“พะ พอแล้ว ปละ ปล่อยไข่มุกนะคะ” มุกรวีตัวสั่นปากสั่นห้ามปรามเขา เมื่อริมฝีปากร้ายกาจนั้นละจากริมฝีปากแดงเรื่อเห่อร้อนด้วยพิษจุมพิตร้อนแรง หญิงสาวผละจากอ้อมแขนแข็งแรงทันทีที่เขาปล่อย ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ กายอย่างตื่นตระหนกกลัวว่าจะมีใครมาพบเห็น
“อะไรกันสอนไปตั้งหลายครั้ง ทำไมยังจูบไม่เป็นสับปะรดอีกนะ”
“คนบ้า หน้าไม่อายใครเขาจะไปจูบเก่งเหมือนตัว” หญิงสาวแหวกลับคนตัวโตที่กอดอกมองตนด้วยสายตาร้อนแรงจนเธออดที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัวและหัวใจไม่ได้ แก้มสาวแดงจัดซึ่งมันสร้างความพอใจให้กับชายหนุ่มยิ่งนัก
“เอาเป็นว่าพรุ่งนี้คุณไม่ต้องมาทำงานในฐานะเลขาอีกต่อไป เพราะคุณพ้นสภาพการเป็นพนักงานของเราแล้ว” ไอศูรย์ตัดสินใจให้เสร็จสรรพ มุกรวีได้แต่อ้าปากค้างมองเขาอย่างไม่พอใจ
“ได้อย่างไร ฉันต้องทำงานนะคะไม่ได้เกิดมารวยล้นฟ้าอย่างคุณ ว้าย ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ คนบ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวแหวคนตัวโตที่กักเธอไว้ในอ้อมแขนอีกครั้งอย่างไม่พอใจและหวั่นไหวมือเล็กๆ ทั้งทุบทั้งหยิกเขา แต่ชายหนุ่มก็ทานทนเสียจริงไม่สะทกสะท้านซ้ำยังกระชับอ้อมแขนมากขึ้นอีก
ไม่น่าหลงกลมาเป็นเพื่อนเขาเลยแต่ถึงไม่มาไอศูรย์ก็บังคับให้มาด้วยอยู่ดี ไอศูรย์บอกว่าอยากจะมาฟังเพลงเงียบๆ ที่ร้านอาหารสุดหรูแห่งนี้เพื่อผ่อนคลายหลังจากการทำงานอันแสนเหนื่อยล้ามาตลอดหลายเดือนหลังจากที่ทำการเปิดโรงแรมให้บริการกับนักท่องเที่ยว ตอนนี้โรงแรมของไอศูรย์ก็มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าพักไม่ขาดสาย และโรงแรมของเขาก็ติดอันดับต้นๆ ของโรงแรมที่ดีที่สุดในเอเชียและของเมืองไทย
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำแล้ว เพราะผู้หญิงของไอศูรย์ ไม่ต้องทำงานก็มีกินไปทั้งชาติ” เขายังพูดหน้าตาย
“ฉันก็บอกแล้วไงคะว่าไม่ต้องการเหมือนกัน ฉันมีปัญญาทำมาหากินเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ เพียงแต่หากคุณมาเป็นผู้หญิงของผมแล้วหากอยากทำงานก็ยังทำงานได้ ทำงานให้ความสุขกับผมไงล่ะมุกรวี ผมเลือกให้คุณแล้วไม่ว่าอย่างไร คุณก็ไม่มีทางปฏิเสธ ผมรู้นะว่าคุณเองก็มีใจให้ผมเหมือนกัน”
“นี่คุณ... คุณมัน...หลงตัวเองที่สุด ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นกับคุณสักนิด” หญิงสาวแย้งเขาตาโต นี่เขาแอบสังเกตเธอด้วยหรือไร มุกรวีหน้าแดงแปร๊ดอย่างขัดเขิน อับอายนักที่เขาพูดเหมือนรู้ความในใจเธอ แล้วเขารู้ได้อย่างไรว่าเธอแอบมองเขานะ...
