พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว
“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”
“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ
“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”
“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย
“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”
ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า
“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”
“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่าน
จากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของคนทั้งสองกลับมีจุดมุ่งหมายเหมือนกัน คือรูปภาพที่ติดอยู่ที่เจดีย์บรรจุอัฐิ
หลังจากไหว้พ่อแม่แล้ว ทั้งสองก็เดินออกมาจากบริเวณนั้น เพื่อตรงไปยังลานจอดรถที่เขตแดนน่าจะไปรออยู่แล้ว
“พี่รบจะไปอยู่ที่บ้านเราไหมคะ” ธารทีราถามพี่ชายด้วยความคาดหวัง
“บ้านเหรอ” คำว่าบ้านที่เขาเคยมี แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว มันหายไปตั้งแต่เขารู้ความจริงทั้งหมด เพราะบ้านที่เขาเคยอาศัยกลับกลายเป็นบ้านของคนร้ายที่ทำให้พ่อแม่ของเขาต้องตายจากไป
นักรบหยุดเดิน แล้วหันมามองน้องสาวด้วยสายตานิ่ง ๆ
“ค่ะ บ้านที่มีน้ำกับพี่รบไง” ธารทีราลุ้นจนใจเต้น อยากให้พี่ชายกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่แท้ ๆ ที่ไม่ใช่บ้านของคุณหญิงโสภา หรือแม้แต่บ้านของมาดามอันนา
“พี่…” นักรบทำเสียงอึกอัก พลางหันไปมองอันนาที่นั่งอยู่ในศาลาใกล้ ๆ ซึ่งตอนนี้เธอไม่เหลือใครแล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนไป กิจการ เงินทอง รวมถึงบ้านที่เคยมีก็ถูกยึดและล้มละลายลงในชั่วพริบตา ไหนจะยังมีนาเดียร์ที่ป่วยอยู่ด้วยอีกคน ตอนนี้นักรบไม่อยากทิ้งแม่ไว้คนเดียว เพราะถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็มีบุญคุณที่เลี้ยงดูเขามาจนโต
“คุณพ่อคุณแม่คงดีใจนะคะ ถ้าพี่กลับบ้านของเรา น้ำอยากให้พี่รบไปดูแลกิจการของครอบครัวเราค่ะ โรงพยาบาลที่พ่อแม่เราสร้างมาไงคะ” ธารทีราพูดแล้วมองขึ้นไปบนฟ้าสื่ อให้พี่ชายรู้ว่าพ่อแม่คงมองเธอและพี่ชายอยู่
“พี่ขอเวลาจัดการเรื่องแม่...” นักรบนิ่งไปสักพักแล้วพูดใหม่ว่า “พี่ขอจัดการเรื่องของมาดามอันนาก่อนได้ไหม ตอนนี้ท่านไม่เหลือใครแล้ว”
ธารทีราไม่พูดอะไร ถึงจะผิดหวังที่พี่ชายปฏิเสธ แต่พอหันไปมองมาดามอันนาที่นั่งน้ำตาไหลอยู่คนเดียว เธอก็เข้าใจในสิ่งที่พี่ชายบอก
“น้ำกลับไปรอพี่ที่บ้านนะ” นักรบบอกน้องสาว เมื่อเห็นเขตแดนเดินเข้ามา
“ค่ะ” ธารทีราพยักหน้าให้พี่ชายอย่างว่าง่าย
“ฝากน้ำด้วยนะ” คราวนี้นักรบหันไปพูดกับเขตแดน
“อื้อ” เขตแดนพยักหน้าให้ แล้วยื่นมือไปจับมือบางไว้แน่น ก่อนจะจูงพากันไปขึ้นรถกลับบ้าน และก่อนที่ธารทีราจะขึ้นรถไป เธอก็หันมามองพี่ชายอีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยว่า
“น้ำจะรอพี่รบอยู่ที่บ้านของเรานะคะ”
หนึ่งเดือนต่อมา...
หลังจากจัดการทุกอย่างให้มาดามอันนาทั้งเรื่องที่อยู่ และเงินทองของมาดามที่พอจะเหลืออยู่บ้างเรียบร้อยแล้ว นักรบก็ทำตามคำขอของน้องสาว ซึ่งก็คือการกลับมายังบ้านที่ตนเองเคยอาศัยอยู่เมื่อครั้งยังเด็ก
เมื่อรถจอดที่หน้าบ้าน หญิงสาวก็รีบไปต้อนรับ ก่อนจะเดินนำพี่ชายเข้ามาในบ้าน
“มากันแล้วเหรอลูก” คุณหญิงโสภาที่ยืนรออยู่หน้าประตูเอ่ยทัก
“สวัสดีครับ” นักรบยกมือไหว้คุณหญิง ซึ่งตอนนี้เป็นเพียงญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่มี
“กลับมาอยู่บ้านของเรานะรบ” คุณหญิงรับไหว้ พลางอ้าแขนกอดหลานชายของสามี
“ครับ” ชายหนุ่มกอดคุณหญิงโสภา ก่อนจะเดินตามเข้าไปนั่งในห้องรับแขก โดยมีธารทีราเดินไปนั่งข้าง ๆ คุณหญิง
“คุณรบของป้า” ป้านมที่เอาน้ำมาให้คลานเข้าไปนั่งตรงโซฟาตัวที่นักรบนั่งอยู่ ก่อนจะยื่นมือไปจับมือของชายหนุ่ม
“คะ...ครับ” นักรบทำหน้างง เพราะเขาจำไม่ได้เลยว่าป้านมเป็นใคร
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 1เวลาบ่ายโมง...‘เรียนท่านผู้โดยสาร...'เสียงพนักงานประชาสัมพันธ์ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประกาศแจ้งผู้โดยสารที่เดินกันขวักไขว่ดังขึ้นเป็นระยะณ ทางออกสำหรับผู้โดยสารร่างของหญิงสาวคนหนึ่งในชุดเสื้อโค้ทกับกางเกงขายาวก้าวอย่างมาดมั่นตรงไปเบื้องหน้า ซึ่งการแต่งกายของเธอช่างท้าทายกับอากาศร้อนของประเทศไทยเหลือเกินแม้แต่ตอนนี้ใบหน้าหวานก็แดงระเรื่อขึ้นด้วยความไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศธารทีราเดินลากกระเป๋ามาถึงด้านหน้าพลางมองหาคนที่จะมารอรับเธอ ระหว่างนั้นหญิงสาวรีบถอดเสื้อโค้ทออกจากตัวทันที เพราะกลัวว่าตนเองจะเป็นลมไปก่อนจะกลับถึงบ้าน“คุณหนู”พอมีเสียงเรียกดังขึ้น เธอก็รีบหันไปตามหาที่มาของเสียงหญิงสาวมองเห็นชายหนุ่มชุดดำยืนไม่ไกลจึงยิ้มให้พลางโบกมือเรียกชายคนนั้น“พี่ซัน?”“ครับ” ซัน บอดี้การ์ดที่ได้รับหน้าที่ให้มารอรับธารทีราตอบรับพร้อมกับรีบเดินเข้าไปเอากระเป๋าของหญิงสาวมาถือไว้เอง“ไอซ์ไม่เจอพี่ซันนานมากเลย พี่ซันสบายดีนะคะ”หญิงสาวพูดขึ้นพลางมองสำรวจชายตรงหน้าด้วยความคิดถึง“สบายดีครับ คุณหนูเชิญที่รถดีกว่านะครับ” ซันยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะรีบเชิญคุณหนูของเขาไปขึ้นรถ เนื่องจากไม่
บทที่ 2ทว่าในระหว่างที่เขากำลังพุ่งความสนใจไปยังรถยนต์คันหนึ่งอยู่กลับมีรถมอเตอร์ไซด์อีกคันเร่งเครื่อง แล้วพุ่งขึ้นมาจากเลนด้านข้างด้วยความเร็ว“พี่ซันระวังค่ะ” ธารทีราร้องเตือน เมื่อมีรถมอเตอร์ไซค์ขับขึ้นมาด้วยความเร็วแล้วขับแซงหน้าขึ้นไป“เชี่ยเอ๊ย!” ซันสบถด่าไอ้คนที่ขับรถมอเตอรไซค์ตัดหน้ารถของเขา ซึ่งซันก็หักพวงลัยหลบไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว จนเกือบจะชนเข้ากับรถอีกคัน“ทำไมขับรถไม่ระวังแบบนี้นะ”เธอบ่นออกมา แต่มอเตอร์ไซค์คันนั้นกลับขับหนีไปไกลแล้ว“เดี๋ยวผมโทรหาคุณซีลก่อนนะครับคุณหนู”เพื่อความปลอดภัยของหญิงสาว ซันจึงรีบต่อสายหาเจ้านายอีกคนของตนทันที“ค่ะ” ด้านธารทีราพยักหน้ารับเมื่อได้สบตาของซัน จากนั้นเธอก็คอยหันไปมองด้านหลังเป็นระยะด้วยความเป็นกังวลซันต่อสายถึงเจ้านาย และรอไม่นาน คนปลายสายก็ตอบกลับมาด้วยเสียงหนาทุ้มที่ฟังแล้วดูน่ากลัว“อื้ม ว่ายังไง”“นายครับ มีคนตามรถของผมมาครับ” ซันรีบบอกนายน้อยของตนซึ่งนายน้อยของเขานั้นก็คือพี่ชายของธารทีรานั่นเอง“ว่ายังไงนะ”ผู้เป็นพี่ชายถามย้ำด้วยความห่วงใยน้องสาว“มีรถคันหนึ่งตามผมมาตั้งแต่อยู่ที่สนามบินแล้วครับ”“แล้วน้องสาวฉันล่ะ”คำถามของ
บทที่ 3ซันอธิบายพลางเลื่อนสายตาไปมองข้างหน้า ก่อนจะค่อยๆ ชะลอรถให้รถคันอื่นของทีมบอดี้การ์ดมาขับเทียบด้านข้าง แล้วหาโอกาสเลี้ยวหลบไปอีกทาง โดยใช้รถของทีมสกัดไว้ เพื่อไม่ให้รถคันนั้นสามารถตามขับมาได้ทันหญิงสาวเห็นซันตั้งใจขับรถอยู่จึงไม่ถามอะไรเธอนั่งนิ่งแล้วคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเงียบๆ‘ธารทีรา บริพัฒน์สกุลเกียรติ’ หรือ ‘ไอซ์’ ลูกสาวเพียงคนเดียวของคุณจอห์นและคุณหญิงโสภา บริพัฒน์สกุลเกียรติ ตัวเธอมีพี่ชายหนึ่งคนอายุมากกว่าเธอห้าปีคือ ‘ซีล’หรือ ‘หนึ่งนที บริพัฒน์สกุลเกียรติ’บ้านบริพัฒน์สกุลเกียรตินั้นทำธุรกิจหลายอย่างทั้งขาวและเทา ซึ่งธุรกิจที่ทุกคนรู้จักดีก็คือโรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า และกาสิโนที่คุณจอห์นทุ่มทุนสร้างกับเพื่อนสนิทธารทีราถูกส่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตั้งแต่อายุห้าขวบ โดยมีป้านมและพี่เลี้ยงตามไปดูแลแค่สองคน โดยหญิงสาวเรียนจบคณะแพทย์ศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยชื่อดังในอเมริกาปัจจุบันหญิงสาวมีอายุยี่สิบสี่ปี ซึ่งครั้งนี้คือครั้งแรกที่เธอได้กลับมาที่ประเทศไทยในรอบสิบเก้าปีหญิงสาวตั้งใจไว้ว่าจะกลับมาช่วยพี่ชายบริหารโรงพยาบาลเนื่องจากเรียนจบทางสายนี้มา และทางคุณจอ
บทที่ 4ไม่ถึงสามสิบนาทีรถหรูของธารทีราก็ขับเข้ามาที่ด้านหน้าผับ ซันรีบขับเข้าไปจอดยังที่จอดของVIP ด้วยความคุ้นเคย“ที่นี่เหรอคะ”หญิงสาวเอ่ยถามขึ้น เมื่อมองไปรอบๆ ผ่านกระจกรถด้านข้างด้วยความสนใจ“ครับ” ซันพยักหน้ารับ และก่อนที่เขาจะลงจากรถก็มองสำรวจไปด้วย เพื่อความปลอดภัย“เพื่อนพี่ซีลคือใครเหรอคะ”ธารทีราถามซันด้วยความสงสัย เพราะตอนแรกที่ซันบอกว่าเป็นผับของเพื่อนพี่ชาย เธอไม่ได้ถามอะไร เนื่องจากตอนนั้นซันกำลังวุ่นคุยงานกับลูกน้องของเขาอยู่“ชื่อเขตแดนครับ” ซันตอบแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง ๆ เพื่อจับสังเกต“เขตแดน” ธารทีราพึมพำคนเดียวโดยไม่ให้ซันได้ยิน พลางคิดในใจว่าคงไม่ใช่เขาคนนั้นหรอกนะ“คุณหนู” ซันเอ่ยเรียกอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนไม่ยอมลงจากรถ“คะ” หญิงสาวตื่นจากความคิด แล้วมองหน้าซัน ซึ่งชายหนุ่มยังคงยืนเกาะประตูรถและมองมายังเธอ“ลงมาเถอะครับ” ซันขยับถอยหลังไปยืนบนทางเท้า เพื่อเปิดทางให้คุณหนูก้าวลงจากรถ“ค่ะ” ธารทีรามองตึกหรูนั้นอีกครั้ง สลับกับการมองหน้าซัน พร้อมถอนหายใจเบาๆ และในที่สุดหญิงสาวก็ก้าวออกจากรถไปยืนเคียงข้างซันบอดี้การ์ดหนุ่มผายมือเชิญให้หญิงสาวเดินนำหน้าไปยั
บทที่ 5บริเวณที่ธารทีรายืนอยู่ในเวลานี้คือชั้นห้าของผับ เมื่อมองตรงไปจากช่องทางเดินที่เปิดออกจากลิฟต์แก้วคือทางเดินกว้างที่ระหว่างทางมีห้องหลายห้องทว่าสายตาของหญิงสาวกลับไม่ได้สนใจไปยังที่ใดเลย นอกจากจุดที่ภามผายมือเชิญ“ทางนี้ครับคุณไอซ์” ภามเดินนำทางไปยังห้องที่อยู่ด้านในสุด ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวล่วงเข้าสู่ด้านในก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา“เดี๋ยว!”ในขณะกำลังจะเดินตามภามเข้าไปยังห้องวีไอพี ซันได้ตัดสินใจเรียกเพื่อนไว้เสียก่อน เมื่อได้ยินเสียงเอะอะดังอยู่ในห้องที่เพื่อนกำลังจะเปิดประตูเข้าไปอะไรวะ” ภามจับประตูค้างไว้อย่างนั้น แล้วหันมามองพร้อมกับถามขึ้นด้วยความแปลกใจ“ใครอยู่ในห้อง” ซันถามเสียงเรียบ แต่สีหน้าของเขากลับเคร่งเครียดเหมือนคนกำลังครุ่นคิดบางอย่างด้วยความหวาดวิตก“ก็เพื่อนๆ ของเจ้านายไง” ภามตอบกลับมาด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร พลางดันมือของซันออกจากประตู“แล้วทำไมไม่พาไปห้องอื่นวะ” ซันจับบ่าของเพื่อนให้หันมาเผชิญหน้ากัน พร้อมกับเดินไปขวางประตูไว้“ห้องอื่นเต็มแล้ว” ภามตอบพร้อมยิ้มกวนๆ ใส่เพื่อน“แต่คุณหนูกูไม่คุ้นเคยกับพวกเพื่อนๆ เจ้านายนะโว้ย” ซันเอ่ยขึ้นแล้วหั
บทที่ 6“มานั่งข้างพี่สิ” จีน่ากวักมือเรียกธารทีราให้มานั่งข้างๆ“เอ่อ...” หญิงสาวหันมองซันอย่างขอความเห็น“ไปนั่งเถอะครับ นั่นก็เพื่อนคุณซีลครับ” ซันหันมากระซิบบอก ก่อนจะส่งสายตาให้คุณหนูของเขาไปนั่งกับผู้หญิงคนนั้น“ค่ะ” ธารทีราพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะผละจากซันไปนั่งข้างกายของหญิงสาวมาดทอมบอยที่มีใบหน้าสวยเฉี่ยว ซ้ำยังไว้ผมยาวสลวยอีกด้วย“พี่ชื่อจีน่า ส่วนนั่นภู ไอ้ที่หน้านิ่งๆ น่ะชื่อกานต์ ส่วนไอ้ผมทองนั้นชื่อนัท พวกพี่เป็นเพื่อนของพี่ชายเรานั่นแหละ”เมื่อหญิงสาวนั่งลงข้างๆจีน่าก็รีบแนะนำตัวเองและบรรดาเพื่อนๆ ให้เธอได้รู้จัก“ค่ะ สวัสดีอีกครั้งนะคะ” ธารทีราหันไปมอง และยกมือไหว้ทุกคนอีกครั้ง“อื้อๆ หวัดดี” ทุกคนพากันรับไหว้แทบไม่ทัน“แล้วนี่ ทำไมพา…”‘ธนัท’ หรือ ‘นัท’หันไปมองซันอย่างตั้งคำถาม เพราะไม่รู้ว่าที่ซันพาน้องสาวเพื่อนมาที่นี่ เพราะต้องการให้พวกเขารู้จักเฉยๆ หรือว่ามีจุดประสงค์อื่นกันแน่และด้วยท่าทีของธนัทที่มองซันสลับกับธารทีราด้วยความสงสัยก็ทำให้ชายหนุ่มรีบตอบกลับไปโดยไม่ได้ลงรายละเอียดมากนักว่า“พอดีมีปัญหาเกิดขึ้นนิดหน่อยครับ นายกำลังจัดการอยู่ เดี๋ยวเสร็จเรื่องก็คงจะมารั
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล