Share

2

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-03 05:10:31

บทที่ 2

เด็กสาวรีบปาดน้ำตาและเม้มปากแน่นกลั้นสะอื้น แต่สักครู่ก็เบะปากสะอื้นหนักยิ่งกว่าเดิม

เขาหน้าเสียเมื่อเห็นดังนั้น รู้สึกผิดอยู่ในใจ “ปู่ของเธอจะต้องไม่เป็นอะไร เชื่อฉันสิ”

“ช่วย.. ช่วย.. ปู่หนู ด้วย นะคะ” เธอพูดไปสะอื้นไป

เขาเพียงแต่พยักหน้ารับ แล้วช่วยพยุงปู่ของเธอขึ้นรถที่มาจอดเทียบ ให้เธอกับปู่นั่งเบาะหลังด้วยกัน แล้วเปิดประตูนั่งหน้าคู่กับบอดี้การ์ดของตัวเอง

“จะไปส่งที่โรงพยาบาลไหนดีครับ” เอดิสันขอความเห็นจากเจ้านาย เพราะเรื่องนี้อยู่เหนือการตัดสินใจของเขา

“ไปที่ใกล้ที่สุด ฉันรู้สึกว่าปู่ของเธออาการแย่มาก”

“ท่านคะ” เด็กสาวรู้ว่าตัวเองเสียมารยาท ที่เปิดปากแทรกการสนทนาที่ฟังไม่รู้เรื่องของพวกเขา

“ว่าไง”

“ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป ช่วยไปส่งหนูที่โรงพยาบาล...” เธอบอกชื่อสถานพยาบาลที่ระบุไว้ในบัตรทองของปู่

“ปู่ของเธออาการไม่ค่อยดีนะ แน่ใจเหรอว่าจะให้ฉันพาไปส่งที่นั่น..ว่าไง” เขาถามอีกครั้งเมื่อเด็กสาวเอาแต่นั่งนิ่ง มีเพียงสีหน้าเท่านั้นที่แสดงอารมณ์หวั่นวิตกอย่างชัดเจน

“ค่ะ” เธอตัดสินใจเลือกที่จะไปโรงพยาบาลตามบัตรทอง เพราะรู้ตัวดีว่าไม่มีปัญญาจะพาปู่ไปรักษาโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้ได้ และได้แต่หวังว่าปู่จะอาการดีขึ้น

คำตอบของเธอทำให้เขาผิดหวังเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลอาบแก้มขณะที่มองผู้เป็นปู่ไม่วางตาของเธอ เขาก็เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของเธอ

“หนูพอจะสนิทกับหมอที่นั่นอยู่บ้าง หนูจะขอร้องให้เขาช่วยรักษาปู่ของหนูให้หายค่ะ”

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันขณะที่เมินหน้าไปนอกหน้าต่างรถ เธอจะขอร้องให้หมอช่วยอย่างนั้นเหรอ เธอแน่ใจได้อย่างไรว่าหมอจะช่วย เงินตัวเดียวเท่านั้นแหละที่จะช่วยได้ สาวน้อยเอ๋ย ทำไมเธอถึงใสซื่อนักนะ

ยี่สิบนาทีต่อมา ปู่ของเธอก็ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชนระดับห้าดาว คณะแพทย์ต่างรายล้อมตรวจเช็กอาการเบื้องต้นของผู้ป่วย หลังจากนั้นไม่นานก็ถูกส่งต่อไปยังห้องไอซียู เมื่อเขาบอกให้รักษาอย่างดีที่สุด พร้อมกับหยิบแบล็กการ์ดออกมายืนยันคำพูด

เสร็จเรื่องแล้วก็ตั้งใจจะกลับไปทำธุระของตัวเองต่อ จึงเดินไปหาเด็กสาวที่นั่งหน้าเศร้าอยู่หน้าห้องไอซียูเพื่อบอกลา

“ฉันจะกลับแล้วนะ อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม”

