เสียงส้นรองเท้ากระแทกกับพื้นไม้ของห้องใต้ดินภายในตึกวิศวกรรมเครื่องกลดังลั่น ท่ามกลางเสียงเงียบกริบที่ตึงเครียดกว่าสนามรบ สายตาทุกคู่จับจ้องร่างสูงที่เดินวนไปมาอยู่กลางห้อง พร้อมประกายความโกรธแค้นอันรุนแรง ที่ฉายชัดในดวงตาสีเข้มของเขา
“แม่งเอ๊ย!!!” เวกัสสะบัดเสื้อช็อปออกจากร่าง ก่อนจะเหวี่ยงลงพื้นอย่างหัวเสีย ดวงตาคมแข็งกร้าว ราวกับจะฆ่าคนตายได้เลย
“ประกาศออกไป...ใครทำให้ยัยนั่นมาสยบแทบเท้าฉันได้ ฉันจะรับเข้าแก๊งตำแหน่งที่หก...” เวกัสประกาศกร้าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หลุยส์ถึงกับผิวปากตอบรับทันที “หัวหน้าเอาจริงว่ะ”
“มันถึงเวลาแล้ว...ที่เราควรจะจัดการกับยัยนั่นให้สาสมสักที” โชนเสริม
“แล้วแบบไหน...ถึงเรียกว่าสาสม” ริกเตอร์เอ่ย
“จะแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น แค่ให้ยัยนั่น...ยอมก้มหัวให้ฉันก็พอ”
“เล่นกับไฟ ระวังไฟไหมตัว” ลมหนาวที่นั่งเงียบอยู่มุมห้อง เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เหมือนเตือนเพื่อนว่าให้มีสติให้มากกว่านี้
เวกัสหันขวับไปมองหน้าลมหนาวทันที เมื่อรู้สึกได้ถึงความเอนเอียงไปเข้าทางฝั่งตรงข้ามของเพื่อนรักอย่างลมหนาว
“ถ้ายัยนั่นเป็นไฟ…ฉันก็จะเป็นน้ำมัน เผาให้มันไหม้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย”
ลมหนาวเงียบและหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ หากสิ่งที่เขาพูดไม่มีผลดี ลมหนาวก็เลือกที่จะไม่ยุ่งอีกต่อไป ทำให้เวกัสยิ่งอารมณ์ขึ้น เพราะความเดือดดาลไม่ได้ถูกระบายออกไปจากในอกเลย เขาแค้นเธอจนจะอกแตกตายอยู่แล้ว
(วันต่อมา)
ห้องคณะกรรมการนักศึกษาของสถาบัน ในช่วงสอบกลางภาคเต็มไปด้วยเอกสารที่ถูกฉีกทิ้ง เศษกระดาษโน้ตถูกขยำและยัดใส่ใต้โต๊ะของใบหยก พร้อมทั้งการปล่อยข่าวลือที่เป็นเท็จ ว่าเธอใช้เส้นสายเพื่อให้ได้ทุนเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งที่ ทั้งที่ความจริงคือเธอแบกเกรดเฉลี่ยระดับ TOP อันดับหนึ่งมาตลอด 4 ปี
ใบหยกเกิดข้อสงสัย ว่าทำไมถึงมีคนหมายหัวเธอเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่ก่อนนี้จะมีเพียงบางกลุ่มที่กล้าต่อกรกับเธอ แต่มาวันนี้แทบจะทั้งสถาบันที่ลุกขึ้นมากลั่นแกล้งเธอ ราวกับเธอเป็นผู้ร้ายที่มีค่าหัว แล้วแต่ละคนก็ทำเรื่องอุกอาจเหมือนไม่กลัวกฎของสถาบันกันเลยสักนิด ประหนึ่งว่ามีตัวใหญ่บงการอยู่เบื้องหลัง
“ทุกคนสงสัยกันไหม ว่าประธานนักศึกษาสถาบันEST ใช้ลูกไม้อะไรถึงได้เข้ามาเป็นนักเรียนทุนที่มีเกรดเฉลี่ยสูงลิ่วเกือบทุกปี ทั้งที่ปากบอกว่าจน แต่สอบชิงทุนได้เป็นร้อยทุน โอเว่อร์ขนาดนั้น...มันมีแค่ในนิยาย อย่างยัยนั่นถ้าไม่มีเงิน...ก็คงใช่ร่างกายไต่เต้าแน่ ๆ”
ใบหยกกัดฟันแน่น เพื่ออดทนกับสิ่งที่ได้ยิน คำดูถูกเหยียดหยามใช่ว่าเธอจะไม่เคยได้ยิน แต่สำหรับวันนี้เธอยอมรับว่ามันหนักข้อขึ้น จนภาพลักษณ์ของเธอย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี การถูกมองว่าใช้ตัวเข้าแรกกับผลประโยชน์ มันช่างดูไร้ค่าสิ้นดี ดูสิ้นคิดจนเธอรับไม่ได้ว่าจะได้ยินมันออกมาจากปากของผู้หญิงด้วยกัน
“ยัยพวกนั้นมันโรคจิต! แกไม่จำเป็นต้องทนก็ได้นะใบหยก ควรจะสั่งสอนพวกมันสักที่ให้หลาบจำ”
วิเวียน หรือ รวีวรรณ โชติศิริรัตน์ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ปีสี่ เพื่อนรักของใบหยก ที่ดีกรีเป็นถึงลูกสาวเจ้าของบริษัทผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ในประเทศเอ่ยขึ้น เมื่อทนฟังกลุ่มคนไร้สาระพวกนั้นดูถูกเพื่อนรักอย่างใบหยกไม่ได้ คุณหนูที่นิสัยเด็ดขาดอย่างวิเวียนจึงไม่อยากให้เพื่อนยอมและปล่อยผ่านไป เพราะใบหยกเป็นคนที่ไม่ชอบเอาปัญหามาใส่ตัว ซึ่งตรงกันข้ามกับเธอ
“ช่างเถอะวิเวียน คนพวกนี้ไม่มีค่ามากพอให้ฉันดึงเข้ามาทำให้ตัวเองเป็นทุกข์หรอก ยิ่งฉันไม่อดทนพวกมันก็ยิ่งได้ใจ...อยากทำอะไรก็เชิญ แต่ถ้าทำผิดกฎของสถาบัน ฉันไม่ปล่อยผ่านแน่”
ใบหยกตอบกลับเสียงราบเรียบและใจเย็น เพราะเธอมีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องทำ ถึงไม่อยากเก็บมาคิดให้มันกระทบจิตใจ จนเป้าหมายของเธอสั่นคลอน
“มีนก็คิดเหมือนใบหยก ถ้าหมามันทำได้แค่เห่า เราก็ควรเดินออกห่าง...ไม่ควรไปหยุดมองมันให้เสียเวลา”
มีน หรือ มินตรา ภิรมย์ภักดี วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ปีสี่ เพื่อสนิทอีกคนของใบหยก เด็กทุนอีกคนที่คะแนนสอบไล่ตามกันกับใบหยกเพียงไม่กี่คะแนน แม้ฐานะทางบ้านจะไม่รวยเท่าวิเวียน แต่ธุรกิจค้าขายอุปกรณ์ไอทีของครอบครัวมินตราก็ทำให้เธอมีกำลังทรัพย์ที่แน่นพอจะใช้ชีวิตในสถาบันนี้ได้อย่างสุขสบายมากกว่า ถ้าเทียบกับใบหยก
“จะรอให้หมามันไล่กัดก่อนว่างั้น?” วิเวียนยังคงเดือดดาล
“แน่นอนว่าไม่...” ใบหยกตอบ
“เราควรตอบโต้กลับไปบ้าง...ไม่ใช่ยอมอย่างเดียว” วิเวียนกล่าว
“ก็จริงนะ ที่วิเวียนพูดก็มีเหตุผล” มินตราเห็นด้วยกับความคิดของวิเวียน ที่ควรตอบโต้บ้าง
“เธอเป็นถึงประธานสภานักศึกษา ควรใช้อำนาจจัดการสิ่งที่มันไม่ถูกต้อง” วิเวียนสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ใบหยก
“ใช่...งั้นเริ่มจากอะไรดีล่ะ” มินตราเสริม
“หึ...ถ้าต้องเริ่ม...ก็คงต้องเริ่มที่ตัวบงการ ในเมื่อจัดการเรื่องเล็กน้อยไม่ได้ ก็ไล่บี้ตามกฎสถาบัน ว่ากันเป็นข้อ ๆ ตามระเบียบ”
ใบหยกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น คนอย่างเธอถ้าจะต้องร้าย ใครหน้าไหนก็เอาไม่อยู่
“แล้วมาดูกัน...ว่าฉันหรือพวกมันที่ต้องหยุด”
“เยี่ยม!”
วิเวียนและมินตราต่างหันมายิ้มให้ใบหยก ถ้าพวกเธอไม่โหด ก็คงไม่ได้มานั่งเป็นประธานและกรรมการในสภานักเรียนแห่งนี้หรอก
หลังจากวันนั้นไม่นาน...เว็บบอร์ดของสถาบันที่เงียบเหงามานานก็กลับคึกคักผิดปกติ
#แก๊งบัญชีดำ #มาเฟียสถาบัน #ข่าวด่วน #ข่าวEST เปิดโปงแก๊งนักศึกษาผิดกฎซ้ำซาก พร้อมหลักฐานแน่น ใครอยากเห็นหน้า คลิกดูได้เลย!
เมื่อมีโพสต์พาดหัวข่าวใหญ่ในเว็บบอร์ดของสถาบัน จากบุคคลนิรนามที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร แถมภายในกระทู้ลับยังมีลิงก์โยงไปยังไดรฟ์เก็บไฟล์ลับ พร้อมตารางแสดงรายชื่อ นิสิต-นักศึกษา ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมผิดระเบียบอย่างร้ายแรงของสถาบัน เอกสารเหล่านั้นแนบมาทั้งภาพถ่าย ภาพกล้องวงจรปิด ข้อความลับ ไปจนถึงคลิปวิดีโอเป็นหลักฐานมัดตัวแน่นหนา จนคนในภาพดิ้นไม่หลุด
และรายชื่อที่ถูกโพสต์ ก็คือ...
โชติวัฒน์ รัตนนุกูลเกียรติ (โชน) รีดไถค่าคุ้มครองจากรุ่นน้องนักศึกษาใหม่
เหมราช ศิริทรัพย์สกุล (หลุยส์) ลวนลามอนาจารนักศึกษาหญิงที่เป็นน้องใหม่ในสถาบัน
รัชชานนท์ ดำรงรักษ์สกุล (ริกเตอร์) ตัดต่อภาพแบล็กเมล์นักศึกษาหญิงที่เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว
วสุพล พิสุทธิธาดา (เวกัส) คลิปหลุดใช้ห้องพยาบาลเป็นที่ร่วมรักกับนักศึกษาหญิง ซึ่งละเมิดกฎสำคัญของสถาบันอย่างชัดเจน (บัญญัติไว้ตั้งแต่ต้นปี)
แม้จะเป็นโพสต์ในกระทู้ลับ แต่กลับถูกแชร์ต่อในกลุ่มโซเชียลของนักศึกษาในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ความลับนี้จึงกลายเป็นระเบิดตูมใหญ่ที่เกิดขึ้นในสถาบันจนคนทั้งสถาบันอึ้งไปตาม ๆ กัน
ผลกระทบนี้ทำให้คณบดีของสถาบันสั่งเรียกสอบกลุ่มที่มีรายชื่อทันทีและคณะกรรมการฝ่ายความประพฤติก็ลงมติตัดคะแนนขั้นสูงสุด บางคนโดนสั่งพักสิทธิ์กิจกรรมทุกอย่าง บางคนถูกบังคับให้เข้าร่วมโครงการบำเพ็ญประโยชน์อย่างไม่มีข้อยกเว้น ทั้งแก๊งแตกกระเจิงตามข้อกระทำผิด มีเพียงคนเดียวที่ไม่ปรากฏในรายชื่อนั่นก็คือ...ลมหนาว
ปึง!
ภายในห้องใต้ดิน ความเงียบถูกแทนด้วยเสียงปาแฟ้มใส่ผนังอย่างแรง ด้วยฝีมือของหัวหน้าแก๊งอย่างเวกัส ในขณะที่โชนฟาดหมัดลงกับโต๊ะและสบถออกมาอย่างคับแค้นใจ
“ใครมันกล้าเล่นแรงขนาดนี้วะ!!”
เวกัสยืนนิ่ง กรามขบแน่นจนขึ้นสัน ใบหน้าหล่อครุ่นคิดราวกับรู้ว่าเป็นฝีมือใคร
“ไม่ต้องเดาให้เหนื่อย…ยัยโหดนั่นแน่ ๆ”
“มีแค่คนของสภานักศึกษาเท่านั้น ที่จะสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลภายในระดับนั้นได้...มึงว่ากูพูดผิดไหมเวกัส?” หลุยส์เอ่ยถามเวกัส
“ไม่ผิด…ยัยนั่นจงใจทิ้งระเบิดตรงจุด เป็นการเปิดศึกชัดเจน” เวกัสคาดการณ์
“ที่มึงโกรธเพราะเจ็บใจที่เธอทำให้เสียภาพพจน์ความเป็นราชาของมึง…หรือมึงโกรธที่เธอรู้ว่ามึงเอาผู้หญิงไปกินในห้องพยาบาล...”
“เงียบไปเลยไอ้หนาว…ก่อนที่กูจะหมดความอดทน ไม่พูดเหมือนเดิมดีแล้วมึง...ไอ้เพื่อนเวร!” เวกัสดักคอลมหนาว เมื่อรู้สึกว่าคนพูดน้อยอย่างเขาจะเริ่มพูดมาก
“แม่ง! กูอยากรู้นัก...ว่าไอ้ตัวไหนเป็นคนมือบอนลงข่าวในโซเชียล จับได้นะ...กูจะเยสให้ Error ทั้งระบบเลย”
ริกเตอร์ลั่นวาจาอย่างเลือดเย็น เพราะสิ่งที่เขาทำ ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น แต่คนสร้างกระแสกับจงใจปั่นข่าวให้เหมือนเขากับเพื่อน ๆ ดูต่ำทรามเกินความเป็นจริง
“พวกมึงจำรอยยิ้มของยัยโหดตอนที่อยู่ในห้องประชุมได้ไหม?” โชนถาม
“รอยยิ้มที่น่าบีบคอนั่นน่ะเหรอ...ชาตินี้ทั้งชาติกูจะไม่มีวันลืมเลย”
ภาพของใบหยกยืนสงบนิ่งอย่างมั่นคง พลางจ้องตรงมาที่เขาในวันประชุมใหญ่ ด้วยแววตาไร้ความเกรงกลัวใด ๆ พร้อมแสยะยิ้มราวกับคนที่ได้รับชัยชนะ วนเวียนสลับไปมาในหัวของเวกัส จนต้องกัดฟันแน่นข่มความเดือดดาลเอาไว้
“ในเมื่อเธออยากเล่นเกมนัก ฉันก็จะเล่นกับเธอสักหน่อย...แล้วมาดูกัน ว่าคนอย่างฉัน เวลาเอาจริงมันเป็นยังไง...”
(ณ วาสุปาร์ค คอนโดหรูใจกลางเมือง ระดับ Super Luxury)
เวกัสนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ที่กำลังเข้าสู่โปรแกรมแฮ็กฐานข้อมูล ที่ไม่มีใครเข้าใช้ได้ นอกจากเขาและคนของเขาเท่านั้น
พึ่บ…
พึ่บ…
พึ่บ…
ทันทีที่เข้าใช้งานได้สำเร็จ ภาพถ่ายก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอทีละใบ ภาพเหล่านั้นคือภาพของใบหยก มีทั้งภาพในชุดมัธยม สวมแว่นทรงกลม กำลังยืนอยู่หน้าโรงเรียนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเขตชนบท และภาพใบหยกขณะกำลังล้างจานในโรงอาหารตอนปีสอง และอีกหลายภาพที่เวกัสนั่งดูด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา
“นี่มัน...เรื่องบ้าบออะไรวะเนี่ย”
ภาพของใบหยกกับพ่อ…ที่พิการแขนขาด…ในบ้านเช่าแคบ ๆ ที่ไม่มีแม้กระทั่งตู้เย็นและสิ่งอำนวยความสะดวก สลับกับภาพของเธอที่กำลังจ้องหน้าคณะกรรมการสภานักศึกษา ด้วยดวงตาที่เคลือบแฝงแรงโทสะอย่างมีอำนาจ มันขัดแย้งกันจนแทบจะหาข้อเท็จจริงไม่ได้ว่าอันไหนคือตัวเธอ
“ประธานสภา? เด็กทุนดีเด่น? แต่บ้านกลับไม่มีแม้แต่เครื่องซักผ้า…หรือตู้เย็น” เวกัสพึมพำกับตัวเอง ขณะกำลังเลื่อนดูภาพ
“เธอไม่ได้อยู่รอดเพราะโชคช่วยสินะ…สู้ชีวิตเหลือเกินยัยโหด…”
มือที่คลิกเมาส์รัว ๆ ในตอนแรกถึงกับชะงักเมื่อเบาะแสสำคัญบางอย่างถูกดาวน์โหลดเข้ามาปรากฏชัดอยู่บนหน้าจอ
“เอกสารยื่นขอสมัครการคัดเลือกเข้าฝึกงานในบริษัท วีวีไอที (VVIT) กรุป จำกัด...ลงชื่อ...ยลดา ครองฉัตร”
ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วขึ้นปม ก่อนจะทิ้งตัวพิงไปกับโซฟาอย่างครุ่นคิด
“ทำไมยัยโหดถึงอยากไปฝึกงานที่นั่น...”
นี่คือสิ่งที่เวกัสต้องหาคำตอบ แสงสว่างจากจอสะท้อนเข้าดวงตาของเวกัส ในขณะที่ภายนอกคอนโดตอนนี้ สายฝนกำลังกระหน่ำลงมาไม่หยุด หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขาเลื่อนแสดงภาพสุดท้ายขึ้นมา เป็นภาพที่ใบหยกกอดพ่อเอาไว้แน่นอย่างอบอุ่นใจ อยู่ภายในบ้านไม้หลังโทรม ๆ ตรงเขตสลัมที่แออัด
“บ้าเอ๊ย...”
แววตาของเวกัสแปรเปลี่ยนไปในทันที จนต้องรีบพับหน้าจอเพื่อปิดภาพนั้นลงไปซะ เพราะหัวใจของเขาอยู่ ๆ ก็สั่นหวิวจนเกิดความสงสาร ทั้งที่เธอคือศัตรูที่เขาควรจะจัดการให้เด็ดขาด ให้สมกับความอวดเก่งที่กล้ามาต่อกรกับเขา และแน่นอนว่ามันจะไม่จบลงง่าย ๆ ถ้าเธอไม่ยอมสยบแทบเท้าของเขาก็อย่าหวังว่าชีวิตของเธอจะสงบสุขอีกเลย...
(5ปีก่อน...)ภายในงานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัทเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือจากการจับฉลากของขวัญของพนักงานทั้งบริษัท ชายคนหนึ่งได้รับของขวัญเป็นกล่องคุกกี้หอมหวานกับตุ๊กตาหมีขนฟูตัวใหญ่เป็นรางวัล แนบมากับซองเงินโบนัสของปีนี้ ซึ่งเขาจะได้ใช้จ่ายสำหรับค่าเล่าเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา“เอาไปให้ใบหยกดีกว่า...ต้องดีใจมากแน่ๆ”เขามองตุ๊กตาในมือ พลางยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงใบหน้าของลูกสาววัย 17ปี นาน ๆ ทีพ่อที่บ้างานอย่างเขาจะได้มีของขวัญไปฝาก ลูกสาวเขาต้องดีใจมากแน่ ๆ เพียงแค่คิดเขาก็สัมผัสได้ถึงความสุขที่เต็มตื้นในหัวใจแล้วเขาวางตุ๊กตาหมีตัวนั้นไว้บนโต๊ะเอกสาร ที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ เครื่องจักรตัวใหญ่ซึ้งเขามีหน้าที่ควบคุมดูแล ก่อนจะหันไปทำงานกับเครื่องจักรอีกตัว ที่อยู่ด้านตรงข้ามกันอย่างคุ้นชินเสียงเครื่องจักรกำลังทำงาน ดังเป็นจังหวะคงที่ พร้อมกับมีเขาคอยดูแลและระบบควบคุมอยู่ไม่ห่างแต่แล้ว...กึก! ครืนนนน...ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เสียงบางอย่างก็แทรกเข้ามาในโสตประสาทของเขา จนเขาต้องรีบหันกลับไปดู และหัวใจของเขาก็เหมือนถูกบีบรัดแน่นขึ้นทันที“ฉิบหายแล้ว...”เ
เสียงส้นรองเท้ากระแทกกับพื้นไม้ของห้องใต้ดินภายในตึกวิศวกรรมเครื่องกลดังลั่น ท่ามกลางเสียงเงียบกริบที่ตึงเครียดกว่าสนามรบ สายตาทุกคู่จับจ้องร่างสูงที่เดินวนไปมาอยู่กลางห้อง พร้อมประกายความโกรธแค้นอันรุนแรง ที่ฉายชัดในดวงตาสีเข้มของเขา“แม่งเอ๊ย!!!” เวกัสสะบัดเสื้อช็อปออกจากร่าง ก่อนจะเหวี่ยงลงพื้นอย่างหัวเสีย ดวงตาคมแข็งกร้าว ราวกับจะฆ่าคนตายได้เลย“ประกาศออกไป...ใครทำให้ยัยนั่นมาสยบแทบเท้าฉันได้ ฉันจะรับเข้าแก๊งตำแหน่งที่หก...” เวกัสประกาศกร้าวด้วยน้ำเสียงจริงจังหลุยส์ถึงกับผิวปากตอบรับทันที “หัวหน้าเอาจริงว่ะ”“มันถึงเวลาแล้ว...ที่เราควรจะจัดการกับยัยนั่นให้สาสมสักที” โชนเสริม“แล้วแบบไหน...ถึงเรียกว่าสาสม” ริกเตอร์เอ่ย“จะแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น แค่ให้ยัยนั่น...ยอมก้มหัวให้ฉันก็พอ” “เล่นกับไฟ ระวังไฟไหมตัว” ลมหนาวที่นั่งเงียบอยู่มุมห้อง เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เหมือนเตือนเพื่อนว่าให้มีสติให้มากกว่านี้เวกัสหันขวับไปมองหน้าลมหนาวทันที เมื่อรู้สึกได้ถึงความเอนเอียงไปเข้าทางฝั่งตรงข้ามของเพื่อนรักอย่างลมหนาว“ถ้ายัยนั่นเป็นไฟ…ฉันก็จะเป็นน้ำมัน เผาให้มันไหม้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย”ลม
ช่วงเช้าของวันใหม่...คณะวิศวกรรมศาสตร์ยังคงวุ่นวายเหมือนเคย เสียงฝีเท้านิสิตนักศึกษาดังกระทบพื้นกระเบื้องแผ่วเบา พร้อมเสียงหัวเราะและการทักทายสลับกันไปทว่าภายในโถงล็อกเกอร์ของคณะกลับมีบางอย่างผิดปกติออกไป ทุกคนเหมือนจะมีจุดโฟกัสเดียวกันทั้งคณะ ตรงล็อกเกอร์หมายเลข 21 ซึ่งเป็นล็อกเกอร์ของประธานสภานักศึกษาสาวผู้ขึ้นชื่อในเรื่อง ‘เข้มงวดและดุดันที่สุดในรุ่น’เธอคนนั้นคือ...ใบหยก หรือ ยลดา ครองฉัตร วิศวกรรมศาสตร์เครื่องกลปีสี่ ประธานสภานิสิตนักศึกษาของ มหาวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี (EST) (ENGINERING SCIENCE AND TECHNOLOGY INSTUTE) สถาบันเอกชนขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงในระดับประเทศ ที่ใคร ๆ ต่างอยากมีชื่อเป็นหนึ่งในคนที่ได้เข้ามาเรียนที่นี่เพราะถ้าไม่ใช่ลูกหลานของคนมีชื่อเสียงโด่งดังและรวยระดับประเทศจะเข้าเรียนได้ยากมาก นอกจากจะเรียนเก่งจนสอบติดเป็นหนึ่งในกลุ่มนักเรียนทุนของสถาบันจริง ๆ คนทุนน้อยถึงจะมีโอกาสได้เรียนและใบหยกก็คือหนึ่งในนักเรียนทุนของสถาบันนั่นเอง เพราะแบบนี้เธอถึงถูกเขม่นจากกลุ่มคนที่ชอบเหยียดด้านฐานะ แต่ใบหยกก็ไม่ได้มานั่งสนใจคนพวกนั้นมาก เพราะเธอรู้สึกว่ามันดูไร้สาร
“อะ…อื้มมม…เวกัส…”เสียงครางหวานหูปนแหบพร่าดังสะท้อนในความมืดเป็นระลอก สลับกับเสียงลมหายใจหอบกระชั้น เหมือนสายฝนที่กำลังซัดกระหน่ำลงมาไม่หยุดในตอนนี้ในขณะที่ร่างกำยำของชายหนุ่มก็กำลังกระแทกความแข็งแกร่งอย่างหนักหน่วงใส่ร่างบาง ที่นอนอ่อนแรงอยู่ใต้ร่างของเขาอย่างไม่อาจหยุดยั้ง“อาส์...ฮึ่ม...” ชายหนุ่มส่งเสียงคำรามก้อง พลางขบกรามแน่นจนขึ้นสันนูน เขาต้องอดทนและอดกลั้นความต้องการให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะไม่เผลอทำให้เธอเจ็บตัว“อ๊า...เวกัส! เราเจ็บ...นายอย่าเร่งได้ไหม เราไม่ไหวแล้ว...อื้อ...”และแม้ตอนนี้ร่างกายจะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของอารมณ์ปรารถนา แต่จิตใต้สำนึกกลับบอกชายหนุ่มว่า...นั่นไม่ใช่เสียงที่ควรจะขานชื่อเขาออกมาอย่างอ่อนแรงเพราะความซาบซ่านที่เขามอบให้เพราะนั่นคือเสียงของ ใบหยก...ยัยประธานสภานักศึกษาผู้หัวแข็ง ที่เดินลากเสียงสั่งลงโทษคนของเขาแทบจะทุกครั้งที่เจอ ราวกับเธอจงใจ ที่จะกวาดล้างสมาชิกในแก๊งของเขาเธอคือคน...ที่เขาควรจะเกลียดเข้าไส้ที่สุดในตอนนี้มากกว่า...และเธอก็คือผู้หญิงที่เขาเคยป่าวประกาศว่า...“ถ้ามีแค่ยัยนี่คนเดียวในโลก กูยอมไปบวชตลอดชีวิต...ยังจะดีกว่า”แต่ทว่าต