มุกรวีเดินหน้าง้ำออกมาจากร้านอาหารหรู หญิงสาวอยากจะตะโกนให้ใครสักคนมาช่วย ทั้งๆ ที่นี่มันบ้านของเธอเอง หากต้องการความช่วยเหลือก็ทำได้แล้วทำไมเธอไม่ทำนะ
เธอหลงรักเขาหรือไข่มุก.. หญิงสาวถามตัวเองในใจขณะเดินเรื่อยๆ ไปตามถนนที่เต็มไปด้วยร้านรวงและร้านค้าซึ่งบัดนี้ทุกร้านก็สว่างไสวด้วยไปหลากสีพร้อมกับเสียงคนพูดคุยกันทั้งเดินดูข้าวของอย่างสนุกสนานบ้างก็จับจ่ายซื้อข้าวของเป็นของฝากของขวัญให้กัน เสียงแม่ค้าพ่อค้าร้องเรียกลูกค้าเซ็งแซ่ และวันนี้วันนี้มีงานแสดงสินค้า OTOP อีกด้วย หญิงสาวมองดูร้านรวงต่างๆ ด้วยความสนใจเมื่อเริ่มคลายความฉุนเฉียวลงไปได้บ้าง หญิงสาวเดินเข้าออกร้านนั้นร้านนี้โดยไม่สนใจคนที่เดินตามมาไม่ห่าง
หึ.. คอยดูว่าเขาจะทนเดินตามเธอได้นานแค่ไหนกัน หญิงสาวคิดพลางเหล่สายตามองคนตัวโตที่เดินหน้าตึงตามมา หลังจากที่ไอศูรย์บอกความต้องการของเขาและยังบอกอีกว่าถึงอย่างไรก็ต้องได้ในสิ่งที่ต้องการอยู่แล้วนั้น เธอก็ยื่นข้อเสนอกับเขาไปว่าขอเดินชมเมืองก่อนสักครู่ก่อนกลับเพราะต้องการเวลาทบทวนข้อเสนอของเขา ในใจก็คิดว่าจะแอบหนีเขากลับบ้านเสียตอนมาเดินตลาดแต่ดูๆ แล้ว ความคิดนี้ต้องเป็นอันตกไปเพราะรู้ดีว่าไอศูรย์จะต้องให้คนของเขาคอยติดตามเธอทุกฝีก้าว และเธอก็เริ่มชินกับการมีคนคอยติดตามเสียแล้วกระมังเพราะมันรู้สึกได้เสมอว่ามีคนเดินตามห่างๆ มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
“อุ้ย กระเป๋าสวยจัง..” มุกรวีเดินปรี่เข้าไปในร้านขายของพื้นเมืองของชาวเขาเผ่าหนึ่ง ซึ่งมีสินค้ามากมายทั้งเสื้อผ้าของใช้ทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่งดงามแปลกตาซึ่งเป็นงานแฮนด์เมดทั้งหมดและแต่ละชิ้นก็งดงามประณีต
“กระเป๋าใบนี้เท่าไหร่คะ”
“ใบนี้สองพันห้าค่ะ เป็นงานที่ละเอียดมากๆ เลยนะคะ สามารถสะพายข้างและสะพายไหล่ได้ มีช่องใส่ของเยอะด้วยค่ะ ทรงนี้กำลังฮิตเลยนะคะแล้วก็ประดับด้วยเงินแท้ทั้งหมดค่ะ รับรองไม่ดำและไม่เหมือนใครด้วย เพราะเราทำแค่แบบละใบเท่านั้นค่ะ” สาวใหญ่ซึ่งมีใบหน้าหวานซึ้งในแบบสาวชาวเหนือบรรยายคุณลักษณะของสินค้าด้วยรอยยิ้ม
“เอ่อ ไข่มุกก็อยากได้นะคะ แต่เงินไม่พอแน่ๆ คือไม่ได้ตั้งใจมา ลดให้หน่อยสิคะ”
“เอาใส่ถุงให้เธอเลยครับ เดี๋ยวเอาเงินที่ผม” ไอศูรย์ซึ่งเดินตามมาเงียบๆ ตัดบทด้วยการหยิบเงินให้คนขายแล้วคว้าเอวบางมาแนบกายแสดงความเป็นเจ้าของเมื่อมีหนุ่มๆ บางคนแอบส่งสายตาให้เธอความหึงหวงแล่นพล่านไปทั้งกายโดยที่เขาไม่รู้ตัว
“นี่คุณอย่ามาทำรุ่มร่ามนะ มันยังไม่ถึงเวลาที่เราตกลงกันไว้ฉันยังไม่ได้ให้คำตอบว่าจะตกลงเป็นอะไรกับคุณเลยนะ ปล่อยสิ..” มุกรวีพยายามแกะมือเขาออกจากเอวบางของตนด้วยความขัดเขินสายตาคนมองแต่คนตัวโตแสนจะเอาแต่ใจนี่สิไม่ยอมปล่อย ซ้ำยังโอบเธอแน่นเข้าอีก
“คุณยังคิดว่าจะไม่ตกลงอีกหรือไข่มุก แล้วเรียกตัวเองเสียใหม่ซะด้วยพูดเสียห่างเหินแบบนี้ไอไม่ชอบ” หญิงสาวเงยหน้ามองเขาด้วยความหวั่นไหว เขาแทนตัวเองด้วยสรรพนามที่พยายามจะให้เธอเรียกเขา ไอศูรย์บอกเธอว่า มีเพียงสองคนเท่านั้นที่เรียกเขาแบบนี้ได้นั่นคือ บิดามารดาของเขาและตอนนี้เขาอนุญาตให้เธอเรียกเขาแบบนั้นได้
แหม..ช่างน่าปลื้มใจเสียจริง เธอแอบค่อนขอดคนจอมเผด็จการในใจเมื่อเดินตามเขามาขึ้นรถ
“มันสวยมากจริงๆ ด้วย ยิ่งมาดูแบบนี้ยิ่งสวย” มุกรสีหันมาสนใจกระเป๋าใบใหม่ตรงหน้าพลางย้ายข้าวของจากกระเป๋าใบเก่าที่เธอใช้มาหลายปีมาใส่ในกระเป๋าใบใหม่ทันที
“ขี้เห่อ”
“ยอมรับค่ะ แล้วทำไมคะ”
“ไม่เห็นจะสวยตรงไหน ผู้หญิงของผมทุกคนไม่มีใครใช้กระเป๋าแบบนี้” เขาพูดเสียงเหมือนจะเหยียดๆ หากแต่หลังจากที่เธอทำงานร่วมกับเขามาหลายเดือนทำให้เธอรู้ว่าเขาก็เป็นแบบนี้ล่ะ
“มันเรื่องของผู้หญิงพวกนั้นแต่ไข่มุกชอบแบบนี้คุณจะไม่ชอบก็ได้นะคะ ถ้าอย่างนั้นจอดรถให้ไข่มุกลงตรงนี้ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องให้ไข่มุกกลับกรุงเทพฯ กับคุณก็ได้นะคะ”
“ไม่มีทางหรอกไข่มุก อย่ามาเบี่ยงเบนความสนใจไอหน่อยเลย”
“ทำไมต้องเป็นไข่มุกด้วยล่ะคะ” เธอถามอย่างอ่อนใจเมื่อในที่สุดแล้วเธอก็เหมือนจะยินยอมเขา นี่เธอรักเขาเหรอ..เพียงพบเขาครั้งแรกมุกรวีก็เฝ้าถามตัวเองแบบนั้นมาตลอด...
“ก็เพราะไอต้องการไข่มุกอย่างไรล่ะ” น้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นทำให้หัวใจหญิงสาวไหวหวามซ่านไหวเพราะมันทั้งนุ่มทุ้มเบาพร่าอย่างยั่วเย้า อีกทั้งแววตาร้อนแรงนั้นอีกเล่า มุกรวีหลบสายตาคมแล้วหันไปมองข้างทางอย่างขัดเขิน...
“ทำไมไม่ไปทำงาน” เสียงห้าวนั้นเต็มไปด้วยโทสะ มุกรวีเงยหน้ามองเขาตาโตร่างบางถอยหลังช้าๆ เมื่อเขาย่างก้าวผ่านประตูเข้ามา วันนี้อรอลินไม่อยู่เพราะเพิ่งไปเชียงรายเมื่อสองวันก่อน และเมื่อวานเธอได้ยื่นใบลาออกแล้วเรียบร้อย วันนี้เธอก็คิดว่าจะพักผ่อนให้เต็มที่ แต่เมื่อมีเสียงเคาะประตูหนักๆ จึงรู้สึกตัวตื่นและคิดว่าคงเป็นอรอลินกลับมาแล้ว แต่เมื่อเปิดประตูออกมาก็แทบก้าวขาไม่ออก ไอศูรย์เข้ามาได้อย่างไรกัน... หญิงสาวหน้าซีดลงทันทีเมื่อเห็นแววตาของเขา
“กะ ก็ ฉันบอกแล้วว่าจะลาออก ไม่ทำงานกับคุณ.. แล้วคุณเข้ามาได้อย่างไร ออกไปนะ” หญิงสาวบอกเขาขณะล่าถอยไปเรื่อยๆ แม้จะทำเสียงแข็งใส่เขาแต่ภายในใจกลับสั่นระรัว ดวงตางามมองหาทางหนีทีไล่ แต่ก็พบว่าตนเองก็ปิดบ้านเสียแน่นหนาเพราะว่าอยู่คนเดียวและก็เพิ่งตื่นตอนที่เขาเคาะประตู ชุดที่สวมก็มีเพียงเสื้อกล้ามสีขาวตัวบางกับกางเกงขาสั้นกุดที่เธอมักใส่นอนประจำด้วยทั้งบ้านมีกันเพียงสองคนกับอรอลินมุกรวีจึงแต่งตัวสบายๆ ที่สำคัญ เธอโนบรา...
ในขณะเดียวกันดวงตาคมกวาดไล้ไปทั่วเรือนร่างของหญิงสาวแล้วรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาทันที เพียงแค่มองเธอเขาก็ร้อนไปทั้งกายแกร่ง ทรวงอกอวบอิ่มที่ไหวระริกเห็นอยู่ภายใต้เสื้อตัวบางนั้นยั่วใจยิ่งนัก เรียวขาเสลาขาวเนียนนั่นอีกมันจะรู้สึกอย่างไรนะหากมันมาโอบรัดรอบเอวสอบของเขายามเขาโถมกายแกร่งเข้าหาความอ่อนนุ่มแสนหวานของเธอ ไอศูรย์คิดไปไกลเพียงแค่เห็นเธอ มุกรวีไม่ต้องทำอะไรเลยก็ทำให้เขาร้อนรุ่มจนแทบอยากจะกระโจนใส่ร่างงามตรงหน้า
ตอนที่94. อวสาน“นี่แนะๆ เด็กช่างซัก” ไอศิยาซุกไซ้จมูกกับพวงแก้มยุ้ยๆ ของลูกสาวจนแม่หนูน้อยหัวเราะคิกคักอย่างถูกอกถูกใจ“เอ่อ คุณหนูซินดี้ครับ” เสียงเควินเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจครอบครัวสุขสันต์“มีอะไรคะพี่เควิน”“ให้ผมช่วยดูแลน้องเวียงพิงให้ไหมครับ น้องเวียงพิงครับอยากไปหาพวกพี่ๆ ไหมครับ คุณลุงเควินสุดหล่อจะพาไป” ชายหนุ่มเอ่ยขอและชักชวนหนูน้อยพลางพยักพเยิดไปทางพี่ๆ และหนูน้อยเวียงพิงก็พยักหน้าทันทีพร้อมกับกางแขนป้อมๆ ไปหาลุงเควินสุดหล่อ“ไปๆ พิงจาไปหา ปี้จาย ปี้ร้าก” แล้วเควินก็อุ้มน้องเวียงพิงไปหาพี่ๆ ซึ่งกำลังเล่นขี่ม้าลุงมาร์โคอย่างสนุกสนานทันที เคียงภูหันมามองภรรยาคนสวยด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ และนึกขอบคุณเควินที่เข้ามาได้จังหวะพอดี“ว้ายยย...พี่ภูจะทำอะไรคะ” ไอศิยาร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ สามีสุดหล่ออุ้มเธอขึ้นแนบอก แต่เมื่อเงยหน้าสบตาสามีจอมเจ้าเล่ห์แล้วไอศิยาก็ต้องก้มหน้างุดอย่างขัดเขิน“คนบ้า...”“บ้าก็บ้ารักน้องซินดี้คนเดียวนั่นล่ะครับ”“ไม่น่ารักคนแก่จอมหื่นเลย” เธอเอ่ยเสียงเบาเมื่อสามีวางร่างเธอลงบนเตียงกว้างในห้องนอนแสนสวยของบ้านพักริมหาดอันงดงาม“แล้วรักมากไหมครับ”“ค่ะ รักมาก”ไอศิ
ตอนที่93.“ไอรักไข่มุกที่สุด และรักลูกๆ ของเรามากไอบอกไข่มุกรึยังนะ” เขาเอ่ยเสียงพร่าชิดแก้มแดงปลั่งอย่างแสนรัก“ค่ะไอบอกแล้ว ไข่มุกก็รักไอมากที่สุดและรักลูกๆ ของเรามากเหมือนกัน”“นับจากนี้เราจะรักกันทุกวันนะครับ” ชายหนุ่มพูดเข้าทางตนเองหน้าตาเฉยขณะเล้าโลมร่างงามอย่างไม่ปล่อยให้เธอได้มีเวลาคิด ริมฝีปากหยักสวยก็เคล้าคลอดูดดื่มหยอกเย้าริมฝีปากระเรื่อด้วยความเร่าร้อนหิวกระหาย เขาจุมพิตเธอเหมือนว่าห่างหายจากจุมพิตมาแสนนานนับปี ก่อนจะค่อยๆ แทรกกายแกร่งเข้าสู่ความอ่อนนุ่มชุมชื้นที่พรักพร้อมของเธอ แล้วจับจูงมือบางไปเที่ยวชมวิมานแห่งรักที่เขาถักทอขึ้นเพื่อเธอเพียงผู้เดียวอย่างสุขสม...งานแต่งงานของไอศูรย์กับมุกรวีถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ในเวลาสองปีถัดมาบนเกาะส่วนตัวของมาร์โค ซึ่งเขาได้รับมรดกจากผู้เป็นตาที่มอบให้เขาก่อนท่านจะเสียชีวิตจึงทำให้ในตอนนี้มาร์โคไม่ใช่เพียงเศรษฐีหนุ่มทายาทคนโตของควินซ์ กัสซินี่เท่านั้น หากแต่เขายังเป็นทายาทคนเดียวของ เดล ซาปาเตโน ตระกูลดังมั่งคั่งร่ำรวยอีกหนึ่งตระกูลของสเปนงานแต่งงานเรียบหรูที่มีรูปบ่าวสาวพร้อมลูกๆ วัยสองขวบครึ่งอยู่ในภาพแต่งงานนั้นดูอบอุ่นและอบอว
ตอนที่92.ภาพทารกตัวแดงยับย่นที่แผดเสียงร้องไห้จ้านั้นก็ตรึงตาตรึงใจของผู้เป็นบุพการีทั้งสองอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ น้ำตาแห่งความปลื้มปีติของผู้เป็นพ่อแม่ไหลซึมขอบตาเมื่อพยาบาลทำความสะอาดร่างกายทารกน้อยทั้งสองแล้วก็นำเด็กๆ มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้ชื่นชมและให้เด็กน้อยทั้งสองได้ดูดดื่มน้ำนมหยดแรกจากจากทรวงอกของมารดา