เอริคยกปืนขึ้นจ่อหัวของเฟยด้วยความโกรธจัด แต่ร่างกายที่เริ่มอ่อนแรงเพราะฤทธิ์ยา เลยถูกอีกฝ่ายแย่งปืนในมือไปได้แบบง่ายดาย เฟยจับมือทั้งสองข้างของเอริคชูขึ้นสูงติดกับผนังลิฟท์ ลำตัวแนบชิดกับอีกฝ่ายเอาไว้
“ไอ้เวร!...กูจะ ฆ่ามึง” เอริคตะโกนขู่ใส่หน้าเฟยด้วยความโมโหและเจ็บใจ ทำไมเขาต้องลงเป็นรองไอ้จีนบ้านี่ทุกครั้งเลยนะ
“เอากระบอกปืนจ่อหัวผัวตัวเองแบบนี้ ไม่น่ารักเลยนะครับคุณเอริค” เฟยกระตุกยิ้มร้ายขึ้น ก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยพูดหยอกอีกฝ่ายออกไป หึหึ คิดว่าในมือมีปืนแล้วเขาจะกลัวหรือไง
ในอดีตเฟยถูกฝึกให้ใช้ปืน และแย่งปืนจากคู่ต่อสู้ มาเป็นร้อยเป็นพันครั้ง เพราะฉะนั้นถ้าอยู่หนึ่งต่อหนึ่งเขาไม่กลัวอยู่แล้ว แถมอีกฝ่ายยังอยู่ในสภาพไม่เต็มร้อยแบบนี้ เฟยไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน
“โธ่โว้ย! ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะไอ้เฟย กูบอกให้ปล่อยไงวะ” เอริคร้องโวยวายอย่างหัวเสีย
ร่างกายพยายามดิ้นรนขัดขืนไปมาสุดชีวิต แต่มันก็แทบไร้ประโยค เพราะเขาสู้แรงของอีกฝ่ายไม่ได้เลยสักนิด
“จำได้ใช่ไหมครับ...ว่าคนพูดไม่เพราะจะต้องโดนลงโทษยังไง” เฟยก้มกระซิบที่ข้างหูเสียงเบา
ก่อนจะค่อย ๆ ใช้ลิ้นร้อนของตัวเอง ไล่เลียซอกคอของเอริคอย่างช้า ๆ แล้วอ้าปากขบกัดลงไปหนึ่งที เพื่อเป็นการทบทวนความจำของคนชอบพูดไม่เพราะ
“มึง!” เอริคสะดุ้งกับสัมผัสร้อนที่คอ
ร่างกายขนลุกซู่สั่นสะท้านขึ้นมาทันที เมื่อรับรู้ถึงสัมผัสร้อนที่คอของตัวเอง อยู่ ๆ ภาพในคืนที่เขาต้องการจะลืมเลือน มันก็วนเวียนกลับมาชัดขึ้นมาอีกครั้ง ท้องน้อยก็รู้สึกวาบหวิวขึ้นมาแปลก ๆ
“ผมว่าคุณเลิกดิ้นดีกว่านะครับ สภาพของคุณตอนนี้มันเริ่มแย่ลงทุกทีแล้วไม่ใช่เหรอครับ” เฟยจ้องมองใบหน้าแดงก่ำของเอริค ก่อนจะพูดเตรียมออกไป อยู่ในสภาพนี้แล้วยังจะมาอวดเก่งกับเขาอีกนะ
“กู จะ ฆ่า มึง” เอริคถลึงตาดุใส่เฟยด้วยความเคียดแค้น เสียงเย็นยะเยือกพูดขู่ขึ้นอย่างโกรธจัด
“ผมว่าพวกเรามาทบทวนความจำกันหน่อยดีไหมครับ” เฟยไม่สนใจคำขู่ ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้น
ก่อนจะโน้มใบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้หน้าของเอริค จนริมฝีปากของทั้งคู่แทบจะแตะติดกัน เฟยค่อย ๆ ขยับริมฝีปากบางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง สายตาหื่นกระหายมองลึกเข้าไปในดวงตาคมของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
“ฝัน ไป เถอะ” เอริคปฏิเสธกลับเสียงสั่น เขาไม่มีวันกลับไปทำเรื่องบ้า ๆ แบบนั้นอีกแน่นอน
“หึหึ คิดดี ๆ ก่อนจะพูดดีกว่านะครับ เพราะถ้าปล่อยไว้แบบนี้ คุณอาจจะตายก่อนผมก็ได้นะครับ” เฟยพูดเตือนสติเอริคอีกครั้ง เพื่อให้คนหัวดื้อยอมอ่อนให้ตัวเองสักที
“...” เอริคเบือนหน้าหนีไปด้านข้างอย่างดื้อรั้น พยายามรวบรวมสติอันน้อยนิดของตัวเอง เพื่อจะได้คิดหาทางออกของเรื่องนี้
“อีกอย่างผมว่าบนเรือลำนี้ ก็น่าจะมีแต่ผมนะครับ ที่จะช่วยคุณได้ จริงไหมครับ” เฟยเห็นเอริคทำเป็นไม่สนใจตัวเอง ก็พูดเสริมขึ้นอีก
บนเรือลำนี้ถึงจะมีคนอยู่มากมาย ทั้งเพื่อนทั้งลูกน้องคนสนิท
...แต่แล้วยังไง ในเมื่อเรื่องที่เจ้าของคาสิโนพลาด โดนบาร์เทนเดอร์ข่มขืน แล้วรอบนี้ก็ยังพลาดถูกวางยาอีก มีแต่เขาที่เป็นคนทำกับเอริคที่เป็นฝ่ายถูกกระทำเท่านั้นที่รู้ เฟยมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเอริคไม่มีวันไปร้องขอให้คนอื่นช่วยแน่ ๆ เพราะฉะนั้นยังไงสุดท้าย คืนนี้เอริคก็ต้องยอมให้เขาช่วยอย่างแน่นอน
“ไอ้หื่น!! ไอ้ชั่ว!” เอริคด่าออกมาเสียงดังอย่างเจ็บใจ เพราะในใจลึก ๆ เขารู้ดี ว่าที่เฟยพูดมานั้นถูกทุกอย่าง เวลานี้นอกจากเฟย ก็คงจะไม่มีใครช่วยเขาได้อีกแล้ว
...แต่เอริคไม่อยากยอมรับเรื่องนี้เลย เขาไม่อยากกลับไปอยู่สภาพนั้นอีกแล้ว ทำไมเรื่องพวกนี้จะต้องมาเกิดขึ้นกับเขาด้วยนะ...
“ขอบคุณครับ ที่ชม” เฟยยิ้มรับคำชมอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ไอ้...อื้อออ”
เอริคที่กำลังจะอ้าปากตะโกนด่าคนตรงหน้าต่อ ก็ต้องกลืนคำพวกนั้นกลับลงท้อง เมื่ออยู่ ๆ ริมฝีปากบางของเฟยประกบปิดริมฝีปากของเอริคลงมาแบบไม่ให้ได้ตั้งตัวซะก่อน
พอได้เห็นริมฝีปากของเอริคขยับไปมาอยู่ตรงหน้า เฟยก็อดใจไม่ไหว กดจูบปิดเสียงด่าทอไปด้วยความมันเขี้ยว เขาอยากจูบริมฝีปากนี้อีกครั้ง ตั้งแต่ตอนอยู่ที่บาร์แล้ว เฟยพยายามอดกลั้นมันมาตลอด แล้วในที่สุดเขาก็ได้สมหวังสักที
เอริคถูกเฟยบดจูบริมฝีปากอย่างรุนแรงอยู่พักใหญ่ จนร่างกายอ่อนระทวยไปหมด จากตอนแรกที่พยายามดิ้นขัดขืน ก็ค่อย ๆ แปลงเปลี่ยนเป็นรับจูบของอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายที่ถูกยาปลุกอารมณ์อยู่แล้ว มันก็ยิ่งตอบสนองความต้องการของอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย ทำให้เอริครู้สึกหงุดหงิดกับร่างกายของตัวเองตอนนี้มาก
“แต่ถ้าคุณคิดว่ามีคนอื่นที่ช่วยคุณได้ งั้นก็จัดการฆ่าผมตอนนี้ได้เลยครับ”
พอกดจูบอีกฝ่ายจนสมใจอยาก เฟยก็ถอนริมฝีปากออกอย่างช้า ๆ แล้วพูดท้าขึ้น เมื่อเห็นว่าเอริคไม่มีทีท่าจะยอมเขาสักที
“อย่ามาท้าทายกูนะ ไอ้เฟย” เอริคพูดว่าเฟยกลับเสียงดัง เมื่อถูกคนตรงหน้าพูดท้า มันคิดว่าเขาไม่กล้าทำจริง ๆ หรือไง
เอริคจ้องหน้าเฟยอย่างเดือดดาล เขาอยากฆ่ามันให้ตายคามือซะตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
...แต่มันติดที่เวลานี้อาการของเอริค ดูแย่ลงจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว เพราะเมื่อครู่พอถูกเฟยจูบ ร่างกายของเขามันก็ยิ่งร้อนขึ้นเรื่อย ๆ และรู้สึกต้องการให้อีกฝ่ายทำมากกว่านี้ เอริคไม่รู้จะทำยังไงกับร่างกายของตัวเองแล้ว
“ผมไม่ได้ท้า ผมพูดจริง” เฟยพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะยัดปืนใส่มือของเอริคคืนไป เพื่อให้รู้ว่าเขาพูดจริง
เอริคจับปืนแน่นแล้วยกขึ้นจ่อที่หัวของเฟย หวังจะฆ่าตามที่ถูกท้าแต่อยู่ ๆ ในหัวของเขามันกลับตีกันไปหมด เขาจะฆ่าไอ้จีนหื่นตรงนี้เพื่อระบายความโกรธของตัวเองเลยดีไหม หรือว่าจะทำตามที่มันบอกดี เพราะร่างกายของเขาตอนนี้ มันก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน โธ่โว้ย!! เอางั้นดีวะ
เอริคยืนกัดฟันกรอดนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะลดปืนลงแล้วหันไปกดลิฟท์ ให้ขึ้นไปที่ชั้นของตัวเองแทน ตอนนี้เรื่องสำคัญสุด คือทำให้ยาบ้านี่มันหมดฤทธิ์ก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยจัดการไอ้จีนหื่นอีกทีก็ยังไม่สาย
“ยาหมดฤทธิ์เมื่อไหร่ ตอนนั้นคือเวลาตายของมึง จำเอาไว้” เอริคพูดขู่ทิ้งท้าย
“ครับบบ...ได้ตายคาอกของคุณ ผมก็นอนตายตาหลับแล้วครับ” เฟยพูดตอบกลับพร้อมรอยยิ้มระรื่น หึหึ ในที่สุดก็สำเร็จ
...อนาคตจะเป็นหรือตายเขาไม่รู้ แต่ตอนนี้ขอเขากินให้อิ่มก่อนก็แล้วกัน...
ห้องพักหรู
แสงจันทร์อ่อน ๆ ลอดผ่านผ้าม่านหน้าต่าง สาดส่องลงบนพื้นห้อง บวกกับแสงจากโคมไฟหัวเตียง ทำให้เห็นเงาของคนสองคนกำลังโยนขยับอยู่บนผนังห้องไปมาอย่างชัดเจน พอเข้ามาถึงห้องนอนได้ เฟยกับเอริคก็ไม่รอช้า พากันบรรเลงบทรักที่เร่งร้อนกันทันที เอริคที่ถูกฤทธิ์ยาควบคุมสติไปเกือบหมด รอบนี้เลยยอมเฟยอย่างว่าง่าย บวกกับที่ตัวเองไม่ได้ปลดปล่อยมาหลายเดือน ร่างกายของเขาเลยตอบสนองอีกฝ่ายดีกว่าปกติ
ตับ! ตับ! ตับ!!
“อื้ออ..อ๊าาส์”
เสียงเนื้อกระทบเนื้อประสานกับเสียงร้องควรญครางของทั้งคู่ ดังก้องไปทั่วห้อง ร่างกายของทั้งสองเปียกชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ เวลาได้ผ่านไปหลายชั่วโมง แต่เอริคกับเฟยก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดกันเลยสักนิด
“อ่าาส์...ตอดแน่นเหมือนเดิมเลยนะครับ” น้ำเสียงแหบพร่าพูดกระซิบหยอกดังอยู่ที่ข้างหู ของอีกฝ่ายอย่างถูกใจ
เฟยรอเวลาที่จะได้สอดกระแทกรูรักนี้มานานหลายเดือนแล้ว หลังจากที่เขามีอะไรกับเอริคในครั้งนั้น เฟยก็รู้สึกหลงใหลและติดใจร่างกายนี้มาก เขาพยายามลองหลับนอนกับคนอื่นอยู่หลายครั้ง แต่อารมณ์มันก็ไม่สุดเหมือนตอนที่ทำกับเอริคเลยสักคน
“อ๊าาส์...มีแรงแค่นี้เหรอวะ” เอริคพูดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
เมื่ออารมณ์ของเอริคพลุ่งพล่านเพราะฤทธิ์ยา เวลานี้เขารู้แค่อย่างเดียว คือต้องการให้เฟยสอดกระแทกแท่งเนื้อเข้ามาแรง ๆ เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากความทรมานสักที
“พรุ่งนี้ตื่นมาแล้วเดินไม่ไหว อย่ามาโทษผมนะครับ” เฟยกระตุกยิ้มร้ายขึ้นอย่างถูกใจ เมื่อได้ยินคำร้องขอออกจากปากของคนใต้ร่าง
“เรื่อง ขอ..งกูอื้อออ...จุกกก อ๊ะ อ่าา อ่าาส์” เอริคกำลังจะพูดว่าเฟยอยู่ ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเสียงร้องครางขึ้นมาแทน เมื่อคนด้านบนกระแทกแท่งเนื้อร้อนเข้ามาจนสุดตามคำขอ
“จัดให้ตามคำขอครับ”
เฟยพูดจบก็จับขาข้างหนึ่งของเอริคพาดขึ้นบนบ่า แล้วโน้มตัวแนบชิดคนด้านล่าง แล้วเริ่มกระหน่ำกระแทกใส่ร่องรักรัว ๆ อย่างบ้าคลั่ง สายตาก็มองจ้องใบหน้าสีแดงก่ำ ส่ายไปมาเพราะความเสียวซ่านที่ตัวเองมอบให้ไปด้วย
เฟยรู้สึกลุ่มหลงภาพตรงหน้าตอนนี้เหลือเกิน เพราะมันทำให้เขายิ่งอยากจะกัดกินเอริคมากขึ้น มากขึ้นเรื่อย ๆ และอยู่ ๆ เขาก็มีความคิดเห็นแก่ตัวผุดเข้ามาในหัว เฟยอยากเก็บภาพตรงหน้าตอนนี้ เอาไว้ดูเพียงคนเดียว ไม่ให้ใครได้เห็นมันอีกแม้แต่คนเดียว
หลังจากเรื่องวุ่นวายทั้งหมดจบลง เจ้าของคาสิโนหน้านิ่งก็ได้ป่าวประกาศ เรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองกับอดีตบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ให้เพื่อน ๆ และลูกน้องทุกคนได้รับรู้ทั่วกัน ถึงระยะแรก ๆ เอริคจะรู้สึกประหม่าตอนเจอคนอื่นอยู่บ้าง เพราะไม่รู้ว่าใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มให้ตัวเองอยู่นั้น เป็นรอยยิ้มจริงจากใจหรือรอยยิ้มจอมปลอม แต่พอหลัง ๆ มาเอริคก็เริ่มเลิกสนใจสายตาพวกนั้นในที่สุดแล้วเวลานี้เอริครู้สึกโล่งใจมาก ๆ ที่ไม่ต้องคอยโกหกปิดบังเรื่องตัวเองอีก และที่เขารู้สึกดีมากที่สุดของการป่าวประกาศข่าวในครั้งนี้ คือมันทำให้เด็กหนุ่มที่ชอบมาหยอกล้อพูดเล่นกับเฟย ไม่มีใครกล้าเข้ามาพูดเล่นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เอริครู้สึกชอบเรื่องนี้มาก เพราะเขาจะได้ไม่ต้องคอยระแวง กลัวเฟยอดใจไม่ไหวไปแอบหากินที่อื่นอีกเรือสำราญ-ห้องพัก“นายจำห้องนี้เตียงนี้ได้ไหมเฟย”“จำได้สิครับ ก็ห้อ
หลังจากที่คุณหมอทำแผลให้เฟยเสร็จแล้ว ภายในห้องก็กลับเข้าสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง เอริคนั่งเล่นไอแพดอยู่ข้างเตียงของเฟย ส่วนมังกรไซออนกับแซมเซ็นลูกน้องของเอริค ก็นั่งพูดคุยเล่นกันอยู่ที่โซฟาข้าง แล้วอยู่ ๆ สองหนุ่มเพื่อนสนิทเจ้าของห้อง ก็เปลี่ยนมานั่งจ้องมองเพื่อนกับคนบนเตียง แล้วหันกับมาพูดกระซิบกัน เมื่อทั้งสองก็เกิดความสงสัยอะไรบางอย่างในตัวเพื่อนสนิทขึ้นมาแต่จะให้พวกเขาพูดถามเพื่อนออกไปตรง ๆ ความกล้าในตัวมันก็ยังมีไม่พอ เลยได้แต่นั่งสงสัยกันอยู่เงียบ ๆ สองคน“พวกมึงสองคนมีอะไรจะพูดกับกูก็พูดมา นั่งจ้องพวกกูกันอยู่ได้”เอริคสังเกตท่าทางของเพื่อนสนิททั้งสองมาได้สักพัก สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวพูดถามออกไปด้วยความสงสัย ทำเหมือนพวกเขาเป็นผู้ต้องสงสัยทำความผิดอะไรมาซะอย่างงั้น“แล้วมึงล่ะ มีเรื่องอะไรอยากจะสารภาพกับพวกกูหรือเปล่า” พอมังกรได้ยินเอริคพูดเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน ก็ไม่รอช้ารีบถามเรื่องที่ตัวเองรู้สึกสงสัยออกไปทันที
กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยคลุ้งไปทั่วห้องพักฟื้นของผู้ป่วย เมื่อบาดแผลที่ใกล้จะหายดีแล้วของคนไข้ อยู่ ๆ ก็ฉีกมีเลือดไหลออกมาอีกครั้งอย่างไม่มีสาเหตุ เอริคนั่งนิ่งดูคุณหมอกับพยาบาลสาวยืนทำแผลให้เฟยอยู่โซฟาเงียบ ๆ โดยมีสายตาของมังกรกับไซออนแอบมองมาทางเขาเป็นระยะ ๆ แล้วหันไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันอยู่สองคนอย่างมีเลศนัย“ทำแผลเสร็จแล้วครับ เออ...ยังไงหมอก็ขอให้ญาติช่วยระมัดระวังเรื่องการขยับร่างกายของคนไข้ด้วยนะครับ”คุณหมอทำแผลให้เฟยเสร็จก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ก็ได้หันมาพูดกับเอริคที่นั่งอยู่ด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ เพราะถ้าท่านคิดไม่ผิด ที่แผลของคนไข้เปิดมีเลือดออกครั้งนี้ สาเหตุอาจมาจากคนดูแลเป็นต้นเหตุก็ได้นั่นเอง“เออ...ครับ”ใบหน้าของเอริคร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างฉับพลัน เมื่อฟังที่คุณหมอพูดบอกจบประโยค เขานิ่งอึ้งพูดอะไรแทบไม่ออก เพราะรู้ดีว่าท่านกำลังจะสื่อถึงเรื่องอะไรแต่เรื่องนี้จะมาบอกเขาฝ่ายเดียวได้ยังไง ก็ในเมื่อไอ้คนท
“เฟย!! นายเป็นอะไร นี่มัน...เลือด!!”เอริคเห็นเฟยร้องออกมาเสียงดัง ก็รีบเข้าไปประคองด้วยความตกใจ พอได้ยินเสียงร้องของเฟยแล้ว มันทำให้เขารู้สึกกังวลและเป็นห่วงมาก เอริคมองสำรวจร่างกายของเฟยอีกรอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเฟยไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนจริง ๆ แต่แล้วสายตาของเขาก็ต้องหยุดชะงักค้าง อยู่ที่สะโพกข้างหนึ่งที่เฟยใช้มือปิดไว้ มีน้ำสีแดงสดเริ่มไหลอาบไปทั่วมือ“ผมไม่เป็นไรครั...” เฟยพยายามเก็บสีหน้าความรู้สึกเจ็บเอาไว้ แล้วพูดยิ้ม ๆ กับเอริคออกไป เพื่อไม่ให้คนตรงหน้าเป็นกังวลไปมากกว่านี้ แต่เขายังไม่ทันได้พูดจบประโยค ดวงตาทั้งสองข้างก็เริ่มพร่ามัว แล้วมืดดับลงไปอย่างห้ามไม่ได้“เฟย เฟย เฟย!!!” เอริคร้องเรียกชื่อเฟยออกมาซ้ำ ๆ ด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ ๆ เฟยก็หมดสติไปต่อหน้าตัวเองโรงพยาบาล-หน้าห้องฉุกเฉินหน้าห้องฉุกเฉินที่เต็มไปด้วยญาติผู้ป่วย และพวกคุณ
“หยุดนะคุณชุน!! อย่าทำแบบนี้เลยนะครับ”เสียงร้องโวยวายดังก้องไปทั่วห้องนอน เมื่อบนเตียงกลางห้องเวลานี้ มีชายร่างกายเปลือยเปล่าคนหนึ่ง กำลังพยายามปลุกปล้ำ ก้มหน้าซุกไซร้ซอกคอขาว ของชายหนุ่มที่ถูกมัดนอนอยู่บนเตียงอย่างเร่าร้อน มือทั้งสองข้างของเขาก็ไม่อยู่นิ่ง พยายามถอดดึงเสื้อผ้าของคนนอนอยู่ออกไปด้วยเฟยถูกจู่โจมอย่างหนักโดยที่สามารถปัดป้องอะไรได้เลย เขาพยายามส่ายหน้าไปมาเพื่อหลบริมฝีปากร้าย ที่เข้ามาเล่นงานซอกคอของตัวเอง ปากก็ร้องตะโกนออกมาไม่หยุด หวังว่าจะมีใครสักคนได้ยิน แล้วเข้ามาช่วยเหลือตัวเองจากเหตุการณ์ตอนนี้เฟยพยายามกระชากข้อมือของตัวเองออกจากผ้าหัวเตียงอย่างสุดแรง จนข้อมือทั้งสองข้างเจ็บแสบและเป็นรอยแดง เพื่อจะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการครั้งนี้ แต่ไม่ว่าเขาจะขยับร่างกายดิ้นหนีสุดแรงยังไง มันก็แทบจะไม่เป็นผลเลยสักนิด ส่วนคนที่นั่งคร่อมอยู่บนตัวของเขา ก็ยังคงพยายามถอดดึงเสื้อผ้าบนตัวของเขาไม่หยุด…หรือว่าครั้งนี้เขาจ
โรงแรมหรูกลางใจเมืองในค่ำคืนที่มืดมิดภายในห้องหรูของโรงแรมห้องหนึ่ง มีชายหนุ่มคนหนึ่งนอนหลับใหลไร้สติอยู่บนเตียง มือทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยผ้าสีขาวมัดตึงไว้กับหัวเตียง โดยมีดวงตาหวานเยิ้มของชายหนุ่มอีกคน นั่งจ้องมองดูเรือนร่างนั้นอยู่อย่างไม่ละสายตาหลังจากที่จับตัวเฟยขึ้นรถมาได้ ชุนก็ทำให้เฟยสลบแล้วพามาที่ห้องของตัวเอง จากนั้นก็สั่งให้ลูกน้องมัดมือทั้งสองข้างของเฟยผูกติดกับหัวเตียงเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เฟยแผลงฤทธิ์เวลาที่ตื่น ส่วนตัวเองก็นั่งดื่มเหล้ารออยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็นชุนอย่างให้ครั้งแรกของตัวเองกับเฟยเป็นเวลาที่ทั้งสองฝ่ายมีสติครบถ้วน เลยไม่คิดจะรีบร้อนทำอะไรเฟยในตอนนี้ เพราะเขายังมีเวลาดื่มด่ำกับความหอมหวานตรงหน้าอีกนาน โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าใครหน้าไหนจะมาขัดขว้างความสุขครั้งนี้ของเขาได้…และแล้วในที่สุดคนบนเตียงก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ เฟยหันมองซ้ายมองขวาดูรอบตัวอย่างงง ๆ เมื่อภาพที่เห็นตร