“ช่างเถอะ ๆ ว่าแต่มึงบอกว่าน้องมิวไม่น่าสนใจแล้วทำไมถึงให้กูหาประวัติมาให้ล่ะ”
“เรื่องนั้นน่ะเหรอ เพราะว่ากูสงสัยอะไรบางอย่างน่ะสิ”
"อะไรวะ"
“เออ ไม่มีอะไรรอกูพิสูจน์ให้รู้เรื่องก่อนถ้าใช่แล้วจะบอกมึงเป็นคนแรกเลย”
“เออ ๆ ก็ดีแต่กูขอล่ะไอ้วินทร์ วันนั้นที่โดนด่ากันไปเซตใหญ่กูว่ามึงก็บอกไอ้พวกนั้นปล่อยน้องมันไปเหอะ เห็นแล้วสงสารว่ะ กูยังต้องขอให้น้องมันช่วยอีกเยอะ”
“เออ กูจะบอกให้แต่พักหลังพวกมันก็ไม่แซวแล้วนี่”
“ก็คงไม่กล้าแล้วละมั้ง สงสัยจะกลัวปากใบมีดโกนของน้องมิวไปอีกนานเลยล่ะ”
“น้องมิวเหรอ”
“ใช่ ชื่อเล่นชื่อมิวไง กูถามน้องวันที่เจอที่หอสมุด”
“เหอะ ไม่ใช่ว่ามึงจะจีบน้องแว่นเฉิ่มเนิร์ดนี่หรอกเหรอไอ้กรเห็นพูดถึงบ่อย ๆ”
“ส้นตึกเถอะไอ้วินทร์อย่าพูดอะไรน่าขนลุกแบบนั้นได้ไหม รุ่นน้องก็คือรุ่นน้องโว้ย ไปได้แล้ว”
“เออ ๆ”
วันศุกร์ / Q-Bar
“สุดหล่อมาแล้วเหรอ”
“หวัดดีครับ”
“ไฮพี่วินทร์”
“หวัดดีคนสวย”
ภาวินทร์เดินเข้ามาผ่อนคลายที่บาร์เพราะสองวันที่ผ่านมาเขากับเพื่อน ๆ แทบจะไม่ได้นอนเพราะลุยทำงานโปรเจคจบส่งอาจารย์
ทั้งกลุ่มตกลงกันว่าศุกร์ เสาร์จะเป็นวันพักผ่อนที่ไม่ต้องมาทำรายงานอีกเพื่อไม่ให้เครียดกันจนเกินไป เขาเดินมาที่บาร์และสั่งเครื่องดื่มอย่างเดิมซึ่งวันนี้เขาเห็นว่าเป็นบาร์เทนเดอร์ผู้หญิง ซึ่งมีป้ายชื่อ “เรเน่” ติดเอาไว้
“เครื่องดื่มของคุณค่ะ”
“ขอบใจ”
เธอรีบหันหลังให้เขาทันทีและแกล้งทำเป็นเช็ดแก้วเพราะกลัวว่าภาวินทร์จะจำเธอได้ แม้ว่าจะแต่งหน้าจัดใส่คอนแทคเลนส์และทาปากสีเข้มจนจำภาพเดิมไม่ได้ก็ตาม
“รสชาติที่คุณผสม อร่อยกว่าบาร์เทนเดอร์อีกคน”
“ขอบคุณมากค่ะคุณผู้ชาย”
“เป็นมารยาทของคนชงเหล้าเหรอที่ต้องเอียงข้างคุยกับลูกค้า”
“เอ่่อ…”
“พี่วินทร์ขา…. วันนี้มาได้ด้วยเหรอคะ ไม่เจอกันตั้งนานไปแดนซ์กันหน่อยดีไหมคะ”
“ได้สิพี่กำลังเบื่ออยู่พอดี”
สาวสวยคนนั้นโอบรอบเอวของภาวินทร์และพากันหายเข้าไปที่โซนแสงสีเสียงอีกฝั่งหนึ่งของบาร์ มิวที่ยืนอยู่ที่บาร์ถึงกับพ่นจมูกออกมา
“พวกคนเจ้าชู้ก็ยังน่าเกลียดเหมือนเดิม”
ไม่นานเขาก็ควงผู้หญิงที่พึ่งพาไปที่โซนเต้นกลับมาและสั่งเครื่องดื่มอีกคนละชุด เธอทำหน้าที่ชงให้ทั้งคู่ก่อนที่หญิงสาวที่เริ่มเมาแล้วจะหันไปจูบเขาโดยไม่ตั้งใจ ภาวินทร์ที่ตกใจและไม่ชอบดันเธอออกไปทันทีจนเครื่องดื่มนั้นหก
“ว้าย! พี่วินทร์ผลักนินนี่ทำไมคะ”
“เธอ! ทำอะไรน่ะ”
“ก็จูบไงคะ ไม่ได้เหรอ”
“ไปให้พ้น”
“พี่วินทร์...”