“แน่ใจหรือ ว่าไม่คิดอะไรกับผมจริงๆ แล้วทำไมแอบมองผมบ่อยๆ ล่ะ แล้วยังแอบทำตาหวานใส่ผมด้วยยามที่ผมเผลอตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา”
“คุณ...บ้า ไข่มุกไม่ได้ทำแบบนั้นเสียหน่อย” เธอบ่นอุบอิบกับตัวเองอย่างอับอาย มุกรวีหมดคำพูดที่จะมาตอบโต้กับไอศูรย์คิดไม่ออกเลยว่าจะตอบโต้เขาอย่างไรดีหันไปทางไหนก็ดูเหมือนไอศูรย์ได้วางกับดักไว้หมดแล้วและสิ่งที่เขาพูดก็ทำให้เธอได้อายนัก
“เอาล่ะ กลับกันเถอะ คืนนี้ผมจะให้เวลาคุณกลับไปนอนที่ห้องพักเป็นคืนสุดท้าย แล้วพรุ่งนี้เราจะกลับกรุงเทพฯ กัน แล้วหลังจากนั้นคุณก็ต้องมาอยู่กับผมที่คอนโด”
“ฉันไม่มีทางทำแบบนั้น”
“อ้อ แล้วก็เปลี่ยนจากฉันมาเรียกแทนตัวเองว่าไข่มุกอย่างที่เคยใช้กับคนอื่น แล้วก็เรียกผมว่าไอก็พอ เข้าใจใช่ไหม”
“ไม่เข้าใจและไม่มีวันเข้าใจด้วย ฉันจะฟ้องพี่ชายฉันให้มาจัดการกับคุณ รับรองว่าคุณจะไม่มีทางทำอะไรฉันได้”
“เอาเลย ผมไม่กลัวใครอยู่แล้ว และหากคุณจะฟ้องพี่ชายจริงๆ ละก็ ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ผมเผด็จศึกคุณเลยเสียดีมั้ย จะได้สมอ้างกับข้อหาที่จะโดนกระทืบหน่อย” ไอศูรย์พูดพลางเดินเข้ามาหาร่างบางช้าๆ เมื่อหญิงสาวสะบัดหลุดจากอ้อมแขนของเขาได้ก็เถียงฉอดๆ หากแต่ริมฝีปากแดงเรื่อที่ขยับไปมานั้นก็ทำให้เลือดร้อนๆ ของเขาเดือดพล่านด้วยความปรารถนา
ให้ตายเถอะ.. เขาร้อนรุ่มไปด้วยความต้องการครอบครองเธอถึงเพียงนี้เชียวหรือทั้งๆ ที่เขาเคยควงหญิงสาวมาหลายคน และแต่ละคนดีกรีความร้อนแรงนั้นไม่ต้องพูดถึงอีกทั้งสาวๆ เหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาล้วนแล้วแต่ยวนตายวนใจให้อยากคลุกเคล้าและมากด้วยประสบการณ์ หากแต่หญิงสาวตรงหน้าเขา มุกรวีหญิงสาวที่แสนจะธรรมดา การแต่งกายของเธอหรือก็มิดชิดไม่ได้โชว์เนื้อหนัง จูบก็ไม่เป็นสับปะรดซ้ำเงอะงะไม่รู้จักเอาใจ แต่ความปรารถนาในตัวเธอกลับมากมายจนเขาแทบระเบิดเพราะความอึดอัดที่พยายามเก็บกักความต้องการในตัวเธอไว้
“หยุดนะ หยุดอยู่ตรงนั้นเลย ไม่อย่างนั้นฉันร้องให้คนช่วย”
“ใครจะมาช่วยคุณได้ไข่มุกในเมื่อร้านทั้งร้านนี้ผมเหมาหมดแล้วไม่สังเกตหรือว่ามันนี้ไม่มีใครอยู่ที่นี่นอกจากเรา”
“คุณ...” หญิงสาวอึ้งกับคำพูดของเขาแล้วกวาดตามองรอบๆ ร้านอาหารสไตล์ล้านนาอันหรูหราแห่งนี้ก็พบว่าที่นี่ไม่มีใครนอกจากเขาและเธอจริงๆ
“ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรืออะไรของคุณตอนนี้มันจะอยู่ในความดูแลของผมตอนแรกก็ว่าจะให้เวลาสักวัน แต่เมื่อคุณคิดจะเล่นงานผม ผมก็ต้องป้องกันไว้ก่อน เอาล่ะ จะกลับบ้านเลยหรือว่าจะอยู่ทานอาหารก่อนดี...”
“คนบ้า เผด็จการ”
“ผมยอมรับทุกข้อกล่าวหา ว่าไง.. จะอยู่ทานอาหารหรือทำอย่างอื่นต่อดีล่ะ” ไอศูรย์พูดยิ้มๆ ดวงตาคมพร่าพรายด้วยความปรารถนาจนมุกรวีหายใจติดขัดใบหน้าที่แดงก่ำอยู่แล้วนั้นร้อนผ่าวราวกับจะมอดไหม้เพราะประกายตาคู่คมนั้น
ตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่มุกรวีมาทำงานประจำที่นี่ เขาได้มีโอกาสสัมผัสเธอบ้างตามประสาคนเจ้าเล่ห์คอยหาโอกาสงามๆ ให้ตัวเอง แต่มันก็แค่กอดจูบธรรมดา ซึ่งเขาต้องใช้แรงกำลังบังคับให้เธอยินยอม ในช่วงแรกนั้นโรงแรมเพิ่งเปิดใหม่อะไรก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางทำให้เขาไม่มีโอกาสได้ทำตามใจปรารถนามากนัก เพราะถึงอย่างไรคนอย่างไอศูรย์ก็ไม่ปล่อยให้โอกาสในการทำเงินและการขยายตัวทางธุรกิจสะดุดโอกาสดีๆ ก็ต้องรีบฉวยแต่เรื่องบริหารเสน่ห์ก็ไม่พลาดเช่นกัน
เมื่อตอนนี้ทุกอย่างเริ่มลงตัวแล้วถึงเวลาที่เขาจะได้ทำอย่างที่ใจปรารถนาเสียทีต่อให้ต้องใช้กำลังบังคับเธอก็ตาม อีกย่างเขาเห็นว่ามีพ่อเลี้ยงหนุ่มซึ่งทราบมาว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอมาเกาะแกะกับมุกรวีมากเกินความจำเป็นยิ่งทำให้ไอศูรย์ไม่อยากรออีกต่อไป สายตาผู้ชายด้วยกันดูออกว่า เคียงภู คิดอย่างไรกับมุกรวี และเขาไม่มีทางให้ใครมาขัดขวางความต้องการของตนแน่ๆ
ตอนที่94. อวสาน“นี่แนะๆ เด็กช่างซัก” ไอศิยาซุกไซ้จมูกกับพวงแก้มยุ้ยๆ ของลูกสาวจนแม่หนูน้อยหัวเราะคิกคักอย่างถูกอกถูกใจ“เอ่อ คุณหนูซินดี้ครับ” เสียงเควินเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจครอบครัวสุขสันต์“มีอะไรคะพี่เควิน”“ให้ผมช่วยดูแลน้องเวียงพิงให้ไหมครับ น้องเวียงพิงครับอยากไปหาพวกพี่ๆ ไหมครับ คุณลุงเควินสุดหล่อจะพาไป” ชายหนุ่มเอ่ยขอและชักชวนหนูน้อยพลางพยักพเยิดไปทางพี่ๆ และหนูน้อยเวียงพิงก็พยักหน้าทันทีพร้อมกับกางแขนป้อมๆ ไปหาลุงเควินสุดหล่อ“ไปๆ พิงจาไปหา ปี้จาย ปี้ร้าก” แล้วเควินก็อุ้มน้องเวียงพิงไปหาพี่ๆ ซึ่งกำลังเล่นขี่ม้าลุงมาร์โคอย่างสนุกสนานทันที เคียงภูหันมามองภรรยาคนสวยด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ และนึกขอบคุณเควินที่เข้ามาได้จังหวะพอดี“ว้ายยย...พี่ภูจะทำอะไรคะ” ไอศิยาร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ สามีสุดหล่ออุ้มเธอขึ้นแนบอก แต่เมื่อเงยหน้าสบตาสามีจอมเจ้าเล่ห์แล้วไอศิยาก็ต้องก้มหน้างุดอย่างขัดเขิน“คนบ้า...”“บ้าก็บ้ารักน้องซินดี้คนเดียวนั่นล่ะครับ”“ไม่น่ารักคนแก่จอมหื่นเลย” เธอเอ่ยเสียงเบาเมื่อสามีวางร่างเธอลงบนเตียงกว้างในห้องนอนแสนสวยของบ้านพักริมหาดอันงดงาม“แล้วรักมากไหมครับ”“ค่ะ รักมาก”ไอศิ
ตอนที่93.“ไอรักไข่มุกที่สุด และรักลูกๆ ของเรามากไอบอกไข่มุกรึยังนะ” เขาเอ่ยเสียงพร่าชิดแก้มแดงปลั่งอย่างแสนรัก“ค่ะไอบอกแล้ว ไข่มุกก็รักไอมากที่สุดและรักลูกๆ ของเรามากเหมือนกัน”“นับจากนี้เราจะรักกันทุกวันนะครับ” ชายหนุ่มพูดเข้าทางตนเองหน้าตาเฉยขณะเล้าโลมร่างงามอย่างไม่ปล่อยให้เธอได้มีเวลาคิด ริมฝีปากหยักสวยก็เคล้าคลอดูดดื่มหยอกเย้าริมฝีปากระเรื่อด้วยความเร่าร้อนหิวกระหาย เขาจุมพิตเธอเหมือนว่าห่างหายจากจุมพิตมาแสนนานนับปี ก่อนจะค่อยๆ แทรกกายแกร่งเข้าสู่ความอ่อนนุ่มชุมชื้นที่พรักพร้อมของเธอ แล้วจับจูงมือบางไปเที่ยวชมวิมานแห่งรักที่เขาถักทอขึ้นเพื่อเธอเพียงผู้เดียวอย่างสุขสม...งานแต่งงานของไอศูรย์กับมุกรวีถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ในเวลาสองปีถัดมาบนเกาะส่วนตัวของมาร์โค ซึ่งเขาได้รับมรดกจากผู้เป็นตาที่มอบให้เขาก่อนท่านจะเสียชีวิตจึงทำให้ในตอนนี้มาร์โคไม่ใช่เพียงเศรษฐีหนุ่มทายาทคนโตของควินซ์ กัสซินี่เท่านั้น หากแต่เขายังเป็นทายาทคนเดียวของ เดล ซาปาเตโน ตระกูลดังมั่งคั่งร่ำรวยอีกหนึ่งตระกูลของสเปนงานแต่งงานเรียบหรูที่มีรูปบ่าวสาวพร้อมลูกๆ วัยสองขวบครึ่งอยู่ในภาพแต่งงานนั้นดูอบอุ่นและอบอว
ตอนที่92.ภาพทารกตัวแดงยับย่นที่แผดเสียงร้องไห้จ้านั้นก็ตรึงตาตรึงใจของผู้เป็นบุพการีทั้งสองอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ น้ำตาแห่งความปลื้มปีติของผู้เป็นพ่อแม่ไหลซึมขอบตาเมื่อพยาบาลทำความสะอาดร่างกายทารกน้อยทั้งสองแล้วก็นำเด็กๆ มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้ชื่นชมและให้เด็กน้อยทั้งสองได้ดูดดื่มน้ำนมหยดแรกจากจากทรวงอกของมารดา แค่เห็นทารกตัวแดงๆ เมื่อแรกเกิดซึ่งทุกๆ ส่วนที่ประกอบขึ้นเป็นทารกน้อยก็บอกได้ทันทีว่าเด็กทั้งสองนั้นจะเป็นลูกของใครไปไม่ได้นอกจากลูกของเขา