Home / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / บทที่ 3.4 มีหรือข้าจะให้ท่านได้อยู่อย่างสงบสุข

Share

บทที่ 3.4 มีหรือข้าจะให้ท่านได้อยู่อย่างสงบสุข

last update Last Updated: 2025-06-04 07:12:23

"ทำไม เวลานี้พอถูกจับได้แล้ว เจ้าก็คิดจะใช้ยาพิษฆ่าตัวตาย?" ปลายดาบที่โผล่พ้นผ้าม่านโปร่งออกมาพลันถูกเบนทิศทางขึ้นไปนาบข้างลำคอของสตรีข้างเตียง ด้วยเป็นดาบหายากและถูกดูแลมาอย่างดี เพียงแค่คมของมันสัมผัสผ้าปิดหน้าของเจียงเยี่ยนฟางอย่างแผ่วเบา ก็ทำผ้าของนางแหว่งไปส่วนหนึ่ง

ปลายผ้าที่เพิ่งถูกยกขึ้นเพื่อดื่มสุราและตกลงมาตามเดิม ยามนี้ก็ถูกดาบทำร้ายจนปลิวหลุดร่วงสู่พื้นไปอย่างเชื่องช้า และไร้คนสนใจ

"ในสุราไม่มีพิษ" คราวนี้เจียงเยี่ยนฟางไม่เล่นละครแล้ว น้ำเสียงนุ่มนวลแบบเดิมก็ไม่หลงเหลืออยู่อีก ไหนเลยจะคิดว่าแค่การแสร้งอ่อนแอจะทำให้เหนื่อยถึงขั้นนี้ นี่ขนาดนางพกน้ำเปล่าใส่ขวดเล็กไว้สำหรับทำน้ำตาปลอมและค่อยบีบเสียงแทน ก็แทบจะหมดพลังชีวิตไปจนสิ้นแล้ว จึงคร้านจะแสดงต่ออีก ไม่รู้กู่เยว่ชิงผู้นั้นเก่งกาจมาแต่ไหน ถึงบีบน้ำตาได้ทุกคราที่เจอกัน เรื่องนั้นช่างเถอะ อย่างไรตอนนี้นางก็ยังต้องทำเรื่องที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ ไม่อยากมีปัญหากับเจ้าบ้านได้ เลยหาทางลงให้อีกฝ่าย "ดูท่าแล้วเข็มเงินนั่นคงมีปัญหาจริง ๆ"

เซียวลี่หยางมองเงาเลือนรางของนางผ่านผ้าม่าน พลางคิดว่า 'หรือว่าเพราะเวลานี้พอไม่เห็นหน้า ก็สามารถจับทางจากน้ำเสียงของนางได้ชัดเจนยิ่งกว่าที่ผ่านมา'

เจียงเยี่ยนฟางไม่รู้เลยว่า อีกฝ่ายได้เข้าใจผิดตัวเองไปแล้ว ตัวนางเองก็กำลังมองใบหน้าของผู้พูดผ่านผ้าม่านบางที่แทบจะมองไม่เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายเช่นกัน

ต่างฝ่ายต่างจ้องมองเงาร่างของกันและกันอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายเป็นเซียวลี่หยางที่เอื้อนเอ่ยออกมาก่อนว่า

"ใครจะไปรู้ บางทีพิษอาจจะอยู่ที่ปากขวดก็ได้"

'ตลกสิ้นดี เล่นละครให้ผู้ใดชมกัน หากบอกว่าปากขวดมียาพิษ แต่ในสุราที่ข้าดื่มไม่มียาพิษแล้วเข็มจะเปลี่ยนสีได้อย่างไร เอาเถอะ ข้าจะเล่นสนุกเป็นเพื่อนท่าน' เจียงเยี่ยนฟางใช้จอกสุราที่ถืออยู่ดันข้อมือของเซียวลี่หยางให้ออกห่างไปอีกนิด เพื่อไม่ให้ปลายดาบมาบาดตัวนางได้ ก่อนจะเดินกลับไปมองหาเศษขวดที่แตกกระจายอยู่ตามพื้น

เซียวลี่หยางแอบมองนางผ่านช่องว่างของผ้าม่านไป ไม่นานก็เห็นนางเจอเศษกระเบื้องที่เป็นบริเวณปากขวดแล้ว "หึ ครานี้เจ้าจะใช้มันกรีดมือตัวเองเพื่อพิสูจน์? เจ้ากล้า?"

เจียงเยี่ยนฟางไม่ตอบ เพียงเดินไปข้างหน้าอีกนิด

สองคนในห้องต่างก็คิดว่านางจะเดินไปที่เตียงและกรีดเนื้อเฉือนหนังให้ท่านอ๋องชมเพื่อพิสูจน์ตนเอง

แต่ที่ไหนได้นางกลับหยุดเท้าลงข้างกายหงเปาแทน และด้วยความว่องไวเป็นทุนเดิม มือเรียวยาวก็คว้าข้อมืออีกฝ่ายที่พับแขนเสื้อไว้อยู่แล้วขึ้นมากรีดไปหนึ่งที!

"โอ๊ย!" หงเปาร้องเสียงหลงเพราะความเจ็บที่ถูกมอบให้อย่างไม่ทันตั้งตัว เขารีบดึงแขนของตนคืน มืออีกข้างก็รีบกดลงบนบาดแผลเพื่อห้ามเลือด

"..." คนด้านหลังผ้าม่าน

เจียงเยี่ยนฟางเหลือบมองเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาตามซอกนิ้วมือของหงเปา "ไม่ลึกมาก ไม่นานก็จะหายดีเอง อย่าห่วงไปเลย" นางยกยิ้มแผ่วเบาและปรับน้ำเสียงให้อ่อนนุ่มเหมือนเดิม คล้ายว่าเรื่องเมื่อครู่มิใช่นางเป็นคนลงมือทำ

"เจ้าทำเกินกว่าเหตุไปแล้ว" เซียวลี่หยางที่เงียบไปในคราแรกก็เอ่ยเสียงเรียบไร้อารมณ์

"..." เจียงเยี่ยนฟางหันมองไปทางผ้าม่านอีกครา พยายามห้ามให้ตนไม่หัวเราะเย้ยหยันออกมา เมื่อครู่เป็นเขาบีบบังคับนางจากทุกทาง แต่เมื่อคนของตนเองเป็นฝั่งที่ถูกโดนกระทำ กลับกลายเป็นนางทำเกินกว่าเหตุ?

เอาเถอะ เอาเถอะ นางจะไม่หาเรื่องเขาตอนนี้ อย่างไรก็มีเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนั้นยังต้องใช้เซียวลี่หยางเป็นสะพานข้ามไปสู่ปลายทางที่นางต้องการ คนผู้นี้... จึงยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง

"ท่านอ๋องคงจะหมายถึงว่า เรื่องทั้งหมดเป็นการเข้าใจผิด เยี่ยนฟางใช่หรือไม่เพคะ" แน่นอนว่านี่ไม่ใช่คำถาม นางจึงกล่าวต่อโดยไม่รอคำตอบ "ไม่เป็นไรเพคะ เยี่ยนฟางเข้าใจได้ ซ้ำยังจะไม่ถือโทษโกรธเคืองพระองค์ เพราะตั้งแต่เยี่ยนฟางเข้ามา จวนอ๋องก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น แถมเวลานี้ท่านอ๋องถูกพิษร่างกายยังไม่แข็งแรง ไหนจะยังต้องสืบหาความจริงเรื่องการถูกวางยาอีก มิสู้พักผ่อนให้มากหน่อย เช่นนั้นเยี่ยนฟางขอตัวลานะเพคะ" กล่าวจบอย่างรวดเร็ว มือก็ยกผสานขึ้นพลางย่อตัวลงเล็กน้อย

สองคนในห้องต่างมองตามคนที่หมุนตัวเดินจากไป ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำอันใดไม่ได้ เพราะแผนที่วางไว้ถูกนางล่มลงไปทั้งหมดแล้ว

ทว่าในจังหวะไม่กี่อึดใจต่อมา เจียงเยี่ยนฟางก็หันกลับมายกมือผสานด้วยความนอบน้อมอีกครา หากแต่คำพูดช่างสวนทางกับการกระทำยิ่งนัก

"ท่านอ๋องเพคะ ถึงเยี่ยนฟางจะถูกส่งตัวไปอยู่ห่างไกล มารยาทไม่งดงาม กิริยาไม่สำรวม แต่อย่างไรเสียก็เป็นถึงบุตรสาวคนโตของขุนนางเจียง แม้นต่อให้ไม่มีความผูกพันกันมากนักเหมือนบิดาและบุตรสาวเฉกเช่นครอบครัวอื่น ทว่าก็มิอาจไม่ไว้หน้ากันได้ เรื่องในวันนี้ที่ท่านอ๋องยังไม่ทันสืบสาวราวเรื่องก็จับคนมากล่าวหา เยี่ยนฟางจะไม่ปริปากพูดให้คนด้านนอกได้ยินแม้ครึ่งคำ

อีกสิบสองวันหลังจากนี้ ยังต้องกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมอีก ถึงครานั้นก็คงต้องพึ่งพาท่านอ๋องแล้ว หวังว่าท่านอ๋องจะหายดีโดยเร็วเพคะ" เจียงเยี่ยนฟางลดมือลง หมุนตัวจากไปอีกครั้ง แววตาที่เรียบเฉยแปรเปลี่ยนเป็นคมกล้า ยิ่งสะท้อนกับแสงเทียนในห้อง ยิ่งนำพาให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง

ระหว่างทางที่เดินกลับเรือนไม้เก่าผุพังของตน เจียงเยี่ยนฟางก็ก้มมองมือตนเองไปด้วย นึกถึงข้อมือแข็งแรงที่ยื้อแย่งอยู่เมื่อครู่ขึ้นมา

'แม้เขาจะถูกพิษจริง แต่กลิ่นเลือดในห้องกลับไม่ใช่กลิ่นเลือดของคน อีกทั้งเรื่องที่เขาบอกผู้คนมาตลอดนั่นก็ด้วย...' นางสลัดสิ่งที่เพิ่งรู้ข้อนี้ในหัวทิ้งไป หาใช่เรื่องที่นางต้องใส่ใจ 'ไม่รู้ว่าเขากำลังพยายามใส่ร้ายข้าหรือไม่ แต่ถ้าเขามีเจตนาเช่นนั้น มีหรือข้าจะยอมให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข'

จังหวะนั้นดวงตาคมที่โผล่พ้นผ้าปิดหน้าออกมาก็เหลือบมองไปในความมืดไม่ไกลจากจุดที่ตนยืนอยู่ พลันเห็นสตรีงดงามผู้หนึ่งที่บอบบางเสียยิ่งกว่าดอกไม้ยืนอยู่กับคนรับใช้ของตน แต่ที่นางตั้งใจจะมองดูคืออีกคนที่อยู่ไกลจากตรงนั้นไปอีกนิดต่างหาก เดาว่าคนผู้นั้นคงเป็นคนที่มอบสุราให้นาง และมารอดูว่าแผนการของตนสำเร็จหรือไม่สินะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.4 นางไหนจะเกรงกลัวผู้ใด

    ยามนี้ผ่านไปนานเกือบสิบเอ็ดปี จดหมายฉบับแรกนอกเหนือจากเงินที่เขาส่งมาให้ ก็คือเรียกข้ากลับไปแต่งงาน แต่ข้าไม่อยากแต่ง ข้ามีคนที่ข้ารัก...คนผู้นั้นเป็นเหมือนดั่งพี่ชายของข้า เป็นเหมือนดั่งสหายของข้า พวกเราเจอกันตั้งแต่ข้าอยู่ที่เมืองหลวง จนข้าจากไปไกลจึงทำได้เพียงเขียนจดหมายกลับไปหาเขา นับแต่นั้นมา ก็มีเขาที่ยังคอยห่วงหาข้าตลอด เราให้สัญญากัน ข้าเองก็รับปากแล้วว่าจะเป็นภรรยาของเขา" เวลามีเรื่องคิดไม่ตก เจียงเยี่ยนฟางมักจะติดนิสัยเดิม โดยชอบหยิบผ้าผูกผมที่ป้าซูทำให้มาจับเล่นอย่างเผลอตัว ในตอนนี้เองก็เช่นกันเสวี่ยหว่านมองตามมือของนางไปก็พบว่าสิ่งที่นางจับอยู่คือผ้าผูกผมรูปดอกไม้ที่มีปักลายเฉพาะ ผ้าผูกผมชิ้นนั้นดูไม่เข้ากับชุดที่เจียงเยี่ยนฟางขอสลับของนางไปใส่แม้แต่น้อย จังหวะต่อมาจึงเงยหน้าสบตาอีกฝ่ายแล้วถาม "...แล้วคนผู้นั้นตอนนี้เขารู้หรือไม่ว่าท่านกำลังจะไปแต่งงาน"เสวี่ยหว่านเป็นหมอยาพิษ การทำงานในจุดนี้ของนางย่อมพบเจอคนตายมาไม่น้อย จิตใจนับว่าด้านชาจนแทบไร้ความรู้สึก ยิ่งไม่สนใจเรื่องความรัก ยิ่งเมื่อได้ฟังก็เกิดสับสน บุรุษผู้นั้นดูแล้วน่าจะไม่ใช่คนธรรมดาที่สามารถเข้าออกจวนขุนนางจ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.3 เรื่องราวของจุดเริ่มต้น

    เรื่องนี้เป็นความลับของนาง แต่ก็ไม่คิดจะปิดบังคนที่ช่วยชีวิตตนเองไว้ อีกทั้งนางก็ทะนงตนว่า สตรีตัวเล็กเช่นคนตรงหน้าไม่มีทางทำอะไรตนเองได้ หรือต่อให้อีกฝ่ายเอาเรื่องนางไปป่าวประกาศบอกผู้อื่นจนนางเดือดร้อน นางก็คิดว่านางสามารถแบกรับไหว"!!!" สองคนในรถม้าต่างตกใจ คนที่จะทำงานด้านนี้ได้มือต้องแปดเปื้อนมาไม่น้อย แต่สตรีตรงหน้าถึงจะไม่ค่อยยิ้ม ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่น้ำเสียงกลับน่าฟัง ท่าทางไม่ถึงขั้นอ่อนหวานเหมือนสตรีที่ได้รับการอบรม แต่ท่าทางก็ดูนุ่มนวลไม่หยาบกระด้าง การพูดการจาก็ดูมีมารยาทไม่ทำตัวโผงผาง หากบอกว่าเป็นบุตรสาวตระกูลร่ำรวยพวกนางก็เชื่อ ไหนเลยจะถูกอีกฝ่ายใช้รูปลักษณ์ภายนอกมาตบตาเข้าให้แล้ว"คุณหนูทั้งสองไม่ต้องตกใจไป ผู้ที่มีบุญคุณ เสวี่ยหว่านผู้นี้ ย่อมไม่คิดร้ายด้วย อีกทั้งก็เป็นเพียงผู้ทำยาพิษและยาแก้พิษ ไม่ใช่ผู้ใช้พิษเสียหน่อย" เรื่องหลังนั้น... แน่นอนว่า ย่อมโกหกไปเจ็ดส่วน!อีกสองสามวันต่อมา เสวี่ยหว่านผู้นี้ก็ไม่ยอมจากไปเสียที จนซูเจียวเริ่มทนไม่ไหว ในตอนที่อยู่บนรถม้าก่อนจะลงไปเช่าโรงเตี๊ยมในหมู่บ้านกวนพักผ่อน นางก็เอ่ยปากถามด้วยตนเอง"พี่เสวี่ยหว่าน ท่านคิดจะไปที่ใดกันแน

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.2 บุญคุณครั้งเดียว จดจำจนตาย

    "เป็นคน เมื่อครู่ ข้ามั่นใจ!" เจียงเยี่ยนฟางตะโกนบอกไประหว่างทาง ดวงตาจ้องมองมือที่โผล่ขึ้นเหนือน้ำเพียงสองครั้งแล้วจมหายไป แต่ใต้ผืนน้ำที่ไหลแรงก็ยังพอมองเห็นเงาร่างสีม่วงเข้มได้เลือนราง"คน? คนอะไรไปอยู่... ไม่ ๆ ๆ คนที่ไหนจะโดนน้ำพัดขนาดนี้แล้วยังรอด คุณหนู อย่า ไม่!" ซูเจียวเพิ่งจะรู้สึกไปเมื่อครู่เองว่า สายน้ำเส้นนี้นั้นไหลแรงเกินไปจนน่ากลัวไม่อยากเข้าใกล้ และไม่อยากแม้แต่จะข้ามสะพานไม้นั้นอีกรอบอยู่เลย แต่คุณหนูของนางพูดแค่ 'เป็นคน' แล้วก็กระโจนลงน้ำไปได้อย่างไร!ซูเจียววิ่งตามไปหยุดอยู่ตรงจุดที่เจียงเยี่ยนฟางเพิ่งจะกระโดดลงไปเมื่อครู่ "คุณหนู คุณหนู!" นางตะโกนหาอีกฝ่ายพร้อมดวงตาก็กวาดมองไปทั่วผืนน้ำ หัวใจเต้นไม่หยุดด้วยความกลัว ถึงแม้นางจะบอกว่าตนไม่ค่อยชอบเจียงเยี่ยนฟางเพราะรู้สึกว่าตนอยู่ต่ำกว่าเสมอ แต่เมื่อถึงเวลาคับขันแห่งความเป็นความตาย นางกลับรู้สึกเป็นห่วงคนที่โตมาด้วยกันอย่างน่าประหลาดซูเจียวถอดรองเท้าและเสื้อตัวนอกออก หวังกระโดดลงน้ำไปดึงเจียงเยี่ยนฟางขึ้นมา ในระหว่างที่กำลังถอดเสื้อตัวนอกออกอยู่นั้น ก็ไม่หยุดสายตาสอดส่องมองหาคนไปทั่วผืนน้ำแต่ไม่ทันที่นางจะกระโดดลงไป

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.1 เรื่องราวเมื่อเดือนก่อน

    บทที่ 17วาสนาได้พานพบผู้มีบุญคุณเพียงชั่วครู่สารทฤดูเริ่มต้นไปได้ครึ่งทางแล้ว ใบไม้รอบด้านเริ่มเปลี่ยนสียามเมื่อออกเดินทางเวลานี้ ถือว่าเป็นผลพลอยได้ที่จะได้ชื่นชมธรรมชาติไปในตัวแต่คนบนรถม้าคันหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงกลับดูเป็นกังวลไม่น้อย"คุณหนู ท่านจะแต่งเข้าจวนอ๋องจริงหรือเจ้าคะ" ซูเจียวนั่งอยู่บนพื้นของรถม้าก็เอ่ยถามสตรีอีกคนที่นั่งอยู่บนเบาะ ที่ผ่านมาตัวนางถูกเลี้ยงดูมากับสตรีตรงหน้า อยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กที่เมืองลี่เจียง ดุจดั่งเป็นครอบครัวเดียวกันทว่าตั้งแต่เยาว์วัย มารดาของนางชอบบังคับให้นางเรียกอีกฝ่ายว่าคุณหนูอยู่ตลอด คราแรกนางไม่เข้าใจ และทุกครั้งที่ตีตัวเสมอเจียงเยี่ยนฟาง นางก็จะถูกมารดาดุด่าเป็นประจำ ตักเตือนให้นางนอบน้อมกับเจียงเยี่ยนฟางให้มากหน่อย นางก็ต้องทำโดยไม่สามารถอิดออดได้ ทั้งที่เจียงเยี่ยนฟางก็ถูกมารดาใช้งานหนักพอ ๆ กัน ไม่เคยปล่อยปละละเลยให้อีกฝ่ายทำเพียงแค่นอนและกินเหมือนคุณหนูจริง ๆ ต่างต้องทำงานทุกอย่างให้เป็นกระทั่งไม่กี่วันก่อนคุณหนูของนางได้รับจดหมายจากบิดาที่ทอดทิ้งตัวเองไปนาน เรียกตัวกลับเมืองหลวงเพื่อแต่งงานเข้าจวนชินอ๋อง!ชินอ๋อง

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.3 + บทที่ 16.4 มีผู้บุกรุก+ผู้เกรียงไกรก็มีวันล้มเป็น

    เจียงเยี่ยนฟางกลับมายังร้านน้ำชาอีกครั้งพร้อมถุงซาลาเปาในมือ คนที่รอนางอยู่ก็ได้ย้ายตัวเองไปบนรถม้าอยู่ก่อนแล้ว พอนางมาถึง บรรยากาศก็ผิดแผกไปอย่างเห็นได้ชัด เซียวลี่หยางไม่พูดไม่จาอันใดแม้ครึ่งคำแต่...ไม่พูดไม่จาก็แล้วไปเถิด นางอาจมาช้าทำให้เขารอนานจนเกิดไม่พอใจขึ้นมา เรื่องนั้นก็พอเข้าใจได้ ทว่าแววตารังเกียจที่เหมือนคราแรกพานพบกันในห้องหอนั้น กลับมาปรากฏบนสายตาเขาอีกครั้งนี่สิ นางถึงได้รู้สึกแปลกใจขึ้นมาคนผู้นี้เช้าเป็นอย่าง ดวงตะวันคล้อยบ่ายก็เป็นอีกอย่าง นางคาดเดาเขาไม่ได้เลยยามเมื่อเดินทางกลับมาถึงจวนแล้ว คนในรถม้าที่นั่งมากับนางนานสองนานก็ไม่รอให้นางออกไปก่อน เขารีบเรียกหงเปามาพาตัวเองเข็นรถลงไปทันทีที่รถม้าหยุดลง ประหนึ่งว่าไม่อยากใช้ลมหายใจในรถม้าร่วมกับนางนานกว่านี้ จึงทิ้งนางไว้เบื้องหลังไม่ใส่ใจ"เมื่อเช้ายังไปด้วยกันดี ๆ อยู่เลย ยามนี้ท่านอ๋องเหมือนจะกำลังไม่พอใจอยู่..." สาวใช้ที่อยู่ไม่ไกลก็พากันซุบซิบนินทา คิดว่าระยะขนาดนี้พระชายาเจียงน่าจะไม่ได้ยิน"แปลกอันใดกัน ที่ผ่านมาท่านอ๋องกับพระชายากู่ที่มักตัวติดกันตลอด แต่ท่านอ๋องก็นิ่งสงบปานท่อนไม้ขนาดนั้น ดูอย่างไรก็ไม่เหม

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.2 ช่างน่ารังเกียจเกินไปแล้ว!

    "เร็วหน่อยก็ดี แล้วเร็วที่สุดของเถ้าแก่ราวกี่วัน""สองชิ้นก็เจ็ดวัน ข้าจะหาช่างฝีมือสองคนทำก็แล้วกัน จะได้รอไม่นานเกินนี้""เงินในถุงพอค่ามัดจำหรือไม่" เจียงเยี่ยนฟางหันมองถุงเงินที่หายไปอยู่ในมือเถ้าแก่ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้"พอ ๆ ๆ ๆ แม่นาง...อยากเน้นส่วนไหนเป็นพิเศษ แจ้งมาได้เลย" เถ้าแก่พอได้จับถุงเงินแล้วก็อารมณ์ดีขึ้นอีกห้าส่วน ดวงตาสะท้อนไปด้วยเงินทองอยู่ภายใน"เถ้าแก่จัดการได้เลย อีกเจ็ดวันข้าจะมารับ" เจียงเยี่ยนฟางกล่าวเสร็จก็เตรียมจากไป"แม่นางเดินทางปลอดภัย" เถ้าแก่ร้านมีท่าทีกระตือรือร้นกว่าตอนแรกที่เจียงเยี่ยนฟางเข้ามามากนัก ถึงขั้นเดินออกมาส่งด้วยตัวเองเจียงเยี่ยนฟางพอออกมาจากร้านเครื่องประดับแล้วก็ยังคงแวะไปอีกหลายแห่งเพื่อสั่งของที่นางอยากได้ กระทั่งมาหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายเครื่องประดับแผงลอยข้างทางร้านหนึ่ง เป็นร้านเล็ก ๆ ที่เน้นไปทางเชือกผูกผมกับปิ่นที่ทำมาจากไม้ หากแต่สิ่งที่สะดุดตานางมากที่สุดไม่ใช่ผ้าไหมซึ่งถูกทออย่างประณีต แต่เป็นลายปักบนผ้าผูกผมอันแสนคุ้นตานั่นต่างหาก"คุณหนู สนใจผ้าผูกผมสักชิ้นหรือไม่ ลองดูก่อนได้ ไม่เสียหายอะไร"เจียงเยี่ยนฟางเงยหน้าขึ้นสบตาแม่ค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status