ตอนที่ 3 เจอกันอีกครั้ง
3 เดือนผ่านไป
' 3 เดือน ' กับการที่คุณหมอตามหาเจ้าของตีสตริงสีแดงแต่ทำยังไงก็ไม่เจอสักที เพราะเขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของเธอเลยด้วยซ้ำ หลังจากวันนั้นเขาก็มาที่ผับนี้อีกบ่อยๆ หวังเพียงที่จะเจอกับเธออีกครั้งแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเธอจะมาอีกเลย หรือเป็นเพราะเธอขยาดกับการกินเหล้าเมาและไปมีอะไรกับผู้ชายแปลกหน้า
แต่ก็นะระยะเวลา 3 เดือนมันนานเกินไปหนำซ้ำช่วงนี้เขาก็ยุ่งอยู่กับคนไข้ต้องบินไปกลับกรุงเทพและโรงพยาบาลที่สุราษฎร์บ่อยๆ มันจึงทำให้เขาล้มเลิกความตั้งใจที่จะตามหาเธอแล้ว เขาคิดว่าป่านนี้เธอคงจะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจ
ก่อนที่วันนี้เขาจะรีบตื่นแต่เช้าอันที่จริงมันควรจะเป็นวันหยุดของเขาด้วยซ้ำ ในใจกะว่าจะนอนพักผ่อนอยู่บ้านอย่างสบายใจเฉิบโดยที่ไม่ต้องกังวลอะไร
เพราะวันนี้เขาไม่มีตรวจคนไข้เลยแม้แต่คนเดียว กับกันนอกจากเขาจะไม่ได้พักแล้ว ยังต้องมาทำหน้าที่เป็นคุณหมอจำเป็นในการตรวจรักษาคนไข้ที่เพื่อนของเขาอย่างรพีเป็นคนพามาอีก
ฐาณัฐหรือคุณหมอณัฐหนุ่มรูปงานที่มีดีกรีเป็นถึงลูกชายของท่านรัฐมนตรี ฉายาที่สาวๆในโรงพยาบาลพูดถึงคือคุณหมอเจ้าระเบียบ ก็เขาเป็นคนที่เนียบมากๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งตัวบุคลิกท่าทางรวมไปถึงคำพูดคำจา ไม่มีใครเคยได้ยินคุณหมอหนุ่มสุดหล่อพูดคำหยาบเลยสักคำ
ที่สำคัญเขาเป็นคนที่ตรงต่อเวลามากเรียกได้ว่าเป๊ะยิ่งกว่านาฬิกา ก็เขาเป็นคุณหมอรักษาโรคกระเพาะการตรงต่อเวลาถือเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารหรือแม้แต่การมาทำงานก็ไม่เคยสายเลยสักครั้งเดียว
และแน่นอนว่าใครที่ทำงานกับเขาเป็นอันต้องเป๊ะทุกคน ถ้าไม่เป็นไปตามที่เขาคิดว่าดีก็ไม่สามารถทำงานด้วยกันได้เช่นเดียวกัน นั่นจึงเป็นที่มาของคำว่าคุณหมอเจ้าระเบียบเป๊ะทุกระเบียดนิ้ว เปลี่ยนผู้ช่วยคนใหม่เป็นว่าเล่น
แต่ไหนใครจะรู้ว่าภายนอกดูเป็นคนที่สุขุมเยือกเย็นเรียบร้อยขนาดนี้ แต่ภายในไม่ใช่อย่างที่คิดเขาเป็นคนที่เซ็กส์จัด กินดุและกินจุมากๆ เรียกได้ว่าว่างเมื่อไหร่จะจับเยตลอด และสาวๆที่เขามักจะใช้บริการเป็นอันรู้ดีว่าจะไม่เปิดเผยตัวตนพวกนี้ให้ใครเขารู้
ก็พ่อเขาเป็นถึงรัฐมนตรีถ้ามีเรื่องอื้อฉาวของลูกชายออกไปมันคงจะส่งผลกระทบไม่น้อย มันจึงทำให้เขาต้องคีบลุกอยู่ตลอดเวลา และไม่ว่าผู้หญิงคนไหนที่ได้นอนกับเขาไปแล้วได้เงินปิดปากก็จะเป็นอันเงียบทุกราย
จะมีก็แต่หญิงสาวนางหนึ่งที่ไม่รู้ว่าเธอเป็นใครและตอนนี้ก็ตามหาไม่เจอ เขาคิดว่าหญิงสาวคนนั้นคงจะไม่รู้จักเขา เพราะถ้าเธอคนนั้นรู้คงจะเอาเรื่องที่เธอนอนกับเขาไปป่าวประกาศให้เขาและวงศ์ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียงไปนานแล้ว
เขาคิดว่ามันไม่คุ้มหรอกกับการที่เธอจะไปโพธนา หรือเรียกง่ายๆก็คือประจานตัวเองต่อหน้าสาธารณชน ว่าเธอนั้นเสียซิงให้กับเขาซึ่งตัวเธอเองก็เป็นคนมาเสนอให้เขาเอาเอง
โรงพยาบาลรคนทวี
“ แกฉันตื่นเต้นอะ ฉันกลัวจะเป็นอะไรร้ายแรง ช่วงนี้ฉันรู้สึกอ่อนเพลียไม่ค่อยมีแรง ที่สำคัญรู้สึกเหมือนมันเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา “
เสียงหญิงสาวร่างบางมีนามว่าฟ้าลดาวันนี้เธอถูกพี่ชายของเพื่อนสาวลากมาเพื่อตรวจสุขภาพ ก็ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเธอรู้สึกพะอืดพะอมหน้ามืดเวียนหัวอยู่ตลอดยิ่งนับวันก็ยิ่งหนักขึ้น ตอนแรกเธอก็คิดว่าคงจะป่วยหรืออาจจะเป็นเพราะนอนน้อยมันก็คงเป็นเรื่องปกติ
แต่ทำยังไงได้พี่ชายของเพื่อนดันไม่ยอมและจะลากเธอมาโรงพยาบาลท่าเดียว นั่นจึงทำให้เธอต้องมาตามคำบัญชาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเธอรู้สึกเกรงใจและนับถือเขาเป็นพี่ชายของเธอคนหนึ่งเหมือนกัน
“ ใจเย็นๆแกไม่ได้เป็นอะไรหรอกน่าอย่าเพิ่งคิดไปไกลสิ บางทีแกก็อาจจะแค่ป่วยธรรมดาเท่านั้นเองหรืออาจจะเป็นโรคกระเพาะ ที่สำคัญแกเจออะไรมาหนักหนาสาหัสก็คงไม่แปลกหรอกที่จะไม่ค่อยมีแรง “
รติสาวสวยร่างบางเอ่ยปลอบใจเพื่อนสาว เพราะตัวเธอนั้นไม่อยากให้เพื่อนต้องเป็นกังวลกลัวว่าถ้าเกิดอะไรร้ายแรงแล้วเพื่อนของเธอที่นั่งอยู่ข้างๆจะรับไม่ไหว แค่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เพื่อนได้ประสบพบเจอมันก็หนักหนาสาหัสมากพออยู่แล้ว มันคงไม่แปลกที่เพื่อนจะมีอาการอ่อนเพลียไม่มีแรงแบบนี้
เธอคิดว่าสิ่งที่เพื่อนเป็นก็คงจะไม่พ้นนอนพักผ่อนไม่เพียงพอหรือไม่ก็โรคกระเพาะถามหา เพราะช่วงนี้เพื่อนสาวกินข้าวไม่ค่อยตรงเวลาหรือบางมื้อก็ไม่ได้กินเลย ต่างจากเธอที่กินไม่เป็นเวลาจนร่างกายมันปรับตัวและชินไปแล้ว
แต่เพื่อนของเธอนี่สิไม่เคยเป็นแบบนั้น ซึ่งเธอก็ไม่ได้รู้สึกนิ่งนอนใจกับกันยังคอยขยั้นขยอร่างบางข้างๆอีกด้วย เธอไม่อยากให้เพื่อนสาวต้องมาเป็นโรคกระเพาะเหมือนๆกันกับเธอ เพราะรู้ว่ามันทรมานมากแค่ไหนเวลาที่ปวดจนทนไม่ไหว
และในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยสิ่งอย่างมากมายประตูห้องก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นคุณหมอหนุ่มคนหนึ่ง ร่างกายสูงโปร่งผิวขาวสะอาดตา แต่รติไม่สามารถเห็นหน้าได้เพราะถูกรพีผู้เป็นพี่ชายบังเอาไว้จนมิดเลย ต่างจากฟ้าลดาที่เธอเข้าไปตรวจกับคุณหมอหนุ่มจนเห็นหน้าค่าตากันหมดแล้ว
ก่อนที่รพีจะทำการถามเพื่อนชายตรงหน้าที่เป็นคุณหมอรักษาโรคกระเพราะ เขาอุตส่าห์โทรให้เพื่อนมารักษาเคสนี้โดยตรงเพราะเป็นห่วงร่างบางกลัวว่าจะเกิดอะไรร้ายแรงขึ้น และนั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้คุณหมอหนุ่มอย่างหมอณัฐต้องสละเวลาพักผ่อนอันมีค่าที่แทบจะเหลือน้อยเพื่อมาตรวจคนไข้คนพิเศษของเพื่อนสนิทอย่างรพี
เขาทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยสอบเข้ามหาลัย ก็ด้วยความที่เรียนสาขาเดียวกันจึงทำให้ทั้งสองสนิทกันมาตั้งแต่นั้น ปัจจุบันก็ยังคงเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทที่ไม่ว่ามีเรื่องอะไรก็จะคอยปรึกษากันอยู่เสมอ
“ เป็นไงบ้างวะ ผลออกมาเป็นยังไงบ้าง “
“ มึงใจเย็นๆก่อนให้เจ้าตัวเขารู้ผลเอง “
หมอณัฐได้ยินที่เพื่อนชายพูดก็เอือมระอากรอกตามองบน ก็นะเขาเพิ่งจะเดินออกมายังไม่ทันไรเรียกได้ว่ายังหายใจไม่ทันทั่วท้องเลยด้วยซ้ำ เพื่อนของเขาก็เอ่ยถามขึ้นมาแล้วต่างจากเจ้าตัวที่ยังไม่ทุกเนื้อร้อนใจอะไรเลย เขาละเชื่อเลยว่ารพีเพื่อนชายของเขานั้นเป็นเอามากจริงๆ
“ จากผลตวรจ….“
คุณหมอหนุ่มทำการเลี่ยงเดินหลบเพื่อนก่อนที่จะมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าฟ้าลดา เขาต้องการจะบอกผลตรวจของคนไข้เพื่อที่จะได้ให้เพื่อนของเขาได้ฟังด้วย แต่ยังไม่ทันไรเขาก็ต้องชะงักไป เพราะผู้หญิงตรงหน้าที่ไม่ใช่คนไข้ของเขามีหน้าตาที่คุ้นดีซะเหลือเกิน ซึ่งเขาคิดว่าตัวเองจำไม่ผิดอย่างแน่นอน
ก่อนที่ริมฝีปากจะกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างคนมีเลศนัยแต่ก็ต้องรีบปรับให้เป็นปกติ เมื่อหญิงสาวคนนั้นมองกลับมา และเมื่อคนที่ถูกมองรู้สึกว่ามีสายตาอันคมเฉี่ยวเล็งมาที่เธอ มันจึงทำให้ร่างบางต้องสบสายตาประสานเข้าหากันและเป็นอันต้องชะงักไป
เธอรู้สึกกระวนกระวายหัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เลือดลมสูบฉีดลมหายใจเข้าออกไม่สม่ำเสมอบ่งบอกถึงความเป็นกังวล ก่อนที่ตัวจะสะดุ้งตกใจเพราะได้ยินเสียงของผู้เป็นพี่ชายพูดแทรกขึ้นมา และนั่นก็ทำให้คนตัวเล็กต้องปรับสีหน้าท่าทางบุคลิกต่างๆให้ดูเป็นปกติที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจของพี่ชายและเพื่อนสนิท
“ รออะไรวะไอ้ณัฐ มึงก็พูดมาสักทีสิกูรอฟังอยู่ “
เมื่อเพื่อนกำลังจะพูดแต่ก็ไม่ยอมเอื้อนเอ่ยออกมาสักที มันจึงทำให้รพีรู้สึกขัดใจทั้งๆที่ตอนแรกเขาขยันขยอถามแล้วแต่เพื่อนก็ยังไม่ยอมบอก ดันมาบอกกับคนไข้โดยตรงซึ่งเขาต้องเดินตามมา
แต่ผลสรุปที่ได้ก็คือเหมือนพิกุลจะร่วงหลุดออกจากปาก ก็เพื่อนของเขาเล่นไม่ยอมพูดแถมยังชะงักไป เขาก็อยากจะรู้ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง ถ้าร้ายแรงอะไรขึ้นมาเขาก็จะได้รักษาทัน เขาจะไม่ยอมปล่อยให้คนที่ชอบต้องเป็นอะไรไปเด็ดขาด
“ อะ อ๋อๆ จากผลตรวจก็ไม่มีอะไรมากปกติดีทุกอย่างแค่ช่วงนี้ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ 5 สัปดาห์แล้วครับ “
ในที่สุดคุณหมอสุดหล่อก็ไขปริศนาที่ทุกคนกำลังตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบ ตัวรพีเองถึงกับช็อคและไปไม่เป็นหญิงสาวที่เขาหมายปองมาตั้งนานอยู่ๆดันตั้งท้อง ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าเธอไปท้องตอนไหนอะไรยังไงที่คิดไว้ในตอนแรกคือเธอคงจะแค่เป็นแค่โรคกระเพาะถามหา ก็เห็นๆกันอยู่ว่าร่างบางปกติทุกอย่างไม่เคยคบใครไม่เคยมีแฟนแล้วไหนเรื่องทุกอย่างถึงได้กลายมาเป็นแบบนี้ไปได้
แต่ใดๆคือความตกใจของรพียังเทียบไม่ได้กับเจ้าตัวเธอรู้สึกไปไม่เป็นเพราะตัวเธอเองก็ไม่คิดว่าผลมันจะออกมาเป็นแบบนี้ทั้งๆที่ก็กินยาคุมมาโดยตลอดไม่มีผิดเพี้ยนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
หนำซ้ำตัวเธอเป็นพยาบาลซะเปล่าเรื่องแค่นี้ทำไมถึงปล่อยให้เกิดขึ้นได้ ทั้งๆที่บอกกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้ตัวเองท้องทั้งๆที่ไม่มีพ่อเด็ดขาด กับกันดูเหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิตกำหนดให้มันออกมาเป็นแบบนี้
“ ไม่เป็นไรนะแกฉันจะอยู่เคียงข้างแกเสมอ “
รติเห็นเพื่อนท่าไม่ดีก็เอ่ยปลอบใจ เธอรู้ว่าพ่อของเด็กเป็นใครแล้วก็รู้ด้วยว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่ก็นะเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วยังไงเสียก็ทำอะไรไม่ได้ สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้นั่นก็คือทำยังไงก็ได้ให้เพื่อนสาวของเธอรู้สึกสบายใจมากที่สุด
เพราะตอนนี้เพื่อนไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้วมีเจ้าตัวน้อยในท้องเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน ซึ่งไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเพื่อนสาวคนนี้เสมอ ก่อนที่สองมือเรียวจะไปประกบเข้ากับมือของเพื่อนสนิทพร้อมกับตบเบาๆเพื่อเป็นการให้กำลังใจ
และเมื่อฟ้าลดาเห็นแบบนั้นเธอก็ยกยิ้มพร้อมกับพูดออกไปเบาๆ เธอไม่ได้เป็นอะไรและรู้สึกดีที่อีกไม่นานจะมีสิ่งเล็กๆตัวน้อยๆถือกำเนิดเกิดขึ้น เธอจะรักและดูแลลูกของเธอเป็นอย่างดีไม่ให้เขารู้สึกขาดตกบกพร่องอะไรเลย
“ ฉัน ok แกไม่ต้องห่วงเรากลับบ้านกันเถอะ “
“ อืม “
และทั้ง 3 ก็พากันกลับบ้านโดยมีรพีเป็นคนขับรถไปให้ตั้งแต่ขามายันขากลับ เขาไม่ได้พูดอะไรเลยเพราะยังรู้สึกช็อคกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ไม่หาย ส่วนรติเองก็ทำตัวให้เป็นปกติถึงแม้ว่าผู้ชายตรงหน้าจะเป็นคนที่เธอนอนด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือเพื่อนสาวของเธอและเธอก็ไม่พร้อมที่จะสนใจอะไรใครทั้งนั้นในตอนนี้
“ หึ แม่สาวจีสตริงสีแดง ฉันเจอเธอแล้วและจะไม่ปล่อยให้รอดหลุดมือไปอีกเป็นครั้งที่สองแน่ “
เมื่อทั้งสามเดินให้หลังไปคุณหมอหนุ่มก็พึมพำคนเดียวเขาเจอเจ้าของจีสตริงสีแดงสดแล้ว และเขาก็จะไม่มีทางปล่อยเธอไปเป็นรอบที่สองแน่ ยังไงซะเขาก็จะต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่องว่าในคืนนั้นเธอหนีเขาไปทำไม ก่อนที่รอยยิ้มร้ายจะผุดขึ้นมาบนมุมปากเพราะนี่มันก็แค่พึ่งจะเริ่มต้น

❌สำคัญมาก❌
ขอความกรุณารี๊ดทุกคนอ่านแล้วคอมเม้นให้กำลังใจไรท์หน่อย ถ้าไม่รู้จะเม้นอะไรขอสติ๊กเกอร์คนละดวงก็พอ ขอบพระคุณมากคะ ❤️
ฝากรี๊ดทุกคนกดใจ ❤️ กดเข้าชั้น 📚
เพื่อที่จะได้ไม่พลาดทุกการอัพเดท
ฝากนิยายเรื่องของยัยหนูฟ้าลดาด้วยนะค่ะ
เขาคือผู้ชายที่หล่อรวยมีแต่สาวๆ ร่ายล้อมส่วนเธอมันก็แค่ ' เด็กรับใช้ ' ที่ถูกอุปการะ การอยู่ร่วมกันในบ้านหลังเดียวจึงเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะรังแกเธอสารพัดและเมื่อเธอทนไม่ไหวจึง ' จากไปพร้อมลูกในท้องแบบไม่มีคำร่ำลา '
สปอย
“เด็กในท้องนั่นคือลูกของฉันใช่ไหม “
“ไม่ใช่ลูกของฉันก็คือของฉันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ “
“มันจะเป็นไปได้ยังไงที่เธอจะท้องโดยที่ไม่มีพ่อของลูก “
“เป็นไปได้สิเพราะว่าลูกในท้องของฟ้าลดาก็คือลูกของผมเอง “
“นี่เธอกับมัน “
“ใช่คะฉันกับพี่รพีเรามีลูกด้วยกัน เพราะฉะนั้นเชิญคุณกลับไปเถอะคะ อย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันอีกเลยเพราะตอนนี้ฉันมีครอบครัวแล้ว “

ตอนที่ 37 สวีทหวาน THE END “ เมียจ๋าไหนๆตอนนี้เราก็อยู่กันสองคนแล้วเรามาทำกิจกรรมในร่มก้มๆแล้วแทงกันดีกว่า “เมื่อผู้ใหญ่ทั้ง 4 ออกไปจากห้องคนตัวโตก็เห็นว่าทางสะดวกก่อนที่จะจัดการพูดกับเมียรักออกไป เพราะตอนนี้ก็ถือว่าได้ฤกษ์งามยามดีที่พวกเขาทั้งสองจะต้องปั๊มทายาทแล้ว แต่เมื่อคนตัวเล็กได้ยินอย่างนั้นก็เกิดอาการเขินอายหน้าแดงเลือดลมสูบฉีดใบหน้าร้อนผ่าว ทั้งๆที่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกแต่แปลกทำไมเธอถึงรู้สึกใจเต้นแรงได้มากถึงเพียงนี้ หรือเป็นเพราะว่าบางทีเธอกำลังจะพูดอะไรในสิ่งที่ทำให้คนตัวโตรู้สึกตื่นเต้น
ตอนที่ 36 มาร“ เอาล่ะค่ะตอนนี้ก็ได้เวลาที่เหมาะสมแล้วดิฉันก็ขอส่งไมค์ให้คู่บ่าวสาวได้ออกมาพูดคุยถึงเรื่องราวความรักในครั้งนี้ ขอเชิญคุณหมอฐาณัฐและน้องรติขึ้นมาบนเวทีด้วยค่ะ “เสียงพิธีกรพูดไมค์เสียงดังเรียกคู่บ่าวสาวเพราะตอนนี้ก็เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับพูดคุยเกี่ยวกับความรักของคนทั้งคู่ในครั้งนี้ก่อนที่จะดำเนินงานต่อไป“ สวัสดีครับผมฐาณัฐ หรือ หมอณัฐ เป็นเกียรติอย่างมากที่ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายได้มาร่วมงานในครั้งนี้ ก็ไม่มีอ
ตอนที่ 35 งานแต่งแบบกุ๊กกิ๊ก“ สวมแหวนให้น้องสิลูก “เสียงคุณหญิงดารินเอ่ยบอกต่อลูกชายเพราะตอนนี้ทั้งคู่กำลังเข้าพิธีสวมแหวนกันในตอนเช้าอยู่ แต่ตัวลูกชายของเธอเองก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะยกแหวนขึ้นมาสวมให้ว่าที่เจ้าสาวสักทีมันจึงทำให้เธอต้องเอ่ยปาม ก็ไม่รู้ว่าคุณหมอรออะไรแต่ตอนนี้สายตาของเขาไม่ได้จ้องมองอยู่ที่แหวนเลยเพราะเขาเอาแต่จ้องมองร่างบางตรงหน้าตาไม่กระพริบ“ อะ ครับๆ ขอโทษทีครับ
ตอนที่ 34 ชีวิตจริงของพลอยไพลิน&งานวิวาห์ “ ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าทำยังไงก็ได้ให้ลูกชายไอ้จรัญมันยอมกลับมาคบกับแกอีกครั้ง ทำไมแกถึงทำไม่ได้ “ เสียงหญิงชราเอ่ยบอกลูกสาวเพราะเธอรู้สึกไม่พอใจที่เธอให้ลูกสาวไปทำอะไรก็ไม่สำเร็จรวมถึงเมื่อครั้ง 5 ปีที่แล้วด้วย เธอรู้สึกว่านอกจากคนตรงหน้าจะไม่มีประโยชน์แล้วยังจะอยู่เป็นมารให้ตัวเธอต้องลำบากอีกด้วย “ แต่พล
ตอนที่ 33 กังวลข่าวฉาวแพร่หลายออกไปถึงเหตุการทะเลาะวิวาทระหว่างลูกสาวเจ้าของโรงพยาบาลกับอดีตคุณหมอที่เมื่อครั้งหนึ่งเคยทำคนไข้ตายหนำซ้ำยังพ่วงด้วยพยาบาลสาวรุ่นพี่มันจึงทำให้พ่อแม่ของร่างบางรู้ข่าวทั้งหมด ก่อนที่ทุกคนจะทำการลงมือปิดข่าวเอาไว้แบบเงียบๆ จึงทำให้ตอนนี้ไม่มีใครรู้อะไรไปมากกว่านี้และคนที่ถ่ายก็คงจะหนีไม่พ้นพยาบาลที่ชอบอิจฉาริษยาด้วยกันเองในนั้น แต่ตอนนี้พวกเธอทั้งหลายถูกรพีไล่ออกไปเป็นที่เรียบร้อย และดูเหมือนว่าตอนนี้พ่อแม่ของร่างบางจะไม่พอใจเป็นอย่างมากลูกสาวทำวีรกรรมงามหน้าเหลือเกิน
ตอนที่ 32 อดีตคือเพื่อนปัจจุบันเป็นพี่เขย ผลั๊ว อร้ายยยเมื่อเข้ามาถึงในห้องได้รพีก็ไม่รอช้าจัดการวาดหมัดใส่คนตัวโตทันทีเขารู้สึกไม่พอใจเพื่อนชายตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว และเมื่อร่างบางเห็นอย่างนั้นก็ตกใจเพราะเธอไม่คิดว่าอยู่ๆพี่ชายจะทำอะไรแฟนของเธอแบบนี้ ทั้งๆที่คนทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนกันแท้ๆแต่อยู่ๆทำไมพี่ชายของเธอถึงได้ทำร้ายร่างกายผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเธอ มันทำให