Home / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / บทที่ 3.1 ท่านอ๋องถูกวางยาสำเร็จแล้ว

Share

บทที่ 3.1 ท่านอ๋องถูกวางยาสำเร็จแล้ว

last update Last Updated: 2025-06-04 07:11:10

3 ถูกวางยาแล้ว

เช้ามืดวันต่อมา เจียงเยี่ยนฟางก็ได้ยินเสียงความวุ่นวายตั้งแต่ตอนที่นางเพิ่งจะตื่นขึ้นมาได้ไม่นาน ขนาดว่านางอยู่ไกลถึงท้ายจวน ก็ยังได้ยินเสียงผู้คนได้อย่างชัดเจน ดูท่าคงกำลังเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

เมื่อประติดประต่อเสียงเหล่านั้นได้แล้วคิ้วเรียวยกขึ้น "คนผู้นั้นถูกวางยาพิษ?"

หวนนึกถึงเรื่องเมื่อวานภายหลังกลับมาจากเรือนอี้ พอนางเดินเข้ามาในเรือนไม้แล้ว ก็พบว่ามีคนมาแอบอยู่ข้างนอกอีกฝั่งของหน้าต่าง และเอ่ยถามถึงเรื่องสุรามงคลกับนาง ครั้นเมื่อนางตอบว่าส่งมอบเรียบร้อยแล้ว แต่คนยังไม่ได้ดื่ม คนผู้นั้นก็เพียงบอกให้รอดูไปก่อน แล้วก็จากไปทันที

เจียงเยี่ยนฟางขยับขาลงจากเตียง นั่งย่อตัวลง ยื่นมือเข้าไปภายในความมืดมิดใต้เตียง คว้าบางอย่างออกมา เมื่อมือของนางโผล่พ้นความมืดมาแล้ว ก็พบว่า สิ่งที่อยู่ในมือคือขวดสุราแบบเดียวกันกับเมื่อวานที่นางได้มอบให้คนสนิทของเซียวลี่หยางไป

นางเปิดฝาออกและสูดดมกลิ่นของสุราที่ลอยขึ้นมา

"ก็ไม่ได้มอบขวดที่มียาพิษให้เสียหน่อย" เจียงเยี่ยนฟางพึมพำเสียงเบากับตนเอง

สุรามงคลที่ใส่ยาพิษมาในคืนเข้าหอนั้น คราแรกนางคิดว่ามีคนจงใจทำร้ายตน ตอนเช้าถึงได้ไปขออีกรอบ ทว่าขวดที่ได้มาจากบ่าวรับใช้คนแรกนั้นกลับเป็นสุราธรรมดา แต่ขวดที่ได้มาจากในซอกลังไม้ต่างหากที่เป็นสุราแบบเดียวกันกับคืนในวันเข้าหอ

เรื่องที่ไม่เข้าใจก็คือ คนวางยาผู้นั้นกลับมอบมันให้นาง เพื่อให้ไปวางยาพระสวามีของตนแทน ครานั้นคำตอบถึงได้กระจ่างชัดแล้วว่าเป้าหมายมิใช่ตนเอง

ที่นางจงใจวางขวดสุราใบแรกไว้ที่ลังไม้ ก็เพราะต้องการหลอกคนที่มอบสุราพิษให้นางอีกทีว่าในมือนางมีเพียงขวดเดียว ขากลับจึงแวะเข้าไปในห้องครัวอีกรอบ เพื่อไปขอสุราแบบเดิมเพื่อมาสับเปลี่ยน อ้างว่าไม่ทันระวังทำแตกไป พอถึงกลางทางระหว่างไปหาเซียวลี่หยาง นางก็แอบสลับขวดที่มียาพิษไว้กับตนเองแทน

ดูท่าแล้ว คนที่ถูกจ้างมาคงเข้าใจผิดคิดว่านางเป็นพวกของตน จากการที่นางจงใจคะยั้นคะยอจะเอาสุราแบบเดิมให้ได้ตอนที่อยู่หน้าห้องครัว มิหนำซ้ำนางยังพูดเสียงดังว่าขวดเก่าในห้องหอได้ทำแตกไปแล้วอีกด้วย แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นแผนของนางตั้งแต่แรกที่ตั้งใจพูดออกไปแบบนั้น

เหตุผลที่เจียงเยี่ยนฟางตบแต่งเข้าจวนอ๋องช่างแสนธรรมดา ทั้งยังไม่มีอันใดเกี่ยวกับเซียวลี่หยางแม้แต่น้อย นางไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการลอบสังหารเขา ถึงเขาจะไม่ใช่สวามีที่ดีสำหรับนาง หากแต่มือของนางให้คนอื่นยืมใช้ฆ่าคนได้หรือ?

ชั่วขณะที่ตกลงไปในความคิดของตนเอง ด้านนอกก็มีคนมารัวมือเคาะประตูเรือนของนางอย่างแรง เรือนไม้แห่งนี้เล็กจนนับก้าวเดินได้ เมื่อประตูถูกเคาะแรงขนาดนี้ เสียงของมันก็ก้องไปทั่วห้องอันคับแคบจนพาให้เจียงเยี่ยนฟางหนวกหูขึ้นมา ใบหน้าพลันไม่สบอารมณ์ทันที

"ท่านอ๋องเรียกพบเจ้า! เปิดประตูเดี๋ยวนี้!" คนด้านนอกตะโกนมาพร้อมกับเสียงประตูที่ยังคงถูกทุบไม่หยุด "พังเลย!" ยิ่งไม่รอให้คนด้านในเดินมาเปิด อีกฝ่ายก็ส่งเสียงให้บ่าวชายที่ตามมาด้วยลงมือพังประตูเรือนของผู้อื่นเสียแล้ว

เจียงเยี่ยนฟางรีบเก็บขวดสุราคืนที่เดิม ลุกขึ้นคว้าเสื้อตัวนอกและผ้าปิดหน้ามาสวม ก่อนจะเดินไปเปิดประตู ด้วยความเร็วของนาง ก็ทำเอาเท้าของใครบางคนที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศหวังจะถีบประตูอยู่นั้น ได้แหวกผ่านตัวนางซึ่งเบี่ยงตัวหลบได้ทัน คนผู้นั้นจึงเสียการทรงตัวหน้าทิ่มลงพื้นอย่างแรงแทน

"จวนอ๋องอบรมบ่าวเช่นนี้หรือไร โหวกเหวกโวยวายไม่พอ เพียงรอนิดรอหน่อยก็จะพังประตูเรือนผู้อื่นเล่นเสียแล้ว หากอยากอวดรวย ทำทีเป็นว่าพวกตนมีกำลังพังประตูได้ก็มีเงินซ่อมได้ มิสู้ ปรับปรุงเรือนไม้พัง ๆ นี่เสียก่อน แล้วค่อยว่ากัน" เจียงเยี่ยนฟางเก็บซ่อนรอยยิ้มที่เผยออกมาหลังจากเห็นท่าทางไม่น่าดูของบ่าวชายที่ล้มลงไป อีกฝ่ายก็กำลังพยายามลุกขึ้นมาทำทีเหมือนไม่เจ็บ แต่ไหนเลยจะปกปิดสีหน้าไว้ได้

สาวใช้คนที่ส่งเสียงสั่งผู้อื่นคราแรกชะงัก แต่สุดท้ายก็ออกปากสั่งการอีกรอบ "พาตัวนางไป!"

"อย่าแตะต้องตัวข้า" เจียงเยี่ยนฟางเบี่ยงตัวหลบบ่าวชายอีกคนที่มาด้วยกัน พลางกดตามองลงอย่างหยามเหยียดผู้อื่น "ข้าไม่ถูกท่านอ๋องของพวกเจ้าโปรดปรานจนพวกเจ้ามองข้ามข้าก็แล้วไปเถอะ แต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นถึงบุตรสาวคนโตของขุนนางเจียง หากเขาได้รู้ว่าข้าถูกหยามเกียรติเช่นไรในจวนอ๋องของพวกเจ้า พาลทำให้เขาต้องขายหน้าผู้คน คิดหรือว่าท่านพ่อของข้าจะปล่อยพวกเจ้าไว้!"

บ่าวชายสองคนหันมองหน้ากันแล้วก็เริ่มกังวลขึ้นมา ส่วนสาวใช้ที่คิดจะมาข่มเหงผู้อื่นแต่โดนข่มเหงกลับก็เพิ่งจะคิดได้ว่า สตรีตรงหน้าแม้คนในจวนบอกว่าบ้านเดิมของนางไม่มีใครชื่นชอบนาง แต่ข่าวลือก็คือข่าวลือ ไม่มีสิ่งใดแน่นอน จึงลังเลไม่กล้าบุ่มบ่ามอีก

เวลานี้ที่ไม่มีใครตัดสินใจได้ว่าจะเอาอย่างไรดี ร่างสูงของเจียงเยี่ยนฟางก็ออกเดินนำไปก่อนแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.4 นางไหนจะเกรงกลัวผู้ใด

