“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม
“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า
“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”
“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชาย
นักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล
“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”
“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า
“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”
นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น
“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”
"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ“
“ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักที่ต่างจังหวัด และตั้งใจจะทำธุรกิจโรงแรมใหม่ด้วย คงจะไม่ค่อยได้กลับบ้านหรอก แต่ป้าก็เข้าใจนะว่าที่เขาไม่อยากกลับมาที่บ้านก็เพราะยังทำใจเรื่องพ่อไม่ได้ เพราะป้าเองก็...”
คุณหญิงเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ จนตอนนี้ก็ยังคงทำใจเรื่องสามีที่ตายจากไปไม่ได้ ลูกชายของท่านอย่างหนึ่งนทีเองก็คงเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ถึงได้เอาแต่มุ่งมั่นกับงานจนไม่ยอมกลับบ้าน
“ครับ เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะผมเองก็เสียใจมาก ๆ เหมือนกัน” นักรบเอ่ยอย่างเศร้า ๆ
“ป้าได้ข่าวว่าอันนากลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดแล้วใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“แล้วนาเดียร์ล่ะ ป้าได้ข่าวว่าป่วยตอนนี้ดีขึ้นหรือยัง”
“ก็ดีขึ้นบ้างแล้วครับ แต่ตอนนี้ก็ยังเศร้าอยู่ เพราะเดียรักป๋ามาก และรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมากด้วย อาจต้องให้เวลาเธอน่ะครับ”
ทุกวันนี้แม้ว่านาเดียร์จะพูดและยิ้มมากขึ้น แต่จากการไปหาหมอล่าสุด หมอแจ้งกับเขาว่าน้องสาวมีภาวะเป็นโรคซึมเศร้า อาจต้องกินยาไปตลอดและค่อย ๆ ดูแลกันไป
“อืม...ทุกคนก็ต่างผ่านเรื่องสูญเสียกันทั้งนั้นแหละนะ คงมีแต่เวลาเท่านั้นที่จะช่วยได้” คุณหญิงเอ่ยอย่างปลง ๆ เรื่องที่ผ่านมาเรียกได้ว่าสูญเสียกันทุกฝ่ายจริง ๆ
เมื่อคุณหญิงโสภากลับไปแล้ว ธารทีราก็พาพี่ชายเดินสำรวจบริเวณด้านนอกของบ้านรอบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามว่า
“พี่รบอยากขึ้นไปดูห้องนอนไหมคะ”
“อื้อ” นักรบพยักหน้า แล้วเดินตามน้องสาวขึ้นบันได
เมื่อมายืนตรงหน้าห้อง หญิงสาวก็เปิดประตูให้พร้อมกับเอ่ยอธิบาย
“นี่เป็นห้องนอนของพี่รบค่ะ ส่วนข้าง ๆ คือห้องของน้ำ แต่ช่วงนี้น้ำคงไม่ได้มานอนหรอกค่ะ เพราะอยากอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ที่บ้านโน้นก่อน”
“แล้วห้องนี้ล่ะ” นักรบถามเมื่อเดินผ่านห้องที่ถูกปิดไว้
“ห้องของพ่อแม่ค่ะ” ธารทีราบอกพร้อมเปิดประตู ก่อนจะเดินนำหน้าพี่ชายเข้าไปยืนกลางห้อง
นักรบกวาดสายตามองห้องนอนพ่อแม่ ก่อนจะไปสะดุดกับภาพหลายภาพที่ประดับไว้จนทั่ว
“รูปของพ่อกับแม่เยอะเลยนะ”
“ค่ะ คุณลุงคุณป้าให้คนมาทำห้องนอนของคุณพ่อคุณแม่เป็นห้องรวมรูปค่ะ” ธารทีราบอกพี่ชาย ซึ่งห้องนี้เธอก็เพิ่งเห็นตอนกลับมาเหมือนกัน ทั้งหมดนี้ล้วนต้องขอบคุณคุณลุงกับคุณป้าที่ใส่ใจ และดูแลบ้านนี้ไว้อย่างดี
ยิ่งมองภาพความทรงจำของครอบครัวที่มีแต่รอยยิ้มเปี่ยมด้วยความสุข หญิงสาวก็ยิ่งเศร้า จนไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป
นักรบได้ยินเสียงสะอื้นจากคนข้างกายจึงก้าวเข้าไปโอบบ่าบางแล้วดึงเธอมาซบกับอกกว้างของตน
“พี่ขอโทษนะที่จำไม่ได้ แต่จากนี้เราจะมาสร้างความทรงจำของครอบครัวเราไปด้วยกันนะ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยเสียงอบอุ่น แม้จะจำน้องสาวไม่ได้ แต่ความรู้สึกผูกพันของสายใยแห่งครอบครัวที่มีก็ทำให้เขารู้สึกห่วงใยเธอจริง ๆ จากนี้จึงอยากจะขอชดเชยวันเวลาที่หายไปให้กับน้องสาวคนนี้อย่างดีที่สุด
“พี่รบไม่ต้องขอโทษน้ำแล้วค่ะ แค่พี่กลับมาน้ำก็ดีใจมากแล้ว”
ธารทีรายิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะเข้าไปสวมกอดพี่ชายไว้แน่น
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 1เวลาบ่ายโมง...‘เรียนท่านผู้โดยสาร...'เสียงพนักงานประชาสัมพันธ์ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประกาศแจ้งผู้โดยสารที่เดินกันขวักไขว่ดังขึ้นเป็นระยะณ ทางออกสำหรับผู้โดยสารร่างของหญิงสาวคนหนึ่งในชุดเสื้อโค้ทกับกางเกงขายาวก้าวอย่างมาดมั่นตรงไปเบื้องหน้า ซึ่งการแต่งกายของเธอช่างท้าทายกับอากาศร้อนของประเทศไทยเหลือเกินแม้แต่ตอนนี้ใบหน้าหวานก็แดงระเรื่อขึ้นด้วยความไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศธารทีราเดินลากกระเป๋ามาถึงด้านหน้าพลางมองหาคนที่จะมารอรับเธอ ระหว่างนั้นหญิงสาวรีบถอดเสื้อโค้ทออกจากตัวทันที เพราะกลัวว่าตนเองจะเป็นลมไปก่อนจะกลับถึงบ้าน“คุณหนู”พอมีเสียงเรียกดังขึ้น เธอก็รีบหันไปตามหาที่มาของเสียงหญิงสาวมองเห็นชายหนุ่มชุดดำยืนไม่ไกลจึงยิ้มให้พลางโบกมือเรียกชายคนนั้น“พี่ซัน?”“ครับ” ซัน บอดี้การ์ดที่ได้รับหน้าที่ให้มารอรับธารทีราตอบรับพร้อมกับรีบเดินเข้าไปเอากระเป๋าของหญิงสาวมาถือไว้เอง“ไอซ์ไม่เจอพี่ซันนานมากเลย พี่ซันสบายดีนะคะ”หญิงสาวพูดขึ้นพลางมองสำรวจชายตรงหน้าด้วยความคิดถึง“สบายดีครับ คุณหนูเชิญที่รถดีกว่านะครับ” ซันยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะรีบเชิญคุณหนูของเขาไปขึ้นรถ เนื่องจากไม่
บทที่ 2ทว่าในระหว่างที่เขากำลังพุ่งความสนใจไปยังรถยนต์คันหนึ่งอยู่กลับมีรถมอเตอร์ไซด์อีกคันเร่งเครื่อง แล้วพุ่งขึ้นมาจากเลนด้านข้างด้วยความเร็ว“พี่ซันระวังค่ะ” ธารทีราร้องเตือน เมื่อมีรถมอเตอร์ไซค์ขับขึ้นมาด้วยความเร็วแล้วขับแซงหน้าขึ้นไป“เชี่ยเอ๊ย!” ซันสบถด่าไอ้คนที่ขับรถมอเตอรไซค์ตัดหน้ารถของเขา ซึ่งซันก็หักพวงลัยหลบไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว จนเกือบจะชนเข้ากับรถอีกคัน“ทำไมขับรถไม่ระวังแบบนี้นะ”เธอบ่นออกมา แต่มอเตอร์ไซค์คันนั้นกลับขับหนีไปไกลแล้ว“เดี๋ยวผมโทรหาคุณซีลก่อนนะครับคุณหนู”เพื่อความปลอดภัยของหญิงสาว ซันจึงรีบต่อสายหาเจ้านายอีกคนของตนทันที“ค่ะ” ด้านธารทีราพยักหน้ารับเมื่อได้สบตาของซัน จากนั้นเธอก็คอยหันไปมองด้านหลังเป็นระยะด้วยความเป็นกังวลซันต่อสายถึงเจ้านาย และรอไม่นาน คนปลายสายก็ตอบกลับมาด้วยเสียงหนาทุ้มที่ฟังแล้วดูน่ากลัว“อื้ม ว่ายังไง”“นายครับ มีคนตามรถของผมมาครับ” ซันรีบบอกนายน้อยของตนซึ่งนายน้อยของเขานั้นก็คือพี่ชายของธารทีรานั่นเอง“ว่ายังไงนะ”ผู้เป็นพี่ชายถามย้ำด้วยความห่วงใยน้องสาว“มีรถคันหนึ่งตามผมมาตั้งแต่อยู่ที่สนามบินแล้วครับ”“แล้วน้องสาวฉันล่ะ”คำถามของ
บทที่ 3ซันอธิบายพลางเลื่อนสายตาไปมองข้างหน้า ก่อนจะค่อยๆ ชะลอรถให้รถคันอื่นของทีมบอดี้การ์ดมาขับเทียบด้านข้าง แล้วหาโอกาสเลี้ยวหลบไปอีกทาง โดยใช้รถของทีมสกัดไว้ เพื่อไม่ให้รถคันนั้นสามารถตามขับมาได้ทันหญิงสาวเห็นซันตั้งใจขับรถอยู่จึงไม่ถามอะไรเธอนั่งนิ่งแล้วคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเงียบๆ‘ธารทีรา บริพัฒน์สกุลเกียรติ’ หรือ ‘ไอซ์’ ลูกสาวเพียงคนเดียวของคุณจอห์นและคุณหญิงโสภา บริพัฒน์สกุลเกียรติ ตัวเธอมีพี่ชายหนึ่งคนอายุมากกว่าเธอห้าปีคือ ‘ซีล’หรือ ‘หนึ่งนที บริพัฒน์สกุลเกียรติ’บ้านบริพัฒน์สกุลเกียรตินั้นทำธุรกิจหลายอย่างทั้งขาวและเทา ซึ่งธุรกิจที่ทุกคนรู้จักดีก็คือโรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า และกาสิโนที่คุณจอห์นทุ่มทุนสร้างกับเพื่อนสนิทธารทีราถูกส่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตั้งแต่อายุห้าขวบ โดยมีป้านมและพี่เลี้ยงตามไปดูแลแค่สองคน โดยหญิงสาวเรียนจบคณะแพทย์ศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยชื่อดังในอเมริกาปัจจุบันหญิงสาวมีอายุยี่สิบสี่ปี ซึ่งครั้งนี้คือครั้งแรกที่เธอได้กลับมาที่ประเทศไทยในรอบสิบเก้าปีหญิงสาวตั้งใจไว้ว่าจะกลับมาช่วยพี่ชายบริหารโรงพยาบาลเนื่องจากเรียนจบทางสายนี้มา และทางคุณจอ
บทที่ 4ไม่ถึงสามสิบนาทีรถหรูของธารทีราก็ขับเข้ามาที่ด้านหน้าผับ ซันรีบขับเข้าไปจอดยังที่จอดของVIP ด้วยความคุ้นเคย“ที่นี่เหรอคะ”หญิงสาวเอ่ยถามขึ้น เมื่อมองไปรอบๆ ผ่านกระจกรถด้านข้างด้วยความสนใจ“ครับ” ซันพยักหน้ารับ และก่อนที่เขาจะลงจากรถก็มองสำรวจไปด้วย เพื่อความปลอดภัย“เพื่อนพี่ซีลคือใครเหรอคะ”ธารทีราถามซันด้วยความสงสัย เพราะตอนแรกที่ซันบอกว่าเป็นผับของเพื่อนพี่ชาย เธอไม่ได้ถามอะไร เนื่องจากตอนนั้นซันกำลังวุ่นคุยงานกับลูกน้องของเขาอยู่“ชื่อเขตแดนครับ” ซันตอบแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง ๆ เพื่อจับสังเกต“เขตแดน” ธารทีราพึมพำคนเดียวโดยไม่ให้ซันได้ยิน พลางคิดในใจว่าคงไม่ใช่เขาคนนั้นหรอกนะ“คุณหนู” ซันเอ่ยเรียกอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนไม่ยอมลงจากรถ“คะ” หญิงสาวตื่นจากความคิด แล้วมองหน้าซัน ซึ่งชายหนุ่มยังคงยืนเกาะประตูรถและมองมายังเธอ“ลงมาเถอะครับ” ซันขยับถอยหลังไปยืนบนทางเท้า เพื่อเปิดทางให้คุณหนูก้าวลงจากรถ“ค่ะ” ธารทีรามองตึกหรูนั้นอีกครั้ง สลับกับการมองหน้าซัน พร้อมถอนหายใจเบาๆ และในที่สุดหญิงสาวก็ก้าวออกจากรถไปยืนเคียงข้างซันบอดี้การ์ดหนุ่มผายมือเชิญให้หญิงสาวเดินนำหน้าไปยั
บทที่ 5บริเวณที่ธารทีรายืนอยู่ในเวลานี้คือชั้นห้าของผับ เมื่อมองตรงไปจากช่องทางเดินที่เปิดออกจากลิฟต์แก้วคือทางเดินกว้างที่ระหว่างทางมีห้องหลายห้องทว่าสายตาของหญิงสาวกลับไม่ได้สนใจไปยังที่ใดเลย นอกจากจุดที่ภามผายมือเชิญ“ทางนี้ครับคุณไอซ์” ภามเดินนำทางไปยังห้องที่อยู่ด้านในสุด ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวล่วงเข้าสู่ด้านในก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา“เดี๋ยว!”ในขณะกำลังจะเดินตามภามเข้าไปยังห้องวีไอพี ซันได้ตัดสินใจเรียกเพื่อนไว้เสียก่อน เมื่อได้ยินเสียงเอะอะดังอยู่ในห้องที่เพื่อนกำลังจะเปิดประตูเข้าไปอะไรวะ” ภามจับประตูค้างไว้อย่างนั้น แล้วหันมามองพร้อมกับถามขึ้นด้วยความแปลกใจ“ใครอยู่ในห้อง” ซันถามเสียงเรียบ แต่สีหน้าของเขากลับเคร่งเครียดเหมือนคนกำลังครุ่นคิดบางอย่างด้วยความหวาดวิตก“ก็เพื่อนๆ ของเจ้านายไง” ภามตอบกลับมาด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร พลางดันมือของซันออกจากประตู“แล้วทำไมไม่พาไปห้องอื่นวะ” ซันจับบ่าของเพื่อนให้หันมาเผชิญหน้ากัน พร้อมกับเดินไปขวางประตูไว้“ห้องอื่นเต็มแล้ว” ภามตอบพร้อมยิ้มกวนๆ ใส่เพื่อน“แต่คุณหนูกูไม่คุ้นเคยกับพวกเพื่อนๆ เจ้านายนะโว้ย” ซันเอ่ยขึ้นแล้วหั
บทที่ 6“มานั่งข้างพี่สิ” จีน่ากวักมือเรียกธารทีราให้มานั่งข้างๆ“เอ่อ...” หญิงสาวหันมองซันอย่างขอความเห็น“ไปนั่งเถอะครับ นั่นก็เพื่อนคุณซีลครับ” ซันหันมากระซิบบอก ก่อนจะส่งสายตาให้คุณหนูของเขาไปนั่งกับผู้หญิงคนนั้น“ค่ะ” ธารทีราพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะผละจากซันไปนั่งข้างกายของหญิงสาวมาดทอมบอยที่มีใบหน้าสวยเฉี่ยว ซ้ำยังไว้ผมยาวสลวยอีกด้วย“พี่ชื่อจีน่า ส่วนนั่นภู ไอ้ที่หน้านิ่งๆ น่ะชื่อกานต์ ส่วนไอ้ผมทองนั้นชื่อนัท พวกพี่เป็นเพื่อนของพี่ชายเรานั่นแหละ”เมื่อหญิงสาวนั่งลงข้างๆจีน่าก็รีบแนะนำตัวเองและบรรดาเพื่อนๆ ให้เธอได้รู้จัก“ค่ะ สวัสดีอีกครั้งนะคะ” ธารทีราหันไปมอง และยกมือไหว้ทุกคนอีกครั้ง“อื้อๆ หวัดดี” ทุกคนพากันรับไหว้แทบไม่ทัน“แล้วนี่ ทำไมพา…”‘ธนัท’ หรือ ‘นัท’หันไปมองซันอย่างตั้งคำถาม เพราะไม่รู้ว่าที่ซันพาน้องสาวเพื่อนมาที่นี่ เพราะต้องการให้พวกเขารู้จักเฉยๆ หรือว่ามีจุดประสงค์อื่นกันแน่และด้วยท่าทีของธนัทที่มองซันสลับกับธารทีราด้วยความสงสัยก็ทำให้ชายหนุ่มรีบตอบกลับไปโดยไม่ได้ลงรายละเอียดมากนักว่า“พอดีมีปัญหาเกิดขึ้นนิดหน่อยครับ นายกำลังจัดการอยู่ เดี๋ยวเสร็จเรื่องก็คงจะมารั
บทที่ 7ชายหนุ่มตกตะลึงไปในทันทีที่เห็นหญิงสาวตรงหน้าชัดๆเขาพยายามเพ่งมองว่าตนเองไม่ได้ตาฝาดไปและท่าทียืนนิ่งอย่างผิดปกติของเขา ก็ทำให้จีน่าเป็นฝ่ายแนะนำขึ้นมาว่า“นี่น้องไอ้ซีล”“ชื่อน้องไอซ์” กานต์หันไปบอกเขตแดน“…” ด้านเขตแดนไม่พูดอะไร เพราะเขายังตะลึงยืนจ้องมองหญิงสาวไม่วางตา ซึ่งธารทีราก็จ้องหน้าเขากลับไปเช่นกันเมื่อเพื่อนไม่มีทีท่าจะเอ่ยทักหรือพูดอะไร จีน่าก็ละสายตาจากเขตแดน แล้วหันมาเรียกน้องสาวของเพื่อนว่า“ไอซ์”“คะ” ด้านธารทีราสะดุ้งตกใจเมื่อจีน่าสะกิดเรียกก่อนจะหันมาให้ความสนใจจีน่าอีกครั้ง “พี่จีน่ามีอะไรเหรอคะ”“นั่นน่ะดิน เป็นเพื่อนสนิทพี่ชายเรา และเป็นเจ้าของผับนี้ด้วย” จีน่าแนะนำธารทีราให้รู้จักเขตแดน“สะ...สวัสดีค่ะ” เธอสบตาสีเข้ม แล้วยกมือไหว้เขาด้วยความประหม่าเล็กน้อย เนื่องจากตอนนี้เขตแดนก็ยังไม่ละสายตาไปจากเธอเลยด้วยความที่ชายหนุ่มยังคงยืนอึ้ง และไม่ยอมรับไหว้หรือทักทาย น้องสาวของหนึ่งนที ทำให้ภูริทถึงกับต้องเอ่ยกระเซ้าเพื่อนว่า“ไอ้ดิน มึงจะมองน้องเขาให้ละลายเลยใช่ไหม”เสียงของเพื่อนที่ดังขึ้นมานั้น ทำให้เขตแดนถึงกับสะดุ้ง ชายหนุ่มรีบรับไหว้โดยอัตโนมัติจากนั้นก
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล