Home / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / บทที่ 3.4 มีหรือข้าจะให้ท่านได้อยู่อย่างสงบสุข

Share

บทที่ 3.4 มีหรือข้าจะให้ท่านได้อยู่อย่างสงบสุข

last update Last Updated: 2025-06-04 07:12:23

"ทำไม เวลานี้พอถูกจับได้แล้ว เจ้าก็คิดจะใช้ยาพิษฆ่าตัวตาย?" ปลายดาบที่โผล่พ้นผ้าม่านโปร่งออกมาพลันถูกเบนทิศทางขึ้นไปนาบข้างลำคอของสตรีข้างเตียง ด้วยเป็นดาบหายากและถูกดูแลมาอย่างดี เพียงแค่คมของมันสัมผัสผ้าปิดหน้าของเจียงเยี่ยนฟางอย่างแผ่วเบา ก็ทำผ้าของนางแหว่งไปส่วนหนึ่ง

ปลายผ้าที่เพิ่งถูกยกขึ้นเพื่อดื่มสุราและตกลงมาตามเดิม ยามนี้ก็ถูกดาบทำร้ายจนปลิวหลุดร่วงสู่พื้นไปอย่างเชื่องช้า และไร้คนสนใจ

"ในสุราไม่มีพิษ" คราวนี้เจียงเยี่ยนฟางไม่เล่นละครแล้ว น้ำเสียงนุ่มนวลแบบเดิมก็ไม่หลงเหลืออยู่อีก ไหนเลยจะคิดว่าแค่การแสร้งอ่อนแอจะทำให้เหนื่อยถึงขั้นนี้ นี่ขนาดนางพกน้ำเปล่าใส่ขวดเล็กไว้สำหรับทำน้ำตาปลอมและค่อยบีบเสียงแทน ก็แทบจะหมดพลังชีวิตไปจนสิ้นแล้ว จึงคร้านจะแสดงต่ออีก ไม่รู้กู่เยว่ชิงผู้นั้นเก่งกาจมาแต่ไหน ถึงบีบน้ำตาได้ทุกคราที่เจอกัน เรื่องนั้นช่างเถอะ อย่างไรตอนนี้นางก็ยังต้องทำเรื่องที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ ไม่อยากมีปัญหากับเจ้าบ้านได้ เลยหาทางลงให้อีกฝ่าย "ดูท่าแล้วเข็มเงินนั่นคงมีปัญหาจริง ๆ"

เซียวลี่หยางมองเงาเลือนรางของนางผ่านผ้าม่าน พลางคิดว่า 'หรือว่าเพราะเวลานี้พอไม่เห็นหน้า ก็สามารถจับทางจากน้ำเสียงของนางได้ชัดเจนยิ่งกว่าที่ผ่านมา'

เจียงเยี่ยนฟางไม่รู้เลยว่า อีกฝ่ายได้เข้าใจผิดตัวเองไปแล้ว ตัวนางเองก็กำลังมองใบหน้าของผู้พูดผ่านผ้าม่านบางที่แทบจะมองไม่เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายเช่นกัน

ต่างฝ่ายต่างจ้องมองเงาร่างของกันและกันอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายเป็นเซียวลี่หยางที่เอื้อนเอ่ยออกมาก่อนว่า

"ใครจะไปรู้ บางทีพิษอาจจะอยู่ที่ปากขวดก็ได้"

'ตลกสิ้นดี เล่นละครให้ผู้ใดชมกัน หากบอกว่าปากขวดมียาพิษ แต่ในสุราที่ข้าดื่มไม่มียาพิษแล้วเข็มจะเปลี่ยนสีได้อย่างไร เอาเถอะ ข้าจะเล่นสนุกเป็นเพื่อนท่าน' เจียงเยี่ยนฟางใช้จอกสุราที่ถืออยู่ดันข้อมือของเซียวลี่หยางให้ออกห่างไปอีกนิด เพื่อไม่ให้ปลายดาบมาบาดตัวนางได้ ก่อนจะเดินกลับไปมองหาเศษขวดที่แตกกระจายอยู่ตามพื้น

เซียวลี่หยางแอบมองนางผ่านช่องว่างของผ้าม่านไป ไม่นานก็เห็นนางเจอเศษกระเบื้องที่เป็นบริเวณปากขวดแล้ว "หึ ครานี้เจ้าจะใช้มันกรีดมือตัวเองเพื่อพิสูจน์? เจ้ากล้า?"

