Share

4

last update Last Updated: 2025-09-03 05:11:51

บทที่ 4

หยางอี้มองเด็กสาวและปู่ของเธอ ที่นั่งตัวตรงก้มหน้ามองแต่มือที่วางไว้บนตัก และใช้เวลานี้พิจารณาคนที่ทำให้จิตใจของเขาอยู่ไม่เป็นสุขมาตลอดสิบวัน เด็กสาววัยแค่ประมาณสิบห้าปี หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา ผิวพรรณสะอาดหมดจด เพียงแค่นั้นที่เขามองเห็นในตอนนี้

ทรวดทรงแทบจะไม่มี ตัวก็เล็ก ๆ แกน ๆ ถ้าให้พูดตรง ๆ เธอคือผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในบรรดาผู้หญิงที่เขาเคยคบ แต่แล้วทำไมเขาถึงรู้สึกตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ และคิดถึงเธอได้ขนาดนี้

เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ต้องบ้าแน่ ๆ

“ทำไมถึงเอาแต่นั่งนิ่งล่ะ ถ้าไม่มีอะไรจะพูดฉันจะไปทำงานก่อนนะ แล้วเดี๋ยวเราค่อยมาคุยกัน” ตอนที่ญาติสนิทโทรมาถามไถ่เรื่องนี้ เขาเพิ่งจะลงจากเครื่องได้ไม่ถึงสามชั่วโมง และยอมให้ฝ่ายนั้นบอกที่อยู่แก่พวกเขา โดยอ้างไปว่าพวกเขาคงจะเอาเงินมาคืน เมื่อถูกซักว่าทำไมพวกเขาถึงอยากเจอตนนัก

ปันหยีเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วหันไปมองปู่ พยักหน้าเล็กน้อยเพื่อบอกใบ้ให้ท่านพูด ในสิ่งที่ได้ปรึกษากันมาก่อนหน้านี้อย่างดีแล้ว

อุดมหันไปหาผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ “กระผมกับหลานอยากจะมากราบขอบพระคุณคุณท่านครับ” เขาพูดพร้อมกับยกมือท่วมหัว

ชายหนุ่มยกมือรับไหว้อีกฝ่ายด้วยท่าทางเคร่งขรึมตามสไตล์ “ผมไม่ใช่คนใจดี แต่ก็ทนเห็นคนตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นไม่ต้องคิดมากหรอก ช่วยได้ผมก็ช่วยทุกคนแหละ”

“ขอบพระคุณท่านมากนะครับ”

“ไม่เป็นไร หมดธุระแล้วใช่ไหม”

“คือปู่ของหนูอยากรู้ค่ารักษาทั้งหมดค่ะ” ปันหยีเห็นปู่รู้สึกเหนื่อยกับการพูด จึงตัดสินใจพูดแทนเสียเอง

“อยากรู้ทำไม จะเอาเงินมาคืนฉันเหรอ”

“ค่ะ เราอยากรู้ยอด เราจะได้หาเงินมาใช้คุณ”

“ถ้าเธออยากจะคืนจริง ๆ ฉันคิดแค่ห้าแสนก็พอ เศษอีกแปดหมื่นกว่าบาทฉันลดให้ เธอจะคืนฉันเมื่อไหร่ล่ะ ฉันจะได้บอกให้ผู้ช่วยเตรียมเอกสารค่ารักษาทั้งหมดมาให้” เขาตั้งใจพูดประชดเท่านั้น และต้องแปลกใจเมื่อเห็นอาการตกใจของเธอสงบลงได้อย่างรวดเร็ว

อุดมอยากจะตายไปให้รู้แล้วรู้รอดเมื่อได้ยินยอดค่ารักษา มิน่าล่ะ อาการของเขาถึงได้ดีขึ้นผิดหูผิดตาได้เร็วขนาดนี้ เพราะได้ยาดีหมอดีนี่เอง แต่มันก็แพงเหลือเกิน แพงกว่าที่คิดเอาไว้มาก

“ตอนนี้เรายังไม่มีเงินหรอกครับคุณท่าน แต่ผมจะรีบหามาคืนให้เร็วที่สุด”

“ปู่จะหาจากไหนมาคืนผมล่ะ”

คำถามของเขาถึงแม้จะฟังดูเย็นชา แต่อุดมก็รู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่ถ้อยคำดูถูกเหยียดหยาม ออกจะให้เกียรติด้วยซ้ำไป

“ภรรยาผมมีที่ดินอยู่แปลงหนึ่งที่เพชรบุรีครับ ผมตั้งใจว่าจะเก็บไว้ให้หลาน” ผู้เป็นปู่มองไปที่หลานสาว ลูบศีรษะของเธออย่างรักใคร่และเสียใจในทีเดียวกัน “แต่เขาบอกให้ผมขายที่ดินผืนนั้นเพื่อเอาเงินมาใช้ให้คุณท่านครับ”

ที่ดินในจังหวัดเพชรบุรีทำให้เขาหูผึ่งเล็กน้อย เพราะตอนนี้บริษัทของเขาก็กำลังกว้านซื้อที่ดินในจังหวัดนั้นเพื่อทำเป็นโครงการที่ดินจัดสรร

“อยู่แถวไหนของเพชรบุรีล่ะ”

“หุบกะพงครับ”

“ก็ไม่ไกลนี่” นอกจากไม่ไกลแล้ว ยังเป็นละแวกเดียวกับที่เขากำลังกว้านซื้อด้วยสิ “แล้วปู่คิดว่าจะขายได้สักเท่าไหร่ล่ะ”

“ผมไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้หรอกครับ ขายได้เท่าไหร่ก็คงเท่านั้น แต่คงต้องไปคุยกับหลานของเมียก่อน เพราะเขาขอใช้ที่ของเราปลูกมะนาวขาย ก็ต้องไปบอกให้รับรู้เอาไว้ เขาจะได้ขยับขยายไปที่อื่น”

“ปล่อยเช่าให้เขาปลูกมะนาวเหรอ”

“ไม่ได้ปล่อยเช่าอะไรหรอกครับท่าน เมียผมคิดว่าดีกว่าปล่อยให้เป็นที่รกร้าง เลยปล่อยให้เขาปลูกฟรี ๆ ตั้งหลายปีแล้ว แทบไม่เคยได้กลับไปดูเลย”

ได้ฟังถึงตรงนี้คิ้วเข้มของหยางอี้ก็ไหวเข้าหากันเล็กน้อย รู้สึกกังวลใจแทนปู่กับหลานคู่นี้ขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมา

“จริง ๆ ปู่ไม่ต้องเอาเงินมาคืนผมก็ได้นะ เงินแค่นั้นสำหรับผมไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย”

“ไม่ได้หรอกครับคุณท่าน จะมากจะน้อยผมก็ต้องหามาใช้เท่าที่ผมทำได้ ผมอาจจะตายก่อนที่จะใช้หนี้คุณท่านหมด แต่หลานสาวผมคนนี้จะใช้หนี้ส่วนที่เหลือแทนผมจนครบแน่นอนครับ”

“ผมเพิ่งพาปู่ไปรักษาเองนะ ปู่ก็มาพูดเรื่องตายแล้วเหรอ เราอย่าพูดเรื่องนี้กันเลยนะ แล้วปู่จะไปเพชรบุรีเมื่อไหร่ล่ะ” เขาเปลี่ยนเรื่องคุยพร้อมกับมองนาฬิกาที่ข้อมือ เมื่อเห็นผู้ช่วยส่งสัญญาณบอกใบ้ “ผมมีเวลาคุยด้วยอีกห้านาทีเท่านั้นนะ”

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไม่กวนคุณท่านแล้วครับ”

หยางอี้มองชายชราที่ร่างกายดูทรุดโทรมเกินกว่าวัย ค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นอย่างลำบาก แม้มีหลานสาวช่วยประคอง

“มะรืนนี้ผู้ช่วยของผมต้องไปทำธุระแถวตำบลเขาใหญ่ ปู่จะไปด้วยไหม” เขาทนให้เด็กสาวต้องลำบากเดินทาง พาปู่ที่ไม่แข็งแรงขึ้นรถโดยสารสาธารณะไม่ได้หรอก

“จริงเหรอคะ!” เด็กสาวเผลอแสดงอาการดีใจออกมาทันที

“ไม่เป็นไรครับคุณท่าน เดี๋ยวผมกับหลานนั่งรถตู้ไปก็ได้ครับ” อุดมปฏิเสธอย่างนุ่มนวลเพราะแค่นี้ก็เกรงใจเขาจะแย่แล้ว.. ที่สำคัญไปกว่านั้น เมื่อกี้เขาเห็นสายตาของบุรุษผู้นี้มองหลานสาวเขาแปลก ๆ ถึงแม้จะแค่เสี้ยววินาทีแต่เขาก็เห็น

“ไปรถทัวร์ก็ต้องเสียค่ารถ แต่ถ้าไปกับคนของผมก็ไม่ต้องเสียสักบาท สะดวกสบายกว่าด้วย ปู่ลองคิดดูสิ ปู่ก็ไม่ค่อยแข็งแรง หลานสาวก็ตัวเท่านี้ ถ้าเกิดเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาอย่างคราวก่อนจะทำยังไง”

“จริงด้วยจ้ะปู่ ไหน ๆ มันก็เป็นทางผ่านของเขาอยู่แล้ว เราติดรถเขาไปดีกว่านะ แทนที่จะเสียค่ารถสองเที่ยว เราก็เสียแค่เที่ยวกลับเที่ยวเดียวเท่านั้น” เด็กสาวขยับปากไปใกล้ ๆ หูของปู่แล้วกระซิบเบา ๆ “เราจะได้มีเงินเหลือใช้หนี้เพิ่มขึ้นอีกหน่อยไงจ๊ะปู่”

“แต่ปู่เกรงใจคุณท่านเขา”

“ไม่ต้องเกรงใจผมหรอก เพราะผมไม่ได้ไปด้วย คนที่ไปคือคนนั้นต่างหาก” เขาชี้ไปที่ผู้ช่วยส่วนตัว ที่ทำทุกหน้าที่ได้อย่างดีไม่มีขาดตก “เขาชื่อไซม่อน เป็นมือขวาของผมเอง”

เด็กสาวหันไปมองตามคำแนะนำ เมื่อเห็นเขาคนนั้นโค้งศีรษะทักทายมาให้พร้อมรอยยิ้ม ก็ยกมือไหว้กลับไปพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร

การกระทำของเธอ ตกอยู่ในสายตาคมดุจเหยี่ยวของหยางอี้ตั้งแต่ต้นจนจบ รู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่เธอแจกรอยยิ้มให้คนของเขาไปทั่วแบบนี้ เพราะเขาอยากให้เธอยิ้มให้เขาคนเดียวเท่านั้น ถึงแม้มันจะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม

“ผมต้องไปแล้ว เดี๋ยวจะให้เอดิสันไปส่งก็แล้วกันนะ”

“ไม่ต้องหรอกครับ เรากลับเองได้”

“ไม่เป็นไร นั่งรอก่อนนะ” สั้น ๆ ง่าย ๆ แค่ไม่กี่คำ ทำให้ปู่กับหลานต้องนั่งลงที่เดิม ได้แต่ส่งสายตามองตามร่างสูงสมส่วน หน้าตาหล่อราวเทพบุตรเดินจากไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สวาทหวาน   10

    จิตใจของเขาร้อนรุ่มดั่งไฟสุม เมื่อเห็นเด็กสาวอายุราว ๆ ยี่สิบปีเริ่มทยอยออกมายืนที่หน้าร้าน แต่ละนางล้วนแต่งตัวล่อแหลม เชิญชวนให้ผู้ชายที่เดินผ่านไปมาเข้าร้านด้วยท่าทางมีจริต เขาเพ่งมองใบหน้าที่แต่งแต้มสีสันเอาไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีหลานสาวของตนอยู่ในนั้นเกือบครึ่งชั่วโมงผ่านไปเขาก็ยังไม่เห็นวี่แววของหลานสาววัยใส หัวใจที่บีบคั้นด้วยความเคร่งเครียดในตอนแรกจึงเริ่มรู้สึกดีขึ้น เธอคงไม่ได้โกหกเขาหรอก ชื่อคนมันก็ซ้ำกันได้ทั้งนั้น เขากลับไปรอเธอที่บ้านดีกว่า คิดได้ดังนั้นจึงเดินออกจากมุมที่ใช้พรางตัวแล้วเดินกลับบ้าน“จะกลับแล้วเหรอหยิน”“จ้ะ หยินกลับก่อนนะคะพี่ ๆ”เท้าที่กำลังเดินไปข้างหน้าของอุดมชะงักลง เมื่อได้ยินเสียงบอกลาคุ้นหูดังขึ้น เขารีบหันหลังกลับไปมองให้แน่ใจ“หนูหยิน จะกลับแล้วเหรอจ๊ะ”“ค่ะเฮีย”“เฮียบอกว่าจะกลับให้บอกเฮียก่อนทุกครั้งไงล่ะ”“หนูเห็นเฮียคุยโทรศัพท์อยู่ค่ะ ก็เลยไม่กล้ารบกวน”“รบกงรบกวนที่ไหนกัน สำหรับหนูหยินต้องสำคัญกว่าคนอื่นอยู่แล้ว เอานี่กลับไปด้วย เฮียเอาของลูกค้ามาให้หนูก่อนเลยนะ เพราะแม่ครัวบอกว่าหนูไม่ยอมสั่งอาหารกับเขา”“หนูไม่เอาได้ไหมคะเฮีย แค่เฮียจ่า

  • สวาทหวาน   9

    ผู้ชายหน้าตาดี มีฐานะ จะหวังอะไรจากคนแก่ไร้น้ำยาอย่างเขากันล่ะ ถ้าไม่ได้หวังจากตัวหลานสาวที่กำลังเติบโตเป็นสาว และความสวยเริ่มเบ่งบานออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน“ถ้ามันเกี่ยวกับหลานสาวของผม ไม่ว่าจะเรื่องอะไรผมก็ไม่รับทั้งนั้น”“ผมยอมรับครับว่าเกี่ยวกับหนูหยิน แต่ผมก็อยากให้ปู่รับฟังข้อเสนอของผมก่อน แล้วค่อยเอาไปคิดตรึกตรองดูอีกทีก็ได้ มันไม่มีอะไรเสียหายสำหรับปู่และหนูหยินเลยนะครับ ถ้าปู่ตกลงก็แค่ไปอยู่กับผม แต่ถ้าปู่ไม่ตกลงผมก็ไม่ว่าอะไร” ชายหนุ่มหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลส่งให้อีกฝ่าย รอให้ชายชราเปิดซอง หยิบโฉนดออกมาดู “ที่ดินของภรรยาปู่ไงครับ.. ถ้าปู่ยอมรับข้อเสนอของคุณฟิลลิป ที่ดินแปลงนี้จะถูกโอนเป็นของปู่ทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น”อุดมตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่ได้ยิน บุรุษคนนั้นนอกจากออกค่ารักษาให้เขาตั้งหลายแสนแล้ว ตอนนี้เขายังเอาที่ดินโดยชอบธรรมของภรรยามาคืนให้แก่เขาอีก ทั้งหมดที่เขาทำไปนั้น ถ้าเขาไม่หวังผลแล้วเขาจะทำไปทำไม“คุณเอาคืนไปเถอะ” ถึงแม้จะเสียดายเพียงใด แต่เขาก็ต้องตัดใจส่งคืน“คุณปู่ครับ”“ผมจะพยายามหาเงินไปใช้หนี้เจ้านายคุณให้เร็วที่สุด ฝากบอกเขาด้วยนะ”ไซม่อนเข้าใจค

  • สวาทหวาน   8

    ปันหยีตกใจกลัวจนหน้าถอดสี เมื่อเห็นท่าทางก้าวร้าวต่ำทรามของญาติสาว ถ้าอีกฝ่ายทำอย่างที่พูดจริง ๆ เธอก็คงไม่มีปัญญาหนีเอาตัวรอดได้แน่ เพราะตอนนี้เท้าเธอเจ็บอยู่“เรากลับกันก่อนเถอะจ้ะปู่” เธอเขย่าแขนของท่าน ส่งเสียงอ้อนวอนพร้อมกับแววตาหวาดกลัว“มึงอยู่ไหนวะไอ้โย พาพรรคพวกมึงเข้ามาที่บ้านหน่อยสิ”เด็กสาวหวาดกลัวจนน้ำตาไหล เมื่อได้ยินคำพูดของญาติสาวที่พูดผ่านโทรศัพท์มือถือ กัดฟันทนเจ็บ พยุงปู่ที่งก ๆ เงิ่น ๆ ออกจากบ้านญาติอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เท้าจะอำนวยไซม่อนรีบขยับตัวที่ยืนพิงกับรถไปหาปู่กับหลานสาว ที่พากันเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นพร้อมท่าทางหวาดกลัว.. เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดการโต้เถียงอะไรกันบ้างก่อนหน้าที่จะมาถึง แต่สิ่งที่เขาได้ยินก็เริ่มตั้งแต่ที่หญิงสาวร่างยักษ์ผิวคล้ำ ที่เขาขับรถตามเข้ามาห่าง ๆ ไล่สองคนนี้ออกจากบ้าน พร้อมกับขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ และจบลงด้วยการโทรตามสามีของหล่อนให้พาพรรคพวกมาเล่นงาน“คุณอาไซม่อน” เมื่อได้เห็นชายหนุ่ม ร่างกายของเธอก็อ่อนแรงลงไปทันที เธอทรุดลงไปนั่งบนพื้น ไร้เรี่ยวแรงที่จะฝืนให้เข้มแข็งอีกต่อไป น้ำตาไหลรินหนักยิ่งกว่าเดิม เพราะรู้สึกถึงความปลอดภัยในระดับหนึ

  • สวาทหวาน   7

    บทที่ 7“เล็ก”อุดมเดินมาถึงบ้านของน้องเมีย แล้วส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ข้างในบ้าน สักพักนางก็เดินออกมา และทันทีที่ได้เห็นหน้ากันนางก็มีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม“อ้าวพี่ดม ไปไงมาไงล่ะเนี่ย มา ๆ ๆ เข้ามาในบ้านก่อน”ชายชราและหลานสาวเดินเข้าไปในบ้านตามคำเชื้อเชิญ แปลกใจอยู่บ้างที่น้องเมียมีท่าทีแข็งกระด้างไปจากแต่ก่อน เพราะนางไม่ยกมือไหว้เขาเหมือนทุกครั้ง“สวัสดีค่ะย่าเล็ก” เด็กสาวสบโอกาสก็ยกมือไหว้ทักทายน้องสาวแท้ ๆ ของย่า“ไหว้พระเถอะลูก โตเป็นสาวแล้วนะ สวยซะด้วยสิ” สตรีวัยประมาณห้าสิบเศษ ๆ ทักทายกลับ เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบกระบอกน้ำและแก้วพลาสติกมาวางให้แขก “แล้วไปไงมาไงกันล่ะ ถึงได้มาถึงที่นี่ได้”“ก็ตั้งใจมาหาเล็กนั่นแหละ จะมาคุยเรื่องที่ทางสักหน่อย” ชายชราเริ่มต้นคุยอย่างใจเย็น เก็บความสงสัยที่ได้ยินมาจากเพื่อนบ้านเอาไว้ภายในอก“ทำไมเหรอจ๊ะ พี่จะเก็บค่าเช่าจากหลานแล้วเหรอ” เล็กยังคงทำใจดีสู้เสือ ถามไปยิ้มไป“ฉันไม่เก็บเอากับมันหรอก ถึงฉันจะจนแต่ฉันก็เอากับลูกหลานไม่ลงหรอกนะเล็ก”“ถ้าอย่างนั้นพี่จะคุยเรื่องอะไรล่ะ”“แม่เล็กก็รู้ใช่ไหมว่าฉันมีโรคประจำตัว เจ็บออด

  • สวาทหวาน   6

    บทที่ 6“ใช่ครับ ถ้ามีรถเครื่องสักคันก็คงไม่ลำบากแล้วครับ” แต่ถ้าต้องใช้การเดินด้วยเท้ามันก็จัดได้ว่าลำบากมาก เพราะต้องเดินออกจากซอยเล็ก ๆ แห่งนี้ แล้วยังต้องเดินออกไปตามซอยหลักอีกเป็นกิโลกว่าจะถึงถนนหมู่บ้าน“ครับ ผมว่าปู่คิดถูกแล้วครับที่ขาย ที่นี่ไม่เหมาะให้หนูหยินมาอยู่หรอก มันดูเปลี่ยวเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิง” เขาคิดแบบนั้นจริง ๆ แต่ถ้าบริษัทที่เจ้านายเป็นหุ้นส่วน สามารถกว้านซื้อได้หมดมันก็คงจะเจริญในอีกไม่ช้า“ผมไม่อยากขายหรอกครับถ้าไม่จำเป็น เพราะอยากเก็บไว้ให้หลานมากกว่า จอดตรงบ้านหลังนี้เลยครับคุณ” อุดมกล่าวอย่างท้อแท้ แล้วบอกให้เขาจอดที่หน้าบ้านไม้ชั้นเดียวหลังหนึ่ง“เหมือนจะไม่มีคนอยู่นะครับ” ไซม่อนมองผ่านกระจกรถ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีหมาจึงเปิดประตูลงไปสำรวจด้านนอก “บ้านล็อกนะครับ” เขาบอกกับชายชราที่ลงมาจากรถพร้อมกับหลานสาว“คงอยู่ในสวนกันแหละครับ” อุดมคาดเดาและมองไปที่บ้านอีกหลังหนึ่งที่ห่างไปประมาณยี่สิบเมตร และเห็นคนในบ้านนั้นออกมาพอดีจึงโบกมือทักทาย“มาหาใครรึ” ฝ่ายนั้นส่งเสียงถามพร้อมกับเดินมาหา “อุดมใช่หรือเปล่านั่น”“ฉันเองพี่นวล” อุดมยกมือไหว้สตรีที่สูงวัยกว่าเล็กน้อย “

  • สวาทหวาน   5

    บทที่ 5“วันมะรืนนี้คุณช่วยพาสองคนนั้นไปหุบกะพงหน่อยนะ แล้วก็ดูมาด้วยว่าที่ดินของพวกเขาอยู่ติดกับย่านที่เรากำลังกว้านซื้อหรือเปล่า ถ้าใกล้ก็จัดการตามเห็นสมควรได้เลย” เมื่อนั่งอยู่ในรถกับคนสนิทเขาก็เริ่มถ่ายทอดคำสั่งออกไป “ผมบอกพวกเขาไปว่าคุณต้องไปทำธุระแถวนั้นพอดี วางฟอร์มให้ดีล่ะ ดูแลพวกเขาให้ดีด้วยเพราะผมรู้สึกไม่ค่อยดีกับเรื่องนี้เลย” เขาย้ำเพราะสังหรณ์ใจพิกล และลางสังหรณ์ที่เกิดจากความรู้สึกของเขาก็ไม่เคยพลาด“ครับ” ไซม่อนรับคำ ถึงแม้แปลกใจกับการกระทำของเจ้านาย แต่ก็ปิดปากเงียบสนิทอย่างคนรู้นิสัยใจคอสองวันต่อมาเลกซัสแอลเอ็มสีขาวคันหนึ่งก็มาจอดอยู่ที่หน้าห้องเช่าเก่า ๆ ห้องหนึ่ง คนในรถที่สวมแว่นกันแดดฉาบปรอทสีทองเปิดประตูลงมา แล้วถอดแว่นส่งยิ้มทักทายให้ปู่กับหลานที่มองมาด้วยความสนใจใคร่รู้ แต่ก็ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมปันหยีเห็นหนุ่มใหญ่วัยน่าจะประมาณรุ่นพ่อถอดแว่นแล้วส่งยิ้มมาให้ก็จำได้ จึงรีบลุกขึ้นแล้วยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อม“สวัสดีค่ะ หนูนึกว่ารถของคนอื่นซะอีก ก็เลยไม่ได้เดินออกมา”“ไม่เป็นไรจ้ะ ขึ้นรถเถอะ” ไซม่อนบอกกับเด็กสาว“ค่ะ” เด็กสาวรับคำแล้วเดินกลับไปจูงปู่ขึ้นรถ“คุณ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status