แชร์

ตอนที่ 12 สหาย

ผู้เขียน: บ.บี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-19 13:09:00

พี่สี่เสินท่านอย่าลืมว่าเกาะนี้ไม่เคยมีผู้ใดผ่านเข้าออกมาก่อน หากจะมีผู้บุกรุกขึ้นมาบนเกาะก็เป็นเราสองคนต่างหากที่บุกรุก” มู่เหยาจีตั้งข้อสังเกตใหม่

อีกอย่างนะเจ้าคะ หากเราเป็นผู้บุกรุก เจ้าของเดิมสมควรขับไล่เราหาใช่มาช่วยเราเก็บผลไม้ ข้าว่าพวกเขาไม่ได้คิดร้ายกับเราสองคนเจ้าค่ะ”

จริงของเจ้า เอาอย่างนี้คืนนี้เรามาพิสูจน์กัน”

สองพี่น้องตัดสินใจล้มเลิกการสำรวจรอบเกาะ แล้วมุ่งหน้ากลับไปที่ชายหาดดังเดิม ช่วยกันแบกตะกร้าเปล่าเข้าป่าไปกองไว้ที่ใต้ต้นมะกอกต้นเดิม พวกเขาเลือกผลไม้ที่สุกงอมมีสีคล้ำไปกองไว้ตามใต้ต้นไม้เพื่อให้มันกลายเป็นปุ๋ยตามธรรมชาติ แต่ไม่ได้เก็บผลไม้ดีใส่ตะกร้าเลยแม้แต่ผลเดียว

พอใกล้ค่ำ มู่สี่เสินก็ตะโกนเรียกน้องสาวให้กลับไปพักผ่อนตามปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิด แต่เมื่อถึงจุดลับสายตาร่างสองร่างก็หายเข้าไปในโพรงของต้นไม้เก่าแก่ขนาดใหญ่ต้นหนึ่ง

เด็กทั้งคู่ต้องกินผลไม้และน้ำที่เตรียมเอาไว้ด้วยเสียงที่เบาที่สุด ขยับตัวให้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเสียงใดๆ เฝ้ารอให้แสงสว่างรอบข้างเลือนหายไปทีละน้อยด้วยหัวใจที่ลุ้นระทึก

ผ่านไปนานเท่าใดไม่อาจรู้ได้ ขณะที่ทั้งสองนั่งพิงกันหลับอยู่ในโพรงไม้ เสียงการเคลื่อนไหวอย่างไม่ปิดบังก็ดังมาจากทิศทางของต้นมะกอกใหญ่ ปลุกให้สองพี่น้องต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น

มู่สี่เสินรีบเอื้อมมือไปปิดปากน้องสาวเอาไว้ เมื่อเห็นรางๆ จากแสงจันทร์ว่าน้องสาวกำลังจะอ้าปากเอ่ยคำถามอะไรสักอย่าง เขาเชื่อว่าบางทีนางอาจจะลืมตัวไปว่าเวลานี้พวกตนไม่ได้นอนอยู่ในถ้ำ

มู่เหยาจีพยักหน้าช้าๆ ส่งสัญญาณบอกพี่ชายว่านางรับรู้แล้ว พร้อมกับดึงมือหยาบกร้านของมู่สี่เสินออกจากใบหน้าของตน

ครั้งแรกมู่สี่เสินยกมือขึ้นข้างหนึ่งแล้วกางนิ้วห้านิ้วออกมาตรงหน้าน้องสาว

มู่เหยาจีหยุดฟังเสียงภายนอกอยู่ครู่หนึ่ง แล้วนางก็เป็นฝ่ายยกมือทั้งสองข้างของตนขึ้นมา กางนิ้วทั้งสิบไปที่หน้าพี่ชายบ้าง

สองพี่น้องทำตาโตเบิกโพลงใส่กันภายใต้ความมืด พวกเขาคิดว่าคนที่อยู่ข้างนอกอาจจะมีถึง 10 คน! เสียงใบไม้ที่ถูกเหยียบย่ำดังกรอบแกรบแว่วผ่านหูเข้ามาไม่ขาดสาย แต่กลับไม่มีเสียงพูดคุยเปล่งออกมาเลยสักคำ

ทั้งคู่นั่งหน้าบิดหน้าเบี้ยวด้วยความอึดอัดคับข้องใจอยู่นานหลายอึดใจ สุดท้ายแล้วก็เป็นมู่สี่เสินเองที่อดรนทนไม่ไหว เขาต้องการเห็นกับตาว่าคนบนเกาะมีอยู่กี่คนกันแน่ เหตุใดพวกเขาจึงอยู่กันอย่างเงียบเชียบไร้เสียงได้นานนับเดือน

โชคดีนักที่พื้นที่บริเวณนี้ยังมีแสงสว่างจากดวงจันทร์สาดส่องผ่านร่มไม้มาพอให้มองเห็นพื้นดินอยู่บ้าง ร่างสูงของมู่สี่เสินค่อยๆ เคลื่อนกายออกมาจากโพรงใหญ่โดยมีมู่เหยาจีเดินย่ำตามรอยเท้าพี่ชายมาติดๆ

เด็กหญิงด้านหลังกระตุกชายเสื้อของผู้เป็นพี่ชายรัวๆ ยกมือข้างหนึ่งมาปิดหน้าปิดตาตัวเองเอาไว้แน่น

เมื่อครู่นางตาไม่ฝาดใช่หรือไม่ นางเห็นกล้วย ส้ม และผลไม้อื่น ๆ ลอยไปลอยมาอยู่กลางอากาศเหนือพื้นดิน ไม่มีผู้บุกรุกเลยสักคน!

ในคราวแรกมู่สี่เสินก็เห็นแบบเดียวกับที่น้องสาวเห็น แต่ด้วยความเป็นทูตสวรรค์หลายหมื่นปี มีหรือจะไม่เคยเห็นสิ่งของลอยไปลอยมาได้ด้วยตนเอง เมื่อครั้งที่อยู่บนแดนสวรรค์พวกท่านเทพทั้งหลายก็มักจะแสดงอิทธิฤทธิ์ ส่งสิ่งของให้โบยบินแข่งกันได้เป็นว่าเล่น

เด็กหนุ่มยังคงจ้องมองผลไม้เหล่านั้นอยู่นานหลายอึดใจและในที่สุดเขาก็หันมากระซิบเข้าที่ข้างหูของน้องสาว

ดูดีๆ ใช่สหายของเจ้าหรือไม่”

ได้ยินคำว่าสหายมู่เหยาจีก็หูผึ่งตาสว่าง นางรีบลดมือลงแล้วจ้องมองไปยังกองผลไม้ที่ลอยไปลอยมาอยู่ตรงหน้า ตั้งใจมองฝ่าความมืดให้เห็นชัดๆ

เป็นพวกเจ้าหรือ? เจ้ามาช่วยข้าเช่นนั้นหรือ?” มู่เหยาจีพรวดพราดออกจากที่ซ่อนตัว วิ่งฝ่าความมืดพร้อมกับส่งเสียงดังไปตลอดทาง

นางเห็นแล้วว่าแท้จริงแล้วผลไม่ไม่ได้ลอยอยู่ในอากาศ แต่เป็นกระรอกกับกระต่ายกลุ่มใหญ่ที่มาช่วยเก็บผลไม้ใส่ตะกร้าให้พวกตน สัตว์ที่ชาญฉลาดเช่นนี้หากไม่ใช่สหายของนางที่กระโดดบ่อลงมาล่วงหน้าจะเป็นผู้ใดได้อีก!

เสียงของมู่เหยาจีพาให้สรรพสัตว์พากันตกใจทิ้งผลไม้หล่นใส่กองใบไม้พร้อมกับวิ่งหนีแตกกระเจิงกันไปคนละทิศละทาง

หนีข้าทำไม? นี่ข้าเองนะ พวกเจ้าดูช้าให้ดีๆ” มู่เหยาจีพยายามไปยืนตรงบริเวณที่มีแสงสว่างมากที่สุด ยกมือลูบหน้าลูบตาเปิดเผยใบหน้าตนเองออกมาเต็มที่ให้สัตว์ตัวน้อยที่เข้าใจว่าเป็นสหายได้เห็นนางชัดเจน

ออกมาหาข้าเร็ว!” มู่เหยาจียังคงย่ำเท้าปรบมือเรียกอยู่กับที่ด้วยความตื่นเต้น คาดว่าอีกไม่นานสหายรักทั้งหลายก็คงแย่งกันกระโดดเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตนดังเดิม

พี่ชาย..” เด็กหญิงตัวน้อยเสียงอ่อนลงจนน่าเวทนา นางเรียกสหายอยู่นาน แต่พวกมันกลับยิ่งหลบซ่อนตัวไปทีละตัวสองตัว และสุดท้ายก็วิ่งหายลับเข้าไปในความมืดไม่ปรากฏตัวออกมาอีกเลยสักตัวเดียว

เหยาจี พวกมันอาจจะไม่ใช่สหายของเจ้าก็ได้นะ หากเป็นพวกมันจริงๆ อย่างไรก็ย่อมจำเจ้าได้ การตกลงมาจากบ่อศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ทำให้ความทรงจำของเราเลือนหายไปเสียเมื่อใด”

มู่เหยาจีทอดสายตาที่เอ่อคลอไปด้วยม่านน้ำตามองหาร่างเล็กในความมืดอันเงียบงัน

จริงของท่าน อาจจะไม่ใช่พวกเขา แต่แล้วเหตุใดพวกมันจึงมาช่วยเราเก็บผลไม้เล่าเจ้าคะ?”

ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน หรือเป็นเพราะพวกมันเห็นเราทำอะไรก็เลยทำตาม เจ้าคิดดูสิว่าที่นี่ไม่เคยมีคนอาศัยอยู่มิใช่หรือ พวกสัตว์เหล่านั้นอาจจะแค่สงสัยและทำเลียนแบบก็ได้กระมัง” มู่สี่เสินก็ไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรดีเช่นกัน

ได้เห็นกับตาแล้วว่าไม่ใช่มนุษย์ข้าก็เบาใจ รีบกลับไปพักกันก่อนดีกว่า พรุ่งนี้เรายังมีงานต้องทำอีกมากเลยทีเดียว พวกมันอาจจะตกใจแล้วไม่เข้ามาวุ่นวายกับเราอีกแล้วก็เป็นได้”

เช้าวันรุ่งขึ้น

สองพี่น้องรีบตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ เพื่อเร่งมาจัดการกับกองผลไม้ตามเคย แต่สิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงก็คือ ตะกร้าทั้ง 30 ใบที่วางทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อวาน บัดนี้ถูกบรรจุเอาไว้ด้วยผลไม้จนเต็มทั้ง 30 ตะกร้า! 

เมื่อคืน พวกเขากลับมาทำงานต่อเช่นนั้นหรือ?” มู่สี่เสินไม่อยากจะเชื่อสายตา

เขาพยายามมองไปรอบๆ เห็นว่ามีกระรอกนั่งแทะผลไม้อยู่บนกิ่งไม้ไม่กี่ตัว และพวกมันก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะสนอกสนใจพวกตนเลยสักนิด นกหลากหลายชนิดบินผ่านไปผ่านมา เป็นสภาพของป่าปกติทั่วไปที่พวกเขาเห็นตั้งแต่มาถึงเกาะลอย

สหายข้า พวกเจ้าดูให้ดีๆ นี่ข้าเองนะ เสียงของข้า ใบหน้าของข้า แต่พี่ชายข้าแปลงร่างไปเป็นผีเสื้อเกล็ดแก้วไม่ได้แล้วล่ะ พวกเจ้าจำสี่เสินไม่ได้หรือ?” มู่เหยาจีพยายามสื่อสารออกไปอีกครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล

เหยาจี เรารีบขนผลไม้ออกไปส่งที่หมู่บ้านกันก่อนดีกว่า พวกเขาช่วยทำงานก็เท่ากับว่าพวกเขาเป็นสหายเรา ไม่จำเป็นที่จะต้องสื่อสารกันเข้าใจเหมือนยามที่อยู่บนแดนสวรรค์ก็ได้นี่” 

มู่เหยาจีรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่สัตว์เหล่านี้กลับจำนางไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไรนางจะค่อยๆ พยายามตีสนิทพวกมันเอาภายหลัง นางมีเวลาอยู่บนเกาะลอยแห่งนี้อีกยาวนานเลยทีเดียว

การค้าในรอบแรกของวัน มู่สี่เสินขอแลกตะกร้าใส่ผลไม้เพิ่มอีก 30 ใบ นอกนั้นเขาและน้องสาวก็ไม่ได้ขาดสิ่งใดอีก จึงรับค่าผลไม้มาเป็นเงินทั้งหมด

มู่เหยาจีก็ไม่มีเวลาพูดคุยเล่นกับสตรีในหมู่บ้านเหมือนเช่นเคย สองพี่น้องเร่งรีบช่วยชาวบ้านขนผลไม้ลงจากเรือ รับเงินกับตะกร้าเสร็จก็รีบกลับไปที่เกาะลอยอย่างเร่งด่วน

ที่ทั้งสองมีพฤติกรรมแปลกประหลาดไปเช่นนี้ก็เพราะพวกเขาต้องการจะทดสอบ!

เกาะลอยแม้ว่าจะเล็กกว่าเกาะจิงเหมินที่มีผู้อยู่อาศัยถึง 4 หมู่บ้านอยู่สามเท่า แต่ขนาดและเนื้อที่ของมันก็ไม่ใช่น้อยๆ มีทั้งภูเขา น้ำตก ลำธาร ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่และชายหาดสีขาวล้อมรอบอีกด้วย 

จำนวนพื้นที่ของผลไม้หลากหลายพันธุ์ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูเขาเขียวขจี ดังนั้นจึงยังมีผลไม้อีกมากมายที่สองพี่น้องยังเก็บเกี่ยวไม่หมด และเท่าที่กำลังเก็บกันอยู่นี้ก็เป็นเพียงแค่ผลไม้ที่ร่วงหล่นลงมาเท่านั้น บนต้นไม้ยังคงมีผลเขียวๆ ที่กำลังเจริญเติบโตรอวันเก็บเกี่ยวอีกไม่น้อย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 93 ตอนจบ

    “นี่พวกเจ้าไม่คิดจะทำสิ่งอื่นนอกจากเกี้ยวพาราสีกันทุกเมื่อเชื่อวันเช่นนี้บ้างหรือไร!” เสียงหวานใสของซินหรูอี้ดังมาแต่ไกล“หรูอี้!! ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วให้พูดแต่คำหวานๆ รักษากิริยาให้สำรวมไว้หน่อยเถิด หากลูกในท้องติดนิสัยโผงผางเช่นเจ้ามาข้าคงต้องกลั้นใจตายสักวันเป็นแน่” เวยวั่งซูชักสีหน้าไม่พอใจแต่สองมือก็ประคองปกป้องร่างภรรยารักเอาไว้ราวกับไข่ในหิน“ท่านก็เลิกวุ่นวายกับชีวิตข้าเสียทีเวยวั่งซู!! ข้ามันคิดผิดจริงๆ ที่ยอมแต่งให้ท่าน ดูสิทุกวันนี้ข้าต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในแดนเหนือที่หนาวเย็นจนถึงกระดูก คลอดลูกออกมาเมื่อใดข้าจะย้ายมาอยู่กับเหยาจีที่ทางใต้เสียให้รู้แล้วรู้รอด”“ก็ข้าเป็นผู้ฝึกตนสายน้ำแข็งนี่นา ไม่อยู่กับหิมะจะให้ข้าไปอยู่ในกองเพลิงหรือไร แล้วเมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ? คลอดบุตรแล้วเจ้าจะมาอยู่ทางใต้ คิดจะทิ้งเราสองพ่อลูกไว้ทางเหนือเพียงลำพังเช่นนั้นหรือ? ฝันไปเถิด!!" “เจ้าจะหงุดหงิดอันใดนักหนาเล่าวั่งซู นางยังไม่ทันคลอดด้วยซ้ำ ข้าแนะนำให้เอง!! กลับไปแดนเหนือคราวนี้ไม่สู้เจ้าแช่แข็งนางเอาไว้เป็นไร นางจะได้ไม่หนีไปเที่ยวเล่นที่ใดได้อีก”ซินหรูอี้ใช้สองมือประคองท้องกลมโตเดินอาดๆ ม

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 92 3,000 ปี

    หญิงสาวก้าวออกมายืนด้านหน้าผู้คนแทนที่อ๋าวหลวนหลง“ชัยชนะของพวกเราในครั้งนี้จะไม่สำเร็จโดยง่ายหากปราศจากพวกเขาเช่นกัน” มู่เหยาจีผายมือไปด้านขวาของนาง สายตามองไปยังสัตว์เลี้ยง 12 ตัวที่ยังรอดชีวิตอยู่“สัตว์ปราณทั้ง 12 ตัว ได้รับผลท้อไปแล้ว 5 ตัว ข้าจะไม่ลังเลเลยที่จะมอบผลท้อสวรรค์อีก 7 ผลให้กับพวกมันอย่างยุติธรรม วันใดที่มนุษย์ไม่อาจไว้วางใจกันเอง พวกท่านโปรดจำเอาไว้ว่าสัตว์ทั้ง 12 จะเป็นผู้ที่ปกป้องท่านจากภยันตรายทั้งปวง”สิ้นคำกล่าวของหญิงสาว ผีเสื้อเกล็ดแก้ว 7 ตัวก็โบยบินออกไปส่งมอบผลท้อสวรรค์ให้วานรสองตัว สุนัขจิ้งจอกสองตัว หวางผาง เต่าและปลาหมึก“ท้อสวรรค์ 7 ผลที่เหลือข้าจะให้ผีเสื้อเกล็ดแก้วเป็นผู้คัดเลือกผู้โชคดีขึ้นมาตามแบบอย่างที่เคยทำในแดนสวรรค์ และจากนี้ไปผลท้อที่สุกออกมาทั้งหมดก็จะใช้วิธีเดียวกันนี้เช่นกัน”มู่เหยาจีวาดเรียวแขนงามออกมาโบกสะบัดชายแขนเสื้อยาวกรุยกรายสยายออกเป็นวงกว้างในอากาศพร้อมกับมีร่างของผีเสื้อเกล็ดแก้วลำตัวใสกระจ่างระยิบระยับเจ็ดตัวโบยบินไปวนเวียนอยู่เหนือศีรษะกลุ่มผู้ฝึกตนที่รวมกลุ่มกันอยู่ผู้โชคดีทั้งเจ็ดคนมีทั้งอดีตเซียนที่ลงมาจากแดนสวรรค์และผู้ฝึกต

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 91 ชัยชนะ

    “ยามนี้บนเกาะลอยที่เหลือเพียงครึ่งไม่มีผลท้อธรรมดาที่สามารถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บเลยสักผล ทำอย่างไรดีพี่สี่เสิน หวางเซี่ยเจ้าต้องหยุดพักรักษาตัวก่อน เราจะหาทางกลับไปเอาผลท้อมาช่วยเจ้ากันเอง!!” หญิงสาวละล่ำละลัก หันพูดทางนั้นทีทางนี้ทีตัดสินใจทำสิ่งใดไม่ถูก“น้องสาว ผลท้อธรรมดาไม่อาจรักษาอาการบาดเจ็บของหวางเซี่ยได้หรอก ต่อให้เจ้าฝืนเด็ดผลท้อสวรรค์ที่ยังไม่สุกหยิบยื่นให้เขาก็ยังไม่อาจรักษาบาดแผลที่สาหัสนั้นได้ ปล่อยให้เขาทำสิ่งที่เขาต้องการต่อไปเถิด”“ผลท้อช่วยไม่ได้ เช่นนั้นลูกแก้วมังกรของพี่หลวนหลงก็ต้องช่วยได้สิเจ้าคะ ท่านลองส่งสารบอกผีเสื้อเกล็ดแก้วดู ให้พวกเขาพาคุณชายสี่กลับมาที่นี่ก่อน” น้ำตาสองสายไหลออกมาเต็มใบหน้างาม อ้อนวอนร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา“เจ้าตั้งสติให้ดีๆ อวัยวะภายในของหวางเซี่ยเสียหายรุนแรงเกินไป หาใช่ขาดแล้วเชื่อมต่อใหม่ได้เหมือนอย่างเส้นเอ็นของหลวนหลง เจ้าดูดวงตาของฝูซีสิ สิ่งที่ขาดหายไปแล้วน้ำลายมังกรไม่อาจสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้”ไม่ต้องอธิบายมากไปกว่านี้มู่เหยาจีก็รับรู้ได้ถึงความรุนแรงอันหนักหน่วงบนร่างกายสหายรักใต้น้ำสองพี่น้องเดินลงไปที่ชายหาดจุดเดิมที

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 90 สาหัส

    การเคลื่อนไหวอันทรงพลังของนกอินทรียักษ์รวดเร็วประหนึ่งสายฟ้าฟาด เพียงไม่นานมันก็พาอ๋าวหลวนหลงมาพบกับกลุ่มผีเสื้อเกล็ดแก้วที่กำลังรุมล้อมรอบเกาะลอยพุ่งโจมตีไส้เดือนปีศาจยี่สิบตัวกันไม่ยั้งมือ“นั่นมัน!!” ดวงตาคมกริบของอ๋าวหลวนหลงเบิกค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ คำพูดที่กำลังจะเอ่ยออกมาก็พลันถูกกลืนลงคอไปด้วยความตื่นตะลึงชายหนุ่มขยี้ตาซ้ำๆ อีกหลายครั้งและสุดท้ายก็ต้องเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาตาไม่ฝาด ยามนี้บนต้นท้อสวรรค์มีผลท้อสีเขียวอมชมพูส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลล่องลอยไปทั่วบริเวณ“เป็นไปได้อย่างไรกัน! ท้อสวรรค์ออกผลอีกแล้ว! ฮ่าๆๆๆ ผลงานของเหยาจีนี่ดูท่าจะลูกดกดีแท้!!” กล่าวจบชายหนุ่มก็ต้องรีบจับขนหลังคอนกอินทรีตัวเขื่องเอาไว้แน่น เจ้านกยักษ์แกล้งบินลงต่ำกะทันหันด้วยความหมั่นไส้กับคำพูดที่กำกวมของมนุษย์ไร้ขนที่ขี่หลังมันอยู่“ข้าหมายถึงผลท้อ เจ้าจะขัดเคืองอันใดนักหนา!!” อ๋าวหลวนหลงเอื้อมมือไปตบหัวนกอินทรีทีหนึ่งอย่างอดไม่ได้ แต่ใบหน้าคมกลับแดงก่ำที่ถูกจับได้ว่าแอบคิดนอกลู่นอกทางในยามคับขัน“พวกเขาจัดการเจ้าหนอนเหล่านี้ได้แน่นอน เราต้องไปช่วยทางนั้น” อ๋าวหลวนหลงชี้มือไปยังบริเวณชายหาดเพิกเฉยกับการต