เจียงเยี่ยนฟางไม่ตอบ เพียงเดินไปข้างหน้าอีกนิด

สองคนในห้องต่างก็คิดว่านางจะเดินไปที่เตียงและกรีดเนื้อเฉือนหนังให้ท่านอ๋องชมเพื่อพิสูจน์ตนเอง

แต่ที่ไหนได้นางกลับหยุดเท้าลงข้างกายหงเปาแทน และด้วยความว่องไวเป็นทุนเดิม มือเรียวยาวก็คว้าข้อมืออีกฝ่ายที่พับแขนเสื้อไว้อยู่แล้วขึ้นมากรีดไปหนึ่งที!

"โอ๊ย!" หงเปาร้องเสียงหลงเพราะความเจ็บที่ถูกมอบให้อย่างไม่ทันตั้งตัว เขารีบดึงแขนของตนคืน มืออีกข้างก็รีบกดลงบนบาดแผลเพื่อห้ามเลือด

"..." คนด้านหลังผ้าม่าน

เจียงเยี่ยนฟางเหลือบมองเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาตามซอกนิ้วมือของหงเปา "ไม่ลึกมาก ไม่นานก็จะหายดีเอง อย่าห่วงไปเลย" นางยกยิ้มแผ่วเบาและปรับน้ำเสียงให้อ่อนนุ่มเหมือนเดิม คล้ายว่าเรื่องเมื่อครู่มิใช่นางเป็นคนลงมือทำ

"เจ้าทำเกินกว่าเหตุไปแล้ว" เซียวลี่หยางที่เงียบไปในคราแรกก็เอ่ยเสียงเรียบไร้อารมณ์

"..." เจียงเยี่ยนฟางหันมองไปทางผ้าม่านอีกครา พยายามห้ามให้ตนไม่หัวเราะเย้ยหยันออกมา เมื่อครู่เป็นเขาบีบบังคับนางจากทุกทาง แต่เมื่อคนของตนเองเป็นฝั่งที่ถูกโดนกระทำ กลับกลายเป็นนางทำเกินกว่าเหตุ?

เอาเถอะ เอาเถอะ นางจะไม่หาเรื่องเขาตอนนี้ อย่างไรก็มีเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนั้นยังต้องใช้เซียวลี่หยางเป็นสะพานข้ามไปสู่ปลายทางที่นางต้องการ คนผู้นี้... จึงยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง

"ท่านอ๋องคงจะหมายถึงว่า เรื่องทั้งหมดเป็นการเข้าใจผิด เยี่ยนฟางใช่หรือไม่เพคะ" แน่นอนว่านี่ไม่ใช่คำถาม นางจึงกล่าวต่อโดยไม่รอคำตอบ "ไม่เป็นไรเพคะ เยี่ยนฟางเข้าใจได้ ซ้ำยังจะไม่ถือโทษโกรธเคืองพระองค์ เพราะตั้งแต่เยี่ยนฟางเข้ามา จวนอ๋องก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น แถมเวลานี้ท่านอ๋องถูกพิษร่างกายยังไม่แข็งแรง ไหนจะยังต้องสืบหาความจริงเรื่องการถูกวางยาอีก มิสู้พักผ่อนให้มากหน่อย เช่นนั้นเยี่ยนฟางขอตัวลานะเพคะ" กล่าวจบอย่างรวดเร็ว มือก็ยกผสานขึ้นพลางย่อตัวลงเล็กน้อย

สองคนในห้องต่างมองตามคนที่หมุนตัวเดินจากไป ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำอันใดไม่ได้ เพราะแผนที่วางไว้ถูกนางล่มลงไปทั้งหมดแล้ว

ทว่าในจังหวะไม่กี่อึดใจต่อมา เจียงเยี่ยนฟางก็หันกลับมายกมือผสานด้วยความนอบน้อมอีกครา หากแต่คำพูดช่างสวนทางกับการกระทำยิ่งนัก

