“คงเป็นไอ้ไทเกอร์แน่” หนึ่งนทีเป็นฝ่ายตอบ แววตาของเขาตอนนี้ดุกร้าวจนน่ากลัว
“ทำไมพวกมันยังไม่ยอมเลิกราสักที ไอซ์เสียทุกคนไปแล้วแท้ ๆ พวกมันยังไม่พอใจอีกหรือ” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ ทั้งแค้นใจและไม่เข้าใจว่าเหตุใดดาเนียลจึงตามจองล้างจองผลาญกันไม่เลิก
“ไม่เอานะลูกแม่ อย่าร้องไห้ ลูกอยู่กับพ่อแม่ และพี่ๆ แล้ว ลูกปลอดภัยแล้วนะ” คุณหญิงปลอบขวัญลูกสาว
“ไอซ์ขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ และพี่ซีลมากค่ะ”
ธารทีราเช็ดน้ำตาแล้วมองหน้าทุกคน ก่อนจะไปหยุดที่ใบหน้าหน้าหล่อเหลาของเขตแดน แล้วบอกเขาด้วยแววตาเศร้าๆ ว่า เธอขอบคุณเหลือเกินที่เขายังรอคอยที่จะปกป้องเธออยู่เสมอ แม้ว่าความผูกพันของเราในวัยเด็กจะผ่านมานานแล้วก็ตาม
ทางด้านเขตแดน พอเห็นว่าคนสำคัญของเขาปลอดภัยแล้วก็คิดจะขอตัวกลับ เพราะอยากให้เธอได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวที่รักและห่วงใยเธอไม่ต่างจากเขา
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ดินจะกลับแล้วเหรอลูก” คุณหญิงถามเขตแดนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ครับ” เขตแดนพยักหน้ารับ แล้วหันไปสบตาธารทีราอีกครั้ง
“กลับดี ๆ นะลูก ลุงขอบใจมากที่พาน้องมาส่งถึงบ้านอย่างปลอดภัย” คุณจอห์นบอกเสียงทุ้ม
“เดี๋ยวน้ำไปส่งค่ะ”
พอทุกคนในบ้านได้ยินหญิงสาวเรียกตัวเองด้วยชื่อนั้นต่างก็พากันตกใจ จ้องมองเธอสลับกับเขตแดนอย่างไม่วางตา
เมื่อธารทีรากับเขตแดนออกไปแล้ว คุณหญิงโสภาก็หันไปมองหน้าสามีกับลูกชาย พร้อมกับถามอย่างสงสัย
“ได้ยินยัยไอซ์เรียกชื่อตัวเองว่าน้ำไหม นี่ตาดินกับยัยไอซ์…”
คุณโสภาพูดไม่ทันจบประโยค คุณจอห์นก็แทรกขึ้นว่า
“ลูกคงบอกตาดินแล้ว”
สีหน้าตกใจของแม่ ทำให้หนึ่งนทีพูดเสริมขึ้นว่า
“ไอ้ดินมันรู้นานแล้วครับ”
“อย่างนี้นี่เอง” เมื่อได้รู้จากปากของสามีกับลูกชายแล้วแล้ว คุณหญิงโสภาก็ยิ้มออก ท่านดีใจที่ในที่สุด ลูกสาวก็สามารถเผชิญหน้ากับเรื่องราวในอดีตได้แล้ว จากนี้คงไม่ต้องซ่อนตัวเองอยู่ภายใต้เงาของหญิงสาวที่ใช้ชื่อว่าธารทีราอีกต่อไป
เมื่อมาถึงลานจอดรถ ธารทีราพยายามแกะมือของเขตแดนออก เนื่องจากตอนนี้เขาพาเธอเดินมาหลบอยู่ข้างตัวรถ ซ้ำยังเอาแต่กอดและหอมเธอด้วยความเสน่หา
“พี่ดินอย่าค่ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่เห็น”
หญิงสาวร้องห้ามเสียงหลงและพยายามออกจากอ้อมแขนของอีกฝ่าย แต่เขตแดนมีแรงมากกว่า เธอจึงไม่อาจทำได้ ซ้ำร้ายเขายังจุมพิตเธอเบา ๆ ตั้งหลายครั้ง
“เห็นก็ดี พ่อกับแม่จะได้จับเราแต่งงานกัน”
เขตแดนจับให้หญิงสาวยืนพิงข้างรถ ส่วนตัวเขาก็ยืนคร่อมกักเธอไว้ไม่ให้ไปไหน
“คนขี้โกง ปล่อยน้ำก่อนค่ะ”
คนพูดพยายามผลักคนเจ้าเล่ห์ตรงหน้าออกไปให้ไกล ๆ พร้อมกับออกปากไล่
“กลับไปได้แล้วค่ะ”
หญิงสาวชิงโอกาสนี้เดินหนี แต่ยังช้ากว่าชายหนุ่มที่ตามมาดึงแขนของเธอเอาไว้ แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้รังแกธารทีราอีกแล้ว แต่ทำเพียงแค่จับมือเธอแล้วบีบไว้แน่น พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยความห่วงใยอย่างลึกซึ้ง
“ระวังตัวด้วยนะน้ำ”
“ค่ะ พี่ดินก็เหมือนกันนะคะ” ธารทีราพยักหน้ารับ แล้วบอกเขากลับไปเช่นกัน เพราะเธอเองก็เป็นห่วงเขาไม่ต่างกันหรอก
“งั้นพี่กลับนะ”
“ขับรถดี ๆ นะคะ”
“ครับ” เขตแดนพยักหน้า ก่อนจะก้าวขึ้นรถแล้วขับออกไป โดยที่หญิงสาวยังยืนรอส่งเขตแดน จนรถเขาออกจากบ้านไปจนลับสายตาแล้ว
“อะแฮ่ม...” เสียงกระแอมที่ดังอยู่ข้างหลัง ทำให้หญิงสาวต้องหันหลังไปมอง
“พี่ซีล”
“อะไรยังไงน้องสาวพี่” หนึ่งนทีเอ่ยแซว
“อะไรคะ” เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วถามกลับ
“ก็กับมันน่ะ ยังไง” ชายหนุ่มจึงขยายความให้น้องเข้าใจ
“ก็ไม่ยังไงค่ะ” ธารทีราอายจนหน้าแดง เมื่อพี่ชายดูจะรู้เรื่องของเธอกับเขตแดนอยู่ไม่น้อย แต่อย่างว่าการกลับมาครั้งนี้ทั้งสองดูสนิทสนมกันมากขึ้น คนอื่นจะไม่สังเกตเห็นก็แปลกแล้ว
“จริงเหรอ” เขายังคงจี้ถามและทำหน้าล้อเลียนน้องสาว
“ค่ะ”
หนึ่งนทีมองน้องสาวด้วยแววตาอ่อนแสงลง จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของน้องพร้อมพูดเสียงเข้มว่า
“พี่เคารพการตัดสินใจของไอซ์นะ ครอบครัวเราจะอยู่ข้างไอซ์เสมอ”
“ขอบคุณพี่ซีลค่ะ” ธารทีรามองพี่ชายที่ปกป้องเธอมาตลอดด้วยความซาบซึ้งใจ
“เข้าบ้านกันเถอะ”
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้า แล้วเดินตามพี่ชายเข้าไปในบ้าน บ้านที่มีพ่อแม่ที่ให้ความรักความอบอุ่น และปกป้องเธอมาตลอด
บทที่ 68ที่บ้านของดาเนียล..ทันทีที่ลูกน้องเปิดประตูเข้ามา ดาเนียลที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานก็หมุนเก้าอี้มาเผชิญหน้า แล้วถามเสียงเหี้ยม“ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง”“มันหนีไปได้ครับนาย”“หนี! หนีไปอีกแล้ว” ดาเนียลตวาดอย่างฉุนเฉียว เมื่อลูกน้องรายงานเช่นนั้น“ครับ” ลูกน้องขานรับ พลางก้มหน้าหลบสายตาของเจ้านาย“ไปเรียกไอ้ไทด์มา”“ครับท่าน” ลูกน้องรับคำ แล้วรีบเดินถอยหลังออกจากห้อง เพื่อไปตามไทเกอร์มาพบเมื่อไทเกอร์ถูกเรียกตัวให้กลับมาบ้าน เขาก็รีบขับรถมอเตอร์ไซค์กลับมาทันที ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็มาถึงหน้าบ้าน ชายหนุ่มลงจากรถมอเตอร์ไซค์ แล้วก้าวยาว ๆ ตรงไปยังห้องทำงานของบิดา เขาเคาะประตูตามมารยาท เมื่อคนข้างในอนุญาตก็เปิดประตูเข้าไป“ป๋า”“กูให้มึงตามนังนั่นไม่ใช่หรือ ไปถึงไหนแล้ว”“ป๋าสั่งคนไปล่าเธอแล้วนี่ ทำไมผมต้องตามด้วยครับ” ไทเกอร์บอก เพราะตอนที่เขาจะมาที่นี่ ยศได้รายงานเขาหมดแล้วว่าพ่อทำอะไรไปบ้าง“กูถามมึง ไม่ใช่ให้มึงมายอกย้อนกู” เมื่อถูกถามกลับดาเนียลก็หัวเสียขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าพ่อโมโห ไทเกอร์ก็ไม่อยากมีปัญหา เขาจึงก้มหน้าลงแล้วพูดขึ้นว่า“ผมตามเธออยู่ครับ”“มึงหาทางจับตัวมัน
บทที่ 69หลายวันต่อมา อุษารู้ข่าวว่าเพื่อนกลับมาจากใต้แล้วและยังลางานต่ออย่างไม่มีกำหนดจึงมาหาเพื่อนแต่เช้า และทั้งสองก็ได้นั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น“แกไม่เหงาเหรอ” อุษาถามเมื่อสังเกตเห็นเพื่อนทำหน้าเศร้า ๆ“เหงาสิ แต่ทำไงได้” ธารทีราบอกเพื่อน“งั้นไปเที่ยวห้างกัน” อุษาขยับเข้าไปจับมือเพื่อน แล้วเอ่ยชวนเสียงเบา เพราะกลัวคนได้ยิน“ฉันไปไม่ได้” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธทันที“ทำไมถึงไปไม่ได้” เพื่อนรักขมวดคิ้วสงสัยหนักกว่าเดิม“ไม่มีอะไร” ธารทีราไม่อยากเล่าเรื่องของตัวเองให้เพื่อนฟัง อีกอย่างพ่อแม่และทุกคนต่างห้ามไม่ให้เล่าให้ใครฟัง“ถ้าไม่มีอะไรก็ไปกันเถะน่า” อุษายังคงดื้อรั้น ไม่ยอมง่าย ๆ เช่นกัน วันนี้เป็นวันหยุดของเธอจึงอยากจะมาอยู่กับเพื่อนให้เต็มที่“เดี๋ยวษา คะ...คือ...” หญิงสาวขืนตัวเองไว้ เมื่อเพื่อนดึงมือให้ลุกขึ้น ทำให้อุษาต้องจ้องอย่างสงสัย และเป็นจังหวะที่แวนเดินมาพอดี ธารทีราจึงเรียกไว้“พี่แวน”“ครับคุณหนู” แวนชะงัก แล้วเดินมาหา“ไอซ์ไปเดินห้างกับเพื่อนได้ไหมคะ”ถึงแวนจะเป็นลูกน้อง แต่ธารทีราก็เคารพเหมือนพี่ชาย จึงแสดงอาการกล้า ๆ กลัวๆ เวลาขออนุญาตจากเขา“แต่ว่า…” แวนไม่ทันได
บทที่ 70“ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ แกไปไหม” ธารทีราถามเพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ซึ่งกำลังดูเมนูอาหารอยู่“ไม่ แกไปเถอะ เดี๋ยวฉันเฝ้ากระเป๋าให้เอง” อุษาส่ายหน้าให้ แล้วอาสาเฝ้ากระเป๋าให้เพื่อนธารทีราได้ยินเช่นนั้นจึงเดินออกจากร้านอาหารตรงไปยังห้องน้ำ และช่วงเวลาที่จะเลี้ยวซ้าย หญิงสาวก็เห็นการ์ดที่กำลังวิ่งตามมา แต่จู่ ๆ ก็มีคนมาบังพวกเขาไว้แล้วร้องโวยวายช่วงเวลาที่หญิงสาวหันไปมองความวุ่นวายข้างหลัง และกำลังจะเดินย้อนกลับไปดู เธอก็ต้องชะงักเท้า เมื่อเห็นไทเกอร์เดินตรงมาหา“คะ...คุณ”“สวัสดีคุณหมอธารทีรา” ไทเกอร์ทักทายแล้วมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเจ้าเล่ห์หญิงสาวพยายามจะวิ่งหนีไป แต่ก็ไม่อาจหนีพ้นเงื้อมมือของอีกฝ่ายไปได้“จะหนีไปไหน” ไทเกอร์รีบคว้าแขนเล็ก แล้วลากเธอเข้ามากอด จากนั้นเขาก็เอาผ้าที่เตรียมไว้มาปิดหน้าของเธอ“อื้อ...” ธารทีราพยายามเอามือใหญ่ออกจากจมูก แต่สุดท้ายก็ค่อย ๆ หมดสติลงเพราะฤทธิ์ของยาสลบเมื่อแน่ใจว่าคนในอ้อมแขนหมดสติแล้ว ไทเกอร์ก็พยักหน้ากับลูกน้อง ส่งสัญญาณให้ประคองเธอออกไปจากตรงนั้น ซึ่งเหมือนพวกเขาจะเตรียมการไว้อย่างดีแล้ว จึงเลือกลงมือในตอนที่หญิงสาวเดินมาตรงบริเวณทางอ
บทที่ 71หนึ่งนทีกำลังหงุดหงิดอย่างมาก แต่แล้วเขาก็คิดถึงใครอีกคนขึ้นมา จึงรีบโทรหาเขตแดน“ไอ้ดิน ไอซ์ถูกจับตัวไป” ชายหนุ่มรีบบอกโดยที่เพื่อนยังไม่ทันได้ถาม จากนั้นเสียงถามด้วยความร้อนรนของอีกฝ่ายก็ดังขึ้นมาจนแสบแก้วหู ซึ่งหนึ่งนทีก็ตอบคำถามไปว่า“ไอ้ไทเกอร์”เมื่อคุยกันแล้วว่าจะตามหาธารทีราอย่างไร หนึ่งนทีก็สรุปเพียงสั้น ๆ ว่า“เจอกันที่บ้านกู”“คุณซีลคะ” อุษาเรียกหนึ่งนที เมื่อเห็นว่าเขาวางสายแล้วเสียงสั่น ๆ เหมือนหวาดกลัว ทำให้ชายหนุ่มหันมามองแล้วเอ่ยขึ้นว่า“เธอกลับไปก่อน”“แต่ว่า…” อุษามีสีหน้ารู้สึกผิดและลังเล เธอเป็นห่วงเพื่อนและอยากไปกับเขาด้วยแวนรู้ว่าเจ้านายไม่พอใจอุษาที่เป็นคนชวนธารทีรามาที่นี่ ซ้ำยังพาวิ่งหนีบอดี้การ์ดไปอีกด้วย จึงหันไปบอกกับเพื่อนของเจ้านายว่า“กลับไปก่อนเถอะครับ ตอนนี้สถานการณ์ไม่ปกติ”“ก็ได้ ฉันขอโทษด้วยนะคะ” อุษากล่าวด้วยเสียงเศร้า ๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทางประตู“เชิญครับ ผมจะเดินไปส่ง” แวนเดินตามมาสนทนาด้วย แต่อุษายังไม่ยอมก้าวออกไป เพราะเธอได้หันมาพูดกับพี่ชายของเพื่อนว่า“ถ้ามีเรื่องอะไรเกี่ยวกับยัยไอซ์ ช่วยบอกฉันด้วยนะคะ”“อื้อ” หนึ่งนทีจึงพยักหน้
บทที่ 72ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงนาเดียร์ก็พาแม่มาถึงจุดหมาย เธอทำตามแม่บอกขับรถเข้าไปจอดในบริเวณหน้ามุขของบ้านเมื่อจอดรถแล้ว หญิงสาวก็ถามแม่ พร้อมกับมองบ้านหลังใหญ่ ซึ่งเธอไม่คุ้นตาเลยสักนิด“นี่บ้านใครคะคุณแม่”มาดามอันนาไม่ตอบ แต่รีบก้าวลงจากรถ นาเดียร์จึงจับแขนแม่ไว้ ก่อนที่ตนเองจะลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่งหญิงสาวพยุงแม่พาเดินไปที่ทางเข้า พร้อมถามแม่ว่า“คุณแม่ยังไม่ตอบเดียเลย นี่บ้านใครคะ”“เดี๋ยวก็รู้เอง ตามแม่มาเงียบ ๆ ก็พอ”พอมาดามเอ่ยจบ เด็กรับใช้ที่เหมือนจะรออยู่แถวนั้นอยู่แล้วก็วิ่งเข้ามาต้อนรับ“คุณอันนาใช่หรือเปล่าคะ คุณหญิงกำลังรออยู่เลยค่ะ”“ใช่จ้ะ”หลังจากนั้นสาวใช้ก็รีบเชิญสองแม่ลูกให้เข้ามาในบ้าน เนื่องจากก่อนหน้านี้มาดามอันนาได้ติดต่อมาหาคุณหญิงโสภาเจ้าของบ้านล่วงหน้าแล้วว่าจะมาพบที่นี่เมื่อมาถึงหน้าห้องรับแขก เด็กรับใช้ก็เข้าไปข้างใน พลางเอ่ยบอกนายหญิงว่า“คุณผู้หญิงคะ แขกมาแล้วค่ะ”“อันนา” คุณหญิงโสภาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นคนที่เคยรู้จักอยู่ตรงหน้า ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าอันนาจะมาที่นี่วันนี้ แต่คุณหญิงก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งจนกระทั่งตอนนี้ และที่เธอ
บทที่ 73ด้านนาเดียร์ เมื่อเห็นแม่ของตนถูกชายหนุ่มตะคอกใส่ก็สวนกลับไปอย่างไม่พอใจ“นี่! นายเป็นใครถึงกล้ามาตะคอกใส่แม่ฉันอย่างนี้”“เป็นเจ้าชีวิตของพวกเธอไง” หนึ่งนทีคำรามเสียงเหี้ยม อันที่จริงเขาอยากจะยื่นมือไปคว้าลำคอระหงมาบีบให้แหลกคามือเสียเลย“ถ้านายทำอะไรแม่ฉัน นายตายแน่” นาเดียร์เถียง พร้อมทั้งยืนคอตั้งจ้องหน้าอีกฝ่าย ถึงแม้ว่าเขาจะดูตัวใหญ่และสูงมาก แต่เธอก็ไม่คิดกลัว“หยุดเดี๋ยวนี้นะเดีย แล้วฟังแม่” อันนารีบห้าม เมื่อเห็นว่าลูกสาวทำท่าจะก่อเรื่องนาเดียร์ถูกแม่ฉุดให้ออกห่างจากหนึ่งนที ซึ่งเธอก็หันมาถามแม่ว่า“คุณแม่ นี่มันหมายความว่ายังไงคะ แล้วคนพวกนี้เป็นใคร แล้วที่พูดกันเมื่อครู่นี้อีก พี่ไทด์เป็นใครนะคะ”อันนาไม่ตอบลูกสาว แต่หันไปมองหน้าทุกคน แล้วไปหยุดที่คุณหญิงโสภา ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า“นักรบยังไม่ตาย และไทเกอร์ก็คือนักรบค่ะ”“วันที่เกิดเรื่องไทเกอร์รอดมาได้เพราะไม่ถูกยิงจุดสำคัญ ดาเนียลจึงเอาเขาไปเลี้ยง เพื่อจะให้มาทำลายพวกคุณ แต่เขาเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เองว่าน้ำฟ้ายังไม่ตาย เลยวางแผนให้นักรบทำร้ายลูกสาวคุณ”“ทำร้ายอย่างนั้นหรือ” คุณจอนห์เอ่ยขึ้นมา เพราะแน่ใจว่าการทำร
