เรือสำราญ
แสงไฟสีสวยจากโคมระย้าประดับประดาบนเพดาน ส่องสว่างทั่วทั้งเรือ เสียงดนตรีสดบรรเลงเพลงช้า ๆ เพิ่มความโรแมนติกได้เป็นอย่างดี ทำให้นักท่องเที่ยวชายหญิง ต่างพากันหลงใหลไปกับค่ำคืนอันแสนหวาน บนชั้นสองของเรือชายร่างสูงยืนจ้องมอง ไปตรงบาร์เครื่องดื่มชั้นล่าง ที่มีบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อผิวขาว กำลังยืนแจกยิ้มหวานให้พวกลูกค้าอย่างอารมณ์ดี แทบไม่กะพริบตา ราวกับว่ากลัวอีกฝ่ายจะหายไปจากสายตาอย่างไงอย่างงั้น
“ไอ้เฟย ในที่สุดกูก็หาตัวมึงเจอจนได้” เอริคพึงพำออกมาเบา ๆ
สายตาก็จ้องมองอยู่ที่ร่างสูงตรงเคาน์เตอร์บาร์ไปด้วย พอได้เห็นใบหน้าและรอยยิ้มยียวน ลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงหน้าเขา เอริคก็รู้สึกเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง เพราะในหัวมันอดคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งก่อนไม่ได้เลยจริง ๆ
หึหึ คืนนี้ละเขาจะตอบแทนความอัปยศที่ได้รับมาในตอนนั้น คืนกลับไปให้เป็นสองเท่าเลย ไอ้เฟย!!
“ให้ผมเข้าไปคุยติดต่อให้ไหมครับนาย” แซมพูดถามเอริคออกมา
แซมเห็นเจ้านายตัวเองยืนจ้องมองบาร์เทนเดอร์คนนี้มาพักใหญ่แล้ว แต่ก็ไม่เห็นมีทีท่าจะลงไปพูดคุยด้วยสักที เลยคิดว่าเอริคอาจจะกลัวเสียฟอร์ม เลยเสนอตัวลงไปพูดคุยให้แทน
“ไม่ต้อง เดี๋ยวกูเข้าไปคุยเอง” เอริคกลับตอบเสียงเรียบ
“ครับ” แซมพยักหน้ารับ
“พวกมึงจะไปไหนกันก็ไป” เสียงเข้มพูดสั่งลูกน้องทั้งสองออกไปอีกครั้ง เรื่องในคืนนี้เอริคต้องจัดการเพียงคนเดียว เขาจะให้ใครรู้ไม่ได้ทั้งนั้น
“ครับ”
เอริคไม่อยากให้ลูกน้องทั้งสองรู้เรื่องของตัวเองกับเฟย ครั้งนี้เขาเลยจะต้องจัดการไอ้จีนหื่นนั่นเพียงคนเดียว เพื่อไม่ให้ใครสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะเวลานี้ทั้งเพื่อนและลูกน้องต่างเข้าใจว่า ที่เอริคมายืนอยู่บนเรือลำนี้ ตรงนี้ เวลานี้ เพราะรู้สึกติดใจบาร์เทนเดอร์หนุ่มก็เท่านั้น
...ไม่มีใครรู้ความจริงกันสักคน ว่าที่เอริคให้ตามหาเฟยไม่หยุดนั้น ก็เพราะอยากแก้แค้นกับสิ่งที่เฟย เคยทำไว้กับตัวเองต่างหาก...
บาร์เครื่องดื่ม
แสงไฟสีส้มนวลๆ สาดส่องลงบนเคาน์เตอร์จนเงาแวววับ กลิ่นหอมของเหล้าลอยฟุ้งในอากาศ บวกกับบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อ ที่กำลังยืนวาดลวดลาย ผสมเครื่องดื่มอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ มันทำให้ผู้คนที่มองมา ยิ่งรู้สึกหลงใหลมากขึ้น
“หาตัวเจอสักทีนะ คุณบาร์เทนเดอร์”
ร่างสูงของหนุ่มลูกครึ่งนั่งลงที่เคาน์เตอร์ แล้วเอ่ยพูดทักทายคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก สายตาจ้องเขม็งไปที่ใบหน้าขาวหล่อของบาร์เทนเดอร์หนุ่มอย่างไม่ลดละ
...ในที่สุดเอริคก็ลงมาประจันหน้ากับเฟยอีกครั้ง...
“สวัสดีครับคุณเอริค รับอะไรดีครับคืนนี้ หรือว่าจะต้องการรับแบบเดิมเหมือนคืนนั้นดีครับ”
เฟยหันไปตามเสียง พอเห็นว่าใครนั่งอยู่ตรงหน้าตัวเอง ก็ฉีกยิ้มหวานเยิ้มออกมา พร้อมเอ่ยทักทายกลับเสียงใส่ ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ แล้วเอ่ยกระซิบพูดถามออกไปเสียงเบา เพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน
ซึ่งคำพูดที่ออกจากปากของเฟยนั้น มันแฝงให้คิดถึงเรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านมาอย่างจงใจ พอเอริคได้ยินแบบนั้น ใบหน้าก็แดงร้อนขึ้นด้วยความโกรธจัด เมื่อถูกอีกฝ่ายพูดเย้าหยอกเรื่องในคืนนั้นขึ้นมาอีกครั้ง
“รับ ชีวิตมึงไง”
เอริคกำหมัดแน่นเพื่อควบคุมอารมณ์โกรธที่เริ่มเดือดขึ้นมา ก่อนจะพูดรอดฟันออกมาเสียงแข็ง คืนนี้เขาจะต้องฆ่าไอ้เวรนี่ให้ได้ คอยดูเถอะ
“ไม่ได้เจอคุณเอริคสองสามเดือน ผมคิดถึงคุณมากเลยรู้ไหมครับ” เฟยทำเป็นไม่สนใจสีหน้าท่าทางของเอริค ฉีกยิ้มหวานเยิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยพูดเย้าหยอกกลับไปอย่างไม่เกร็งกลัว
“กูก็คิดถึงมึงมาก เหมือนกัน” เอริคปั่นหน้ายิ้มพูดตอบกลับไปเสียงเรียบ
สายตาคมมองจ้องคนตรงหน้านิ่ง เอริครู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ที่เฟยดูไม่ตกใจหรือกลัวเขาเลยสักนิด หรือว่ากลัวแต่เก็บอาการอยู่กันนะ
ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้นในวันนั้นจนถึงวันนี้ เอริคไม่เคยหยุดคิดถึงเฟยเลยสักวินาทีจริง ๆ แค่ความคิดถึงของเขาไม่เหมือนที่พวกเพื่อน กับพวกลูกน้องคิดกันก็เท่านั้นเอง เพราะมันคือความคิด ที่อยากจะฆ่าอีกฝ่ายต่างหาก
“จริงเหรอครับ ดีใจจังเลย งั้นคืนนี้ผมขอเลี้ยงเหล้าคุณสักแก้วได้ไหมครับ นาน ๆ จะได้เจอคนคิดตรงกันสักที” เฟยฉีกยิ้มกว้างแสร้งทำท่าดีใจ เมื่อได้ยินคำพูดเอริค เพราะเขารู้ดีว่าที่อีกฝ่ายพูดนั้นหมายความว่าอะไร แต่แล้วยังไงล่ะ...
“หึหึ กูอยากรู้จริง ๆ ว่าหน้าของมึงจะยิ้มแบบนี้ได้นานอีกสักเท่าไหร่”
เอริคหัวเราะในลำคออย่างอดไม่ได้ พอได้เห็นท่าทางยิ้มร่าของเฟยในตอนนี้ เขาก็ยิ่งอยากทำให้มันหายไปเร็วขึ้นอีก
“ได้แล้วครับ วอดก้า มาร์ตินี่ ของคุณ”
เฟยยื่นแก้วเครื่องดื่มให้เอริคด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทำราวกับว่าไม่ได้ยินคำขู่ของอีกฝ่าย
“อีกสิบนาทีเตรียมบอกลา รอยยิ้มน่าขยะแขยงของมึงไปได้เลย”
เอริครับแก้วเหล้าในมือของเฟยมา แล้วยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด สายตาคู่คมจ้องมองคนตรงหน้าอย่างท้าทาย ก่อนจะเอ่ยพูดขู่คนตรงหน้าออกไป จากนั้นก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเย็นยะเยือก พร้อมยกมือข้างหนึ่งจับเสื้อนอกของตัวเองให้เปิดออกอย่างช้า ๆ เพื่อให้เฟยที่ยืนอยู่ตรงหน้า ได้เห็นปืนด้านในเสื้อของตัวเองอย่างชัด ๆ
เอริคให้ลูกน้องไปสืบว่า เฟยทำงานเลิกกี่ทุ่ม เขาจะได้เข้าหาถูกช่วง และตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาเลิกงานของเฟยแล้ว เอริคอดทนรอเวลานี้มานาน ถึงเขาจะรู้สึกโกรธแค้นคนตรงหน้ามากขนาดไหน แต่ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเขา เอริคเลยอยากทำทุกอย่างให้มันเงียบที่สุด จะได้ไม่ต้องมีปัญหาตามมาทีหลัง
“ครับบบ...ผมก็เริ่มจะอดทนรอไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”
เฟยมองลึกเข้าไปในเสื้อของเอริค ก่อนจะค่อย ๆ ยกยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย จากนั้นก็เอ่ยพูดลากเสียงยาวพูดตอบกลับไปอย่างล้อเลียน
********************
“เดินเร็ว ๆ ถ้ามึงคิดจะตุกติกแม้แต่นิดเดียวละก็ มึงได้กลายเป็นศพอยู่ในลิฟท์นี้แน่ จำเอาไว้”
“ครับบบ”
เอริคพาเฟยเดินไปที่ลิฟท์โดยใช้ปืนขู่จี้จากทางหลังของอีกฝ่าย เพื่อไม่ให้เฟยคิดหนีตัวเองไปไหนได้ ครั้งนี้เขาจะไม่ใจดีเหมือนครั้งก่อนอีกแล้ว
เอริคคิดจะพาตัวเฟยไปจัดการที่ห้องของเฟย เพื่อไม่ให้ใครสงสัยว่าเป็นฝีมือตัวเอง ทั้งคนบนเรือทั้งเพื่อนกับลูกน้องตัวเองด้วย เพราะถ้าเรื่องการตายถึงหูพวกนั้น ก็คงจะมาพูดถามเขาเป็นคนแรกแน่ ๆ ถึงตอนนั้นเอริคก็ค่อยพูดบอกไปว่า ตัวเองไม่รู้เรื่องเขากับเฟยแยกย้ายกันตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แค่นี้ก็ไม่มีใครสงสัยเขาแล้ว และอีกอย่างเอริคไม่มีเหตุผลที่จะต้องฆ่า บาร์เทนเดอร์หนุ่มของเรือลำนี้ด้วย จริงไหม
“ไอ้เฟย กูบอกแล้วไงว่าให้ยืนนิ่ง ๆ” เอริคพูดตะคอกเสียงดังขึ้น เมื่ออยู่ดี ๆ คนที่ยืนหันหลังให้ ก็เอื้อมมือไปกดหยุดลิฟท์ แล้วหันหน้ามายิ้มระรื่นให้ตัวเองซะดื้อ นี่มันคิดจะทำบ้าอะไรของมันอีกเนี่ย!!