"ท่านอ๋องเพคะ ถึงเยี่ยนฟางจะถูกส่งตัวไปอยู่ห่างไกล มารยาทไม่งดงาม กิริยาไม่สำรวม แต่อย่างไรเสียก็เป็นถึงบุตรสาวคนโตของขุนนางเจียง แม้นต่อให้ไม่มีความผูกพันกันมากนักเหมือนบิดาและบุตรสาวเฉกเช่นครอบครัวอื่น ทว่าก็มิอาจไม่ไว้หน้ากันได้ เรื่องในวันนี้ที่ท่านอ๋องยังไม่ทันสืบสาวราวเรื่องก็จับคนมากล่าวหา เยี่ยนฟางจะไม่ปริปากพูดให้คนด้านนอกได้ยินแม้ครึ่งคำ

อีกสิบสองวันหลังจากนี้ ยังต้องกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมอีก ถึงครานั้นก็คงต้องพึ่งพาท่านอ๋องแล้ว หวังว่าท่านอ๋องจะหายดีโดยเร็วเพคะ" เจียงเยี่ยนฟางลดมือลง หมุนตัวจากไปอีกครั้ง แววตาที่เรียบเฉยแปรเปลี่ยนเป็นคมกล้า ยิ่งสะท้อนกับแสงเทียนในห้อง ยิ่งนำพาให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง

ระหว่างทางที่เดินกลับเรือนไม้เก่าผุพังของตน เจียงเยี่ยนฟางก็ก้มมองมือตนเองไปด้วย นึกถึงข้อมือแข็งแรงที่ยื้อแย่งอยู่เมื่อครู่ขึ้นมา

'แม้เขาจะถูกพิษจริง แต่กลิ่นเลือดในห้องกลับไม่ใช่กลิ่นเลือดของคน อีกทั้งเรื่องที่เขาบอกผู้คนมาตลอดนั่นก็ด้วย...' นางสลัดสิ่งที่เพิ่งรู้ข้อนี้ในหัวทิ้งไป หาใช่เรื่องที่นางต้องใส่ใจ 'ไม่รู้ว่าเขากำลังพยายามใส่ร้ายข้าหรือไม่ แต่ถ้าเขามีเจตนาเช่นนั้น มีหรือข้าจะยอมให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข'

จังหวะนั้นดวงตาคมที่โผล่พ้นผ้าปิดหน้าออกมาก็เหลือบมองไปในความมืดไม่ไกลจากจุดที่ตนยืนอยู่ พลันเห็นสตรีงดงามผู้หนึ่งที่บอบบางเสียยิ่งกว่าดอกไม้ยืนอยู่กับคนรับใช้ของตน แต่ที่นางตั้งใจจะมองดูคืออีกคนที่อยู่ไกลจากตรงนั้นไปอีกนิดต่างหาก เดาว่าคนผู้นั้นคงเป็นคนที่มอบสุราให้นาง และมารอดูว่าแผนการของตนสำเร็จหรือไม่สินะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.3).4 ใครกันที่แอบเข้ามาในบ้านไม้ผุพัง

    'เลิกเรียกเสียที ยังไม่รีบเช็ดน้ำตาแล้วรีบไปอีก!' น้ำเสียงนั้นดูรำคาญเหลือทน มือก็โบกไล่คนจากไป'เพคะ เพคะ! ' ยามลุกขึ้นมาย่อตัวลา เจินเจินก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วรัว ไม่เคยตื่นเต้นด้วยความดีใจขนาดนี้มาก่อน และยังเป็นครั้งแรกตั้งแต่บิดามารดาจากไป ที่มีคนให้นางได้ลองพึ่งพิงสักครั้ง เวลานี้ไม่ว่าหนทางเบื้องหน้าน้องชายจะหายดีหรือไม่ แต่ขอเพียงแค่มีคนคิดจะช่วยเหลือนางถึงขั้นนี้ ก็ดีเกินพอแล้วเจียงเยี่ยนฟางมองส่งคนจากไป ลอบถอนหายใจออกมาเพียงลำพังก่อนหน้านี้นางได้คำนวณทุกอย่างไว้แล้ว คิดว่าการตอบกลับมาจากฝั่งนั้นน่าจะไม่เกินวันที่นางต้องกลับบ้านเดิมหุบเขาเซียนกู่อยู่ห่างจากที่นี่มากนัก หากส่งจดหมายผ่านรถม้าก็เกือบสิบวัน ถ้าเป็นม้าเร็วไร้รถม้าก็ราวแปดวัน แต่ถ้าเพิ่มเงินให้เร่งเดินทางอีกหน่อย จดหมายก็ถึงในเจ็ดวันทว่าหากเป็นนกจะเร็วกว่า ใช้เวลาเพียงห้าวันไม่เกินหกวันก็ถึงที่หมายแล้ว และนางยังขอให้เร่งเวลาขึ้นอีก ดังนั้นก็จะลดเวลาลงไปได้อีกสองวัน หลังไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน นางจึงต้องให้คนของเขาเซียนกู่มารับน้องชายของเจินเจินคนละครึ่งทาง ถึงได้ให้น้องชายของเจินเจินเดินทางไปรอที่โรงเตี๊ยมเฟยฉีแ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.3).3 ชีวิตไร้ค่าของเจ้า ผู้ใดจะอยากได้!

