Home / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / บทที่ 3.3 สาปแช่งกันแล้วหนึ่ง! ヽ(ˇヘˇ)ノ

Share

บทที่ 3.3 สาปแช่งกันแล้วหนึ่ง! ヽ(ˇヘˇ)ノ

last update Huling Na-update: 2025-06-04 07:12:02

แต่มีหรือที่นางจะยอม หงเปากับนางสูงไล่เลี่ยกัน แรงก็คงไม่ต่างกันมากนัก นางจึงทุ่มสุดตัว ผลักเขาที่ยืนขวางทางอยู่ให้หลีกออกไปด้านข้าง ก่อนที่ตัวเองจะขยับกายเข้าไปหมายจะคว้ามือของพระสวามีให้ได้ และก็ทำได้จริง ๆ เพราะทั้งสองคนในห้องต่างก็ไม่คาดว่านางจะไร้หัวคิดถึงขั้นนี้

"เป็นสามีภรรยากันหนึ่งวัน ก็คือเป็นไปจนวันตาย ท่านอ๋องไม่สบายเช่นนี้ หม่อมฉันก็ปวดใจยิ่งนักเพคะ" สองมือของนางโอบประคองข้อมือขาวผ่องของอีกฝ่ายอย่างทะนุถนอม แถมยังลูบไล้ไปมาราวกับคนที่หลงใหลในสิ่งสวยงามซึ่งเพิ่งได้มาครอบครองไว้ในมือเป็นครั้งแรก

"ทำอะไร... แค่ก ๆ" เซียวลี่หยางตกใจจนต้องรีบดึงข้อมือคืน หากแต่ไม่คิดว่าสตรีนางหนึ่งจะแรงเยอะถึงเพียงนี้ คราแรกจึงดึงมือกลับคืนไม่ได้ และพอได้มองเห็นมือเรียวยาวที่งดงามไม่เหมือนหน้าตาของนางกำลังลูบคลำเขาอย่างถือดีอยู่นั้น ก็ทำเอาเขาขยะแขยงจนทนไม่ไหว เผลอผลักนางออกอย่างแรงด้วยความลืมตัว

"พระชายาเจียง!" ด้านหงเปาที่กำลังจะขยับตัวไปดึงเจียงเยี่ยนฟางออกมา เวลาเดียวกันนั้นกลับมีเงาสีม่วงลอยผ่านหน้าเขาไปทางเดิมเสียแล้ว เงาร่างที่ว่านั้นก็ตกลงบนพื้นเสียงดังโครมคราม แถมมีเสียงคล้ายกระเบื้องแตกดังตามมาติด ๆ เพียงชั่วพริบตาหงเปาก็มองเห็นเศษของกำไลหยกแกะสลักที่แตกกระเด็นมาทางเขาสองสามชิ้น

"โอ๊ย..." เจียงเยี่ยนฟางโอดครวญไปในตอนแรก แต่ครั้นได้เห็นว่าอะไรกระจัดกระจายอยู่ที่พื้นก็ชะงักไป จากที่เจ็บอยู่ก็ไม่สนใจว่าร่างกายจะปวดร้าวเพียงใด รีบกระโจนตัวไปตะครุบของบนพื้นขึ้นมาดู "กำไลหยกที่ท่านแม่มอบให้ข้า! ไม่นะ ไม่ ข้ามีเพียงแค่ของชิ้นนี้เท่านั้น..." นางเอามือกวาดเศษกำไลที่แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยบนพื้นเข้ามากองรวมกันไว้ด้วยความลนลาน

"พระชายาเจียง ระวังเศษหยกจะบาดมือได้" หงเปาก้มตัวลงไป คิดจะช่วยนาง แต่ก็ได้ยินเสียงไอของเจ้านายบนเตียงเรียกสติกลับมาเสียก่อน เลยเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ น้ำเสียงจึงเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ "พระชายาเจียง! ท่านทราบหรือไม่ว่าเหตุใดท่านอ๋องถึงเรียกท่านมา!"

หัวไหล่ที่กำลังสั่นคลอนด้วยความเสียใจพอถูกตวาดพลันหยุดชะงัก เจียงเยี่ยนฟางเงยหน้าขึ้นมองหงเปา อาจเพราะดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาจึงทำให้นางดูไร้เดียงสา ไร้พิษสง ทำเอาคนถูกมองเผลอตกใจไปด้วย และคิดว่านางอาจไม่ใช่คนแบบที่ท่านอ๋องของตนเข้าใจ แต่คำตอบของนางก็ทำเอาเขาถึงขั้นต้องขมวดคิ้วแน่น เมื่อนางหันไปพูดกับคนบนเตียงว่า

"ท่านอ๋องมีเรื่องใดจะสั่งเสียหรือเพคะ?"

"!!!" เซียวลี่หยาง

"พระชายาเจียง โปรดระวังคำพูดด้วยพ่ะย่ะค่ะ" ที่ท่านอ๋องให้เติ้งอู๋ไปสืบมาดูท่าจะเป็นจริง คำพูดคำจาของนางดูอย่างไรก็ไม่เหมือนผู้ที่ถูกส่งไปอยู่บ้านเดิมของฮูหยินฟู่เลยสักนิด "ที่ท่านอ๋องเป็นเช่นนี้ก็เพราะสุรามงคลที่พระชายามอบให้!"

"เพราะสุรามงคลที่ข้ามอบให้?" เจียงเยี่ยนฟางเอ่ยทวนด้วยใบหน้าไม่เข้าใจ ดวงตาที่ยังเจือไปด้วยหยาดน้ำตายิ่งทำให้นางดูใสซื่อบริสุทธิ์ หลุดพ้นจากข้อกล่าวหาทั้งหมด

หงเปาเห็นนางยังทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวก็เดินไปหยิบขวดสุราที่วางอยู่บนโต๊ะเตี้ยข้างหัวเตียง รินลงไปในจอกที่อยู่ข้างกัน กลิ่นสุราหอมรัญจวนพลันลอยคละคลุ้งในอากาศ หลังจากรินสุราเต็มจอกแล้วเขาก็หยิบเข็มเงินที่พกติดกายออกมาจุ่มลงไป ครั้นยกมันขึ้นมาแล้วก็เดินไปย่อตัวนั่งยองข้างกายเจียงเยี่ยนฟาง ยื่นส่งเข็มเงินให้นางดู อีกฝ่ายแม้มีสีหน้าประหลาดใจแต่กลับไม่ได้ตกใจอย่างที่หงเปาคาดเดาไว้ในตอนแรก

"พระชายาเจียง แม้ท่านจะอยู่ห่างไกลเมืองหลวง แต่ก็คงไม่ใช่ว่าไม่เคยได้ยินเรื่องราวของท่านอ๋องกระมัง มิสู้สารภาพไปตอนนี้ว่า ใครเป็นคนสั่งให้ท่านวางยาพิษท่านอ๋องเสียดีกว่า ต่อให้ท่านอาจถึงขั้นพิการเพราะถูกลงโทษ แต่อย่างไรคนของตระกูลเจียงก็จะไม่ถูกประหารทั้งตระกูลแน่" หงเปาเอ่ยเสียงเบาประหนึ่งเห็นใจ แต่คำพูดกลับชี้นำอย่างเห็นได้ชัด

"ยาพิษ? เจ้าพูดเรื่องอะไร" เจียงเยี่ยนฟางถอยหลังผงะ แต่ชั่วอึดใจต่อมา ขวดสุรามงคลที่เคยตั้งอยู่บนโต๊ะเตี้ยข้างหัวเตียงก็ถูกปาลงมาใกล้กับพื้นข้างกายนางอย่างแรง ทันทีที่ความเปราะบางของขวดกระเบื้องเคลือบสัมผัสพื้นแข็งก็พลันแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ

เจียงเยี่ยนฟางสะดุ้งด้วยความตกใจ แต่กลับเอ่ยทั้งที่ยังสั่นกลัวว่า "เข็มตรวจสอบพิษของจวนอ๋องราคาถูกหรือไร ถึงได้ใช้งานไม่ได้เช่นนี้"

"จับนางไปเค้นหาความจริง อย่าเสียเวลาอีกเลย" เซียวลี่หยางเอ่ยผ่านหลังม่าน น้ำเสียงยังคงเยือกเย็นไม่เปลี่ยนแปลง มือก็หยิบผ้าเช็ดหน้าใต้หมอนมาเช็ดข้อมือตัวเองไม่หยุด ยิ่งนึกเห็นมือเรียวอันงดงามที่ยังฉายชัดในหัว ก็ยิ่งเช็ดแรงขึ้นกว่าเดิม

"พ่ะย่ะค่ะ..." หงเปารับคำยังไม่ทันจบ สตรีที่นั่งตัวสั่นงันงกราวกับลูกนกตกน้ำก็ขยับกายพุ่งไปทางเตียงด้วยความเร็วจนเขาแทบมองไม่ทัน ด้วยคราวนี้มีประสบการณ์จากเมื่อครู่แล้ว และโชคดีที่ท่านอ๋องของเขาเป็นถึงเทพสงคราม เพียงแค่นางพุ่งตัวเข้าไปใกล้ก็ถูกท่านอ๋องหยิบดาบข้างกายออกมาเตรียมตั้งรับไว้รอ ไม่ให้มีโอกาสให้นางได้ถึงตัวอีกเป็นครั้งที่สอง

แต่เรื่องราวกับผิดคาด จากที่คิดว่านางอาจเป็นมือสังหารแฝงตัวมา และพอถูกจับได้ก็หวังจะสังหารท่านอ๋องทิ้งโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ทว่าสตรีนางนั้นกลับเพียงแค่ยกจอกสุราบนโต๊ะเตี้ยที่เขาเททิ้งไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาดื่มจนหมดแทน!

"???!!!" หงเปา

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.3).6 ของไร้ค่าของท่าน ข้าช่วยทำลายให้ ดีหรือไม่

    เวลานี้สีหน้าของกู่เยว่ชิงซีดเผือดลงพานดูไม่ได้ แม้แต่แสงของคบไฟที่สาดกระทบใบหน้าจนเป็นสีส้มนวลตา ก็มิอาจทำให้ใบหน้าของนางดูมีสีสันขึ้นมาได้แม้แต่น้อย กู่เยว่ชิงไหนเลยจะคาดเดาได้ว่าเรื่องราวจะถูกพลิกมาในทางนี้ และไม่รู้ว่าสาวรับใช้ผู้นี้ที่ตนให้เป็นคนถือปิ่นไว้จะซ่อนปิ่นไว้อย่างดีก่อนมาที่นี่หรือไม่ เพราะก็ไม่มีใครคาดคิดว่าเจียงเยี่ยนฟางจะให้คนของตนมาค้นผู้อื่นก่อนเข้าไปในเรือนและยิ่งไม่อาจคาดเดาได้ว่าหม่าเจินจะค้นเพียงสองคนก็เจอกับดักที่ตนแอบซ่อนเข้าแล้ว นางพาสาวใช้มาเกือบยี่สิบคน แต่หม่าเจินกลับเดาถูกได้อย่างแม่นยำในเวลาอันสั้น ไม่ทันได้รอให้นางได้คิดหาทางออก นางก็ใกล้ตกม้าตายแล้ว!"หยุดนะ! ปล่อยข้า" สาวใช้นางนั้นพยายามผลักหม่าเจินออก แต่ไม่รู้หม่าเจินไปเอาแรงมาจากไหน นางสู้ไม่ไหวเลย"น้องหญิง กำไลนั้นอาจแค่เหมือนของเจ้าก็ได้ คงเป็นของที่ทำขึ้นมาเลียนแบบเท่านั้น" กู่เยว่ชิงพยายามห้ามเสียงของตนเองไม่ให้สั่น แต่ใครที่รับใช้นางมาสักพักก็คงจะมองออกได้อย่างง่ายดายว่านางกำลังตื่นกลัว"พี่หญิงกู่ ท่านก็ช่างเข้าข้างคนของตนจนเกินเหตุ กำไลนั้นเป็นหยกหายากที่มีสามสีในชิ้นเดียว ต่อให้ทำเลียนแบ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.3).5 เจินเจินคือตัวแปร

    คราแรกที่เห็นเพียงใบหน้าด้านข้างก็ทำให้เจินเจินตกใจมากพอแล้ว แต่เมื่อได้เห็นเต็มดวงหน้าก็ยิ่งมอบความประหลาดใจให้นางมากกว่าเก่า หากแต่ในช่วงจังหวะนั้น ใบหน้าสวยสะคราญดุจดั่งเทพเซียนลงมาจุติบนโลกมนุษย์ของอีกฝ่ายก็ค่อย ๆ บวมขึ้น บวมขึ้น... ก่อนจะปูดโปนไร้รูปแบบ จนดูคล้ายเจ้านายคนเดิมของนาง!'เรียกได้ทั้งวี่ทั้งวัน มีเรื่องอันใดอีก!'ครั้นน้ำเสียงติดจะหงุดหงิดดังออกมาจากผู้ที่นั่งอยู่ เจินเจินก็กระจ่างแจ้งแล้ว 'พระชายา เหตุใดใบหน้าของท่าน...'เจียงเยี่ยนฟางกัดขนมเข้าไปอีกคำ หาได้ใส่ใจใบหน้าตื่นตระหนกของสาวใช้ไม่ '...ไม่เคยเห็นคนแพ้ถั่วหรือไร' กระทั่งอีกฝ่ายเดินมาแย่งขนมจากในมือไป แล้วฟาดขนมลงตะกร้าอย่างไม่ใยดี แถมยังคว้าตะกร้าไปถือไว้ในมือ ขยับเท้าถอยกรูไปไกล นางถึงได้ให้ความสนใจอีกฝ่ายขึ้นมา 'ดีใจจนเสียสติไปแล้ว?' เจียงเยี่ยนฟางเคี้ยวขนมคำสุดท้ายเสร็จก็พูดออกไปเช่นนั้น'พระชายา ทรงรู้แต่แรกว่าแพ้ แต่ก็ยังจะกิน...ท่าน ท่าน''ปกติข้าก็กินถั่วตอนเช้าทุกวันอยู่แล้ว' เจียงเยี่ยนฟางไม่คิดจะสั่งให้เจินเจินเอาขนมมาคืน เพราะรู้สึกว่าหน้าบวมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงยกน้ำชาขึ้นมาจิบและเช็ดปากเช็ดมือ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.3).4 ใครกันที่แอบเข้ามาในบ้านไม้ผุพัง

    'เลิกเรียกเสียที ยังไม่รีบเช็ดน้ำตาแล้วรีบไปอีก!' น้ำเสียงนั้นดูรำคาญเหลือทน มือก็โบกไล่คนจากไป'เพคะ เพคะ! ' ยามลุกขึ้นมาย่อตัวลา เจินเจินก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วรัว ไม่เคยตื่นเต้นด้วยความดีใจขนาดนี้มาก่อน และยังเป็นครั้งแรกตั้งแต่บิดามารดาจากไป ที่มีคนให้นางได้ลองพึ่งพิงสักครั้ง เวลานี้ไม่ว่าหนทางเบื้องหน้าน้องชายจะหายดีหรือไม่ แต่ขอเพียงแค่มีคนคิดจะช่วยเหลือนางถึงขั้นนี้ ก็ดีเกินพอแล้วเจียงเยี่ยนฟางมองส่งคนจากไป ลอบถอนหายใจออกมาเพียงลำพังก่อนหน้านี้นางได้คำนวณทุกอย่างไว้แล้ว คิดว่าการตอบกลับมาจากฝั่งนั้นน่าจะไม่เกินวันที่นางต้องกลับบ้านเดิมหุบเขาเซียนกู่อยู่ห่างจากที่นี่มากนัก หากส่งจดหมายผ่านรถม้าก็เกือบสิบวัน ถ้าเป็นม้าเร็วไร้รถม้าก็ราวแปดวัน แต่ถ้าเพิ่มเงินให้เร่งเดินทางอีกหน่อย จดหมายก็ถึงในเจ็ดวันทว่าหากเป็นนกจะเร็วกว่า ใช้เวลาเพียงห้าวันไม่เกินหกวันก็ถึงที่หมายแล้ว และนางยังขอให้เร่งเวลาขึ้นอีก ดังนั้นก็จะลดเวลาลงไปได้อีกสองวัน หลังไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน นางจึงต้องให้คนของเขาเซียนกู่มารับน้องชายของเจินเจินคนละครึ่งทาง ถึงได้ให้น้องชายของเจินเจินเดินทางไปรอที่โรงเตี๊ยมเฟยฉีแ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.3).3 ชีวิตไร้ค่าของเจ้า ผู้ใดจะอยากได้!