“ไปให้พ้น!!”
มิวถึงกับตกใจตาค้างเมื่อเห็นว่าภาวินทร์ด่าและไล่ผู้หญิงคนนั้นออกไป เธอยังไม่ทันได้ดื่มคอกเทลที่เขาสั่งเลยแต่ตอนนี้ยืนร้องไห้อยู่หน้าเขา เสียงเพลงยังดังอยู่แต่คนในร้านเริ่มหันมามองทำให้ผู้หญิงคนนั้นเริ่มอาย
“พี่วินทร์ นินนี่ก็แค่…”
“ฉันบอกให้เธอไปให้พ้น!”
“แต่ว่า…”
“เฮ้ย… ไม่เอาน่าสุดหล่อ เอาน่า ๆ นินนี่ไปสนุกทางโน้นเถอะนะ ที่นี่ไม่มีอะไรแล้วขอโทษทีนะครับ”
ผู้ชายอีกคนรีบพาเธอออกไปจากหน้าบาร์ทันที ภาวินทร์หันมาสั่งเครื่องดื่ม และต้องตกใจเมื่อเขาเห็นแววตาที่คุ้นเคยตรงหน้า แต่เขารู้สึกโมโหจนคิดไม่ทันว่าเหมือนเคยเห็นหน้าเธอที่ไหน
“เอามาอีกแก้ว”
“เอ่อ…ค่ะ”
เธอชงเครื่องดื่มตามที่เขาสั่งพร้อมกับเครื่องดื่มอีกแก้วที่เสิร์ฟพร้อมกันจนเขาสงสัย
“นี่อะไร”
“ดื่มเครื่องดื่มที่แรงมาก ๆ ไม่ดีต่อสุขภาพ เครื่องดื่มแก้วเล็ก ๆ นั่นจะช่วยได้ถ้าคุณรู้สึกพะอืดพะอม”
“แต่ผมไม่ได้สั่ง”
“ถือว่าฉันเลี้ยงก็แล้วกันค่ะ”
“เรเน่ ขอพิงค์เลดี้สองแก้วโต๊ะซีสาม”
“โอเค”
เธอรีบหันหลังให้เขาพร้อมกับชงเครื่องดื่มตามที่ลูกค้าสั่ง ภาวินทร์มองไปที่แก้วเล็ก ๆ สีสวยที่มีมะนาวฝานเล็ก ๆ วางอยู่และแผ่นหลังของบาร์เทนเดอร์สาวด้วยความสนใจ
แต่ตอนนี้เขาต้องทำอย่างอื่นจึงได้ดื่มเครื่องดื่มรวดเดียวหมดและลองชิมคอร์กเทลที่เธอทำให้ ปิดท้ายด้วยธนบัตรสีเทาสามใบที่วางเอาไว้ก่อนจะเดินออกไป
“ว้าว วันนี้ทิปเยอะเกินไปหรือเปล่า”
“คุณภาวินทร์น่ะเหรอ ทิปหนักตลอดแหละแล้วยิ่งเข้าถูกจังหวะแบบนี้ก็รวยเละ”
“จริงสิเชน ทำไมเขาถึงได้โกรธเวลาที่สาว ๆ ไปจูบเขาล่ะ ผู้ชายเจ้าชู้แบบนั้นน่าจะชอบไม่ใช่เหรอ”
“ภาพที่เราเห็นก็คงจะเป็นแบบนั้น แม้ว่าเขาจะหิ้วสาว ๆ กลับเกือบทุกวันแต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่เขาจูบเลยสักคน”
“อะไรนะ เป็นไปได้ด้วยเหรอ”
“อืม ที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกแต่ก็รู้ ๆ กันอยู่ ไม่มีข่าวน้ำซุบซิบไหนที่จริงมากกว่าหน้าบาร์อีกแล้ว สาว ๆ ที่เขาพาขึ้นโรงแรมน่ะพูดกันทุกคน ไม่มีใครที่กล้าจูบเขาเลย ทุกคนถ้าเริ่มเข้าใกล้และไปจูบเขาก็โดนไล่ออกมาหมด เหมือนจะเป็นโรคจิตหน่อย ๆ นะแต่คิดว่าคงจะมีอะไรฝังใจละมั้งถึงไม่จูบ”
“เหรอ จะมีอะไรนอกจากกลัวโรคติดต่อล่ะ ทางปากก็เป็นไปได้ยิ่งมั่ว ๆ แบบเขาล่ะก็”
“แหมเรเน่ เขาให้ทิปเธอตั้งเยอะยังกล้านินทาลูกค้าวีไอพีลับหลังอีกเหรอ”
“ทิปก็ส่วนทิปสิ ในเมื่อฉันทำหน้าที่ได้ดีได้ทิปก็ไม่แปลกนี่นา แต่เรื่องที่เขามั่วผู้หญิงมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ”
“นั่นสินะ เธอไม่พูดก็มีคนอื่นพูดถึงเขาอยู่ดี ถือว่าวันนี้สาวน้อยคนนั้นโชคร้ายสุด ๆ เลยล่ะเพราะดันไปจีบเจ้าชายปีศาจเข้าให้”
“เจ้าชายปีศาจ ฉันชอบชื่อนี้”
“หึ ลองดูหน่อยไหมล่ะ”
“อย่าพูดอะไรน่ากลัวแบบนั้นฉันยังไม่อยากตกนรกทั้ง ๆ ที่ยังไม่ตายหรอกนะ"
“เออจริงสิเรเน่ งานที่ติดต่อมาว่ายังไงตกลงจะรับหรือเปล่า งานชงเหล้าในปาร์ตี้ของไฮโซที่จัดบนชั้นดาดฟ้าโรงแรมห้าดาวน่ะ พี่หญิงฝากมาถามเพราะครั้งนี้เห็นว่าลูกค้าเจาะจงเลือกเธอเลยนะ”
“จริงด้วยสิ เกือบลืมไปเลย”
“ค่าจ้างไม่น้อยเลยนะฉันก็ไม่อยากให้เธอพลาดงานดี ๆ เอาไว้จ่ายค่าหอก็ยังดี”
มิวกำลังคิดเรื่องนี้ก่อนหน้านี้เหมือนกันเพราะงานชงเครื่องดื่มนอกสถานที่เธอไม่เคยไปทำมาก่อนแม้ว่าจะไปในฐานะตัวแทนของร้านก็ตาม แต่ครั้งนี้ผู้จัดการของร้าน “พี่หญิง” มาถามเธอเพราะมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นวีไอพีของร้านติดใจในรสชาติที่เธอชงจึงได้เจาะจงเลือกเธอโดยเฉพาะ
“ไม่ต้องห่วงนะมีฉันไปด้วยอีกคน วันที่พวกเราไปจะมีคนมาแทน”
“แต่ฉันไม่เคยรับงานนอกสถานที่มาก่อนเลยจะไม่ไปทำเสียเรื่องเหรอ”
“ไม่ต้องกลัวหรอก เธอก็แค่ทำตามปกติของเธอ ดีเสียอีกเพราะเราไม่ได้ยกบาร์ไป พวกเขาก็เลือกเมนูได้ไม่เยอะเหมือนที่นี่เธอก็แค่ชงเครื่องดื่มซ้ำ ๆ สักสามสี่รายการก็พอ”
“อืม ถ้าอย่างนั้นฉันรับก็ได้ มีนายไปด้วยไม่น่ามีปัญหาหรอกว่าแต่ลูกพีชแฟนนายไปด้วยหรือเปล่า"