“ก็ผมอยากมองหน้าของคุณเอริคแบบใกล้ ๆ สักครั้งก่อนตายนี่ครับ” เฟยพูดขึ้นยิ้ม ๆ อย่างไม่สะทกสะท้าน กับกระบอกปืนที่จ่ออยู่หน้าอกของตัวเอง
“มึงคิดจะทำบ้าอะไร...มึง มึง”
เอริคที่กำลังจะพูดว่าเฟยกลับไปนั้น อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนว่าภาพตรงหน้า มันพร่ามัวจนมองไม่ชัดขึ้นมา ร่างกายของเขาก็อ่อนแรงจนแทบทรงตัวไม่ได้ขึ้นมาดื้อ ๆ เอริคยืนพิงผนังลิฟท์ ก่อนจะเงยหน้ามองเฟยด้วยความโกรธจัด เมื่อรับรู้ว่าตอนนี้ตัวเองได้หลงกล ไอ้จีนหื่นที่กำลังยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าอีกครั้งซะแล้ว
“...” พอเห็นท่าทางของคนตรงหน้า เฟยก็กระตุกยิ้มร้ายขึ้นมาทันที
“ไอ้เฟย! ไอ้เวร! มึงใส่อะไรลงไปในเหล้า” เอริคยกปืนขึ้นจ่อที่หัวของเฟย แล้วตะคอกถามออกมาสุดเสียง
เมื่อเอริครับรู้ถึงความผิดปกติของร่างกายตัวเอง เขาก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเองเป็นอะไร และใครเป็นคนทำให้เขาต้องอยู่ในสภาพนี้ ไอ้เฟย! ไอ้ชั่ว!! มันจะต้องแอบว่างยาเขาอย่างแน่นอน บ้าเอ๊ย!!
“หึหึ ดูเหมือนยามันจะเริ่มออกฤทธิ์แล้วสินะครับ”
ใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้ม ค่อย ๆ เดินก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวทีละก้าว ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้นอย่างช้า ๆ สายตาจับจ้องคนตรงหน้า เป็นประกายวาววับขึ้นเรื่อย ๆ
“ยา...ยางั้นเหรอ มึงเอาอะไรมาให้กูกิน...” เอริคตะคอกถามด้วยความโมโห เขาไม่น่ารับเหล้าแก้วนั้นมาดื่มเลยจริง ๆ
“ก็...ยา ปลุก อารมณ์ไงครับ แถมเป็นแบบแรงที่สุดด้วยนะครับ” เฟยโน้มใบหน้าเข้าไปพูดกระซิบบอกที่ข้างหูของเอริคเสียงเบา
เอริคที่ได้ยินแบบนั้นก็ขนลุกชันไปทั้งตัว เวลานี้ถ้าบอกว่าในเหล้ามียาพิษอยู่ เขายังไม่รู้สึกกระวนกระวายและกลัวมากขนาดนี้เลย แต่ยาที่เขาดื่มกลับเป็นยาบ้าพันนั้น แล้วคืนนี้เขาจะต้องตกอยู่สภาพไหนกัน เอริคไม่อยากคิดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เลยจริง ๆ ใบหน้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำขึ้นมาเรื่อย ๆ นี่เขาหลงกลไอ้จีนบ้าอีกแล้วเหรอวะ โธ่โว้ย!!
ตอนที่เฟยชงเครื่องดื่มให้เอริค เขาได้แอบใส่ยาปลุกอารมณ์ลงไปด้วย เฟยรู้ดีว่าคืนนี้ยังไงเอริคคงไม่ปล่อย ให้เขามีชีวิตรอดอย่างแน่นอน เขาเลยคิดซ้อนแผนกลับคืนซะเลย
“ไอ้เวร!...กูจะ ฆ่ามึง”
เพียะ!“โอ๊ย!...คุณเอริคตีผมทำไมครับ” เฟยร้องขึ้นทันที เมื่อถูกฝ่ามือของเอริคฟาดลงที่กลางหลังเต็มแรง“ไอ้เฟย! ไอ้เร็ว! มันเป็นแผนของมึงใช่ไหม ที่ให้กูมาหาที่นี่นะ” เอริคด่าเฟยสุดเสียงอย่างฉุนเฉียวตอนนี้เอริคเริ่มจับต้นชนปลายเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว เมื่อพอมารอคิดดูดี ๆ แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันก็ดูแปลกมากจริง ๆ เพราะตอนแรกเขาให้ลูกน้องตามหาตัวเฟยตั้งนาน กลับไม่มีวี่แววเลยสักนิด แต่อยู่ ๆ ครั้งนี้กลับมีชื่อของเฟยโผล่ขึ้นมาบนเรือลำนี้ซะดื้อ ๆอีกอย่างดูเหมือนเฟยจะมีการเตรียมพร้อม คอยรับมือเขาทุกอย่าง ตอนเจอกันที่บาร์ เฟยก็ไม่มีท่าทีตกใจที่ได้เจอเขาเลยสักนิด แปลว่าไอ้จีนหื่นนี่ มันจะต้องเป็นคนวางแผนล่อเขามาที่นี่แน่ ๆโอ๊ย! นี่เขาหลงกลไอ้จีนบ้ากาม ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเรือเลยสินะเนี่ย!! พอเอริคคิดย้อนกลับไปแล้ว ก็อยากด่าตัวเองจริง ๆ ทำไมเขาถึงไม่เอะใจเรื่องนี้เลยนะ“ที่ผมทำไป ก็เพราะผมคิดถึงคุณมากไงครับ” เฟยขยับตัวกอดเอริคไว้แน่น พร้อมเอ่ยยอมรับกับข้อกล่าวหาทุกอย่างของอีกฝ่าย“หึหึ คิดถึง
“แล้วน้องบาร์เทนเดอร์คนนั้นไม่มาด้วยเหรอวะ”ไซออนพูดถามออกมาอย่างสงสัย พร้อมหันซ้ายหันขวามองหาไปรอบ ๆ เอาน้องเขาไปนอนกกข้ามวันข้ามคืนขนาดนั้น ก็น่าจะพามาแนะนำให้เพื่อนรู้จักบ้างสิ ไม่ใช่หวงเก็บไว้ดูคนเดียว“หรือว่า ยังลุกจากเตียงไม่ขึ้นวะ” มังกรพูดเสริมขึ้นเพราะคิดว่าบาร์เทนเดอร์หนุ่มจะต้องอาการหนักกว่าเพื่อนของตัวเองแน่ ๆ ขนาดเอริคยังสภาพย่ำแย่แบบนี้เลยนี่นา แล้วน้องเขาจะสภาพย่ำแย่แค่ไหน จริงไหม“กูว่าเป็นไปได้วะ ขนาดตัวพ่อยังเสียศูนย์ขนาดนี้เลย” ไซออนหันหน้าไปพูดออกความเห็นกับมังกรอย่างเป็นตุเป็นตะ“พวกมึงนี่นะ...มันก็มาพร้อมกูนี่ละ แต่แวะไปซื้อเครื่องดื่มอยู่”เอริคส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอากับความคิดของพวกเพื่อน ๆ ก่อนจะเอ่ยพูดบอกออกไปอย่างเหนื่อยใจแต่พวกมันจะคิดกันแบบนั้นก็ไม่แปลก เพราะเอริคถูกเฟยกักตัวต้มยำทำแกงอยู่ในห้องนานตั้งสองวันเลยนี่นา เขาไม่อยากคิดเลยว่า ถ้าตัวเองไม่ยอมทำตามข้อเสนอนั้นเวลานี้เขาจะได้ลงจากเตียงหรือยัง“อ๋อออ” ทั้งสองยกยิ้มขึ้น ก่อน
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เฟยก็ยอมปล่อยเอริคลงเตียง พร้อมจัดการอุ้มพาเข้าไปอาบน้ำ แถมบริการช่วยอาบให้อีกหนึ่งเซต ถึงเจ้าตัวจะร้องปฏิเสธลั่นห้องน้ำยังไง บาร์เทนเดอร์หนุ่มผู้ใจดีก็ไม่สนใจพออาบเสร็จเฟยก็โทรสั่งอาหารมากินกันในห้อง เพราะสภาพของเอริคตอนนี้ย่ำแย่มาก ถึงเมื่อครู่จะได้นอนแช่น้ำอุ่นมาแล้ว แต่ร่างกายที่เจอศึกหนักติดต่อกันมาเป็นเวลานาน มันเลยปวดระบมไปหมดทั้งตัว แถมเนื้อตัวของเขายังมีแต่รอยแดง ที่ถูกดูดถูกกัดเต็มตัวไปหมด โดยเฉพาะรูรักของเขาที่ถูกเฟยกระแทกเข้าออกไม่หยุด มันเจ็บจี๊ดทุกครั้งที่เขาขยับตัวเลยเอริครู้สึกว่าครั้งนี้อาการดีกว่าครั้งแรกอยู่มาก เพราะครั้งก่อนตอนก้าวลงจากเตียงก้าวแรก เขาเจ็บมากจนตัวทรุดลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียวแต่ที่หน้าเจ็บปวดที่สุด คือไอ้ตัวต้นเหตุมันไม่มีทีท่าจะสำนึกผิดเลยสักนิด เพราะในหัวมีแต่ความคิดจะจับเขากินอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับตอนนี้...จ๊วบ! จ๊วบ! จ๊วบ!เสียงลิ้นร้อนตวัดดูดกัดอยู่ที่หน้าอกหนา ข้างหนึ่งถูกดูดจนเปียกชุ่มเต็มไปด้วยน้ำลาย ส่วนอีกข้างก็ถูกนิ้วเรียวส
เฟยรู้ดีว่าในใจของเอริคกำลังคิดมากเรื่องอะไรอยู่ จากผู้ล่ากลายเป็นเหยื่อชั่วข้ามคืน เป็นเขาก็คงจะทำใจยอมรับไม่ได้เช่นกัน แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว เวลานี้ก็มีแต่ต้องยอมปรับเปลี่ยน เดินหน้าต่อเท่านั้นไม่ใช่หรือไง“งั้น คุณเอริคลองฟังข้อเสนอของผมก่อนไหมครับ” เฟยคิดอะไรบางอย่างได้ เลยพูดออกไป“ข้อเสนอ?” เอริคพูดทวน แล้วมองหน้าเฟยกลับสงสัย‘ข้อเสนอ’ อย่างงั้นเหรอ ไอ้จีนบ้านี่มันคิดจะทำอะไรแผลง ๆ อีกนะ“ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด เพื่อน ๆ กับพวกลูกน้องของคุณ คงคิดว่าผมถูกคุณจับกิน แล้วคุณเกิดถูกใจในตัวผมมาก เลยมาหาผมที่เรือลำนี้อีกครั้งใช่ไหมครับ”เฟยพูดเรียงลำดับเหตุการณ์ขึ้นตามที่ตัวเองคิดให้เอริคฟัง ถ้าเขาคิดไม่ผิดเรื่องที่เกิดขึ้น อีกฝ่ายคงยังปิดเป็นความลับไว้อยู่อย่างแน่นอน“แล้วไง?” เอริคถามกลับอย่างไม่เข้าใจ“งั้นผมจะยอมเป็นคู่นอนฝ่ายรับในนามของคุณ ตามที่ทุกคนคิดให้ก็ได้นะครับ เพื่อแลกกับชีวิตน้อย ๆ ของผม” เฟยพูดข้อเสนอให้เอริคฟังต่อหน้าคนอื่นเขายอมถูกมองว่าเปลี่ยนมาเป็นรับเองก็ได้ เพราะสำหรับเฟยแล้ว เขาไม่เคยสนใจเรื่องภาพลัก
“ไม่ต้องท้า กูทำแน่” เอริคพูดตอบเสียงแข็งสายตาดุดันจ้องมองคนตรงหน้าไม่กะพริบ คิดว่าเขาไม่กล้าฆ่าจริง ๆ หรือไง หึหึ รู้จักเอริคคนนี้น้อยไปซะแล้วเอริคเหนี่ยวไกปืนตามคำท้าของเฟยอย่างไม่ลังเล แต่...แกร็ก! แกร็ก! แกร็ก!!เสียงของปืนถูกเหนี่ยวไกซ้ำ ๆ ติดกันหลายครั้ง แต่คนถูกยิงกับยังคงนอนยิ้มระรื่นอยู่เหมือนเดิม“หรือว่ามึง...” เอริคเห็นปืนในมือยิงไม่ออก ก็พึมพำออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อรู้ว่าตัวเองช้ากว่าเฟยไปก้าวหนึ่งอีกแล้ว เพราะเขาไม่คิดว่าเฟยจะแอบเอาลูกปืนออกไปจนหมดแบบนี้ บ้าเอ๊ย!!“หึหึ...คุณคิดจริง ๆ เหรอ ว่าผมจะทิ้งปืนที่มีลูกไว้ใกล้มือคุณแบบนั้น” เสียงหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ เมื่อได้เห็นสีหน้าท่าทางของเอริคที่ทำตัวเองไม่ถูกเฟยรู้ดีว่าถ้าเอริคฤทธิ์ยาหมดจะต้องฆ่าตัวเองแน่ ๆ ดังนั้นพอจบศึกรอบสุดท้าย ก่อนที่ตัวเองจะนอน เลยแอบเอาลูกกระสุนไปทิ้งก่อน แล้วค่อยกลับขึ้นมานอนกับเอริคอีกครั้ง“มึง..!” เอริคโกรธจัดเมื่อเห็นว่าปืนไม่มีลูกกระสุน เขาเลยคิดจะเปลี่ยนใช้ปืนกระบอกมาตีหัวของเฟยแทน...แต่มือของเอริคก็ต้องหยุดอยู่กลางอากาศ เพราะถูกเฟยรู้ทันซะก่อน เลยรีบคว้ามือข้างที่จะตีเอาไว้ได้... เ
แสงแดดยามเช้าเริ่มสอดส่องเข้ามาในห้อง ทำให้เห็นร่างเปลือยเปล่าทั้งสอง ที่นอนขยับบดเบียดกันอยู่บนเตียงชัดขึ้น สะโพกหนาก็ยังคงขยับโยกขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็เร่งจังหวะ บางครั้งก็ขยับช้าเนิน สลับสับเปลี่ยนกันไปริมฝีปากบางขบกัดริมฝีปากหนาอย่างหื่นกระหาย แสดงถึงความปรารถนาที่ไม่อาจห้ามใจได้ ขณะเดียวกันลิ้นร้ายก็ตวัดลากไปมา อย่างเร่าร้อนอยู่ในโพลงปากไม่หยุด เอริคที่ถูกเฟยปรนเปรอให้ยันเช้าอีกครั้ง ก็ได้แต่ส่งเสียงควรญครางอยู่ในลำคออย่างห้ามไม่ได้ เพราะถึงตอนนี้ฤทธิ์ในร่างกาย จะจางหายไปหมดแล้วก็ตาม...แต่เมื่อเฟยไม่ยอมหยุดการกระทำ บวกกับร่างกายของเขาที่อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรง เอริคก็มิอาจต่อต้านอีกฝ่ายได้เลย...“อื้ออ...อื้อออ”เอริคยกมือทุบอกขาว เพื่อให้คนด้านบนถอนริมฝีปากออก เมื่อเริ่มรู้สึกหายใจไม่ทัน ถึงเขาจะถูกเฟยกดจูบหลายครั้ง จนริมฝีปากเริ่มรู้สึกเจ็บแสบ แต่เอริคก็ไม่เคยชินกับรสจูบของเฟยเลยสักที“ชอบใช่ไหมครับ” เฟยเงยหน้าขึ้นถามด้วยสายตาหวานเยิ้ม ถึงครั้งนี้ที่เอริคยอมนอนกับเขาก็เพราะจำใจ แต่เขาก็ยังอยากถามว่าอีกฝ่ายจะพูดตอบกลับมายังไง“ไม่” เอริคปฏิเสธกลับเสียงแข็งอย่างไม่ยอมรับ