แสงแดดยามเช้าเริ่มสอดส่องเข้ามาในห้อง ทำให้เห็นร่างเปลือยเปล่าทั้งสอง ที่นอนขยับบดเบียดกันอยู่บนเตียงชัดขึ้น สะโพกหนาก็ยังคงขยับโยกขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็เร่งจังหวะ บางครั้งก็ขยับช้าเนิน สลับสับเปลี่ยนกันไป
ริมฝีปากบางขบกัดริมฝีปากหนาอย่างหื่นกระหาย แสดงถึงความปรารถนาที่ไม่อาจห้ามใจได้ ขณะเดียวกันลิ้นร้ายก็ตวัดลากไปมา อย่างเร่าร้อนอยู่ในโพลงปากไม่หยุด เอริคที่ถูกเฟยปรนเปรอให้ยันเช้าอีกครั้ง ก็ได้แต่ส่งเสียงควรญครางอยู่ในลำคออย่างห้ามไม่ได้ เพราะถึงตอนนี้ฤทธิ์ในร่างกาย จะจางหายไปหมดแล้วก็ตาม
...แต่เมื่อเฟยไม่ยอมหยุดการกระทำ บวกกับร่างกายของเขาที่อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรง เอริคก็มิอาจต่อต้านอีกฝ่ายได้เลย...
“อื้ออ...อื้อออ”
เอริคยกมือทุบอกขาว เพื่อให้คนด้านบนถอนริมฝีปากออก เมื่อเริ่มรู้สึกหายใจไม่ทัน ถึงเขาจะถูกเฟยกดจูบหลายครั้ง จนริมฝีปากเริ่มรู้สึกเจ็บแสบ แต่เอริคก็ไม่เคยชินกับรสจูบของเฟยเลยสักที
“ชอบใช่ไหมครับ” เฟยเงยหน้าขึ้นถามด้วยสายตาหวานเยิ้ม ถึงครั้งนี้ที่เอริคยอมนอนกับเขาก็เพราะจำใจ แต่เขาก็ยังอยากถามว่าอีกฝ่ายจะพูดตอบกลับมายังไง
“ไม่” เอริคปฏิเสธกลับเสียงแข็งอย่างไม่ยอมรับ ถึงแม้ว่าตอนนี้ด้านหลังของเขา จะถูกแท่งเนื้อของอีกฝ่ายสอดคาอยู่ก็ตาม
“หึหึ ปากแข็งจังเลยนะครับ” เฟยหัวเราะดังออกมาจากลำคอ เมื่อได้ยินคำตอบของเอริค ไม่ชอบอย่างงั้นเหรอ แล้วใครกันนะที่ตอดรัดแท่งเนื้อของเขาไว้แน่น จนแทบหายใจไม่ออกอยู่ตอนนี้
“กู ไม่ ได้...อ่าา อ่าาส์...อย่า ทำร..อย อื้ออ”
เอริคที่กำลังจะเถียงเฟยกลับ แต่พออ้าปากพูดได้ยังไม่ทันจบ เขาก็ต้องเปลี่ยนมาร้องครางแทน เมื่ออยู่ ๆ คนด้านบนก็ก้มลงกัดที่คอของเขาจนเป็นรอยฟัน พร้อมกระทุ้งแท่งเนื้อเข้าใส่อย่างเต็มแรง จนร่างกายของเอริคสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่านไปทั้งตัว
“รู้ไหมว่าคนโกหกจะต้องโดนอะไร” เฟยพูดกระซิบข้างหูเอริคด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
ก่อนจะเริ่มกดสะโพกโยกเข้าออกแรง ๆ อย่างไม่ปรานี คล้ายเป็นการลงโทษคนพูดโกหก ทำให้เสียงเนื้อกระทบกัน กับเสียงร้องครางของเอริคดังขึ้นอีกครั้ง ตับ! ตับ! ตับ!!!
“อ๊าาส์ อ่าาส์”
เอริคที่ถูกกระแทกแท่งร้อนเข้าออกอย่างบ้าคลั่ง ก็เริ่มดิ้นพล่านไม่หยุด ความรู้สึกร้อนผ่าวที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างเมื่อครู่ มันก็กลับคืนสู่ร่างกายของเขาเหมือนเดิม
เอริคโยกขยับขึ้นลงตามแรงกระแทกของเฟย ร่างกายสั่นระริกเมื่อรู้สึกเสียวซ่านมากขึ้นทุกครั้ง ที่สะโพกหนาโยกขยับเข้ามาจนลึก จนทำให้สติของเขาแทบปลิวหายไปในอากาศ
...นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เอริคไม่อยากมีอะไรกับเฟยอีก เพราะเฟยมันเป็นพวกกินไม่รู้จักอิ่ม ทั้งที่พวกเขาทำกันมาตั้งแต่เมื่อคืน จนตอนนี้เช้าอีกวัน เฟยก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุดเลยสักนิด แล้วแบบนี้ใครมันจะอยากนอนด้วยอีก...
“อ่าาส์...” เฟยร้องครางดังกระหื่ม หลังจากที่กดกระแทกแท่งเนื้อเข้าไปจนลึกเป็นครั้งสุดท้าย แล้วฉีดพ่นน้ำลาวาอุ่นร้อนเข้าไปในตัวของเอริคอย่างสุขใจ
พอปลดปล่อยน้ำหวานสีขุ่นจนหมดทุกหยด เฟยก็ค่อย ๆ ทิ้งตัวนอนทับเอริคลงไป แต่ก็ยังคงไม่ยอมเอาแท่งเนื้อ ของตัวเองออกจากช่องทางด้านหลัง เพราะกลัวว่าถ้าเอาออกแล้ว มันจะไม่ได้เอาเข้ามาอีก
เฟยนอนฟังเสียงหายใจฟืนฟาดของคนด้านล่างอยู่พักใหญ่ เมื่อรับรู้ถึงการหายใจที่เริ่มช้าลง เขาก็ขยับตัวลุกขึ้นเล็กน้อย เพื่อมองดูใบหน้าแดงร้อนของเอริคแบบชัด ๆ แล้วยกยิ้มขึ้นอย่างถูกใจกับภาพตรงหน้า
“รู้ไหมที่ผมบอกว่าคิดถึงคุณ ผมคิดถึงคุณจริง ๆ นะครับ”
เฟยยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าของเอริคไปมาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยพูดความในใจของตัวเองออกมาเสียงแหบ สายตาก็จ้องมองที่ใบหน้าของเอริคไปด้วย
“หึหึ เห็นกูเป็นสจ๊วตหัวอ่อนของมึงหรือไง”
เอริคพูดว่ากลับไปอย่างหงุดหงิด แวบแรกเขาก็รู้สึกใจสั่นขึ้นมานิดน้อย แต่อยู่ ๆ ภาพตอนที่เฟยพูดหยอกล้อกับสจ๊วตก็ไหลเข้ามาในหัว คิดว่าเขาจะหัวอ่อนเชื่อคำพูดหวานหูพวกนี้ง่าย ๆ หรือไง
“งั้นเดี๋ยวผมจะพิสูจน์ให้คุณดู ว่าผมคิดถึงคุณมากขนาดไหน” เฟยกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้น ก่อนจะจับขาทั้งสองข้างของเอริค พาดขึ้นวางบนบ่าของตัวเอง แล้วเริ่มขยับสะโพกกระแทกแท่งเนื้อเข้าออก เพื่อบรรเลงเพลงรักครั้งใหม่ต่อไม่พัก
“เด..เดี๋ยว อ๊ะ ลึก เกิน ไปแล้ว ไอ้เฟย! อื้ออ อ่าาส์”
เอริคกรีดร้องขึ้นทันที ที่เฟยกดสะโพกกระแทกเข้ามาจนสุด เขารีบยกมือขึ้นดันหน้าท้องของคนด้านบนเอาไว้ เพื่อให้หยุดกระแทกเข้ามา เพราะตอนนี้เขาเริ่มทนรับความทรมานที่เฟยมอบให้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ
แต่เอริคกลับถูกเฟยจับมือทั้งสองข้างยกขึ้นไว้เหนือหัวแทน เลยทำให้เขาไม่สามารถต่อต้านอะไรได้อีกตามเคย เอริคถูกเฟยมอบความคิดถึงให้จนจุกไปทั่วท้อง เขาร้องควรญครางเสียงดังครั้งแล้วครั้งเล่า จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงเสียงร้องของเอริคถึงเงียบลง พร้อมกับร่างที่ไร้สติที่นอนโยกขยับ ไปตามแรงของคนด้านบนไม่หยุด
********************
แสงอาทิตย์อ่อน ๆ ยามเย็นสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องนอนหรู แสงสีทองอุ่น ๆ ทาบลงบนผนังที่เริ่มมืด ทำให้ยังคงมองเห็นคนนอนอยู่บนเตียงได้อย่างชัดเจน เอริคกับเฟยที่บรรเลงเพลงรักกันจนเหน็ดเหนื่อย ทั้งสองหลับใหลอยู่ใต้ผ้าห่มสีขาวอย่างไร้สติ ทำให้ทั่วทั้งห้องปกคลุมไปด้วยความเงียบ
ดวงตาคมคู่คมค่อยกะพริบขึ้นลงช้า ๆ อย่างสะลึมสะลือ เอริครู้สึกร่างทั้งร่างร้าวระบม ปวดเมื่อยไปทั่วทั้งตัว แต่อาการก็ยังแย่ไม่เท่าครั้งแรก ที่ถูกเฟยจับกิน เอริคพยายามตั้งสติมองซ้ายมองขวาดูรอบ ๆ ห้อง เพื่อมองหาคนที่ทำให้เขาอยู่ในสภาพนี้ เขากลัวเฟยจะหนีไปเหมือนครั้งก่อนอีก...แต่ดูเหมือนครั้งนี้เอริคจะไม่ผิดหวัง เพราะคนหื่นยังคงนอนนิ่งอยู่ข้าง ๆ เขาเหมือนเดิม แถมแขนข้างหนึ่งยังกอดรัดเอวของเขาไว้ ราวกับว่ากลัวเขาจะหนีหายไปไหนซะอย่างงั้น
รอยยิ้มเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเอริคทันที เมื่อเห็นว่าคนข้าง ๆ ยังคงหลับไม่ได้สติ ไอ้เฟย! คราวนี้มึงได้ตายสมใจแน่!!
เอริคกัดฟันกรอดเพื่อข่มความเจ็บปวดของร่างกาย แล้วค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียง เพื่อไปหยิบปืนของตัวเองที่ตกอยู่บนพื้นห้องจากนั้นก็กลับขึ้นมาบนเตียงอีกครั้ง เฟยที่อยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรเย็น ๆ มาแตะอยู่ที่หน้าผากของตัวเอง เขาเลยลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ อย่างงัวเงีย
...แต่พอเห็นภาพตรงหน้าเฟยก็ต้องตื่นเต็มตา เมื่อที่หน้าผากของตัวเองตอนนี้มีปืนจ่ออยู่ พร้อมกับสายตาเคียดแค้นจ้องมองมาทางตัวเอง...
“หึหึ แบบนี้เขาเรียกว่า เสร็จศึกฆ่าขุนพลหรือเปล่าครับเนี่ย”
เฟยปั่นหน้ายิ้มแล้วค่อย ๆ ยกมือทั้งสองข้างของตัวเองขึ้นเหนือหัว ก่อนจะเอ่ยพูดเย้าหยอกคนตรงหน้าเล่นอย่างกวน ๆ
“กูก็บอกมึงแล้วไงว่า ถ้ายาหมดฤทธิ์เมื่อไหร่ ตอนนั้นคือวันตายของมึง” เอริคขยับขึ้นนั่งคร่อมตัวของเฟย แล้วจ่อปืนที่กลางหน้าผากของเฟยเพื่อเตรียมยิง
ตอนนี้ร่างกายของเขากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นที่ต้องไว้ชีวิตไอ้จีนหื่นนี่อีก วันนี้เขาจะจัดการทบต้นทบดอก กับสิ่งที่มันทำไว้ให้หมดเลย
“คุณจะฆ่าผมลงจริง ๆ เหรอครับคุณเอริค” เฟยส่งสายตาอ้อนวอนให้เอริค พร้อมเอ่ยพูดเสียงอ่อนออกมา เมื่อเห็นว่าเอริคกำลังทำท่าจะเหนี่ยวไกปืนจริง ๆ
“แล้วทำไมกูจะฆ่ามึงไม่ลง” เอริคยกยิ้มร้ายขึ้น ทำไมเขาจะต้องไว้ชีวิตไอ้คนที่มันข่มขืนตัวเองด้วย
“ถ้าผมตาย แล้วใครจะพาคุณไปขึ้นสวรรค์อีกละครับ” เฟยพูดหยอกต่อ อย่างไม่เกรงกลัวสายตาดุของคนตรงหน้าที่มองมา
เฟยไล่สายตามองเรือนร่างเปลือยเปล่า ของเอริคที่นั่งทับตัวเองอยู่ ผิวขาวเนียนมีแต่รอยแดงช้ำจากปากของเขา พอได้เห็นชัด ๆ แบบนี้ เฟยก็เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ร่างกายเหมือนมีความร้อนพวยพุ่งไปทั่วทั้งตัวอีกครั้ง
“หึ สวรรค์ หรือ นรก กันแน่” เอริคพูดว่ากลับอย่างไม่ยอมรับ สวรรค์อย่างงั้นเหรอ เขาว่ามันคือนรกชัด ๆ ช่างกล้าพูด
“แต่มันก็เป็นนรกที่ทำให้คุณร้องครางได้ยันเช้าไม่ใช่เหรอครับ” เฟยยิ้มยั่ว ก่อนจะพูดหยอกอีกฝ่ายกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน
แล้วค่อย ๆ ใช้มือทั้งสองข้าง มาลูบไล้ที่ก้มแน่นของเอริคไปมา โดยไม่สนสีหน้าดุกับปืนที่จ่อหน้าผากอยู่ หึหึ บอกว่าเป็นนรก แต่ก็เห็นร้องครางขอให้เขาทำแรง ๆ ทั้งคืนเลยไม่ใช่หรือไง คนอะไรปากแข็งจริง ๆ
“ไอ้เฟย!!” เอริคตะโกนเรียกชื่อคนนอนอยู่ออกมาเสียงดัง เมื่อถูกพูดจี้ใจดำ
เอริคใช้มืออีกข้างปัดมือของเฟยออกให้ห่างตัว ใบหน้าหล่อแดงก่ำขึ้นจนเห็นเส้นเลือดปูดนูน เวลานี้เขาทั้งรู้สึกโกรธทั้งรู้สึกอาย ยิ่งเห็นใบหน้ายิ้มเยอะหยันของเฟย เอริคก็ยิ่งโกรธจัดมากขึ้นกว่าเดิม
“หรือว่าไม่จริงครับ” เฟยถามกลับด้วยสีหน้าท้าทาย
“มันเป็นเพราะฤทธิ์ยาบ้าที่มึงเอาให้กูกินต่างหาก” เอริคพูดปัดไปอย่างไม่ยอมรับ ที่เขามีสภาพเป็นแบบนั้น ก็เพราะยาบ้านั่นต่างหาก เขาไม่ได้ชอบสักหน่อย
“ครับบบ...งั้นคุณเอริคก็ฆ่าผมเลยสิครับ” เฟยตอบเสียงยาวอย่างล้อเลียน ก่อนจะทำท่ายอมแพ้อีกฝ่าย เขาขี้เกียจพูดกับคนปากไม่ตรงกับใจแล้ว
“ไม่ต้องท้า กูทำแน่”
เพียะ!“โอ๊ย!...คุณเอริคตีผมทำไมครับ” เฟยร้องขึ้นทันที เมื่อถูกฝ่ามือของเอริคฟาดลงที่กลางหลังเต็มแรง“ไอ้เฟย! ไอ้เร็ว! มันเป็นแผนของมึงใช่ไหม ที่ให้กูมาหาที่นี่นะ” เอริคด่าเฟยสุดเสียงอย่างฉุนเฉียวตอนนี้เอริคเริ่มจับต้นชนปลายเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว เมื่อพอมารอคิดดูดี ๆ แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันก็ดูแปลกมากจริง ๆ เพราะตอนแรกเขาให้ลูกน้องตามหาตัวเฟยตั้งนาน กลับไม่มีวี่แววเลยสักนิด แต่อยู่ ๆ ครั้งนี้กลับมีชื่อของเฟยโผล่ขึ้นมาบนเรือลำนี้ซะดื้อ ๆอีกอย่างดูเหมือนเฟยจะมีการเตรียมพร้อม คอยรับมือเขาทุกอย่าง ตอนเจอกันที่บาร์ เฟยก็ไม่มีท่าทีตกใจที่ได้เจอเขาเลยสักนิด แปลว่าไอ้จีนหื่นนี่ มันจะต้องเป็นคนวางแผนล่อเขามาที่นี่แน่ ๆโอ๊ย! นี่เขาหลงกลไอ้จีนบ้ากาม ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเรือเลยสินะเนี่ย!! พอเอริคคิดย้อนกลับไปแล้ว ก็อยากด่าตัวเองจริง ๆ ทำไมเขาถึงไม่เอะใจเรื่องนี้เลยนะ“ที่ผมทำไป ก็เพราะผมคิดถึงคุณมากไงครับ” เฟยขยับตัวกอดเอริคไว้แน่น พร้อมเอ่ยยอมรับกับข้อกล่าวหาทุกอย่างของอีกฝ่าย“หึหึ คิดถึง
“แล้วน้องบาร์เทนเดอร์คนนั้นไม่มาด้วยเหรอวะ”ไซออนพูดถามออกมาอย่างสงสัย พร้อมหันซ้ายหันขวามองหาไปรอบ ๆ เอาน้องเขาไปนอนกกข้ามวันข้ามคืนขนาดนั้น ก็น่าจะพามาแนะนำให้เพื่อนรู้จักบ้างสิ ไม่ใช่หวงเก็บไว้ดูคนเดียว“หรือว่า ยังลุกจากเตียงไม่ขึ้นวะ” มังกรพูดเสริมขึ้นเพราะคิดว่าบาร์เทนเดอร์หนุ่มจะต้องอาการหนักกว่าเพื่อนของตัวเองแน่ ๆ ขนาดเอริคยังสภาพย่ำแย่แบบนี้เลยนี่นา แล้วน้องเขาจะสภาพย่ำแย่แค่ไหน จริงไหม“กูว่าเป็นไปได้วะ ขนาดตัวพ่อยังเสียศูนย์ขนาดนี้เลย” ไซออนหันหน้าไปพูดออกความเห็นกับมังกรอย่างเป็นตุเป็นตะ“พวกมึงนี่นะ...มันก็มาพร้อมกูนี่ละ แต่แวะไปซื้อเครื่องดื่มอยู่”เอริคส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอากับความคิดของพวกเพื่อน ๆ ก่อนจะเอ่ยพูดบอกออกไปอย่างเหนื่อยใจแต่พวกมันจะคิดกันแบบนั้นก็ไม่แปลก เพราะเอริคถูกเฟยกักตัวต้มยำทำแกงอยู่ในห้องนานตั้งสองวันเลยนี่นา เขาไม่อยากคิดเลยว่า ถ้าตัวเองไม่ยอมทำตามข้อเสนอนั้นเวลานี้เขาจะได้ลงจากเตียงหรือยัง“อ๋อออ” ทั้งสองยกยิ้มขึ้น ก่อน
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เฟยก็ยอมปล่อยเอริคลงเตียง พร้อมจัดการอุ้มพาเข้าไปอาบน้ำ แถมบริการช่วยอาบให้อีกหนึ่งเซต ถึงเจ้าตัวจะร้องปฏิเสธลั่นห้องน้ำยังไง บาร์เทนเดอร์หนุ่มผู้ใจดีก็ไม่สนใจพออาบเสร็จเฟยก็โทรสั่งอาหารมากินกันในห้อง เพราะสภาพของเอริคตอนนี้ย่ำแย่มาก ถึงเมื่อครู่จะได้นอนแช่น้ำอุ่นมาแล้ว แต่ร่างกายที่เจอศึกหนักติดต่อกันมาเป็นเวลานาน มันเลยปวดระบมไปหมดทั้งตัว แถมเนื้อตัวของเขายังมีแต่รอยแดง ที่ถูกดูดถูกกัดเต็มตัวไปหมด โดยเฉพาะรูรักของเขาที่ถูกเฟยกระแทกเข้าออกไม่หยุด มันเจ็บจี๊ดทุกครั้งที่เขาขยับตัวเลยเอริครู้สึกว่าครั้งนี้อาการดีกว่าครั้งแรกอยู่มาก เพราะครั้งก่อนตอนก้าวลงจากเตียงก้าวแรก เขาเจ็บมากจนตัวทรุดลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียวแต่ที่หน้าเจ็บปวดที่สุด คือไอ้ตัวต้นเหตุมันไม่มีทีท่าจะสำนึกผิดเลยสักนิด เพราะในหัวมีแต่ความคิดจะจับเขากินอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับตอนนี้...จ๊วบ! จ๊วบ! จ๊วบ!เสียงลิ้นร้อนตวัดดูดกัดอยู่ที่หน้าอกหนา ข้างหนึ่งถูกดูดจนเปียกชุ่มเต็มไปด้วยน้ำลาย ส่วนอีกข้างก็ถูกนิ้วเรียวส
เฟยรู้ดีว่าในใจของเอริคกำลังคิดมากเรื่องอะไรอยู่ จากผู้ล่ากลายเป็นเหยื่อชั่วข้ามคืน เป็นเขาก็คงจะทำใจยอมรับไม่ได้เช่นกัน แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว เวลานี้ก็มีแต่ต้องยอมปรับเปลี่ยน เดินหน้าต่อเท่านั้นไม่ใช่หรือไง“งั้น คุณเอริคลองฟังข้อเสนอของผมก่อนไหมครับ” เฟยคิดอะไรบางอย่างได้ เลยพูดออกไป“ข้อเสนอ?” เอริคพูดทวน แล้วมองหน้าเฟยกลับสงสัย‘ข้อเสนอ’ อย่างงั้นเหรอ ไอ้จีนบ้านี่มันคิดจะทำอะไรแผลง ๆ อีกนะ“ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด เพื่อน ๆ กับพวกลูกน้องของคุณ คงคิดว่าผมถูกคุณจับกิน แล้วคุณเกิดถูกใจในตัวผมมาก เลยมาหาผมที่เรือลำนี้อีกครั้งใช่ไหมครับ”เฟยพูดเรียงลำดับเหตุการณ์ขึ้นตามที่ตัวเองคิดให้เอริคฟัง ถ้าเขาคิดไม่ผิดเรื่องที่เกิดขึ้น อีกฝ่ายคงยังปิดเป็นความลับไว้อยู่อย่างแน่นอน“แล้วไง?” เอริคถามกลับอย่างไม่เข้าใจ“งั้นผมจะยอมเป็นคู่นอนฝ่ายรับในนามของคุณ ตามที่ทุกคนคิดให้ก็ได้นะครับ เพื่อแลกกับชีวิตน้อย ๆ ของผม” เฟยพูดข้อเสนอให้เอริคฟังต่อหน้าคนอื่นเขายอมถูกมองว่าเปลี่ยนมาเป็นรับเองก็ได้ เพราะสำหรับเฟยแล้ว เขาไม่เคยสนใจเรื่องภาพลัก
“ไม่ต้องท้า กูทำแน่” เอริคพูดตอบเสียงแข็งสายตาดุดันจ้องมองคนตรงหน้าไม่กะพริบ คิดว่าเขาไม่กล้าฆ่าจริง ๆ หรือไง หึหึ รู้จักเอริคคนนี้น้อยไปซะแล้วเอริคเหนี่ยวไกปืนตามคำท้าของเฟยอย่างไม่ลังเล แต่...แกร็ก! แกร็ก! แกร็ก!!เสียงของปืนถูกเหนี่ยวไกซ้ำ ๆ ติดกันหลายครั้ง แต่คนถูกยิงกับยังคงนอนยิ้มระรื่นอยู่เหมือนเดิม“หรือว่ามึง...” เอริคเห็นปืนในมือยิงไม่ออก ก็พึมพำออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อรู้ว่าตัวเองช้ากว่าเฟยไปก้าวหนึ่งอีกแล้ว เพราะเขาไม่คิดว่าเฟยจะแอบเอาลูกปืนออกไปจนหมดแบบนี้ บ้าเอ๊ย!!“หึหึ...คุณคิดจริง ๆ เหรอ ว่าผมจะทิ้งปืนที่มีลูกไว้ใกล้มือคุณแบบนั้น” เสียงหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ เมื่อได้เห็นสีหน้าท่าทางของเอริคที่ทำตัวเองไม่ถูกเฟยรู้ดีว่าถ้าเอริคฤทธิ์ยาหมดจะต้องฆ่าตัวเองแน่ ๆ ดังนั้นพอจบศึกรอบสุดท้าย ก่อนที่ตัวเองจะนอน เลยแอบเอาลูกกระสุนไปทิ้งก่อน แล้วค่อยกลับขึ้นมานอนกับเอริคอีกครั้ง“มึง..!” เอริคโกรธจัดเมื่อเห็นว่าปืนไม่มีลูกกระสุน เขาเลยคิดจะเปลี่ยนใช้ปืนกระบอกมาตีหัวของเฟยแทน...แต่มือของเอริคก็ต้องหยุดอยู่กลางอากาศ เพราะถูกเฟยรู้ทันซะก่อน เลยรีบคว้ามือข้างที่จะตีเอาไว้ได้... เ
แสงแดดยามเช้าเริ่มสอดส่องเข้ามาในห้อง ทำให้เห็นร่างเปลือยเปล่าทั้งสอง ที่นอนขยับบดเบียดกันอยู่บนเตียงชัดขึ้น สะโพกหนาก็ยังคงขยับโยกขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็เร่งจังหวะ บางครั้งก็ขยับช้าเนิน สลับสับเปลี่ยนกันไปริมฝีปากบางขบกัดริมฝีปากหนาอย่างหื่นกระหาย แสดงถึงความปรารถนาที่ไม่อาจห้ามใจได้ ขณะเดียวกันลิ้นร้ายก็ตวัดลากไปมา อย่างเร่าร้อนอยู่ในโพลงปากไม่หยุด เอริคที่ถูกเฟยปรนเปรอให้ยันเช้าอีกครั้ง ก็ได้แต่ส่งเสียงควรญครางอยู่ในลำคออย่างห้ามไม่ได้ เพราะถึงตอนนี้ฤทธิ์ในร่างกาย จะจางหายไปหมดแล้วก็ตาม...แต่เมื่อเฟยไม่ยอมหยุดการกระทำ บวกกับร่างกายของเขาที่อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรง เอริคก็มิอาจต่อต้านอีกฝ่ายได้เลย...“อื้ออ...อื้อออ”เอริคยกมือทุบอกขาว เพื่อให้คนด้านบนถอนริมฝีปากออก เมื่อเริ่มรู้สึกหายใจไม่ทัน ถึงเขาจะถูกเฟยกดจูบหลายครั้ง จนริมฝีปากเริ่มรู้สึกเจ็บแสบ แต่เอริคก็ไม่เคยชินกับรสจูบของเฟยเลยสักที“ชอบใช่ไหมครับ” เฟยเงยหน้าขึ้นถามด้วยสายตาหวานเยิ้ม ถึงครั้งนี้ที่เอริคยอมนอนกับเขาก็เพราะจำใจ แต่เขาก็ยังอยากถามว่าอีกฝ่ายจะพูดตอบกลับมายังไง“ไม่” เอริคปฏิเสธกลับเสียงแข็งอย่างไม่ยอมรับ