    'ข้าไม่มีเงินพอจะช่วยเจ้าได้' สินเดิมของเจียงเยี่ยนฟางก็ถูกเซียวลี่หยางยึดไปยังไม่ยอมคืน แต่อย่างไรเสีย แรกเริ่มเดิมทีของมีค่าเหล่านั้นก็ไม่ใช่ของนางอยู่แล้ว นางจึงไม่ต้องการแตะต้องแม้แต่น้อย เพียงแค่ต้องการนำกลับคืนมาให้ได้เท่านั้น ถึงมันไม่ใช่ของนางก็จริง ทว่าก็หาใช่ของเขาเช่นกัน'...' เจินเจินพยักหน้าเข้าใจ ไม่เรียกร้องสิ่งใดอีกหากแต่เมื่อกลับมาถึงเรือน คุณหนูใหญ่เจียงกลับถามนามของน้องชายนาง ก่อนจะเขียนจดหมายให้สองฉบับ ฉบับหนึ่งส่งให้นางไปมอบให้คุณชายกั่วที่มายืนรอเจอคุณหนูใหญ่เจียงอยู่ที่ประตูหน้าของจวนมาสามวันติดแล้ว กับอีกฉบับมอบให้นางไปส่งให้ใครบางคน'หากเจ้าจะออกไปข้างนอกก็ต้องทำเช่นนี้ ฉบับนี้เป็นจดหมายที่ข้าส่งให้กั่วหลีหมิ่น นำไปส่งที่จวนของเขา เวลานี้เขาคงกลับจวนไปแล้ว' เจียงเยี่ยนฟางยื่นจดหมายให้ดูว่าอันไหนเป็นอันไหน ซึ่งตัวซองจดหมายของกั่วหลีหมิ่นเป็นซองจดหมายธรรมดาที่ใช้ทั่วไป ต่างแค่ไม่ได้ปิดผนึกไว้ส่วนอีกอันไม่ได้ใส่ในซอง เป็นเพียงกระดาษแผ่นเล็ก ๆ เท่าสองนิ้วมือ ดูคล้ายจดหมายลับ 'เจ้าต้องไปรายงานท่านอ๋องก่อนเพื่อไม่ให้โดนจับได้ บอกว่าข้าให้ไปส่งจดหมายให้คุณชายรองตระ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.3).2 ถูกเผยตัวแล้ว

    ย้อนไปสองวันหลังจากที่เจินเจินมาอยู่กับเจียงเยี่ยนฟางพอเจียงเยี่ยนฟางได้รู้ว่าสามารถออกไปข้างนอกได้ ก็มักจะพาเจินเจินไปนั่งที่ร้านน้ำชาใกล้ ๆ กับตลาด เฝ้ามองดูผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาจากบนชั้นสองของร้าน พลางใช้ความคิดไปอยู่นานสองนาน แต่ช่วงจังหวะหนึ่งก็หันกลับมามองสาวใช้ของตน 'เจินเจิน''เจ้าค่ะคุณหนู' เจินเจินที่ยืนอยู่ข้างกายก็ขานรับออกไป นางจำต้องเรียกอีกฝ่ายต่างจากปกติ เพราะท่านอ๋องบัญชาลงมาว่า เมื่ออยู่ภายนอกจวนไม่อาจให้ใครรู้สถานะจริงของคุณหนูใหญ่เจียงได้ เพื่อกันเรื่องวุ่นวายในภายหลัง'เจ้าจะทำงานให้ใครข้าไม่สน แต่ถ้าเจ้าทำให้ข้าเดือดร้อนเมื่อไหร่ ข้าไม่ไว้ชีวิตเจ้าแน่' นิ้วมือเรียวยาวกรีดกรายยกจอกน้ำชาขึ้นมาจรดริมฝีปาก อีกมือก็ยกผ้าปิดหน้าขึ้นเปิดออก็ย ท่าทางและกิริยางดงามจนพาให้ผู้มองหลงใหลแต่ผู้มองคนนั้นยามนี้กลับใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มแทนที่จะมัวมาหลงใหลในนิ้วมืองดงามของผู้อื่น!ดวงตาของเจินเจินยังคงเบิกโต ในหัวทบทวนว่านางพลาดไปจนถูกจับได้ตั้งแต่ตอนไหนกัน!แต่คิดหัวแทบแตกก็จำไม่ได้ จากที่ยืนอยู่จึงทรุดลงนั่งคุกเข่า เอาหัวโขกพื้นเสียงดังลั่น 'พระชายา ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย!!' เวลา

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.3).1 ไหนเลยจะให้ผ่านไปได้โดยง่าย

    บทที่ 6.3คราสามไหนเลยจะทนอีก!"ช้าก่อน เมื่อวานข้าเองก็หากำไลหยกไม่เจอ บางทีอาจถูกขโมยไปเช่นเดียวกัน และหัวขโมยก็อาจจะเป็นคนเดียวกันก็ได้ มิสู้ให้ข้าช่วยพี่หญิงหาอีกแรง จะได้หากำไลของข้าและหาปิ่นของท่านไปพร้อมกันด้วย เป็นอย่างไร" เจียงเยี่ยนฟางไม่พูดเปล่า ยกมือขึ้นแล้วปัดลงกลางอากาศเพื่อสั่งให้เจินเจินไปค้นทุกคนที่กำลังจะเข้าไปในเรือนของตน"เจ้า..." จูหลิงหยุดคำพูดไว้ได้ทัน ลืมไปว่าเวลานี้ท่านอ๋องก็อยู่ด้วย "พระชายาเจียงกำลังทำอะไรเพคะ" ปากพูดกับเจียงเยี่ยนฟางแต่สายตากับเหลือบมองไปทางเจินเจินที่เดินผ่านหน้าตนเองไปแทน"พระชายาของเจ้าอยากเข้ามาค้นของในเรือนข้า หากเจอก็ได้ของคืนไป หากไม่เจอก็คือไม่เจอ แต่กำไลหยกของข้าเล่า ถ้าพวกเขาเข้ามาแล้วก็กลับออกไป ข้าจะจับมือใครดมได้อีก บางทีปิ่นที่หายไปก็อาจจะเป็นคนของพวกเจ้าที่เอาไปก็ได้นี่น่า เช่นนั้นก็ค้นตัวพวกเจ้าเสียก่อนเข้าไปให้เสร็จเถิดเพราะเมื่อวานตอนที่ข้ากำลังลองกำไลข้อมือในคลังเก็บของ จำได้ว่าข้ายังสวมกำไลหยกวงที่หายไปไว้อยู่เลย มันเป็นของที่มารดามอบให้ ข้าจึงหวงมาก ไม่เคยถอดออกเลยสักครั้ง แต่เพราะตอนนั้นกลัวกำไลที่กำลังจะลองจะกระทบกัน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status