    'ข้าไม่มีเงินพอจะช่วยเจ้าได้' สินเดิมของเจียงเยี่ยนฟางก็ถูกเซียวลี่หยางยึดไปยังไม่ยอมคืน แต่อย่างไรเสีย แรกเริ่มเดิมทีของมีค่าเหล่านั้นก็ไม่ใช่ของนางอยู่แล้ว นางจึงไม่ต้องการแตะต้องแม้แต่น้อย เพียงแค่ต้องการนำกลับคืนมาให้ได้เท่านั้น ถึงมันไม่ใช่ของนางก็จริง ทว่าก็หาใช่ของเขาเช่นกัน'...' เจินเจินพยักหน้าเข้าใจ ไม่เรียกร้องสิ่งใดอีกหากแต่เมื่อกลับมาถึงเรือน คุณหนูใหญ่เจียงกลับถามนามของน้องชายนาง ก่อนจะเขียนจดหมายให้สองฉบับ ฉบับหนึ่งส่งให้นางไปมอบให้คุณชายกั่วที่มายืนรอเจอคุณหนูใหญ่เจียงอยู่ที่ประตูหน้าของจวนมาสามวันติดแล้ว กับอีกฉบับมอบให้นางไปส่งให้ใครบางคน'หากเจ้าจะออกไปข้างนอกก็ต้องทำเช่นนี้ ฉบับนี้เป็นจดหมายที่ข้าส่งให้กั่วหลีหมิ่น นำไปส่งที่จวนของเขา เวลานี้เขาคงกลับจวนไปแล้ว' เจียงเยี่ยนฟางยื่นจดหมายให้ดูว่าอันไหนเป็นอันไหน ซึ่งตัวซองจดหมายของกั่วหลีหมิ่นเป็นซองจดหมายธรรมดาที่ใช้ทั่วไป ต่างแค่ไม่ได้ปิดผนึกไว้ส่วนอีกอันไม่ได้ใส่ในซอง เป็นเพียงกระดาษแผ่นเล็ก ๆ เท่าสองนิ้วมือ ดูคล้ายจดหมายลับ 'เจ้าต้องไปรายงานท่านอ๋องก่อนเพื่อไม่ให้โดนจับได้ บอกว่าข้าให้ไปส่งจดหมายให้คุณชายรองตระ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.3).2 ถูกเผยตัวแล้ว

    ย้อนไปสองวันหลังจากที่เจินเจินมาอยู่กับเจียงเยี่ยนฟางพอเจียงเยี่ยนฟางได้รู้ว่าสามารถออกไปข้างนอกได้ ก็มักจะพาเจินเจินไปนั่งที่ร้านน้ำชาใกล้ ๆ กับตลาด เฝ้ามองดูผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาจากบนชั้นสองของร้าน พลางใช้ความคิดไปอยู่นานสองนาน แต่ช่วงจังหวะหนึ่งก็หันกลับมามองสาวใช้ของตน 'เจินเจิน''เจ้าค่ะคุณหนู' เจินเจินที่ยืนอยู่ข้างกายก็ขานรับออกไป นางจำต้องเรียกอีกฝ่ายต่างจากปกติ เพราะท่านอ๋องบัญชาลงมาว่า เมื่ออยู่ภายนอกจวนไม่อาจให้ใครรู้สถานะจริงของคุณหนูใหญ่เจียงได้ เพื่อกันเรื่องวุ่นวายในภายหลัง'เจ้าจะทำงานให้ใครข้าไม่สน แต่ถ้าเจ้าทำให้ข้าเดือดร้อนเมื่อไหร่ ข้าไม่ไว้ชีวิตเจ้าแน่' นิ้วมือเรียวยาวกรีดกรายยกจอกน้ำชาขึ้นมาจรดริมฝีปาก อีกมือก็ยกผ้าปิดหน้าขึ้นเปิดออก็ย ท่าทางและกิริยางดงามจนพาให้ผู้มองหลงใหลแต่ผู้มองคนนั้นยามนี้กลับใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มแทนที่จะมัวมาหลงใหลในนิ้วมืองดงามของผู้อื่น!ดวงตาของเจินเจินยังคงเบิกโต ในหัวทบทวนว่านางพลาดไปจนถูกจับได้ตั้งแต่ตอนไหนกัน!แต่คิดหัวแทบแตกก็จำไม่ได้ จากที่ยืนอยู่จึงทรุดลงนั่งคุกเข่า เอาหัวโขกพื้นเสียงดังลั่น 'พระชายา ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย!!' เวลา

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.3).1 ไหนเลยจะให้ผ่านไปได้โดยง่าย

    บทที่ 6.3คราสามไหนเลยจะทนอีก!"ช้าก่อน เมื่อวานข้าเองก็หากำไลหยกไม่เจอ บางทีอาจถูกขโมยไปเช่นเดียวกัน และหัวขโมยก็อาจจะเป็นคนเดียวกันก็ได้ มิสู้ให้ข้าช่วยพี่หญิงหาอีกแรง จะได้หากำไลของข้าและหาปิ่นของท่านไปพร้อมกันด้วย เป็นอย่างไร" เจียงเยี่ยนฟางไม่พูดเปล่า ยกมือขึ้นแล้วปัดลงกลางอากาศเพื่อสั่งให้เจินเจินไปค้นทุกคนที่กำลังจะเข้าไปในเรือนของตน"เจ้า..." จูหลิงหยุดคำพูดไว้ได้ทัน ลืมไปว่าเวลานี้ท่านอ๋องก็อยู่ด้วย "พระชายาเจียงกำลังทำอะไรเพคะ" ปากพูดกับเจียงเยี่ยนฟางแต่สายตากับเหลือบมองไปทางเจินเจินที่เดินผ่านหน้าตนเองไปแทน"พระชายาของเจ้าอยากเข้ามาค้นของในเรือนข้า หากเจอก็ได้ของคืนไป หากไม่เจอก็คือไม่เจอ แต่กำไลหยกของข้าเล่า ถ้าพวกเขาเข้ามาแล้วก็กลับออกไป ข้าจะจับมือใครดมได้อีก บางทีปิ่นที่หายไปก็อาจจะเป็นคนของพวกเจ้าที่เอาไปก็ได้นี่น่า เช่นนั้นก็ค้นตัวพวกเจ้าเสียก่อนเข้าไปให้เสร็จเถิดเพราะเมื่อวานตอนที่ข้ากำลังลองกำไลข้อมือในคลังเก็บของ จำได้ว่าข้ายังสวมกำไลหยกวงที่หายไปไว้อยู่เลย มันเป็นของที่มารดามอบให้ ข้าจึงหวงมาก ไม่เคยถอดออกเลยสักครั้ง แต่เพราะตอนนั้นกลัวกำไลที่กำลังจะลองจะกระทบกัน

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).7 เซียวลี่หยางจะไปสำคัญอะไรอีก

    "คนเช่นเจ้า ไม่คู่ควรกับจวนของข้า" น้ำเสียงเย็นชานี้ จะว่าเบาก็เบา หากแต่ทุกผู้ทุกคนที่ยืนล้อมวงอยู่ในตอนนี้กลับได้ยินกันอย่างชัดเจนสาวใช้ของกู่เยว่ชิงต่างพากันมองหน้ากันไปมา คล้ายบอกว่าเจ้านายตนเองอย่างไรก็ต้องชนะ เรื่องในวันนี้ก็คงจะเงียบไป พวกนางก็ไม่ต้องเดือดร้อนแล้ว"..." กู่เยว่ชิงที่แสร้งตีหน้าน้อยใจยกผ้าเช็ดหน้ามาปิดปากอยู่ก็แอบซ่อนรอยยิ้มน้อย ๆ ไว้อย่างพึงพอใจเช่นกันเวลานี้แม้นคนถูกขู่หย่าจะก้มหน้าลงเหมือนเสียใจ แต่ใครจะไปรู้ความจริงที่นางปกปิดไว้ ซ้ำนางยังสวมผ้าปิดหน้าตลอดเวลา และก่อนที่เจียงเยี่ยนฟางจะเอ่ยออกไป นางยังพยายามบีบเสียงให้สั่นเครืออีกนิดเพื่อให้สมจริงขึ้นด้วย "...เช่นนั้นก็ให้คนของท่านอ๋องเข้าไปค้นเถิดเพคะ"เหตุการณ์ครั้งก่อนเรื่องยาพิษ ดูอย่างไรก็รู้ว่าเซียวลี่หยางพยายามทำให้นางเป็นคนผิด ไม่ว่านางจะเป็นคนวางยาจริงหรือไม่ แต่ปลายทางก็ถูกกำหนดให้นางเป็นผู้ผิดตั้งแต่แรกแล้ว ในไม่ช้าเขาก็ต้องกำจัดนางออกไปอยู่ดีและด้วยรู้แต่แรกว่าชินอ๋องผู้นี้ไม่เคยไว้ใจนาง อีกฝ่ายคงส่งคนมาเฝ้าเรือนนางไว้ตลอดอยู่แล้ว คนมาเฝ้าย่อมต้องเห็นแน่ว่ามีใครมาที่เรือนของนางในช่วงเวลาที่นาง

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).6 ยื่นหนังสือหย่าให้เจ้าแล้ว

    "ที่เจินเจินตบเจ้า หาใช่เพราะเรื่องที่เจ้าอยากพาคนเข้ามาค้นของโดยไม่ขออนุญาตจากข้า แต่ตบสั่งสอนเพื่อให้เจ้ารู้ว่าเจ้าพูดโดยไม่ทันใช้หัวคิดต่างหาก จวนอ๋องมีกฎที่ต้องปฏิบัติ แต่คนในจวนที่อยู่มานานกลับหละหลวมเสียเอง ใช้ได้เสียที่ไหน" พูดมาถึงตรงนี้เจียงเยี่ยนฟางก็หาเรื่องให้คนอื่นเดือดร้อนเล่น โดยการหันมองสาวใช้ของกู่เยว่ชิงคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ตนที่สุด และเอ่ยถามว่า "เจ้าว่าสมควรแล้วหรือไม่ที่นางถูกตบ"โดยไม่ต้องใช้เวลาคิดนาน สาวใช้ก็ตอบเสียงสั่นว่า "เพ... เพคะ สมควรแล้วเพคะ" แม้นจะถูกพระชายากู่หันมองหน้าในทันที แต่นางก็ทำเพียงหลบสายตาไป ไม่ยอมกลับคำ ก็จะให้นางตอบเช่นไรได้อีก ทางหนึ่งคือพระชายากู่ที่เป็นเจ้านายของตน และเป็นผู้ที่ชินอ๋องโปรดปรานที่สุด หากแต่อีกฝั่งก็มีบิดาเป็นถึงเสนาบดีฝ่ายซ้ายคอยหนุนหลัง ซ้ำยังยกฮ่องเต้ขึ้นมาขู่ แน่นอนว่าน้ำหนักต้องเอนเอียงไปทางฝั่งหลังมากกว่าอยู่แล้ว หากยามนี้นางตอบว่า 'ไม่' ภายหลังก็ต้องถูกจับไปสอบสวน ใครจะทนความเจ็บปวดได้ไหว อย่างไรก็ต้องเล่าเหตุการณ์เมื่อครู่ออกไปอยู่ดี มิสู้โดนพระชายากู่ทำโทษทีหลังจะยังดีเสียกว่า อย่างน้อยก็ยังรักษาชีวิตไว้ได้"เจ้าล่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status