สามวันต่อมา...
ธารทีราเดินลงมาจากห้องนอนด้วยชุดกระโปรงที่ดูสุภาพเรียบร้อย เนื่องจากวันนี้เธอจะไปที่โรงพยาบาลเพื่อรายงานตัวเป็นวันแรก
เมื่อมีเสียงฝีเท้าเดินลงบันได คุณหญิงโสภาที่นั่งจิบกาแฟอยู่ในห้องอาหารก็หันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นลูกสาวจึงเอ่ยทัก
“ทำไมตื่นเช้าจังเลยลูก”
“คุณแม่ก็ตื่นเช้าเหมือนกันนะคะ”ธารทีรายิ้มหวาน แล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ แม่
“แล้วนี่แต่งตัวสวยอย่างนี้ จะไปทำงานเหรอลูก”
คุณหญิงเอ่ยถาม เพราะมองเสื้อผ้าที่ลูกสาวใส่ในเช้าวันนี้ดูจะเรียบร้อยผิดปกติ
“ใช่ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับ แล้วหันไปเอ่ยขอบใจเด็กรับใช้ที่ยกอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้เธอ
“ไปคนเดียวหรือลูก”
“ค่ะ”
“แม่ว่าอย่าไปคนเดียวเลยลูก ให้พี่เขาไปเป็นเพื่อนนะ”
“วันนี้วันหยุดพักผ่อนของพี่ซีล ไอซ์ไม่อยากรบกวนค่ะ”
ธารทีรายิ้มให้แม่พร้อมกับเอ่ยปฏิเสธ เนื่องจากอยากไปทำงานตามลำพัง
“ได้ไงลูก” คุณหญิงโสภาทำเสียงดุลูกสาว ก่อนจะหันไปสั่งเด็กรับใช้
“นี่ดวงใจขึ้นไปดูคุณซีลซิว่าตื่นหรือยัง”
ด้านธารทีรา เมื่อเห็นคนรับใช้กำลังจะทำตามที่มารดาบอกก็รีบร้องห้าม
“พี่ดวงใจไม่ต้องขึ้นไปปลุกพี่ซีลหรอก พี่มีอะไรก็ไปทำเถอะค่ะ”
“เอ่อ...ค่ะคุณไอซ์” ดวงใจทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะทำตามคำสั่งของใคร แต่เมื่อได้สบตาดุ ๆ ของธารทีราแล้วก็รีบขานรับและเดินออกไป
“ทำไมดื้ออย่างนี้นะ”
คุณหญิงตำหนิลูกสาว หลังจากเด็กรับใช้ออกไปแล้ว
“ไอซ์ไปรายงานตัวคนเดียวได้ค่ะคุณแม่”
เห็นแม่มีสีหน้าเป็นกังวลจึงเอ่ยเสียงหวาน เพราะเธอรู้ดีว่าท่านเป็นห่วง
“งั้นแม่…”
หญิงสาวเดาได้ว่ามารดาคงจะขอไปด้วย จึงรีบพูดแย้งขึ้นอย่างรวดเร็ว
“คุณแม่ขา ไอซ์ไปคนเดียวได้ค่ะ คุณแม่ไม่ต้องไปกับหนูหรอก ไม่ต้องห่วงนะคะ รับรองว่าหนูจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเลยค่ะ”
“จะ…” คุณหญิงโสภาไม่ทันได้เอ่ยบอกลูกสาวว่า ‘จะไม่ให้แม่ห่วงได้ไง’ เสียงของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา และทำให้ท่านยิ้มออกทันที
“เดี๋ยวผมไปกับน้องเองครับคุณแม่” หนึ่งนทีเอ่ยขณะก้าวเข้ามาในห้องอาหาร ชายหนุ่มเดินเข้ามาหอมแก้มมารดา พร้อมกับนั่งลงข้างน้องสาวของตน
“พี่ซีล”ธารทีราทำหน้างอใส่พี่ชาย เมื่ออีกฝ่ายยกมือขึ้นมายีผมของเธอเล่น
“ดีเลยซีล พาน้องไปนะลูก แม่จะได้อุ่นใจ”
คุณหญิงสนับสนุนลูกชายทันที
