Share

บทที่ 11

กู้หม่างเงียบอยู่ที่ปลายอีกด้านของโทรศัพท์

อย่างไรก็ตาม แม้ทางโทรศัพท์ ไป๋จิ่งหยวนก็สามารถเดาได้ว่าเขาต้องมีใบหน้าเหมือนภูเขาน้ำแข็งโดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ

ทักษะที่เด่นชัดที่สุดของเขา คือต่อให้ตายก็ไม่เปิดเผยความรู้สึก

“ลูกพี่สาม” ไป๋จิ่งหยวนกระแอมสองครั้ง “คุณไม่มีอะไรจะพูดเหรอ?”

“จะให้พูดอะไร?” เสียงของกู้หม่างฟังดูเหมือนกำลังยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้มจริง ๆ “ฉันยกให้เธอไปแล้ว เธอจะเอาไปทำอะไรต่อมันก็เรื่องของเธอ เธอคงมีเหตุผลที่เอามันไปขาย”

“แต่นั่นคือ 'ลมทองคำน้ำค้างหยก' ที่คุณยายทวดของคุณสวมมันติดตัวตลอดเชียวนะ!”

กู้หม่างไม่ได้พูดอะไร เพิ่มน้ำหนักให้กับดัมเบล เมื่อเขายกมันขึ้นอีกครั้ง กล้ามเนื้อก็ยิ่งกระชับขึ้น ความแข็งแกร่งแทบปะทุเหมือนกับภูเขาไฟระเบิด

“เธอขายสร้อยข้อมือได้เงินไปเท่าไร?”

“ก็…” ไป๋จิ่งหยวนยิ้ม “เธอไม่ได้ขาย!”

กู้หม่างขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเห็นผู้หญิงตัวเล็กคนนี้อยู่ไม่สุขและมองไปที่ลิ้นชักตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนั้นเขาก็พอจะเดาได้แล้วว่าเธออยากเอาเครื่องประดับไปขาย

ถึงอย่างไร เงินค่าสินสอดหนึ่งล้านห้าแสนกว่าบาทก็ถูกเจียงเหยายักยอกไป แต่เธอต้องรีบหาเงินไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล เธอจะหาเงินมากมายขนาดนั้นจากที่ไหนถ้าไม่ขายเครื่องประดับ?

แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่า เธอหอบของเข้าไปในร้านขายเครื่องประดับแล้วแท้ ๆ แต่เธอก็ยังเอาสร้อยข้อมือเส้นนั้นกลับคืนมาเหมือนเดิม

“ลูกพี่สาม วันนี้ผมบังเอิญแวะมาที่ร้านพอดี พอเห็นว่าเธอหยิบลมทองคำน้ำค้างหยกเส้นนั้นออกมาก็จำได้ทันที ตอนแรกคิดว่าหัวขโมยคนไหนกล้าขโมยมันไปจากคุณซะอีก คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นพี่สะใภ้!"

ไป๋จิ่งหยวนหัวเราะอีกครั้ง “ลูกพี่สาม เธอคนนี้น่าสนใจจริง ๆ ตอนแรกผมคิดว่าเธอคงขาดแคลนเงิน ดังนั้นผมเลยจงใจสั่งให้เสมียนเสนอราคาที่สูงลิ่วแก่เธอ... แน่นอนว่าที่จริงลมทองคำน้ำค้างหยกไม่มีอะไรมาเทียบมูลค่ามันได้อยู่แล้ว แต่สำหรับเธอ ราคานั้นต้องสูงมากจนเอื้อมไม่ถึง!”

“แล้วยังไงต่อ?”

“แล้วยังไงต่อน่ะเหรอ…” ไป๋จิ่งหยวนเกาหัว “ผมก็ไม่นึกเหมือนกันว่าเธอจะเปลี่ยนใจไม่ขายซะดื้อ ๆ!”

กู้หม่างมีรู้สึกแปลก ๆ อยู่ในใจ แต่แล้วความกังวลของเจียงชั่นเมื่อคืนนี้ก็แวบเข้ามาในใจเขาอีกครั้ง

พวกเขาแต่งงานกันแล้ว แถมเธอยังเป็นฝ่ายริเริ่มบอกว่าจะสานสัมพันธ์กับเขาแบบเปิดอกไม่ใช่เหรอ? เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังมีปัญหา แต่เธอกลับไม่ยอมบอกเขา และยืนกรานที่จะแบกรับมันด้วยตัวเอง…

ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้า

“ไม่ต้องกังวล” เขากระซิบ “ดูแลที่ดินตรงนั้นไว้ให้ดี ๆ ฉันไม่ต้องการให้มันตกไปอยู่ในมือของตระกูลเจียงเด็ดขาด! ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ฉันจะสร้างความกดดันให้กับตาเฒ่าเจียงหมิงหย่วนคนนั้น เราจะทำทุกวิถีทางไม่ให้มันง่ายสำหรับเขา”

“นั่นไม่ใช่พ่อตาของคุณหรอกเหรอ?” ไป๋จิ่งหยวนเยาะเย้ย “ลูกพี่สาม นี่หมายความว่ายังไงกัน? ผมไม่ค่อยเข้าใจ…”

“ถ้าไม่เข้าใจก็ทำตามที่ฉันบอกสิ มัวถามไร้สาระทำไม!”

ไป๋จิ่งหยวนแลบลิ้นออกมา

พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ซึ่งเขาก็คุ้นเคยกับอารมณ์ที่ไม่มั่นคงของเจ้านายคนนี้มานานแล้ว ดังนั้นจึงหวังให้ผู้หญิงสักคนมาดูแลหัวใจเขา

ตอนนี้ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

แต่...

ไป๋จิ่งหยวนขมวดคิ้ว “ลูกพี่สาม ผมขอพูดอะไรอีกอย่าง คุณคิดว่าคุณกับเจียงชั่นคนนี้... จะอยู่ด้วยกันไปตลอดรอดฝั่งได้จริงเหรอ?”

กู้หม่างไม่ตอบกลับอะไร

“คุณไม่ใช่กู้หม่างตัวจริง คนอย่างคุณอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ นั้นได้ไม่นานหรอก ไม่ช้าก็เร็วคุณจะต้องกลับไปที่เมืองหลวงอยู่ดี ถึงตอนนั้นแล้วจะทำยังไงต่อ? ครอบครัวคุณจะยอมรับเธอได้จริง ๆ เหรอ?”

ปลายสายอีกด้านเงียบไปเป็นเวลานาน จากนั้นเสียงทุ้มก็ดังขึ้น

“ไว้ค่อยคุยเรื่องอนาคตกันทีหลัง”

“ผมขอเตือนว่าคุณอย่าปล่อยให้ตัวเองถลำลึกกับความสัมพันธ์นี้จนเกินไป…”

“นายไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ ฉันมีวิจารณญาณเป็นของตัวเอง” คำพูดของกู้หม่างค่อนข้างผ่อนคลาย “ฉันไม่ได้อะไรกับการแต่งงานครั้งนี้เลย มันเป็นแค่เปลือกเพื่อปิดบังตัวตนจริงของฉันเท่านั้น”

“โอ้ โอเค” ไป๋จิ่งหยวนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “ผมหวังว่าสักวันหนึ่งคุณจะหาทางออกดี ๆ ได้ ก่อนที่คุณจะกลับไปเมืองหลวงนะ!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status