บทที่ 74ถึงจะไม่ได้อยู่ตรงจุดเกิดเหตุ แต่มาดามอันนาก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะดาเนียลเคยเล่าให้เธอฟังว่า สายตาเคียดแค้นของนักรบ มันจุดประกายให้ดาเนียลอยากเลี้ยงนักรบไว้แก้แค้นแทนตน“แล้วทำไมเขาถึงจำพวกเราไม่ได้” คุณจอห์นถาม เพราะหลานชายของเขาตอนนั้นก็เก้าขวบแล้ว น่าจะจำเรื่องราวต่าง ๆ ได้บ้าง“เรื่องนี้คงต้องโทษดาเนียลค่ะ เขาสั่งให้คนเอายาบางอย่างให้นักรบกิน บวกกับใช้ไฟฟ้าความถี่ขนาดต่าง ๆ จัดการกับสมองของหลานชายคุณ จนต่อมาเขาก็ไม่หลงเหลือความทรงจำเดิม ซ้ำยังให้หมอผ่าตัดทำศัลยกรรมใหม่ ตั้งแต่เขาอายุเท่านั้นด้วย เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงหน้าไปจากเดิม”พอมาดามอันนานึกถึงเรื่องในอดีตแล้วก็ปวดใจมาก และเธอก็ไม่คิดเลยว่าวิธีการโหดร้ายเช่นนั้นจะได้ผลด้วย เพราะสุดท้ายนักรบก็กลายมาเป็นไทเกอร์ที่ไม่เหลือความทรงจำอะไรเลย“มันเป็นบ้าไปแล้ว” คุณจอห์นกำมือแน่นอย่างแค้นใจ เมื่อได้ฟังเรื่องร้าย ๆ ที่เกิดกับหลานชายเสียงคำรามของคุณจอห์นดังจนอันนาต้องขยับตัวหนีไปนั่งชิดประตูรถ แล้วพูดด้วยเสียงสั่นระริกต่อว่า“เขาตั้งใจจะเลี้ยงนักรบให้เป็นนักฆ่า แต่ฉันขอไว้ว่าจะรับเขาเป็นลูก”คุณจอห์นไม่พูด แต่หันไปจ้องหน้ามาดามอ
บทที่ 75ณ บ้านพักชานเมืองบนเตียงกว้างในห้องนอนขนาดใหญ่ มีหญิงสาวนอนไม่ได้สติอยู่บนฟูกหนานุ่ม ข้างเตียงมีคนตัวใหญ่ยืนมองคนของเขากำลังตั้งกล้องอยู่“เมื่อไรพวกมึงจะตั้งเสร็จสักทีวะ” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยเสียงหงุดหงิดที่ลูกน้องทำงานชักช้าไม่ทันใจ“ใกล้แล้วครับนาย” ลูกน้องท้ายแถวบอก แล้วรีบเร่งมือ“รีบ ๆ ทำแล้วรีบออกไป” ไทเกอร์สั่งเสียงเหี้ยม เพราะเขารู้สึกว่าไอ้พวกนี้มันคอยแต่จะเหลือบตามองคนที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมถึงมีความรู้สึกผูกพันบางอย่างกับเธอ ถ้าพ่อไม่สั่งให้ย่ำยีและตั้งกล้องถ่ายภาพบัดสีไว้ เขาก็ไม่อยากทำร้ายหรือแตะต้องให้เธอต้องด่างพร้อยเลย“เสร็จแล้วครับ”“งั้นก็รีบไสหัวออกไป” เสียงบอกของลูกน้อง ทำให้ไทเกอร์หันไปมอง แล้วสั่งเสียงเกรี้ยวพร้อมเดินไปเปิดประตูห้องในระหว่างนั้น ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงที่ดังมาจากเตียงจึงรีบหันกลับไปมอง“ชะ ช่วยด้วย”ธารทีราลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ แล้วมองไปรอบด้าน จนมาสะดุดเข้ากับใบหน้าของไทเกอร์ที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า“ตื่นแล้วเหรอ” ไทเกอร์กระตุกยิ้มแล้วจ้องมองอีกฝ่ายอย่างนิ่งงัน ขณะเอ่ยถามออกไปเรียบ ๆ ดูท่าเธอจะกลัวเ
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล