หน้าหลัก / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / บทที่ 3.5 ในเมื่อท่านอ๋องทำไม่สำเร็จ นางย่อมต้องช่วย

แชร์

บทที่ 3.5 ในเมื่อท่านอ๋องทำไม่สำเร็จ นางย่อมต้องช่วย

ผู้เขียน: เสี่ยวเทีย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-04 07:13:51

อีกฝั่งหนึ่ง

จูหลิงที่ขยับกายหลบไปข้างเสาอีกนิดก็เอ่ยขึ้นว่า "ดูเหมือนนางจะรู้ตัวว่าพวกเรามาแอบดูอยู่เลยนะเพคะพระชายา"

"ไกลขนาดนี้แถมเรายังอยู่ในที่มืด นางไม่น่าจะมองเห็น" กู่เยว่ชิงเข้าใจถูกแล้ว เจียงเยี่ยนฟางมิได้มองเห็นพวกนางชัดขนาดนั้น เพียงแค่คาดเดาจากเงาร่างเลือนรางก็เท่านั้น

"แล้วเหตุใดนางถึงยังไม่โดนจับไปขังคุกอีก มิใช่ว่าท่านอ๋องทรงแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าเป็นนางที่วางยา"

"บิดาของนางเป็นถึงขุนนางฝ่ายซ้าย ต่อให้ท่านอ๋องคาดการณ์ว่านางอาจเป็นคนของฮ่องเต้ส่งมา แล้วอยากจับนางโยนออกไปเสียเดี๋ยวนี้ก็คงเป็นเรื่องที่เกินกำลัง ตัวนางมีคนหนุน หลังถึงขนาดนั้น คงไม่อาจทำอะไรบุ่มบ่าม" กู่เยว่ชิงเอ่ยวาจานุ่มนวล ทว่าดวงตากลับเต็มไปด้วยความไม่พอใจ มือที่แอบซ่อนไว้ในแขนเสื้อก็บีบเข้าหากันแน่นเพื่อระบายอารมณ์ นึกน้อยใจในโชคชะตาของตนเอง เพียงเพราะชาติกำเนิดของนางต้อยต่ำ หาไม่แล้วยามนี้นางคงได้ขึ้นเป็นพระชายาเอกไปนานแล้ว

สองปีก่อนที่ตบแต่งเข้ามา ท่านอ๋องยืนยันหนักแน่นว่าจะรับนางเป็นพระชายาเอกและจะไม่ตบแต่งผู้ใดอีก หากแต่ไทเฮาและฮ่องเต้ทรงเห็นพ้องต้องกันว่า ครอบครัวของนางเป็นเพียงแค่สามัญชนที่เพิ่งได้เข้ามาทำงานในราชสำนัก เป็นขุนนางชั้นปลายแถว มิใช่ตระกูลเก่าแก่ มิได้มั่งมี ไม่คู่ควรแก่ตำแหน่งพระชายาเอกในจวนชินอ๋อง นางจึงได้รับเพียงตำแหน่งพระชายารองมาแทน

อีกทั้งพระราชทานสมรสที่ฮ่องเต้ทรงประทานลงมาเมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้วางคุณหนูตระกูลเจียงไว้ในตำแหน่งพระชายาเอกเรียบร้อยแล้ว แม้นท่านอ๋องจะคัดค้านอย่างเต็มที่ ก็ยังต้องยอมถอยให้ฮ่องเต้ไปในคราแรก

ต่อมาถึงจะผิดแผนเพราะตระกูลเจียงชักแม่น้ำทั้งห้า เล่นพลิกคำไปมา ถึงได้ส่งบุตรสาวที่ไม่เคยเป็นที่รู้จักมาแทน เวลานั้นท่านอ๋องจึงได้มีโอกาสต่อรองอีกครั้ง และถึงจะลดตำแหน่งเจียงเยี่ยนฟางลงไปได้แล้ว แต่ใครจะมั่นใจได้ว่าในอนาคตจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก เพราะตอนนี้สตรีผู้นั้นสุดท้ายก็ตบแต่งเข้ามาจนได้!

"คุณหนูของบ่าว อย่าน้อยใจไปเลยเจ้าค่ะ ท่านอ๋องตกปากรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่า จะมีเพียงคุณหนูเพียงคนเดียว" จูหลงเมื่ออยู่สองคน บางเวลาก็เผลอเรียกอีกฝ่ายตามแบบเดิมที่เคยชินโดยไม่รู้ตัว ซ้ำยังรู้ว่าเจ้านายตนเองกำลังไม่พอใจเรื่องอันใดอยู่

กู่เยว่ชิงพยักหน้าแผ่วเบา จ้องมองร่างสูงของเจียงเยี่ยนฟางที่เดินหลบเข้าไปในความมืด ผมของสตรีนางนั้นช่างดูยุ่งเหยิง ประหนึ่งไปฟัดกับเสือมา แต่แผ่นหลังกลับเหยียดตรงมั่นคง พานทำให้กู่เยว่ชิงรู้สึกไม่ชอบใจ

"ในเมื่อท่านอ๋องลงมือคนเดียวไม่สำเร็จ เราก็ต้องช่วยอีกแรง" กู่เยว่ชิงว่าพลางหันไปยกยิ้มอ่อนหวานที่ไปไม่ถึงดวงตาให้สาวใช้คนสนิทของตนเอง

༻❁༺

คืนวันมงคล

หลังจากที่จันทราเคลื่อนไปเกินครึ่งท้องฟ้า เซียวลี่หยางก็ได้รับรายงานว่าสาวใช้ที่เข้าไปเก็บกาสุราได้เสียชีวิตลง

สาวใช้อีกคนที่เข้าไปด้วยกันเอ่ยเล่าทั้งน้ำตาว่า 'ตอนที่พวกหม่อมฉันเก็บกวาดห้องหอเสร็จแล้ว ก็รีบห่อเศษกาสุราไว้ด้วยผ้า เตรียมจะเอาไปทิ้ง แต่เพราะหลังจากงานมงคลเลิกราไปแล้ว ยังเหลือของที่ต้องเก็บในโถงใหญ่ค่อนข้างมาก จึงวางห่อผ้าไว้ที่ห้องครัวก่อน ฮึก...

พอเก็บของในงานเลี้ยงเสร็จแล้วอาจือก็กลับมาจัดการกับเศษกาต่อ แต่นางไม่ทันระวังถูกบาดเข้า เริ่มแรกนางก็บ่นแค่ว่ารู้สึกแสบร้อน แต่คิดว่าคงเพราะเศษของกาอาจจะยังมีสุราเคลือบไว้อยู่ ทำให้พอโดนเข้ากับบาดแผลเลยแสบไปบ้างเท่านั้นเพคะ แต่พอผ่านไปไม่นานหลังจากที่เข้านอนไปสักพักแล้ว อาจือก็เริ่มทุรนทุราย เหงื่อไหลท่วมตัว หม่อมฉันมัวแต่ตกใจยังไม่ทันทำสิ่งใด ไม่ทันเรียกคนมาช่วยดู นางก็สิ้นใจแล้ว... คิดว่านางคงนอนทนทรมานมานาน จนกระทั่งทนต่อไปไม่ไหวถึงได้พยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายมาปลุกหม่อมฉันเพคะ'

เซียวลี่หยางได้ฟังแล้วก็ให้คนไปนำกาสุราที่ทิ้งไปแล้วมาตรวจสอบดู และก็ได้พบว่ามียาพิษติดค้างอยู่จริง ๆ เขาจึงสั่งให้คนไปจับตาดูเจียงเยี่ยนฟางไว้ตั้งแต่คืนนั้น

พอเช้ามาหลังจากที่เจียงเยี่ยนฟางนำสุราขวดใหม่มาให้เขา คนที่ไปจับตาดูก็ได้รายงานว่านางแอบนัดพบเจอกับใครบางคน และสลับขวดสุราที่คนผู้นั้นมอบให้มา ก่อนจะหายเข้าไปในห้องครัวอีกรอบ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาจึงสร้างเรื่องหลอกขึ้นมา ทำทีเป็นว่าท่านอ๋องดื่มยาพิษในสุราเข้าไป จัดฉากเพื่อที่จะกำจัดนางทิ้ง

แต่เวลานี้คนที่ต้องการกำจัดทิ้ง กลับรอดตัวไปได้!

"หากเติ้งอู๋อยู่ด้วย เขาคงรอบคอบกว่านี้" หงเปาเอ่ยตำหนิตัวเองเมื่อได้ยินเสียงของเจียงเยี่ยนฟางเดินออกไปพ้นประตูของเรือนอี้แล้ว เขาไม่เป็นวิชาดาบ เป็นเพียงเพื่อนเล่นในวัยเด็กของท่านอ๋องเท่านั้น ยามนี้ถึงได้มีโอกาสอยู่รับใช้ข้างกายเจ้านาย เมื่อครู่หากท่านอ๋องกำลังอ่อนแออยู่จริง และถูกพระชายาต้องการสังหาร ตอนนี้เรื่องราวคงต่างไปจากเดิมแล้ว

เมื่อวานพอหงเปาได้ตรวจสอบสุรามงคลขวดใหม่ที่นางมอบให้ ก็รู้แล้วว่าไม่มีสิ่งใดเจือปน จึงจงใจใช้เข็มเงินเล่มเก่าที่เคยถูกใช้ไปแล้วและมีรอยดำจากพิษมาใช้เพื่อใส่ร้ายเจียงเยี่ยนฟาง แต่สุดท้ายแผนกำจัดนางและตระกูลเจียงออกไปก็ล่มไม่เป็นท่า หากรู้ว่านางเอาตัวรอดเก่งเช่นนี้ เขาคงหายาพิษจริง ๆ มาใส่ไว้ในสุราขวดนี้แล้ว

และเพราะต้องตบตาหมอหลวง ท่านอ๋องจึงต้องดื่มยาพิษจริง ๆ เข้าไป ถึงแม้จะเป็นยาพิษชนิดอ่อน แต่อย่างไรเสีย ยาพิษก็คือสิ่งที่ไม่ควรเข้าไปในพระวรกายอันล้ำค่าของท่านอ๋องตั้งแต่แรกอยู่ดี

"..." เซียวลี่หยางไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เพียงหยิบยาแก้พิษที่เตรียมไว้รออยู่ก่อนแล้วมากินเข้าไปหนึ่งเม็ด เขาเองก็ไม่คาดคิดว่าสตรีนางนั้นจะใจกล้าบ้าบิ่นถึงขั้นนี้ แถมนางยังเจ้าเล่ห์ไม่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บ ซ้ำตอนจะจากไปก็ไม่ลืมข่มขู่เขาทิ้งไว้อีกด้วย

"ท่านอ๋องจะกลับบ้านเดิมกับนางจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ หากกลับไปแล้วก็เหมือนเป็นการยอมรับนางอย่างเต็มตัว" หงเปากุมแขนที่ยังรู้สึกแสบไว้แน่น