    ยามนี้ผ่านไปนานเกือบสิบเอ็ดปี จดหมายฉบับแรกนอกเหนือจากเงินที่เขาส่งมาให้ ก็คือเรียกข้ากลับไปแต่งงาน แต่ข้าไม่อยากแต่ง ข้ามีคนที่ข้ารัก...คนผู้นั้นเป็นเหมือนดั่งพี่ชายของข้า เป็นเหมือนดั่งสหายของข้า พวกเราเจอกันตั้งแต่ข้าอยู่ที่เมืองหลวง จนข้าจากไปไกลจึงทำได้เพียงเขียนจดหมายกลับไปหาเขา นับแต่นั้นมา ก็มีเขาที่ยังคอยห่วงหาข้าตลอด เราให้สัญญากัน ข้าเองก็รับปากแล้วว่าจะเป็นภรรยาของเขา" เวลามีเรื่องคิดไม่ตก เจียงเยี่ยนฟางมักจะติดนิสัยเดิม โดยชอบหยิบผ้าผูกผมที่ป้าซูทำให้มาจับเล่นอย่างเผลอตัว ในตอนนี้เองก็เช่นกันเสวี่ยหว่านมองตามมือของนางไปก็พบว่าสิ่งที่นางจับอยู่คือผ้าผูกผมรูปดอกไม้ที่มีปักลายเฉพาะ ผ้าผูกผมชิ้นนั้นดูไม่เข้ากับชุดที่เจียงเยี่ยนฟางขอสลับของนางไปใส่แม้แต่น้อย จังหวะต่อมาจึงเงยหน้าสบตาอีกฝ่ายแล้วถาม "...แล้วคนผู้นั้นตอนนี้เขารู้หรือไม่ว่าท่านกำลังจะไปแต่งงาน"เสวี่ยหว่านเป็นหมอยาพิษ การทำงานในจุดนี้ของนางย่อมพบเจอคนตายมาไม่น้อย จิตใจนับว่าด้านชาจนแทบไร้ความรู้สึก ยิ่งไม่สนใจเรื่องความรัก ยิ่งเมื่อได้ฟังก็เกิดสับสน บุรุษผู้นั้นดูแล้วน่าจะไม่ใช่คนธรรมดาที่สามารถเข้าออกจวนขุนนางจ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.3 เรื่องราวของจุดเริ่มต้น

    เรื่องนี้เป็นความลับของนาง แต่ก็ไม่คิดจะปิดบังคนที่ช่วยชีวิตตนเองไว้ อีกทั้งนางก็ทะนงตนว่า สตรีตัวเล็กเช่นคนตรงหน้าไม่มีทางทำอะไรตนเองได้ หรือต่อให้อีกฝ่ายเอาเรื่องนางไปป่าวประกาศบอกผู้อื่นจนนางเดือดร้อน นางก็คิดว่านางสามารถแบกรับไหว"!!!" สองคนในรถม้าต่างตกใจ คนที่จะทำงานด้านนี้ได้มือต้องแปดเปื้อนมาไม่น้อย แต่สตรีตรงหน้าถึงจะไม่ค่อยยิ้ม ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่น้ำเสียงกลับน่าฟัง ท่าทางไม่ถึงขั้นอ่อนหวานเหมือนสตรีที่ได้รับการอบรม แต่ท่าทางก็ดูนุ่มนวลไม่หยาบกระด้าง การพูดการจาก็ดูมีมารยาทไม่ทำตัวโผงผาง หากบอกว่าเป็นบุตรสาวตระกูลร่ำรวยพวกนางก็เชื่อ ไหนเลยจะถูกอีกฝ่ายใช้รูปลักษณ์ภายนอกมาตบตาเข้าให้แล้ว"คุณหนูทั้งสองไม่ต้องตกใจไป ผู้ที่มีบุญคุณ เสวี่ยหว่านผู้นี้ ย่อมไม่คิดร้ายด้วย อีกทั้งก็เป็นเพียงผู้ทำยาพิษและยาแก้พิษ ไม่ใช่ผู้ใช้พิษเสียหน่อย" เรื่องหลังนั้น... แน่นอนว่า ย่อมโกหกไปเจ็ดส่วน!อีกสองสามวันต่อมา เสวี่ยหว่านผู้นี้ก็ไม่ยอมจากไปเสียที จนซูเจียวเริ่มทนไม่ไหว ในตอนที่อยู่บนรถม้าก่อนจะลงไปเช่าโรงเตี๊ยมในหมู่บ้านกวนพักผ่อน นางก็เอ่ยปากถามด้วยตนเอง"พี่เสวี่ยหว่าน ท่านคิดจะไปที่ใดกันแน

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.2 บุญคุณครั้งเดียว จดจำจนตาย

