่กี่สิบนายเท่านั้น หากยังรั้งรอไม่ทำสิ่งใดเสียทีย่อมไม่ปลอดภัยเป็นแน่

โจวอี้เฉินเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าทั้งหมด ใจของเขาคับแค้นเป็นยิ่งนัก อยากจะฉีกทึ้งเซียวฮองเฮาออกมาเป็นชิ้น ๆ แต่ทว่าเขาในยามนี้มิอาจทำสิ่งใดได้ แม้แต่จะพยายามหาทางช่วยสหายสนิทและพี่หญิงก็ยังทำไม่ได้แม้แต่น้อย 

ลั่วจินหยางที่นึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหันไปเอ่ยกับโจวอวี้หลัน 

"ทูลองค์หญิง กระหม่อมจำได้ว่า มีน้องสาวร่วมมารดาผู้หนึ่งเดินทางมารักษาตัวที่หมู่บ้านชนบทใกล้ ๆ ละแวกนี้ หากองค์หญิงมิรังเกียจ กระหม่อมจะพาพระองค์ไปพักที่นั่นก่อน" 

โจวอวี้หลันมองลั่วจินหยางคราหนึ่ง ในใจนางคิดไม่ตก แต่ยามนี้สถานการณ์บีบคั้นทำให้มิอาจเลือกสิ่งใดได้มากนัก 

"เช่นนั้นก็นำทางไปเถิด"

"พ่ะย่ะค่ะ"

ด้านลั่วหนิงฮวานั้น ยามนี้นางกำลังสั่งให้จางสงและลูกน้องคนอื่น ๆ ช่วยกันฝังสุราเอาไว้ที่ใต้ต้นไม้รอบ ๆ เรือน นี่เป็นสุราที่นางหมักขึ้นมาเองกับมือ สุราบางชนิดใช้เวลาหมักเพียงเดือนเดียว บางชนิดใช้เวลาราวหนึ่งปีจึงจะมีรสชาติที่ดีเยี่ยม 

แน่นอนว่าลั่วหนิงฮวาสั่งให้จางสงไปกว้านซื้อสุราทั่วทั้งตลาดมาให้นางลองชิมดู จางสงที่มองดูลั่วหนิงฮวายกสุราขึ้นดื่มราวกับยกน้ำชาก็รู้สึกเลื่อมใสไม่น้อย

เขาเป็นบุรุษยังคอแข็งไม่เท่าลูกพี่เลย 

เมื่อรู้รสชาติแล้ว นางจึงลงมือหมักสุราเองกับมือทันที 

เมื่อสามวันก่อน หลัวเฟิงตกลงทำการค้ากับนาง เขายอมให้นางนำสุราชั้นดีมาวางขายในโรงพนันของเขาได้ หากสุราของนางรสชาติดี แน่นอนว่าจะสามารถดึงดูดแขกเหรื่อมาที่โรงพนันของเขาได้ อีกทั้งยังจะทำเงินมหาศาลให้กับเขาอีกด้วย

เมื่อเจรจาการค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในวันเดียวกันนั้น นางก็ให้แม่นมหยางไปแจ้งแก่ทางการว่าพบศพศพหนึ่งที่ใต้ต้นดอกเหมย โดยให้การว่าพวกนางกำลังจะไปขุดดินเพื่อหาเหยื่อมาตกปลา แต่กลับพบศพใต้ต้นไม้ จึงรีบมาแจ้งต่อทางการ เจ้าหน้าที่มิได้ใส่ใจไต่ถามเอาความกับนางมากนักด้วยเพราะเห็นว่าเป็นสตรี อีกอย่างนางก็ให้พวกจางสงไปหลบซ่อนตัวก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึงก่อนหน้าแล้ว 

นายอำเภอของที่นี่เป็นผู้เถรตรงที่เพิ่งย้ายมาประจำการ เขาใช้เวลาตรวจสอบศพอยู่หลายวันจนสามารถหาเบาะแสที่มาของศพได้ ท้ายที่สุดผีสาวตนนั้นก็ได้กลับบ้านไปหามารดาสมดังที่ใจของนางปรารถนา 

ก่อนจะจากไปนางยังบอกที่ซ่อนเงินทองของมีค่าให้แก่ลั่วหนิงฮวาอีกด้วย แต่ลั่วหนิงฮวากลับสั่งให้จางสงลักลอบตามขบวนขนส่งศพไปยังบ้านเกิดของผีสาวนางนั้น และมอบทรัพย์สมบัติมีค่านี้ให้แก่มารดาของผีสาวตนนั้นเสีย 

นางมิใช่คนเห็นแก่สมบัติจนหน้ามืดตามัวแม้ว่านางจะชอบเงินมากก็ตาม

"หนิงเอ๋อร์!!!"

ในขณะที่ลั่วหนิงฮวากำลังวุ่นวายกับการสั่งให้คนฝังสุราลงดิน นางก็ได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนเรียกชื่อของนาง เมื่อหันไปมองจึงได้พบกับบุรุษผู้หนึ่งที่มีใบหน้าหล่อเหลาแต่ติดที่ผิวคล้ำไปเสียหน่อย 

ในความทรงจำของร่างเดิมบอกกับนางว่าเขาคือ ลั่วจินหยางพี่ชายร่วมมารดาเดียวกันของนาง

แล้วนั่นผู้ใดกันที่ติดตามลั่วจินหยางมาด้วย 

หรือว่าจะเป็น ผี?

이 책을.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • สตรีหน้าตายกับผีร้ายจอมป่วน   ตอนพิเศษ ดินแดนปรภพที่แสนงดงาม

    รัชศกอี้เฉินปีที่ 30 เข้าสู่ช่วงเหมันต์ฤดู อากาศค่อนข้างหนาวเย็นเป็นอย่างมาก ยามนี้ลั่วหนิงฮวากำลังนั่งสนทนาอยู่กับโจวอวี้หลันด้านในตำหนักเฟิ่งหวง พวกเขาทั้งสองอายุมากแล้ว แต่ทว่าความงดงามกลับไม่ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย ยามว่างโจวอวี้หลันมักจะเข้าวังมาเยี่ยมนางอยู่เสมอ"พี่หญิง ท่านลองดื่มชาหลงจิ่งถ้วยนี้ดูเถิด รสชาติดียิ่งนัก" "อืม" โจวอวี้หลันยกถ้วยชาขึ้นมาดื่ม รสชาติหวานล้ำและกลิ่นหอมของใบชาทำให้นางพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ "ได้ยินว่าสองวันก่อน องค์รัชทายาท องค์ชายรองและองค์หญิง ออกไปเที่ยวเล่นนอกวังหลวงมาหรือ" โจวอวี้หลันเอ่ยถามขึ้นมา ลั่วหนิงฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย นางมีพระโอรสสององค์ และองค์หญิงอีกหนึ่งองค์ ลูกทั้งสามมีอายุไม่ห่างกันมากเท่าใดนัก โจวเทียนสิงเป็นองค์รัชทายาท ปีนี้อายุสิบแปดปีเต็มแล้ว โจวเซิงหยวน องค์ชายรองปีนี้อายุสิบหกปีเต็ม และโจวหงอี้อายุสิบสี่ปีเต็ม บุตรทั้งสามของนางนั้นสร้างแต่เรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน "พี่หญิง พูดถึงพวกเขาแล้วข้าเหนื่อยใจยิ่งนัก" "เอาเถิด เด็ก ๆ ก็เป็นเช่นนี้ ดูลั่วเฟิงบุตรชายคนเดียวของข้าสิ เขาก็เที่ยวเล่นเช่นนี้ประจำ

  • สตรีหน้าตายกับผีร้ายจอมป่วน   ตอนพิเศษ สุขสม

    "อะ อื้อออ!!!" เสียงครวญครางแผ่วต่ำสลับกับเสียงฝนที่โปรยปรายในยามค่ำคืน สร้างความร้อนรุ่มให้แก่โจวอี้เฉินเป็นอย่างยิ่ง"เด็กดี นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น" "อาเฉินร่างกายท่าน!!! ""มิต้องกังวลท่านหมอเทวดาบอกว่าข้าหายดีแล้ว""อื้ออออ!!!" ลั่วหนิงฮวารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อถูกโจวอี้เฉินมอบรสจูบที่แสนเร่าร้อนให้แก่นางเช่นนี้ เขาสอดลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นชื้นแฉะของนางอย่างเอาแต่ใจ ยามนี้อาภรณ์ที่แสนประณีตงดงามกลับถูกเขาดึงทึ้งลงไปกองกับพื้นเสียแล้ว ร่างกายของนางเปลือยเปล่าอ่อนระทวยอยู่ภายใต้ร่างแกร่งของเขา มือหนาใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนกายขาวผ่องอย่างซุกซน ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนใบหน้ามาจูบไซ้ที่ซอกคอขาวเนียนของนาง และค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าลงมาที่สองเต้าอวบสวย โจวอี้เฉินครอบริมฝีปากกลืนกินยอดปทุมถันสีหวานของนางอย่างหื่นกระหาย มือหยาบกร้านบีบขยำดอกบัวงามจนเกิดเป็นรอยแดงทั้งสิบนิ้ว "อื้ออออ ข้าเสียว!!!" ลั่วหนิงฮวาแอ่นอกสวยให้เขาเชยชมอย่างไม่ขัดขืน โจวอี้เฉินแลบลิ้นเลียจุกบัวสีหวานของนางอย่างหยอกเย้า ตั้งแต่คลอดพระโอรสองค์แรก เขากับนางก็ห่างเหินเรื่องสัมพันธ์สวาทเช่นนี้มานา

  • สตรีหน้าตายกับผีร้ายจอมป่วน   บทที่ 56 บทสรุปของทุกสิ่ง (จบบริบูรณ์)

    นอกจากจะสังหารโจวเหวินกวงแล้ว หนึ่งเดือนต่อมา โจวอี้เฉินก็พบกับเบาะแสที่จวิ้นอ๋องหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อห้าปีก่อน จวิ้นอ๋องเป็นน้องชายของเสด็จพ่อและเป็นเสด็จอาอีกคนของเขา เมื่อสืบค้นตามคำบอกเล่าของวิญญาณจวิ้นอ๋อง จึงพบว่าเขาถูกโจวเหวินกวงสังหารและฝังร่างไว้ที่ท้ายจวนชินอ๋องอย่างเลือดเย็น เพียงเพราะเขาไปได้ยินว่าโจวเหวินกวงวางแผนจะลอบวางยาอดีตฮ่องเต้ แต่กลับทำไม่สำเร็จ เพราะเสด็จพ่อของเขาก็ทรงระวังพระองค์ไม่น้อยแท้จริงโจวเหวินกวงคิดเรื่องนี้มานานหลายปีแล้ว มิใช่เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ จวิ้นอ๋องก็ไม่ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตามคำบอกเล่าของคนอื่น ๆ ที่บอกว่าเขาถูกฆ่าเพราะมัวเมาสตรีผิดลูกผิดเมียผู้อื่น แต่แท้จริงแล้ว เพราะไปรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้มาก่อนเพียงเท่านั้น จึงถูกสังหารจนตกตายร่างของจวิ้นอ๋องถูกนำกลับมาฝังในสุสานราชวงศ์อย่างสมเกียรติ "อาเฉินขอบใจเจ้ามาก" "เสด็จอาจวิ้นอ๋องมิต้องเกรงใจ""อาเฉิน เดิมทีข้าจะต้องไปเกิดแล้ว แต่เพราะความงามของลั่วฮองเฮา ข้าจึงอยากอยู่ต่ออีกสักหน่อย" โจวอี้เฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันขวับไปมองจวิ้นอ๋องทันที "เสด็จอา ท่านอยากตายรอบสองหรือไม่พ่ะ

  • สตรีหน้าตายกับผีร้ายจอมป่วน   บทที่ 55 แต่งตั้งฮองเฮา

    เมื่อได้รับราชโองการฉบับจริงกลับมาแล้ว โจวอี้เฉินจึงขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้หยางโจวพระองค์ใหม่อย่างถูกต้องตามพระราชประเพณี โจวเหวินกวงถูกจับขังเอาไว้ที่คุกหลวง โจวอี้เฉินสั่งให้คนจับตาดูเขาทุกฝีก้าวเพื่อมิให้เขาลักลอบฆ่าตัวตายได้สำเร็จ เพราะมีความตายที่เขารอจะมอบให้โจวเหวินกวงอยู่แล้ว หยางโจวรัชศกอี้เฉิน ปีที่หนึ่ง วันนี้เป็นฤกษ์มงคลที่โหราจารย์คัดสรรมาอย่างดี ท้องฟ้าและแสงแดดค่อนข้างปลอดโปร่งเป็นใจยิ่งนัก บนถนนซึ่งทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุด มีขบวนเกียรติยศขบวนหนึ่ง ค่อย ๆ เคลื่อนไปอย่างช้า ๆ ท่ามกลางเสียงดนตรีบรรเลงเพลงขับขานชวนหลงใหล เกี้ยวมงคลสีเหลืองทอง ขนาดสิบหกคนหาม ม่านเกี้ยวปักดิ้นทองลายหงส์น่าเกรงขามโดดเด่นงดงามตระการตามิใช่น้อย เกี้ยวมงคลอันงดงามนี้เคลื่อนขบวนจากจวนตระกูลลั่วมุ่งหน้าสู่วังหลวง สตรีที่คู่ควรกับขบวนเกียรติยศงดงามโอ่อ่าหลังนี้มีเพียงฮองเฮาเท่านั้น ลั่วหนิงฮวาสวมชุดสีทองปักลายหงส์งามสง่า บนศีรษะประดับมงกุฎหงส์ ขับเน้นให้ใบหน้าสวยหวานดูงดงามน่าเกรงขามไม่น้อย ยามนี้นางกำลังนั่งอยู่ในเกี้ยวเพื่อมุ่งหน้าสู่พระราชวัง ขบวนเกียรติยศมาถึงวังหลวงอย่างสง่างาม ยามที่นาง

