Share

บทที่ 10

เมื่อกู้หม่างเปิดประตู เขาเห็นเจียงชั่นออกมาจากครัวพร้อมกับอาหารสองจาน

ใบหน้าเล็ก ๆ ที่แต่เดิมเศร้าเล็กน้อยเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มทันทีเมื่อเห็นเขา

รอยยิ้มเป็นแค่การบังคับฝืนตัวเองเล็กน้อย

กู้หม่างล้างมือแล้วนั่งที่โต๊ะ หลังจากฝึกมาทั้งวันก็หิวโซ อาหารตรงหน้านี้ยิ่งดูน่ารับประทาน

เขาหยิบชามขึ้นมาและเริ่มกิน ขณะที่เจียงชั่นนั่งเงียบโดยไม่ขยับตัวทำอะไร

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ

เจียงชั่นชะงักและส่ายหน้า

“ถ้าอย่างนั้นรีบกินก่อนเถอะ” กู้หม่างวางชิ้นเนื้อบนชามเธอ “แค่มองก็อิ่มแล้วเหรอ?”

เจียงชั่นก้มหน้าลงและเม้มริมฝีปาก ตอนนี้เธอไม่มีความอยากอาหารจริง ๆ เวลานี้โทรศัพท์มีข้อความจากหยิ่นเฉิงน้องชายของเธอ “พี่สาว ค่ารักษาพยาบาลของแม่จะจ่ายเมื่อไรเหรอ? ถ้าไม่รีบจ่ายหมอจะหยุดให้ยา!”

ทั้งหัวใจเหมือนถูกบีบรัด เธอมองไปที่ลิ้นชักในตู้โดยไม่รู้ตัว

เธอใส่เครื่องประดับทองทั้งหมดที่กู้หม่างมอบให้ครั้งล่าสุดเข้าไป โดยเฉพาะสร้อยข้อมือทองคำและหยก ซึ่งน่าจะคุ้มค่าเงินมากเมื่อเอาไปแลกเปลี่ยน…

“ทำไมสีหน้าเป็นงั้นล่ะ?” ทันใดนั้นเสียงทุ้มลึกก็ขัดจังหวะความคิดของเธอ

เจียงชั่นหันกลับมาได้สติ ก่อนมองลึกเข้าไปในดวงตาของชายตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทาเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม กลิ่นอายผิดปกติของกู้หม่างทำให้เธอรู้สึกถึงการกดดันอย่างรุนแรง

“ไม่มีอะไร...” เธอตอบเสียงเบา

กู้หม่างวางชามและตะเกียบลง ดวงตาของเขาดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “มีอะไรอยากบอกผมไหม?”

เจียงชั่นรีบส่ายหน้า

กู้หม่างไม่รีบร้อน เขามองดูเธอสักพัก ก่อนยิ้มแล้วเริ่มกินข้าวต่อ

เนื่องจากเธอไม่อยากพูดเขาจึงไม่เซ้าซี้ ไม่ช้าก็เร็วผู้หญิงคนนี้จะต้องพูดมันออกมา

คืนนั้นเจียงชั่นตกอยู่ในความสับสน เธออ่านข้อความที่หยิ่นเฉิงส่งมาหลายครั้ง เธอคิดถึงวิธีหาเงินนับไม่ถ้วน แต่แสงสว่างที่อยู่ห่างไกลไม่มีเส้นทางไหนเดินไปถึงเลย

ถ้ากลับไปขอเงินบ้านตระกูลเจียง ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ หนทางเดียวตอนนี้คงมีแต่…

เธอปิดประตูอย่างเงียบ ๆ เปิดลิ้นชักตู้แล้วหยิบกล่องไม้แกะสลักออกมา เครื่องประดับที่อยู่ข้างในส่องประกายภายใต้แสงจันทร์ เธอหยิบสร้อยข้อมือออกมา ลังเลอยู่นาน และในที่สุดก็ห่อมันอย่างระมัดระวังแล้วใส่ไว้ในกระเป๋า

“อืม มันบริสุทธิ์มากจริง ๆ” พนักงานร้านขายเครื่องประดับพยักหน้าและยิ้มกว้าง “คุณคะ สร้อยข้อมือของคุณค่อนข้างเก่า แต่ก็เป็นสไตล์คลาสสิกและมีคุณภาพสูง ทุกวันนี้ทองผสมหยกหายากมาก ซึ่งของคุณมีคุณภาพดีมากทีเดียว”

“แล้วพอประเมินได้เท่าไรคะ?” เจียงชั่นถามอย่างคาดหวัง

“คุณหมายถึงจำนำใช่ไหมคะ?” พนักงานยิ้มแล้วพาเธอไปที่ห้องเล็ก ๆ ข้างใน

บนโต๊ะมีเครื่องมือระดับมืออาชีพหลายชิ้น พนักงานขอให้เธอรอที่นี่สักพักแล้วออกไป

เจียงชั่นนั่งรออยู่ที่นั่นแล้วมองไปรอบ ๆ ร้านขายเครื่องประดับแห่งนี้ ทุกอย่างล้วนหรูหรามากจนเกินจินตนาการ

ความเป็นจริงเธอไม่มีความหวังใด ๆ ก่อนมาที่นี่ อย่างไรก็ตาม สร้อยข้อมือเก่าเส้นนี้ กู้หม่างให้เธอไว้เพราะเขาไม่มีอะไรดีกว่านี้จะมอบให้แล้ว

อีกด้านหนึ่งหลังจากพนักงานเดินออกมา

เธอถือสร้อยข้อมือไว้ในมือ ก่อนชั่งน้ำหนักซ้ำไปซ้ำมา เธอยืนอยู่อีกห้องอย่างลังเล

ในกล้องวงจรปิดเห็นท่าทางร้อนรนของเธออย่างชัดเจน ไม่ว่าเธอจะขยับตัวหรือเดินไปทางไหน

“เฒ่าแก่ไป๋ นี่เป็นสมบัติของบรรพบุรุษตระกูลฮั่ว... เฒ่าแก่อยากให้ผู้หญิงคนนี้มาที่นี่เลยไหม?”

หลังโต๊ะขนาดใหญ่ ดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องไปที่ภาพบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ พร้อมกับรอยยิ้มดูถูกเหยียดหยามบนใบหน้า เขาเอนหลัง ขายาวเหยียดพาดอยู่บนโต๊ะ เขาหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “ไม่ต้องรีบร้อน รอดูไปก่อน!”

“แต่ถ้าเธอขโมยมันมาล่ะ?”

“อาจจะไม่ก็ได้” ไป๋จิ่งหยวนจุดไฟแช็กเพื่อจุดบุหรี่และพูดต่อ “ฉันได้ยินมาว่าลูกพี่สามหรือลูกชายตระกูลนี้แต่งงานแล้ว นี่อาจเป็นภรรยาของเขาก็ได้ พลาดแล้วที่ทิ้งของล้ำค่านี้ไว้ให้เธอเก็บ… ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอสะใภ้ลูกพี่สามที่นี่!”

“เฒ่าแก่ไป๋ เราควรทำไงต่อดี?”

“ไปบอกราคาเธอก่อน เริ่มต้นที่ห้าล้านแล้วกัน!”

เจียงชั่นรู้สึกกังวลขณะนั่งรอพนักงาน ทันทีที่พนักงานเห็นเธอ พนักงานยิ้มและพูดว่า “คุณคะ หลังจากการประเมินอย่างมืออาชีพแล้ว สร้อยข้อมือนี้จำนำได้ราคาอยู่ที่ห้าล้านบาทค่ะ”

มีเสียงหึ่งในหูเจียงชั่น เธอตกตะลึงเป็นเวลานานถึงสิบวินาที

ห้าล้าน?

เธอกำสร้อยข้อมือไว้แน่น สีหน้าอันบอบบางกลายเป็นมีสีหน้าลำบากใจ

ราคานี้เกินความคาดหมายของเธอไปมาก และคาดไม่ถึงว่าเครื่องประดับตรงหน้าจะมีมูลค่ามากขนาดนี้!

ด้วยเงินล้านคงไม่ต้องพูดถึงค่ารักษาพยาบาลในปัจจุบันของแม่ รวมถึงส่งน้องชายเข้าโรงเรียนที่ดีกว่าตอนนี้ได้อีก…

แต่นี่คือของขวัญแต่งงานที่กู้หม่างมอบให้เธอ

หัวใจของเจียงชั่นกระตุก เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย

ขณะนี้จิตใจของเธอกลับมาที่ฉากเมื่อตอนกู้หม่างยื่นกล่องเครื่องประดับให้เธอ

“นี่คือทรัพย์สินของผมทั้งหมด ผมยกให้คุณหมดเลย คุณจะเป็นคนดูแลครอบครัวนี้เป็นต้นไป”

เธอกัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกผิด เขามอบทุกสิ่งที่มีให้กับเธอ แต่เธอปฏิบัติต่อความจริงใจของเขาแบบนี้ได้อย่างไร?

“คุณคะ คุณไม่พอใจกับราคานี้รึเปล่า?” พนักงานยิ้มอย่างมีเลศนัย “เรายังคุยกันเรื่องราคาได้ ถ้างั้นฉันขอแสดงบันทึกการจำนำที่นี่เลยนะคะ…”

“ฉันไม่จำนำแล้วค่ะ!” เจียงชั่นลุกขึ้นทันที และยัดสร้อยข้อมือกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างรวดเร็ว

“หืม…”

ก่อนพนักงานจะทันโต้ตอบ เธอรีบวิ่งออกไปจากร้านขายเครื่องประดับ ร่างผอมเพรียวของเธอหายไปกลางถนนที่มีผู้คนพลุกพล่าน

“ไม่ขายอย่างนั้นเหรอ?” น้ำเสียงดูล้อเล่นดังมาจากชั้นบนในร้านขายเครื่องประดับ

พนักงานหันกลับมาทันที ก่อนโค้งคำนับเก้าสิบองศาและเรียกด้วยความเคารพว่า “เฒ่าแก่ไป๋!”

ชายคนนั้นหรี่ตาลงเล็กน้อย ด้วยรูปลักษณ์อันหล่อเหลา เขานั่งบนโซฟาก่อนหยิบโทรศัพท์แล้วกดโทรออก เขาพูดพลางยิ้มออกไปว่า “ลูกพี่สาม ภรรยาลูกพี่มาหาผม พร้อมกับสมบัติของบรรพบุรุษมาจำนำด้วย รู้เรื่องนี้รึเปล่า?"

ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Piyapattra Samungkun
ทำไมเขียนให้นางเอกโง่จังแต่งงานกับคนแปลกหน้าถ้าเขาจะนอนด้วยก็ยอมเพราะแต่งงานเป็นสามีภรรยากันแล้วแต่นางลืมไปเปล่าสามีภรรยามีอะไรก็ต้องคุยต้องปรึกษาไม่ว่าเขาจะมีเงินหรือเปล่าค่ารักษาแม่ก็ต้องคุยกับเขาไม่ใช่แอบเอาของที่เขามอบให้ไปจำนำหรือไปขายบอกเลยโง่อย่างนี้โดนหลอกโดนเอาเปรียบตามเคยซื่อจนโง่เฮ้อ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status