แค่เห็นทารกตัวแดงๆ เมื่อแรกเกิดซึ่งทุกๆ ส่วนที่ประกอบขึ้นเป็นทารกน้อยก็บอกได้ทันทีว่าเด็กทั้งสองนั้นจะเป็นลูกของใครไปไม่ได้นอกจากลูกของเขา ไอศูรย์ อเล็กซิโอ กัสซินี่ กับมุกรวี กัสซินี่เท่านั้นมือบางสั่นระริกของมุกรวีไล้แก้มใสๆ ของทารกน้อยทั้งสองที่กำลังหลับตาพริ้มดื่มกินน้ำนมจากอกของตนอย่างตื้นตันใจในขณะที่ไอศูรย์เองก็รู้สึกไม่แตกต่างกัน เขาเฝ้ามองปากน้อยๆ นั้นดูดดื่มน้ำนมอย่างหิวหระหายด้วยความรักมือหนาโอบร่างของคนทั้งสามไว้อย่างสุดแสนรักสุดหัวใจ...“ขอบคุณนะครับที่รัก ขอบคุณที่ให้ลูกที่น่ารักกับผม...ลูก...ลูกๆ ของเรา” ชายหนุ่มจุมพิตหน้าผากมนเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกระจ่างด้วยความยินดี“ค่ะลูกเรา ลูกของเรา...” มุกรวีกล่าวด้วยน้ำตานองหน้า หากแต่เป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม ความเจ็บป
ตอนที่91.“ว่าไงจ๊ะ ที่รัก” เคียงภูยั่วเย้า ดวงตาคมกรุ้มกริ่ม มองภาพนางฟ้าน้อยๆ ที่นั่งหน้าแดงก่ำอยู่ตรงหน้าอย่างแสนรัก“อ้าว.. นี่พี่ภูมีเมียเป็นใบ้รึไงน้า...”“คนบ้า...” สาวน้อยค้อนให้สามีซึ่งยิ้มยั่วใส่ตาพลางหลบริมฝีปากและจมูกคมที่ฉกวูบเข้ามาใกล้จนเคียงภูพลาดที่จะจุมพิตแก้มนวล แต่ได้จุมพิตเรือนผมสลวยแทน หากชายหนุ่มก็เกี่ยวรัดร่างบางไว้ในอ้อมแขนแนบแน่น“สายแล้วนะครับ น้องซินดี้ไม่หิวเหรอ”“ตายแล้ว กี่โมงแล้วคะ”“จะสิบโมงแล้วจ้ะที่รัก” เขาตอบพลางไล้เรือนผมสลวยเล่นอย่างเพลิดเพลินไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยให้เธอได้ห่างหายจากอ้อมกอด และไอศิยาก็ได้พบว่าเขาอาบน้ำแล้วและแต่งกายอยู่ในชุดลำลองสบายๆ“เอ่อ พี่ภูปล่อยน้องซินดี้สิคะ น้องซินดี้อยากอาบน้ำ” เธอบอกในขณะที่กอดผ้าห่มแนบกายแน่นเพื่อหลบเลี่ยงสายตาวาวๆ ของเขาที่มองมาด้วยความปรารถนาที่ปิดไม่มิด“ก็ไปสิจ๊ะ มาเดี๋ยวพี่พาไป”“มะ ไม่ต้องค่ะ น้องซินดี้จะไปเอง” เธอรีบบอกปัดเมื่อคนตัวโตทำท่าจะช้อนร่างเธออุ้มเข้าห้องน้ำอย่างปากว่าจริงๆ แต่คำพูดต่อมาของเขายิ่งทำให้เธอหน้าร้อนด้วยความขัดเขิน“เชื่อพี่เถอะว่าน้องซินดี้ต้องการความช่วยเหลือจากพี่ เพราะเมื่อ
