“ประกาศออกไป...ใครทำให้ยัยนั่นมาสยบแทบเท้าฉันได้ ฉันจะรับเข้าแก๊งตำแหน่งที่หก...” เวกัสประกาศกร้าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง หลุยส์ถึงกับผิวปากตอบรับทันที “หัวหน้าเอาจริงว่ะ” “มันถึงเวลาแล้ว...ที่เราควรจะจัดการกับยัยนั่นให้สาสมสักที” โชนเสริม “แล้วแบบไหน...ถึงเรียกว่าสาสม” ริกเตอร์เอ่ย “จะแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น แค่ให้ยัยนั่น...ยอมก้มหัวให้ฉันก็พอ”
view more“อะ…อื้มมม…เวกัส…”
เสียงครางหวานหูปนแหบพร่าดังสะท้อนในความมืดเป็นระลอก สลับกับเสียงลมหายใจหอบกระชั้น เหมือนสายฝนที่กำลังซัดกระหน่ำลงมาไม่หยุดในตอนนี้
ในขณะที่ร่างกำยำของชายหนุ่มก็กำลังกระแทกความแข็งแกร่งอย่างหนักหน่วงใส่ร่างบาง ที่นอนอ่อนแรงอยู่ใต้ร่างของเขาอย่างไม่อาจหยุดยั้ง
“อาส์...ฮึ่ม...” ชายหนุ่มส่งเสียงคำรามก้อง พลางขบกรามแน่นจนขึ้นสันนูน เขาต้องอดทนและอดกลั้นความต้องการให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะไม่เผลอทำให้เธอเจ็บตัว
“อ๊า...เวกัส! เราเจ็บ...นายอย่าเร่งได้ไหม เราไม่ไหวแล้ว...อื้อ...”
และแม้ตอนนี้ร่างกายจะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของอารมณ์ปรารถนา แต่จิตใต้สำนึกกลับบอกชายหนุ่มว่า...นั่นไม่ใช่เสียงที่ควรจะขานชื่อเขาออกมาอย่างอ่อนแรงเพราะความซาบซ่านที่เขามอบให้
เพราะนั่นคือเสียงของ ใบหยก...ยัยประธานสภานักศึกษาผู้หัวแข็ง ที่เดินลากเสียงสั่งลงโทษคนของเขาแทบจะทุกครั้งที่เจอ ราวกับเธอจงใจ ที่จะกวาดล้างสมาชิกในแก๊งของเขา
เธอคือคน...ที่เขาควรจะเกลียดเข้าไส้ที่สุดในตอนนี้มากกว่า...
และเธอก็คือผู้หญิงที่เขาเคยป่าวประกาศว่า...
“ถ้ามีแค่ยัยนี่คนเดียวในโลก กูยอมไปบวชตลอดชีวิต...ยังจะดีกว่า”
แต่ทว่าตอนนี้...เธอกลับกำลังเปลือยเปล่าอยู่ใต้ร่างของเขา ขาเรียวสองข้างพันเกี่ยวที่เอวสอบ มือสองข้างจิกเกร็งที่บ่ากว้าง และส่งเสียงครางหวานหูเล็ดลอดริมฝีปากแดงระเรื่อออกมาเป็นระยะ ชวนให้เสียวซ่านจนชายหนุ่มตื่นไปทั้งตัว
ดวงตาคมเฉี่ยวที่เคยจ้องเขาอย่างเย็นชา ตอนนี้กำลังหลับพริ้มและหวานหยาดเยิ้ม แม้ขอบตาจะแดงก่ำและมีน้ำตาซึมออกมาตรงหางตาเพราะความหวาดหวั่นใจลึก ๆ ที่เธอยอมมอบใจมอบกายให้เขาเชยชม แต่การตอบสนองของเธอในทุกท่วงท่า ก็ทำให้เขาเคลิบเคลิ้มจนหยุดการกระทำนี้ ไม่ได้จริง ๆ
เขาโน้มตัวลงไปจูบเธอ ก่อนจะส่งปลายลิ้นชุ่มเกี่ยวตวัดรูดไล้ไปทั่วโพรงปากอุ่น มือเรียวของเธอเลื่อนลูบบนแผ่นหลังของเขา พร้อมเอ่ยเสียงกระซิบแผ่วเบาข้าง ๆ ใบหู
“ขยับอีกสิ…แฮ่ก ๆ ๆ อย่าหยุด…”
เสียงนั้นทั้งสั่นพร่าและปลุกเร้า ทำเอาสติสุดท้ายของเขาหลุดหาย จนต้องกระแทกสะโพกเข้าใส่เธอถี่ยิบ ความแน่นกระชับและร้อนฉ่าทำให้เขาแทบจะลืมหายใจ
“อ๊ะ...ฮื่อ...เวกัส! อ๊าาา!” ใบหยกร้องครางเสียงหลง ลมหายใจติดขัดทุกจังหวะ ยามที่เขาฝังตัวลงมาจนสุดลึก ร่างน้อยก็แทบจะขาดใจตายตรงนั้น
ตับ! ตับ! ตับ!
เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่เกิดจากการเร่งรีบ สะท้อนชัดในความเงียบ มันทั้งเร่าร้อน รุนแรง ดุดัน สลับกับอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน จนใบหยกแทบจะแยกสัมผัสเหล่านั้นไม่ถูกเลย
เขาโอบกอดเธอแน่นราวกับหวงแหน เธอจึงกระซิบใกล้หูเขาอีกครั้ง…
“เวกัส…ที่รัก…ได้โปรด...อ๊าา”
ความกังวลต่าง ๆ ที่เขาตามหาเหตุผล พลันหายไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงแค่ร่างเปลือยเปล่าสองร่าง ที่สอดผสานกันแนบแน่นอยู่บนเตียงกว้าง และโรมรันใส่กันด้วยจังหวะถี่รัว
“อื้มมม…ใบหยก…อ่าส์...” เสียงชายหนุ่มเริ่มครางต่ำในลำคอ ด้วยความเสียวซ่านที่ยากจะทนไหว
เขายังคงเดินหน้ากระแทกลำกายเข้าในตัวเธอไม่หยุด ยิ่งเธอตอบสนองด้วยเสียงครวญครางที่ดังลั่นราวจะขาดใจ เวกัสก็ยิ่งเร่งใส่ด้วยจังหวะถี่ยิบ
“งื้ออออ...เวกัส...อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊า!”
จวบจนจังหวะสุดท้ายที่เขาสอดลึกเข้าไปในร่องรักที่ตอดแน่น ทำให้เขาถึงกับแตกซ่านอยู่ภายใน ความสุขสมปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ราวกับระเบิดเวลาที่รอวันแตกกระจาย
กล้ามเนื้อแน่นหนั่นสั่นเกร็งไปทั้งตัว หัวใจก็เต้นโครมครามเหมือนจะหลุดออกมาจากอก และในวินาทีนั้นเอง...
กริ๊งงงงงงงงง!!!
เสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงก็ดังกระแทกใส่หูของเวกัสให้สะดุ้งจนต้องลุกพรวดขึ้นมาจากห้วงฝัน ดวงตาคมปรือเปิดขึ้นพร้อมลมหายใจที่ยังไม่ทันปรับจังหวะ หัวใจของเขาเต้นรัวราวกับเพิ่งวิ่งหนีอะไรมาสักอย่าง
“แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก...”
แม้ตอนนี้จะตื่นขึ้นมาเผชิญหน้ากับความจริงแล้ว แต่กลิ่นกายสาวจากในฝันยังคงวนเวียนในโพรงจมูกของเขาไม่จางหาย
ตามมาด้วยความผิดปกติ ที่ทำให้เขาต้องก้มลงไปมองที่ผ้าห่ม ถึงได้รู้ตัวว่าตรงเป้าของตนตอนนี้เปียกชื้นชัดเจนจนไม่อาจปฏิเสธความเป็นจริงได้ และแน่นอนว่ามันไม่ใช่ความเปียกแฉะของเหงื่อบนตัวแน่ ๆ แต่มันคือน้ำรักสี่ขุ่นที่เขาหลั่งออกมาจริง ๆ แถมยังหลั่งออกมาอย่างหนัก จนมันเปียกทะลุผ้าห่มยันผ้าปูที่นอน
“เชี่ย…” เขาคำรามเสียงต่ำในลำคอ พลางล้มตัวนอนหงาย มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาปิดหน้าตัวเองด้วยความอดสูใจ
“ทำไมต้องฝันถึงยัยนั่นแบบนี้วะ...แม่งเอ๊ย!”
เขาสบถออกมาอย่างหัวเสีย ทว่าภาพของร่างบางที่ครางชื่อเขาอย่างรัญจวนใจภายใต้ร่างของเขา ยังชัดเจนอยู่ในหัว จนสิ่งที่พาดอยู่กลางลำตัวกระตุกเกร็งขึ้นอีกครั้งอย่างน่าอาย
“เชี่ยเอ๊ย! ตามมาหลอกหลอนกูยันในฝัน ยัยโหดมหาประลัย...กูฝันเหี้ยอะไรวะเนี่ย...บ้าฉิบ! เอากับยัยนั่นเนี่ยนะ...”
เวกัสนั่งนึกถึงภาพความฝัน ที่เขาพึ่งผ่านมันมาเมื่อครู่อย่างใจจดจ่อ
ภาพของร่างเปลือยเปล่าสองร่างพันเกี่ยวรวมกันราวกับจิ๊กซอว์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อกันและกัน ริมฝีปากนุ่มของเขาที่แนบลงบนกลีบปากเรียวบางของเธอ พลางไล้ไปตามแนวสันกรามเบา ๆ เล่นเอาเวกัสต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เพราะร่างกายของเขาตอนนี้ตื่นเต็มขีดจำกัด จนพร้อมจะหลั่งธารรักรอบใหม่อีกครั้ง เพียงแค่นึกถึงใบหน้าดุ ๆ ของเธอ
“แค่คิดก็ขนลุก...” เวกัสสะบัดหัวไล่ความคิดนั้นออกไปจากสมอง ไม่มีทางที่คนอย่างเขาจะชอบผู้หญิงคนนั้นได้
สิ่งเดียวที่เขารู้สึกกับเธอได้ก็คือ...ความเกลียดชังเท่านั้น...
(5ปีก่อน...)ภายในงานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัทเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือจากการจับฉลากของขวัญของพนักงานทั้งบริษัท ชายคนหนึ่งได้รับของขวัญเป็นกล่องคุกกี้หอมหวานกับตุ๊กตาหมีขนฟูตัวใหญ่เป็นรางวัล แนบมากับซองเงินโบนัสของปีนี้ ซึ่งเขาจะได้ใช้จ่ายสำหรับค่าเล่าเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา“เอาไปให้ใบหยกดีกว่า...ต้องดีใจมากแน่ๆ”เขามองตุ๊กตาในมือ พลางยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงใบหน้าของลูกสาววัย 17ปี นาน ๆ ทีพ่อที่บ้างานอย่างเขาจะได้มีของขวัญไปฝาก ลูกสาวเขาต้องดีใจมากแน่ ๆ เพียงแค่คิดเขาก็สัมผัสได้ถึงความสุขที่เต็มตื้นในหัวใจแล้วเขาวางตุ๊กตาหมีตัวนั้นไว้บนโต๊ะเอกสาร ที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ เครื่องจักรตัวใหญ่ซึ้งเขามีหน้าที่ควบคุมดูแล ก่อนจะหันไปทำงานกับเครื่องจักรอีกตัว ที่อยู่ด้านตรงข้ามกันอย่างคุ้นชินเสียงเครื่องจักรกำลังทำงาน ดังเป็นจังหวะคงที่ พร้อมกับมีเขาคอยดูแลและระบบควบคุมอยู่ไม่ห่างแต่แล้ว...กึก! ครืนนนน...ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เสียงบางอย่างก็แทรกเข้ามาในโสตประสาทของเขา จนเขาต้องรีบหันกลับไปดู และหัวใจของเขาก็เหมือนถูกบีบรัดแน่นขึ้นทันที“ฉิบหายแล้ว...”เ
เสียงส้นรองเท้ากระแทกกับพื้นไม้ของห้องใต้ดินภายในตึกวิศวกรรมเครื่องกลดังลั่น ท่ามกลางเสียงเงียบกริบที่ตึงเครียดกว่าสนามรบ สายตาทุกคู่จับจ้องร่างสูงที่เดินวนไปมาอยู่กลางห้อง พร้อมประกายความโกรธแค้นอันรุนแรง ที่ฉายชัดในดวงตาสีเข้มของเขา“แม่งเอ๊ย!!!” เวกัสสะบัดเสื้อช็อปออกจากร่าง ก่อนจะเหวี่ยงลงพื้นอย่างหัวเสีย ดวงตาคมแข็งกร้าว ราวกับจะฆ่าคนตายได้เลย“ประกาศออกไป...ใครทำให้ยัยนั่นมาสยบแทบเท้าฉันได้ ฉันจะรับเข้าแก๊งตำแหน่งที่หก...” เวกัสประกาศกร้าวด้วยน้ำเสียงจริงจังหลุยส์ถึงกับผิวปากตอบรับทันที “หัวหน้าเอาจริงว่ะ”“มันถึงเวลาแล้ว...ที่เราควรจะจัดการกับยัยนั่นให้สาสมสักที” โชนเสริม“แล้วแบบไหน...ถึงเรียกว่าสาสม” ริกเตอร์เอ่ย“จะแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น แค่ให้ยัยนั่น...ยอมก้มหัวให้ฉันก็พอ” “เล่นกับไฟ ระวังไฟไหมตัว” ลมหนาวที่นั่งเงียบอยู่มุมห้อง เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เหมือนเตือนเพื่อนว่าให้มีสติให้มากกว่านี้เวกัสหันขวับไปมองหน้าลมหนาวทันที เมื่อรู้สึกได้ถึงความเอนเอียงไปเข้าทางฝั่งตรงข้ามของเพื่อนรักอย่างลมหนาว“ถ้ายัยนั่นเป็นไฟ…ฉันก็จะเป็นน้ำมัน เผาให้มันไหม้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย”ลม
ช่วงเช้าของวันใหม่...คณะวิศวกรรมศาสตร์ยังคงวุ่นวายเหมือนเคย เสียงฝีเท้านิสิตนักศึกษาดังกระทบพื้นกระเบื้องแผ่วเบา พร้อมเสียงหัวเราะและการทักทายสลับกันไปทว่าภายในโถงล็อกเกอร์ของคณะกลับมีบางอย่างผิดปกติออกไป ทุกคนเหมือนจะมีจุดโฟกัสเดียวกันทั้งคณะ ตรงล็อกเกอร์หมายเลข 21 ซึ่งเป็นล็อกเกอร์ของประธานสภานักศึกษาสาวผู้ขึ้นชื่อในเรื่อง ‘เข้มงวดและดุดันที่สุดในรุ่น’เธอคนนั้นคือ...ใบหยก หรือ ยลดา ครองฉัตร วิศวกรรมศาสตร์เครื่องกลปีสี่ ประธานสภานิสิตนักศึกษาของ มหาวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี (EST) (ENGINERING SCIENCE AND TECHNOLOGY INSTUTE) สถาบันเอกชนขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงในระดับประเทศ ที่ใคร ๆ ต่างอยากมีชื่อเป็นหนึ่งในคนที่ได้เข้ามาเรียนที่นี่เพราะถ้าไม่ใช่ลูกหลานของคนมีชื่อเสียงโด่งดังและรวยระดับประเทศจะเข้าเรียนได้ยากมาก นอกจากจะเรียนเก่งจนสอบติดเป็นหนึ่งในกลุ่มนักเรียนทุนของสถาบันจริง ๆ คนทุนน้อยถึงจะมีโอกาสได้เรียนและใบหยกก็คือหนึ่งในนักเรียนทุนของสถาบันนั่นเอง เพราะแบบนี้เธอถึงถูกเขม่นจากกลุ่มคนที่ชอบเหยียดด้านฐานะ แต่ใบหยกก็ไม่ได้มานั่งสนใจคนพวกนั้นมาก เพราะเธอรู้สึกว่ามันดูไร้สาร
“อะ…อื้มมม…เวกัส…”เสียงครางหวานหูปนแหบพร่าดังสะท้อนในความมืดเป็นระลอก สลับกับเสียงลมหายใจหอบกระชั้น เหมือนสายฝนที่กำลังซัดกระหน่ำลงมาไม่หยุดในตอนนี้ในขณะที่ร่างกำยำของชายหนุ่มก็กำลังกระแทกความแข็งแกร่งอย่างหนักหน่วงใส่ร่างบาง ที่นอนอ่อนแรงอยู่ใต้ร่างของเขาอย่างไม่อาจหยุดยั้ง“อาส์...ฮึ่ม...” ชายหนุ่มส่งเสียงคำรามก้อง พลางขบกรามแน่นจนขึ้นสันนูน เขาต้องอดทนและอดกลั้นความต้องการให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะไม่เผลอทำให้เธอเจ็บตัว“อ๊า...เวกัส! เราเจ็บ...นายอย่าเร่งได้ไหม เราไม่ไหวแล้ว...อื้อ...”และแม้ตอนนี้ร่างกายจะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของอารมณ์ปรารถนา แต่จิตใต้สำนึกกลับบอกชายหนุ่มว่า...นั่นไม่ใช่เสียงที่ควรจะขานชื่อเขาออกมาอย่างอ่อนแรงเพราะความซาบซ่านที่เขามอบให้เพราะนั่นคือเสียงของ ใบหยก...ยัยประธานสภานักศึกษาผู้หัวแข็ง ที่เดินลากเสียงสั่งลงโทษคนของเขาแทบจะทุกครั้งที่เจอ ราวกับเธอจงใจ ที่จะกวาดล้างสมาชิกในแก๊งของเขาเธอคือคน...ที่เขาควรจะเกลียดเข้าไส้ที่สุดในตอนนี้มากกว่า...และเธอก็คือผู้หญิงที่เขาเคยป่าวประกาศว่า...“ถ้ามีแค่ยัยนี่คนเดียวในโลก กูยอมไปบวชตลอดชีวิต...ยังจะดีกว่า”แต่ทว่าต
Mga Comments