  • สตรีหน้าตายกับผีร้ายจอมป่วน   บทที่ 54 ยึดแผ่นดินกลับคืน

    โจวเหวินกวงลนลานปล่อยมือออกจากร่างของลั่วหนิงฮวาก่อนจะทรุดกายลงไปกับพื้น แล้วจึงสั่งเหล่าทหารให้เตรียมต้านรับสุดกำลัง เมื่อหันมาอีกครากลับพบว่านางหายไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้ว วิญญาณจวิ้นอ๋องและอดีตฮองเฮาบดบังกายนางเอาไว้ อีกทั้งยังบอกนางว่าโจวเหวินกวงคนสารเลวได้สังหารท่านตาของโจวอี้เฉินไปก่อนหน้าแล้ว ลั่วหนิงฮวากำมือแน่น ความเกลียดชังที่มีต่อโจวเหวินกวงยิ่งทบทวีมากขึ้นไปอีกลั่วหนิงฮวามุ่งหน้ามายังตำหนักเย็นซึ่งเป็นที่ที่โจวอวี้หลันถูกจับกุมตัวเอาไว้ ระหว่างทางนางแอบหยิบดาบและธนูของทหารที่วางไว้ติดมือมาด้วย"พี่หญิง!!!" "หนิงเอ๋อร์ เจ้า!!!" "พี่หญิง ฮึก ท่านตาของท่านและท่านพ่อของข้า ถูกประหารสิ้นแล้ว!!!" โจวอวี้หลันที่ได้ยินเช่นนั้นก็แทบทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่ ลั่วหนิงฮวาที่ไร้เรี่ยวแรงไม่น้อยไปกว่ากัน ต้องเข้ามาช่วยประคองโจวอวี้หลันเอาไว้ "พี่หญิง หนีก่อนเถิด!!!" "หนีเช่นไร ยามนี้ข้าไม่มีอาวุธเลย!!!" "ไม่ต้องกังวล ระหว่างทางข้าแอบหยิบดาบของทหารและธนูติดมาด้วย โจวอี้เฉินมาถึงแล้ว เราย่อมหนีออกไปได้ รีบไปเถิด ยามนี้กองทัพของอาเฉินและพี่ใหญ่กำลังรอเราอยู่!!!" โจวอวี้หลันที่ได้ยินเช่

  • สตรีหน้าตายกับผีร้ายจอมป่วน   บทที่ 53 ทัณฑ์แล่เนื้อเถือหนัง

    ลานประหาร โจวเหวินกวงสั่งให้ทหารนำแม่ทัพลั่วไปมัดขึงเอาไว้ที่กลางลานประหาร ก่อนจะลากตัวลั่วหนิงฮวามายืนอยู่กับเขา และใช้แขนล็อกคอของนางเอาไว้มิให้ขยับหนีไปได้ "หนิงฮวา เจ้าจงดูให้เต็มตาเสียเถิด เพราะต้องการปกป้องเจ้าและคิดขัดคำสั่งข้า พ่อของเจ้าต้องพบกับจุดจบเช่นใด" "ปล่อยข้า!!!""ปล่อยแน่นอน แต่หลังจากที่ข้าฆ่าพ่อของเจ้าเรียบร้อยแล้ว!!!" "เหวินกวง ไอ้คนต่ำช้า!!!" "มานี่!!!" โจวเหวินกวงฉุดกระชากลากถูลั่วหนิงฮวามายืนอยู่ไม่ไกลจากแม่ทัพลั่วมากนัก ลั่วหนิงฮวาจ้องมองผู้เป็นบิดาด้วยความเจ็บปวด ดวงตาคู่สวยแดงก่ำ หยดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหลั่งรินไม่ขาดสาย แม่ทัพลั่วส่งยิ้มให้บุตรสาวอีกคราหนึ่งด้วยความเหนื่อยล้า เขาตรากตรำอยู่ในสนามรบ ต่อสู้เพื่อแคว้นเพื่อราษฎรมานานหลายปี ไม่ตกตายในสนามรบ แต่กลับถูกสังหารเพราะคนชั่ว ช่างเถิด ชีวิตคนเราก็มีเพียงเท่านี้ จะเกรงกลัวความตายไปไยกัน"อย่ารับปากคนชั่ว นี่เป็นคำขอสุดท้ายของพ่อ พ่อหวังเพียงให้พวกเจ้าจดจำเรื่องราวในวันนี้ให้ดี แล้วจงเข้มแข็ง อยู่ต่ออย่างภาคภูมิ" "ท่านพ่อออออ!!!" "ถึงตายข้าก็ไม่เสียใจ ข้าเป็นทหาร มีเลือดนักรบไหลเวียนอยู่ในกาย ข้

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status