"รอดูไปก่อน" เขาเอ่ยเสียงเบา เก็บดาบบนตักเข้าที่เดิม

ด้านหงเปาก็กำลังก้มหยิบเศษกำไลหยกที่ตนเผลอขยับเท้าไปเหยียบขึ้นมาดู ชิ้นนี้น่าจะเป็นส่วนตรงกลางของกำไลพอดี สีของกำไลหยกวงนี้พิเศษมากนัก ดูก็รู้ว่าเป็นของล้ำค่า ตัววงเป็นสีขาวโดยรอบ แต่ตรงกลางกลับเป็นสีม่วงและถูกแกะสลักด้วยลวดลายดอกไม้ที่ซับซ้อน ด้านข้างของดอกไม้ยังแซมด้วยใบไม้สีเขียวเข้มอย่างพอดิบพอดี "กำไลหยกคู่นี้ ดูท่าแล้วคงจะเป็นของหายาก" หงเปาเดินไปส่งมอบเศษกำไลหยกให้เจ้านายดู รู้สึกเสียดายที่มันแตกไปแล้วหนึ่งวง เพราะเมื่อครู่เขาจำได้ว่าบนข้อมือขาวซีดของเจียงเยี่ยนฟางยังเหลืออีกวงที่คล้ายกันอยู่

"..." เซียวลี่หยางไม่ได้มีความรู้สึกผิดที่ทำของมีค่าทางจิตใจของผู้อื่นแตก ในแววตาเต็มไปด้วยความเย็นชาเพราะกำลังนึกถึงตอนที่นางสัมผัสข้อมือของเขาขึ้นมาอีกรอบพอดี ยามนั้นเขาก็ทันได้เห็นมันแล้วเหมือนกัน เป็นกำไลหยกเนื้อดีดั่งที่หงเปาพูดไม่มีผิด บนข้อมือขาวเนียนนุ่มที่เขานึกรังเกียจนั้นได้สวมกำไลซ้อนกันไว้สองวงด้วยกัน ทั้งที่หน้าตานางก็ไม่ได้น่ามอง แต่กำไลหยกก็ช่างดูเข้ากับนางอย่างน่าประหลาด "สั่งคนจับตาดูนางไว้เหมือนเดิม หาต้นตอที่มาของสุราพิษในคืนวันแต่งงานให้ได้"

"พ่ะย่ะค่ะ"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.4 นางไหนจะเกรงกลัวผู้ใด

    ยามนี้ผ่านไปนานเกือบสิบเอ็ดปี จดหมายฉบับแรกนอกเหนือจากเงินที่เขาส่งมาให้ ก็คือเรียกข้ากลับไปแต่งงาน แต่ข้าไม่อยากแต่ง ข้ามีคนที่ข้ารัก...คนผู้นั้นเป็นเหมือนดั่งพี่ชายของข้า เป็นเหมือนดั่งสหายของข้า พวกเราเจอกันตั้งแต่ข้าอยู่ที่เมืองหลวง จนข้าจากไปไกลจึงทำได้เพียงเขียนจดหมายกลับไปหาเขา นับแต่นั้นมา ก็มีเขาที่ยังคอยห่วงหาข้าตลอด เราให้สัญญากัน ข้าเองก็รับปากแล้วว่าจะเป็นภรรยาของเขา" เวลามีเรื่องคิดไม่ตก เจียงเยี่ยนฟางมักจะติดนิสัยเดิม โดยชอบหยิบผ้าผูกผมที่ป้าซูทำให้มาจับเล่นอย่างเผลอตัว ในตอนนี้เองก็เช่นกันเสวี่ยหว่านมองตามมือของนางไปก็พบว่าสิ่งที่นางจับอยู่คือผ้าผูกผมรูปดอกไม้ที่มีปักลายเฉพาะ ผ้าผูกผมชิ้นนั้นดูไม่เข้ากับชุดที่เจียงเยี่ยนฟางขอสลับของนางไปใส่แม้แต่น้อย จังหวะต่อมาจึงเงยหน้าสบตาอีกฝ่ายแล้วถาม "...แล้วคนผู้นั้นตอนนี้เขารู้หรือไม่ว่าท่านกำลังจะไปแต่งงาน"เสวี่ยหว่านเป็นหมอยาพิษ การทำงานในจุดนี้ของนางย่อมพบเจอคนตายมาไม่น้อย จิตใจนับว่าด้านชาจนแทบไร้ความรู้สึก ยิ่งไม่สนใจเรื่องความรัก ยิ่งเมื่อได้ฟังก็เกิดสับสน บุรุษผู้นั้นดูแล้วน่าจะไม่ใช่คนธรรมดาที่สามารถเข้าออกจวนขุนนางจ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.3 เรื่องราวของจุดเริ่มต้น

    เรื่องนี้เป็นความลับของนาง แต่ก็ไม่คิดจะปิดบังคนที่ช่วยชีวิตตนเองไว้ อีกทั้งนางก็ทะนงตนว่า สตรีตัวเล็กเช่นคนตรงหน้าไม่มีทางทำอะไรตนเองได้ หรือต่อให้อีกฝ่ายเอาเรื่องนางไปป่าวประกาศบอกผู้อื่นจนนางเดือดร้อน นางก็คิดว่านางสามารถแบกรับไหว"!!!" สองคนในรถม้าต่างตกใจ คนที่จะทำงานด้านนี้ได้มือต้องแปดเปื้อนมาไม่น้อย แต่สตรีตรงหน้าถึงจะไม่ค่อยยิ้ม ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่น้ำเสียงกลับน่าฟัง ท่าทางไม่ถึงขั้นอ่อนหวานเหมือนสตรีที่ได้รับการอบรม แต่ท่าทางก็ดูนุ่มนวลไม่หยาบกระด้าง การพูดการจาก็ดูมีมารยาทไม่ทำตัวโผงผาง หากบอกว่าเป็นบุตรสาวตระกูลร่ำรวยพวกนางก็เชื่อ ไหนเลยจะถูกอีกฝ่ายใช้รูปลักษณ์ภายนอกมาตบตาเข้าให้แล้ว"คุณหนูทั้งสองไม่ต้องตกใจไป ผู้ที่มีบุญคุณ เสวี่ยหว่านผู้นี้ ย่อมไม่คิดร้ายด้วย อีกทั้งก็เป็นเพียงผู้ทำยาพิษและยาแก้พิษ ไม่ใช่ผู้ใช้พิษเสียหน่อย" เรื่องหลังนั้น... แน่นอนว่า ย่อมโกหกไปเจ็ดส่วน!อีกสองสามวันต่อมา เสวี่ยหว่านผู้นี้ก็ไม่ยอมจากไปเสียที จนซูเจียวเริ่มทนไม่ไหว ในตอนที่อยู่บนรถม้าก่อนจะลงไปเช่าโรงเตี๊ยมในหมู่บ้านกวนพักผ่อน นางก็เอ่ยปากถามด้วยตนเอง"พี่เสวี่ยหว่าน ท่านคิดจะไปที่ใดกันแน

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.2 บุญคุณครั้งเดียว จดจำจนตาย

    "เป็นคน เมื่อครู่ ข้ามั่นใจ!" เจียงเยี่ยนฟางตะโกนบอกไประหว่างทาง ดวงตาจ้องมองมือที่โผล่ขึ้นเหนือน้ำเพียงสองครั้งแล้วจมหายไป แต่ใต้ผืนน้ำที่ไหลแรงก็ยังพอมองเห็นเงาร่างสีม่วงเข้มได้เลือนราง"คน? คนอะไรไปอยู่... ไม่ ๆ ๆ คนที่ไหนจะโดนน้ำพัดขนาดนี้แล้วยังรอด คุณหนู อย่า ไม่!" ซูเจียวเพิ่งจะรู้สึกไปเมื่อครู่เองว่า สายน้ำเส้นนี้นั้นไหลแรงเกินไปจนน่ากลัวไม่อยากเข้าใกล้ และไม่อยากแม้แต่จะข้ามสะพานไม้นั้นอีกรอบอยู่เลย แต่คุณหนูของนางพูดแค่ 'เป็นคน' แล้วก็กระโจนลงน้ำไปได้อย่างไร!ซูเจียววิ่งตามไปหยุดอยู่ตรงจุดที่เจียงเยี่ยนฟางเพิ่งจะกระโดดลงไปเมื่อครู่ "คุณหนู คุณหนู!" นางตะโกนหาอีกฝ่ายพร้อมดวงตาก็กวาดมองไปทั่วผืนน้ำ หัวใจเต้นไม่หยุดด้วยความกลัว ถึงแม้นางจะบอกว่าตนไม่ค่อยชอบเจียงเยี่ยนฟางเพราะรู้สึกว่าตนอยู่ต่ำกว่าเสมอ แต่เมื่อถึงเวลาคับขันแห่งความเป็นความตาย นางกลับรู้สึกเป็นห่วงคนที่โตมาด้วยกันอย่างน่าประหลาดซูเจียวถอดรองเท้าและเสื้อตัวนอกออก หวังกระโดดลงน้ำไปดึงเจียงเยี่ยนฟางขึ้นมา ในระหว่างที่กำลังถอดเสื้อตัวนอกออกอยู่นั้น ก็ไม่หยุดสายตาสอดส่องมองหาคนไปทั่วผืนน้ำแต่ไม่ทันที่นางจะกระโดดลงไป

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.1 เรื่องราวเมื่อเดือนก่อน

    บทที่ 17วาสนาได้พานพบผู้มีบุญคุณเพียงชั่วครู่สารทฤดูเริ่มต้นไปได้ครึ่งทางแล้ว ใบไม้รอบด้านเริ่มเปลี่ยนสียามเมื่อออกเดินทางเวลานี้ ถือว่าเป็นผลพลอยได้ที่จะได้ชื่นชมธรรมชาติไปในตัวแต่คนบนรถม้าคันหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงกลับดูเป็นกังวลไม่น้อย"คุณหนู ท่านจะแต่งเข้าจวนอ๋องจริงหรือเจ้าคะ" ซูเจียวนั่งอยู่บนพื้นของรถม้าก็เอ่ยถามสตรีอีกคนที่นั่งอยู่บนเบาะ ที่ผ่านมาตัวนางถูกเลี้ยงดูมากับสตรีตรงหน้า อยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กที่เมืองลี่เจียง ดุจดั่งเป็นครอบครัวเดียวกันทว่าตั้งแต่เยาว์วัย มารดาของนางชอบบังคับให้นางเรียกอีกฝ่ายว่าคุณหนูอยู่ตลอด คราแรกนางไม่เข้าใจ และทุกครั้งที่ตีตัวเสมอเจียงเยี่ยนฟาง นางก็จะถูกมารดาดุด่าเป็นประจำ ตักเตือนให้นางนอบน้อมกับเจียงเยี่ยนฟางให้มากหน่อย นางก็ต้องทำโดยไม่สามารถอิดออดได้ ทั้งที่เจียงเยี่ยนฟางก็ถูกมารดาใช้งานหนักพอ ๆ กัน ไม่เคยปล่อยปละละเลยให้อีกฝ่ายทำเพียงแค่นอนและกินเหมือนคุณหนูจริง ๆ ต่างต้องทำงานทุกอย่างให้เป็นกระทั่งไม่กี่วันก่อนคุณหนูของนางได้รับจดหมายจากบิดาที่ทอดทิ้งตัวเองไปนาน เรียกตัวกลับเมืองหลวงเพื่อแต่งงานเข้าจวนชินอ๋อง!ชินอ๋อง

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.3 + บทที่ 16.4 มีผู้บุกรุก+ผู้เกรียงไกรก็มีวันล้มเป็น

    เจียงเยี่ยนฟางกลับมายังร้านน้ำชาอีกครั้งพร้อมถุงซาลาเปาในมือ คนที่รอนางอยู่ก็ได้ย้ายตัวเองไปบนรถม้าอยู่ก่อนแล้ว พอนางมาถึง บรรยากาศก็ผิดแผกไปอย่างเห็นได้ชัด เซียวลี่หยางไม่พูดไม่จาอันใดแม้ครึ่งคำแต่...ไม่พูดไม่จาก็แล้วไปเถิด นางอาจมาช้าทำให้เขารอนานจนเกิดไม่พอใจขึ้นมา เรื่องนั้นก็พอเข้าใจได้ ทว่าแววตารังเกียจที่เหมือนคราแรกพานพบกันในห้องหอนั้น กลับมาปรากฏบนสายตาเขาอีกครั้งนี่สิ นางถึงได้รู้สึกแปลกใจขึ้นมาคนผู้นี้เช้าเป็นอย่าง ดวงตะวันคล้อยบ่ายก็เป็นอีกอย่าง นางคาดเดาเขาไม่ได้เลยยามเมื่อเดินทางกลับมาถึงจวนแล้ว คนในรถม้าที่นั่งมากับนางนานสองนานก็ไม่รอให้นางออกไปก่อน เขารีบเรียกหงเปามาพาตัวเองเข็นรถลงไปทันทีที่รถม้าหยุดลง ประหนึ่งว่าไม่อยากใช้ลมหายใจในรถม้าร่วมกับนางนานกว่านี้ จึงทิ้งนางไว้เบื้องหลังไม่ใส่ใจ"เมื่อเช้ายังไปด้วยกันดี ๆ อยู่เลย ยามนี้ท่านอ๋องเหมือนจะกำลังไม่พอใจอยู่..." สาวใช้ที่อยู่ไม่ไกลก็พากันซุบซิบนินทา คิดว่าระยะขนาดนี้พระชายาเจียงน่าจะไม่ได้ยิน"แปลกอันใดกัน ที่ผ่านมาท่านอ๋องกับพระชายากู่ที่มักตัวติดกันตลอด แต่ท่านอ๋องก็นิ่งสงบปานท่อนไม้ขนาดนั้น ดูอย่างไรก็ไม่เหม

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.2 ช่างน่ารังเกียจเกินไปแล้ว!

    "เร็วหน่อยก็ดี แล้วเร็วที่สุดของเถ้าแก่ราวกี่วัน""สองชิ้นก็เจ็ดวัน ข้าจะหาช่างฝีมือสองคนทำก็แล้วกัน จะได้รอไม่นานเกินนี้""เงินในถุงพอค่ามัดจำหรือไม่" เจียงเยี่ยนฟางหันมองถุงเงินที่หายไปอยู่ในมือเถ้าแก่ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้"พอ ๆ ๆ ๆ แม่นาง...อยากเน้นส่วนไหนเป็นพิเศษ แจ้งมาได้เลย" เถ้าแก่พอได้จับถุงเงินแล้วก็อารมณ์ดีขึ้นอีกห้าส่วน ดวงตาสะท้อนไปด้วยเงินทองอยู่ภายใน"เถ้าแก่จัดการได้เลย อีกเจ็ดวันข้าจะมารับ" เจียงเยี่ยนฟางกล่าวเสร็จก็เตรียมจากไป"แม่นางเดินทางปลอดภัย" เถ้าแก่ร้านมีท่าทีกระตือรือร้นกว่าตอนแรกที่เจียงเยี่ยนฟางเข้ามามากนัก ถึงขั้นเดินออกมาส่งด้วยตัวเองเจียงเยี่ยนฟางพอออกมาจากร้านเครื่องประดับแล้วก็ยังคงแวะไปอีกหลายแห่งเพื่อสั่งของที่นางอยากได้ กระทั่งมาหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายเครื่องประดับแผงลอยข้างทางร้านหนึ่ง เป็นร้านเล็ก ๆ ที่เน้นไปทางเชือกผูกผมกับปิ่นที่ทำมาจากไม้ หากแต่สิ่งที่สะดุดตานางมากที่สุดไม่ใช่ผ้าไหมซึ่งถูกทออย่างประณีต แต่เป็นลายปักบนผ้าผูกผมอันแสนคุ้นตานั่นต่างหาก"คุณหนู สนใจผ้าผูกผมสักชิ้นหรือไม่ ลองดูก่อนได้ ไม่เสียหายอะไร"เจียงเยี่ยนฟางเงยหน้าขึ้นสบตาแม่ค

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status