Share

SECRET 4

last update Last Updated: 2025-08-14 01:16:00

(5ปีก่อน...)

ภายในงานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัทเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือจากการจับฉลากของขวัญของพนักงานทั้งบริษัท ชายคนหนึ่งได้รับของขวัญเป็นกล่องคุกกี้หอมหวานกับตุ๊กตาหมีขนฟูตัวใหญ่เป็นรางวัล แนบมากับซองเงินโบนัสของปีนี้ ซึ่งเขาจะได้ใช้จ่ายสำหรับค่าเล่าเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา

“เอาไปให้ใบหยกดีกว่า...ต้องดีใจมากแน่ๆ”

เขามองตุ๊กตาในมือ พลางยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงใบหน้าของลูกสาววัย 17ปี นาน ๆ ทีพ่อที่บ้างานอย่างเขาจะได้มีของขวัญไปฝาก ลูกสาวเขาต้องดีใจมากแน่ ๆ เพียงแค่คิดเขาก็สัมผัสได้ถึงความสุขที่เต็มตื้นในหัวใจแล้ว

เขาวางตุ๊กตาหมีตัวนั้นไว้บนโต๊ะเอกสาร ที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ เครื่องจักรตัวใหญ่ซึ้งเขามีหน้าที่ควบคุมดูแล ก่อนจะหันไปทำงานกับเครื่องจักรอีกตัว ที่อยู่ด้านตรงข้ามกันอย่างคุ้นชิน

เสียงเครื่องจักรกำลังทำงาน ดังเป็นจังหวะคงที่ พร้อมกับมีเขาคอยดูแลและระบบควบคุมอยู่ไม่ห่าง

แต่แล้ว...

กึก! ครืนนนน...

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เสียงบางอย่างก็แทรกเข้ามาในโสตประสาทของ

เขา จนเขาต้องรีบหันกลับไปดู และหัวใจของเขาก็เหมือนถูกบีบรัดแน่นขึ้นทันที

“ฉิบหายแล้ว...”

เขาสบถเสียงแผ่ว เมื่อเห็นร่างของเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่ง วัยราว ๆ 10-12ขวบปี ซึ่งไม่รู้ว่ามาจากไหน กำลังหยิบตุ๊กตาหมีของเขายัดเข้าไปในช่องฟันเฟืองของเครื่องจักรที่กำลังหมุนด้วยแรงมหาศาล

ดวงตาคมเบิกโตจนสั่นเทาไปทั้งร่าง ก่อนจะรีบกระโจนพรวดเข้าไปดึงเด็กคนนั้นออกมา เพราะมือน้อย ๆ ของเธอกำลังจะถูกดูดเข้าไปข้างใน

“เฮ้ย! แม่หนูอย่า!” เสียงตะโกนของเขาแผดดังออกมาด้วยสัญชาตญาณ ที่รับรู้ได้ถึงอันตราย มือขวาของเขากระชากแขนเล็กของเด็กน้อยคนนั้นออกมาได้ทัน แต่แรงหมุนของเครื่องจักรกลับตวัดรัดเอาแขนซ้ายของเขาเข้าไปแทน

“กรี๊ด!!!!!!”

“อร๊ากกก...”

เสียงโลหะหนักที่บดท่อนแขนของเขาดัง ก๊อบ! แก๊บ! ชัดเต็มโสตประสาท ความเจ็บปวดแผ่ซ่านราวกับไฟที่ลุกจากปลายนิ้วแล้ววิ่งเข้าสู่หัวใจ

สายตาของเขาพร่ามัว แต่ยังโอบกอดเด็กน้อยไว้แน่น ป้องกันไม่ให้แม้แต่เศษโลหะแตะต้องโดนร่างของเธอ

ภาพสุดท้ายก่อนหมดสติคือเลือดสีเข้มไหลรินลงบนพื้นคอนกรีต และตุ๊กตาหมีของลูกสาวที่ขาดวิ่นและตกกลิ้งไปไกล ขนสีขาวของมันเปื้อนเลือดของเขาจนแดงเถือกไปทั้งตัว ก่อนสติสุดท้ายจะมืดมนและดับวูบไป...

นายบุญชัยลืมตาขึ้นมาเผชิญหน้ากับปัจจุบัน พลางถอนหายใจออกมาแผ่วเบา เขาก้มลงมองแขนซ้ายของตนที่เหลือความยาวเพียงข้อศอก รอยตัดเย็บที่เรียบกริบเป็นร่องรอยจากคมมีดของหมอ ที่จำเป็นต้องตัดเนื้อร้ายซึ่งโดนปั่นจนกระดูกแหลกละเอียดออกเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้

แต่ทว่าหัวใจยังคงเจ็บปวด...ไม่ใช่เพราะแขนที่เสียไป แต่เพราะเขาไม่เคยรู้แม้กระทั่งชื่อของเด็กคนนั้น เด็กที่เขาเสี่ยงชีวิตช่วยไว้จนชีวิตของเขาตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ แต่พ่อแม่ของเด็กคนนั้นกลับไม่ได้มาถามไถ่หรือแสดงตัวใด ๆ จนตอนนี้

เหตุการณ์ครั้งนั้นพลิกผันชีวิตของเขาให้ดิ่งลงสู่ก้นเหวที่สูงชัน เขากลายเป็นผู้พิการแขนขาดไร้การเยียวยา ไร้หน้าที่การงาน แถมยังถูกโกงเงินประกัน จนลำบากลูกเมีย เงินเก็บที่เอาไว้ให้ลูกเรียนต้องก็เจียดมาใช้จ่ายเป็นค่ารักษาของตน จนอนาคตของลูกแทบจะริบหรี่ เคราะห์ซ้ำกำซัด...ภรรยาที่รักก็ป่วยเพราะตรอมใจจนชิงจากโลกนี้ไปก่อน เหลือเพียงเขากับลูกสาวที่ต้องสู้กันต่อไป

แต่หากย้อนกลับไปในวันนั้นอีกครั้ง เขาก็คงเลือกที่จะช่วยเด็กคนนั้นอยู่ดี เพราะเขาคงปล่อยให้เด็กคนนั้น ถูกเครื่องจักรดูดเข้าไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้เช่นกัน

“อย่างน้อย…พ่อก็ยังได้กลับมาหาใบหยกของพ่อ” เขาพึมพำกับตัวเอง พลางยกยิ้มบางเบา แม้มันจะเป็นรอยยิ้มที่เคลือบด้วยรสขมปร่าของอดีตที่ผ่านมาก็ตาม

ภายในบ้านเช่าหลังเล็ก ๆ ในชุมชนเก่า ๆ ที่แออัด เสียงพัดลมตัวเก่าโคลงเคลงอยู่บนเพดานเหนือหัว โต๊ะไม้สีหม่นมีแก้วน้ำสองใบและกับข้าวจานเดียววางอยู่ตรงกลาง

ใบหยกนั่งลงตรงข้ามผู้เป็นพ่อ มือเรียวยังจับปากกาและแฟ้มเอกสารที่หอบกลับมาจากมหาวิทยาลัย เพื่อมาทำต่อที่บ้าน

บุญชัยผู้เป็นพ่อหันมามองหน้าลูกสาว ก่อนจะยิ้มหน้าระรื่นราวกับมีความสุข ที่ได้เห็นถึงความเพียรพยายามของลูกสาว

“ทำไมวันนี้กลับค่ำอีกแล้วล่ะลูก”

ใบหยกวางแฟ้มลงบนโต๊ะ พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

“มีประชุมโปรเจกต์ค่ะ ปีนี้ต้องทำเป็นกลุ่มด้วย…หนูไม่ถนัดเลย”

“อ้าว...แล้วเมื่อก่อนหนูทำยังไง?” ผู้เป็นพ่อเลิกคิ้ว และเอียงคอมองลูกสาวด้วยความไม่เข้าใจ

“เมื่อก่อนทำคนเดียวค่ะ ก็เลยได้แบบที่คิดไว้ เพราะไม่ต้องขัดกับใคร แต่ปีนี้…ต้องฟังความคิดเห็นของหลายคน แล้วก็ต้องทำให้คนอื่นพอใจด้วย...ยากกว่าทำงานคนเดียวซะอีก” เสียงเธอแผ่วลง ราวกับเจอโจทย์ที่ยากขึ้นจริงๆ

“มันเหนื่อยใช่ไหมลูก?” บุญชัยเอ่ยถาม ด้วยความเป็นห่วงลูกสาว

“มันเหนื่อย…แต่ก็ต้องทำค่ะ เพราะถ้าทำสำเร็จ หนูจะมีโอกาสได้ทุนเพิ่ม…แล้วก็จะได้ไปฝึกงานที่VVIT”

ใบหยกพูดด้วยน้ำเสียงที่เชื่อมั่น ว่าเธอจะต้องทำมันให้สำเร็จ คนเป็นพ่อจึงยื่นแขนข้างที่โดนตัดขาดทางด้านซ้าย เอื้อมมาแตะที่หลังมือของเธอเบา ๆ เพื่อเป็นการให้กำลังใจ

“VVITนี่...ใช่บริษัทที่...” บุญชัยเอ่ยถึงบริษัทที่เขาไม่เคยลบลืมจากความทรงจำ แม้มันจะผ่านมานานหลายปี แต่ชื่อบริษัทนี้กับติดตรึงอยู่ในใจเขาไม่เคยลืม ภาพความทรงจำที่มีทั้งดีและแย่แทรกซึมเข้ามาในหัว จนเขาเกิดความกังวลใจ หากลูกสาวสุดที่รักต้องเข้าไปอยู่ในที่แห่งนั้น

“ใช่ค่ะ...” ใบหยกตอบ พลางทอดสายตามองผู้เป็นพ่อนิ่งนาน พลางกวาดสายตาหม่นมองไปที่แขนข้างซ้ายของพ่อ ที่ถูกตัดตรงข้อศอกเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ ภาพของพ่อในวันนี้ มันยิ่งทำให้ใบหยกอยากก้าวข้ามขั้นตอนทุกอย่างเข้าไปในบริษัทนั้นด้วยซ้ำ แต่เธอก็จำเป็นต้องมีสติและใจเย็นกับมันให้มาก เพื่อไม่ให้ความตั้งใจที่เธออดทนรอมานานต้องสูญเปล่า

“...บริษัทที่ทำให้พ่อต้องเป็นแบบนี้ บริษัทที่โกงเงินประกันของพ่อ…จนแม่...ฮึก! ต้องตรอมใจตาย” ใบหยกพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แววตาสั่นระริกทุกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต

ความเงียบงัน แทรกซึมเข้ามาชั่วขณะ มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสองพ่อลูก ที่กำลังนั่งมองหน้ากัน แววตาแฝงลึกไปด้วยความเจ็บปวดคับแค้นใจ

“แล้วลูก...ยังอยากจะไปฝึกงานที่นั่นอีกเหรอ?”

“ค่ะ...เพราะหนูอยากเข้าไปดูว่าใครที่ทำให้พ่อไม่ได้รับความยุติธรรม…ใครที่มันโกงเงินประกันของพ่อและใครที่มันทำให้พ่อต้องเป็นแบบนี้...หนูจะหาทางเอาคืนมันให้สาสม”

ใบหยกมีแววคับแค้นใจฉายชัดอยู่ในดวงตา จนบุญชัยผู้เป็นพ่อแอบห่วงลูกสาว ว่าลูกจะทำอะไรที่นำอันตรายมาถึงตัว เขาจึงแกล้งหัวเราะขึ้นเบา ๆ ราวกับว่าเขาไม่ได้ติดใจอะไรกับเรื่องนี้แล้ว

“เฮ้อ! ลูกสาวพ่อนี่มันดื้อจริง ๆ อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะลูก...พ่อไม่ติดใจเอาความอะไรทั้งนั้นแหละ”

“พ่อไม่เอาความ...แต่หนูเอา...หนูไม่ยอมปล่อยผ่านง่าย ๆ หรอก...แล้วพ่อก็ไม่ต้องมาห้ามหนูด้วย...”

ใบหยกยังคงยืนยันในอุดมการณ์ของตัวเอง จนคนเป็นพ่อได้แต่ส่ายหัวแล้วก็แกล้งทำเสียงประชดประชัน

“เฮ้อ...นี่ถ้าพ่อรู้ว่าพ่อมีลูกสาวขาลุยขนาดนี้นะ พ่อจะไปต่อแขนเหล็กซะ จะได้เอาไปฟาดไอ้คนที่มันกล้าทำลายชีวิตครอบครัวเรา...ลูกว่าดีไหม?”

ใบหยกถึงกับหลุดหัวเราะ ทั้งที่ตากำลังแดงก่ำเพราะจะร้องไห้อยู่แล้ว แต่พ่อของเธอก็เป็นซะอย่างนี้ ทุกอย่างในชีวิตคือเรื่องเล็กน้อยสำหรับพ่อเสมอ...เพราะพ่อของเธอคือคนที่เข้มแข็งที่สุดในโลกแล้ว

“พ่อเนี่ยนะ…จะใส่แขนเหล็ก? เดี๋ยวก็ได้ล้มหัวฟาด เพราะหนักแขนอีกหรอก”

ใบหยกแกล้งพูดล้อเล่นกับพ่อ เพราะเธอเองก็รู้ว่าพ่อของเธอแกล้งพูดเพื่อให้เธอสบายใจเช่นกัน

“จะไปยากอะไร...พ่อก็ล้มใส่มันไปเลยไง จะได้หัวฟาดทั้งคู่” พ่อแกล้งทำหน้าทะเล้น

เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังขึ้นในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่แม้ผนังด้านนอกจะได้ยินเสียงทะเลาะกันของเพื่อนบ้าน เสียงรถเก่า ๆ วิ่งผ่านตรอกซอย แต่ในพื้นที่เล็ก ๆ นี้ กลับมีเพียงรอยยิ้มที่พ่อพยายามมอบให้ลูกสาว ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังกับเธอราวกับให้กำลังใจ

“ใบหยก…พ่อรู้ว่าลูกเหนื่อย แต่พ่อเชื่อว่าลูกจะต้องทำได้สำเร็จเหมือนทุกครั้ง และพ่อจะอยู่ตรงนี้เสมอ พ่อจะรอดูความสำเร็จของหนูนะลูก”

ใบหยกพยักหน้าเบา ๆ พลางยิ้มออกมาอย่างปลื้มปริ่มในหัวใจ

“ค่ะพ่อ...หนูจะทำให้ดีที่สุด…เพื่อตัวเอง...และเพื่อพ่อนะ”

สองพ่อลูกปลอบโยนกันด้วยอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น และเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ไม่ว่าทั้งคู่จะต้องเจอความลำบากมามากแค่ไหน แต่ครอบครัวนี้ก็ยังอบอุ่น และเป็นที่พึ่งทางใจให้กับทั้งใบหยกและพ่อเสมอ...

ศรีสวาท

สวัสดีค่ะ ไรท์ศรีสวาท นะคะ พาเวกัสกับใบหยกมาขอความเอ็นดูจากคุณรี๊ดบ้านgood ฝากเอ็นดูลูก ๆ ของไรท์ด้วยนะคะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณรี๊กทุกท่านจะถูกใจและมีความสุขกับนิยายของไรท์นะคะ ฝากติดตามเป็นกำลังใจไรรท์ด้วยนะคะ

| Like
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สยบรักวิศวะตัวแรง[ ENGINEER'S SECRET ]   SECRET 18

    หลายวันต่อมา...ขณะที่ใบหยกกับคณะกำลังร่วมประชุมหาลือกันในเรื่องโปรเจกต์อยู่นั้น ฝนห่าใหญ่ก็กระหน่ำลงมาอย่างไม่มีความปรานี ท้องฟ้าที่เคยแดดจ้ากลับมืดครึ้มจนดูน่ากลัว ราวกับสวรรค์จงใจจะใช้พายุฝนมาทดสอบความสามารถของทุกคนในไซต์งานแห่งนี้ครื้นนนน!!!เสียงฟ้าร้องคำรามประสานเข้ากับแรงลมที่โหมซัด จนผ้าใบกันแดดปลิวสะบัดไปตามทิศทางลม โครงเหล็กสูงตระหง่านที่กลุ่มวิศวกรรมโยธาร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้นกว่าครึ่งทาง สั่นไหวอย่างแรงจนโคลงเคลงเห็นได้ชัด“เฮ้ย! นที...ดูนั่น!” กลุ่มวิศวกรรมโยธาต่างกรูเข้ามารวมกันที่หน้าต่างห้องประชุม เพื่อที่จะดูว่าโครงสร้างที่พวกเขาช่วยกันทำไว้ จะรอดพ้นจากพายุร้ายที่กำลังโหมกระหน่ำในตอนนี้หรือไม่ใบหยกที่ยืนอยู่ใต้ชายคาอาคารเดียวกันกับทุกคนในกลุ่ม สองมือกำเข้าหากันแน่น ดวงตากลมสั่นระริกเต็มไปด้วยแววแห่งความหวาดกลัว“ได้โปรด…อย่าพังนะ…”คำภาวนานั้นดังก้องอยู่ในใจของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับบทสวด แต่แล้วในเวลาต่อมาก็เกิดเสียงดังสนั่นออกมาจากฐานเหล็กด้านล่าง ตรงจุดที่น่านนทียืนยันนักหนาว่าแข็งแรงตามแบบฉบับ แต่มาตอนนี้กลับแตกร้าวเสียงดัง และเพียงไม่กี่นาทีต่อจากนั้น โครงสร้า

  • สยบรักวิศวะตัวแรง[ ENGINEER'S SECRET ]   SECRET 17

    เช้าวันต่อมา...รถหรูของเวกัสแล่นเข้ามาจอดรถหน้าบ้านของใบหยกตั้งแต่เช้า พอพ่อของเธอออกมาเห็นก็ยิ้มรับอย่างเอ็นดู ก่อนจะตะโกนเรียกลูกสาวให้รีบออกมา ใบหยกที่ยังมึน ๆ งง ๆ เลยต้องยอมขึ้นรถมากับเขา เพราะไม่อยากให้พ่อตั้งคำถาม แต่ในใจก็คิดอยู่ตลอดเวลาว่า...ทำไมเขาต้องอยากมารับมาส่งเธอแบบนี้ด้วยทว่าพอรถเคลื่อนออกไปได้ไม่นาน ใบหยกก็หันไปต่อว่าเขาทันทีเพราะแทนที่เขาจะพาไปดูงาน แต่กลับพาเธอมาที่ร้านอาหาร“ฉันจะไปดูงาน ไม่ได้จะมากินข้าวนะ” เวกัสเหลือบสายตาคมมามองเธอเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“ถ้าเธอไม่กินข้าว ร่างกายจะไม่ไหว งานก็ไม่เดิน แล้วสุดท้ายเธอจะกลายเป็นภาระของกลุ่ม”คำพูดหนักแน่นนั้นทำให้ใบหยกเงียบไป เธอรู้ดีว่าที่ผ่านมาเธอดื้อกับร่างกายตัวเองเกินไป จึงจำใจต้องเดินตามเขาเข้าไปในร้านอาหาร บรรยากาศภายในหรูหรามาก จนเธอได้แต่คิดในใจว่าจะเอาปัญญาที่ไหนมาจ่ายพอมานั่งลงบนโต๊ะอาหาร เขาก็สั่งอาหารมาหลายอย่างมาก และอาหารทั้งหมดล้วนเป็นเมนูพิเศษที่เธอแทบไม่เคยได้ลิ้มรสมาก่อน ใบหยกจึงหันไปต่อว่าเขา“นายสั่งเยอะไปหรือเปล่า เยอะขนาดนี้กินไม่หมดหรอก”“กินเท่าที่ไหว เหลือก็ห่อกลับ”

  • สยบรักวิศวะตัวแรง[ ENGINEER'S SECRET ]   SECRET 16

    ในห้องโดยสารที่มีเพียงเสียงเครื่องยนต์กับจังหวะหายใจของทั้งสอง บรรยากาศกลับเงียบกว่าที่ควรจะเป็น ใบหยกนั่งตัวเกร็ง มือกำชายกระโปรงไว้แน่น พยายามไม่เหลือบสายตาไปมองคนข้าง ๆ แต่กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ที่โชยมาจากร่างสูงกลับก่อกวนหัวใจของเธอให้เต้นระส่ำทว่าเงียบได้ไม่นานนัก รถก็เกิดเบรกกะทันหัน เพราะมีมอเตอร์ไซค์ตัดหน้า ร่างเล็กของใบหยกเกือบจะโผไปชนคอนโซลข้างหน้า โชคดีที่แขนแกร่งของเวกัสคว้าตัวเธอเอาไว้ได้ทัน“ระวังหน่อยสิ!” ใบหยกอุทานทั้งตกใจทั้งเขิน รีบสะบัดแขนเขาออก แต่เวกัสกลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วใช้โอกาสนั้นโอบรอบเอวเธอแทน ก่อนจะดึงตัวเธอเข้ามาใกล้ จนแนบชิดอกแกร่ง“เฮ้! ปล่อยนะ” เธอโวยเสียงดัง ทั้งที่แก้มยังแดงจัดแต่แทนที่จะปล่อย เขากลับเอนตัวนิด ๆ มองตรงไปข้างหน้าอย่างใจเย็น “นั่งเฉย ๆ จะได้ไม่เจ็บตัว”ใบหยกถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง เพราะไม่อยากปะทะกับเขาตอนนี้ ร่างกายเธอไม่มีแรงจะทำศึกกับใคร เลยต้องยอมปล่อยเลยตามเลย ทว่าคนข้าง ๆ กลับแอบอมยิ้มบาง ๆ มุมปากยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัวกระทั่งรถหรูแล่นเข้ามาจอดตรงหน้าปากซอยซึ่งเป็นทางเข้าบ้านของเธอ เวกัสก็เดินลงมาเปิดประตูให้ราวกับสุภาพบุรุ

  • สยบรักวิศวะตัวแรง[ ENGINEER'S SECRET ]   SECRET 15

    เสียงเครื่องมือก่อสร้างดังระงม ตลอดแนวพื้นที่สำหรับสร้างโปรเจกต์หอนาฬิกา เสียงเหล็กกระทบกับค้อนผสานกับเสียงหัวเราะหยอกล้อกันของเหล่านักศึกษาที่ร่วมแรงร่วมใจ ท่ามกลางแสงแดดแรงที่สาดแสงจนพื้นคอนกรีตร้อนระอุ แต่ใบหยกกับกลุ่มวิศวกรรมโยธาของน่านนทีกลับกำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ทุกคนแทบจะกินนอนอยู่ตรงไซต์งาน หอบโน้ตบุ๊กมาวางตรงม้านั่งยาวเพื่อปรับแบบ ตรวจเช็กสัดส่วน และแก้ไขรายละเอียดตามความเป็นจริง และทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยพักบ้าง ทำบ้าง สลับกันไป แต่ใบหยกกลับเป็นคนที่ไม่เคยหยุดพัก เธอคอยจด คอยตรวจเช็กและแก้ไข เพื่อปรับให้โครงสร้างสมบูรณ์ลงตัว เสมือนพลังงานในร่างของเธอไม่มีวันหมด“ใบหยก หยุดพักก่อนเถอะ แดดมันแรงนะ”มินตราเอ่ยเตือนพร้อมยื่นขวดน้ำและข้าวกล่องมาให้เธอ แต่เจ้าของร่างเล็กกลับทำเพียงส่ายหน้า ยิ้มบาง ๆ แล้วหันกลับไปจ้องแปลนที่อยู่ในมือต่อเพื่อน ๆ ต่างรู้ว่าเธอทุ่มเทที่สุด เพราะนี่ไม่ใช่แค่โปรเจกต์ธรรมดา แต่มันคือความฝันที่เธออยากให้เป็นสัญลักษณ์ของสถาบัน เป็นร่องรอยที่เธอจะฝากเอาไว้ทว่า…ร่างกายที่ไม่ได้พักก็มีขีดจำกัดบ่ายวันนั้

  • สยบรักวิศวะตัวแรง[ ENGINEER'S SECRET ]   SECRET 14

    ห้องออกแบบเงียบสงบ หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น ทุกคนทยอยกลับกันหมดแล้ว เหลือเพียงใบหยกที่นั่งอยู่กลางโต๊ะ ก้มหน้าขีดเขียนแก้ไขแปลนงานอย่างตั้งอกตั้งใจ แสงไฟจากโคมเพดานส่องลงมาบนใบหน้าของเธอ ทำให้ดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายเปล่งสว่างยิ่งกว่าแสงไฟใด ๆเธอยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่อมองแปลนที่ปรับแต่งจนเสร็จสมบูรณ์ รอยยิ้มสดใสที่ดูมีความสุขผุดขึ้นเล็กน้อย เพียงเพราะได้เห็นผลงานของตัวเองเป็นรูปเป็นร่างจนเสร็จสมบูรณ์แต่ใบหยกกลับไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ได้มีร่างสูงของใครคนหนึ่งกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้เธอจากทางด้านหลังอย่างเงียบ ๆ ฝีเท้าที่ย่างยกเข้ามาลงน้ำหนักเบา ๆ จนแทบไม่เกิดเสียงจนกระทั่ง...ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดต้นคอขาวเนียน ใบหยกสะดุ้งเฮือก รีบหันขวับไปมองทันที และสิ่งที่เธอได้เห็นก็คือใบหน้าคมคายของเวกัส ที่อยู่ใกล้จนเหลือเพียงคืบเดียวหัวใจของเธอเต้นรัว มือไม้ไร้เรี่ยวแรงจนแทบล้ม แต่เวกัสกลับรวบร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดได้ทัน พลางกระซิบเสียงทุ้มแผ่วเบาชิดข้างใบหูของเธอ“อยู่คนเดียวแบบนี้ไม่ดีนะรู้ไหม หืม?”“นะ...นายจะทำอะไร?”ใบหยกถึงกับสั่นไปทั้งตัว เธอรีบใช้แรงทั้งหมดที่เหลือดันแผงอกของเขาให้ออกห่าง

  • สยบรักวิศวะตัวแรง[ ENGINEER'S SECRET ]   SECRET 13

    เวลานี้ที่ห้องประชุมใหญ่ของสถาบันดูคึกคักมากกว่าปกติ เพราะวันนี้...เป็นวันแรกที่กลุ่มสภานักศึกษาของใบหยก ได้ร่วมโต๊ะทำงานกับกลุ่มวิศวกรรมโยธาที่จะรับผิดชอบด้านการก่อสร้างชิ้นงานกระทั่งได้เวลาประชุม กลุ่มวิศวกรรมโยธาก็เดินเข้ามาทีละคน ร่างสูงล้วนอยู่ในเสื้อช็อปที่ดูทะมัดทะแมง“สวัสดีครับ!!!” เสียงทักทายเต็มไปด้วยพลัง ราวกับคนที่คุ้นเคยกับสนามงานจริง“สวัสดี…ผมเป็นหัวหน้าทีมที่จะดูแลการก่อสร้างชิ้นงานของโปรเจกต์นี้ ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับ”นที หรือ น่านนที หัวหน้าทีมวิศวะโยธา หนุ่มร่างสูงผิวขาว ดวงตาคมทว่าเต็มไปด้วยความอบอุ่น กล่าวทักทายทีมของใบหยก ใบหน้าหล่อยกยิ้มบาง ๆ ก่อนยื่นมือออกมาข้างหน้า ใบหยกชะงักเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นไปจับมือเขาตอบอย่างสุภาพ“ค่ะ…ใบหยกค่ะ ประธานสภานักศึกษา และหัวหน้าทีมออกแบบ”“อะแฮ่ม...” เสียงกระแอมเบา ๆ ของวิเวียนดังขึ้น พร้อมสายตาเจ้าเล่ห์ที่ทอดส่งมาแซวใบหยก จนเธอต้องรีบดึงมือกลับมา ส่วนมินตราก็อมยิ้มราวกับกำลังสนุกกับบรรยากาศตรงหน้า แต่ใบหยกพยายามไม่ใส่ใจแบบแปลนหอนาฬิกาขนาดใหญ่ถูกนำออกมากางบนโต๊ะตัวยาว ที่มีแสงไฟสะท้อนเส้นลายดินสอที่วาดไว้อย่างพิถีพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status