“ไปสิเธอต้องเป็นเด็กเสิร์ฟในงานน่ะ ไม่ต้องห่วงนะงานนี้เป็นงานเลี้ยงภายใน เรื่องที่เธอยังเป็นนักศึกษาไม่มีใครรู้หรอก พี่หญิงเองก็บอกแล้วว่าปลอดภัย”
"ถ้าอย่างนั้นฉันกลับก่อนนะเชน”
“กลับดี ๆ ล่ะ”
“โอเค”
มิวเดินออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าและลบเครื่องสำอางก่อนจะรีบเก็บของและเดินออกประตูหลังร้านเหมือนกับทุก ๆ วันที่เลิกงาน เมื่อขึ้นรถไปแล้ว คนที่กำลังเฝ้าดูอยู่ก็เดินออกมามองแท็กซี่ที่วิ่งออกไป
“แบบนี้นี่เอง ลักษิกา…"เรเน่" ที่แท้ก็คนเดียวกัน น้องมิว หึ น่าสนใจดีนี่ แบบนี้สิถึงจะสนุก"
นิธิศเดินมากอดเธอจากด้านหลัง และเริ่มซุกหน้ามาที่ซอกคอเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของเธอ“ไม่ต้องมาอ้อนเลย วันนี้...อื้อ อืออ”นิธิศรู้ว่าเธอกำลังจะเริ่มอีกแล้ว หาเรื่องทะเลาะ แต่เขารู้ทันและไม่ยอมให้เธอมีโอกาสหรอก เขาดื่มมานิดหน่อย เพราะต้องการปลุกอารมณ์เธอนี่แหละ“ที่รักคะ คุณ...ดูรีบร้อนจัง”“คุณไม่รู้หรอกว่า ผมรีบแล้วก็หิวแบบนี้ทุกคืนนั่นแหละ แต่ผมเข้าใจคุณ ที่ต้องเลี้ยงลูกทั้งวัน ผมก็เลยไม่อยากกวนคุณ แต่คืนนี้ลูกชายของเราเป็นใจแบบนี้ ผมขอทวงคืนเวลาของผมบ้าง ได้ไหม”“ก็ได้ค่ะ”จูบที่เล้าโลม หวานซึ้งจนแยมแทบจะทนไม่ไหว เสียงรูดชุดเดรสของเขาทำเอาหลังเธอเย็นวาบเพราอากาศในห้อง ไม่นานชุดสวยก็ถูกดึงออกจากตัว ลิ้นทีเกี่ยววนพัลวันในปาก เริ่มทำให้หายใจติดขัด เมื่อเธอเริ่มผละออกมาและช่วยเขาถอดเสื้อผ้า“ไหนว่าจะไปแช่อ่าง”“เอาไว้ทีหลังเถอะ ผมทนไม่ไหวแล้ว”“อื้อ...”เขาอุ้มร่างของภรรยาสาว ไปที่เตียงทันที เมื่อกี้เขาคิดจะพาเธอไปอาบน้ำก่อนจริง ๆ นั่นแหละ แต่พอจับเธอถอดชุดแล้ว เขาก็เปลี่ยนใจ อยากทำอย่างอื่นแทน“อื้อ....ที่รักคะ เสียว อ๊า....”ลิ้นที่พรมจูบไปทั่วหน้าอก นิ้วมือที่บีบเคล้นสองเต้า และบดขยี้ส่
บ้านของภาวินทร์“เด็ก ๆ ครับ ไปล้างมือกันได้แล้ว จะได้มากินขนมกันเร็วเข้า”“ไปกันเถอะกองทัพ คุณพ่อเอาขนมมาให้แล้ว”“ครับ พี่คินทร์”กองทัพ เด็กน้อยซึ่งเป็นลูกของแยมและนิธิศ เพื่อนสนิทอีกคู่หนึ่ง ที่แต่งงานกันหลังจากภาวินทร์และลักษิกา คลอดภาคินทร์ได้เพียงหกเดือน“มาเร็ว ๆ ค่ะ ไปล้างมือให้สะอาด กองทัพแม่บอกว่ายังไงครับ”“รู้แล้วครับคุณแม่ ผมจะตามพี่คินทร์ไปเดี๋ยวนี้”“ดีมากเด็กดี”“อย่าไปดุลูกมากเลย ลูกกลัวจนไม่กล้ามองหน้าแกแล้วนั่น”“ฉันเหรอดุ แกไม่เห็นพ่อของกองทัพน่ะสิ พี่ธิศดุกว่าฉันเสียอีก ถ้าอะไรเกี่ยวกับลูกนะ ไม่ได้เลย นี่ฉันยังคิดอยู่เลยว่า เขาเรียนจบวิศวะมาจริงเหรอ ดูแล้วละเอียดมากกว่าพยาบาลวิชาชีพอย่างฉันเสียอีก”“จริงสิ ว่าแต่แกจะไม่กลับไปทำงาน ที่โรงพยาบาลแล้วจริง ๆ เหรอ”“แกดูหน้าผัวฉันก่อน ตอนนี้แค่พูดขึ้นมาว่า ขอไปเยี่ยมเพื่อน ๆ ที่โรงพยาบาล หน้าก็หงิกไปสองวัน อารมณ์อย่างกับสาววัยทอง”“พี่ธิศเขาขี้หึงขนาดนั้นเลยเหรอ ดูไม่ออกเลยว่า จะขี้หึงขนาดนั้น”“ใครจะไปเหมือนพี่วินทร์ของแกกันล่ะ รายนั้นทั้งขี้อ้อนทั้งกลัวเมีย น่าอิจฉาจะตายไป แกไม่รู้เหรอว่า คนอื่นเขาบอกกันว่า พี่วินทร์
ทั้งหมอฟิวส์และฝัน รุ่นน้องต่างคณะยืนนิ่งไปทันที เมื่อถูกวีรภัทร ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุ และปากหมาของคณะวิศวะ ด่าสาดเสียเทเสียจนทำหน้าไม่ถูก“จริงเหรอแคร์... เขากับแคร์”“ยังไม่ชัดอีกเหรอ ถ้ามึงกล้ามายุ่งกับแฟนกูอีกละก็ อย่าหาว่ากูไม่เกรงใจ ไปบอกหมาตัวเมีย ที่หึงจนตกมันของมึงด้วย”“พี่ว่าใครเป็นหมาตกมัน! ทำไมหยาบคายแบบนี้”“ทำไม คนที่หยาบก่อนไม่ใช่เธอเหรอ โยนก้อนหินให้คนอื่นมา จะให้โยนทองให้หรือไง”“พี่ฟิวส์คะ อย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย เรากลับบ้านกันดีกว่า”“เดี๋ยวก่อน”“คุณต้องการอะไรอีก”วีรภัทรที่ยืนกอดแคร์ ซึ่งกำลังช็อกกับเหตุการณ์ตรงหน้า เธอไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ก็เลยพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ มีแต่วีรภัทรที่ยืนด่าแทนให้“มายืนด่าแฟนคนอื่นขนาดนี้ ขอโทษสักคำน่ะทำเป็นไหม ขอโทษแคร์เดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นอย่าหาว่ารุ่นพี่ไม่เตือน”“ผมน่าจะรุ่นเดียวกับคุณ หรือไม่ก็เป็นรุ่นพี่”“จะรุ่นไหนผมไม่สน แต่คนทำผิดก็ต้องขอโทษไม่ใช่เหรอหมอ หรือว่าคณะของหมอ ไม่สอนเรื่องมารยาท”“พี่ฟิวส์! อย่าไปเถียงกับพวกคณะหยาบคายนี่เลย เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ”“ถ้าเธอกล้าเดินออกไป โดยไม่ขอโทษแคร์ หลังจากพรุ่งนี้ไป ก็เต
ประเทศอังกฤษ“ที่รักครับ ผมเก็บของที่มาส่ง เข้ามาให้แล้วนะ”“ขอบคุณค่ะพี่ภัทร”แคร์เดินมาดูของหลายอย่าง ที่ถูกส่งมาจากประเทศไทย เธอแต่งงานกับวีรภัทร และย้ายมาอยู่ที่อังกฤษ หลังจากเรียนจบ ตอนนี้ทั้งคู่กำลังดูแลธุรกิจของที่บ้านวีรภัทรอยู่“นั่นกล่องอะไรเหรอ ดูจากชื่อนี้ เมียไอ้วินทร์ส่งมาให้ล่ะสิ”“รูปเก่า ๆ สมัยเรียนน่ะค่ะ ตายจริงไม่คิดว่ามิวจะมีเยอะขนาดนี้”“น้องมิวส่งรูปสมัยเรียนมาทำไมกัน”“แคร์บอกให้มิวส่งมาเองแหละค่ะ อยากจะเก็บเอาไว้ให้ “เฟรย์ย่า”ดูตอนที่ลูกโตขึ้นมา จะได้รู้ว่าสมัยเรียน พ่อกับแม่เป็นยังไง”“แต่ลูกยังไม่คลอดเลยนะที่รักจ๋า หรือแคร์กลัวว่า ลูกจะเกิดมาไม่สวยเหมือนแม่ แต่พี่ไม่กลัวเลยนะ เพราะพี่มั่นใจมากว่า เมียพี่สวยที่สุด”“เหรอคะ แต่ตอนนั้นพี่ภัทร ก็ไม่ได้คิดจะจีบแคร์ก่อนเลยนี่คะ เพราะแคร์ไม่ใช่ผู้หญิงที่ตรงสเป็กพี่”“โธ่ที่รัก เรื่องมันก็นานมาแล้วนะ ยังจำได้อีกเหรอ” “นี่ถ้าลูกคลอดออกมา แล้วพี่บอกว่า มาชอบแคร์ตอนที่นั่งเล่นไพ่ในงานศพ ลูกจะขำหรือเปล่านะ”“ใครบอกว่าพี่ชอบแคร์ ตอนที่เล่นไพ่กันล่ะ”แคร์หันมามองหน้าวีรภัทร เธอจำได้ว่า ครั้งนั้นที่ทั้งสองคนเริ่มสนิท และเร
สี่ปีผ่านไป“ดูสิคะรูปลูกของแคร์กับพี่ภัทร นี่พวกเขาไม่คิดจะกลับเมืองไทยมาให้เรารับขวัญหลานเลยสินะ”“ช่วยไม่ได้นี่นาเห็นว่าไอ้ภัทรเปิดบริษัทที่โน่น พ่อมันเองก็ไปอยู่ด้วยอีกนานเลยมั้งกว่าจะกลับเมืองไทย”“แยมกับพี่ธิศจะมาหาวันอาทิตย์นี้นะคะจะพา "กองทัพ" มาด้วย”“ได้สิ อย่างน้อยก็มีเพื่อนเล่นละนะ “ภาคินทร์” จะได้มีเพื่อนเล่น"“แล้วนี่ลูกไปไหนแล้วคะ”“โน่น ไปเดินเล่นกับพี่เรย์ พอมาเจอกันก็พากันซนเห็นว่าไปเล่นทราย”“อะไรนะ! เล่นทรายอีกแล้วเดี๋ยวก็เขาหูอีก…โอย…”“เมียจ๋าอย่าโวยวายสิ อย่าลืมสิครับว่าท้องเกือบเจ็ดเดือนแล้ว อย่าพึ่งวีนนะเดี๋ยวพี่ไปจัดการเอง”“พี่วินทร์เป็นแบบนี้อีกแล้ว บอกแล้วว่าอย่าให้เล่นทรายบ่อย ๆ มันล้างออกยากถ้าลูกต้องไป…โอย”“ที่รักจ๋าอย่าโวยวายนะผัวผิดไปแล้วมา ๆ ตีมือผัวนี่ไม่เอาน่ามีพี่นัยช่วยดูอยู่เด็ก ๆ ไม่เป็นไรหรอกอีกอย่างมีป้ารินทร์เฝ้าอยู่ เจ้าคินทร์ตัวแสบนั่นไม่กล้าดื้อหรอก”“พยุงหน่อยเร็ว ๆ เข้า”“จ้า ๆ มาแล้ว ๆ ไม่ตะเบ็งเสียงแล้วนะครับคนดีค่อย ๆ เดินนะ มาพี่พยุงเข้าบ้าน”“ปึก!”“โอ๊ย! เจ็บนะทำไมความโหดไม่ลดลงเลยล่ะ สิบปีก็จะโหดแบบเดิมไม่ได้นะ หรือว่าพอจะได้ลูก
Q-Bar / 1 ปีถัดมา“ดรายมาร์ตินี่ครับ”ภาวินทร์นั่งที่หน้าบาร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มที่เขาชอบดื่ม และต้องเป็นบาร์เทนเดอร์สาวสวย “เรเน่” คนเดียวเท่านั้นที่เป็นชงให้ดื่ม เรเน่ในชุดบาร์เทนเดอร์สาวที่รัดกุมมากกว่าเดิมแต่ก็หรูหราและดูมีระดับมากขึ้นเริ่มชงเครื่องดื่มและเท ระหว่างที่เทก็ยิ้มให้เขาเมื่อเธอยกขึ้นมาก็ส่งให้เด็กเสิร์ฟทันที“ของโต๊ะห้าค่ะ”“ครับบอส”ภาวินทร์มองเครื่องดื่มที่เด็กยกออกไปแล้วหันมาค้อนภรรยาสาวอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เธอรับหน้าที่ดูแลบาร์แทนพัชรินทร์ที่ลาคลอดอยู่ ส่วนภาวินทร์รับหน้าที่ดูแลผับทั้งหมดแทนคุณพ่อที่กำลังเห่อหลานชาย“ที่รัก แล้วของผม…”“ตึง!”ลักษิกายกนมผลไม้คั้นสดมาให้เขาตรงหน้า ภาวินทร์ขมวดคิ้วมองเธอทันที“นี่อะไรน่ะ ทำไมผมต้องดื่มนมผลไม้นี่อีกแล้ว”“เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ”“แต่ว่าที่รัก… ผมขอแค่แก้วเดียวเองคุณก็รู้ว่าผมไม่ได้ดื่มมากเหมือนเมื่อก่อน”“แต่คุณต้องขับรถให้มิวนะคะที่รัก เพราะฉะนั้นคืนนี้ดื่มไม่ได้ค่ะ”“อะไรกัน ไม่ยุติธรรมเลยรู้แบบนี้ไม่ให้มาทำหรอก”“คุณภาวินทร์คะขอร้องอย่ามางอแงแบบนี้ หรืออยากจะให้มิวกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลอีก”“ไม่เอา! ไม่เอาครับเมียจ๋า