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 89 หวาดกลัว

    “ข้ายังมีพลังอ่อนด้อยเกินไป ไม่สามารถติดต่อกับผีเสื้อเกล็ดแก้วที่อยู่ทางใต้ไม่ได้ แต่การที่หวางเซี่ยและคู่ของมันลุกขึ้นมาสู้สุดใจเช่นนี้อาจเกิดเรื่องกับทางหลวนหลง” ฝูซีเอ่ยปากอย่างร้อนรน“คุณชายสี่อยู่ทางนั้นเพียงลำพังหรือเจ้าคะ” มู่เหยาจีก็เพิ่งรู้ว่าอ๋าวหลวนหลงไม่ได้อยู่ร่วมการต่อสู้ทางชายหาดบริเวณนี้“ใช่ เขาต้องรีบผนึกรอยแยกใต้ทะเล ทางนี้พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะปล่อยให้พวกมันขึ้นมาบริเวณน้ำตื้นเพื่อจัดการมันได้ง่ายหน่อย แต่จะไม่ยอมปล่อยให้มันขึ้นฝั่ง การที่หวางเซี่ยพาเกาะลอยกลับลงทะเลลึกอยู่นอกเหนือจากที่เราตกลงกันไว้”“เช่นนั้นข้าจะส่งนกอินทรีออกไปสืบข่าว” ต้าโหวจื้อกระโดดลงจากหลังนกอินทรี แล้วปล่อยให้นกยักษ์บินกลับไปเพียงลำพังเพราะตัวเขายังมีประโยชน์ในการสู้รบกับกลุ่มปีศาจมากมายที่มารวมตัวกันบริเวณนี้ไม่มีเวลาให้ทุกคนได้ไตร่ตรองสิ่งใดต่อไป สัตว์ปีศาจที่เล็ดลอดออกจากรอยแยกใต้ทะเลรวมกับกลุ่มที่หลอกล่อให้มนุษย์หลงไปผิดทางก็มีไม่น้อย พวกเขายังไม่สามารถจัดการมันได้ทั้งหมดหากปราศจากความช่วยเหลือจากผีเสื้อเกล็ดแก้วที่แข็งแกร่งทั้งหกพันตัวอินทรียักษ์บินเลยผ่านหวางเซี่ยที่เคลื่อนตัวไปได้

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 88 สละชีวิต

    เมื่อเห็นหวางเซี่ยพยายามชิงพื้นที่การควบคุมเกาะลอยใต้น้ำไว้อย่างยากลำบาก ผู้ฝึกตนระดับสูงทั้งหกคนก็มุ่งเข้ามาช่วยเหลือปูยักษ์สองสามีภรรยาโดยพร้อมเพรียงกัน“เหยาจี!! เป็นอย่างไรบ้าง” มู่สี่เสินทะยานขึ้นไปบนเกาะไปหาน้องสาวเป็นคนแรก“พี่สี่เสินข้าปลอดภัย พวกมันกำลังพยายามจะขึ้นไปบนฝั่งเจ้าค่ะ”“ฝูซีก็คาดเดาเรื่องนี้ไว้แล้วเช่นกัน เราจะไม่ยอมให้พวกมันเอาต้นท้อสวรรค์กลับลงไปยังแดนปีศาจได้สำเร็จแน่นอน”“พวกเราต้องช่วยหวางเซี่ย ไส้เดือนปีศาจเหล่านั้นแข็งแกร่งมากอีกไม่นานหวางเซี่ยอาจจะทนต่อไปไม่ไหวเจ้าค่ะ”หญิงสาวสงสารและเป็นห่วงปูยักษ์จับใจ ขาทั้งแปดของหวางเซี่ยขยับเขยื้อนได้เพียงเล็กน้อย ความสามารถในการป้องกันตัวแทบจะเป็นศูนย์ แต่โชคดีที่มันมีร่างกายใหญ่โตกว่าไส้เดือนตาบอดเหล่านั้นจึงยังใช้กระดองดันไส้เดือนปีศาจให้อยู่รอบนอกโดยมันควบคุมพื้นที่ใต้เกาะลอยส่วนใหญ่เอาไว้ได้พอดิบพอดีมู่สี่เสินคว้ามือของน้องสาวย่อตัวลงเล็กน้อยและออกแรงกระโดดขึ้นไปอยู่บนร่างของวานรทั้งสองตัวเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้กับปีศาจไส้เดือนที่กำลังพยายามยึดเอาเกาะลอยกลับคืนมาจากหวางเซี่ย……….รอยแยกใต้ทะเลลึกผีเสื้อเกล็ดแก้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status