ตอนที่90.หลังจากน้ำชำระร่างกายเสร็จแล้วเจ้าบ่าวหมาดๆ ก็เดินมาชะโงกหน้ามองเจ้าสาวแสนสวยซึ่งแกล้งนอนหลับอย่างขบขันเจ้าสาวผู้กลัวฝน เปลือกตาบางขยุกขยิกเหมือนระแวงนั้นน่ารักน่าเอ็นดูนัก“อืม นอนเร็วจัง เหนื่อยมากเหรอจ๊ะน้องซินดี้..” ชายหนุ่มแกล้งถามชิดแก้มนวล ลมหายใจร้อนๆ เป่ารดแก้มใสจนคนที่แกล้งหลับนอนใจสั่นและไม่สามารถควบคุมร่างกายที่ตื่นเร้าเพราะมือและริมฝีปากร้อนๆ ซึ่งแกล้งขบใบหูบางอย่างหยอกเย้า จนขนอ่อนในร่างกายลุกชัน“ไม่ตอบสงสัยหลับจริงๆ แบบนี้เราก็ลักหลับเจ้าสาวได้ล่ะสิ” ไม่พูดเปล่ามือหนาก็ยังแกล้งสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มนุ่มและลูบไล้บั้นเอวบางแผ่วๆ และมันก็ได้ผลเมื่อคนที่หลับตานิ่งอยู่นั้นลืมตาทันทีและหันมามองเขาตาเขียว“อะ...อุ๊บส์...” ยังไม่ทันที่เจ้าสาวจะได้เอ่ยอะไร เจ้าบ่าวที่จ้องจะพาเจ้าสาวเข้าหอก็ประทับจุมพิตเร่าร้อนลงบนกลีบปากงามทันที ลิ้นร้อนผ่าวดูดกลืนทุกอณูเนื้อหวานล้ำจากริมฝีปากสาวมือก็ไม่หยุดสร้างความปั่นป่วนให้เรือนกายสาวน้อยซึ่งบัดนี้เปล่าเปลือยโดยที่เธอเองไม่ทันได้รู้ตัว และเมื่อไอศิยารับรู้ว่าตัวเองเปลือยเปล่าก็พบว่าคนตัวโตที่กำลังมองเธอด้วยแววตาหวานล้ำนั้นก็ไม่มีเสื้อ
ตอนที่89.“คุณก็ตั้งแง่กับพ่อภูเขาเกินไป ทีคุณทำกับแอนนี่ยิ่งกว่านี้อีกทำไมไม่คิดบ้างล่ะคะ พ่อภูเขายังเป็นสุภาพบุรุษกล้าทำกล้ารับ ซ้ำยังรักษาเกียรติไม่ล่วงเกินน้องซินดี้มากไปกว่ากอดจูบประสาคนรักกันก็ดีเท่าไหร่แล้ว ผิดกับคนแถวๆ นี้กับลูกชายเขานะคะ ปากหนักแถมท่ามากจนเกือบเป็นเรื่อง”“โธ่ แอนนี่ล่ะก็”“มันจริงไหมล่ะคะ..” คุณอรสามองสามีตาเขียวและคุณควินซ์ก็ต้องเข้ามากอดร่างซึ่งยังคงความงามมิสร่างนั้นอย่างเอาใจแต่มิวายจะโอดครวญน้อยๆ เมื่อภรรยาอ้างถึงเรื่องเก่าคราวหลัง“เราก็แก่ลงทุกวันนะคะ เอาชนะคะคานกันไปก็ลูกหลานเราเองที่เป็นทุกข์” คุณอรสาปลอบสามีกลายๆ“ก็ผมแค่หมั่นไส้ไอ้ลูกเขยที่รักของคุณเท่านั้นล่ะ”“ก็คนมันเหมือนกันไงคะ พอเจอคนที่เหมือนกันก็เลยเขม่นกัน รับไม่ได้”“ครับผมยอมรับผิดแล้วครับ ให้ลูกแต่งงานอาทิตย์หน้าก็ได้”ในที่สุดคุณควินซ์ก็ยอมแพ้และเมื่อสิ้นคำพูดนั้นเสียงเฮของลูกๆ ก็ดังลั่น พร้อมกับร่างสูงของเคียงภูวิ่งถลามากอดว่าที่พ่อตาอย่างดีใจจนลืมตัว ส่วนว่าที่พ่อตาก็ได้แต่หน้าแดงจัดเพราะขัดเขินลูกๆ ที่ก็ต่างพากันยิ้มล้อเลียน แต่ทุกคนต่างก็มีความสุขและคนที่เป็นสุขออกนอกหน้ามากกว่าใค