เด็กสาวรีบลุกขึ้นแล้วยกมือไหว้เขา “ขอบคุณท่านมาก ๆ นะคะที่เมตตา” แล้วล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงวอร์ม หยิบกระเป๋าใส่เงินพลาสติกลายการ์ตูนราคาถูก ๆ ที่มีขายตามหน้าโรงเรียนออกมา มองหน้าเขาก่อนจะจับมือเขาแล้ววางกระเป๋าลงไป “หนูจ่ายค่ารักษาคุณท่านแค่นี้ก่อนนะคะ แล้วหนูจะหามาใช้ส่วนที่เหลือให้ครบทุกบาททุกสตางค์ แต่คุณท่านอย่าเร่งหนูนะคะ ขอเวลาหนูหางานทำก่อน ส่วนบัตรประชาชนใบนั้น หนูให้ท่านเอาไว้เพื่อเป็นหลักประกันค่ะ” เด็กสาวอธิบายเมื่อเห็นเขาเปิดดูในกระเป๋า แล้วก้มหน้ามองพื้นอย่างระอายแก่ใจ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังเอาเปรียบเขาอย่างมาก

“ปันหยี แซ่กง” เขาอ่านชื่อของเธอตามตัวหนังสือภาษาอังกฤษ แล้วมองที่วันเดือนปีเกิด.. เธอเพิ่งจะพ้นวัยสิบห้าปีมาแค่สี่เดือนเท่านั้น ยังเด็กอยู่เลย เขาบ้าไปแล้วแน่ ๆ ที่มาตกหลุมรักเด็กที่เพิ่งโตแบบนี้ตั้งแต่แรกพบ “มีชื่อเล่นไหม”

เด็กหญิงที่เพิ่งเข้าสู่วัยแตกสาวได้ไม่นานเงยหน้าขึ้น “ชื่อหยินค่ะ”

“หยิน หยาง” อือ.. เข้าท่าดีนะ

“อะไรนะคะ” คำสุดท้ายเขาพูดว่าอะไรเธอได้ยินไม่ชัดเลย

เขามองหน้าเธอแล้วส่งกระเป๋าคืนให้ “เก็บเอาไว้ใช้ หลังจากปู่หายดีแล้วเราค่อยมาคุยกันอีกที”

“ขอบคุณค่ะ” เธอยอมรับกระเป๋าคืนมาอย่างง่ายดาย เพราะใจจริงแล้วเธอจำเป็นต้องเก็บเงินที่มีอยู่ไม่ถึงหนึ่งร้อยบาทนี้เอาไว้กินไว้ใช้อีกหลายมื้อ

“ฉันไปก่อนนะ”

“ค่ะ สวัสดีค่ะ” เธอยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อม มองเขาเดินจากไป “ท่านคะ” และนึกได้ว่ายังไม่รู้จักชื่อของเขาเลย จึงร้องเรียกและวิ่งไปหา “ท่านชื่ออะไรคะ ถ้าปู่ฟื้นขึ้นมาหนูจะได้บอกกับปู่ถูก”

“ฟิลลิป หยาง จำชื่อของฉันเอาไว้ให้ขึ้นใจล่ะปันหยี”

เด็กสาวรู้สึกใจเต้นแรง เมื่อเห็นสายตาที่มองมาของชายหนุ่ม สายตาลุ่มลึกที่เธอไม่รู้ว่ากำลังสื่อถึงอะไร เธอได้แต่มองเขาเดินจากไปจนลับสายตา แล้วจึงเปิดกระเป๋าใบน้อยเพราะรู้สึกหิวเหลือเกิน เธอควรไปหาซื้อมาม่ากินสักถ้วยเพื่อประทังความหิว

แต่ธนบัตรใบสีเทาที่ถูกยัดเอาไว้ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้จำนวนห้าใบในกระเป๋า ทำให้เธออึ้งไปเลยทีเดียว.. แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว รู้สึกอิ่มตื้อไปด้วยความซาบซึ้งในน้ำใจของเขา

สิบวันผ่านไป

ภายในหมู่บ้านที่มีแต่ระดับมหาเศรษฐีอาศัยอยู่ ปู่กับหลานสาวคู่หนึ่งก็มายืนสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่ที่หน้าประตูรั้วของคฤหาสน์ที่หลังใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านนี้ หลังจากที่กดกริ่งให้สัญญาณกับคนในบ้านไปหนึ่งครั้ง

“อ้าวลุง มีอะไรเหรอ” คนสวนที่วิ่งมาดูเอ่ยถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นเป็นภารโรงของหมู่บ้าน

“ลุงจะมาขอพบเจ้าของบ้านหน่อยน่ะ ท่านอยู่ไหม”

“จะมาขอพบใครล่ะ คุณผู้ชายหรือคุณผู้หญิง แล้วลุงมีธุระอะไรกับเจ้านายฉันล่ะ” คนสวนถามอย่างแปลกใจ เพราะพวกเขาไม่น่าจะมีธุระต่อกันได้

“คุณผู้ชายจ้ะน้า คุณฟิลลิป หยางน่ะค่ะ” เด็กสาวเห็นสายตาสงสัยระคนดูแคลนของอีกฝ่าย ก็รีบพูดชื่อออกไปเพื่อที่ฝ่ายนั้นจะได้เชื่อคำพูดของปู่เธอ

“หือ!” คิ้วหนาไร้ระเบียบของคนสวนขมวดเข้าหากันยิ่งกว่าเก่า “คุณฟิลลิปไม่มีหรอก เจ้านายฉันไม่ได้ชื่อฟิลลิป มาผิดบ้านแล้ว”

“เดี๋ยวสิจ๊ะน้า” ปันหยีรีบเรียกคนในบ้านที่ทำท่าจะเดินหนีเอาไว้ “เรามาไม่ผิดบ้านหรอกจ้ะ วันนั้นคุณฟิลลิปเขาได้ช่วยปู่ของหนูไว้ที่หน้าบ้านนี่แหละ แล้วเขาก็บอกหนูเองว่าเขาชื่อฟิลลิป”

“ข้าบอกว่าบ้านนี้ไม่มีคนชื่อฟิลลิปก็ไม่มีสิอีหนู ข้าจะโกหกทำไมล่ะ”

“โวยวายอะไรวะไอ้ชุ่ม” เสียงของสตรีนางหนึ่งดังขึ้นก่อนที่จะเดินมาถึง “มีอะไรวะ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สวาทหวาน   10

    จิตใจของเขาร้อนรุ่มดั่งไฟสุม เมื่อเห็นเด็กสาวอายุราว ๆ ยี่สิบปีเริ่มทยอยออกมายืนที่หน้าร้าน แต่ละนางล้วนแต่งตัวล่อแหลม เชิญชวนให้ผู้ชายที่เดินผ่านไปมาเข้าร้านด้วยท่าทางมีจริต เขาเพ่งมองใบหน้าที่แต่งแต้มสีสันเอาไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีหลานสาวของตนอยู่ในนั้นเกือบครึ่งชั่วโมงผ่านไปเขาก็ยังไม่เห็นวี่แววของหลานสาววัยใส หัวใจที่บีบคั้นด้วยความเคร่งเครียดในตอนแรกจึงเริ่มรู้สึกดีขึ้น เธอคงไม่ได้โกหกเขาหรอก ชื่อคนมันก็ซ้ำกันได้ทั้งนั้น เขากลับไปรอเธอที่บ้านดีกว่า คิดได้ดังนั้นจึงเดินออกจากมุมที่ใช้พรางตัวแล้วเดินกลับบ้าน“จะกลับแล้วเหรอหยิน”“จ้ะ หยินกลับก่อนนะคะพี่ ๆ”เท้าที่กำลังเดินไปข้างหน้าของอุดมชะงักลง เมื่อได้ยินเสียงบอกลาคุ้นหูดังขึ้น เขารีบหันหลังกลับไปมองให้แน่ใจ“หนูหยิน จะกลับแล้วเหรอจ๊ะ”“ค่ะเฮีย”“เฮียบอกว่าจะกลับให้บอกเฮียก่อนทุกครั้งไงล่ะ”“หนูเห็นเฮียคุยโทรศัพท์อยู่ค่ะ ก็เลยไม่กล้ารบกวน”“รบกงรบกวนที่ไหนกัน สำหรับหนูหยินต้องสำคัญกว่าคนอื่นอยู่แล้ว เอานี่กลับไปด้วย เฮียเอาของลูกค้ามาให้หนูก่อนเลยนะ เพราะแม่ครัวบอกว่าหนูไม่ยอมสั่งอาหารกับเขา”“หนูไม่เอาได้ไหมคะเฮีย แค่เฮียจ่า

  • สวาทหวาน   9

    ผู้ชายหน้าตาดี มีฐานะ จะหวังอะไรจากคนแก่ไร้น้ำยาอย่างเขากันล่ะ ถ้าไม่ได้หวังจากตัวหลานสาวที่กำลังเติบโตเป็นสาว และความสวยเริ่มเบ่งบานออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน“ถ้ามันเกี่ยวกับหลานสาวของผม ไม่ว่าจะเรื่องอะไรผมก็ไม่รับทั้งนั้น”“ผมยอมรับครับว่าเกี่ยวกับหนูหยิน แต่ผมก็อยากให้ปู่รับฟังข้อเสนอของผมก่อน แล้วค่อยเอาไปคิดตรึกตรองดูอีกทีก็ได้ มันไม่มีอะไรเสียหายสำหรับปู่และหนูหยินเลยนะครับ ถ้าปู่ตกลงก็แค่ไปอยู่กับผม แต่ถ้าปู่ไม่ตกลงผมก็ไม่ว่าอะไร” ชายหนุ่มหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลส่งให้อีกฝ่าย รอให้ชายชราเปิดซอง หยิบโฉนดออกมาดู “ที่ดินของภรรยาปู่ไงครับ.. ถ้าปู่ยอมรับข้อเสนอของคุณฟิลลิป ที่ดินแปลงนี้จะถูกโอนเป็นของปู่ทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น”อุดมตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่ได้ยิน บุรุษคนนั้นนอกจากออกค่ารักษาให้เขาตั้งหลายแสนแล้ว ตอนนี้เขายังเอาที่ดินโดยชอบธรรมของภรรยามาคืนให้แก่เขาอีก ทั้งหมดที่เขาทำไปนั้น ถ้าเขาไม่หวังผลแล้วเขาจะทำไปทำไม“คุณเอาคืนไปเถอะ” ถึงแม้จะเสียดายเพียงใด แต่เขาก็ต้องตัดใจส่งคืน“คุณปู่ครับ”“ผมจะพยายามหาเงินไปใช้หนี้เจ้านายคุณให้เร็วที่สุด ฝากบอกเขาด้วยนะ”ไซม่อนเข้าใจค

  • สวาทหวาน   8

    ปันหยีตกใจกลัวจนหน้าถอดสี เมื่อเห็นท่าทางก้าวร้าวต่ำทรามของญาติสาว ถ้าอีกฝ่ายทำอย่างที่พูดจริง ๆ เธอก็คงไม่มีปัญญาหนีเอาตัวรอดได้แน่ เพราะตอนนี้เท้าเธอเจ็บอยู่“เรากลับกันก่อนเถอะจ้ะปู่” เธอเขย่าแขนของท่าน ส่งเสียงอ้อนวอนพร้อมกับแววตาหวาดกลัว“มึงอยู่ไหนวะไอ้โย พาพรรคพวกมึงเข้ามาที่บ้านหน่อยสิ”เด็กสาวหวาดกลัวจนน้ำตาไหล เมื่อได้ยินคำพูดของญาติสาวที่พูดผ่านโทรศัพท์มือถือ กัดฟันทนเจ็บ พยุงปู่ที่งก ๆ เงิ่น ๆ ออกจากบ้านญาติอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เท้าจะอำนวยไซม่อนรีบขยับตัวที่ยืนพิงกับรถไปหาปู่กับหลานสาว ที่พากันเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นพร้อมท่าทางหวาดกลัว.. เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดการโต้เถียงอะไรกันบ้างก่อนหน้าที่จะมาถึง แต่สิ่งที่เขาได้ยินก็เริ่มตั้งแต่ที่หญิงสาวร่างยักษ์ผิวคล้ำ ที่เขาขับรถตามเข้ามาห่าง ๆ ไล่สองคนนี้ออกจากบ้าน พร้อมกับขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ และจบลงด้วยการโทรตามสามีของหล่อนให้พาพรรคพวกมาเล่นงาน“คุณอาไซม่อน” เมื่อได้เห็นชายหนุ่ม ร่างกายของเธอก็อ่อนแรงลงไปทันที เธอทรุดลงไปนั่งบนพื้น ไร้เรี่ยวแรงที่จะฝืนให้เข้มแข็งอีกต่อไป น้ำตาไหลรินหนักยิ่งกว่าเดิม เพราะรู้สึกถึงความปลอดภัยในระดับหนึ

  • สวาทหวาน   7

    บทที่ 7“เล็ก”อุดมเดินมาถึงบ้านของน้องเมีย แล้วส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ข้างในบ้าน สักพักนางก็เดินออกมา และทันทีที่ได้เห็นหน้ากันนางก็มีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม“อ้าวพี่ดม ไปไงมาไงล่ะเนี่ย มา ๆ ๆ เข้ามาในบ้านก่อน”ชายชราและหลานสาวเดินเข้าไปในบ้านตามคำเชื้อเชิญ แปลกใจอยู่บ้างที่น้องเมียมีท่าทีแข็งกระด้างไปจากแต่ก่อน เพราะนางไม่ยกมือไหว้เขาเหมือนทุกครั้ง“สวัสดีค่ะย่าเล็ก” เด็กสาวสบโอกาสก็ยกมือไหว้ทักทายน้องสาวแท้ ๆ ของย่า“ไหว้พระเถอะลูก โตเป็นสาวแล้วนะ สวยซะด้วยสิ” สตรีวัยประมาณห้าสิบเศษ ๆ ทักทายกลับ เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบกระบอกน้ำและแก้วพลาสติกมาวางให้แขก “แล้วไปไงมาไงกันล่ะ ถึงได้มาถึงที่นี่ได้”“ก็ตั้งใจมาหาเล็กนั่นแหละ จะมาคุยเรื่องที่ทางสักหน่อย” ชายชราเริ่มต้นคุยอย่างใจเย็น เก็บความสงสัยที่ได้ยินมาจากเพื่อนบ้านเอาไว้ภายในอก“ทำไมเหรอจ๊ะ พี่จะเก็บค่าเช่าจากหลานแล้วเหรอ” เล็กยังคงทำใจดีสู้เสือ ถามไปยิ้มไป“ฉันไม่เก็บเอากับมันหรอก ถึงฉันจะจนแต่ฉันก็เอากับลูกหลานไม่ลงหรอกนะเล็ก”“ถ้าอย่างนั้นพี่จะคุยเรื่องอะไรล่ะ”“แม่เล็กก็รู้ใช่ไหมว่าฉันมีโรคประจำตัว เจ็บออด

