Home / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / บทที่ 3.2 เดินทอดน่องชื่นชมพระจันทร์

Share

บทที่ 3.2 เดินทอดน่องชื่นชมพระจันทร์

last update Last Updated: 2025-06-04 07:11:35

ระหว่างทางที่เดินไปเรือนอี้ เจียงเยี่ยนฟางก็ได้เห็นว่าภายในจวนได้จุดคบเพลิงและโคมไฟไว้ทั่วทุกหนแห่ง แสงไฟเหล่านั้นช่วยส่องสว่างเปิดทางให้บรรดาบ่าวรับใช้ที่ต่างวิ่งกันไปมาให้วุ่น บางคนยกน้ำ บางคนถือผ้า ส่วนคนที่เพิ่งกลับมาจากทางเรือนอี้ก็มีผ้าเปื้อนเลือดหอบใหญ่วิ่งจากไป

ท่ามกลางความโกลาหล มีเพียงนางที่เดินทอดน่องอย่างเชื่องช้า ไม่ทุกข์ ไม่ร้อน ประหนึ่งเดินชมบุปผาในวสันต์ฤดู [1] รับแสงแดดอันอ่อนโยน ไม่สนความตายผู้อื่นอยู่ในสายตา

กระทั่งมาถึงหน้าเรือนอี้ เจียงเยี่ยนฟางก็เอ่ยขึ้นว่า "จับตัวข้าไว้ แล้วลากข้าเข้าไป" ไม่พูดเปล่า นางยังยกมือขึ้นยีผมของตัวเองให้ฟูจนดูไม่ได้อีกด้วย

"..." สามคนที่คราแรกเดินตามหลังมาด้วยจิตใจร้อนรน และทำได้เพียงมองแผ่นหลังเหยียดตรงของพระชายาพระนางใหม่มาตลอดทาง เวลานี้ก็ต่างมองหน้ากันด้วยความไม่เข้าใจอีกครา

เมื่อครู่ในแววตาของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยเพลิงแห่งโทสะระคนหงุดหงิดใจ หากเปลี่ยนความเคียดแค้นในดวงตาของพวกเขาเป็นเปลวไฟได้จริง แผ่นหลังของเจียงเยี่ยนฟางยามนี้คงลุกไหม้จนได้กลิ่นเกรียมไปแล้ว ทว่าตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นความสับสนแทน มิหนำซ้ำผู้ที่เอ่ยออกมายังยกแขนเท้าเอว รอพวกเขาเข้าไปหาอีกด้วย!

"ถ้าไม่ทำแล้วโดนโบย ก็ไม่เกี่ยวกับข้าแล้ว" เจียงเยี่ยนฟางเอียงใบหน้าเพียงนิด หันไปบอกสามคนด้านหลัง ก่อนจะหันกลับไปมองบานประตูตรงหน้า ที่มีเสียงเท้าคนวิ่งเข้ามาจนใกล้จะถึงตัวพวกนางอยู่แล้ว

บ่าวชายสองคนเองก็ได้ยินว่าคนด้านในกำลังจะมาถึงแล้วเช่นกัน จึงรีบเข้าไปจับเจียงเยี่ยนฟางไว้ทันที ส่วนสาวใช้ก็ไม่รอช้า ก้าวนำไปก่อนแล้วเปิดประตูด้วยดวงตาที่ยังเจือแววสับสน

พลันนั้นที่ประตูถูกเปิดออก สาวใช้คนที่อยู่ด้านในเรือนอี้ก็วิ่งสวนออกไปพอดี ในมือของนางถืออาภรณ์ผ้าไหมสีฟ้าอ่อนซึ่งชุ่มไปด้วยโลหิตสีคล้ำ

เจียงเยี่ยนฟางปรายตามองเพียงนิด แต่ก็ทันได้เห็นว่าสตรีตัวเล็กผู้นั้นยามที่ได้สบตาเข้ากับตนตอนวิ่งผ่านไป อีกฝ่ายมีสีหน้าหวาดผวามากเพียงไร ที่แท้ก็เป็นสาวใช้นางนั้นที่ตนเพิ่งจะขู่ให้พาคนไปทำความสะอาดเรือนให้เมื่อวาน

แต่เจียงเยี่ยนฟางก็หันกลับไปมองทางเดินตรงหน้า ไม่ใส่ใจผู้อื่นอีก "ท่านอ๋อง! ท่านอ๋อง..." ยังไม่ทันได้เดินเข้าไปในเรือน นางก็ตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือประหนึ่งคนร้องไห้มานาน ทว่าใบหน้ากลับไร้ซึ่งความเสียใจ ด้วยเพราะทางเข้าห่างไกลจากห้องด้านในสุดอยู่บ้าง จึงไม่มีทางที่คนผู้นั้นจะมองเห็นนาง ซ้ำยังมีฉากกั้นไว้ตลอดทาง ดังนั้นนางเลยเสแสร้งเพียงแค่น้ำเสียงก็พอ ครั้นตอนที่เอ่ยเรียกเซียวลี่หยางออกไปแขนก็กระตุกเป็นเชิงสั่งการสองคนที่ประกบนางทั้งซ้ายและขวาอยู่ ให้ออกเดินไปด้วยกัน

ภายในห้องไม่ได้มีคนมากอย่างที่คิด แตกต่างจากความวุ่นวายด้านนอกอยู่บ้าง เวลานี้หลงเหลือเพียงท่านหมอที่กำลังตรวจอาการของเซียวลี่หยางซึ่งนั่งพิงขอบเตียงอยู่หลังผ้าม่านโปร่ง ตามติดด้วยหงเปาที่ยืนอยู่ไม่ห่าง และกู่เยว่ชิงกับคนสนิทของนางเท่านั้น

เมื่อมาถึงแล้วเจียงเยี่ยนฟางก็กระโจนตัวลงไปที่พื้นเอง แต่ท่าทางนั้นราวกับถูกบ่าวชายสองคนผลักลงไปก็ไม่ปาน

"อึก" นางส่งเสียงร้องอึกอักอย่างน่าสงสาร ผมลู่ลงตามแรงเหวี่ยงปิดหน้าปิดตา สภาพดูไม่ได้

"ออกไปให้หมด!" เวลาเดียวกัน เสียงแหบแห้งก็ดังออกมาจากหลังผ้าม่านบนเตียงนอน

ท่านหมอที่นั่งตรวจชีพจรอยู่ถึงขั้นสะดุ้งตกใจ ต่อให้คนบนเตียงเป็นเพียงคนพิการและเพิ่งถูกวางยาพิษมา หากแต่วันวานก็เป็นถึงเทพสงครามที่ผู้คนต่างยกย่อง ความน่าเกรงขามในกาลก่อนย่อมไม่ได้ลดน้อยถอยลง

"พี่ลี่หยาง ถนอมร่างกายด้วย..." กู่เยว่ชิงที่ยืนห่างจากเตียงเล็กน้อยก็เอ่ยเสียงสั่นคล้ายเป็นผู้ถูกพิษเสียเอง นางยกมือที่ถือผ้าเช็ดหน้าอยู่ซับน้ำตาไปหนึ่งที ข้างกายยังคงมีจูหลิงคอยช่วยประคองอยู่ตลอดเวลา ราวกับดอกไม้งามที่ไม่อาจต้านลม ไม่แน่ว่าหากมีแค่ดอกไม้บอบบางเช่นนางเพียงดอกเดียวอยู่กลางลานกว้าง เมื่อลมพัดมาก็สามารถหักและตายไปเพียงลำพังได้เลย

"ออกไปก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ" หงเปาเอ่ยกับกู่เยว่ชิง ก่อนจะหันไปผายมือเชิญท่านหมอหลวงให้จากไปพร้อมกันด้วยเลย

'...แล้วเรียกข้ามาทำไม' เจียงเยี่ยนฟางคิดเช่นนั้นในใจ พลางทำท่าจะลุกขึ้นยืน หูสดับฟังก็รู้ว่าบ่าวสามคนด้านหลังได้ขยับตัวจากไปแล้วเช่นกัน

หงเปาเห็นเจียงเยี่ยนฟางกำลังจะจากไปก็ตวัดตามองด้วยความไม่พอใจ "พระชายาเจียงโปรดอยู่ก่อนพ่ะย่ะค่ะ" ใครสั่งให้สตรีผู้นี้ไปได้กัน

ตุบ

เจียงเยี่ยนฟางทิ้งตัวนั่งลงที่พื้นตามเดิมทันที "ท่านอ๋อง..." นางเรียกเขาเสียงยาวเลียนแบบกู่เยว่ชิง พลางขยับคลานเข่าไปด้านหน้า ด้านหลังยังรู้สึกถึงสายตาอีกสองคู่ที่กำลังมองมายังตน กระนั้นเจียงเยี่ยนฟางก็ไม่ได้สนใจสองนายบ่าวคู่นั้น เพียงขยับตัวไปจนถึงหน้าเตียง คิดจะจับตัวคนบนเตียงให้ได้ ทว่าก็ถูกหงเปาเดินมาขวางทางไว้เสียก่อน


[1] วสันต์ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 5.2 ตบหัวแล้วลูบหลัง

    เจียงเยี่ยนฟางคร้านจะพูดมาก นางเดินมากระชากแขนของหงเปาไปนั่งตรงที่นางบอก นึกย้อนไปหลายสิบปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มาอยู่ ณ ที่แห่งนี้นางพูดมากที่สุดแล้ว ปกติวัน ๆ หนึ่งนางเอ่ยออกมาแทบจะนับคำได้เลย ยามนี้จึงเริ่มอารมณ์เสียขึ้นมาเมื่อต้องพูดหลายรอบเกินไปหงเปาที่ถูกกดไหล่ให้นั่งลงบนเก้าอี้ก็ตัวแข็งเกร็ง ก้นแทบจะระบมเพราะแรงกระแทก แต่กลับไม่กล้าร้องออกมาแม้ครึ่งคำ เพิ่งเคยเห็นสตรีที่ทำท่าทางไม่พอใจเขาถึงขนาดนี้เป็นครั้งแรก แม้เขาจะบอกว่าตนเป็นบ่าวของชินอ๋อง แต่เบื้องหลังเขาเองก็ไม่ใช่ครอบครัวธรรมดา เป็นถึงตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ ของแคว้นเฉิงตระกูลของเขาดูแลเรื่องการค้าขายระหว่างแคว้นมาตั้งแต่รุ่นก่อน ตัวเขาถึงได้เข้าไปเป็นสหายร่วมเรียนกับเหล่าองค์ชาย ด้วยเพราะฮ่องเต้พระองค์ก่อนต้องการอำนาจของตระกูลเขา บิดาจึงก็ได้รับเกียรติไม่ต่างกับขุนนางราชสำนัก เป็นที่เชิดหน้าชูตาในแวดวงการค้าไม่น้อย ทำให้เหล่าสตรีไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านทั่วไป หรือคุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์ก็ยังต้องเคารพเขาอยู่แปดส่วน แต่คุณหนูใหญ่เจียงผู้นี้กลับแสดงความไม่พอใจอย่างออกนอกหน้าเพียงเพราะเขาไม่ยอมทำตามที่นางสั่งเนี่ยนะ?!"เลิกขึ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 5.1 เมื่อมีอำนาจก็ใช้ให้เป็นประโยชน์

    5 พิสูจน์อีกกี่ครา รอดไปอีกกี่หน"พระชายาเจียง เหตุใดถึงออกมานอกจวนไม่บอกผู้ใดพ่ะย่ะค่ะ" หงเปามองดูคุณหนูใหญ่เจียงที่แต่งเข้ามายังไม่พ้นสามวันก็ทำให้เขามีเรื่องปวดหัวไปแล้วสี่ครั้งอย่างจนปัญญา"ถ้าบอกแล้ว ท่านอ๋องจะให้ออกมา?" เจียงเยี่ยนฟางหัวเราะแผ่วเบาเมื่อเห็นสีหน้าของหงเปาที่ดูตกใจกับการย้อนถามของนาง ก่อนจะเดินนำหน้าผ่านตัวเขาไป "เป็นเจ้าไม่ใช่รึ ที่บอกไม่ให้เดินเพ่นพ่านในจวน ข้าเลยออกมาเดินข้างนอกแทน เวลานี้ต่อให้ผิดหรือไม่ ก็ยังไม่ดีพอในสายตาของพวกเจ้าอยู่ดี"หงเปาเม้มปากแน่น ที่นางกล่าวมาก็ไม่ผิดแม้ครึ่งคำ และในตอนที่มัวแต่คิดเรื่องที่นางพูดออกมาเมื่อครู่อยู่ สตรีผู้นั้นเพียงหนึ่งลมหายใจก็ทิ้งห่างไปเขาหลายก้าวแล้ว พาให้เขาเร่งเท้าต้องเดินตามจนน่าหงุดหงิดใจ "นั่นก็เป็นเพราะพระชายาทำกิริยาไม่สำรวม ท่านอ๋องถึงให้พระชายาประทับอยู่ที่เรือนด้านหลังเป็นการลงโทษ เหตุใดจึงไม่อยู่อย่างสงบเสงี่ยม"สงบเสงี่ยม? เจียงเยี่ยนฟางได้ยินแล้วก็เค้นเสียงเย็นในใจ เป็นแค่คนรับใช้ข้างกายท่านอ๋อง แต่กล้าพูดกับนางด้วยคำคำนี้? "ท่านอ๋องของเจ้าสั่งให้ข้าอยู่เรือนเก่าทรุดโทรม ไม่มีคนมาทำความสะอาด ข้าไม่เคย

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 4.3 คนรักของนาง หน้าตาดีไม่ใช่เล่น

    ดังเสียจนเจียงเยี่ยนฟางยังตกใจไปด้วย นางกำลังสนุกอยู่เลย อยากรู้ว่าใครจะวางเงินเดิมพันมากที่สุด และพวกเขาจะคาดเดาว่านางจะอยู่ได้นานเท่าไรกันบ้าง ส่วนเวลาในใจของนางนั้น ย่อมไม่เกินสองเดือนอย่างแน่นอน!"หลีหมิ่น เจ้าเป็นอะไรของเจ้ากัน!" ห้องด้านข้างเริ่มโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียงลากเก้าอี้เหมือนคนกำลังจะลุกขึ้น"นี่! หลีหมิ่น!"เจียงเยี่ยนฟางที่นั่งสงบนิ่งมาตั้งนานถึงกลับชะงักค้าง มือที่ถือจอกชาจะยกดื่มพลันรีบวางลงที่เดิม ก่อนหยิบจดหมายในสาบเสื้อออกมาดู หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า 'พี่หลีหมิ่น' นิ้วเรียวจิกซองจดหมายแน่น ตัดสินใจลุกขึ้นทันทีค่าห้องในครั้งนี้ ไม่คุ้มค่าเท่าไรแล้ว!เมื่อเดินพ้นประตูห้องออกมานางยังคงได้ยินเสียงบ่นของคนในห้องตามมาไม่หยุด ส่วนด้านหน้าของนางเวลานี้ก็คือบุรุษร่างสูงในชุดสีน้ำเงินเข้มที่สะท้อนแสงไฟในหอน้ำชาจนมันเลื่อม ยิ่งยามที่อีกฝ่ายเร่งรีบเดินด้วยความเร็วเพราะไม่พอใจจะรีบจากไป ก็ทำให้เนื้อผ้าขยับไปมาอย่างพลิ้วไหว พาให้คนดูสูงส่ง เพียงแค่แผ่นหลังก็พานให้ผู้คนหลงใหลได้แล้วเวลาเดียวกันนั้น เจียงเยี่ยนฟางที่เคยนึกภูมิใจว่าตนเองขายาว เดินไวกว่าสตรีนางอื่น

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 4.2 อย่าเอาถ่านร้อนมาให้ข้า! อุ้ย!! ถ่านร้อนหนักเหลือเกิน รับไว้ก็ได้ (´・ᴗ・ ` )

    "อะแฮ่ม" เถ้าแก่กระแอมไอ ด้วยนิสัยเดิมขี้คุยโวโอ้อวด การที่คุยแบบนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตนนั้นเป็นร้านผ้าขึ้นชื่อที่เหล่าสนมชื่นชอบผ้าร้านเขาขนาดไหน ทำให้หลงลืมไปแล้วว่าแม่นางตรงหน้ากำลังรีบร้อนอยู่ "ระหว่างทางคนของพระสนมที่นำทางให้ข้าก็ดันปวดท้องเข้าห้องน้ำ จึงให้ข้ายืนรอก่อน แต่ขันทีผู้ดูแลวังในที่ผ่านมาพอดีก็กลับเข้าใจผิด เขาเจอข้าเข้าและคิดว่าข้านำผ้าอีกส่วนมาส่งตามวันที่ได้นัดหมายกัน ข้าเองก็เข้าใจผิดไปในตอนแรก คิดว่าเขาจะนำทางข้าเอาผ้าไปเก็บในคลังของพระสนมพระนางนั้น แต่เขากลับพาไปที่คลังเก็บผ้าของของวังหลวงแทน สิ่งที่ข้าเจอในห้องเก็บผ้าของวังหลวงก็คือผ้าจากแคว้นจ้าว! ผู้ดูแลเห็นข้ามองอย่างสนใจก็ยิ้มเยาะข้า! เหอะ! ก็ข้าไม่เคยเห็นนี่... ""..." เจียง‍เยี่ยน‍ฟางจ้องมองนิ่ง เขาคิดจะออกนอกเรื่องอีกแล้ว? เถ้าแก่ถูกสายตาด่าแทนการพูดส่งมาถึง ก็รีบกระแอมไอกลบเกลื่อน กลับเข้าเรื่องสำคัญต่อ "อะแฮ่ม ขันทีผู้ดูแลก็เลยบอกว่า แคว้นจ้าวเพิ่งนำมาส่งมอบเป็นของบรรณาการเมื่อหกวันก่อน แต่เหมือนฮ่องเต้ดูจะไม่ทรงชอบสีและลวดลาย จึงให้จัดไว้ในคลังผ้าสำหรับตัดเย็บให้คนในวังทั่วไป..." เถ้าแก่มองซ้ายมองขวาเหม

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 4.1 ร้านผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง

    4 สูงส่งแล้วอย่างไร ผู้คนก็นินทาเหมือนเดิมในยามที่จวนชินอ๋องยังคงวุ่นวายกับการที่หัวมังกรของบ้านถูกวางยาพิษ เจียงเยี่ยนฟางกลับหนีออกไปนอกจวนทางกำแพงฝั่งด้านหลังของเรือนไม้ตั้งแต่เช้าตรู่ ด้วยประตูของจวนทั้งด้านหน้าและด้านหลังถูกคนเฝ้าอยู่ตลอดเวลา นางจึงต้องหาเส้นทางอื่นแทน สุดท้ายก็พบว่ากำแพงหลังเรือนไม้ของตนเองช่างเหมาะจะใช้ปีนออกไปพอดี และด้วยชุดของนางเป็นชุดของสตรีในพื้นที่ราบนิยมใส่ขี่ม้ากัน ดังนั้นการปีนกำแพงก็ไม่ใช่เรื่องยากสถานที่ซึ่งนางแวะไปที่แรกคือร้านสมุนไพร ไม่นานหลังจากเข้าไปก็กลับออกมา ก่อนจะแวะไปที่ร้านผ้ากลางตลาดต่อ"เถ้าแก่" เจียงเยี่ยนฟางเอ่ยเรียกผู้ที่กำลังหันหลังอยู่"แม่..." เถ้าแก่เมื่อหันมาก็ลังเล เสียงที่เขาได้ยินก่อนหันกลับมาต้อนรับลูกค้านั้นเป็นเสียงของสตรีไม่ผิดแน่นอน แม้หันมาแล้วจะตกใจกับเสื้อผ้าที่อีกฝ่ายสวม กอปรกับความสูงที่หากมองผิวเผินก็คงจะนึกว่าบุรุษเพศ จึงทำให้เขาชะงักไปในตอนแรก แต่เขาเป็นเจ้าของร้านค้าผ้ามาเกือบสามสิบปี ย่อมรู้ว่าชุดแบบนี้คือชุดของสตรีในพื้นที่ราบอันห่างไกล จึงรีบเอ่ยอย่างกระตือรือร้นกับอีกฝ่ายว่า "แม่นาง ท่านต้องการผ้าไปตัดชุดหรื

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 3.5 ในเมื่อท่านอ๋องทำไม่สำเร็จ นางย่อมต้องช่วย

    อีกฝั่งหนึ่งจูหลิงที่ขยับกายหลบไปข้างเสาอีกนิดก็เอ่ยขึ้นว่า "ดูเหมือนนางจะรู้ตัวว่าพวกเรามาแอบดูอยู่เลยนะเพคะพระชายา""ไกลขนาดนี้แถมเรายังอยู่ในที่มืด นางไม่น่าจะมองเห็น" กู่เยว่ชิงเข้าใจถูกแล้ว เจียงเยี่ยนฟางมิได้มองเห็นพวกนางชัดขนาดนั้น เพียงแค่คาดเดาจากเงาร่างเลือนรางก็เท่านั้น"แล้วเหตุใดนางถึงยังไม่โดนจับไปขังคุกอีก มิใช่ว่าท่านอ๋องทรงแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าเป็นนางที่วางยา""บิดาของนางเป็นถึงขุนนางฝ่ายซ้าย ต่อให้ท่านอ๋องคาดการณ์ว่านางอาจเป็นคนของฮ่องเต้ส่งมา แล้วอยากจับนางโยนออกไปเสียเดี๋ยวนี้ก็คงเป็นเรื่องที่เกินกำลัง ตัวนางมีคนหนุน หลังถึงขนาดนั้น คงไม่อาจทำอะไรบุ่มบ่าม" กู่เยว่ชิงเอ่ยวาจานุ่มนวล ทว่าดวงตากลับเต็มไปด้วยความไม่พอใจ มือที่แอบซ่อนไว้ในแขนเสื้อก็บีบเข้าหากันแน่นเพื่อระบายอารมณ์ นึกน้อยใจในโชคชะตาของตนเอง เพียงเพราะชาติกำเนิดของนางต้อยต่ำ หาไม่แล้วยามนี้นางคงได้ขึ้นเป็นพระชายาเอกไปนานแล้วสองปีก่อนที่ตบแต่งเข้ามา ท่านอ๋องยืนยันหนักแน่นว่าจะรับนางเป็นพระชายาเอกและจะไม่ตบแต่งผู้ใดอีก หากแต่ไทเฮาและฮ่องเต้ทรงเห็นพ้องต้องกันว่า ครอบครัวของนางเป็นเพียงแค่สามัญชนที่เพิ่งได

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status