Home / รักโบราณ / สยบรักยอดบัณฑิต / ตอนที่ 8 ส่วนลึกในใจ

Share

ตอนที่ 8 ส่วนลึกในใจ

last update Last Updated: 2025-05-01 00:24:03

ภายในห้องพักที่อบอวลด้วยกลิ่นยาสมุนไพรอ่อนๆ เผิงเหยียนเฉิงนั่งลงช้าๆ บนตั่งไม้ หันหน้าออกไปยังหน้าต่างที่เปิดรับลมเย็นสบาย

ยังไม่ทันได้หลับตาพักผ่อน เสียงฝีเท้าเบาๆ ก็ดังขึ้นหน้าห้อง

“พี่เหยียนเฉิง” ลู่ซือหนานก้าวเข้ามาพร้อมถาดไม้ในมือ ในนั้นวางกาน้ำต้มยาอยู่

“ข้าให้ห้องครัวเตรียมยาตามใบสั่งของหมอไว้ให้ท่านดื่ม ข้าอยากต้มด้วยตัวเอง จึงมาเองเจ้าค่ะ”

นางเอ่ยเสียงนุ่ม ดวงตาใสบริสุทธิ์เปี่ยมไปด้วยความห่วงใย

เผิงเหยียนเฉิงมองนางเงียบๆ แวบหนึ่งในดวงตาคมกริบมีแววอ่อนโยนผุดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ นางค่อยๆ รินน้ำยาอุ่นร้อนลงในถ้วย แล้วยื่นให้เขาด้วยมือของตนเอง

“ยานี้แม้จะขมหน่อย แต่หมอบอกว่าดื่มเป็นประจำจะฟื้นฟูเส้นเอ็นได้เร็วขึ้นเจ้าค่ะ” นางเอ่ยด้วยรอยยิ้มให้กำลังใจ

เผิงเหยียนเฉิงยื่นมือไปรับถ้วยยามา ดวงมือที่สัมผัสกับปลายนิ้วของนางเพียงแผ่วเบา แต่กลับส่งผ่านความอบอุ่นที่ทำให้ใจเขาสั่นสะท้าน

เขารับยามาเงียบๆ ดื่มยาขมเฝื่อนนั้นจนหมดโดยไม่ขมวดคิ้วแม้แต่น้อย

“เจ้าควรกลับไปพักผ่อนเถอะ” เขาเอ่ยเบาๆ หลบสายตาอ่อนโยนของนางอย่างระมัดระวัง

ลู่ซือหนานพยักหน้า ยิ้มอ่อนหวาน “เช่นนั้นข้าจะไปดูหม้อยาอีกที ว่าต้องต้มยาชุดถัดไปอย่างไร”

เมื่อเห็นนางเดินจากไป เผิงเหยียนเฉิงจึงค่อยๆ หลับตาลง มือข้างหนึ่งยกขึ้นกุมหน้าอกเบาๆ ราวกับจะกดทับความรู้สึกที่ไม่ควรมี

นางช่างอ่อนโยน ช่างเมตตาเหลือเกิน นางดีเกินกว่าจะถูกบุรุษชั่วช้าผู้นั้นหลอกลวง แต่นอกจากความห่วงใยส่วนลึกของหัวใจกลับมีความรู้สึกบางอย่างแทรกเข้ามา ก่อนจะสลัดความคิดบ้าๆ เช่นนั้น

‘ข้าเป็นเพียงผู้อาศัย...เจ้าเองก็มีคู่หมายแล้ว’

ความรู้สึกอบอุ่นที่ไหลเอ่อในใจ ถูกเขากลืนลงไปกับยาขมรสขื่นที่เพิ่งดื่ม ฝืนใจไม่ให้ไหลไปไกลกว่าความเหมาะสมที่เขาควรยึดมั่น

บัณฑิตหนุ่มเอนกายลงบนตั่ง หลับตาลง ปล่อยให้เสียงลมที่พัดผ่านใบไม้กล่อมให้จิตใจที่ปั่นป่วนได้สงบลงชั่วคราว

************************

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงแค่สิบวันภายใต้การดูแลของหมอฝังเข็มและยาสมุนไพรที่ลู่ซือหนานคอยจัดการให้ด้วยตัวเอง เผิงเหยียนเฉิงค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นทีละน้อย

มือนั้นที่เคยหมดเรี่ยวแรง บัดนี้สามารถจับพู่กันได้แล้ว แม้เส้นอักษรที่เขียนยังไม่มั่นคงเท่าเก่า แต่ก็ชัดเจนกว่าครั้งก่อนมากนัก

ทุกเช้า เขาจะฝึกเดินไปตามแนวระเบียงยาวของเรือนรอง แม้ยังต้องใช้ไม้เท้าพยุงกาย แต่ก็ก้าวได้มั่นคงกว่าเดิม

เช้าวันหนึ่ง ขณะที่เผิงเหยียนเฉิงกำลังนั่งอยู่ในศาลาหลังเล็ก ฝึกเขียนอักษรด้วยความตั้งใจ ลู่หยวนฉีเดินเข้ามาเงียบๆ

ชายชราผู้นี้ยืนดูอยู่นาน พลางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

“เหยียนเฉิง ดูเหมือนเจ้าจะพร้อมแล้ว” เสียงทุ้มของเขาดังขึ้น

“ท่านลุงลู่” เผิงเหยียนเฉิงวางพู่กัน หันไปประสานมือคารวะอย่างนอบน้อม

“เพราะความเมตตาของท่านที่ช่วยเหลือข้าเอาไว้และให้โอกาสข้า ข้าจะไม่มีวันลืมน้ำใจของท่านในครั้งนี้”

ลู่หยวนฉียกมือขึ้นปรามไม่ให้เขาต้องมากพิธีรีตอง

“เจ้ามีฝีมือ เพียงแต่เคราะห์ร้าย หากมีโอกาสต้องใช้มันอย่างไม่ให้สูญเปล่า ข้าได้ขอให้อาจารย์จากสำนักศึกษามาที่นี่ เพื่อสอนตำราให้เจ้าโดยเฉพาะ พร้อมกับตำราปรัชญาต่างๆ” เขากล่าวด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

เผิงเหยียนเฉิงชะงักงันไปชั่วครู่ ดวงตาสั่นระริกด้วยความตื้นตัน

อาจารย์จากสำนักศึกษา...สำนักศึกษาคือสถานศึกษาที่ดีที่สุดในแคว้น สอนทั้งลิขิตธรรม ปรัชญาและการปกครอง การได้เรียนกับอาจารย์เช่นนั้นไม่ต่างกับการได้รับการยอมรับอีกครั้งในฐานะบัณฑิต

เขารีบประสานมือ ก้มศีรษะลงต่ำจนแทบแตะพื้น

“ข้าจะตั้งใจเรียนให้ถึงที่สุด” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความตั้งมั่น ลู่หยวนฉียิ้มบางๆ ตบบ่าของเขาเบาๆ

“ดี...ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ ก้าวต่อไป อย่าให้ใครกล่าวหาว่าเจ้าคือบัณฑิตไร้ค่าได้อีก”

ถ้อยคำนั้น ทั้งเหมือนคำปลอบโยน ทั้งเหมือนการจุดไฟให้หัวใจที่เกือบดับมอด ได้ลุกขึ้นอีกครั้ง

เผิงเหยียนเฉิงกำหมัดแน่นในอก ตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าเขาจะต้องกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมาให้ได้ ไม่ใช่เพื่อตัวเองเท่านั้น แต่เพื่อคนที่มอบโอกาสให้อีกครั้งเช่นกัน

“ตอนนี้ร่างกายข้าแข็งแรงขึ้นมากแล้ว ว่าจะไปคารวะลู่ฮูหยิน ไม่ทราบว่าท่านลุงว่าว่าอย่างไร” เขากล่าวถึงลู่ฮูหยินด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

“นางก็บ่นอยากมาเยี่ยมเจ้า แต่นางมัวแต่วุ่นวายกับการสั่งพวกบ่าวไพร่ทำความสะอาดเรือนรองานมงคล เจ้าไปเยี่ยมนางก็ดีเหมือนกัน”

“ขอรับ” เขาตอบรับแล้วยิ้มด้วยความอบอุ่น นานแล้วที่ไม่ได้เจอลู่ฮูหยินผู้มีเมตตา จำได้ว่าตอนเด็กๆ นางเอ็นดูเขามาก ตอนนี้ไม่มั่นใจว่าจะยังเมตตาตนอยู่เหมือนเดิมหรือไม่ แต่ก็มั่นใจว่าคนมีเมตตาอย่างไรย่อมมีเมตตาดังเดิม

************************

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 140 ตอนจบ

    ในช่วงเวลาที่ความเปลี่ยนแปลงในราชสำนักเริ่มต้น งานราชการในส่วนของสำนักศึกษาที่เผิงเหยียนเฉิงได้ริเริ่มและปรับปรุงใหม่ก็เริ่มประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน จากการที่มีแนวคิดปฏิรูปที่เน้นความเป็นธรรมและให้โอกาสแก่ทุกคน ผู้คนในราชสำนักและชาวบ้านต่างยกย่องความคิดเหล่านี้อย่างไม่ขาดสายณ ห้องทำงานหลักในจวนโหว เผิงเหยียนเฉิงก้าวขึ้นเป็นสัญลักษณ์แห่งความเปลี่ยนแปลงใหม่ ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงและความมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบการศึกษาที่เอื้ออำนวยให้แก่สตรี ซึ่งเขาและภรรยา ลู่ซือหนาน ได้ร่วมกันผลักดันมาตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาหลักสูตรและแนวทางสอนได้ถูกปรับปรุงอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตามคำแนะนำจากผู้รู้และนักวิชาการทั้งในราชสำนักและต่างแคว้นฮ่องเต้ทรงประกาศแสดงความชมเชยต่อความก้าวหน้าของสำนักศึกษาและการปฏิรูปที่ได้รับการดำเนินการโดยเผิงเหยียนเฉิงและลู่ซือหนานอย่างยิ่งยวดขณะเดียวกัน เมื่อหน้าที่การงานประสบความสำเร็จ ครอบครัวของเขาก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันในห้องนอนอันอบอุ่น ภายใต้แสงเทียนสีอ่อนที่สาดส่องลงมาจากเพดานเผิงเหยียนเฉิงที่เพิ่งกลับมาถึง เขาเดินเข้ามาเอื้อม

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 139 วันที่รอคอย

    ในยามค่ำของคืนนั้น ท้องฟ้าโปร่งใสแต่แสงจันทร์ดูหม่นเล็กน้อย บรรยากาศภายในจวนโหวเงียบสงบเช่นเคย จนกระทั่งเสียงร้องเบาๆ ดังขึ้นจากห้องนอนชั้นใน“อื้อ ท่านพี่... ข้าเจ็บ... เจ็บท้อง...”ลู่ซือหนานนิ่วหน้า มือข้างหนึ่งกุมผ้าห่ม อีกข้างจับท้องแน่น ร่างทั้งร่างเกร็งเหมือนคลื่นบางอย่างกำลังซัดเข้ามาทีละระลอกเผิงเหยียนเฉิง ได้ยินเสียงภรรยาก็ลุกจากโต๊ะหนังสือมา ใบหน้าซีดเผือด“ฮูหยิน เจ้าเป็นอะไร เจ็บมากหรือไม่ เสี่ยวหลาน เสี่ยวหลาน ไปตามหมอตำแยมา ไปตามท่านแม่ด้วย”เสียงร้องเรียกดังลั่นจนบ่าวไพร่วิ่งกันพล่านทั่วเรือน เสี่ยวหลานกับสาวใช้หลายคนรีบพากันเข้ามาช่วยพยุงลู่ซือหนานให้นอนสบาย เตรียมน้ำอุ่น ผ้าสะอาดอย่างเร่งด่วนอันเหม่ยฉินเข้ามาพร้อมท่าทีสงบนิ่ง นางมองเห็นสถานการณ์แล้วเอ่ยเสียงเข้ม“ทุกคนอยู่ในความสงบ ให้คนไปตามหมอตำแยแล้วหรือยัง ถ้ายังให้รีบไปตามมา เซี่ยมามารบกวนให้คนต้มยาสมุนไพรตามตำราเร่งด่วน เสี่ยวหลาน เสี่ยวหนิว พวกเจ้าอยู่ใกล้นาง ห้ามให้เคลื่อนไหวแรง”ผู้เป็นสามีพยายามจะเข้าไปใกล้ แต่ลู

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 138 ครอบครัวพร้อมหน้า

    ในวันหนึ่ง ณ ถนนหน้าจวนโหว เสียงฝีเท้าของม้าหลายตัวดังขึ้นตามถนนสายหน้าเรือนใหญ่ ขบวนรถม้าอย่างดีจากเจียงเฉินเคลื่อนตัวมาหยุดตรงประตูหน้าจวนโหว ข้ารับใช้รีบออกมาต้อนรับเมื่อรู้ว่าเป็นครอบครัวของฮูหยินใหญ่ประตูไม้เปิดออก ชายในชุดตัวยาวผ้าแพรสีเทาอ่อนลงจากรถก่อน ลู่หยวนฉีบิดาของลู่ซือหนานเดินลงมาแล้วมองไปรอบๆ ด้วยความปีติ ก่อนจะหันไปรับลูกชายตัวน้อยจากภรรยา ให้นางลงมาจากรถม้าได้สะดวกเด็กน้อยวัยหกเดือนในอ้อมแขนของบิดา เขามีผมดำขลับ ดวงตากลมโต และยิ้มแย้มแจ่มใสไม่ต่างจากพี่สาวอย่างลู่ซือหนานในวัยเยาว์หลี่อันพ่อบ้านประจำจวนรีบเข้าไปแจ้งข่าว แก่ลู่ซือหนานที่นั่งพักอยู่ในห้องพักด้านในเมื่อได้ยินข่าวถึงกับน้ำตารื้นด้วยความตื้นตัน นางให้เสี่ยวหลานพยุงเดินออกมาช้าๆ โดยมีเซี่ยมามาเดินเข้ามาดูแลอยู่ไม่ห่าง เพราะเผิงโหวสั่งเอาไว้ว่าให้นางคอยดูแลนายหญิงให้ดีเมื่อเห็นบิดามารดาและน้องชายตัวน้อย นางคารวะเล็กน้อยแล้วยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนที่อันเหม่ยฉินจะเอามือไปสัมผัสข้างแก้มของบุตรสาวด้วยน้ำตา“ลูกเอ๋ย...แม่คิดถึงเจ้าเหลือเกิน เจ้าอ่อนล้าหรือไม่ ท้องโ

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 137 ตัดไฟแต่ต้นลม

    วันถัดมา หยางมี่อิงแต่งกายเรียบร้อยในชุดผ้าแพรบางสีชมพูอ่อน เครื่องประดับจัดเต็มแต่ดูละมุน เดินมาถึงหน้าจวนโหวอย่างมั่นใจ หวังจะเข้ามาเยี่ยมลู่ซือหนานเช่นเคย“บอกเผิงฮูหยินด้วยว่า ข้ามาเยี่ยมตามปกติ”นางยิ้มบาง ส่งเสียงกับบ่าวเฝ้าประตูแต่บ่าวหนุ่มกลับทำหน้านิ่ง ยกมือขึ้นคำนับ“ขอประทานอภัยแม่นางหยาง ข้าน้อยรับคำสั่งจากท่านโหวเผิงโดยตรง ห้ามมิให้แม่นางก้าวเข้าจวนอีก”“อะไรนะ” สีหน้าหยางมี่อิงเปลี่ยนไปในทันที เสียงที่เคยหวานเริ่มสั่นเครือ“ท่านโหวพูด... พูดแบบนั้นจริงหรือ”บ่าวค้อมศีรษะอย่างสุภาพแต่หนักแน่น “ใช่ขอรับ เป็นคำสั่งชัดเจนเมื่อวานก่อน แม้จะเป็นสหายเก่า ก็ไม่อนุญาตให้เข้าได้ ท่านโหวถึงขั้นให้จดชื่อไว้ด้วย เพื่อป้องกันการฝ่าฝืน”หยางมี่อิงยืนแข็งอยู่หน้าจวน ใบหน้าที่เคยเชิดสูงบัดนี้แดงจัดด้วยความอับอายและโกรธแค้น หัวใจพลันเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง นางไม่คิดว่าเผิงเหยียนเฉิงจะกล้าปฏิเสธนางตรงๆ เช่นนี้ และที่สำคัญกว่านั้น นั่นหมายความว่าเขาอาจบอกภรรยาไปแล้ว&ldqu

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 136 เผยธาตุแท้

    บรรยากาศในจวนโหวที่เคยสงบ เริ่มมีการเคลื่อนไหวอย่างแนบเนียนของสตรีอีกนาง หยางมี่อิงยังคงเข้ามาหาลู่ซือหนานบ่อยครั้ง ยิ่งช่วงที่เผิงเหยียนเฉิงต้องออกไปจัดการงานราชการต่างเมือง ก็ยิ่งเปิดโอกาสให้นางได้ใช้เวลาอยู่ในจวนมากขึ้น ทว่าภายใต้รอยยิ้มและน้ำเสียงที่แสดงความสนิทสนมนั้น กลับซ่อนอะไรบางอย่างที่เสี่ยวหลานรู้สึกถึงบ่ายวันหนึ่ง ณ เรือนรับรองภายในจวนโหวลู่ซือหนานนั่งถักเชือกสีขาวแดงสำหรับทำเครื่องประดับทารกอยู่บนตั่งในสวน หยางมี่อิงเดินเข้ามาพร้อมตะกร้าผลไม้ในมือ“วันนี้ข้าแวะผ่านตลาด เห็นท้อขาวลูกสวยเลยซื้อมาฝากเจ้า” หยางมี่อิงยิ้มอ่อนโยน วางตะกร้าไว้บนโต๊ะหิน“หญิงตั้งครรภ์กินผลไม้สดดีต่อร่างกาย”“ขอบใจเจ้า มี่อิง” ลู่ซือหนานรับคำอย่างนุ่มนวล พลางวางเชือกในมือลง“เจ้าลำบากแวะมาหาข้าบ่อย ข้ารู้สึกเกรงใจนัก”“เจ้าเป็นเพื่อนเก่า ข้าดีใจที่ได้อยู่ใกล้ๆ ต่างหาก” หยางมี่อิงกล่าวพร้อมยิ้มหวาน ดวงตากวาดมองไปทางเรือนรอบข้าง แล้วเอ่ยขึ้นเหมือนไม่ตั้งใจ“ช่วงนี้ท่านโหวไม่

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 135 มาดีหรือมาร้าย

    ช่วงเวลาหลายวันถัดมา หยางมี่อิงเริ่มแวะเวียนมาหาลู่ซือหนานที่จวนโหวบ่อยขึ้น นางพูดจานุ่มนวล อ่อนโยน และมักนำของฝากเล็กๆ น้อยๆ มาให้ ไม่ว่าจะเป็นผ้าแพรลวดลายงามจากทางใต้ หรือสมุนไพรบำรุงครรภ์ที่ได้จากหมอชื่อดัง“ข้าเห็นเจ้ากำลังตั้งครรภ์ เลยปรึกษาผู้อาวุโสในเรือน ข้าว่าน้ำขิงสูตรนี้จะช่วยให้เจ้าหลับได้ดีขึ้นยามค่ำ” หยางมี่อิงยื่นถ้วยให้ลู่ซือหนานด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนลู่ซือหนานรับน้ำขิงมา แต่ไม่ได้ดื่มเข้าไป เพราะไม่ไว้ใจยาจากคนนอก “ขอบคุณเจ้ามาก ข้ามีบ่าวอยู่ แต่ก็อบอุ่นใจนักที่เจ้าห่วงใยถึงเพียงนี้”หยางมี่อิงนั่งลงใกล้ๆ พลางช่วยจัดเรียงผ้าปักลายที่สาวใช้พับไว้ข้างตั่ง“เจ้ารู้หรือไม่ ข้าอิจฉาเจ้ายิ่งนัก...” นางว่าเบาๆ“มีสามีดี มีลูกในครรภ์ และยังได้รับเกียรติให้ตั้งสำนักศึกษาอีก ข้าดีใจแทนเจ้านะซือหนาน”ลู่ซือหนานยิ้ม ไม่ได้กล่าวสิ่งใด แต่เก็บถ้อยคำเหล่านั้นไว้ในใจ นางสัมผัสได้ถึงความจริงใจปนเล่ห์นัยบางอย่างจากน้ำเสียงของเพื่อนเล่นวัยเยาว์ เหมือนสายลมอ่อนโยน แต่กลับแฝงความเยือกเย็นบางอย่าง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status