  • สวาทหวาน   6

    บทที่ 6“ใช่ครับ ถ้ามีรถเครื่องสักคันก็คงไม่ลำบากแล้วครับ” แต่ถ้าต้องใช้การเดินด้วยเท้ามันก็จัดได้ว่าลำบากมาก เพราะต้องเดินออกจากซอยเล็ก ๆ แห่งนี้ แล้วยังต้องเดินออกไปตามซอยหลักอีกเป็นกิโลกว่าจะถึงถนนหมู่บ้าน“ครับ ผมว่าปู่คิดถูกแล้วครับที่ขาย ที่นี่ไม่เหมาะให้หนูหยินมาอยู่หรอก มันดูเปลี่ยวเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิง” เขาคิดแบบนั้นจริง ๆ แต่ถ้าบริษัทที่เจ้านายเป็นหุ้นส่วน สามารถกว้านซื้อได้หมดมันก็คงจะเจริญในอีกไม่ช้า“ผมไม่อยากขายหรอกครับถ้าไม่จำเป็น เพราะอยากเก็บไว้ให้หลานมากกว่า จอดตรงบ้านหลังนี้เลยครับคุณ” อุดมกล่าวอย่างท้อแท้ แล้วบอกให้เขาจอดที่หน้าบ้านไม้ชั้นเดียวหลังหนึ่ง“เหมือนจะไม่มีคนอยู่นะครับ” ไซม่อนมองผ่านกระจกรถ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีหมาจึงเปิดประตูลงไปสำรวจด้านนอก “บ้านล็อกนะครับ” เขาบอกกับชายชราที่ลงมาจากรถพร้อมกับหลานสาว“คงอยู่ในสวนกันแหละครับ” อุดมคาดเดาและมองไปที่บ้านอีกหลังหนึ่งที่ห่างไปประมาณยี่สิบเมตร และเห็นคนในบ้านนั้นออกมาพอดีจึงโบกมือทักทาย“มาหาใครรึ” ฝ่ายนั้นส่งเสียงถามพร้อมกับเดินมาหา “อุดมใช่หรือเปล่านั่น”“ฉันเองพี่นวล” อุดมยกมือไหว้สตรีที่สูงวัยกว่าเล็กน้อย “

  • สวาทหวาน   5

    บทที่ 5“วันมะรืนนี้คุณช่วยพาสองคนนั้นไปหุบกะพงหน่อยนะ แล้วก็ดูมาด้วยว่าที่ดินของพวกเขาอยู่ติดกับย่านที่เรากำลังกว้านซื้อหรือเปล่า ถ้าใกล้ก็จัดการตามเห็นสมควรได้เลย” เมื่อนั่งอยู่ในรถกับคนสนิทเขาก็เริ่มถ่ายทอดคำสั่งออกไป “ผมบอกพวกเขาไปว่าคุณต้องไปทำธุระแถวนั้นพอดี วางฟอร์มให้ดีล่ะ ดูแลพวกเขาให้ดีด้วยเพราะผมรู้สึกไม่ค่อยดีกับเรื่องนี้เลย” เขาย้ำเพราะสังหรณ์ใจพิกล และลางสังหรณ์ที่เกิดจากความรู้สึกของเขาก็ไม่เคยพลาด“ครับ” ไซม่อนรับคำ ถึงแม้แปลกใจกับการกระทำของเจ้านาย แต่ก็ปิดปากเงียบสนิทอย่างคนรู้นิสัยใจคอสองวันต่อมาเลกซัสแอลเอ็มสีขาวคันหนึ่งก็มาจอดอยู่ที่หน้าห้องเช่าเก่า ๆ ห้องหนึ่ง คนในรถที่สวมแว่นกันแดดฉาบปรอทสีทองเปิดประตูลงมา แล้วถอดแว่นส่งยิ้มทักทายให้ปู่กับหลานที่มองมาด้วยความสนใจใคร่รู้ แต่ก็ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมปันหยีเห็นหนุ่มใหญ่วัยน่าจะประมาณรุ่นพ่อถอดแว่นแล้วส่งยิ้มมาให้ก็จำได้ จึงรีบลุกขึ้นแล้วยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อม“สวัสดีค่ะ หนูนึกว่ารถของคนอื่นซะอีก ก็เลยไม่ได้เดินออกมา”“ไม่เป็นไรจ้ะ ขึ้นรถเถอะ” ไซม่อนบอกกับเด็กสาว“ค่ะ” เด็กสาวรับคำแล้วเดินกลับไปจูงปู่ขึ้นรถ“คุณ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status