ไอศูรย์ อเล็กซิโอ กัสซินี่ กับมุกรวี กัสซินี่เท่านั้นมือบางสั่นระริกของมุกรวีไล้แก้มใสๆ ของทารกน้อยทั้งสองที่กำลังหลับตาพริ้มดื่มกินน้ำนมจากอกของตนอย่างตื้นตันใจในขณะที่ไอศูรย์เองก็รู้สึกไม่แตกต่างกัน เขาเฝ้ามองปากน้อยๆ นั้นดูดดื่มน้ำนมอย่างหิวหระหายด้วยความรักมือหนาโอบร่างของคนทั้งสามไว้อย่างสุดแสนรักสุดหัวใจ...“ขอบคุณนะครับที่รัก ขอบคุณที่ให้ลูกที่น่ารักกับผม...ลูก...ลูกๆ ของเรา” ชายหนุ่มจุมพิตหน้าผากมนเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกระจ่างด้วยความยินดี“ค่ะลูกเรา ลูกของเรา...” มุกรวีกล่าวด้วยน้ำตานองหน้า หากแต่เป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม ความเจ็บป
ตอนที่91.“ว่าไงจ๊ะ ที่รัก” เคียงภูยั่วเย้า ดวงตาคมกรุ้มกริ่ม มองภาพนางฟ้าน้อยๆ ที่นั่งหน้าแดงก่ำอยู่ตรงหน้าอย่างแสนรัก“อ้าว.. นี่พี่ภูมีเมียเป็นใบ้รึไงน้า...”“คนบ้า...” สาวน้อยค้อนให้สามีซึ่งยิ้มยั่วใส่ตาพลางหลบริมฝีปากและจมูกคมที่ฉกวูบเข้ามาใกล้จนเคียงภูพลาดที่จะจุมพิตแก้มนวล แต่ได้จุมพิตเรือนผมสลวยแทน หากชายหนุ่มก็เกี่ยวรัดร่างบางไว้ในอ้อมแขนแนบแน่น“สายแล้วนะครับ น้องซินดี้ไม่หิวเหรอ”“ตายแล้ว กี่โมงแล้วคะ”“จะสิบโมงแล้วจ้ะที่รัก” เขาตอบพลางไล้เรือนผมสลวยเล่นอย่างเพลิดเพลินไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยให้เธอได้ห่างหายจากอ้อมกอด และไอศิยาก็ได้พบว่าเขาอาบน้ำแล้วและแต่งกายอยู่ในชุดลำลองสบายๆ“เอ่อ พี่ภูปล่อยน้องซินดี้สิคะ น้องซินดี้อยากอาบน้ำ” เธอบอกในขณะที่กอดผ้าห่มแนบกายแน่นเพื่อหลบเลี่ยงสายตาวาวๆ ของเขาที่มองมาด้วยความปรารถนาที่ปิดไม่มิด“ก็ไปสิจ๊ะ มาเดี๋ยวพี่พาไป”“มะ ไม่ต้องค่ะ น้องซินดี้จะไปเอง” เธอรีบบอกปัดเมื่อคนตัวโตทำท่าจะช้อนร่างเธออุ้มเข้าห้องน้ำอย่างปากว่าจริงๆ แต่คำพูดต่อมาของเขายิ่งทำให้เธอหน้าร้อนด้วยความขัดเขิน“เชื่อพี่เถอะว่าน้องซินดี้ต้องการความช่วยเหลือจากพี่ เพราะเมื่อ
ตอนที่90.หลังจากน้ำชำระร่างกายเสร็จแล้วเจ้าบ่าวหมาดๆ ก็เดินมาชะโงกหน้ามองเจ้าสาวแสนสวยซึ่งแกล้งนอนหลับอย่างขบขันเจ้าสาวผู้กลัวฝน เปลือกตาบางขยุกขยิกเหมือนระแวงนั้นน่ารักน่าเอ็นดูนัก“อืม นอนเร็วจัง เหนื่อยมากเหรอจ๊ะน้องซินดี้..” ชายหนุ่มแกล้งถามชิดแก้มนวล ลมหายใจร้อนๆ เป่ารดแก้มใสจนคนที่แกล้งหลับนอนใจสั่นและไม่สามารถควบคุมร่างกายที่ตื่นเร้าเพราะมือและริมฝีปากร้อนๆ ซึ่งแกล้งขบใบหูบางอย่างหยอกเย้า จนขนอ่อนในร่างกายลุกชัน“ไม่ตอบสงสัยหลับจริงๆ แบบนี้เราก็ลักหลับเจ้าสาวได้ล่ะสิ” ไม่พูดเปล่ามือหนาก็ยังแกล้งสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มนุ่มและลูบไล้บั้นเอวบางแผ่วๆ และมันก็ได้ผลเมื่อคนที่หลับตานิ่งอยู่นั้นลืมตาทันทีและหันมามองเขาตาเขียว“อะ...อุ๊บส์...” ยังไม่ทันที่เจ้าสาวจะได้เอ่ยอะไร เจ้าบ่าวที่จ้องจะพาเจ้าสาวเข้าหอก็ประทับจุมพิตเร่าร้อนลงบนกลีบปากงามทันที ลิ้นร้อนผ่าวดูดกลืนทุกอณูเนื้อหวานล้ำจากริมฝีปากสาวมือก็ไม่หยุดสร้างความปั่นป่วนให้เรือนกายสาวน้อยซึ่งบัดนี้เปล่าเปลือยโดยที่เธอเองไม่ทันได้รู้ตัว และเมื่อไอศิยารับรู้ว่าตัวเองเปลือยเปล่าก็พบว่าคนตัวโตที่กำลังมองเธอด้วยแววตาหวานล้ำนั้นก็ไม่มีเสื้อ
ตอนที่89.“คุณก็ตั้งแง่กับพ่อภูเขาเกินไป ทีคุณทำกับแอนนี่ยิ่งกว่านี้อีกทำไมไม่คิดบ้างล่ะคะ พ่อภูเขายังเป็นสุภาพบุรุษกล้าทำกล้ารับ ซ้ำยังรักษาเกียรติไม่ล่วงเกินน้องซินดี้มากไปกว่ากอดจูบประสาคนรักกันก็ดีเท่าไหร่แล้ว ผิดกับคนแถวๆ นี้กับลูกชายเขานะคะ ปากหนักแถมท่ามากจนเกือบเป็นเรื่อง”“โธ่ แอนนี่ล่ะก็”“มันจริงไหมล่ะคะ..” คุณอรสามองสามีตาเขียวและคุณควินซ์ก็ต้องเข้ามากอดร่างซึ่งยังคงความงามมิสร่างนั้นอย่างเอาใจแต่มิวายจะโอดครวญน้อยๆ เมื่อภรรยาอ้างถึงเรื่องเก่าคราวหลัง“เราก็แก่ลงทุกวันนะคะ เอาชนะคะคานกันไปก็ลูกหลานเราเองที่เป็นทุกข์” คุณอรสาปลอบสามีกลายๆ“ก็ผมแค่หมั่นไส้ไอ้ลูกเขยที่รักของคุณเท่านั้นล่ะ”“ก็คนมันเหมือนกันไงคะ พอเจอคนที่เหมือนกันก็เลยเขม่นกัน รับไม่ได้”“ครับผมยอมรับผิดแล้วครับ ให้ลูกแต่งงานอาทิตย์หน้าก็ได้”ในที่สุดคุณควินซ์ก็ยอมแพ้และเมื่อสิ้นคำพูดนั้นเสียงเฮของลูกๆ ก็ดังลั่น พร้อมกับร่างสูงของเคียงภูวิ่งถลามากอดว่าที่พ่อตาอย่างดีใจจนลืมตัว ส่วนว่าที่พ่อตาก็ได้แต่หน้าแดงจัดเพราะขัดเขินลูกๆ ที่ก็ต่างพากันยิ้มล้อเลียน แต่ทุกคนต่างก็มีความสุขและคนที่เป็นสุขออกนอกหน้ามากกว่าใค