ธารทีราไม่ตอบ เธอแค่เพียงพยักหน้าให้พี่ชาย แล้วหันหน้าไปมองรถมากมายที่ขับแซงรถของหนึ่งนทีขึ้นไปผ่านกระจกรถด้านข้าง
เมื่อไฟเขียวปรากฏขึ้น ชายหนุ่มก็ขับรถตรงไปข้างหน้า ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เขาก็พาน้องสาวมาถึงโรงพยาบาล ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว
หนึ่งนทีจอดรถตรงส่วนที่เป็นช่องจอดสำหรับ VIP และก่อนที่จะลงจากรถเพื่อไปเปิดประตูให้น้องสาว ชายหนุ่มก็เอ่ยถามคนข้างกายด้วยความห่วงใย
“โอเคไหม”
“สบายมากค่ะ” ธารทีราทำหน้าตาสบาย ๆ แล้วลงจากรถเมื่อพี่ชายมาเปิดประตูให้
“โอเค ถ้างั้นพี่จะไปรอเราที่ห้องผู้บริหารนะ” ชายหนุ่มพยักหน้าให้น้องสาวเดินนำหน้าไปขึ้นลิฟต์
“ค่ะ” เธอยิ้มให้พี่ชายขณะเดินเข้าลิฟต์ไป และรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวมาถึงชั้นล็อบบี้
“ถ้ารายงานตัวเสร็จแล้วก็ขึ้นไปหาพี่นะ” หนึ่งนทีเอ่ยกับน้องสาว โดยกดลิฟต์ให้เปิดค้างไว้ เพื่อให้อีกฝ่ายก้าวออกไป
“ได้ค่ะ” เธอพยักหน้าให้พี่ชายอีกครั้ง แล้วก้าวเท้าออกไป หญิงสาวแอบใจสั่นเล็กน้อย เมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นไปแล้ว แต่ก็พยายามที่จะควบคุมมันเอาไว้ พร้อมกับเดินตรงไปยังส่วนในของ
ล็อบบี้“สวัสดีค่ะ”ธารทีราเอ่ยทักทายเจ้าหน้าที่ที่หน้าเคาน์เตอร์
“ติดต่อเรื่องอะไรคะ” เจ้าหน้าที่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเป็นกันเอง
ธารทีรารู้สึกพอใจมากที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมีใจรักในการบริการเป็นอย่างดี จึงยื่นเอกสารรายงานตัวให้กับเจ้าหน้าที่
“เอ๋! คุณหมอคนใหม่ มารายงานตัวเหรอคะ”
“ค่ะ” หญิงสาวยิ้มเบา ๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ยิ้มให้
“เดี๋ยวเชิญด้านนี้เลยค่ะ” จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เรียกให้เพื่อนอีกคนมาทำหน้าที่แทนเธอ ก่อนจะเชิญธารทีราให้เดินตามเธอไป
หน้าห้องฝ่ายบุคคล
เสียงเคาะประตูห้อง ทำให้คนที่นั่งทำงานอยู่ด้านในเอ่ยบอกคนด้านนอกว่า
“เชิญค่ะ”
ด้านเจ้าหน้าที่ที่เคาะประตูห้อง เมื่อได้ยินเสียงอนุญาตดังมาจากด้านในก็เปิดประตูเข้าไป พร้อมกับเอ่ยเชิญคุณหมอสาว
“คุณนิล มีคุณหมอคนใหม่มารายงานตัวค่ะ”
เจ้าหน้าที่เอ่ยรายงาน แล้วรีบขยับตัวให้ธารทีราเดินเข้าไปยืนตรงหน้าโต๊ะแทนเธอ
“ขอบใจจ้ะ” หัวหน้าฝ่ายบุคคลนามว่า ‘นิลกาล’ พยักหน้าให้เจ้าหน้าที่คนนั้น
“สวัสดีค่ะ” ด้านธารทีรายกมือไหว้หัวหน้าฝ่ายบุคคลอย่างถ่อมตน เมื่อเจ้าหน้าที่ที่พาเธอมาส่งออกไปแล้ว
“ค่ะ เชิญนั่งเลยค่ะ” นิลกาลรับไหว้แล้วบอกให้อีกฝ่ายนั่ง
“ขอบคุณค่ะ”
“ขอดูเอกสารหน่อยนะคะ”
“นี่ค่ะ” หญิงสาวส่งเอกสารที่เตรียมมาให้อีกฝ่ายดู
“จบจากมหาวิทยาลัย XXX เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง”
นิลกาลอ่านเอกสาร แล้วเงยหน้าขึ้นมองธารทีราด้วยความตกใจ เพราะหญิงสาวตรงหน้ามีดีกรีเป็นถึงแพทย์ที่จบจากต่างประเทศเลยทีเดียว
“ค่ะ”
“ชื่อคุณหมอธารทีรา”
เมื่อนิลกาลอ่านประวัติของคนตรงหน้าอีกครั้งก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน เพราะนามสกุลของธารทีราช่างคุ้นเหลือเกิน และเมื่อนึกขึ้นได้ว่า นามสกุลนั้นคุ้นอย่างไรก็เงยหน้ามามองคนตรงหน้าแล้วทำตาโต จากนั้นก็ลุกพรวดขึ้นยืนด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวเหมือนคนป่วย
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ธารทีราถามพร้อมทั้งลุกขึ้นตาม
“เอ่อ...นามสกุลของคุณหมอธารทีรา คุณหมอเป็น...”
นิลกาลทำอะไรไม่ถูก พลางพูดเสียงติดอ่าง
“ดิฉันเป็นน้องของคุณหนึ่งนทีค่ะ”
เธอตอบเรียบ ๆ พลางฉายรอยยิ้มออกมาอย่างสดใส
“น้อง!” คำพูดของอีกฝ่าย ทำให้นิลกาลถึงกับต้องอุทานออกมา
“ค่ะ น้องสาวคือฉันไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็ก แล้วก็เพิ่งจะกลับมา” ธารทีราบอกให้นิลกาลรับรู้ ซึ่งความจริงเธอไม่ต้องมานั่งอธิบายอะไรก็ได้
“อ๋อค่ะ” นิลกาลตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเธอคือครอบครัวของผู้บริการโรงพยาบาล
“ช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้ไหมคะ”
หญิงสาวขอร้องอีกฝ่าย เพราะไม่อยากจะเปิดเผยตัวตนให้คนอื่นรู้จักมากนัก แม้ว่านามสกุลของเธอจะโด่งดังทั่วโรงพยาบาล แต่หญิงสาวคิดว่าหากไม่มีใครไปป่าวประกาศมากนัก เธอก็คงสามารถอยู่อย่างสงบ ๆ ได้
“ทะ...ทำไมเหรอคะ” นิลกาลถามเสียงติดอ่างอีกครั้ง
“คือฉันยื่นเอกสารทำงานที่นี่ ด้วยความสามารถของตัวเอง จึงไม่อยากให้ทุกคนมองว่าฉันเป็นเด็กเส้นน่ะค่ะ” คุณหมอสาวทำหน้านิ่งขณะมองนิลกาล เพราะเธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังมองเธอด้วยสายตาที่สื่อได้ประมาณว่า เธอเข้ามาทำงานในนี้ได้เพราะมีพ่อแม่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลอย่างไรอย่างนั้น
“อ๋อ ได้ค่ะ” ด้านนิลกาลที่คิดแบบนั้นอยู่แล้วยิ้มแห้ง ๆ ให้คนตรงหน้า พร้อมพยักหน้ารับปากว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
“ขอบคุณนะคะ” ธารทีราเอ่ยขอบคุณ พลางพยักหน้ารับ ก่อนจะฟังรายละเอียดของงานที่ตนเองต้องรับผิดชอบอย่างตั้งใจ
บทที่ 23สามสิบนาทีต่อมา...พอคุยธุระกับนิลกาลเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ออกมาจากห้องทำงานของหัวหน้าฝ่ายบุคคล พลางเดินไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปหาพี่ชายทว่ายังไม่ทันได้ขึ้นลิฟต์ไปก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นก่อน หลังจากสนทนากับคนที่โทรมาอยู่ครู่หนึ่ง หญิงสาวก็ได้รับรู้เรื่องที่น่าตื่นเต้นบางอย่างหลังเพื่อนวางสายไป เธอก็ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นของผู้บริหาร“มาพบใครคะ” เลขาหน้าห้องที่นั่งทำงานอยู่นั้นเอ่ยถามบุคคลมาใหม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งหล่อนไม่ได้เงยหน้ามอง“คุณหนึ่งนทีค่ะ” ธารทีราบอกชื่อจริงของพี่ชายออกไป แต่เธอไม่ได้สนใจมองท่าทีของเลขาสาว เพราะจุดสนใจของเธอคือประตูห้องทำงานของพี่ชาย“ได้นัดไว้หรือเปล่าคะ” หล่อนถามเสียงเรียบ พร้อมเงยหน้ามองคนขอเข้าพบเจ้านาย“ไม่ค่ะ แต่…” หญิงสาวกำลังจะบอกเลขาพี่ชายว่า ‘แต่คุณหนึ่งนทีให้ฉันมาพบได้โดยไม่ต้องนัดค่ะ’ทว่ายังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรสักคำ เลขาหน้าห้องก็สวนขึ้นมาว่า“ถ้าไม่ได้นัดไว้ ก็เชิญนั่งรอตรงโน้นก่อนนะคะ” เลขาสาวตอบแบบไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไร ซ้ำยังถลึงตาใส่คนตรงหน้าอีกด้วยด้านธารทีราไม่ตอบอะไร แต่หญิงสาวหันหลังไปมองมุมรับแขกที่เลขาพี่ชายบอกให้ไปนั่งรอ แล้วหันก
บทที่ 24เมื่อมาถึงโชว์รูมรถแบรนด์หรู หนึ่งนทีก็นั่งมองน้องสาวเดินดูรถคันแล้วคันเล่า แต่ดูเหมือนน้องสาวของเขาจะเลือกรถไม่ได้สักที ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“เลือกได้หรือยัง”“พี่ซีลพาไอซ์มาเลือกรถหรูขนาดนี้เอาไว้ขับไปทำงาน คนก็สงสัยกันพอดีสิ” ธารทีราทำเสียงประชดประชันใส่พี่ชาย“สงสัยอะไร”“พี่ซีลลองคิดดูสิ หมอจบใหม่อะไรจะมีเงินซื้อรถหรูราคาแพงหูฉี่แบบนี้คะ” ธารทีราทำหน้างอให้ เมื่อชี้ให้พี่ชายดูราคารถที่สูงลิ่ว“ก็บอกไปสิว่าที่บ้านรวย” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ เมื่อได้พูดหยอกล้อน้องสาว“พี่ซีล ไอซ์ซีเรียสนะคะ”ธารทีราทำหน้าคิดหนัก เมื่อมองมาทางพี่ชาย“จะคิดมากทำไม ชอบคันนี้ไหม ถ้าชอบเดี๋ยวพี่จะได้จัดการให้” หนึ่งนทีเอ่ยถาม พลางเปิดประตูรถเข้าไป เพื่อสำรวจดูข้างใน“ขืนขับไปทำงานมีหวังถูกคนที่ทำงานหมั่นไส้กันพอดีหญิงสาวชะเง้อมองภายในรถ แต่ในใจก็รู้สึกพอใจรถคันนี้อยู่ไม่น้อย แม้จะไม่อยากซื้อรถราคาแพง แต่พี่ชายเอาใจขนาดนี้ เธอจะปฏิเสธก็คงจะเสียน้ำใจแย่“ตกลงเอาคันนี้นะ พี่ว่าเหมาะกับเราดี” หนึ่งนทีหันมาถามน้องสาวอีกครั้ง“ก็สวยดีค่ะ”ธารทีราเอ่ยชม พลางลูบมือไปตามกระโปรงรถด้านหน้าเบา ๆ
บทที่ 25เช้าวันต่อมา...ธารทีราขับรถของคุณจอห์นมาที่โรงพยาบาลแต่เช้าเพื่อเริ่มทำงานวันแรก เพราะรถของเธอที่ไปซื้อเมื่อวานต้องรออีกหนึ่งอาทิตย์ถึงจะได้วันนี้หญิงสาวพยายามที่จะหลีกเลี่ยงบอดี้การ์ด โดยสั่งว่าไม่ให้ตามมา เพราะไม่อยากให้การ์ดคอยเดินตาม เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ก็ขับรถไปจอดตรงลานจอดรถช่วงเวลาที่ลงจากรถ ธารทีราก็ยิ้มมุมปาก เมื่อเหลือบตาไปเห็นรถเก๋งสีดำจอดอยู่ไม่ไกลจากตรงที่รถของเธอจอดอยู่ เธอจำได้ว่ารถคันนั้นเป็นรถของมีนา บอดี้การ์ดของเธอนั่นเองหญิงสาวเดินตรงไปยังรถของบอดี้การ์ด แล้วเคาะหน้าต่างรถด้านข้าง เพื่อให้คนในรถเลื่อนหน้าต่างลง“เอ่อ...คุณไอซ์” มีนาตกใจเล็กน้อย ที่เห็นเจ้านายสาวยืนอยู่ข้างรถ ซึ่งหล่อนอุตส่าห์ขับรถตามหญิงสาวมาแบบไม่ให้รู้ตัว“ฉันบอกพี่มีนาแล้วนี่ว่าไม่ต้องตามไง”ธารทีราบ่น พร้อมทั้งยังขยับตัว เมื่อมีนาเปิดประตูก้าวลงมาจากรถ“พี่ทำตามคำสั่งของคุณหนึ่งนทีค่ะ” มีนาตอบเสียงเรียบแต่แน่วแน่“แล้วนี่มากันกี่คนคะ” คนฟังทำหน้าเซ็ง ๆ เมื่อปรายตามองลูกน้องของมีนา ซึ่งมีสามคนที่แอบยืนอยู่อีกมุมมีนาไม่ตอบคำถาม แต่เธอเหลือบตามองลูกน้อง แล้วหันมามองเจ้านายที่กำลังทำหน
บทที่ 26เมื่อบอกหมอพิมพ์แล้ว อุษาก็ทำหน้าสงสัย ว่าทำไมเพื่อนถึงมาอยู่ที่นี่ได้จึงถามไปว่า“แล้วนี่แกมาหาฉันเหรอ”ธารทีราส่ายหน้าเมื่อพูดว่า “เปล่า ฉันมาทำงาน”คำตอบของเพื่อนทำให้อุษาทำหน้างง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าที่แผนกจะมีหมอคนใหม่เข้ามา ซึ่งวันนี้ต้องมารับเวรต่อจากเธอจึงรีบถามกลับ“หมอคนใหม่คือแกเองเหรอ”“ใช่” ธารทีราพยักหน้ารับ“นี่แกกลับมาอยู่ไทยถาวรแล้วเหรอ” อุษาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ในขณะที่ธารทีราพยักหน้าให้เพื่อน“อ้ายยย! ฉันดีใจที่สุดเลยแก”เมื่อได้คำตอบ อุษาก็ร้องออกมาด้วยความยินดีอย่างลืมตัว“เสียงดังแก” ธารทีรารีบบอก พลางยกมือปิดปากเพื่อนอย่างรวดเร็วอุษามองตามสายตาของเพื่อน เห็นนิลกาลที่ยืนอยู่ก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ“อุ๊ย! คุณนิลก็อยู่ด้วยเหรอคะ”“จ้ะ ถ้าอย่างนั้นพี่ขอตัวนะ” นิลกาลไม่ถือสา พร้อมทั้งพยักหน้าให้แล้วเดินออกจากแผนกไปเมื่อนิลกาลไปแล้ว หมอพิมพ์ที่มีงานต้องทำก็บอกกับสองสาวว่า“คุยกันไปก่อนนะ เดี๋ยวคนอื่นก็มากันแล้ว”“ค่ะ” อุษากับธารทีราขานรับหมอพิมพ์ แล้วพากันไปนั่งสนทนาต่อที่เก้าอี้ใกล้ ๆ“กลับมาทั้งที ทำไมไม่บอกกันเลยยะ” อุษาถามเสียงประชด“ถ้าบอกก็ไม่เซอ
บทที่ 27ช่วงเย็นที่ห้องอาหาร พ่อแม่และลูกทั้งสองนั่งกินข้าวด้วยกัน ซึ่งเย็นนี้ก็มีแต่ของโปรดของธารทีราอีกเช่นเคย“กินเยอะ ๆ นะลูก” คุณหญิงโสภาตักกุ้งทอดเกลือให้ลูกสาว“ขอบคุณค่ะ” ธารทีรายกมือไหว้ทุกครั้ง เวลาพ่อแม่ทำอะไรให้“ทำงานวันแรกเป็นไงบ้าง” คุณจอห์นถามเพราะเป็นห่วงลูกสาวคนเล็ก“วันนี้แค่ไปรู้จักคนในโรงพยาบาลบางส่วน และศึกษาข้อมูลของคนไข้ที่ต้องดูแลค่ะ ไม่ได้ทำอะไรมาก” ธารทีราบอกพ่อ แล้วหันไปยิ้มอาย ๆ เมื่อได้สบตากับแม่ เพราะเมื่อเย็นเธอเพลียมากจนผล็อยหลับไปบนตักของท่านตั้งนาน“อื้อ คงเป็นพรุ่งนี้ถึงจะมีงานให้ทำสินะ” คุณจอห์นบอกลูกสาว แล้วคอยตักอาหารโปรดให้“ค่ะ”หญิงสาวขานรับและยกมือไหว้พ่อที่ท่านตักอาหารโปรดให้ ซึ่งพ่อไม่เคยลืมว่าเธอชอบกินอะไร โดยเฉพาะหมึกผัดไข่เค็มที่อยู่ในจานเธอตอนนี้“มีปัญหาอะไรก็บอกพี่นะ” หนึ่งนทีเอ่ยขึ้นมา พลางตักอาหารให้น้องสาวเช่นกัน“ค่ะพี่ซีล”ธารทีรายิ้มรับ ขณะตักต้มจืดใบตำลึงใส่ชามเล็กให้พี่ชายด้านคุณจอห์นยิ้มเบา ๆ ให้ภรรยา เขามองลูกทั้งสองที่รักและดูแลกันด้วยรอยยิ้ม เพียงแค่นี้เขาก็สุขใจแล้ว“เดี๋ยวกินข้าวอิ่มกันแล้ว ไปคุยกับพ่อหน่อยนะ”“ไอซ์เหรอค
บทที่ 28“พวกมันเป็นใคร” คุณจอห์นถามเสียงดัง ท่านไม่พอใจอย่างมากที่มีคนจ้องเล่นงานลูกสาวสุดที่รัก“เศรษฐีประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังจะลงประมูลร่วมกับเรานั่นแหละครับ” เมื่อได้ยินคำตอบของลูกชาย คุณจอห์นก็ถอนหายใจแรง ๆ แล้วถามลูกชายว่า“แล้วมันรู้เรื่องยัยไอซ์ได้ยังไง”“มันคงตามสืบจากทะเบียนราษฎร์ครับ เพราะก่อนน้องจะมา เราได้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่เรื่องข้อมูลต่าง ๆ ของน้องน่ะครับ”หนึ่งนทีบอกออกไป เพราะก่อนที่ธารทีราจะกลับมา เขาและพ่อได้เดินเรื่องเอกสารทางราชการให้หญิงสาวมากมาย แม้จะกำชับว่าให้ปิดเป็นความลับ แต่มีหรือจะหลุดรอดออกไปไม่ได้หากมีเงินหนาและอิทธิพลมากพอ“เราพลาดสินะ” คุณจอห์นมีหน้าตาเคร่งเครียดขึ้นมาทันควัน“ผมหาทางป้องกัน และให้คนมาดูแลน้องแล้วครับ”“ไอซ์ต้องระวังตัวนะลูก” คุณจอห์นปรับสีหน้าเครียดขรึมให้เป็นปกติ แล้วหันไปบอกลูกสาว“ค่ะ”ธารทีราที่นั่งฟังเงียบ ๆ มานานพยักหน้ารับฟัง“ถ้ามีอะไรผิดปกติ ให้รีบบอกมีนา เข้าใจไหม”ผู้เป็นพี่ชายกำชับน้องสาว เพราะวันนี้มีนาได้รายงานว่าธารทีราหนีกลับบ้านก่อนเวลาโดยไม่มีคนตามคุ้มกัน ซึ่งเขายังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องนี้กับน้องสาวเลย“ค่ะพี่ซีล” ธา
บทที่ 29เกือบหนึ่งเดือนแล้ว ที่ธารทีรามาทำงานที่โรงพยาบาล หญิงสาวทำงานได้อย่างราบรื่นเข้ากับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและหมอคนอื่นได้ดีอีกอย่างที่คนในแผนกรู้ก็คือคุณหมอคนใหม่มีห้องตรวจเป็นของตนเอง ซ้ำป้ายชื่อด้านหน้ายังบ่งบอกนามสกุลของเธออย่างชัดเจน ว่าเธอคือน้องสาวของผู้อำนวยการของโรงพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งต่อให้เจ้าตัวไม่อยากป่าวประกาศตัวเองก็มีคนเสนอหน้าทำมันให้เรียบร้อยแล้วช่วงแรก ๆ ที่ทำงานก็จะมีบางคนเกรงใจและเกร็ง แต่เธอก็พยายามทำตัวสบาย ๆ พูดคุยอย่างเป็นกันเองกับทุกคน ทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น ทำให้ธารทีราที่นั่งทำงานเอ่ยบอกคนข้างนอก ทั้งที่ยังคงอ่านเอกสารของโรงพยาบาลอยู่“เข้ามาได้ค่ะ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนข้างใน พยาบาลหน้าห้องก็เปิดประตูเข้าไป แล้วพูดอย่างเกรงใจว่า“คุณหมอคะ”“มีอะไรคะ”ธารทีรายิ้มเมื่อเงยหน้ามองพยาบาล“มีคนไข้มาตรวจค่ะ”คุณหมอสาวไม่ตอบ แต่เหลือบมองตารางงานของตน ซึ่งเวลานี้ไม่มีนัดคนไข้ เธอจึงมองพยาบาลอย่างสงสัย จนอีกฝ่ายต้องรีบพูดขึ้นว่า“คนไข้ไม่ได้นัดไว้ค่ะ”“อ้อ งั้นเชิญคนไข้เข้ามาได้เลยค่ะ”ธารทีราพยักหน้าให้พยาบาล แล้วเดินไปหยิบเ
บทที่ 30“วันนี้เหรอครับ” ชายหนุ่มเอาใบส่งตัวที่อีกฝ่ายยื่นให้มาเปิดอ่านเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเธอ“วันไหนก็ได้ค่ะ แต่นัดครั้งหน้าคุณไทเกอร์ต้องเอาผลเอกซเรย์มาให้หมอดูด้วยนะคะ”“ครับ”“หมอจะนัดคุณไทเกอร์อีกทีวันที่สิบห้าที่จะถึงนี้นะคะ”“อีกสองอาทิตย์เลยหรือครับ”“ค่ะ หรือคุณไทเกอร์ไม่สะดวก จะเลื่อนนัดเป็นเดือนหน้าก็ได้นะคะ เอาเป็นวันจันทร์ที่ห้า โอเคไหมคะ”“ได้ครับ ผมสะดวกมากครับ”คราวนี้ไทเกอร์รีบพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย“ค่ะ นี่เป็นใบสั่งยานะคะ”ธารทีรายิ้ม ขณะยื่นใบสั่งยาให้ชทางด้านชายหนุ่มก็รับมาถือไว้ โดยยังคงจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมละสายตา“มีอะไรอยากถามหมอหรือเปล่าคะ”คุณหมอสาวตัดสินใจเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าคนไข้ยังนั่งจ้องหน้าเธออยู่“นี่ใกล้เที่ยงแล้ว คุณหมอไปกินข้าวที่ไหนครับ”ไทเกอร์ถามเสียงทุ้ม พร้อมกับเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ซึ่งในตอนนี้เขาทำตัวสบาย ๆ เหมือนไม่ใช่คนไข้เลย“โรงอาหารค่ะ” หญิงสาวยิ้มเล็กน้อย เพราะเขาไม่ใช่รายแรกที่มามุกนี้ ทุกคนที่ผ่านมาก็ลองเชิงถามเธอ แล้วต่อไปก็จะชวนไปกินข้าวเที่ยงด้วย“จะเป็นไรไหมครับ ถ้าผมจะขอเลี้ยงข้าวหมอสักมื้อ”‘นั่นไง น
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล