Share

บทที่ 11

last update Last Updated: 2025-12-03 18:00:16

เจิ้นกั๋วกงจึงตัดสินใจที่จะยื่นใบสมัครให้บุตรชายในวันสุดท้ายของการรับสมัคร และบอกกล่าวกับทุกคนว่าการที่เจียงอวี้เฉิงฝึกซ้อมร่างกายอย่างหนักหน่วง เพราะเป็นบทลงโทษของเขาที่ดื้อรั้น ไม่ยอมเข้าร่วมคัดเลือกตามคำสั่ง

ส่วนยามบ่ายที่เจียงอวี้เฉิงปิดห้องหนังสือเข้าไปทบทวนตำราและคัมภีร์ต่าง ๆ ก็อ้างว่าเป็นคำสั่งของเจิ้นกั๋วกงอีกเช่นกันที่ต้องการให้ซื่อจื่อคัดคำสอนเป็นการลงโทษ

นั่นจึงทำให้เจียงอวี้เฉิงสามารถฝึกฝนร่างกายและทบทวนความรู้ได้ โดยที่ไม่กระทบต่อภาพรวมของสถานการณ์มากที่สุด เพราะเจียงอวี้เฉิงตระหนักได้ดีถึงทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก การเปลี่ยนแปลงเพียงนิดเดียวก็อาจจะส่งผลกระทบใหญ่ต่อภาพรวมได้!!

ด้วยยามนี้ตระกูลเจียงตกเป้าหมายในการใส่ร้าย คนร้ายในเงามืดย่อมจับตาพวกเขาอยู่เป็นแน่ ดังนั้น เขาจึงต้องประคองสถานการณ์ให้เป็นไปตามประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษให้ได้มากที่สุด

แต่เดิมเจียงอวี้เฉิงดื้อรั้น ไม่ยอมเข้ารับการคัดเลือก ครานี้สิ่งที่เล่าลือออกไปก็ต้องเป็นแบบนั้นด้วยเช่นกัน โดยเขาจะเป็นผู้บอกเจิ้นกั๋วกงและฉินซื่อเองว่าควรจะบอกความจริงกับผู้ใดได้บ้าง และผู้ใดที่ไม่ควรบอก

โชคดีว่าเจิ้นกั๋วกงและฉินซื่อก็เข้าใจสถานการณ์และทำตามคำของบุตรชายได้เป็นอย่างดี

“ในการสอบรอบที่หนึ่งด้านพละกำลังกาย ข้าคิดว่า เฉิงเอ๋อร์คงจะทำได้คะแนนดีไม่ยาก แต่รอบที่สองด้านวรรณกรรมนี่... เฮ้อ... เรื่องนี้ก็พูดยาก อย่างน้อยแค่เห็นเขาตั้งใจ ได้คะแนนเท่าใดก็คือสุดความสามารถของเฉิงเอ๋อร์แล้ว”

“แต่การที่ลูกของเรากระโจนลงในวังวนอำนาจเช่นนี้ ตระกูลเจียงของเราคงต้องเตรียมตัวให้พร้อมแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ? ท่านพี่” ฉินซื่อหันมาถามอย่างหนักใจ เพราะแม้ว่านางจะเป็นเพียงสตรีในเรือนหลัง แต่ก็เกิดจากตระกูลขุนนางที่พอจะเข้าใจในกลอุบายการเมืองมาไม่น้อย

เจิ้นกั๋วกงถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “ใช่ อย่างไรเราก็หนีไม่พ้น มิสู้พุ่งชนเข้าไปตรง ๆ เลยไม่ดีกว่าหรือ?”

“เจ้าค่ะ” ฉินฮูหยินก็ถอนหายใจตามสามี

“น้องหญิงไม่ต้องกังวลใจไป อย่างไร พี่ก็จะเตรียมการรับมือให้ดีที่สุด”

ฉินซื่อพยักหน้ารับเล็กน้อย พลางส่งยิ้มให้กำลังใจ อย่างไรนางก็แต่งเข้าตระกูลเจียงมาแล้ว ก็ถือว่าเป็นคนของตระกูลเจียงอย่างสมบูรณ์ และสามีของนางก็เป็นถึงเทพสงครามไร้พ่ายของแคว้นต้าหมิง

หากไม่เชื่อสามีของตนแล้ว จะให้นางไปเชื่อผู้ใดได้อีกเล่า?

เรื่องนอกจวนก็ยกให้เป็นหน้าที่ของบุรุษไป ส่วนตนแค่ต้องรับผิดชอบเรื่องในจวนให้ดี มิปล่อยให้เกิดเรื่องใดมากระทบต่อแผนการใหญ่ของสามีได้

เมื่อนางเงยหน้าเห็นร่างของบุตรชายคนโตที่ชโลมไปด้วยเหงื่อก็พลันนึกเป็นห่วงสุขภาพของเจียงอวี้เฉิง

ออกแรงมากถึงเพียงนี้ อย่างไรก็ต้องอิ่มท้อง...

“กวนหมัวมัว เย็นนี้ ทำไก่ตุ๋นยาจีนให้เฉิงเอ๋อร์สักหม้อเถิด” ฉินซื่อสั่งหมัวมัวข้างกาย “อืม... เห็นช่วงนี้ เฉิงเอ๋อร์ชอบกินอกไก่เป็นพิเศษ เจ้าให้โรงครัวเพิ่มอกไก่ผัดขิงและอกไก่ย่างเกลืออีกสักสองจานแล้วกัน”

“เจ้าค่ะ ฮูหยิน” กวนหมัวมัวรับคำด้วยรอยยิ้ม

“น้องหญิง... เจ้าสั่งแต่ของโปรดของเฉิงเอ๋อร์ แล้วของข้าเล่า?” เจิ้นกั๋วกงแสร้งร้องถามอย่างน้อยอกน้อยใจ ไม่มีมาดของเทพสงครามผู้น่าเกรงขามแม้เพียงนิดเดียว

อยู่นอกจวนเป็นแม่ทัพดุดันเกรียงไกรของทหารนับแสนนาย แต่เมื่อมาอยู่ในจวน เขาจะขอเป็นสามีตัวน้อยที่อ้อนฮูหยินจะเป็นสิ่งใดกัน!

“ขาหมูพะโล้ของท่านพี่ย่อมอยู่ติดบนโต๊ะอาหารทุกวันอยู่แล้วเจ้าค่ะ” ฉินซื่อตอบยิ้ม ๆ “ท่านพี่ทวงถามเช่นนี้ ท่านคิดว่าข้าไม่ใส่ใจท่านหรือเจ้าคะ? ข้าทำดีปานนี้แล้วท่านยังไม่เห็นความดีของข้าอีกหรือ?”

ฉินซื่อแสร้งหมุนตัว เชิดหน้าไปอีกทางอย่างน้อยอกน้อยใจ สองมือขยำผ้าเช็ดหน้า จนทำให้เจิ้นกั๋วกงที่เพิ่งกล่าวอย่างแง่งอนออกไป ต้องเปลี่ยนบทบาทจากคนงอนกลายเป็นคนง้อไปเสียสิ้น

“น้องหญิง... เจ้าจะมาแย่งบทคนงอนจากข้าไปง่าย ๆ เช่นนี้ไม่ได้ดอกนะ” เจิ้นกั๋วกงพูดอย่างขึงขังผิดกับประโยคที่หยอกเย้าฮูหยินตนอย่างรู้ทัน

“คิก คิก คิก” ฮูหยินและบรรดาบ่าวรับใช้พากันหัวเราะอย่างมีความสุข

เจียงอวี้เฉิงเอง เมื่อได้เห็นและได้ยินบรรยากาศที่มีความสุขเช่นนี้ก็พลันรู้สึกสบายอกสบายใจไปด้วย นั่นยิ่งทำให้เขามีกำลังใจที่จะสะสางปัญหาในอนาคตของตระกูลต่อไปอย่างแน่วแน่มากยิ่งขึ้น

เอาเถอะ! เขาจะขอเป็นคนรักษาความสงบสุขของครอบครัวนี้ไว้เอง!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สนมแม่ทัพขององค์หญิงใหญ่ NC   บทที่ 46

    “บัดนี้ การคัดเลือกพระราชสวามีขององค์หญิงใหญ่ในรอบแรกและรอบที่สองได้เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” หวังหมัวมัวประกาศ “สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าสู่รอบสุดท้ายได้นั้น จำเป็นต้องมีพู่แดงในครอบครองตั้งแต่สามชิ้นขึ้นไป”“ดังนั้น ขอให้ทุกท่านตรวจสอบจำนวนพู่แดงในมือ ท่านใดที่มีพู่แดงตั้งแต่สามชิ้นขึ้นไป ขอให้ก้าวออกมาข้างหน้า”ผู้เข้ารับการคัดเลือกทั้งสิ้นจำนวนสี่สิบคนนั้น หลายคนก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยความเสียดาย เพราะจำนวนพู่แดงในมือมีไม่ถึงตามเกณฑ์ที่กำหนดคุณชายจำนวนสิบเก้าคนก้าวออกมายืนข้างหน้าอย่างภาคภูมิใจ จากการคัดเลือกในรอบแรกนั้น ผู้ที่ได้พู่แดงจำนวนสามชิ้น ได้แก่ เจียงอวี้เฉิง ซุนเจิ้นหยวน หลี่เทียนหยู เว่ยเหวินหยาง และมู่หานเจียง ถือว่าแทบจะได้รับสิทธิ์ในการเข้ารอบคัดเลือกครั้งสุดท้ายได้อย่างแน่นอนแต่สำหรับผู้ที่ได้พู่แดงจำนวนหนึ่งชิ้นและสองชิ้นในรอบแรก ยังต้องมาเสี่ยงดวงว่ารอบที่สองจะได้พู่แดงมากขึ้นหรือไม่อย่างจวงหมิงรุ่ยเอง ในการคัดเลือกรอบแรก เขาได้รับพู่แดงจำนวนหนึ่งชิ้น แต่ด้วยความสามารถของจอห

  • สนมแม่ทัพขององค์หญิงใหญ่ NC   บทที่ 45

    เวลาหนึ่งชั่วยามผ่านไปอย่างรวดเร็ว กลิ่นหอมของผัดหมี่ผสานไปกับกลิ่นเหม็นไหม้ ควันสีขาวลอยอบอวลไปทั่วโรงครัว สภาพหลังการทำอาหารของผู้เข้าคัดเลือกบางรายแทบจะทนดูไม่ได้ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเขม่า และความมันจากการยืนผัดหมี่อยู่หน้าเตานาน ๆ ข้างตัวแต่ละคนล้วนแต่มีจานผัดหมี่ที่ใช้การไม่ได้วางเป็นกองพะเนินน่าจะมีการหักคะแนนเรื่องการใช้วัตถุดิบสิ้นเปลืองด้วยนะเนี่ย...ซีโรเวสท์น่ะ รู้จักกันไหม?ขันทีน้อยสี่สิบนายเดินมาหยิบจานผัดหมี่ขึ้นมาวางไว้บนถาด พร้อมทั้งแจกผ้าสะอาด เพื่อให้คุณชายทั้งหลายได้เช็ดทำความสะอาดใบหน้าเสียก่อน มิเช่นนั้นเกรงว่าฮ่องเต้และองค์หญิงใหญ่จะไม่สามารถจดจำได้ว่าคุณชายท่านนี้เป็นผู้ใด!?“ขอเชิญทุกท่านเดินตามขันทีไปที่โถงด้านหน้าได้เลยเจ้าค่ะ” หวังหมัวมัวกล่าวพร้อมผายมือไปทางด้านหน้าผู้เข้าคัดเลือกแต่ละคนเดินตามขันทีน้อยที่ถือผลงานรสมือของตัวเองมายืนเรียงรายอยู่หน้าโถง โดยที่ฮ่องเต้ชิงหยางและองค์หญิงใหญ่ประทับบนพระที่นั่ง“เชิญหมายเลขหนึ่ง”ขันทีน้อยเดินนำไป๋เฉียนก้าวขึ้นบันได ก่อนจะม

  • สนมแม่ทัพขององค์หญิงใหญ่ NC   บทที่ 44

    เมื่อยามเว่ยมาถึงหวังหมัวมัวเชิญผู้เข้าแข่งขันทุกคนเดินออกจากลานกว้าง ตรงไปที่โรงครัวด้านในที่จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องครัวไว้อย่างเป็นสัดส่วนจำนวนสี่สิบที่มุมปากของผู้เข้าคัดเลือกแต่ละคนกระตุกระรัวอย่าบอกนะว่าการคัดเลือกรอบบ่ายจะเป็นการทำอาหาร?“อย่างที่ทุกท่านเห็นกันแล้ว การคัดเลือกรอบสองนี้ จะเป็นการทำอาหารถวายองค์หญิงใหญ่ บุรุษนั้นนอกจากจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ในยามคับขันก็ต้องมีความสามารถในการดูแลอาหารการกินได้อีกด้วย”คุณชายแต่ละคนยืนเงียบกริบ ความรู้สี่ตำราห้ามคัมภีร์ในสมองร่วงหล่นกระจัดกระจาย ไป๋เฉียนเหลือบสายตาคมปราดมองไปที่เสิ่นจิ้งเหยาอีกคราพ่อเจ้าบอกข้อมูลผิดอีกแล้วนะ!!เสิ่นจิ้งเหยาทำได้เพียงแต่หลบสายตาไปอีกทางแล้วผู้ใดจะรู้เล่าว่าจะมีการเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันน่ะ!?ข้าก็ตกใจไม่แพ้เจ้าหรอก!!จวงหมิงรุ่ยระบายลมหายใจหนักหน่วง เมื่อคิดว่าการคัดเลือกในรอบนี้คงไม่ง่ายเสียแล้ว ก่อนจะหันหน้าไปลอบสังเกตเจียงอวี้เฉิงที่ยืนอยู่อีกทาง ใบหน้าของเขานิ่งสงบราวกับเป็นรูปแบบการคัดเลือกที่คาดคิด

  • สนมแม่ทัพขององค์หญิงใหญ่ NC   บทที่ 43

    ฮ่องเต้ชิงหยางและองค์หญิงใหญ่ลุกขึ้นจากที่ประทับแล้วเดินกลับเข้าไปพักผ่อนที่ด้านในเมื่อเห็นว่าเหล่าเชื้อพระวงศ์เดินจากไปแล้ว บรรดาขุนนางจึงรีบเดินลงไปที่ลานแข่งขัน เพื่อสอบถามอาการบุตรหลานของตนเองเจิ้นกั๋วกงสาวเท้ายาวเดินเข้าไปหาเจียงอวี้เฉิงที่กำลังผูกพู่แดงกับป้ายหมายเลขของตนเองอย่างพึงพอใจในผลการแข่งขันรอบแรก เขายกมือขึ้นตบไหล่แข็งแรงของลูกชาย จนเจียงอวี้เฉิงเซถลาไปด้านหน้าหลายก้าว“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ลูกพ่อเอวแข็งแรงดีจริง ๆ ”“ท่านพ่อ…” เจียงอวี้เฉิงกลอกตามองบน ลากเสียงอย่างระอา “เรื่องเช่นนี้ มิต้องชมเชยกันหรอกขอรับ”เจิ้นกั๋วกงชอบใจในท่าทีของบุตรชาย เสียงหัวเราะดังกังวานไปทั่วบริเวณ “ลูกพ่อเก่งเช่นนี้ เย็นนี้ เจ้าอยากกินอะไรก็บอก ข้าจะให้แม่เจ้าทำเตรียมไว้ให้ ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”หื้ม พ่อบ้านใจกล้าไปอีก...ท่านกล้าสั่งท่านแม่รึไง?“เอาล่ะ อย่างไรก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่เจ้าได้คะแนนสูงสุดในการคัดเลือกรอบแรก” เจิ้นกั๋วกงหันไปสั่งคำกับลูกน้องข้างตัว “จ้าวลี่ ส

  • สนมแม่ทัพขององค์หญิงใหญ่ NC   บทที่ 42

    นอกจากชิงหว่านซินที่จ้องมองเจียงอวี้เฉิงแล้ว ก็ยังมีสายตาอีกหลายคู่ที่จ้องมองเขาด้วยเช่นกัน“อย่างไรการแข่งรอบแรกก็เป็นเพียงการวัดกำลัง เจียงซื่อจื่อจะชนะก็คงไม่แปลกอันใดใช่หรือไม่? หมิงรุ่ย” ไป๋เฉียนถามขึ้น ในขณะที่เดินมาอยู่ข้างกายจวงหมิงรุ่ยที่ในมือของเขามีพู่แดงอยู่หนึ่งชิ้น“แต่ช่างเป็นการแข่งขันที่ไม่เคยพบเห็นที่ใดมาก่อน” เสิ่นจิ้งเหยา สหายสนิทอีกคนบ่นขึ้นอย่างไม่ชอบใจ แม้ว่าเขาเองก็จะได้รับพู่แดงมาหนึ่งชิ้นด้วยเช่นกัน “พ่อของข้าอุตส่าห์ติดสินบน เพื่อสอบถามขันทีไปตั้งมากมาย จึงได้ความว่าจะเป็นการวิ่งแข่ง”“นั่นสิ พวกเราจึงต้องไปฝึกซ้อมร่างกายให้วิ่งอยู่เสียตั้งนาน ผลสุดท้าย กลับเป็นการแข่งขันประหลาดเช่นนี้ไปเสียได้” ไป๋เฉียนผสมโรง ก่อนจะนึกขึ้นได้ “แต่ก็พอจะมีคนมองออกว่านี่ไม่ใช่การแข่งวิ่งธรรมดานะ”จวงหมิงรุ่ยถามขึ้นในทันที “ผู้ใด?”“เจียงซื่อจื่อ”คำตอบจากปากสหายสนิท ทำให้ดวงตาของจวงหมิงรุ่ยลุ่มลึกขึ้น“ก่อนเริ่มการแข่งขัน ข้าลองเข้าไปสอบ

  • สนมแม่ทัพขององค์หญิงใหญ่ NC   บทที่ 41

    “พี่หญิง พี่หญิง...” เสียงเรียกที่คุ้นเคยจากคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทำให้ชิงหว่านซินต้องละสายตาจากสนามแข่งมามองชิงหว่านซินหันหน้าไปถามอนุชาอย่างอ่อนโยน “ว่าอย่างไรรึ?”“พี่หญิงยังรู้สึกไม่สบายอยู่รึ? จะกลับไปพักผ่อนก่อนดีหรือไม่?” ฮ่องเต้ชิงหยางตรัสถามอย่างเป็นห่วงเพราะชิงหว่านซินเพิ่งจะหายจากอาการไข้ ไม่รู้ว่านางไปต้องลมหนาวในยามใด จึงได้มีไข้ขึ้นสูง นอนสลบไสลไปหลายวัน จึงเพิ่งได้ฟื้นสติขึ้นมา หากแต่เมื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว พี่หญิงของเขาก็คลับคล้ายเปลี่ยนไปเป็นคนละคนดวงตาฉายแววเย็นชามากยิ่งขึ้น บ่อยครั้งที่จะนิ่งเงียบราวกับกำลังครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างอยู่ตลอดเวลา...“พี่ทำให้หยางเอ๋อร์ต้องเป็นห่วงแล้ว หมอหลวงเพิ่งมาตรวจอาการให้พี่ เขาบอกว่าอาการของพี่ดีขึ้นมากแล้ว” ชิงหว่านซินปลอบใจอีกฝ่าย “ให้พี่รอดูผลเถิด เพราะพี่เองก็อยากจะรู้ว่าผู้ใดจะได้พู่แดงไปมากที่สุดด้วยเช่นกัน”“นั่นสิ... ข้าเองก็ไม่คิดเลยว่าเจียงซื่อจื่อจะเอวดีเช่นนี้” ฮ่องเต้ชิงหยางตรัสขึ้นอย่างพอพระทัย สุรเสียงชื

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status