Share

3

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-03 05:10:58

บทที่ 3

“ก็ลุงภารโรงน่ะสิ บอกว่าจะมาขอพบเจ้านายเรา แต่บอกว่าเจ้านายเราชื่อฟิลลิป” คนสวนที่ชื่อชุ่มอธิบายให้เพื่อนร่วมงานฟังด้วยท่าทางหงุดหงิด

“อ๋อ” สาวใช้ร้องอ๋อแล้วมองไปที่ด้านนอกพร้อมกับรอยยิ้มเป็นมิตร เพราะเธอเองก็คุ้นเคยกับลุงภารโรงและหลานสาวของเขาอยู่บ้าง “ลุงมาหาคุณฟิลลิปทำไมเหรอ”

“คุณฟิลลิปเป็นใครวะไอ้รุ้ง” คนสวนเริ่มใคร่รู้เมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานรู้จัก

“ญาติของคุณโทนี่เขา เขามาที่นี่ตอนที่แกลากลับบ้านนอกน่ะ แกไปทำงานของแกเถอะ เดี๋ยวฉันคุยกับลุงดมเอง”

“มิน่าล่ะ ข้าถึงไม่รู้จัก ขอโทษทีนะลุง ฉันไม่รู้จริง ๆ” ชุ่มกล่าวขอโทษขอโพยก่อนจะเดินไปทำงานของตน

“ว่าไงลุง มาหาคุณฟิลลิปเขาทำไมเหรอ”

“พวกเราจะมาขอบคุณท่านจ้ะน้า ท่านช่วยพาปู่หนูไปส่งโรงพยาบาลเมื่อหลายวันก่อน ตอนนี้ปู่เขาเริ่มหายดีแล้ว จึงอยากจะมากราบขอบคุณท่านที่เมตตา”

“อ๋อ ไม่ทันแล้วแหละอีหนู คุณเขากลับฮ่องกงไปแล้ว”

“แล้วจะกลับมาอีกเมื่อไหร่จ๊ะ”

“เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้นะ ฉันรู้แต่ว่าท่านเดินทางมาที่เมืองไทยบ่อย ๆ เพราะทำธุรกิจกับคุณโทนี่เจ้านายฉัน แต่ก็แวะมาที่นี่ไม่ค่อยบ่อยนักหรอก”

“แล้วพอจะมีทางติดต่อท่านได้ไหมจ๊ะ คือเราอยากจะคืนเงินค่ารักษาให้ท่านด้วยจ้ะน้า”

“ไม่รู้เหมือนกัน เอาอย่างนี้นะ เดี๋ยวฉันจะไปถามคุณผู้ชายให้ รออยู่ตรงนี้ก่อนนะ” รุ้งให้ความช่วยเหลือพวกเขาอย่างดี

สองชั่วโมงหลังจากนั้น

ปู่กับหลานก็เดินทางมาถึงโรงแรมสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา พวกเขาทั้งสองได้แต่ยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้า ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเท้าผ่านเข้าไป เพราะมันเป็นสถานที่ที่เกินจะอาจเอื้อม

“ลุง มายืนด้อม ๆ มอง ๆ อะไรอยู่ตรงนี้ หลบไปให้พ้นทางเลยไป เดี๋ยวก็ถูกรถชนให้หรอก” ยามที่มีหน้าที่โบกรถให้แขก ต่อว่าชายชรากับหลานสาวที่ยืนรกหูรกตา

“ลุงจะมาหาคนรู้จักที่นี่น่ะพ่อหนุ่ม ลุงต้องทำยังไงบ้าง เดินเข้าไปได้เลยไหม”

“ลุงเนี่ยนะจะมาหาคนรู้จักที่นี่” ยามถามเสียงดังพร้อมกับมองอีกฝ่ายด้วยสายตาดูถูกตั้งแต่หัวจรดเท้า “อย่าหาว่าฉันดูถูกเลยนะลุง แต่ที่นี่คือโรงแรมระดับห้าดาวเลยนะ มีแต่พวกเศรษฐีทั้งนั้นที่เข้าพัก คนไทยนี่นับหัวได้เลย แล้วลุงมาบอกว่ามีคนรู้จักอยู่ที่นี่อะนะ..”

“ใช่”

“ลุงรีบกลับไปเลยไป ฉันไม่มีอารมณ์มาตลกกับลุงหรอกนะ แค่ยืนโบกรถก็เหนื่อยมากพอแล้ว”

“เราพูดจริง ๆ นะ นี่ไงที่อยู่ที่เราได้มา” ปันหยีไม่ได้รู้สึกโกรธยามคนนี้ที่พูดจาดูถูกกัน แต่ก็เสียใจอยู่ลึก ๆ ที่เขาวัดคุณค่าของคนแค่เปลือกนอก

ยามหนุ่มมองเด็กสาววัยรุ่นด้วยสายตาพิจารณา ใบหน้าบึ้งตึงค่อย ๆ มีรอยยิ้มปรากฏ ก่อนจะยื่นมือไปหยิบกระดาษ จงใจจับให้โดนมือของเธอ

“นอกจากเสียงเพราะแล้ว หน้าตาก็ยังสวยอีกด้วยนะหลานลุงเนี่ย” ยามปากเปราะเอ่ยขึ้นขณะที่อ่านตัวหนังสือในกระดาษ “ฉันก็อยากให้เข้าไปหรอกนะ แต่ในเมื่อรู้ว่าต้องมาหาแขกแบบนี้ ทำไมไม่แต่งตัวให้มันดูดีหน่อยล่ะ แต่งแบบนี้ก็เสียราคาหมดสิ”

“เอ็งพูดอะไรของเอ็งวะไอ้หนุ่ม มันจะดูถูกกันมากเกินไปแล้วนะ” อุดมคือคนที่มีความอดทนและใจเย็นมากที่สุดคนหนึ่ง เขามักจะสอนให้หลานสาวรู้จักการให้อภัยและมีเมตตาต่อผู้อื่น สอนให้รู้จักบาปบุญคุณโทษและทางสายกลาง แต่ตอนนี้เขากำลังหมดความอดทน เพราะรู้ว่าไอ้หนุ่มคนนี้ดูถูกหลานสาวของเขาอย่างน่าเกลียด

“ปู่จ๋า” เห็นผู้เป็นปู่แสดงอาการไม่พอใจยามหนุ่ม ปันหยีก็รีบจับแขนของท่านไว้เพื่อเตือนสติ ไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมปู่ที่เคยใจเย็นมาตลอด ต้องโกรธคนปากบอนคนนั้นด้วย

“น่ารักเสียจริงหลานสาวปู่นี่ มีแฟนเป็นตัวเป็นตนหรือยังจ๊ะหนู ถ้ายัง พี่ยังว่างอยู่นะจ๊ะ”

อุดมโกรธจนตัวสั่น เมื่อเห็นรอยยิ้มและสายตาลวนลามที่อีกฝ่ายมองหลานสาว แต่ก็เหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรได้

เวลานั้นเองที่มีบุรุษในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำติดกระดุมครบทุกเม็ด พับแขนเสื้อไว้แค่ศอก ทับในด้วยกางเกงสแล็กสีดำทรงกระบอกเล็ก อวดให้เห็นรูปร่างสูงกำยำสะดุดตาเดินตรงเข้ามาหา

“คุณนั่นเอง” เด็กสาวจำเขาได้ เขาคือคนขับรถของฟิลลิป หยาง เธอรีบยกมือไหว้เขา “สวัสดีค่ะคุณ”

เอดิสันรีบรับไหว้หญิงสาว แล้วค่อยหันไปไหว้ปู่ของเธอ “สวัสดีครับคุณปู่ ทำไมไม่เข้าไปข้างในล่ะครับ รู้ไหมว่าผมรออยู่ที่ล็อบบี้ตั้งนาน” เขาพูดไทยไม่เก่งเหมือนเจ้านาย แต่ก็พูดรู้เรื่อง

อุดมเปลี่ยนสีหน้าให้ยิ้มแย้ม “ผมไม่กล้าเข้าไปหรอกครับคุณ เพราะไม่รู้จะเข้าไปหาคุณที่ไหน”

“ถ้าให้ผมไปรับก็คงไม่ต้องลำบากแบบนี้” เอดิสันผายมือเชื้อเชิญทั้งสองคนอย่างนอบน้อม “เชิญเลยครับ เดินเข้าไปก่อนเลยครับเดี๋ยวผมตามไปเอง” และก่อนที่เขาจะเดินตามไป ก็ไม่ลืมที่จะมองไปที่ยามหนุ่มด้วยสายตาคาดโทษ “นายชื่ออะไร”

ยามหนุ่มพยายามเบี่ยงตัวหนีเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้เห็นชื่อของตน รู้สึกเสียวสันหลังวาบ ๆ กับคำถามของผู้ชายคนนี้

นอกจากคำถามของเขาแล้ว การกระทำอันแสนนอบน้อมของคนที่ดูดีกว่าทุกกระเบียดนิ้วแบบเขา ที่มีต่อปู่กับหลานที่แต่งตัวซอมซ่อนั่น ก็ทำให้ขนหัวลุกไปเลยทีเดียว

“จะรู้ชื่อผมไปทำไมเหรอครับ”

“จะได้ไล่ออกถูกคนไงล่ะ” เอดิสันตอบทิ้งทายก่อนเดินจากไปอย่างไม่แยแส ไม่บอกก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาไปบอกผู้จัดการให้ไล่ออกตอนนี้เลยก็ได้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สวาทหวาน   10

    จิตใจของเขาร้อนรุ่มดั่งไฟสุม เมื่อเห็นเด็กสาวอายุราว ๆ ยี่สิบปีเริ่มทยอยออกมายืนที่หน้าร้าน แต่ละนางล้วนแต่งตัวล่อแหลม เชิญชวนให้ผู้ชายที่เดินผ่านไปมาเข้าร้านด้วยท่าทางมีจริต เขาเพ่งมองใบหน้าที่แต่งแต้มสีสันเอาไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีหลานสาวของตนอยู่ในนั้นเกือบครึ่งชั่วโมงผ่านไปเขาก็ยังไม่เห็นวี่แววของหลานสาววัยใส หัวใจที่บีบคั้นด้วยความเคร่งเครียดในตอนแรกจึงเริ่มรู้สึกดีขึ้น เธอคงไม่ได้โกหกเขาหรอก ชื่อคนมันก็ซ้ำกันได้ทั้งนั้น เขากลับไปรอเธอที่บ้านดีกว่า คิดได้ดังนั้นจึงเดินออกจากมุมที่ใช้พรางตัวแล้วเดินกลับบ้าน“จะกลับแล้วเหรอหยิน”“จ้ะ หยินกลับก่อนนะคะพี่ ๆ”เท้าที่กำลังเดินไปข้างหน้าของอุดมชะงักลง เมื่อได้ยินเสียงบอกลาคุ้นหูดังขึ้น เขารีบหันหลังกลับไปมองให้แน่ใจ“หนูหยิน จะกลับแล้วเหรอจ๊ะ”“ค่ะเฮีย”“เฮียบอกว่าจะกลับให้บอกเฮียก่อนทุกครั้งไงล่ะ”“หนูเห็นเฮียคุยโทรศัพท์อยู่ค่ะ ก็เลยไม่กล้ารบกวน”“รบกงรบกวนที่ไหนกัน สำหรับหนูหยินต้องสำคัญกว่าคนอื่นอยู่แล้ว เอานี่กลับไปด้วย เฮียเอาของลูกค้ามาให้หนูก่อนเลยนะ เพราะแม่ครัวบอกว่าหนูไม่ยอมสั่งอาหารกับเขา”“หนูไม่เอาได้ไหมคะเฮีย แค่เฮียจ่า

  • สวาทหวาน   9

    ผู้ชายหน้าตาดี มีฐานะ จะหวังอะไรจากคนแก่ไร้น้ำยาอย่างเขากันล่ะ ถ้าไม่ได้หวังจากตัวหลานสาวที่กำลังเติบโตเป็นสาว และความสวยเริ่มเบ่งบานออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน“ถ้ามันเกี่ยวกับหลานสาวของผม ไม่ว่าจะเรื่องอะไรผมก็ไม่รับทั้งนั้น”“ผมยอมรับครับว่าเกี่ยวกับหนูหยิน แต่ผมก็อยากให้ปู่รับฟังข้อเสนอของผมก่อน แล้วค่อยเอาไปคิดตรึกตรองดูอีกทีก็ได้ มันไม่มีอะไรเสียหายสำหรับปู่และหนูหยินเลยนะครับ ถ้าปู่ตกลงก็แค่ไปอยู่กับผม แต่ถ้าปู่ไม่ตกลงผมก็ไม่ว่าอะไร” ชายหนุ่มหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลส่งให้อีกฝ่าย รอให้ชายชราเปิดซอง หยิบโฉนดออกมาดู “ที่ดินของภรรยาปู่ไงครับ.. ถ้าปู่ยอมรับข้อเสนอของคุณฟิลลิป ที่ดินแปลงนี้จะถูกโอนเป็นของปู่ทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น”อุดมตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่ได้ยิน บุรุษคนนั้นนอกจากออกค่ารักษาให้เขาตั้งหลายแสนแล้ว ตอนนี้เขายังเอาที่ดินโดยชอบธรรมของภรรยามาคืนให้แก่เขาอีก ทั้งหมดที่เขาทำไปนั้น ถ้าเขาไม่หวังผลแล้วเขาจะทำไปทำไม“คุณเอาคืนไปเถอะ” ถึงแม้จะเสียดายเพียงใด แต่เขาก็ต้องตัดใจส่งคืน“คุณปู่ครับ”“ผมจะพยายามหาเงินไปใช้หนี้เจ้านายคุณให้เร็วที่สุด ฝากบอกเขาด้วยนะ”ไซม่อนเข้าใจค

  • สวาทหวาน   8

    ปันหยีตกใจกลัวจนหน้าถอดสี เมื่อเห็นท่าทางก้าวร้าวต่ำทรามของญาติสาว ถ้าอีกฝ่ายทำอย่างที่พูดจริง ๆ เธอก็คงไม่มีปัญญาหนีเอาตัวรอดได้แน่ เพราะตอนนี้เท้าเธอเจ็บอยู่“เรากลับกันก่อนเถอะจ้ะปู่” เธอเขย่าแขนของท่าน ส่งเสียงอ้อนวอนพร้อมกับแววตาหวาดกลัว“มึงอยู่ไหนวะไอ้โย พาพรรคพวกมึงเข้ามาที่บ้านหน่อยสิ”เด็กสาวหวาดกลัวจนน้ำตาไหล เมื่อได้ยินคำพูดของญาติสาวที่พูดผ่านโทรศัพท์มือถือ กัดฟันทนเจ็บ พยุงปู่ที่งก ๆ เงิ่น ๆ ออกจากบ้านญาติอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เท้าจะอำนวยไซม่อนรีบขยับตัวที่ยืนพิงกับรถไปหาปู่กับหลานสาว ที่พากันเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นพร้อมท่าทางหวาดกลัว.. เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดการโต้เถียงอะไรกันบ้างก่อนหน้าที่จะมาถึง แต่สิ่งที่เขาได้ยินก็เริ่มตั้งแต่ที่หญิงสาวร่างยักษ์ผิวคล้ำ ที่เขาขับรถตามเข้ามาห่าง ๆ ไล่สองคนนี้ออกจากบ้าน พร้อมกับขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ และจบลงด้วยการโทรตามสามีของหล่อนให้พาพรรคพวกมาเล่นงาน“คุณอาไซม่อน” เมื่อได้เห็นชายหนุ่ม ร่างกายของเธอก็อ่อนแรงลงไปทันที เธอทรุดลงไปนั่งบนพื้น ไร้เรี่ยวแรงที่จะฝืนให้เข้มแข็งอีกต่อไป น้ำตาไหลรินหนักยิ่งกว่าเดิม เพราะรู้สึกถึงความปลอดภัยในระดับหนึ

  • สวาทหวาน   7

    บทที่ 7“เล็ก”อุดมเดินมาถึงบ้านของน้องเมีย แล้วส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ข้างในบ้าน สักพักนางก็เดินออกมา และทันทีที่ได้เห็นหน้ากันนางก็มีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม“อ้าวพี่ดม ไปไงมาไงล่ะเนี่ย มา ๆ ๆ เข้ามาในบ้านก่อน”ชายชราและหลานสาวเดินเข้าไปในบ้านตามคำเชื้อเชิญ แปลกใจอยู่บ้างที่น้องเมียมีท่าทีแข็งกระด้างไปจากแต่ก่อน เพราะนางไม่ยกมือไหว้เขาเหมือนทุกครั้ง“สวัสดีค่ะย่าเล็ก” เด็กสาวสบโอกาสก็ยกมือไหว้ทักทายน้องสาวแท้ ๆ ของย่า“ไหว้พระเถอะลูก โตเป็นสาวแล้วนะ สวยซะด้วยสิ” สตรีวัยประมาณห้าสิบเศษ ๆ ทักทายกลับ เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบกระบอกน้ำและแก้วพลาสติกมาวางให้แขก “แล้วไปไงมาไงกันล่ะ ถึงได้มาถึงที่นี่ได้”“ก็ตั้งใจมาหาเล็กนั่นแหละ จะมาคุยเรื่องที่ทางสักหน่อย” ชายชราเริ่มต้นคุยอย่างใจเย็น เก็บความสงสัยที่ได้ยินมาจากเพื่อนบ้านเอาไว้ภายในอก“ทำไมเหรอจ๊ะ พี่จะเก็บค่าเช่าจากหลานแล้วเหรอ” เล็กยังคงทำใจดีสู้เสือ ถามไปยิ้มไป“ฉันไม่เก็บเอากับมันหรอก ถึงฉันจะจนแต่ฉันก็เอากับลูกหลานไม่ลงหรอกนะเล็ก”“ถ้าอย่างนั้นพี่จะคุยเรื่องอะไรล่ะ”“แม่เล็กก็รู้ใช่ไหมว่าฉันมีโรคประจำตัว เจ็บออด

  • สวาทหวาน   6

    บทที่ 6“ใช่ครับ ถ้ามีรถเครื่องสักคันก็คงไม่ลำบากแล้วครับ” แต่ถ้าต้องใช้การเดินด้วยเท้ามันก็จัดได้ว่าลำบากมาก เพราะต้องเดินออกจากซอยเล็ก ๆ แห่งนี้ แล้วยังต้องเดินออกไปตามซอยหลักอีกเป็นกิโลกว่าจะถึงถนนหมู่บ้าน“ครับ ผมว่าปู่คิดถูกแล้วครับที่ขาย ที่นี่ไม่เหมาะให้หนูหยินมาอยู่หรอก มันดูเปลี่ยวเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิง” เขาคิดแบบนั้นจริง ๆ แต่ถ้าบริษัทที่เจ้านายเป็นหุ้นส่วน สามารถกว้านซื้อได้หมดมันก็คงจะเจริญในอีกไม่ช้า“ผมไม่อยากขายหรอกครับถ้าไม่จำเป็น เพราะอยากเก็บไว้ให้หลานมากกว่า จอดตรงบ้านหลังนี้เลยครับคุณ” อุดมกล่าวอย่างท้อแท้ แล้วบอกให้เขาจอดที่หน้าบ้านไม้ชั้นเดียวหลังหนึ่ง“เหมือนจะไม่มีคนอยู่นะครับ” ไซม่อนมองผ่านกระจกรถ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีหมาจึงเปิดประตูลงไปสำรวจด้านนอก “บ้านล็อกนะครับ” เขาบอกกับชายชราที่ลงมาจากรถพร้อมกับหลานสาว“คงอยู่ในสวนกันแหละครับ” อุดมคาดเดาและมองไปที่บ้านอีกหลังหนึ่งที่ห่างไปประมาณยี่สิบเมตร และเห็นคนในบ้านนั้นออกมาพอดีจึงโบกมือทักทาย“มาหาใครรึ” ฝ่ายนั้นส่งเสียงถามพร้อมกับเดินมาหา “อุดมใช่หรือเปล่านั่น”“ฉันเองพี่นวล” อุดมยกมือไหว้สตรีที่สูงวัยกว่าเล็กน้อย “

  • สวาทหวาน   5

    บทที่ 5“วันมะรืนนี้คุณช่วยพาสองคนนั้นไปหุบกะพงหน่อยนะ แล้วก็ดูมาด้วยว่าที่ดินของพวกเขาอยู่ติดกับย่านที่เรากำลังกว้านซื้อหรือเปล่า ถ้าใกล้ก็จัดการตามเห็นสมควรได้เลย” เมื่อนั่งอยู่ในรถกับคนสนิทเขาก็เริ่มถ่ายทอดคำสั่งออกไป “ผมบอกพวกเขาไปว่าคุณต้องไปทำธุระแถวนั้นพอดี วางฟอร์มให้ดีล่ะ ดูแลพวกเขาให้ดีด้วยเพราะผมรู้สึกไม่ค่อยดีกับเรื่องนี้เลย” เขาย้ำเพราะสังหรณ์ใจพิกล และลางสังหรณ์ที่เกิดจากความรู้สึกของเขาก็ไม่เคยพลาด“ครับ” ไซม่อนรับคำ ถึงแม้แปลกใจกับการกระทำของเจ้านาย แต่ก็ปิดปากเงียบสนิทอย่างคนรู้นิสัยใจคอสองวันต่อมาเลกซัสแอลเอ็มสีขาวคันหนึ่งก็มาจอดอยู่ที่หน้าห้องเช่าเก่า ๆ ห้องหนึ่ง คนในรถที่สวมแว่นกันแดดฉาบปรอทสีทองเปิดประตูลงมา แล้วถอดแว่นส่งยิ้มทักทายให้ปู่กับหลานที่มองมาด้วยความสนใจใคร่รู้ แต่ก็ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมปันหยีเห็นหนุ่มใหญ่วัยน่าจะประมาณรุ่นพ่อถอดแว่นแล้วส่งยิ้มมาให้ก็จำได้ จึงรีบลุกขึ้นแล้วยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อม“สวัสดีค่ะ หนูนึกว่ารถของคนอื่นซะอีก ก็เลยไม่ได้เดินออกมา”“ไม่เป็นไรจ้ะ ขึ้นรถเถอะ” ไซม่อนบอกกับเด็กสาว“ค่ะ” เด็กสาวรับคำแล้วเดินกลับไปจูงปู่ขึ้นรถ“คุณ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status