    "เป็นคน เมื่อครู่ ข้ามั่นใจ!" เจียงเยี่ยนฟางตะโกนบอกไประหว่างทาง ดวงตาจ้องมองมือที่โผล่ขึ้นเหนือน้ำเพียงสองครั้งแล้วจมหายไป แต่ใต้ผืนน้ำที่ไหลแรงก็ยังพอมองเห็นเงาร่างสีม่วงเข้มได้เลือนราง"คน? คนอะไรไปอยู่... ไม่ ๆ ๆ คนที่ไหนจะโดนน้ำพัดขนาดนี้แล้วยังรอด คุณหนู อย่า ไม่!" ซูเจียวเพิ่งจะรู้สึกไปเมื่อครู่เองว่า สายน้ำเส้นนี้นั้นไหลแรงเกินไปจนน่ากลัวไม่อยากเข้าใกล้ และไม่อยากแม้แต่จะข้ามสะพานไม้นั้นอีกรอบอยู่เลย แต่คุณหนูของนางพูดแค่ 'เป็นคน' แล้วก็กระโจนลงน้ำไปได้อย่างไร!ซูเจียววิ่งตามไปหยุดอยู่ตรงจุดที่เจียงเยี่ยนฟางเพิ่งจะกระโดดลงไปเมื่อครู่ "คุณหนู คุณหนู!" นางตะโกนหาอีกฝ่ายพร้อมดวงตาก็กวาดมองไปทั่วผืนน้ำ หัวใจเต้นไม่หยุดด้วยความกลัว ถึงแม้นางจะบอกว่าตนไม่ค่อยชอบเจียงเยี่ยนฟางเพราะรู้สึกว่าตนอยู่ต่ำกว่าเสมอ แต่เมื่อถึงเวลาคับขันแห่งความเป็นความตาย นางกลับรู้สึกเป็นห่วงคนที่โตมาด้วยกันอย่างน่าประหลาดซูเจียวถอดรองเท้าและเสื้อตัวนอกออก หวังกระโดดลงน้ำไปดึงเจียงเยี่ยนฟางขึ้นมา ในระหว่างที่กำลังถอดเสื้อตัวนอกออกอยู่นั้น ก็ไม่หยุดสายตาสอดส่องมองหาคนไปทั่วผืนน้ำแต่ไม่ทันที่นางจะกระโดดลงไป

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.1 เรื่องราวเมื่อเดือนก่อน

    บทที่ 17วาสนาได้พานพบผู้มีบุญคุณเพียงชั่วครู่สารทฤดูเริ่มต้นไปได้ครึ่งทางแล้ว ใบไม้รอบด้านเริ่มเปลี่ยนสียามเมื่อออกเดินทางเวลานี้ ถือว่าเป็นผลพลอยได้ที่จะได้ชื่นชมธรรมชาติไปในตัวแต่คนบนรถม้าคันหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงกลับดูเป็นกังวลไม่น้อย"คุณหนู ท่านจะแต่งเข้าจวนอ๋องจริงหรือเจ้าคะ" ซูเจียวนั่งอยู่บนพื้นของรถม้าก็เอ่ยถามสตรีอีกคนที่นั่งอยู่บนเบาะ ที่ผ่านมาตัวนางถูกเลี้ยงดูมากับสตรีตรงหน้า อยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กที่เมืองลี่เจียง ดุจดั่งเป็นครอบครัวเดียวกันทว่าตั้งแต่เยาว์วัย มารดาของนางชอบบังคับให้นางเรียกอีกฝ่ายว่าคุณหนูอยู่ตลอด คราแรกนางไม่เข้าใจ และทุกครั้งที่ตีตัวเสมอเจียงเยี่ยนฟาง นางก็จะถูกมารดาดุด่าเป็นประจำ ตักเตือนให้นางนอบน้อมกับเจียงเยี่ยนฟางให้มากหน่อย นางก็ต้องทำโดยไม่สามารถอิดออดได้ ทั้งที่เจียงเยี่ยนฟางก็ถูกมารดาใช้งานหนักพอ ๆ กัน ไม่เคยปล่อยปละละเลยให้อีกฝ่ายทำเพียงแค่นอนและกินเหมือนคุณหนูจริง ๆ ต่างต้องทำงานทุกอย่างให้เป็นกระทั่งไม่กี่วันก่อนคุณหนูของนางได้รับจดหมายจากบิดาที่ทอดทิ้งตัวเองไปนาน เรียกตัวกลับเมืองหลวงเพื่อแต่งงานเข้าจวนชินอ๋อง!ชินอ๋อง

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.3 + บทที่ 16.4 มีผู้บุกรุก+ผู้เกรียงไกรก็มีวันล้มเป็น

    เจียงเยี่ยนฟางกลับมายังร้านน้ำชาอีกครั้งพร้อมถุงซาลาเปาในมือ คนที่รอนางอยู่ก็ได้ย้ายตัวเองไปบนรถม้าอยู่ก่อนแล้ว พอนางมาถึง บรรยากาศก็ผิดแผกไปอย่างเห็นได้ชัด เซียวลี่หยางไม่พูดไม่จาอันใดแม้ครึ่งคำแต่...ไม่พูดไม่จาก็แล้วไปเถิด นางอาจมาช้าทำให้เขารอนานจนเกิดไม่พอใจขึ้นมา เรื่องนั้นก็พอเข้าใจได้ ทว่าแววตารังเกียจที่เหมือนคราแรกพานพบกันในห้องหอนั้น กลับมาปรากฏบนสายตาเขาอีกครั้งนี่สิ นางถึงได้รู้สึกแปลกใจขึ้นมาคนผู้นี้เช้าเป็นอย่าง ดวงตะวันคล้อยบ่ายก็เป็นอีกอย่าง นางคาดเดาเขาไม่ได้เลยยามเมื่อเดินทางกลับมาถึงจวนแล้ว คนในรถม้าที่นั่งมากับนางนานสองนานก็ไม่รอให้นางออกไปก่อน เขารีบเรียกหงเปามาพาตัวเองเข็นรถลงไปทันทีที่รถม้าหยุดลง ประหนึ่งว่าไม่อยากใช้ลมหายใจในรถม้าร่วมกับนางนานกว่านี้ จึงทิ้งนางไว้เบื้องหลังไม่ใส่ใจ"เมื่อเช้ายังไปด้วยกันดี ๆ อยู่เลย ยามนี้ท่านอ๋องเหมือนจะกำลังไม่พอใจอยู่..." สาวใช้ที่อยู่ไม่ไกลก็พากันซุบซิบนินทา คิดว่าระยะขนาดนี้พระชายาเจียงน่าจะไม่ได้ยิน"แปลกอันใดกัน ที่ผ่านมาท่านอ๋องกับพระชายากู่ที่มักตัวติดกันตลอด แต่ท่านอ๋องก็นิ่งสงบปานท่อนไม้ขนาดนั้น ดูอย่างไรก็ไม่เหม

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.2 ช่างน่ารังเกียจเกินไปแล้ว!

    "เร็วหน่อยก็ดี แล้วเร็วที่สุดของเถ้าแก่ราวกี่วัน""สองชิ้นก็เจ็ดวัน ข้าจะหาช่างฝีมือสองคนทำก็แล้วกัน จะได้รอไม่นานเกินนี้""เงินในถุงพอค่ามัดจำหรือไม่" เจียงเยี่ยนฟางหันมองถุงเงินที่หายไปอยู่ในมือเถ้าแก่ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้"พอ ๆ ๆ ๆ แม่นาง...อยากเน้นส่วนไหนเป็นพิเศษ แจ้งมาได้เลย" เถ้าแก่พอได้จับถุงเงินแล้วก็อารมณ์ดีขึ้นอีกห้าส่วน ดวงตาสะท้อนไปด้วยเงินทองอยู่ภายใน"เถ้าแก่จัดการได้เลย อีกเจ็ดวันข้าจะมารับ" เจียงเยี่ยนฟางกล่าวเสร็จก็เตรียมจากไป"แม่นางเดินทางปลอดภัย" เถ้าแก่ร้านมีท่าทีกระตือรือร้นกว่าตอนแรกที่เจียงเยี่ยนฟางเข้ามามากนัก ถึงขั้นเดินออกมาส่งด้วยตัวเองเจียงเยี่ยนฟางพอออกมาจากร้านเครื่องประดับแล้วก็ยังคงแวะไปอีกหลายแห่งเพื่อสั่งของที่นางอยากได้ กระทั่งมาหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายเครื่องประดับแผงลอยข้างทางร้านหนึ่ง เป็นร้านเล็ก ๆ ที่เน้นไปทางเชือกผูกผมกับปิ่นที่ทำมาจากไม้ หากแต่สิ่งที่สะดุดตานางมากที่สุดไม่ใช่ผ้าไหมซึ่งถูกทออย่างประณีต แต่เป็นลายปักบนผ้าผูกผมอันแสนคุ้นตานั่นต่างหาก"คุณหนู สนใจผ้าผูกผมสักชิ้นหรือไม่ ลองดูก่อนได้ ไม่เสียหายอะไร"เจียงเยี่ยนฟางเงยหน้าขึ้นสบตาแม่ค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status