“ครับ” หนึ่งนทีขานรับ แล้วหันไปทำหน้าทะเล้นใส่น้องสาว ที่เขาได้แกล้งทำให้ผมยาวสลวยสีทองของน้องยุ่งเหยิง จนอีกฝ่ายต้องรีบจัดทรงให้ดี
“วันหยุดพักผ่อนของตัวเองทั้งทีน่าจะพักอยู่บ้านสิคะ ทำไมต้องลำบากตามไอซ์ไปด้วย” ธารทีราบ่นพี่ชาย พร้อมทั้งใช้มือสางผมของตัวเองให้อยู่ทรง
“ให้พี่เขาพาไปด้วยนั่นแหละดีที่สุดแล้วลูกแม่”
“ค่ะ แล้วนี่คุณพ่อล่ะคะ” เธอไม่อยากขัดใจมารดาจึงเปลี่ยนเรื่องคุย หญิงสาวถามหาบิดา เพราะตั้งแต่ลงมานั่งกินข้าวจนใกล้จะอิ่มแล้วก็ยังไม่เห็นท่านเลย
“ไปธุระตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ” คุณหญิงโสภาบอกลูกสาว แล้วตะโกนเรียกเด็กรับใช้ให้ยกอาหารเช้ามาให้ลูกชาย
“นี่คุณพ่อตื่นเช้ากว่าไอซ์อีกเหรอคะ” หญิงสาวมองนาฬิกาที่ตัวเองใส่อยู่ พร้อมกับเงยหน้ามองมารดากับพี่ชายสลับกันไปมา
“จ้ะ” คุณหญิงโสภาพยักหน้าให้ลูกสาว
“พี่ซีลไม่พักจริง ๆ เหรอคะวันนี้” หญิงสาวถามย้ำ ด้วยหวังว่าพี่ชายจะเปลี่ยนใจ เธอจะได้ไปรายงานตัวเข้าทำงานตามลำพังอย่างที่ตั้งใจเอาไว้แต่แรก
“ไม่ล่ะ วันนี้พี่จะเกาะติดและเป็นบอดี้การ์ดให้เรานะ”
หนึ่งนทียิ้มกวน ๆ ใส่น้องสาว
“ชิ!” คำพูดติดตลกและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของพี่ชาย ทำให้ธารทีราถึงกับทำเสียงขึ้นจมูกและย่นหน้าใส่เขา
“เอาละๆ อย่าทะเลาะกันเลยลูก กินข้าวได้แล้ว จะได้รีบไปทำงาน”
“ครับ/ค่ะ” ทั้งคู่รีบขานรับ เมื่อได้ยินเสียงดุของมารดา
เมื่ออิ่มกันแล้ว ทั้งสองก็เอ่ยลาคุณหญิงเล็กน้อย จากนั้นก็พากันเดินไปขึ้นรถ เพื่อตรงไปยังโรงพยาบาล
ตลอดสามสิบนาทีที่ขับรถออกจากบ้าน หนึ่งนทีคอยลอบมองน้องสาวเป็นระยะ เพราะหญิงสาวเอาแต่นั่งเงียบ จนเขาต้องเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาว่า
“หลังจากรายงานตัวเสร็จแล้ว เดี๋ยวพี่จะพาเราไปดูรถนะ”
“ยังไม่ถึงวันก็เบื่อที่จะขับรถให้ไอซ์นั่งแล้วเหรอคะ”
ธารทีราพูดเสียงประชด โดยไม่ยอมหันไปมองหน้าพี่ชาย เพราะยังเคือง ๆ เรื่องที่เขาตามติดเธอแจแบบนี้
“พูดแบบนี้อยากให้พี่ตามแจจริง ๆ เหรอ” หนึ่งนทีทำเสียงกวน ๆ ถามน้องสาวทั้งที่กำลังขับรถและมองไปยังถนนข้างหน้า
“โน ๆ ค่ะ”หญิงสาวรีบปฏิเสธทันที
“ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวพี่จะแนะนำให้เรารู้จักใครคนหนึ่ง”
“ใครเหรอคะ”
“คนที่จะมาดูแลเราน่ะสิ” ชายหนุ่มพูดพลางหันไปสบตาน้องสาวนิ่ง ๆ ในขณะที่รถกำลังติดไฟแดง
บทที่ 22ธารทีราไม่ตอบ เธอแค่เพียงพยักหน้าให้พี่ชาย แล้วหันหน้าไปมองรถมากมายที่ขับแซงรถของหนึ่งนทีขึ้นไปผ่านกระจกรถด้านข้างเมื่อไฟเขียวปรากฏขึ้น ชายหนุ่มก็ขับรถตรงไปข้างหน้า ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เขาก็พาน้องสาวมาถึงโรงพยาบาล ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวหนึ่งนทีจอดรถตรงส่วนที่เป็นช่องจอดสำหรับ VIP และก่อนที่จะลงจากรถเพื่อไปเปิดประตูให้น้องสาว ชายหนุ่มก็เอ่ยถามคนข้างกายด้วยความห่วงใย“โอเคไหม”“สบายมากค่ะ” ธารทีราทำหน้าตาสบาย ๆ แล้วลงจากรถเมื่อพี่ชายมาเปิดประตูให้“โอเค ถ้างั้นพี่จะไปรอเราที่ห้องผู้บริหารนะ” ชายหนุ่มพยักหน้าให้น้องสาวเดินนำหน้าไปขึ้นลิฟต์“ค่ะ” เธอยิ้มให้พี่ชายขณะเดินเข้าลิฟต์ไป และรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวมาถึงชั้นล็อบบี้“ถ้ารายงานตัวเสร็จแล้วก็ขึ้นไปหาพี่นะ” หนึ่งนทีเอ่ยกับน้องสาว โดยกดลิฟต์ให้เปิดค้างไว้ เพื่อให้อีกฝ่ายก้าวออกไป“ได้ค่ะ” เธอพยักหน้าให้พี่ชายอีกครั้ง แล้วก้าวเท้าออกไป หญิงสาวแอบใจสั่นเล็กน้อย เมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นไปแล้ว แต่ก็พยายามที่จะควบคุมมันเอาไว้ พร้อมกับเดินตรงไปยังส่วนในของล็อบบี้“สวัสดีค่ะ”ธารทีราเอ่ยทักทายเจ้าหน้าที่ที่หน้าเ
บทที่ 23สามสิบนาทีต่อมา...พอคุยธุระกับนิลกาลเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ออกมาจากห้องทำงานของหัวหน้าฝ่ายบุคคล พลางเดินไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปหาพี่ชายทว่ายังไม่ทันได้ขึ้นลิฟต์ไปก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นก่อน หลังจากสนทนากับคนที่โทรมาอยู่ครู่หนึ่ง หญิงสาวก็ได้รับรู้เรื่องที่น่าตื่นเต้นบางอย่างหลังเพื่อนวางสายไป เธอก็ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นของผู้บริหาร“มาพบใครคะ” เลขาหน้าห้องที่นั่งทำงานอยู่นั้นเอ่ยถามบุคคลมาใหม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งหล่อนไม่ได้เงยหน้ามอง“คุณหนึ่งนทีค่ะ” ธารทีราบอกชื่อจริงของพี่ชายออกไป แต่เธอไม่ได้สนใจมองท่าทีของเลขาสาว เพราะจุดสนใจของเธอคือประตูห้องทำงานของพี่ชาย“ได้นัดไว้หรือเปล่าคะ” หล่อนถามเสียงเรียบ พร้อมเงยหน้ามองคนขอเข้าพบเจ้านาย“ไม่ค่ะ แต่…” หญิงสาวกำลังจะบอกเลขาพี่ชายว่า ‘แต่คุณหนึ่งนทีให้ฉันมาพบได้โดยไม่ต้องนัดค่ะ’ทว่ายังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรสักคำ เลขาหน้าห้องก็สวนขึ้นมาว่า“ถ้าไม่ได้นัดไว้ ก็เชิญนั่งรอตรงโน้นก่อนนะคะ” เลขาสาวตอบแบบไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไร ซ้ำยังถลึงตาใส่คนตรงหน้าอีกด้วยด้านธารทีราไม่ตอบอะไร แต่หญิงสาวหันหลังไปมองมุมรับแขกที่เลขาพี่ชายบอกให้ไปนั่งรอ แล้วหันก
บทที่ 24เมื่อมาถึงโชว์รูมรถแบรนด์หรู หนึ่งนทีก็นั่งมองน้องสาวเดินดูรถคันแล้วคันเล่า แต่ดูเหมือนน้องสาวของเขาจะเลือกรถไม่ได้สักที ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“เลือกได้หรือยัง”“พี่ซีลพาไอซ์มาเลือกรถหรูขนาดนี้เอาไว้ขับไปทำงาน คนก็สงสัยกันพอดีสิ” ธารทีราทำเสียงประชดประชันใส่พี่ชาย“สงสัยอะไร”“พี่ซีลลองคิดดูสิ หมอจบใหม่อะไรจะมีเงินซื้อรถหรูราคาแพงหูฉี่แบบนี้คะ” ธารทีราทำหน้างอให้ เมื่อชี้ให้พี่ชายดูราคารถที่สูงลิ่ว“ก็บอกไปสิว่าที่บ้านรวย” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ เมื่อได้พูดหยอกล้อน้องสาว“พี่ซีล ไอซ์ซีเรียสนะคะ”ธารทีราทำหน้าคิดหนัก เมื่อมองมาทางพี่ชาย“จะคิดมากทำไม ชอบคันนี้ไหม ถ้าชอบเดี๋ยวพี่จะได้จัดการให้” หนึ่งนทีเอ่ยถาม พลางเปิดประตูรถเข้าไป เพื่อสำรวจดูข้างใน“ขืนขับไปทำงานมีหวังถูกคนที่ทำงานหมั่นไส้กันพอดีหญิงสาวชะเง้อมองภายในรถ แต่ในใจก็รู้สึกพอใจรถคันนี้อยู่ไม่น้อย แม้จะไม่อยากซื้อรถราคาแพง แต่พี่ชายเอาใจขนาดนี้ เธอจะปฏิเสธก็คงจะเสียน้ำใจแย่“ตกลงเอาคันนี้นะ พี่ว่าเหมาะกับเราดี” หนึ่งนทีหันมาถามน้องสาวอีกครั้ง“ก็สวยดีค่ะ”ธารทีราเอ่ยชม พลางลูบมือไปตามกระโปรงรถด้านหน้าเบา ๆ
บทที่ 25เช้าวันต่อมา...ธารทีราขับรถของคุณจอห์นมาที่โรงพยาบาลแต่เช้าเพื่อเริ่มทำงานวันแรก เพราะรถของเธอที่ไปซื้อเมื่อวานต้องรออีกหนึ่งอาทิตย์ถึงจะได้วันนี้หญิงสาวพยายามที่จะหลีกเลี่ยงบอดี้การ์ด โดยสั่งว่าไม่ให้ตามมา เพราะไม่อยากให้การ์ดคอยเดินตาม เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ก็ขับรถไปจอดตรงลานจอดรถช่วงเวลาที่ลงจากรถ ธารทีราก็ยิ้มมุมปาก เมื่อเหลือบตาไปเห็นรถเก๋งสีดำจอดอยู่ไม่ไกลจากตรงที่รถของเธอจอดอยู่ เธอจำได้ว่ารถคันนั้นเป็นรถของมีนา บอดี้การ์ดของเธอนั่นเองหญิงสาวเดินตรงไปยังรถของบอดี้การ์ด แล้วเคาะหน้าต่างรถด้านข้าง เพื่อให้คนในรถเลื่อนหน้าต่างลง“เอ่อ...คุณไอซ์” มีนาตกใจเล็กน้อย ที่เห็นเจ้านายสาวยืนอยู่ข้างรถ ซึ่งหล่อนอุตส่าห์ขับรถตามหญิงสาวมาแบบไม่ให้รู้ตัว“ฉันบอกพี่มีนาแล้วนี่ว่าไม่ต้องตามไง”ธารทีราบ่น พร้อมทั้งยังขยับตัว เมื่อมีนาเปิดประตูก้าวลงมาจากรถ“พี่ทำตามคำสั่งของคุณหนึ่งนทีค่ะ” มีนาตอบเสียงเรียบแต่แน่วแน่“แล้วนี่มากันกี่คนคะ” คนฟังทำหน้าเซ็ง ๆ เมื่อปรายตามองลูกน้องของมีนา ซึ่งมีสามคนที่แอบยืนอยู่อีกมุมมีนาไม่ตอบคำถาม แต่เธอเหลือบตามองลูกน้อง แล้วหันมามองเจ้านายที่กำลังทำหน
บทที่ 26เมื่อบอกหมอพิมพ์แล้ว อุษาก็ทำหน้าสงสัย ว่าทำไมเพื่อนถึงมาอยู่ที่นี่ได้จึงถามไปว่า“แล้วนี่แกมาหาฉันเหรอ”ธารทีราส่ายหน้าเมื่อพูดว่า “เปล่า ฉันมาทำงาน”คำตอบของเพื่อนทำให้อุษาทำหน้างง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าที่แผนกจะมีหมอคนใหม่เข้ามา ซึ่งวันนี้ต้องมารับเวรต่อจากเธอจึงรีบถามกลับ“หมอคนใหม่คือแกเองเหรอ”“ใช่” ธารทีราพยักหน้ารับ“นี่แกกลับมาอยู่ไทยถาวรแล้วเหรอ” อุษาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ในขณะที่ธารทีราพยักหน้าให้เพื่อน“อ้ายยย! ฉันดีใจที่สุดเลยแก”เมื่อได้คำตอบ อุษาก็ร้องออกมาด้วยความยินดีอย่างลืมตัว“เสียงดังแก” ธารทีรารีบบอก พลางยกมือปิดปากเพื่อนอย่างรวดเร็วอุษามองตามสายตาของเพื่อน เห็นนิลกาลที่ยืนอยู่ก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ“อุ๊ย! คุณนิลก็อยู่ด้วยเหรอคะ”“จ้ะ ถ้าอย่างนั้นพี่ขอตัวนะ” นิลกาลไม่ถือสา พร้อมทั้งพยักหน้าให้แล้วเดินออกจากแผนกไปเมื่อนิลกาลไปแล้ว หมอพิมพ์ที่มีงานต้องทำก็บอกกับสองสาวว่า“คุยกันไปก่อนนะ เดี๋ยวคนอื่นก็มากันแล้ว”“ค่ะ” อุษากับธารทีราขานรับหมอพิมพ์ แล้วพากันไปนั่งสนทนาต่อที่เก้าอี้ใกล้ ๆ“กลับมาทั้งที ทำไมไม่บอกกันเลยยะ” อุษาถามเสียงประชด“ถ้าบอกก็ไม่เซอ
บทที่ 27ช่วงเย็นที่ห้องอาหาร พ่อแม่และลูกทั้งสองนั่งกินข้าวด้วยกัน ซึ่งเย็นนี้ก็มีแต่ของโปรดของธารทีราอีกเช่นเคย“กินเยอะ ๆ นะลูก” คุณหญิงโสภาตักกุ้งทอดเกลือให้ลูกสาว“ขอบคุณค่ะ” ธารทีรายกมือไหว้ทุกครั้ง เวลาพ่อแม่ทำอะไรให้“ทำงานวันแรกเป็นไงบ้าง” คุณจอห์นถามเพราะเป็นห่วงลูกสาวคนเล็ก“วันนี้แค่ไปรู้จักคนในโรงพยาบาลบางส่วน และศึกษาข้อมูลของคนไข้ที่ต้องดูแลค่ะ ไม่ได้ทำอะไรมาก” ธารทีราบอกพ่อ แล้วหันไปยิ้มอาย ๆ เมื่อได้สบตากับแม่ เพราะเมื่อเย็นเธอเพลียมากจนผล็อยหลับไปบนตักของท่านตั้งนาน“อื้อ คงเป็นพรุ่งนี้ถึงจะมีงานให้ทำสินะ” คุณจอห์นบอกลูกสาว แล้วคอยตักอาหารโปรดให้“ค่ะ”หญิงสาวขานรับและยกมือไหว้พ่อที่ท่านตักอาหารโปรดให้ ซึ่งพ่อไม่เคยลืมว่าเธอชอบกินอะไร โดยเฉพาะหมึกผัดไข่เค็มที่อยู่ในจานเธอตอนนี้“มีปัญหาอะไรก็บอกพี่นะ” หนึ่งนทีเอ่ยขึ้นมา พลางตักอาหารให้น้องสาวเช่นกัน“ค่ะพี่ซีล”ธารทีรายิ้มรับ ขณะตักต้มจืดใบตำลึงใส่ชามเล็กให้พี่ชายด้านคุณจอห์นยิ้มเบา ๆ ให้ภรรยา เขามองลูกทั้งสองที่รักและดูแลกันด้วยรอยยิ้ม เพียงแค่นี้เขาก็สุขใจแล้ว“เดี๋ยวกินข้าวอิ่มกันแล้ว ไปคุยกับพ่อหน่อยนะ”“ไอซ์เหรอค
บทที่ 28“พวกมันเป็นใคร” คุณจอห์นถามเสียงดัง ท่านไม่พอใจอย่างมากที่มีคนจ้องเล่นงานลูกสาวสุดที่รัก“เศรษฐีประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังจะลงประมูลร่วมกับเรานั่นแหละครับ” เมื่อได้ยินคำตอบของลูกชาย คุณจอห์นก็ถอนหายใจแรง ๆ แล้วถามลูกชายว่า“แล้วมันรู้เรื่องยัยไอซ์ได้ยังไง”“มันคงตามสืบจากทะเบียนราษฎร์ครับ เพราะก่อนน้องจะมา เราได้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่เรื่องข้อมูลต่าง ๆ ของน้องน่ะครับ”หนึ่งนทีบอกออกไป เพราะก่อนที่ธารทีราจะกลับมา เขาและพ่อได้เดินเรื่องเอกสารทางราชการให้หญิงสาวมากมาย แม้จะกำชับว่าให้ปิดเป็นความลับ แต่มีหรือจะหลุดรอดออกไปไม่ได้หากมีเงินหนาและอิทธิพลมากพอ“เราพลาดสินะ” คุณจอห์นมีหน้าตาเคร่งเครียดขึ้นมาทันควัน“ผมหาทางป้องกัน และให้คนมาดูแลน้องแล้วครับ”“ไอซ์ต้องระวังตัวนะลูก” คุณจอห์นปรับสีหน้าเครียดขรึมให้เป็นปกติ แล้วหันไปบอกลูกสาว“ค่ะ”ธารทีราที่นั่งฟังเงียบ ๆ มานานพยักหน้ารับฟัง“ถ้ามีอะไรผิดปกติ ให้รีบบอกมีนา เข้าใจไหม”ผู้เป็นพี่ชายกำชับน้องสาว เพราะวันนี้มีนาได้รายงานว่าธารทีราหนีกลับบ้านก่อนเวลาโดยไม่มีคนตามคุ้มกัน ซึ่งเขายังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องนี้กับน้องสาวเลย“ค่ะพี่ซีล” ธา
บทที่ 29เกือบหนึ่งเดือนแล้ว ที่ธารทีรามาทำงานที่โรงพยาบาล หญิงสาวทำงานได้อย่างราบรื่นเข้ากับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและหมอคนอื่นได้ดีอีกอย่างที่คนในแผนกรู้ก็คือคุณหมอคนใหม่มีห้องตรวจเป็นของตนเอง ซ้ำป้ายชื่อด้านหน้ายังบ่งบอกนามสกุลของเธออย่างชัดเจน ว่าเธอคือน้องสาวของผู้อำนวยการของโรงพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งต่อให้เจ้าตัวไม่อยากป่าวประกาศตัวเองก็มีคนเสนอหน้าทำมันให้เรียบร้อยแล้วช่วงแรก ๆ ที่ทำงานก็จะมีบางคนเกรงใจและเกร็ง แต่เธอก็พยายามทำตัวสบาย ๆ พูดคุยอย่างเป็นกันเองกับทุกคน ทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น ทำให้ธารทีราที่นั่งทำงานเอ่ยบอกคนข้างนอก ทั้งที่ยังคงอ่านเอกสารของโรงพยาบาลอยู่“เข้ามาได้ค่ะ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนข้างใน พยาบาลหน้าห้องก็เปิดประตูเข้าไป แล้วพูดอย่างเกรงใจว่า“คุณหมอคะ”“มีอะไรคะ”ธารทีรายิ้มเมื่อเงยหน้ามองพยาบาล“มีคนไข้มาตรวจค่ะ”คุณหมอสาวไม่ตอบ แต่เหลือบมองตารางงานของตน ซึ่งเวลานี้ไม่มีนัดคนไข้ เธอจึงมองพยาบาลอย่างสงสัย จนอีกฝ่ายต้องรีบพูดขึ้นว่า“คนไข้ไม่ได้นัดไว้ค่ะ”“อ้อ งั้นเชิญคนไข้เข้ามาได้เลยค่ะ”ธารทีราพยักหน้าให้พยาบาล แล้วเดินไปหยิบเ
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล